....OUR FAMILY'S JOURNEY....
++ โรแมนติก โครังเค ++









อ่าน Romantic Japan 2 : พาชมปราสาทนาโกย่า ญี่ปุ่น




อีกครั้งหนึ่งที่เรากลับมาเที่ยวญี่ปุ่น ครั้งที่แล้วเราไปช่วงปลายหนาวหรือช่วงสปริงที่ดอกซากุระกำลังบานครับ .... แต่คราวนี้เรามากันในช่วงร้อนต่อหนาว หรือบ้านเขาเรียกว่าฤดูใบไม้ร่วง (Autumn)

ความตั้งใจของเราก็อยากไปชมใบไม้เปลี่ยนสีในญี่ปุ่นกัน แต่ว่าใบไม้จะเปลี่ยนสีมันก็ขึ้นอยู่กับลมฟ้าอากาศด้วย โดยในประเทศญี่ปุ่นเอง ใบไม้จะเริ่มเปลี่ยนสีในช่วงปลายกันยายนเรื่อยไปถึงปลายพฤษจิกายน โดยเริ่มจากทางเหนือก่อน หรือเริ่มมาจากเกาะฮอกไกโดลงไปครับ





เส้นทางที่เราไป




ช่วงที่เราไปเป็นช่วงเริ่มมีใบไม้เปลี่ยนสีในตอนกลางของญี่ปุ่นพอดี (เราไปแถบเมือง นาโกย่า เกียวโต และโอซาก้า) แต่ยังไม่ถึงกับออกสีแดงกันไปทั้งป่า .... สาเหตุที่เราเดินทางไปก่อนก็เพราะเป็นช่วงที่เด็กๆบ้านเราปิดเทอมพอดี เด็กๆหลายๆคนก็อยากไปเที่ยวสวนสนุก และ Aquarium กัน เราเลยออกเดินทางกันในคืนวันที่ 18 หรือ 00.05 น. วันที่ 19 ตุลาคม 2557 เพื่อจะได้กลับมาก่อนเปิดเทอม คือ 25 ตุลาคม.

เรามีเวลาอยู่แต่ละที่พอสมควร เพราะการไปเที่ยวญี่ปุ่นคราวนี้เราเป็นคนเลือกโปรแกรมเอง ซึ่งบางอย่างในเส้นทางปกติไม่มี แต่เราใส่เพิ่มเข้าไป โดยให้บริษัททัวร์เป็นคนจัดการเรื่องต่างๆให้ ซึ่งคราวนี้เราให้ PDR (Pandori Travel Co.,LTd) เป็นคนจัดการให้ .... เรื่องต่างๆใน Group blog นี้จึงมีหลายตอนพอสมควร คอยติดตามกันนะครับ






ที่สนาบินนาโกย่า (ชูบุเซ็นแทรร์ )




เราออกเดินทางด้วยเที่ยวบิน TG 644 ซึ่งเป็นเครื่อง Boeing 777-300 บินตรงจากสุวรรณภูมิสู่นาโกย่าเลย โดยออกจากสนามบินสุวรรณภูมิในเวลา 00.05 น. วันที่ 19 ตุลาคม ใช้เวลาเดินทาง 5 ชั่วโมง 30 นาที บนเครื่องวันนั้นเต็มครับ

ถึงสนามบินท่าอากาศยานนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์ นาโกย่า เวลา 07.35 น.เวลาท้องถิ่น ซึ่งเร็วกว่าบ้านเรา 2 ชั่วโมง การเข้าเมืองญี่ปุ่น ณ ปัจจุบันไม่ยุ่งยากมาก เพียงกรอกข้อความในใบเข้าเมือง และกรอกข้อความในเอกสารใบสำแดงของต้องห้าและปริมาณเงินที่นำเข้าญี่ปุ่น เท่านั้นก็เพียงพอ เพราะปัจจุบันญี่ปุ่นงดเว้นวีซ่า (VISA) เข้าเมืองให้คนไทยและสามารถพำนักอยู่ในประเทศเขาได 14 วัน.



ท่าอากาศยานนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์ ตั้งอยู่ในพื้นที่ถมทะเล ชานเมืองนาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น เป็นท่าอากาศยานแห่งใหม่ (แทนท่าอากาศยานนานาชาติชูบุ - Chubu International Airport) ที่สร้างขึ้นเพื่อรองรับงาน เอกซ์โป 2005 ที่จังหวัดไอชิ เนื่องจากสภาพที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่อยู่กึ่งกลางประเทศญี่ปุ่น จึงสามารถเป็นศูนย์กลางการเดินทางทางอากาศของประเทศที่สำคัญ มีลักษณะพิเศษคือมีพื้นที่พาณิชยกรรมแยกอยู่บนชั้นหนึ่งของอาคารผู้โดยสาร เรียกว่า แอร์ซิตี (Aircity) ประกอบด้วยพื้นที่ขายของแบบตะวันตก แบบญี่ปุ่น และพื้นที่พักผ่อน เช่น โรงอาบน้ำแร่ ทำให้นอกจากเป็นท่าอากาศยานแล้ว ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวของประชาชนในจังหวัดไอชิและพื้นที่ใกล้เคียง สามารถเดินทางระหว่างตัวเมืองนะโงะยะได้รถไฟฟ้าความเร็วสูง ภายในเวลา 20 นาที






นี่เป็นทางรถไฟ (สำหรับท่านที่จะไปทางรถไฟ)



เราเดินทางโดยรถบัสท่องเที่ยว (รถทัวร์) ออกจากสนามบินนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์ เดินทางตรงตามเส้นทางด้านบน มุ่งสู่โครังเคโดยตรง โดยแวะพักเข้าห้องน้ำระหว่างทาง 1 ครั้ง ตามข้างทางที่เราผ่านเห็นใบไม้กำลังเริ่มเปลี่ยนสีแล้วบ้างเหมือนกัน แต่ยังไม่ทั้งป่าครับ

สำหรับคุณๆที่อยากไปกันเองแบบ Backpack ก็สามารถใช้เส้นทางรถไปตามที่ค้นมาให้ได้จากด้านบนนี้นะครับ


Tips:
สำหรับคุณๆที่ยังไม่เคยนั่งรถไฟในญี่ปุ่นนะครับ การขึ้นรถไฟในญี่ปุ่นสมัยนี้ไม่ยากเท่าไหร่ ถึงแม้บนรถไฟจะประกาศเป็นภาษาญี่ปุ่น แต่เขาก็จะมีตัววิ่งสลับทั้งญี่ปุ่นและอังกฤษให้อ่านครับ คล้ายๆกับ BTS บ้านเรา .... ส่วนคุณๆที่คิดว่าจะหลงเส้นทางไหม? เพราะในสถานีมีรถเข้าออกมากมายหลายขบวน (ขึ้นไปถูกทาง หรือ ถูกขบวนรถไหม) วิธีจำง่ายๆคือสีที่เขาตีเส้นทางเดินไว้ในสถานี เช่นเราจะขึ้นสายสีแดง ก็ตามเส้นสีแดงไปเป็นต้น รวมทั้งดูจากป้ายบอกทางด้วย ... พอไปถึงชานชลาเพื่อความแน่ใจ ให้สังเกตุป้ายบอกทิศทางที่มีลูกศรชี้และหมายเลขสถานี พร้อมชื่อสถานีที่เขียนกำกับไว้ทั้งญี่ปุ่นและอังกฤษครับ .... แต่สุดๆแล้วกลัวหลง ก็สอบถามที่ Information ได้ เดี๋ยวนี้พูดภาษาอังกฤษคล่องครับ ส่วนเรื่อง Route ที่ดีที่สุด ก็เลือกดูในเนทได้ เพราะจะมีหลายแบบ และราคาแตกต่างกันไปครับ ลองดูที่ https://www.japan-guide.com/e/e2019.html นี้ก็พอได้ครับ





ทิศทางของรถที่จะไป






ออกจากท่าอากาศยานได้ ถ่ายภาพลงเฟสกันหน่อย








ที่จอดพักระหว่าทาง (เหมือนกันกับทางยุโรป)




กลับมาที่เรื่องการเดินทางต่อ .... เราออกจากสนามบินท่าอากาศยานนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์ เราก็ใช้รถบัสเดินทางไปสู่ โครังเค (Korankei) ซึ่งตั้งอยู่ในหุบเขา และเป็นสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ขึ้นชื่อแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น

ระหว่างการเดินทางเราแวะเข้าห้องน้ำระหว่างทาง ซึ่งทางการเขาทำเป็นที่จอดพักรถ หลบออกมาจากทางหลวง เหมือนกับในประเทศแถบยุโรป ซึ่งบริเวณนั้นก็จะมีร้านสะดวกซื้อรวมอยู่ด้วย แต่ที่ญี่ปุ่นนี้ดีกว่าของยุโรปตรงที่ว่าห้องน้ำไม่ต้องจ่ายตังค์ แถบสะอาดสะอ้านด้วย






ตามชนบทของญี่ปุ่นยังรักษาธรรมชาติไว้ได้อย่างดี



ผ่านชนบท (ประมาณว่าในเมืองเล็กๆ) จขบ. เห็นข้อดีในการอนุรักษณ์ของคนญี่ปุ่นคือ แม่น้ำลำคลองสะอาดมากๆ ริมฝั่งที่เป็นป่าไม้ยังรักษาไว้เหมือนเดิม อันนี้ขอชมครับ ส่วนขยะริมถนนแบบบ้านเราหาไม่เจอครับ





อาคารห้องน้ำที่ลานจอดรถ Korankei





Korankei อยู่ในจังหวัดไอจิ (Aichi) ในทุกๆช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนไปถึงต้นเดือนธันวาคมจะเป็นช่วงฤดูกาลแห่งการชมความสวยงามของใบ้ไม้เปลี่ยนสีของจังหวัดไอจิ โดยเฉพาะที่ โครังเค (Korankei) สถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่อยู่ใกล้ๆหมู่บ้านอาซุเกะ (Asuke) หมู่บ้านเล็กๆในเมืองโทะโยะตะ (Toyota) ซึ่งในทุกๆปีจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาชมความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสีเป็นจำนวนมาก








บ้านเรือนและร้านค้าที่โครังเค






แผนที่การชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ Korankei Valley




ปัจจุบันโครังเคได้กลายเป็นสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆของประเทศญี่ปุ่น สำหรับเสน่ห์ของโครังเคก็คงอยู่ที่เหล่าต้นโมมิจิ (Momiji) หรือใบเมเปิ้ลญี่ปุ่นจำนวนมากถึงประมาณ 4000 ต้น ซึ่งทำให้บริเวณโครังเคจะถูกแต่งแต้มสีสันด้วยต้นโมมิจิที่เปลี่ยนสีใบไม้เป็นสีแดง, สีส้ม และสีเหลืองอย่างงดงามอลังการ

และในช่วงกลางคืนจะมีการไลท์อัพต้นโมมิจิทำให้เราสามารถชมความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสีที่มีบรรยากาศแตกต่างจากช่วงกลางวัน ทั้งนี้ช่วงที่มีการไลท์อัพนั้นเริ่มตั้งแต่วันที่ 1พฤศจิกายน ถึงวันที่ 1 ธันวาคมของทุกๆปี ซึ่งตรงกับช่วงที่จัดเทศกาลใบไม้เปลี่ยนสีโครังเคที่เรียกว่า “Korankei Momiji Matsuri” (ไลท์อัพถึง 21.00 น.)




ป้ายโฆษณางานชมใบไม้เปลี่ยนสี




วิธีไปชมใบไม้เปลี่ยนสีที่โครังเค (Korankei) : ขึ้นรถไฟสาย Meitetsu (Nagoya Railways) ลงรถไฟที่สถานี Higashi Okazaki ต่อรถประจำทาง 1 ชั่วโมง 10 นาที ลงที่ป้าย Korankei เดิน 2 นาที
(ขอบคุณข้อมูลจากtravel.thaiza.com)









จากลานจอดรถเราเดินผ่านหมู่บ้านที่มีร้านค้าเรียงรายกันอยู่ตามธรรมดาของสถานที่ท่องเที่ยว หลังจากนั้นก็ข้ามสะพานสีแดงๆ (Taigetsukyo Bridge) ไปอีกฝั่งหนึ่งของแม่น้ำแล้วเลี้ยวขวาสู่ลานแสดงซึ่งอยู่ห่างออกไปทางต้นน้ำประมาณร้อยกว่าเมตร สองฟากฝั่งแม่น้ำเต็มไปด้วยด้วยต้นเมเปิ้ลใบเล็กๆ กำลังออกสีแดง ถ้าเรามาช้าอีซัก 2 อาทิตย์คงแดงเต็มป่า สวยงามเหมือนป้ายโฆษณาครับ

บนลานแสดงเริ่มมีชาวญี่ปุ่นมาออกร้านขายสินค้า รวมทั้งมีนักดนตรีมาเริ่มบรรเลงเพลงขับกล่อมนักท่องเที่ยวกันแล้ว สำหรับคุณหนูๆ ก็มีกิจกรรมเล่นกันหลายอย่างตรงนั้น .... สำหรับฤดูแห่งการชมใบไม้เปลี่ยนสีเขาก็จะเริ่มขึ้น จริงๆ 1 - 9 พ.ย. ที่จะถึงหรืออีกประมาณ 10 วันหลังจากนี้ครับ












ชมใบไม้เปลี่ยนสี ณ บริเวณนี้



อากาศวันนี้กำลังเย็นสบาย เหมาะกับการเดินเล่นถ่ายภาพมาก และเราก็เดินถ่ายภาพกันพอสมควรก่อนออกเดินทางไปทานมื้อเที่ยง ซึ่งเป็นอาหารพื้นเมืองของเขาที่หมู่บ้าน ห่างจากจุดที่เราชมใบไม้ (กำลัง) เปลี่ยนสีนี่ประมาณ 400-500 เมตร ... ก่อนไปทานอมื้อเที่ยง ชมภาพที่ Korankei Valley เพลินๆไปก่อนครับ


























หลังจากเดินชมและถ่ายภาพกันพอสมควร เราก็เดินย้นกลับไปทางสะพาน Tomoehashi (แผนที่ด้านบน) และข้ามสะพานไปทางขวามมือ เพื่อไปที่ร้านอาหารในหมู่บ้านกัน








ช่วงเดินข้ามสะพานเจอชาวประมงขนานแท้และดั้งเดิมแบบญี่ปุ่น







ที่ร้านอาหารมีการทำเส้นบะหมี่โซบะ (Soba) ให้ชม







บน: บะหมี่โซบะซุบ ล่างขวา : ทอดผักรวมทั้งใบเมเปิ้ล ล่างซ้าย : ผักภูเขาแถบบนี้






ลายเซ็นดาราญี่ปุ่ที่มาทานร้านนี้







ก่อนกลับซื้อขนมกันหน่อย






แก๊งค์บิ๊กไบท์ญี่ปุ่นก็มาเที่ยวด้วย




หลังมื้อเที่ยงเราเดินชมสินค้าตามทางที่จะออกไปลานจอดรถ และซื้อพวกของกินติดไม้ติดมือ ก่อนขึ้นรถกลับเข้าเมืองนาโกย่า (ญี่ปุ่นเขาเขียนว่านะโกยะ) เพื่อไปชมปราสาทนาโกย่า และพักผ่อนที่โรงแรมในเมืองกัน

ขอบคุณที่ติดตามอ่าน แล้วเจอกันในบล๊อกต่อไปครับ






ลาบล๊อกนี้ด้วยภาพชาวประมงที่ Korankei Valley ภาพนี้ครับ






____________







Create Date : 03 พฤศจิกายน 2557
Last Update : 18 กุมภาพันธ์ 2561 14:56:59 น. 15 comments
Counter : 7933 Pageviews.

 
รีวิวละเอียดมากๆค่า และรูปสวยมากกกกกก ยังไม่นับนางแบบนายแบบนะคะ 55 ต้องขอติดตามเป็นแฟนคลับ แน่นอนนนนน


โดย: แซน :) IP: 49.230.68.230 วันที่: 3 พฤศจิกายน 2557 เวลา:12:20:50 น.  

 
ไปเที่ยวด้วยกันจนกลับมาแล้วยังไม่รู้เลยว่า Korankei มันอยู่ส่วนไหนของ Nagoya พึ่งถึงบางอ้อก็เพราะ blog ของป๋านี่แหละ :)


โดย: Bee IP: 119.46.221.47 วันที่: 3 พฤศจิกายน 2557 เวลา:13:41:05 น.  

 
wicsir Travel Blog
ไม่เคยได้ยิน หรือรู้จักที่นี่เลยค่ะ แต่ขอบคุณมากที่เปิดตากันที่นี่ สวยจับใจ ถ้าใบไม้แดงกว่านี้จะสวยกว่านี้มากนะคะ แม่น้ำ สายธาร โขดหิน สวยจับใจค่ะ


โดย: mariabamboo วันที่: 3 พฤศจิกายน 2557 เวลา:21:06:40 น.  

 
thx u crab


โดย: Kavanich96 วันที่: 4 พฤศจิกายน 2557 เวลา:2:41:09 น.  

 
ตามมาเที่ยวด้วยค่ะ


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เนินน้ำ Food Blog ดู Blog
Rinsa Yoyolive Travel Blog ดู Blog
wicsir Photo Blog ดู Blog

newyorknurse


โดย: newyorknurse วันที่: 4 พฤศจิกายน 2557 เวลา:4:44:02 น.  

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
wicsir Travel Blog ดู Blog


ดูสดในไปหมดเลยครับ ชอบแดดหนาวแบบนี้ด้วย อยากให้เมืองไทยร้อนน้อยกว่านี้จัง


โดย: น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา วันที่: 4 พฤศจิกายน 2557 เวลา:13:42:34 น.  

 


อรุณสวัสดิ์ค่ะ คุณ wicsir รับประทานอาหารเช้าด้วยกันนะค่ะ มีความสุขกับการทำงานในวันนี้น๊า


โดย: KeRiDa วันที่: 5 พฤศจิกายน 2557 เวลา:9:32:03 น.  

 

Like ค่ะ ชมภาพเพลินเลยค่ะ
ชอบ..ตามมาเที่ยวญี่ปุ่นด้วยคนนะคะ


โดย: อุ้มสี วันที่: 5 พฤศจิกายน 2557 เวลา:10:27:18 น.  

 
ฟังเพลงไป ดูภาพไป...รื่นรมย์ค่ะ

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ปลาทอง สมองน้อย Education Blog ดู Blog
ปรัซซี่ Food Blog ดู Blog
mambymam Music Blog ดู Blog
wicsir Travel Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น




โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 7 พฤศจิกายน 2557 เวลา:14:22:40 น.  

 
หยิบได้เลยค่ะ คุณ wic ตามสบาย...

ขนมหน้าตาพอทน รสชาติพอได้กิน ที่สำคัญทำเองกินเอง อาจจะอร่อยตรงนี้มังคะ



โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 7 พฤศจิกายน 2557 เวลา:17:18:19 น.  

 
wicsir Travel Blog ดู Blog

รูปบอกว่าอากาศช่างเย็นสบายดีค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 8 พฤศจิกายน 2557 เวลา:10:40:23 น.  

 
วันก่อนเข้ามาดูครั้งหนึ่งแล้ว อ่านดูได้ครึ่ง แล้วรีบไปทำธุระต่อ

วันนี้เลยกลับมาอ่านมาดูอย่างละเอียด... คุณวิคเขียนได้ละเอียดทำให้น่าไปเที่ยว
ทีแรก ยังกลัวเรื่องการขึ้นรถไฟนี่แหละ พอบอกว่า ไปตามเส้นสีที่ เขาทาไว้ตรง
พื้น จะไม่หลง... ทำให้นึกถึง ร.พ.จุฬา เขาก็ใช้วิธีนี้ ทำให้เดินเพลิน เกือบชนคน
อื่นที่เดินสวนมา 555

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
foreverlovemom Topical Blog ดู Blog
กิ่งฟ้า Literature Blog ดู Blog
เนินน้ำ Food Blog ดู Blog
wicsir Travel Blog ดู Blog

เลยโหวตให้ครับ


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 9 พฤศจิกายน 2557 เวลา:8:38:27 น.  

 
สวัสดีค่า ^^
ตามมาเที่ยวโครังเคค่ะ
ไม่เคยได้ยินชื่อเมืองนี้เลย ทั้งที่ชอบญี่ปุ่นเวลามีบล็อคจะตามดูตลอด
แต่เมืองนี้เพิ่งเห็นรีวิวนี่แหละค่ะ
เป็นเมืองสวยสงบท่ามกลางป่าเลยนะคะ สวยจัง
ใบไม้เปลี่ยนสี สวยมากๆ
น่าไปเที่ยวจังเลยค่ะ ญี่ปุ่นนี่ประเทศเดียวเที่ยวได้ทุกแบบจริงๆ
สวยมากค่ะ ขอบคุณมากๆนะคะ


โดย: lovereason วันที่: 9 พฤศจิกายน 2557 เวลา:21:50:55 น.  

 
Art in Paradise คนชอบถ่ายรูป สนุกล่ะค่ะ ทั้งนายแบบ นางแบบ ทั้งตากล้อง ยายกล้อง




โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 10 พฤศจิกายน 2557 เวลา:6:55:19 น.  

 
ตามมาเที่ยวด้วยคนค่ะ สวย โรแมนติกสมชื่อหัวข้อเลย


โดย: sawkitty วันที่: 10 พฤศจิกายน 2557 เวลา:15:36:52 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

wicsir
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 75 คน [?]











...... ชอบเดินทาง ชอบท่องเที่ยว และชอบถ่ายภาพ แม้ฝีมือจะไม่ให้ แต่ใจก็รัก เพราะได้ทำแล้วมีความสุข แถมยังมี bloggang ได้ให้โอกาสนำสิ่งเหล่านั้นมาแสดงด้วย ยิ่งทำให้หัวใจพองโต .......


อยากจะบอกว่า

@ ดีใจที่ได้แบ่งปันความสุขเล็กๆน้อยๆ กับเพื่อนๆในบล็อกแก๊ง ตลอดจนคุณๆที่ผ่านเข้ามาอ่าน.... แม้ภาพถ่ายจะไม่สวยนัก แต่กว่าจะได้มาก็แสนยากลำบาก จึงขอสงวนสิทธิไว้เป็นการส่วนตัว

@ ภาพทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของเจ้าของบล๊อก ถ้ามีความประสงค์จะใช้ภาพเพื่อการใด กรุณาติดต่อเจ้าของบล็อกด้วย เพราะจะได้พิจารณาเป็นเรื่องๆไปครับ.

@ ขอบคุณเพื่อนๆสมาชิกที่คอยให้กำลังใจกันเสมอมา และขอบคุณทุกท่านที่ผ่านเข้ามาอ่าน หวังเป็นอย่างยิ่ง ว่าท่านคงแวะเข้ามาอีก...


ด้วยจริงใจ
นาย wicsir.




Rec. 11.06.08
New Comments
Group Blog
 
 
พฤศจิกายน 2557
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
3 พฤศจิกายน 2557
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add wicsir's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.