เมื่อเสรีภาพของสื่อและแสนยานุภาพของสตรีเบ่งบาน

8.5/10

แค่ดูรายชื่อทีมงานของ The Post รัศมีออสการ์เปล่งประกายมาแต่ไกล ไล่ตั้งแต่ผู้กำกับ Steven Spielberg, นักแสดงนำ Meryl Streep  และ Tom Hanks, ผู้เขียนบท Josh Singer จากเรื่อง Spotlight และทีมงานมือรางวัลอีกแทบทุกส่วนงาน แม้สุดท้ายจะได้เข้าชิงแค่ 2 รางวัล (Best Picture & Best Actress) แต่ถึงไม่ได้ชิงอะไรเลย คุณค่าของ The Post โดดเด่นชัดเจนในตัวเองอยู่แล้ว

The Post ว่าด้วยเรื่องเอกสารลับของรัฐบาลสหรัฐอเมริกาเกี่ยวกับสงครามเวียดนาม ถ้าเอกสารถูกเผยแพร่ออกไป รัฐบาลอเมริกันหลายต่อหลายชุดจะถูกเปิดโปงความจริงว่าส่งทหารเข้าสู่สงครามที่ถูกประเมินแต่แรกแล้วว่า ไม่มีทางชนะ!!! 

เมื่อเอกสารอยู่ในมือสื่อ ประธานาธิบดี Richard Nixon พยายามใช้อำนาจทุกทางขัดขวางการทำงานของสื่อ ตั้งแต่ New York Times ที่ต้องหยุดเผยแพร่โดยคำสั่งศาลเนื่องจากถูกอ้างเหตุผลด้านความมั่นคง กระทั่งถึง Washington Post หรือ The Post ของ Kay Graham (Meryl Streep) ผู้บริหารหญิงที่รับช่วงกิจการต่อจากสามีที่ฆ่าตัวตาย

เธอต้องต่อสู้ทั้งกับอำนาจประธานาธิบดี, ผู้ถือหุ้น, ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีต่อคนในรัฐบาลที่เธอเรียกว่า"เพื่อน", จริยธรรมของสื่อ และตัวเธอเอง! เธอแบกความคิดว่าผู้หญิงไม่สามารถบริหารงานได้สำเร็จเท่าผู้ชาย แต่เธอและทีมงานนำโดย Ben Bradlee (Tom Hanks) ได้ต่อสู้ผ่านกระบวนการทางศาล จนในที่สุดเอกสารลับเพนตากอนถูกตีพิมพ์อย่างถูกต้องชอบธรรมด้วยกฎหมายและเสรีภาพของสื่อมวลชน

การที่ศาลยอมให้เผยแพร่เอกสารลับได้ ถือเป็นการตบหน้ารัฐบาล Nixon และยังเป็นการตบหน้าเหล่า "เพศชาย" ที่ดูถูกประสิทธิภาพของ "เพศหญิง" อย่าง Kay Graham ซึ่ง Meryl Streep ปลดปล่อยพลานุภาพทางการแสดงได้เหมาะเจาะเป็นที่สุด จากความไม่มั่นใจในช่วงแรก เข้าสู่สถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานที่เธอต้องอาศัยสัญชาติญาณในการตัดสินใจ บทหนังเปิดโอกาสให้เธอแสดงทั้งด้านจริงจังและผ่อนคลาย ซึ่งภาพรวมของ The Post ก็เหมือนกับคาแรคเตอร์ของ Kay Graham ที่สมดุลย์ด้วยช่วงเวลาจริงจัง หนักแน่น และผ่อนคลาย

สิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชนก็ดี สิทธิเสรีภาพของสตรีก็ดี ทั้งสองสิ่งเบ่งบานได้เมื่อพื้นฐานอยู่บนความถูกต้อง และมีสิ่งสนับสนุนเป็นกฎหมายและสังคมที่เข้มแข็งเพียงพอ ซึ่งหวังได้จากประเทศชาติบ้านเราไหมหนอ??? เค้าจะถามใครดีล่ะเนี่ย!

ติดตามรีวิวอื่นๆ ด้วยการกด like กด follow กด share facebook page ตุ๊ดเล่าหนัง