|
|
|
| | 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
| 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
| 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
| 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
| 28 | 29 | 30 | |
|
 |
|
|
เมืองรองน่าไป ชัยภูมิน่าฝน |
|
ทำไมเราถึงควรไปเที่ยว ??? ทั้งๆ ที่ไปแล้วเสียทั้งเงิน เสียทั้งวันลา
มีช่วงนึงผมเที่ยวบ่อยมากเพราะคุยกับแฟนไว้ว่า เราจะไปเที่ยวกับอย่างน้อยๆ 3 เดือนครั้งแต่เอาเข้าจริงๆ ก็อยากที่เห็นครับ ไปเกือบทุกเดือน บางเดือนเว้นอาทิตย์เดียว ก็ไปอีกแล้ว ทำให้ช่วงนั้นเฉลี่ยๆ ก็น่าจะ ไปเที่ยว 2 เดือนครั้งแบบค้างคืน แล้วเดือนละ1-2ครั้ง สำหรับเที่ยวแบบเช้าไปเย็นกลับจนระยะหลังๆ งานผมหนักขึ้นมาก ทำให้ผมเหนื่อยและกระตือรือร้นในการไปเที่ยวน้อยลง ปกติเวลาจะไปไหนผมกับแฟนจะช่วยกันจัดแผนจัดที่เที่ยว อันนั้นเทออยากไป อันนี้เราอยากไป ลิสแล้วจับลงด้วยกัน พอผมยุ่งๆ เหนื่อยๆ แฟนก็แทบจะต้องทำคนเดียว ผมเหมือนมีหน้าที่ขับรถไปตามแมฟ กับจ่ายเงิน 55555แต่จริงๆ แล้ว ผมว่า การไปเที่ยวที่ผมละเลย มันสำคัญมากเหมือนกันนะครับ เพราะไม่ใช่แค่การพักผ่อนเมื่อไปถึง แต่ระหว่างทางมันมีหลายอย่างให้ได้เรียนรู้ ถ้าไม่เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ๆ ในแต่ละทริป ก็เรียนรู้ชีวิตของกันและกัน
ปกติการไปเที่ยวของผมมักไม่ต่างจากการเปลี่ยนที่นอนครับ คือไม่ได้มีแผนเที่ยวจริงๆ จังๆ แต่เป็นการหาโรงแรมดี ๆ บรรยากาศดีๆ ซักที หาร้านอาหารดีๆ ซัก แห่ง 2 แห่ง คาเฟ่เด็ดๆ ที่นั้นซักที่ 2 ที่ แล้วลืมเรื่องที่กรุงเทพ หลุดเข้าไปในโลกที่ใช้ชีวิตช้าๆ หายใจช้าๆ จะเครียดอีกทีตอนบิลมาก็อีกเรื่องนึง 5555

ทีนี้....อยู่ๆ ผมก็เกิดอยากจะลองรสชาติใหม่ของชีวิตดูบ้าง ลอง....ไปเที่ยวแบบแทบไม่แพลนเฮียอะไรไปเลยดู กับจังหวัดที่ไม่เคยไปมาก่อนในชีวิตชัยภูมิแล้วตามปกติเลยครับ ผมออกเช้าไม่ได้ 5555เช้าสุดก็ล่อเข้าไป 9 โมงครึ่งสบายครับ ไม่ได้รีบไม่ได้ร้อนอะไร เพราะไม่ได้จองร้านอาหารไว้ ไปแล้วมันสมควรแก่เวลาจะกินข้าวเที่ยงเมื่อไหร่ ตรงไหนก็ตรงไหน แต่ด้วยประสบการณ์ขับรถสายนี้อยู่แล้ว ทำให้ผมเดาได้ง่ายๆ ไอ่ที่สมควรแก่เวลานี่น่าจะอยู่ที่ลพบุรีแล้วจะหาคาเฟ่พักหลังกินข้าวซักหน่อย แต่เอาชื่อไป Search Google map เท่าไหร่ก็ไม่เจอครับ สรุปต้องพึ่ง ChatGPT ที่หา Location ให้ ซึ่งปกติ ผมเป็นคน Gen Y ที่ไม่ค่อยพึ่งพา ChatGPT ครับ ไม่เคยใช้มันแปลภาษา หรือเขียน E-mail ให้ เพราะผมยังเชื่อมั่นใจตัวเอง และเชื่อว่า การเขียนเมลล์เองมันเป็นตัวผมมากกว่าถึงแกรมม่าผมจะห่วย 55555 ในทุกสำนวนผมก็จริงใจนะ 55555จะหาร้าน หาอะไรก็พึ่ง Tiktok Google Facebook ดูรีวิวเอา ส่วนเรื่องการวางแผนการเดินทางก็เอาตามที่ตัวเองสะดวก ไม่คิดว่าครั้งนี้ การ Search ของผมจะแพ้ AI
นั่นอาจจะเป็นสิ่งแรกที่ผมเรียนรู้จากทริปนี้ครับ คือ โลกแม่งเปลี่ยนทุกวัน มึงก็ตามให้เป็นประโยชน์ ให้สะดวกเถอะ อย่าหยิ่งให้มาก ลำบากมาเยอะแล้วและในการเดินทางแบบเกือบจะไร้แผนครั้งนี้ มันทำให้ผมไม่ต้องขับรถเร็วครับ แต่เป็นการขับไปเรื่อยๆ เสพท้องฟ้า ถนน แสงแดด ไปเรื่อย ถึงไอ่เรื่อยๆ นี่จะร้อยกว่า แต่ก็ไม่ใช่ความรู้สึกเร่งรีบ หรือแข่งกับเวลา เพราะลำดับต่อไปเราไม่รู้เลยครับ ทุกอย่างขึ้นกับว่า ณ ตอนนั้น เราควรจะทำอะไรดีบางที เราอาจจะไม่จำเป็นต้องตามใคร ทางที่จะไปเป้าหมายของเรา อาจไม่ได้มีใครมากนักก็ได้ อาจไม่ใช่พิมพ์นิยม แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า เป้าหมายของเรามันไม่ดีถึงไม่มีเพื่อนร่วมทาง แต่ถ้าเป้าหมายเราชัดเจน ก็ไปเถอะครับ...เดี๋ยวก็ถึง
เห็นเขียวๆ นั่นไหมครับ"ศาลาริมทาง"ผมนี่ทักอย่างตื่นเต้น เพราะแทบไม่เคยเห็นมาก่อน คือ ผมอ่ะ ไปฟัง Rule of Horror มาเรื่องนึงครับ เป็นเรื่องเกี่ยวกับศาลาริมทาง แล้วเค้าก็บรรยายลักษณะ ในเม้นท์มีแต่คนบอกว่าหลอนมา ผมชอบนะ แต่ไม่อิน เพราะในหัวไม่มีภาพของศาลาริมทางของจริงๆ ในต่างจัวหวัด ว่าฟิลในเรื่องนั้นมันจะยังไง จนได้เห็นนี่แหละครับหุย...เอามาฟังใหม่ อินขึ้นเยอะเลยผมขับเข้าตัวเมืองชัยภูมิแบบไฟล์ทบังคับ เพราะจำเป็นต้องหาที่ชาร์จรถแต่.....ไม่ใช่ตู้ชาร์จทุกตู้จะมีสายครับ!!!! อ่านไม่ผิดไม่ใช่ตู้ชาร์จทุกตู้จะมีสายชาร์จ มีแต่ตู้ ไม่มีสายก็มี!!!แล้วคือยังไง.......กูต้องพกสาย AC มางี้หรอ.... ผมนี่อุทานว่า "เชี่ยเอ้ย....." ทันทีที่เห็น ก่อนจะหาสถานีชาร์จใหม่ คือไม่ได้ไม่ดีก็ไปชาร์จ BYD ละครับ แต่ไม่ต้องห่วง ในเมืองเดี๋ยวนี้ที่ไหนก็มีครับ โรบินสันชัยภูมิมีสถานีชาร์จ แต่ต้องจองคิวเอาไว้แล้วค่อยกลับมาตามเวลา จะหวังเดินโรบินสันก็ไม่รู้จะเดินอะไร เลยขับรถวนเล่นในเมือง
อย่า เชื่อ รีวิวที่เที่ยวหลายแห่งมากมีรีวิวแจ่มแมวใน Google แต่พอไปจริงๆ แม่งไม่มีอะไรเลย ผมเลยเลือกจะทำสิ่งที่ควรทำก่อน คือการแวะไปไหว้ เจ้าพ่อพญาแล ซึ่งก็เป็นการไหว้แบบ Drive Thruก่อนจะแวะไปปราสาทหิน ก็ดีครับ ก็โอเค ช่วงบ่ายๆ ไม่ร้อนมาก มีร่มไม้ เดินศึกษาประวัติ พักผ่อน ชมสถาปัติยกรรมได้ดีอยู่ แต่การชาร์จรถที่ช้ากว่าแผนที่คิด ทำให้เราผิดแผนไปเยอะครับ เพราะผมตั้งใจว่าจะขับให้ถึงที่พักก่อน 6 โมงเย็น อ่า....ทุกคนงง จะรีบไปทำไม แฟนก็งงครับ ปกติไม่รีบไม่ร้อนจะเข้าที่พัก ไปเชียงใหม่นี่เข้าที่พัก 4 ทุ่มก็เคย"ไปถึงเทอจะทำอะไรอ่ะ" แฟนถาม"กินข้าวไง" ผมตอบซือๆ"แล้วมันมีอะไรเที่ยว หรือมีอะไรทำไหมอ่ะทำไมเราไม่เที่ยวก่อนแล้วค่อนเข้าที่พัก""เหมือนกันมีร้านเหล้าชิลๆ อยู่ทีนึง ก็คงไปนั่งเล่นๆ ถึงซัก 2 ทุ่ม"นั่นคือไอเดียผม แฟนก็ไม่ได้อินกับที่ผมพูดครับ แต่เค้าก็คืออะไรก็ได้ซึ่งการขับจากตัวเมืองออกไปที่พัก พอออกนอกเมืองได้ พอก็ใส่ตะบี้ตะบันมากครับ ขับไปก็หันมองพระอาทิตย์ไป....อยู่กับผมก่อนนะพี่ อย่างเพิ่งกลับไปนอน...เพราะดูจากในแมฟแล้ว ถ้ามืดก่อนละก็....งานหยาบแน่ๆ ครับ
แต่ไอ่อะไรที่คิดไว้ ก็ดันเป็นดั่งใจคิดซะด้วย เพราะผมไม่สามารถใช้ความเร็วได้ตามเป้าหมาย ทางมันขับยากกว่าที่คิดมากครับ(จากรูปข้างล่างจะแอบเห็นว่า ขับได้แค่ 60เท่านั้น)พระอาทิตย์กำลังโบกมือลาผมไปอย่างอาลัยอาวร เหมือนอยากพูดว่า "กูไปละนะ ที่เหลือมึงช่วยตัวเองแล้วกัน"ครับ..... แสงหมดลงพร้อมกับที่รถปรับความสว่างจอและแสงในรถอัตโนมัติในขณะที่เส้นทางของผมยังไม่ทันถึงครึ่งทางด้วยซ้ำ ถ้าพูดถึงระยะทางเป็นกิโลเมตร อาจจะไม่เยอะ แต่ด้วยเส้นทางที่ผ่าเขา คดเคี้ยว เวิ้นว้างว่างเปล่าละก็... ทางที่เหลือนี่ยาวแทบจะชั่วนิรันดร์ ท่ามกลางความมืดที่สอนให้ชีวิตรู้จักคำว่า "มืดสนิท" ก็วันนี้ ผมดีใจทุกครั้งที่ในแมฟแสดงว่าข้างหน้ามีกลุ่มบ้านคน เพราะตรงนั้นจะมีแสงไฟ รถตีไฟลงเมื่อเข้าเขตหมู่บ้าน ก่อนจะยกไฟสูงขึ้นอีกครั้งหลังทุกอย่างผ่านไปใช่ครับ รถมันจะเอาไฟสูงลง ถ้ามีรถแล่นสวนด้วย แต่เอาเข้าจริง ระหว่างทางที่ออกจากหมู่บ้านรถ...ไม่เคยลดไฟลงเลยแม้แต่ครั้งเดียวหมายถึง ไม่เคยมีรถสวนผมมา หรือนำหน้าเลยซักคันเดียวผมกลัวนะ....เอาจริงๆ โคตรกลัว คิดไม่ออกว่า ถ้าเกิดเหตุอะไรตรงนี้เราจะทำยังไงอะไรที่ว่านี่ก็เช่น....ถ้ารถเหยียบอะไรแล้วยางแตก กูจะทำยังไง...กูจะกล้าลงไปเปลี่ยนยางไหม...อีลอน มัสก์ ก็ไม่น่าส่งใครมาช่วยถ้ามีอะไรตกขวางถนน ถ้าชน ถ้าเหยียบ จะทำยังไง ยางแตกอาจจะทนบดไปต่อได้ แต่ถ้ามีความเสียหายกับรถ กับเพลา คงไปต่อไม่ได้ แคมป์โหมดรอเช้าในรถก็อาจจะได้ ด้วยแบต 80% แต่จะปลอดภัยแค่ไหนว่าจะไม่มีใครมาชนหรือปล้นมือถือขึ้น 2G สลับ 3G ไม่มีสัญญาณอินเตอร์เนต ยังดีที่ GPS ไม่หลุด แต่เพลงที่สตีมผ่านอินเตอร์เนตกับรถ เริ่มติด ๆ ดับ ๆ บางครั้งเล่นซ้ำฮุกเดิม บางครั้งเงียบ บางครั้งขึ้นมาเป็นเพลงแปลกๆ ก่อนจะดับไป....ทิ้งความเงียบไว้ให้ผมดูต่างหน้าฝนเริ่มตกเบาๆ เติมความหนาวให้หัวใจ นี่ตอนนี้ ไม่ต้องหนาวก็สั่นจะแย่อยู่แล้วแฟนเอื้อมมือมาวางบนขาผม ปกติผมก็จะปล่อยมือจากพวงมาลัยมือนึงมาจับมือเค้า แต่ครั้งนี้ ไม่กล้าปล่อยเลยครับ 55555555 ปล่อยมาแตะมือเค้าเบาๆ 2 ทีแล้วจับพวงมาลัยต่อ เค้าก็คงแค่ให้กำลังใจแหละ จากนั้นเราก็เริ่มพูดคุยสัพเพเหระกัน ซึ่งมาถึงตอนนี้ ผมนี่จำไม่ได้เลยนะครับว่าเราคุยอะไรกัน แต่นี่แน่ๆ ไม่มีใครทักอะไรแปลกๆ 555555 ผมเองที่ปกติไม่ได้กลัวอะไรเทือกนั่น ก็ไม่มองข้างทางนะ
"ถ้าเทอต้องขับทางแบบนี้คนเดียว เทอจะมาป่ะ""ก็ถ้ามันมาแล้ว มันก็ต้องไปให้ถึงละ" ผมตอบ"แต่เราดีใจนะ นี่อย่างน้อยๆ เราก็มาด้วยกัน""อืม เราก็เหมือนกัน"จากนั้นเราก็เริ่มร้องเพลงเองครับ 5555 อยู่เงียบๆ ไม่ไหว พูดเรื่องหนัง พูดเรื่องเพื่อน เรื่องอดีตไปตามเรื่อง จนแสงไฟสีขาวจากเสาเริ่มปรากฎไกลๆ ที่ตรงหน้า ถึงซักที ...ขอบคุณนะ ที่เชื่อใจกัน....ร้านอาหารก็ไม่ได้วางแผนไว้ เพราะกว่าเราจะมาถึงนี่ล่อไปเกือบ 2 ทุ่ม แล้วร้านแถวนั้นปิดกันหมดแล้วครับ เหลืออยู่ร้านเดียวใกล้ๆ ที่พัก ผมเลยไม่มีทางเลือก แต่ถึงไม่ได้เลือก ผมก็ไม่ผิดหวังกับร้านเลยครับ เพราะที่ร้านดูแลนักท่องเที่ยวอย่างเราดีมากๆ "ขับมาจากไหนจ๊ะเนี้ย""จากตัวเมืองครับ""แถวนี้ 6 โมง ทุ่มนึงก็มืดหมดแล้วลูกจะออกไปเที่ยวไหน ก็กลับมาก่อนทุ่มนึงนะจ๊ะ"ผมพยักหน้ารับ ไม่ได้พูดอะไรมาก

พี่เจ้าของร้านก็เข้าใจดีครับ รีบเสิร์ฟไข่เจียวกับข้าวสวยร้อนๆ ให้ก่อนเลย 5555 เพราะนี่ 2 ทุ่มแล้ว หิวข้าวมาก แต่ไอ่ครั้นจะแวะซื้อ หรือไปหยิบอะไรหลังรถมากินก็ไม่กล้าจอด ทำไมน่ะหรอครับ อ่ะ...ผมอาจจะคิดมาก แต่ผมกลัวว่า ถ้าเราลงจากรถไปซื้อของตามหมู่บ้านริมทาง คนไม่หวังดีถ้าเห็นก็จะรู้ว่าเรามากันแค่ 2 คน ก็อาจจะขับตามมาแกล้งชน หรืออะไรช่วงมืดๆ ได้ สู้ไม่จอดที่ไหนเลยซะดีกว่าหลังจากทานอาหารง่ายๆ กับข้าวแค่ 3 อย่าง เราก็เข้าไปเปิดที่พัก แล้วออกมานั่งดื่มอะไรเย็นๆ กันคนละแก้วพอให้หายเครียด และดูจากอะไรรอบๆ แล้ว ต้องหลับครับ แล้วต้องหลับให้สนิทด้วย 5555 การมาเที่ยว มักทำให้เราตื่นเช้ามากกว่าไปทำงาน ตี 5 ครึ่งผมตื่นละ อาบน้ำแต่งตัวเตรียมออกไปในตอน 6 โมงเช้าและจากการตั้งหน้าตั้งตาเดินขึ้นเขาครั้งนี้ทำให้ผมค้นพบว่า บางที เพื่อนร่วมทางที่ดีอาจจะเป็น รองเท้าดีๆ ซักคู่ 555555 ปวดเท้ามากครับ รองเท้าบางคู่ไม่ได้เหมาะกับทุกที่และบางที ยาดมหงษ์ไทยก็จำเป็นมาก เมื่อหมอกลง น้ำมูกไหล และเดินเหนื่อยมากแฟนนี่ถึงขนาดบอกว่า "ครั้งเดียวพอนะ" 55555




ถึงทริปนี้จะไม่ใช่การพักผ่อน เพราะกลับมานี่ไข้แทบขึ้นครับ ทั้งแดด ทั้งฝน โดนกันมาครบ แต่บอกตรงๆ ว่า จากที่อยู่บ้านๆ สบายๆ มาเจออะไรแบบนี้นี่สีสันชีวิตมากและชัยภูมิต้องไปซ้ำครับ คนน่ารัก ธรรมชาติสวยน่าเที่ยวมากถึงเกือบจะได้ขึ้นรถสไลด์เพราะแบตเหลือ ไม่ถึง 10% แล้วไม่มีสถานีชาร์จก็ตาม
| Create Date : 29 กันยายน 2568 |
| Last Update : 29 กันยายน 2568 14:15:25 น. |
|
14 comments
|
| Counter : 501 Pageviews. |
 |
|
|
| ผู้โหวตบล็อกนี้... |
| คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณกะว่าก๋า, คุณหอมกร, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณสองแผ่นดิน, คุณhaiku, คุณmultiple, คุณThe Kop Civil, คุณtoor36, คุณnonnoiGiwGiw, คุณtanjira, คุณcyberlifenlearn, คุณnewyorknurse |
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 29 กันยายน 2568 เวลา:16:50:33 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 29 กันยายน 2568 เวลา:18:04:26 น. |
|
|
|
โดย: หอมกร วันที่: 29 กันยายน 2568 เวลา:18:17:56 น. |
|
|
|
โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 29 กันยายน 2568 เวลา:22:07:17 น. |
|
|
|
โดย: multiple วันที่: 30 กันยายน 2568 เวลา:4:26:51 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 30 กันยายน 2568 เวลา:4:56:01 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 30 กันยายน 2568 เวลา:19:47:12 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 30 กันยายน 2568 เวลา:23:05:25 น. |
|
|
|
โดย: multiple วันที่: 1 ตุลาคม 2568 เวลา:4:42:57 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 1 ตุลาคม 2568 เวลา:4:46:04 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 4 ตุลาคม 2568 เวลา:21:17:58 น. |
|
|
|
|
|
 |
|
|
BlogGang Popular Award#21
|
|
|
เดี๋ยวนี้อยากเที่ยวก็ออกรถเลยแล้วปล่อยให้เป็นหน้าที่ของมือถือในการหาที่กิน ที่เที่ยว ที่พัก ฮ่าๆๆๆ
แต่มันก็มีข้อดีที่มีสถานที่ท่องเที่ยวแปลกๆ ใหม่ๆ มีร้านอาหาร ที่พักเยอะขึ้น
ที่พี่ไปสามร้อยยอดมาคราวที่แล้ว .... ดูกูเกิลแล้วมันเขียนว่า "หาดลับๆ" ..... เลยลองขับรถไปดู .....
ได้รูปนี้มาครับ