กาแฟสดมีประโยชน์หรือโทษกันแน่?
กาแฟสด มีประโยชน์หรือโทษกันแน่?
ปัจจุบันหนุ่มสาวในวัยทำงานแทบทุกคนต้องดื่ม กาแฟสด เพื่อเป็นตัวกระตุ้นให้มีความตื่นตัวและกระตือรือร้นในการทำงาน ในกาแฟ ชา หรือโกโก้ มีสารที่เรียกว่า คาเฟอีน ซึ่งเป็นสารกระตุ้นที่จะไปยับยั้งการหลั่งอะดีโนซีน (adenosine) ซึ่งเป็นสารที่เกี่ยวข้องกับการนอนหลับ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮาเวิร์ด ได้ศึกษากลไกของคาเฟอีนในการยับยั้งการหลั่งสารอะดีโนซีน เนื่องจากโครงสร้างของคาเฟอีนมีลักษณะคล้ายกับโครงสร้างของสารอะดีนาซีนที่ร่างกายสร้าง ทำให้คาเฟอีนจะไปแย่งจับกับตัวรับ (receptor) แทนอะดีโนซีน ซึ่งร่างกายเราไม่สามารถจำแนกความแตกต่างระหว่างคาเฟอีนกับอะดีโนซีนได้ ส่งผลทำให้ไม่ง่วงนอน แต่ในขณะเดียวกันคาเฟอีนยังเป็นตัวกระตุ้นให้ร่างกายเกิดการหลั่งสารอะดรีนาลีน ทำให้ความดันโลหิตสูง และกระตุ้นการเต้นของหัวใจอีกด้วย จนถึงตอนนี้ยังคงเกิดคำถามขึ้นในใจของหลายๆ คนว่า ตกลงการดื่มกาแฟที่มีคาเฟอีนมีประโยชน์หรือโทษกันแน่? มีงานวิจัยมากมายที่แสดงให้เห็นถึงทั้งประโยชน์และโทษของ กาแฟสด เช่น งานวิจัยบนเว็บไซต์ของ livescience ได้บอกถึงประโยขน์ของกาแฟไว้ ซึ่งจากงานวิจัยบอกว่า การดื่มกาแฟ 2-4 แก้วต่อวันไม่ได้ทำให้เกิดผลเสียใดๆ แต่การดื่มกาแฟเกิน 4 แก้วต่อวันก่อให้เกิดโรคเช่น โรคนอนไม่หลับ ท้องเสีย และกล้ามเนื้อสั่น แต่ถ้าดื่มวันละไม่เกิน 4 แก้ว กาแฟจะมีประโยชน์ดังนี้ 1. ช่วยป้องกันมะเร็งเต้านม โดยผู้หญิงที่ดื่มกาแฟ 57% พบว่ามีการสร้างตัวรับฮอร์โมนเอสเทอเจนของมะเร็งเต้านมชนิดเนกาทีฟ (Estrogen receptor-negative breast cancer) และจากการรายงานของนิตยสาร Breast Cancer Research พบว่ากาแฟมีผลต่อมะเร็งเต้านมชนิดนี้เท่านั้น 2. ป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง ตามรายงานของนิตยสารสุขภาพของอเมริกาที่ตีพิมพ์ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยนักวิจัยชาวสวีเดนได้ศึกษาผู้หญิงที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ (1 แก้วต่อวันเป็นเวลา 10 ปี) จำนวน 34,670 คน พบว่า 25% ของผู้หญิงเหล่านี้ไม่ได้ป่วยเป็นโรคหลอดเลือดสมอง 3. ช่วยลดความเสี่ยงการเป็นเบาหวาน งานวิจัยของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียเปิดเผยข้อมูลการสำรวจว่า ผู้หญิงยิ่งดื่มกาแฟ ยิ่งช่วยลดความเสี่ยงการเป็นเบาหวานได้ โดยกาแฟจะช่วยเพิ่ม ฮอร์โมนsexhormone-binding globulin (SHBG) ในเลือดซึ่งสามารถลดความเสี่ยงของการเป็นเบาหวานชนิดที่ 2 ได้ 4. ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมอง โดยได้มีงานวิจัยได้ฉีดกาแฟเข้าไปในหนูที่เป็นโรคอัลไซเมอร์ ผลการศึกษาพบว่า หนูที่ได้รับการฉีดกาแฟเข้าไปนั้นมีอาการการเกิดโรคอัลไซเมอร์ที่ช้าลง และไม่พัฒนาเป็นโรคอีกเลย ดังนั้นนักวิจัยจึงสรุปว่า กาแฟอาจจะช่วยรักษาผู้ป่วยที่เป็นโรคอัลไซเมอร์ได้ 5. ช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก โดยในงานวิจัยพบว่า หากดื่มกาแฟสดวันละ 3 แก้ว สามารถลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมากได้ถึง 30% เลยทีเดียว จะเห็นว่าที่กล่าวมาข้างต้นคือ ข้อดีของการดื่มกาแฟสด แต่มีข้อดีย่อมมีข้อเสียเหมือนเหรียญที่มีสองด้านเช่นกัน ทุกคนทราบกันอยู่แล้วว่าการดื่มกาแฟสดหลังอาหารเย็น ทำให้นอนไม่หลับ แต่งานวิจัยล่าสุดได้เปิดเผยถึงสาเหตุว่าเพราะอะไร
นั่นเป็นเพราะว่ากาแฟสามารถทำให้นาฬิการ่างกายเราเปลี่ยนไปนั่นเอง นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยโคโลราโดที่เปิดเผยว่า คาเฟอีนสามารถเปลี่ยนนาฬิการ่างกายเราให้ช้าลงได้ถึง 40 นาทีเลยทีเดียว โดยศาสตราจารย์เคนเนตต์ ได้เสนอประโยชน์ในส่วนนี้ของกาแฟว่า อาจจะช่วยรักษาอาการ เจทเลตได้ แต่ก็มีนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดให้คำแนะนำว่า จะใช้คาเฟอีนในการรักษาอาการเจทเลต ควรคำนึงด้วยว่า คนๆ นั้นไม่ได้เป็นโรคนอนไม่หลับ ดังนั้นในตอนนี้งานวิจัยยังดำเนินต่อไปเพื่อที่จะศึกษาเวลาที่เหมาะสมสำหรับการดื่มกาแฟ เพื่อประโยชน์สำหรับผู้ที่เกิดอาการเจทเลต โดยที่การดื่มกาแฟไม่ควรรบกวนเวลานอนของเราด้วย จะเห็นว่างานวิจัยทึ่ศึกษาเกี่ยวกับกาแฟ มีทั้งงานวิจัยที่ศึกษาถึงประโยชน์และโทษของกาแฟ ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของเราซึ่งเป็นผู้บริโภคที่จำเป็นจะศึกษาข้อมูล เพื่อให้เกิดประโยชน์กับตัวเราสูงสุด อย่างไรก็ดีผู้เขียนยังคงเชื่อว่า ทุกอย่างมีทั้งคุณและโทษ ขึ้นอยู่กับปริมาณที่กิน website : https://www.tpcoffeeshop.com facebook : https://www.facebook.com/tongploycoffee/ ที่มาบทความ: www.vcharkarn.com/varticle/503441
Create Date : 19 มีนาคม 2561 |
Last Update : 24 เมษายน 2561 22:25:10 น. |
|
0 comments
|
Counter : 451 Pageviews. |
|
|
|