lliliil Work it harder, Make it better, Do it faster, Make us Stronger liilill
space
space
space
<<
กันยายน 2568
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
space
space
29 กันยายน 2568
space
space
space

เมืองรองน่าไป ชัยภูมิน่าฝน





ทำไมเราถึงควรไปเที่ยว ???
ทั้งๆ ที่ไปแล้วเสียทั้งเงิน เสียทั้งวันลา













มีช่วงนึงผมเที่ยวบ่อยมาก

เพราะคุยกับแฟนไว้ว่า เราจะไปเที่ยวกับอย่างน้อยๆ 3 เดือนครั้ง
แต่เอาเข้าจริงๆ ก็อยากที่เห็นครับ ไปเกือบทุกเดือน
บางเดือนเว้นอาทิตย์เดียว ก็ไปอีกแล้ว
ทำให้ช่วงนั้นเฉลี่ยๆ ก็น่าจะ ไปเที่ยว 2 เดือนครั้งแบบค้างคืน
แล้วเดือนละ1-2ครั้ง สำหรับเที่ยวแบบเช้าไปเย็นกลับ




จนระยะหลังๆ งานผมหนักขึ้นมาก
ทำให้ผมเหนื่อยและกระตือรือร้นในการไปเที่ยวน้อยลง
ปกติเวลาจะไปไหนผมกับแฟนจะช่วยกันจัดแผนจัดที่เที่ยว
อันนั้นเทออยากไป อันนี้เราอยากไป ลิสแล้วจับลงด้วยกัน
พอผมยุ่งๆ เหนื่อยๆ แฟนก็แทบจะต้องทำคนเดียว

ผมเหมือนมีหน้าที่ขับรถไปตามแมฟ กับจ่ายเงิน 55555




แต่จริงๆ แล้ว ผมว่า การไปเที่ยวที่ผมละเลย
มันสำคัญมากเหมือนกันนะครับ
เพราะไม่ใช่แค่การพักผ่อนเมื่อไปถึง
แต่ระหว่างทางมันมีหลายอย่างให้ได้เรียนรู้
ถ้าไม่เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ๆ ในแต่ละทริป ก็เรียนรู้ชีวิตของกันและกัน












ปกติการไปเที่ยวของผมมักไม่ต่างจากการเปลี่ยนที่นอนครับ
คือไม่ได้มีแผนเที่ยวจริงๆ จังๆ 
แต่เป็นการหาโรงแรมดี ๆ บรรยากาศดีๆ ซักที 
หาร้านอาหารดีๆ ซัก แห่ง 2 แห่ง คาเฟ่เด็ดๆ ที่นั้นซักที่ 2 ที่
แล้วลืมเรื่องที่กรุงเทพ หลุดเข้าไปในโลกที่ใช้ชีวิตช้าๆ หายใจช้าๆ 
จะเครียดอีกทีตอนบิลมาก็อีกเรื่องนึง 5555












ทีนี้....อยู่ๆ ผมก็เกิดอยากจะลองรสชาติใหม่ของชีวิตดูบ้าง
ลอง....ไปเที่ยวแบบแทบไม่แพลนเฮียอะไรไปเลยดู
กับจังหวัดที่ไม่เคยไปมาก่อนในชีวิต





ชัยภูมิ




แล้วตามปกติเลยครับ ผมออกเช้าไม่ได้ 5555
เช้าสุดก็ล่อเข้าไป 9 โมงครึ่ง
สบายครับ ไม่ได้รีบไม่ได้ร้อนอะไร เพราะไม่ได้จองร้านอาหารไว้
ไปแล้วมันสมควรแก่เวลาจะกินข้าวเที่ยงเมื่อไหร่ ตรงไหนก็ตรงไหน
แต่ด้วยประสบการณ์ขับรถสายนี้อยู่แล้ว 
ทำให้ผมเดาได้ง่ายๆ ไอ่ที่สมควรแก่เวลานี่น่าจะอยู่ที่ลพบุรี




แล้วจะหาคาเฟ่พักหลังกินข้าวซักหน่อย
แต่เอาชื่อไป Search Google map เท่าไหร่ก็ไม่เจอครับ
สรุปต้องพึ่ง ChatGPT  ที่หา Location ให้
ซึ่งปกติ ผมเป็นคน Gen Y ที่ไม่ค่อยพึ่งพา ChatGPT ครับ
ไม่เคยใช้มันแปลภาษา หรือเขียน E-mail  ให้
เพราะผมยังเชื่อมั่นใจตัวเอง และเชื่อว่า การเขียนเมลล์เองมันเป็นตัวผมมากกว่า

ถึงแกรมม่าผมจะห่วย 55555 ในทุกสำนวนผมก็จริงใจนะ 55555
จะหาร้าน หาอะไรก็พึ่ง Tiktok Google Facebook ดูรีวิวเอา
ส่วนเรื่องการวางแผนการเดินทางก็เอาตามที่ตัวเองสะดวก
ไม่คิดว่าครั้งนี้ การ Search ของผมจะแพ้ AI













นั่นอาจจะเป็นสิ่งแรกที่ผมเรียนรู้จากทริปนี้ครับ
คือ โลกแม่งเปลี่ยนทุกวัน มึงก็ตามให้เป็นประโยชน์ ให้สะดวกเถอะ

อย่าหยิ่งให้มาก ลำบากมาเยอะแล้ว




และในการเดินทางแบบเกือบจะไร้แผนครั้งนี้
มันทำให้ผมไม่ต้องขับรถเร็วครับ
แต่เป็นการขับไปเรื่อยๆ เสพท้องฟ้า ถนน แสงแดด ไปเรื่อย
ถึงไอ่เรื่อยๆ นี่จะร้อยกว่า แต่ก็ไม่ใช่ความรู้สึกเร่งรีบ หรือแข่งกับเวลา
เพราะลำดับต่อไปเราไม่รู้เลยครับ ทุกอย่างขึ้นกับว่า 
ณ ตอนนั้น เราควรจะทำอะไรดี




บางที เราอาจจะไม่จำเป็นต้องตามใคร 
ทางที่จะไปเป้าหมายของเรา อาจไม่ได้มีใครมากนักก็ได้
อาจไม่ใช่พิมพ์นิยม แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า เป้าหมายของเรามันไม่ดี

ถึงไม่มีเพื่อนร่วมทาง แต่ถ้าเป้าหมายเราชัดเจน
ก็ไปเถอะครับ...เดี๋ยวก็ถึง












เห็นเขียวๆ นั่นไหมครับ

"ศาลาริมทาง"
ผมนี่ทักอย่างตื่นเต้น เพราะแทบไม่เคยเห็นมาก่อน 
คือ ผมอ่ะ ไปฟัง
Rule of Horror มาเรื่องนึงครับ
เป็นเรื่องเกี่ยวกับศาลาริมทาง แล้วเค้าก็บรรยายลักษณะ
ในเม้นท์มีแต่คนบอกว่าหลอนมา ผมชอบนะ แต่ไม่อิน
เพราะในหัวไม่มีภาพของศาลาริมทางของจริงๆ ในต่างจัวหวัด
ว่าฟิลในเรื่องนั้นมันจะยังไง จนได้เห็นนี่แหละครับ

หุย...เอามาฟังใหม่ อินขึ้นเยอะเลย




ผมขับเข้าตัวเมืองชัยภูมิแบบไฟล์ทบังคับ 
เพราะจำเป็นต้องหาที่ชาร์จรถ


แต่.....ไม่ใช่ตู้ชาร์จทุกตู้จะมีสาย


ครับ!!!! อ่านไม่ผิด
ไม่ใช่ตู้ชาร์จทุกตู้จะมีสายชาร์จ  มีแต่ตู้ ไม่มีสายก็มี!!!
แล้วคือยังไง.......กูต้องพกสาย AC มางี้หรอ....
ผมนี่อุทานว่า   
"เชี่ยเอ้ย....."     ทันทีที่เห็น ก่อนจะหาสถานีชาร์จใหม่
คือไม่ได้ไม่ดีก็ไปชาร์จ BYD ละครับ
แต่ไม่ต้องห่วง ในเมืองเดี๋ยวนี้ที่ไหนก็มีครับ
โรบินสันชัยภูมิมีสถานีชาร์จ แต่ต้องจองคิวเอาไว้แล้วค่อยกลับมาตามเวลา
จะหวังเดินโรบินสันก็ไม่รู้จะเดินอะไร เลยขับรถวนเล่นในเมือง











อย่า    เชื่อ     รีวิว

ที่เที่ยวหลายแห่งมากมีรีวิวแจ่มแมวใน Google 
แต่พอไปจริงๆ แม่งไม่มีอะไรเลย
ผมเลยเลือกจะทำสิ่งที่ควรทำก่อน คือการแวะไปไหว้ เจ้าพ่อพญาแล
ซึ่งก็เป็นการไหว้แบบ
Drive Thru
ก่อนจะแวะไปปราสาทหิน
ก็ดีครับ ก็โอเค ช่วงบ่ายๆ ไม่ร้อนมาก มีร่มไม้ 
เดินศึกษาประวัติ พักผ่อน ชมสถาปัติยกรรมได้ดีอยู่











แต่การชาร์จรถที่ช้ากว่าแผนที่คิด ทำให้เราผิดแผนไปเยอะครับ
เพราะผมตั้งใจว่าจะขับให้ถึงที่พักก่อน 6 โมงเย็น
อ่า....ทุกคนงง จะรีบไปทำไม
แฟนก็งงครับ ปกติไม่รีบไม่ร้อนจะเข้าที่พัก 
ไปเชียงใหม่นี่เข้าที่พัก 4 ทุ่มก็เคย




"ไปถึงเทอจะทำอะไรอ่ะ" แฟนถาม
"กินข้าวไง" ผมตอบซือๆ
"แล้วมันมีอะไรเที่ยว หรือมีอะไรทำไหมอ่ะ
ทำไมเราไม่เที่ยวก่อนแล้วค่อนเข้าที่พัก"
"เหมือนกันมีร้านเหล้าชิลๆ อยู่ทีนึง ก็คงไปนั่งเล่นๆ ถึงซัก 2 ทุ่ม"
นั่นคือไอเดียผม
แฟนก็ไม่ได้อินกับที่ผมพูดครับ แต่เค้าก็คืออะไรก็ได้




ซึ่งการขับจากตัวเมืองออกไปที่พัก 
พอออกนอกเมืองได้ พอก็ใส่ตะบี้ตะบันมากครับ
ขับไปก็หันมองพระอาทิตย์ไป

....อยู่กับผมก่อนนะพี่ อย่างเพิ่งกลับไปนอน...
เพราะดูจากในแมฟแล้ว ถ้ามืดก่อนละก็....งานหยาบแน่ๆ ครับ












แต่ไอ่อะไรที่คิดไว้ ก็ดันเป็นดั่งใจคิดซะด้วย
เพราะผมไม่สามารถใช้ความเร็วได้ตามเป้าหมาย
ทางมันขับยากกว่าที่คิดมากครับ

(จากรูปข้างล่างจะแอบเห็นว่า ขับได้แค่ 60เท่านั้น)
พระอาทิตย์กำลังโบกมือลาผมไปอย่างอาลัยอาวร
เหมือนอยากพูดว่า
"กูไปละนะ ที่เหลือมึงช่วยตัวเองแล้วกัน"



ครับ.....
แสงหมดลงพร้อมกับที่รถปรับความสว่างจอและแสงในรถอัตโนมัติ

ในขณะที่เส้นทางของผมยังไม่ทันถึงครึ่งทางด้วยซ้ำ
ถ้าพูดถึงระยะทางเป็นกิโลเมตร อาจจะไม่เยอะ
แต่ด้วยเส้นทางที่ผ่าเขา คดเคี้ยว เวิ้นว้างว่างเปล่าละก็...
ทางที่เหลือนี่ยาวแทบจะชั่วนิรันดร์














ท่ามกลางความมืดที่สอนให้ชีวิตรู้จักคำว่า  "มืดสนิท" ก็วันนี้
ผมดีใจทุกครั้งที่ในแมฟแสดงว่าข้างหน้ามีกลุ่มบ้านคน
เพราะตรงนั้นจะมีแสงไฟ
รถตีไฟลงเมื่อเข้าเขตหมู่บ้าน ก่อนจะยกไฟสูงขึ้นอีกครั้งหลังทุกอย่างผ่านไป





ใช่ครับ รถมันจะเอาไฟสูงลง ถ้ามีรถแล่นสวนด้วย
แต่เอาเข้าจริง ระหว่างทางที่ออกจากหมู่บ้าน

รถ...ไม่เคยลดไฟลงเลยแม้แต่ครั้งเดียว
หมายถึง ไม่เคยมีรถสวนผมมา หรือนำหน้าเลยซักคันเดียว




ผมกลัวนะ....เอาจริงๆ โคตรกลัว
คิดไม่ออกว่า ถ้าเกิดเหตุอะไรตรงนี้เราจะทำยังไง

อะไรที่ว่านี่ก็เช่น....ถ้ารถเหยียบอะไรแล้วยางแตก
กูจะทำยังไง...กูจะกล้าลงไปเปลี่ยนยางไหม...อีลอน มัสก์ ก็ไม่น่าส่งใครมาช่วย




ถ้ามีอะไรตกขวางถนน ถ้าชน ถ้าเหยียบ จะทำยังไง
ยางแตกอาจจะทนบดไปต่อได้ 
แต่ถ้ามีความเสียหายกับรถ กับเพลา คงไปต่อไม่ได้
แคมป์โหมดรอเช้าในรถก็อาจจะได้ ด้วยแบต 80% 
แต่จะปลอดภัยแค่ไหนว่าจะไม่มีใครมาชนหรือปล้น




มือถือขึ้น 2G สลับ 3G  ไม่มีสัญญาณอินเตอร์เนต ยังดีที่ GPS ไม่หลุด
แต่เพลงที่สตีมผ่านอินเตอร์เนตกับรถ เริ่มติด ๆ ดับ ๆ 

บางครั้งเล่นซ้ำฮุกเดิม บางครั้งเงียบ บางครั้งขึ้นมาเป็นเพลงแปลกๆ 
ก่อนจะดับไป....ทิ้งความเงียบไว้ให้ผมดูต่างหน้า




ฝนเริ่มตกเบาๆ เติมความหนาวให้หัวใจ
นี่ตอนนี้ ไม่ต้องหนาวก็สั่นจะแย่อยู่แล้ว






แฟนเอื้อมมือมาวางบนขาผม
ปกติผมก็จะปล่อยมือจากพวงมาลัยมือนึงมาจับมือเค้า
แต่ครั้งนี้ ไม่กล้าปล่อยเลยครับ 55555555 
ปล่อยมาแตะมือเค้าเบาๆ 2 ทีแล้วจับพวงมาลัยต่อ
เค้าก็คงแค่ให้กำลังใจแหละ
จากนั้นเราก็เริ่มพูดคุยสัพเพเหระกัน 
ซึ่งมาถึงตอนนี้ ผมนี่จำไม่ได้เลยนะครับว่าเราคุยอะไรกัน
แต่นี่แน่ๆ ไม่มีใครทักอะไรแปลกๆ  555555
ผมเองที่ปกติไม่ได้กลัวอะไรเทือกนั่น ก็ไม่มองข้างทางนะ











"ถ้าเทอต้องขับทางแบบนี้คนเดียว เทอจะมาป่ะ"
"ก็ถ้ามันมาแล้ว มันก็ต้องไปให้ถึงละ"  ผมตอบ
"แต่เราดีใจนะ นี่อย่างน้อยๆ เราก็มาด้วยกัน"
"อืม เราก็เหมือนกัน"





จากนั้นเราก็เริ่มร้องเพลงเองครับ 5555 อยู่เงียบๆ ไม่ไหว
พูดเรื่องหนัง พูดเรื่องเพื่อน เรื่องอดีตไปตามเรื่อง
จนแสงไฟสีขาวจากเสาเริ่มปรากฎไกลๆ ที่ตรงหน้า 






ถึงซักที
...ขอบคุณนะ ที่เชื่อใจกัน....





ร้านอาหารก็ไม่ได้วางแผนไว้
เพราะกว่าเราจะมาถึงนี่ล่อไปเกือบ 2 ทุ่ม 
แล้วร้านแถวนั้นปิดกันหมดแล้วครับ เหลืออยู่ร้านเดียวใกล้ๆ ที่พัก
ผมเลยไม่มีทางเลือก
แต่ถึงไม่ได้เลือก ผมก็ไม่ผิดหวังกับร้านเลยครับ
เพราะที่ร้านดูแลนักท่องเที่ยวอย่างเราดีมากๆ 

"ขับมาจากไหนจ๊ะเนี้ย"
"จากตัวเมืองครับ"
"แถวนี้ 6 โมง ทุ่มนึงก็มืดหมดแล้วลูกจะออกไปเที่ยวไหน
ก็กลับมาก่อนทุ่มนึงนะจ๊ะ"

ผมพยักหน้ารับ ไม่ได้พูดอะไรมาก











พี่เจ้าของร้านก็เข้าใจดีครับ รีบเสิร์ฟไข่เจียวกับข้าวสวยร้อนๆ ให้ก่อนเลย 5555
เพราะนี่ 2 ทุ่มแล้ว หิวข้าวมาก 
แต่ไอ่ครั้นจะแวะซื้อ หรือไปหยิบอะไรหลังรถมากินก็ไม่กล้าจอด
ทำไมน่ะหรอครับ อ่ะ...ผมอาจจะคิดมาก
แต่ผมกลัวว่า ถ้าเราลงจากรถไปซื้อของตามหมู่บ้านริมทาง
คนไม่หวังดีถ้าเห็นก็จะรู้ว่าเรามากันแค่ 2 คน
ก็อาจจะขับตามมาแกล้งชน หรืออะไรช่วงมืดๆ ได้
สู้ไม่จอดที่ไหนเลยซะดีกว่า





หลังจากทานอาหารง่ายๆ กับข้าวแค่ 3 อย่าง
เราก็เข้าไปเปิดที่พัก
แล้วออกมานั่งดื่มอะไรเย็นๆ กันคนละแก้วพอให้หายเครียด
และดูจากอะไรรอบๆ แล้ว ต้องหลับครับ แล้วต้องหลับให้สนิทด้วย 5555











การมาเที่ยว มักทำให้เราตื่นเช้ามากกว่าไปทำงาน
ตี 5 ครึ่งผมตื่นละ
อาบน้ำแต่งตัวเตรียมออกไปในตอน 6 โมงเช้า




และจากการตั้งหน้าตั้งตาเดินขึ้นเขาครั้งนี้ทำให้ผมค้นพบว่า
บางที เพื่อนร่วมทางที่ดีอาจจะเป็น รองเท้าดีๆ ซักคู่ 555555
ปวดเท้ามากครับ รองเท้าบางคู่ไม่ได้เหมาะกับทุกที่



และบางที ยาดมหงษ์ไทยก็จำเป็นมาก
เมื่อหมอกลง น้ำมูกไหล และเดินเหนื่อยมาก





แฟนนี่ถึงขนาดบอกว่า "ครั้งเดียวพอนะ"  55555

















ถึงทริปนี้จะไม่ใช่การพักผ่อน
เพราะกลับมานี่ไข้แทบขึ้นครับ  ทั้งแดด ทั้งฝน โดนกันมาครบ
แต่บอกตรงๆ ว่า จากที่อยู่บ้านๆ สบายๆ มาเจออะไรแบบนี้นี่


สีสันชีวิตมาก

และชัยภูมิต้องไปซ้ำครับ คนน่ารัก ธรรมชาติสวยน่าเที่ยวมาก





ถึงเกือบจะได้ขึ้นรถสไลด์เพราะแบตเหลือ ไม่ถึง 10% แล้วไม่มีสถานีชาร์จก็ตาม








 



Create Date : 29 กันยายน 2568
Last Update : 29 กันยายน 2568 14:15:25 น. 14 comments
Counter : 501 Pageviews.
(โหวต blog นี้) 

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณกะว่าก๋า, คุณหอมกร, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณสองแผ่นดิน, คุณhaiku, คุณmultiple, คุณThe Kop Civil, คุณtoor36, คุณnonnoiGiwGiw, คุณtanjira, คุณcyberlifenlearn, คุณnewyorknurse


 
พี่ว่าเทคโนโลยี่มันทำให้เสน่ห์ของการ "จัดทริป" หายไปอ่า คริๆๆๆ


เดี๋ยวนี้อยากเที่ยวก็ออกรถเลยแล้วปล่อยให้เป็นหน้าที่ของมือถือในการหาที่กิน ที่เที่ยว ที่พัก ฮ่าๆๆๆ



แต่มันก็มีข้อดีที่มีสถานที่ท่องเที่ยวแปลกๆ ใหม่ๆ มีร้านอาหาร ที่พักเยอะขึ้น



ที่พี่ไปสามร้อยยอดมาคราวที่แล้ว .... ดูกูเกิลแล้วมันเขียนว่า "หาดลับๆ" ..... เลยลองขับรถไปดู .....



ได้รูปนี้มาครับ





โดย: ทนายอ้วน วันที่: 29 กันยายน 2568 เวลา:16:50:33 น.  

 
เที่ยวไปลุ้นไปแบบนี้สนุกนะ
พี่ก๋าชอบ
แต่มาดามไม่ชอบแน่ๆ
เธอขี้กลัวครับ 555

เวลาได้เที่ยว
มันคือประสบการณ์จริงๆครับ
ยิ่งไปกับคนที่เรารักด้วย
มันเป็นความทรงจำที่ดีเลยนะ


ปล. พี่ก๋าไม่ได้สนใจเรื่องการดูดวงมานานมากแล้วล่ะครับ
แต่ก็ลองให้ AI มันทำนายดูนะ สนุกๆ ไม่เสียเงินด้วย 555



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 29 กันยายน 2568 เวลา:18:04:26 น.  

 
ไปดูดอกกระเจียวนี่เอง
ใช้รถน้ำมันสบายใจกว่า
ยังไม่เคยไปเหมือนกันจ้า
อ่านจากปริ้นเล่าถ้าจะไกลอยู่



โดย: หอมกร วันที่: 29 กันยายน 2568 เวลา:18:17:56 น.  

 
ทุ่งดอกกระเจียวยังไม่เคยไปครับ


โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 29 กันยายน 2568 เวลา:22:07:17 น.  

 
อาจารย์เต๊ะไปเที่ยวครั้งล่าสุดก็พาพ่อไปเที่ยวโคราชเยี่ยมญาติแล้วก็พาไปเที่ยวชัยภูมินี่แหละครับขับรถไปเองถึงโคราช แล้วก็เช่ารถตู้ไปเที่ยวชัยภูมิต่อครับให้คนพื้นที่เขาจัดการทุกอย่างเรามีหน้าที่จ่ายตังค์อย่างเดียว เพราะไปกลับกับคนชราสว.จะไปลุยมาก ลำบากมากก็ไม่ไหวนะครับ ฮ่าๆๆ

เรื่องขับรถทางไกลนี่ถ้าเส้นทางไม่คุ้นเคยต้องน้ำมันเต็มถังไว้ก่อน อีทีนี้ถ้าเป็นรถไฟฟ้ามันก็จะเครียดนิดนึงเพราะเห็นเขาว่าอยู่ดีๆจะไปชาร์จก็ไม่ได้ต้องมีการจองผ่าน app ไว้ก่อนด้วย แบบว่าไปถึงก่อนชาร์จก่อนก็ไม่ได้ ขับรถกลางคืนถนนเปลี่ยวๆนี่ถ้าเป็นอาจารย์เต๊ะ มีเพื่อนไปด้วยก็อุ่นใจดีแต่ถ้าไม่มีเพื่อนก็ต้องอาวุธครบมือล่ะครับ555

ทริปนี้ได้เดินขึ้นเขาอากาศบริสุทธิ์ยามเช้าดูดอกไม้สวยๆไปกับคนที่เรารักน่าจะมีความสุขมากนะครับถ้าไม่ป่วยก่อนไป ชัยภูมิอาหารโซนอีสานก็อร่อยนะครับจะไปกินไข่เจียวอย่างเดียวมันไม่ได้นะครับ555 ไก่ย่าง หมี่โคราชก็อร่อยมากนะครับพูดแล้วหิวเลย แฮร่555


โดย: multiple วันที่: 30 กันยายน 2568 เวลา:4:26:51 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับน้องปริ๊นซ์



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 30 กันยายน 2568 เวลา:4:56:01 น.  

 
สวัสดีครับน้องปริ๊นซ์
ชัยภูมิพี่ยังไม่เคยแวะไปเหมือนกัน ส่วนใหญ่จะเป็นทางผ่านไปชุมแพ ไปภูกระดึงนะครับ พี่ว่าเที่ยวแบบไม่วางแผนแบบนี้ ก็ได้ลุ้นดีเหมือนกันนะ 555 ส่วน Chatgbt พี่ยังไม่ค่อยได้ใช้เหมือนกัน ยังใช้แบบเก่าอยู่ สวนศาลาริมทางนี่อย่าให้พูด พี่เคยนอนมาหลายศาลาแล้ว ตอนปั่นจักรยานทางไกล ตอนนั้นเหนื่อยมาก ๆ ไม่ได้นึกถึงเรื่องเล่าเลยครับ
ตอนไปเที่ยวเราจะตื่นเช้าจริง ๆ แต่พอทำงานนี่พี่สายเลย 555
พอเห็นหมอก เห็นดอกไม้พี่ว่าคุ้มค่าอยู่นะสำหรับการมาชัยภูมิ


โดย: The Kop Civil วันที่: 30 กันยายน 2568 เวลา:10:50:06 น.  

 
ที่บ้านพี่ก๋าปลูกโป๊ยเซียนไว้หลายต้นเลยครับ
แม่คงไปเด็ดมาจากที่ไหนสกัแห่งนี่ล่ะ
เค้าบอกว่าโป๊ยเซียนต้องแอบบเด็ดของคนอื่น
แล้วเอามาปลูกครับ
มันจะงามมาก 5555

พี่ก๋าเคยขับรถหลงทาง
ผ่านเข้าไปในทุ่งนาที่ร้างคนมาก
แต่วิววันนั้น คือ สวยสุดยอด
เห็นพระอาทิตย์ตกด้วย

ขับจากเชียงใหม่
ขากลับไปทะลุลำพูนเฉยเลยครับ 555
แล้วตอนนั้นไม่มี GPS ซะด้วย

AI ดูได้ทั้งโหงวเฮ้งและลายมือเลยนะครับ
แค่พรอมท์ว่า สวมบทบาทเป็นนักทำนายลายมือ
หรือนักทำนายตามหลักนรลักษณ์ศาสตร์
แล้วเราก็แปะรูปลายมือหรือรูปใบหน้าเราลงไป
มันก็ทำนายให้แล้วครับ
พี่ก๋าลองกับ Chatgpt ก็แม่นอยู่นะ 555



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 30 กันยายน 2568 เวลา:19:47:12 น.  

 
มอ่านแล้วนึกถึงตอนที่ไม่ใช้สมาร์ทโฟน แรกๆ ผมไม่ใช้ครับ ทนมาได้ไงก็ไม่รู้ถึงปี 2015 พอมีใช้แล้วชีวิตมันดีขึ้น (แต่ยังไม่ซื้อแพ็คเน็ต พอมีเน็ตชีวิตยิ่งดีขึ้น ก็น่าจะไม่ต่างกันเท่าไหร่ แต่เราก็ไม่ควรพึ่งพามันมากจนเกินไป มันจะทำให้ความสามารถหลายๆ อย่างของเราถดถอยลง

รถไฟฟ้าถ้าไม่มีที่ชาร์จก็ลำบากเหมือนกัน ต้องระวังเรื่องพลังงานที่เหลือให้ดีๆ พวกรีวิวดูแค่เป็นแนวทางในการตัดสินใจก็พอครับ อย่าไปเชื่อมาก สุดท้ายเราก็ต้องตัดสินใจเอง รสนิยมคนมันแตกต่างกัน ดีของคนอื่นอาจไม่ดีสำหรับเรา ที่สำคัญเวลาเปลี่ยน หลายๆ อย่างก็เปลี่ยนตามครับ

ผมเป็นคนชอบวางแผนครับ ด้วยลักษณะงาน รวมไปถึงนิสัย ผมมักจะมีการวางแผน และมีแผนสำรองเสมอ ไม่ค่อยไปดำน้ำหรือปล่อยจอย เพราะมันจะไม่เสร็จเลยสักอย่าง วางแผนไว้ต่อให้ไม่เป็นไปตามแผน มันต้องมีอะไรบางอย่างที่สำเร็จบ้างล่ะน่า

ดวงอาทิตย์ตกแล้วสภาพแวดล้อมมันเปลี่ยนนะครับ ต่อให้เป็นที่ที่เราคุ้นเคยในตอนกลางวันแต่ทัศนวิสัยก็ไม่เหมือนเดิม

ไปเที่ยวผมก็ตื่นเช้านะ 555 ไม่รุ้ทำไม วันหยุดที่ไม่ใช่วันทำงานเดี๋ยวนี้ก็ตื่นเช้าเหมือนกัน

เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ว่าเรื่องอะไรก็ถือเป็นประสบการณ์แหละครับ จะดีจะร้ายก็ทำให้เราได้เรียนรู้อะไรขึ้นอีกเยอะ



โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 30 กันยายน 2568 เวลา:23:05:25 น.  

 
บ้านอาจารย์เต๊ะ คล้ายๆที่พักใจของสิงสาราสัตว์ของหมู่บ้านครับ555
หมา แมว ตัวเงินตัวทอง มารวมตัวกัน เลยต้องมีเสบียงติดบ้านไว้เสมอตรับ

เพื่อนบ้าน เห็นอาจารย์เต๊ะ วันๆ ไม่ทำงานทำการ
ร้องแต่คาราโอเกะ แลกอาหาร5555
น่าจะอดอยาก เลยสงสารคอยเอาของกินมาแขวนประตูรั้วตลอดเลยครับ

ไปชัยภูมิ ที่แท้กินของอร่อยหลายอย่างไม่ยอมถ่ายรูปมาโชว์นะครับนี่
ทำงานแยะ ไปต่างประเทศอีก ต้องดูแลสุขภาพมากๆเลยนะครับนี่

สวัสดีวันพุธครับ



โดย: multiple วันที่: 1 ตุลาคม 2568 เวลา:4:42:57 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับน้องปริ๊นซ์



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 1 ตุลาคม 2568 เวลา:4:46:04 น.  

 
อยากไปนำกัน


โดย: cyberlifenlearn วันที่: 3 ตุลาคม 2568 เวลา:10:17:19 น.  

 
มันเป็นเหมือนการชาร์จพลังงาน มีโอกาสได้ไปเที่ยวก็ดีแล้ว จริงๆ แล้วพวกร้านอาหาร เชื่อตามรีวิวมากไม่ค่อยได้หรอก ต้องถามคนท้องถิ่นเอา หรือไม่ก็ขับไปแล้วเจอร้านไหนคนเยอะหน่อยก็จอดลงไปกิน วิธีนี้ก็ได้ผลเหมือนกัน


โดย: โลกคู่ขนาน (สมาชิกหมายเลข 7115969 ) วันที่: 3 ตุลาคม 2568 เวลา:20:50:11 น.  

 
หลังไมค์ด้วยครับ


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 4 ตุลาคม 2568 เวลา:21:17:58 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
space

BlogGang Popular Award#21


 
จันทราน็อคเทิร์น
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 19 คน [?]




* Engineer
* Guitar trainer
* Casual gamer



space
space
space
space
[Add จันทราน็อคเทิร์น's blog to your web]
space
space
space
space
space