Group Blog
 
<<
เมษายน 2561
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
24 เมษายน 2561
 
All Blogs
 
ก็เที่ยวไปเรื่อย ตอนที่ 21 ลุยเดี่ยวเที่ยวโอซาก้า-ญี่ปุ่น(Part2)บุกปราสาทโอซาก้า ชมวิวตึกซู้งสูง




จากตอนที่แล้วหลังจากที่เราเติมพลังกับมื้อเช้าแบบประหยัด ก็ได้เวลา

         ที่จะเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองโอซาก้าสักที ในการเดินทางจาก

            สนามบินคันไซเข้าเมืองโอซาก้านั้น มีวิธีต่างๆดังนี้นะ

1.รถไฟ เป็นวิธีที่สะดวกที่สุดล่ะ สำหรับเราที่สนามบินคันไซจะมีสถานี

           KansaiAirportอยู่บริเวณชั้น2 ใกล้ๆกับทางเชื่อมอาคาร

         Terminal 1และ2 ซึ่งรถไฟที่วิ่งไป-กลับจากสนามบินคันไซ

    เข้าเมืองโอซาก้าจะมีด้วยกัน2รายคือ รถไฟJRและรถไฟNankai

   สถานีทั้งสองอยู่ติดกันแยกสีกันชัดเจน ทั้งสองสายนั้นมีทั้งรถไฟ

    แบบขบวนธรรมดา คือจอดรับผู้โดยสารทุกป้าย กับรถด่วนพิเศษวิ่ง

                ตรงเข้าเมืองเลย(จอดระหว่างทางแค่2สถานี)

2.รถลีมูซีนวิธีนี้เหมาะสำหรับคนที่พักโรงแรมในย่านสำคัญๆเช่น 

   นัมบะ อุเมดะ หรือคนที่มีสัมภาระมามากๆรถบัสลีมูซีนจะจอดอยู่

         ด้านนอกอาคารผู้โดยสาร ซื้อตั๋วก่อนที่ตู้จำหน่ายอัตโนมัติ

ถ้าใช้ตู้ไม่เป็นก็ติดต่อซื้อกับเจ้าหน้าที่ๆอยู่ใกล้ได้ ก่อนขึ้นควรสอบถาม

         ก่อนว่าโรงแรมที่พักที่เราจะไปนั้นมีรถลีมูซีนวิ่งผ่านหรือไม่ 

  และต้องขึ้นสายอะไร สำหรับรถบัสลีมูซีนนี้จะใช้เวลานานกว่ารถไฟ

        3.รถแท็กซี่เป็นอีกตัวเลือกสำหรับนักเดินทางกระเป๋าหนัก

     (คือมีตังค์นะ 55)เพราะเป็นวิธีที่แพงที่สุดใช้เวลาพอๆกับรถไฟ 

หรือนานกว่าถ้ารถติด ค่าโดยสารนี่ขนาดนั่งไป5คนแล้วหารกันยังแพง

          มากเลยเพราะฉะนั้น รถไฟหรือรถลีมูซีนเถอะ ดีกว่า 55

     และสำหรับเราซึ่งมีตั๋วKansai Thru Pass อยู่ สามารถใช้ขึ้นรถไฟ

          ของเอกชนได้ทุกสายในคันไซ(ยกเว้นรถไฟของJRเท่านั้น) 

เราก็ใช้ตั๋วนี้ขึ้นรถไฟNankaiเลยจ้า

ตั๋วเป็นแบบนี้อันนี้แบบใช้ได้3วัน วิธีการใช้ก็เหมือนๆกับขึ้นBTSบ้านเรา

แหละ สอดตั๋วเข้าตรงช่องด้านหน้าแล้วก็เดินไปรับตั๋วที่โผล่ออกอีกด้าน



           ได้นั่งรถไฟแล้วเย้ สำหรับรถไฟNankai นี้จะไปสุดสายที่

   สถานีNambaนะ เราจองที่พักไว้ใกล้ๆสถานีนี้พอดี ตอนนั่งรถไฟนี่ 

          แรกๆเราก็คอยมองชื่อสถานีที่จอแต่พอหลายๆครั้งเริ่มชิน

                       ไม่ต้องมองจอละ มันรู้เรื่องไปเอง 55


ระหว่างทางที่นั่งรถไฟไปเรื่อยๆได้เห็นวิถีชีวิตของคนญี่ปุ่นที่นี่ ได้เห็นทั้ง

ผู้คนมากมายที่รีบร้อนขึ้นรถไฟไปทำงาน(เดินกันเร็วมาก)ได้เห็นเด็กๆซึ่ง

     น่าจะชั้นประถม ขึ้นรถไฟไปโรงเรียนเอง  บ้านเขานี่ค่อนข้างสะดวก

                                     ปลอดภัยมากจริงๆแฮะ

หลังจากใช้เวลาเดินทางราวๆ50นาที รถไฟก็มาสุดสายที่สถานี Namba

     และด้วยความที่ยังไม่ถึงเวลาเช็คอินเข้าที่พักเราก็เลยเดินทางไป

            เที่ยวที่ ปราสาทโอซาก้า ก่อนซะเลยดีกว่า ฮิ ฮี้ววววว

      ภายในสถานีรถไฟของญี่ปุ่นนี่ป้ายบอกทางเขาค่อนข้างละเอียด

  ชัดเจน มีภาษาอังกฤษให้แถมเดินๆไปไม่กี่ก้าวก็เจอป้ายถี่ๆเป็นระยะๆ


การเดินทางโดยรถไฟในญี่ปุ่นแบบเข้าใจง่ายๆ

1.หาข้อมูลก่อนว่าสถานที่ท่องเที่ยวหรือที่ๆเราจะไปนั้น มีสถานีรถไฟ

ไหนไปถึงบ้างและต้องขึ้นรถไฟสายอะไร เพราะรถไฟญี่ปุ่นนั้นมีมากมาย

หลายสายเลย ทั้งรถไฟJR รถไฟไต้ดินเราก็ดูว่าเราสะดวกนั่งรถไฟ

      สายไหนที่จะไปถึงจุดหมาย

 2.เมื่อเลือกได้แล้วเราก็ต้องรู้ว่าสถานีปัจจุบันที่เราจะขึ้นรถไฟต่อเนี่ย

     คือสถานีอะไร อยู่ในรถไฟสายอะไร(ป้ายสถานีมีบอกอยู่แล้ว55

แล้วก็ดูให้ดีว่าสถานีที่เราจะลงนั้นต้องขึ้นที่ฝั่งไหนต้องไปต่อรถ

          ที่สถานีไหนหรือเปล่า

 3.ถ้าไม่มีบัตรPassต่างๆก็ ซื้อตั๋วก่อน มีตู้ขายตั๋วอัตโนมัติอยู่มากมาย 

              วิธีการซื้อตั๋วจากตู้ก็นี่เลย(ขอบคุณลิงค์ค่ะ)

https://www.japankakkoii.com/japan-travel/how-to-buy-japan-train-ticket/

   แต่เดี๋ยวนี้ตู้ขายตั๋วที่นี่เริ่มมีเมนูภาษาไทยให้แล้ว สะดวกมากขึ้นละ


   อย่างเช่นเราซึ่งกำลังจะไปปราสาทโอซาก้า ตามข้อมูลคืออยู่ใกล้ๆ

  สถานีรถไฟ ใต้ดิน สถานีTanimachiyon-ChomeสายChuo Line 

        เราเริ่มต้นที่สถานีNambaเป็นรถไฟใต้ดินสายMidosuji Line 

เราต้องนั่งไปที่สถานีHommachi ซึ่งเป็นสถานีเชื่อมต่อเพื่อเปลี่ยนไป

             นั่งสายChuoLine แล้วก็ไปยังสถานีจุดหมายได้


และแล้วเราก็มาถึงสถานีTanimachiyon-Chome ป้ายบอกทางออกก็มี

ชัดว่าถ้าไปปราสาทโอซาก้าต้องไปที่ทางออกหมายเลขอะไรเราก็ลุย

เลยการไปปราสาทโอซาก้าต้องข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามนะ ชอบจริงๆ

    การจราจรที่นี่เป็นระเบียบมากเราต้องรอสัญญาณไฟคนข้ามถนน

(สีเขียว)สว่างก่อนนะ ถึงจะข้ามได้ถนนโล่งๆก็ไม่เห็นมีรถคันไหนขับซิ่ง



เมื่อข้ามมาแล้วเดินไปเรื่อยๆจะเจอทางเดินเข้าสู่ปราสาทโอซาก้า เราก็

เดินไปเรื่อยๆ ชมวิวข้างทางไปเรื่อยๆเอ่อ มันก็เดินไกลพอสมควรเลยนะ 

          กว่าจะถึงได้เนี่ย แหม่ ลมก็เย้นเย็น เดินไปลมตีหน้าไป 55



 เออ!ในที่สุด ก็เห็นทางเข้าบริเวณปราสาทสักทีเราก็เดินเล่นดูรอบๆ

ปราสาทก่อน  มีนักท่องเที่ยวมากันพอสมควรแต่ไม่แน่นมาก จริงๆเจอ

                      แต่คนไทยเป็นส่วนมากเลยนะเนี่ย





นกพิราบเยอะแยะเลยคุ้นกับคนดีด้วยนะเนี่ย








  เฮ้ย!นี่มัวแต่เดินเล่นถ่ายรูปรอบๆปราสาทซะเยอะเลยหันไปดูปราสาท

 บ้าง!!นี่ไงปราสาทโอซาก้า เราได้มาตามรอยเพื่อนโคนันคุงแล้วนะเนี่ย 





พอยืนมองปราสาทด้านนอก(นานเลย)จนอิ่มตาแล้วเราก็เข้าไปดูภายใน

     ปราสาทกันบ้างภายในปราสาทโอซาก้านี้เปิดให้เข้าตั้งแต่เวลา

09.00-17.00 ค่าเข้าชมคนละ 600เยนอายุต่ำกว่า15ปี เข้าฟรี เปิดทุกวัน

                  ปิดเฉพาะช่วงปีใหม่ 28ธ.ค.-1ม.ค.ของทุกปี


    ที่ซื้อตั๋วอยู่ด้านหน้าทางเข้าเรามีบัตรKansai ThruPass ได้ลดราคา

       นิดนึงจาก 600เยน เหลือ 540เยน ได้ตั๋วมาแล้ว เข้าไปกันเลย



ภายในปราสาทโอซาก้ามีทั้งหมด8ชั้น มีทั้งลิฟท์และบันไดแต่บันได

    ต้องเดินระวังหน่อยนะเพราะค่อนข้างชันเราซึ่งลุยๆอยู่แล้ว ก็เดินขึ้น

       บันไดดูที่ละชั้นเลย  ในแต่ละชั้นก็จัดแสดงนิทรรศการเรื่องราว

  ประวัติศาสตร์ต่างๆของเมืองโอซาก้าเราก็ไม่รู้เรื่องเท่าไหร่หรอก 55 

   แต่ดูเพลินๆดีเหมือนกัน จริงๆภายในยังมีอะไรให้ดูเยอะกว่านี้มากนะ 

                 แต่ในบางชั้นและบางพื้นที่เขาห้ามถ่ายรูปจ้ะ







และเมื่อเดินขึ้นไปจนถึงชั้น 8ซึ่งเป็นชั้นบนสุดจะมีประตูให้เราเปิดออกไป

   ยืนชมวิวที่ระเบียงได้ด้วยมองเห็นเมืองโอซาก้าได้ค่อนข้างทั่วเลย 

         แต่เรายืนได้ไม่นานหรอกนะ คนเพียบเลย เกรงใจเขา 55




 ลงมาจากปราสาทละเริ่มหิว ด้านล่างปราสาทเริ่มมีของกินขาย 

จัดทาโกะยากิมาสักชุดตู้กดน้ำดื่มที่ญี่ปุ่นนี่เห็นมีอยู่ทั่วจริงๆแฮะ

                         มีตู้กดไอติมด้วย ไม่ได้ลองเลย 55



กำลังนั่งๆอยู่นกกระจอกญี่ปุ่น(เหรอ?)ก็บินมาเกาะโต๊ะด้วย น่ารักจัง


ชื่นชมปราสาทโอซาก้าจนพอใจแล้วมองเวลา เอาล่ะไปเช็คอินเข้า

   ที่พักดีกว่าที่พักของเราอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟใต้ดินNamba เราก็ขึ้น

       รถไฟกลับทางเดิมและแล้วเราก็มาถึงที่พักของเราคือที่นี่ล่ะ

 Ken’sHouse มีลักษณะเป็นโฮสเทล คือเป็นที่พักแบบห้องรวมมีแบบ

    ห้องรวมชาย  ห้องรวมหญิง และห้องรวมชายหญิง เป็นที่พักราคา

    ประหยัด เหมาะกับนักเดินทางแนวลุยๆไม่อะไรมาก แบบเรา 55


  สำหรับที่นี่เราพักด้วยกัน 3คืน 6000เยน(ราวๆ1800บาท) โอเคเลย

    บริเวณห้องพักเป็นแบบนี้ห้องที่เราพักเป็นห้องรวมหญิง อยู่ชั้น

       เป็นเตียง2ชั้น ในห้องมีอยู่ราวๆ4-5เตียง เราได้เตียงชั้นล่าง 

   ทุกเตียงมีม่านเป็นส่วนตัว ปลายเตียงมีปลั๊กไฟหัวเตียงมีไม้แขวน 

             ข้างๆมีตะกร้าให้ใส่รองเท้า มีห้องน้ำและห้องอาบน้ำ





พอเรามาถึงที่พัก เจ้าของที่พักก็ออกมาทักทายและให้เราเขียนชื่อ-นามสกุล

  (ภาษาอังกฤษนะ) แล้วเขาก็ค้นข้อมูลการจองของเรา แล้วก็นำบัตรหมายเลข

  ประจำเตียงให้เรา ว่าเราได้พักที่เตียงไหน  เราเข้าไปที่ห้อง นอนเล่นพักผ่อน

               ที่เตียงของตัวเองสักพักหนึ่ง(จริงๆคือรอชาร์ตแบตมือถือ 55)


แล้วเราก็ออกไปเดินดูที่นี่จ้า ตึก Umeda Sky Building 

            เพื่อนแนะนำมาด้วยเลยต้องไปสักหน่อย ที่ตึกอุเมดะนี้ 

   อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟใต้ดินสถานี Umeda สาย Midosuji Line 

             สายเดียวกันกับสถานีNamba ที่เราอยู่ ไปง่ายๆเลย


  มาถึงแล้ว ตึกอุเมดะสกาย คือทีแรกหาไม่เจอนะ เดินวนอยู่พักหนึ่ง

 เจอจนได้ เข้าไปในตึกแล้วก็ขึ้นลิฟต์ไปเลย จะมีพนักงานคอยกดลิฟต์

          ให้เราขึ้นไปถึงชั้นที่39 โห!สูงมาก พอขึ้นไปชั้นนั้นแล้ว 

                           ก็จะเป็นจุดชมวิว มีที่นั่งส่วนหนึ่ง





 แต่จุดชมวิวไฮไลท์จริงๆคือที่ดาดฟ้าชั้น 40 ในเมื่อมาแล้วก็ต้องไปดูล่ะ

       ค่าเข้าจุดชมวิว คนละ 1000เยน ซื้อตั๋วเรียบร้อย ขึ้นไปกันเล้ย


 ลมโคตรแรงเลย แต่วิวสวยมากจริงๆ เดินดูไปเรื่อยๆ รอบๆ ให้คุ้มค่าตั๋ว

  ลองนึกดู ถ้าเป็นวิวกลางคืนคงสวยสุดๆ ส่วนเราเท่านี้ก็พอใจละ 55










     กินลมจนอิ่ม กลับลงมาข้างล่าง(ชั้น39) มีบริเวณคาเฟ่ ร้านกาแฟ

                ร้านอาหารให้นั่งกินไปด้วย ชมวิวไปด้วย ฟินสุดๆ





    เดินจนเหนื่อย กลับที่พักกันได้แล้วล่ะเนอะ ในการลงจากตึกนั้นคือ

 บันไดเลื่อนจ้า เลื่อนลงแบบยาวๆเลย ทางบันไดค่อนข้างแคบ ยืนได้

   แบบแถวตอนเรียงหนึ่ง พอลงมาได้ส่วนหนึ่ง ที่เหลือก็ลงลิฟท์ต่อ

                ลิฟท์แก้วซะด้วย เสียว เอ๊ย! สนุกดีนะ 555




    หิวแล้ว จัดราเมงสักชาม แล้วก็กลับที่พักล่ะจ้ะ เจอกันตอนต่อไปนะ






Create Date : 24 เมษายน 2561
Last Update : 24 เมษายน 2561 0:31:02 น. 4 comments
Counter : 915 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณtuk-tuk@korat, คุณKavanich96


 
เก่งมากสนุกด้วย


โดย: เป้ IP: 171.100.201.196 วันที่: 24 เมษายน 2561 เวลา:1:14:06 น.  

 
เห็นแล้ว น่าไปเที่ยว มาก ๆ... ราคาที่พักโอเคเลย



โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 24 เมษายน 2561 เวลา:13:28:35 น.  

 
น่าสนุกค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 24 เมษายน 2561 เวลา:19:50:27 น.  

 
ขอบคุณที่แบ่งปัน


โดย: Kavanich96 วันที่: 27 เมษายน 2561 เวลา:4:06:08 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ไมตรีและมิตรภาพ
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




ชอบการ์ตูน ชอบวาดรูป ชอบท่องเที่ยว
ชอบเขียนอะไรไปเรื่อย บล็อกนี้มีหลายเรื่องราว
โปรดใช้จักรยานในการรับชม 555
: Users Online
New Comments
Friends' blogs
[Add ไมตรีและมิตรภาพ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.