อันยอง
ผมมีเพื่อนเกาหลีครั้งแรกปี 2005 ประมาณ 3-4 คน เราพบกันในคลาสเรียนภาษาอังกฤษเบื้องต้นที่ซิดนี่ย์ ออสเตรเลีย เป็นเพื่อนกัน 7 เดือน ก็ต้องแยกย้ายกันไป เพื่อนคนที่สนิทที่สุดกลับไปปูซาน ส่วนผมซมซานมาอยู่ชิคาโก้ 15 ปีผ่านไป เพื่อนเกาหลีคนแรกของผม ลูก 2 แล้ว และเราก็ยังติดต่อกัน เพื่อนเกาหลีอีกนับสิบคนหลั่งไหลเข้ามาในชีวิตผมอีกครั้งในปี 2007 เราเจอกันในคลาสเรียนภาษาอังกฤษระดับปานกลาง ณ เมือง ชิคาโก้ อิลลินอยส์ เหมือนชีวิตถูกจู่โจมด้วย Korean Wave แบบไม่ทันตั้งตัว แต่ไม่ได้มาในรูปแบบ วัฒนธรรม K-pop ซีรี่ย์ส หรือเพลง แต่มาในรูปแบบ K-Human คนเกาหลีทั้งโอปป้าและออนนี่ที่เข้ายึดครองโรงเรียนสอนภาษาในอเมริกา ในระดับ 80% ของประชากรนักเรียน นั่นเป็นช่วงเวลาที่ผมมีเพื่อนเกาหลีเยอะที่สุดในชีวิต
เพื่อนเกาหลีคนล่าสุดของผมคือ สาวเกาหลีตัวเล็ก ๆ ชื่อ ซู ชิน
เราเจอกันที่สโมสรปิงปองแถวบ้านของผม ในปี 2017 เราหัดตีปิงปองด้วยกัน เราเป็นคนเอเชียเพียง 2 คนท่ามกลางพี่ ๆ ผิวสีนับสิบในชมรมปิงปองนั้น เธอมักจะแต่งตัวโทรม ๆ มาตีปิงปอง หน้าก็ไม่แต่ง ไม่มีสง่าราศีเหมือนนางเอกซีรี่ย์สเอาซะเลย
แต่ถึงแม้เธอจะแต่งตัวโทรม ๆ มาตีปิงปองจนเหงื่อท่วมตัว แต่ความน่ารักของเธอนั้นกลับทะลุเสื้อผ้าโทรม ๆ พุ่งเข้าใส่ผมด้วยความรุนแรงเหมือนลูกปิงปองที่ถูกตบมาด้วยความหมุนแบบ topspin ทุกครั้งที่เราตีปิงปองด้วยกัน แน่นอนล่ะว่าผมแอบชอบเธอ แต่ก็รู้ว่าเธอมีแฟนแล้ว ดังนั้นไม่ว่าผมจะเอาชนะเธอเวลาแข่งปิงปองด้วยสกอร์เท่าไหร่ก็ตาม แต่เรื่องของหัวใจผมรู้ดีว่าผมแพ้ 11- 0, 11- 0, 11- 0 เสมอ
เห็นแต่งตัวโทรม ๆ มาตีปิงปองทุกวัน ใครจะไปคิดว่าเธอจะเป็นศิลปินที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งในแวดวงศิลปะที่นี่ เธอเคยจัดแสดงผลงานศิลปะของเธอที่แกลอรี่แห่งหนึ่ง แล้วชวนผมไปดู ประดุจดั่งแขกผู้มีเกียรติ ใครจะไปคิดว่าพอถึงงาน ผมถึงกับใบ้แ_ก เพราะวินาทีที่ยืนอยู่หน้างานศิลปะของเธอนั้น ผมไม่รู้จะพูดอะไรกับเธอ ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่างานศิลปะของเธอมันคืออะไร จะให้เดินไปชมว่า อันนี้สวยจังเลยเธอ อันนั้นก็สวยจังเลยเธอ มันก็ไม่ได้ป่ะ มันต้องยืนอธิบายสิ ว่าเห็นสิ่งนี้แล้วมันกระทบจิตวิญญานของตัวเรายังไง แต่ผมไม่รู้จะโม้ยังไง....... 😂 นั่นคือครั้งสุดท้ายที่ผมเจอเธอ
เราห่าง ๆ กันไปตั้งแต่เธอรับงานสอนศิลปะให้กับเด็ก High School ที่รร.แห่งหนึ่ง เธอก็ไม่มีเวลาว่างมาตีปิงปองอีกเลย แต่เราก็ยัง text คุยกันนาน ๆ ที 15 ปีผ่านไป นับตั้งแต่ผมมีปฎิสัมพันธ์กับคนเกาหลีคนแรก เพื่อนสนิทคนแรก และตามมาอีก มากมาย ผมไม่เคยอ่านภาษาเกาหลีออกแม้แต่พยางค์เดียว และไม่เคยคิดอยากเรียนภาษาเกาหลีเลยซักครั้งเดียว
จนกระทั่ง สิงหาคม 2020 ......
Create Date : 21 พฤศจิกายน 2563 |
Last Update : 23 พฤศจิกายน 2563 11:52:19 น. |
|
3 comments
|
Counter : 807 Pageviews. |
|
|