สวัสดีครับทุกท่าน ช่วงนี้อากาศอุ่นขึ้นนะครับรู้สึกเย็นตอนช่วงเช้ามืดเท่านั้นเอง แต่อากาศแบบนี้ทำให้หลายท่านเกิดอาการไม่ค่อยสบายกัน อย่างไรก็ดูแลสุขภาพกันนะครับ
ก่อนอื่นผมขอแสดงความยินดีกับผู้ชนะการประกวด BlogGang Popular Award ครั้งที่ ๑๐ ซึ่งก็เป็นไปตามคาดหมายบ้าง ม้ามืดบ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็คงเป็นบล็อคเกอร์คุ้นหน้าคุ้นตากันอย่างดี จะว่าไปกิจกรรมแบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะครับมันทำให้การเขียนบล็อคมีชีวิตชีวา ไม่เงียบเหงา บางท่านที่ฝีไม้ลายมือดีก็ Go Inter กันไปก็หลายคนเชียว รู้สึกมีความสุขร่วมไปกับทุก ๆท่านด้วยจริง ๆ บล็อคเกอร์เล็ก ๆอย่างเราก็อยู่เหงา ๆกับบ้านหลังน้อยของเราไปตามประสา
เรามาเข้าเรื่องกันดีกว่าครับ ผมเองก็บ่นไปเรื่อย ๆตามประสาคนหนุ่มใหญ่
เจ้าเดียวดาย หลังจากได้ปลาทองมาจากญาติที่เป็นครูให้มาเจ้าไนซ์ก็นำมาเลี้ยงไว้ในกะละมังซักผ้าอยู่นานแรมปี ตอนแรกให้มาสองสามตัวได้แต่ทยอยตายไปเหลือเพียงตัวเดียวอย่างหงอยเหงานานแรมปี ผมแอบเรียกมันโดยไม่บอกใครว่า...เจ้าเดียวดาย
เมื่อต้นปีใหม่ที่ผ่านมาผมจึงตัดสินใจซื้อตู้ปลาอีกครั้งหลังจากเมื่อก่อนเป็นคนชอบเพาะเลี้ยงปลามาก ด้วยใจคิดสงสารเจ้าเดียวดายเห็นเวียนว่ายในกะละมังซักผ้าเพียงลำพัง โดยไม่ได้สนใจว่ามันเป็นปลาพันธุ์อะไร แท้หรือผสม ผมคิดเพียงว่ามันก็น่ารักดีตามแบบฉบับของมัน และแล้วตู้ปลาขนาด ๒๔ นิ้วพร้อมเครื่องกรองน้ำด้านในตู้ปลาจึงได้มาเป็นที่อยู่ใหม่ของเจ้าเดียวดายตั้งแต่ต้นปี ๕๘ ที่ผ่านมา
เจ้าเดียวดาย เจ้าเดียวดาย...ไม่ได้มีบ้านหลังใหม่แต่เพียงอย่างเดียวครับ ผมซื้อเพื่อนใหม่มาให้เจ้าเดียวดายอีกสามตัวเป็นสิงห์ญี่ปุ่นตัวเล็กหนึ่งตัวราคา ๓๐ บาทและลักเลห์ตัวละ ๑๐ บาทอีก ๒ ตัว รวมแล้วก็ ๔๐ บาท แต่น่าเสียดายครับ ลักเลห์สองตัวอยู่ได้ไม่กี่วันก็ตายคงเหลือสิงห์ญี่ปุ่นเป็นเพื่อนเจ้าเดียวดายตัวเดียวเท่านั้น ผมเรียกเจ้าตัวใหม่นี้ตามลักษณะการว่ายของมันว่า...เจ้าดุ๊กดิ๊ก
เจ้าดุ๊กดิ๊ก
เดียวดายกับดุ๊กดิ๊ก...อยู่ด้วยกันในบ้านหลังใหม่ ผมสังเกตเห็นความสุขของเจ้าเดียวดายแม้ในวันนี้มันไม่ได้เดียวดายอีกต่อไป มันร่าเริงมากขึ้นทุกครั้งที่เห็นคนมันจะแข่งกันว่ายมารออาหารตามประสาปลาทองที่กินไม่รู้จักอิ่ม ความสุขไม่ได้เกิดกับเจ้าเดียวดายแต่เพียงอย่างเดียว ผมและคนในครอบครัวรู้สึกมีความสุขขึ้นแม้เป็นความสุขเล็ก ๆแต่มันก็เป็นความสุขที่ช่วยให้เราผ่อนคลายจากการทำงาน เวลามองเจ้าเดียวดายและเจ้าดุ๊กดิ๊กว่ายไปมามันทำให้ผมคิดถึงบรรยากาศเก่า ๆที่ผมเคยเลี้ยงปลาเมื่อในอดีต ความสุขที่โหยหาลึก ๆได้รับการกระตุ้นอีกครั้ง
เจ้าดุ๊กดิ๊ก
ตู้ขนาด ๒๔ นิ้วกับปลาตัวน้อยสองตัวว่ายไปมามันดูอ้างว้างยิ่งนัก เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาผมจึงตัดสินใจซื้อเพื่อนใหม่มาให้เจ้าเดียวดายและเจ้าดุ๊กดิ๊กอีก ๔ ตัวจากร้านข้าง ๆห้างบิ๊กซีนครปฐมด้วยราคาตัวละ ๓๐ บาท หลายคนอาจบอกว่าทำไมไม่หาปลาดีดีมาเลี้ยงสู้ราคาสักหน่อยจะได้ปลาไซต์ใหญ่และสวย มันก็จริงนะครับ แต่ผมมาทบทวนดู เราต้องการอะไรจากการเลี้ยงปลาครั้งนี้ อย่างที่บอกนั่นแหละครับปลาราคาไม่แพงหรือราคาถูกคัดเกรดต่ำ ๆ มันก็มีความน่ารักในแบบของมันแค่ไม่เปรียบเทียบความสุขก็เกิดแล้วแม้เป็นความสุขจากสิ่งเล็ก ๆก็ตาม
คงเหมือนชอบคนหล่อคนสวยช้ำใจมาเยอะ ลองคบคนขี้เหล่แต่น่ารักดูอาจมีความสุขกว่า....มันเกี่ยวกันไหมละนั่น
เพื่อนใหม่ทั้ง ๔ หน้าตาเป็นแบบนี้นะครับ
เมื่อตอน 2 ทุ่มกว่าๆ..อ้อมแอ้มก็ไปยืนดูร้านขายปลาทอง
ดูเค้า อยู่ในตู้สวยๆหลายตู้..ดูเพลินดีนะคะ
แต่ยังตัดสินใจไม่ได้ ว่าจะเลี้ยงดีหรือไม่เลี้ยงดี..?
กลัวจะให้ความรักเค้าไม่เพียงพอ แล้วเค้าจะตายง่ายค่ะ