บทความกาแฟ
<<
เมษายน 2561
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
25 เมษายน 2561

กาแฟสด กับ ความดันโลหิตสูง



กาแฟสด กับ ความดันโลหิตสูง

กาแฟสด

กาแฟสด เป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในบรรดาเครื่องดื่มทั้งหลาย ทั้งในกลุ่มนักศึกษา วัยผู้ใหญ่ หรือในผู้สูงอายุโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนวัยทำงาน ชาวออฟฟิศ เรียกว่าเป็นของคู่กันเลยทีเดียว วันไหนขาดกาแฟอร่อยแล้วเหมือนจะขาดใจกันเลยค่ะ

วันนี้ เราก็จะมาคุยกันเกี่ยวกับเรื่องของกาแฟ ในแง่มุมของผลกระทบของกาแฟต่อภาวะความดันโลหิตสูง

อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าในกาแฟอาราบิก้า จะมีสารที่ชื่อว่า คาเฟอีน เป็นองค์ประกอบ สารตัวนี้ถูกดูดซึมได้อย่างรวดเร็วภายใน 45 นาที และระดับของคาเฟอีนในเลือดก็สามารถเพิ่มขึ้นได้ ภายใน 15-20 นาที หลังดื่ม และถูกขับออกทางปัสสาวะ

จะขอยกงานวิจัยใหม่ๆ ที่น่าสนใจ เกี่ยวกับ ฤทธิ์ของกาแฟ, ยาลดความดันโลหิต Felodipine และผลต่อค่าความดันโลหิต มาเล่าให้ฟังค่ะ

Coffee-Antihypertensive Drug Interaction: A Hemodynamic and Pharmacokinetic Study With Felodipine.

โดย Bailey DG และคณะ ตีพิมพ์ใน วารสารวิชาการ American Journal of Hypertension. 2016 Aug 1

งานวิจัยนี้ทำการศึกษาแบบ randomized, single-dose, crossover study โดยศึกษาผลของ Hemodynamic และPharmacokinetic โดยติดตามเป็นระยะเวลา 2 วัน ที่อาสาสมัครไม่ได้รับกาแฟ หรืออาหารที่มีส่วนประกอบของคาเฟอีน หลังจากนั้นทำการศึกษาโดยให้อาสาสมัครได้รับกาแฟดำ จำนวน 2 แก้ว ขนาดแก้วละ 300 มิลลิลิตร ร่วมกับ Felodipine ขนาดสูงสุด 10 มิลลิกรัม (งานวิจัยนี้ทำการศึกษาในอาสาสมัครวัยกลางคนความดันปกติ)

ผลการศึกษาพบว่า หลังจากได้รับกาแฟค่าความดันโดยเฉลี่ยของอาสาสมัครมีการเปลี่ยนแปลง โดยพบว่า

  1. Brachial systolic มีค่าความดันที่เพิ่มขึ้น 7.6 มิลลิเมตรปรอท (p < 0.001)
  2. Diastolic มีค่าความดันที่เพิ่มขึ้น 9 มิลลิเมตรปรอท (P < 0.001)
  3. Aortic systolic มีค่าความดันที่เพิ่มขึ้น 4 มิลลิเมตรปรอท (P < 0.001)
  4. Pulse (ชีพจร) เพิ่มขึ้น 3.0 ครั้ง/นาที (P < 0.05)
  5. Augmentation เพิ่มขึ้น 1.4 (P < 0.05)

เมื่อเปรียบเทียบกับค่าที่วัดตอนเริ่มต้น (Base line)

หลังจากนั้นทดลองให้อาสาสมัครได้รับกาแฟสด ร่วมกับยา Felodipine ซึ่งเป็นยาลดความดันตัวหนึ่ง พบว่าค่าความดัน Brachial systolic เพิ่มขึ้น 4.0 มิลลิเมตรปรอท (P < 0.05), ค่าความดัน Diastolic เพิ่มขึ้น 3.9 มิลลิเมตรปรอท (P < 0.001) และค่าความดัน Aortic systolic เพิ่มขึ้น 4.6 มิลลิเมตรปรอท (P < 0.05) เมื่อเปรียบเทียบกับการได้รับยา Felodipine เพียงอย่างเดียว

นอกจากนี้ยังพบว่า ผลของระดับความดันโลหิตกับการได้รับกาแฟสด ร่วมกับยา Felodipine มีความแตกต่างกันในแต่ละบุคคล และกาแฟสดที่มีระดับคาเฟอีน 127 มิลลิกรัม จะส่งผลต่อระดับความดันโลหิตได้มากที่สุด

Phramacokinetics ของคาเฟอีน กับยา Felodipine มีความคล้ายคลึงกัน ไม่ว่าจะได้รับกาแฟเพียงอย่างเดียว, ยาเพียงอย่างเดียว หรือได้รับยาและกาแฟร่วมกัน ซึ่งจะส่งผลให้เกิดอันตรกิริยาต่อกันระหว่างยา และกาแฟสดในแง่ Pharmacodynamics ได้ และพบว่า การได้รับกาแฟสดส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงระดับความดัน Diastolic เพิ่มขึ้น ในขณะที่ได้รับยา Felodipine ร่วมด้วย ซึ่งอาจจะทำให้เกิดการเพิ่มขึ้นของผลข้างเคียงของยาได้ ในช่วงที่ไม่ได้รับกาแฟ

อธิบายยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น ในกรณีที่อาจเป็นไปได้ เช่น นาย A เป็นโรคความดันโลหิตสูง รับประทานกาแฟเป็นประจำ และได้รับการรักษาโดยใช้ยา Felodipine 10 มิลลิกรัม ในการลดความดันโลหิต อยู่ๆมาวันหนึ่งนาย A เลิกรับประทานเมนูกาแฟสด แต่ยังใช้ยา Felodipine 10 มิลลิกรัมเท่าเดิมในการรักษาความดัน ก็อาจจะทำให้นาย A ได้รับอาการข้างเคียงจากยาได้ เช่น รู้สึกวูบ ความดันลดลงมากเกินไป เนื่องจากปริมาณยาไม่เหมาะสม ได้รับยามากเกินไป (เพราะอย่าลืมว่า ยา Felodipine 10 มิลลิกรัม ในตอนแรกที่ใช้รักษา ได้รวมฤทธิ์ที่ทำให้ความดันเพิ่มสูงขึ้นจากกาแฟเข้าไปด้วย)

ดังนั้นการบริโภคกาแฟต่อเนื่อง ก็อาจจะส่งผลต่อการวินิจฉัย และการรักษาโรคความดันโลหิตสูงได้ในบางบุคคลค่ะ

จากหลายๆงานวิจัยส่วนใหญ่ จะมีแนวโน้มไปในแนวทางที่พบว่าคนที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงอยู่แล้ว หรือมีความเสียงเป็นโรคความดันโลหิตสูง เมื่อได้รับกาแฟจะทำให้มีระดับความดันโลหิตสูงกว่าคนโดยทั่วไป และยังพบว่ากาแฟมีผลลดประสิทธิภาพในการทำงานของยาลดความดันโลหิตในกลุ่ม Beta-blocker ได้ด้วย

โดยทั่วไปถ้าเป็นไปได้ จึงมักแนะนำให้ผู้ที่มีภาวะความดันโลหิตสูง หรือมีความเสี่ยงที่จะเป็นความดันโลหิตสูง งดรับประทานกาแฟ หรือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีน หรือไม่ควรรับประทานกาแฟเกิน 3 แก้ว/วัน

อย่างไรก็ตามยังไม่พบหลักฐานที่เพียงพอจนสามารถสรุปได้ว่า กาแฟสามารถเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคความดันโลหิตสูงอย่างแน่ชัด หลักๆแล้ว ตามแนวปฏิบัติในการป้องกันรักษาความดันโลหิตสูง เน้นการปรับเปลี่ยนการดำเนินชีวิตของผู้ป่วยความดันโลหิตสูง ในเรื่อง

  1. ควบคุมน้ำหนักในผู้ที่เป็นโรคอ้วน BMI มากกว่าหรือเท่ากับ 25 kg/m2
  2. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
  3. ควบคุมความเค็มในอาหารที่รับประทาน
  4. กินอาหารแบบ DASH
  5. งดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
  6. งดการสูบบุหรี่

ซึ่งยังไม่มีการกล่าวถึง กาแฟ กับ ความดันโลหิตสูง หรือ การห้ามรับประทานกาแฟ ค่ะ

ขอบคุณบทความดีๆ :https://www.jaslynsense.com/บทความสุขภาพ/กาแฟ-กับ-ความดันโลหิตสูง/




Create Date : 25 เมษายน 2561
Last Update : 25 เมษายน 2561 15:21:54 น. 0 comments
Counter : 510 Pageviews.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

สมาชิกหมายเลข 4422265
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ฝาก blog นี้ไว้สำหรับคนที่ชื่นชอบและรักในกาแฟ และอยากอ่านบทความกาแฟดีๆด้วยครับผม และขอฝาก เว็บโปรเจคจบของผม https://www.tpcoffeeshop.com/ เข้าไปดูกันเยอะๆนะครับ ขอบคุณครับ
[Add สมาชิกหมายเลข 4422265's blog to your web]