จันทรุปราคาเกิดขึ้นเมื่อดวงจันทร์เคลื่อนผ่านภายในเงามืด (เงา) ของโลก ขณะที่เริ่มอุปราคา เงาแรกของโลกจะทำให้ดวงจันทร์มืดลงเล็กน้อย หลังจากนั้น เงาจะเริ่ม ปกคลุม ส่วนของดวงจันทร์ เปลี่ยนแปลงให้มันเริ่มมีสีน้ำตาลอมแดงเข้ม (โดยปกติ สีสามารถปรวนแปรได้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขในชั้นบรรยากาศ)
ดวงจันทร์จะปรากฏเป็นสีแดงเนื่องจากการกระจัดกระจายของเรย์ลี (เป็นปรากกฎการณ์เดียวกันกับที่ทำให้ดวงอาทิตย์เป็นสีแดงขณะตก) และการหักเหแสงนั้นโดยชั้นบรรยากาศของโลกเข้าสู่เงามืด
ตามการจำลองแสดงให้เห็นถึงลักษณะภายนอกโดยประมาณของดวงจันทร์ ขณะกำลังเคลื่อนที่ผ่านเงาของโลก ความสว่างของดวงจันทร์เพิ่มขึ้นภายในเงามัว บางส่วนตอนเหนือของดวงจันทร์เคลื่อนเข้าใกล้ศูนย์กลางเงา ทำให้บริเวณนั้นมืดที่สุด และมีลักษณะภายนอกโดยมากเป็นสีแดง
องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐฯ (นาซา) เรียกปรากฏการณ์ครั้งนี้ว่า ซูเปอร์บลูมูนสีเลือด (super blue blood moon) และอธิบายบนเว็บไซต์ว่า ขณะที่ดวงจันทร์อยู่ภายใต้เงาของโลก มันจะมีสีออกเป็นสีแดง ที่เรียกกันว่า พระจันทร์สีเลือด
มกราคมนี้ จะเกิดปรากฏการณ์สำคัญกับดวงจันทร์ 3 อย่าง นั่นคือ
ดวงจันทร์เข้าสู่จุดใกล้โลก หรือที่เรียกว่า ซุปเปอร์มูน เป็นครั้งที่ 3 นับจากครั้งแรกคือ 3 ธันวาคม 2560 และครั้งที่ 2 เมื่อ 2 มกคาคม 2561
ดวงจันทร์เป็นทวิเพ็ญ หรือ พระจันทร์สีน้ำเงิน (บลู moon) นั่นคือเป็นจันทร์เพ็ญครั้งที่ 2 หรือขึ้น 15 ค่ำ 2 ครั้งในเดือนเดียวกัน โดยจันทร์เพ็ญครั้งแรกเกิดไปเมื่อ 1 มกราคม หรือวันปีใหม่ที่ผ่านมา
ดวงจันทร์เข้าสู่เงาโลก เกิด จันทรุปราคาเต็มดวง ครั้งแรกในรอบ 3 ปี หลังเกิดครั้งสุดท้ายเมื่อ 4 เมษายน 2558 ซึ่งเกิดเพียงช่วงเวลาสั้นๆเพียงแค่ 5 นาที แต่จันทรุปราคาเต็มดวงที่จะเกิดในปี 2561 นี้ จะเกิดนานนับชั่วโมง ยาวสะใจ และยังสามารถมองเห็นได้ทุกจังหวัดในไทย ทุกประเทศในเอเชียตะวันออก เช่น เกาหลี จีน ญี่ปุ่น อาเชียน ออสเตรเลีย ฯลฯ
จันทรุปราคาเต็มดวงครั้งนี้ จะเกิดยาวนานถึง 1 ชั่วโมง 16 นาที นานพอที่ชวนกันดูปรากฏการณ์ที่น่าทึ่ง โดยดวงจันทร์จะเข้าสู่เงามืดเวลา 19:51 เข้าสู่ตำแหน่งกึ่งกลางคราส (บังมากที่สุด) เวลา 20:29 และสิ้นสุดจันทรุปราคาเต็มดวง หรือออกจากเงามืดของโลก เวลา 21:07
แต่ไม่เป็นไร หากใครพลาดรอบนี้ ยังมี จันทรุปราคาเต็มดวง อีกครั้งในปีนี้ ซึ่งจะเกิดในวันที่ 28 กรกฎาคม 2561 แต่ครั้งที่สองนี้อาจดูไม่สะดวกเท่าครั้งแรก เพราะเกิดช่วงดึกมาก นั่นคือ 02:31 04:13 เรียกว่าดูเสร็จก็คงแทบไม่เหลือเวลานอนกันแล้ว เตรียมอาบน้ำแต่งตัวไปทำงานกันเลยทีเดียว
แต่ถ้าจะให้ดีไม่พลาดทั้ง 2 ครั้งเลยจะคุ้มสุด
เมื่อวันที่ 19 ม.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊ก FM91 Trafficpro ได้เปิดเผยว่า ในคืนที่ 31 มกราคม 2561 เตรียมชมปรากฏการณ์ซูเปอร์มูนสีเลือด จะเกิดปรากฏการณ์พิเศษในรอบ 150 ปี
ที่สำคัญ คนไทยสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนเต็มที่อีกด้วย ซูเปอร์มูนคือพระจันทร์เต็มดวง ที่เกิดขณะที่ดวงจันทร์โคจรมาอยู่ใกล้โลกมากที่สุด ทำให้เห็นดวงจันทร์มีขนาดใหญ่กว่าปกติ
บลัดมูน หรือ พระจันทร์สีเลือด คือ จันทรุปราคาเต็มดวง แบบที่มองเห็นดวงจันทร์ที่อยู่ในเงามืดของโลกเป็นสีแดงเข้ม ส่วนปรากฏการณ์ จันทรุปราคาเป็นปรากฏการณ์ที่เห็นได้ค่อนข้างบ่อย ปีละอย่างน้อย 2 ครั้ง บางปีอาจมากถึง 4 5 ครั้ง เกิดขึ้นเมื่อดวงอาทิตย์ โลก และดวงจันทร์ เรียงตัวอยู่ในแนวเดียวกันพอดี หรือใกล้เคียงมาก
จันทรุปราคามีทั้งแบบเต็มดวงและบางส่วน สีของดวงจันทร์เมื่อเกิดจันทรุปราคาแต่ละครั้งจะไม่เหมือนกัน มีทั้งมืดแทบมองไม่เห็น สีเทา สีน้ำตาล สีแดงเข้ม สีอิฐ และ สีส้ม หากเห็นเป็นสีแดงเข้มเราเรียกว่าพระจันทร์สีเลือด หรือ บลัดมูน
ทั่วโลกเตรียมดูปรากฎการณ์พระจันทร์ 3 อย่าง ซูเปอร์มูน บลูมูน และ จันทรุปราคาเต็มดวง ที่จะเกิดพร้อมกัน วันที่ 31 ม.ค.นี้
แวดวงดาราศาสตร์ และผู้สนใจทั่วโลก ต่างเฝ้ารอดูปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ที่หาได้ยากในวันที่ 31 ม.ค.นี้ ซึ่งคาดว่าจะเกิดเหตุการณ์ 3 อย่างพร้อมกัน คือ ซูเปอร์มูน ปรากฏการณ์ดวงจันทร์เต็มดวงในตำแหน่งใกล้โลก บลูมูน พระจันทร์เต็มดวงรอบที่ 2 ในเดือนเดียวกัน และ จันทรุปราคาเต็มดวง มองเห็นได้ในพื้นที่บางส่วนของอเมริกาเหนือ เอเชีย ตะวันออกกลาง รัสเซีย และออสเตรเลีย
เจสัน ออฟเดนเบิร์ก รองศาสตราจารย์ด้านฟิสิกส์ และดาราศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยการบินเอมบรี ริดเดิล ในฟลอริดา สหรัฐ กล่าวว่า ที่ผ่านมาเคยมีปรากฎการณ์ซูเปอร์มูนหลายครั้ง เช่นเดียวกับการเกิดจันทรุปราคา แต่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยาก ที่ทั้ง 2 เหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นในวันที่เป็นบลูมูน ซึ่งการเกิดปรากฏการณ์ทั้ง 3 อย่างขึ้นพร้อมๆ กัน ทำให้เป็นเรื่องที่ไม่ธรรมดา
........................