ขอขั้นจังหวะทริปเที่ยวเชียงใหม่นิดนึงครับ เนื่องจากทำรูปไม่เส็ด และยังเรียบเรียงเนื้อหาไม่เรียบร้อยครับ แถมกลัวเพื่อนๆ จะเบื่อทริปเที่ยวใสๆ เลยของั้นด้วยหัวข้อร้ายๆ กันบ้างวันนี้เหมือนจะมาแนวธรรมะธัมโม แต่แน่นอน คนเทาๆ ทำบุญ 3 ทำบาป 4 อย่างผม คงไม่ได้มาดีแน่นอนเนื่องจากที่บ้านเพิ่งมีงานบุญ จังหวะที่รับศีล 5 ก็ท่องมาเรื่อยๆ ไม่ได้ว่าอะไร จนพอมาถึงข้อ "มุสาวาทา" ผมก็มีความคิดว่ากุจะรับดีไหมวะ....รับวันนี้ พรุ่งนี้กุก็ผิดศีลแล้ว เพราะอะไรน่ะหรอครับ เพราะเนี้ย...แค่คิดก็คิดเป็นคำหยาบแล้ว555 และด้วยงานการ ต้องมีจังหวะพูดเรื่องไม่จริง หรือพูดจริงไม่หมดบ่อยมาก พูดสุภาพมันคือสกิลการเอาตัวรอดน่ะครับ พูดจริงๆ มันคือจังหวะกะล่อน ซึ่งนายก็ต้องรับสภาพว่า แม้แต่กับนายพวกชั่วโมงบินสูงก็เชื่อไม่ค่อยได้
คิดเรื่องอทินนามาปั้บ ก็เจอโจทย์อย่าง สุราเมระยะ......ที่ถึงตรงนี้ผมพูดในใจเลยว่า "จะลองเอาซักเดือนนึงดีไหมครับ สาธุ"สาบานเลยว่าไม่เคยคิดว่า่จะพูดเรื่องแบบนี้ออกมาเลยครับ เพราะรู้ว่า "ทำยาก" ก็ด้วยงานด้วยนี่แหละครับ ถึงจะไม่ได้เป็นเด็กเอ็นฯ ตัวท้อป แต่งานดื่มก็เข้าไม่ค่อยขาดเหมือนกัน และยิ่งเป็นผู้ชายก็แทบเลี่ยงไม่ได้เลยที่จะต้องดื่ม แต่ด้วยอยู่ๆ ก็เกิดอะไรไม่ค่อยปกติกับร่างกายซักหน่อย ตอนนี้เลยพยายามจะเลี่ยงครับ เอาวะ! อย่างน้อยๆ บอกพระบอกเจ้าไว้ก่อนก็ยังดี
แต่ไม่ทันขาดคำ.....เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ผมที่ถูกสั่งงดออกนอกสถานที่ก็ต้องไปเจรจางานที่ไซต์ใกล้ๆ แทนพี่โฟล์ค และต้องติดสอยห้อยตามไปกินข้าวด้วยตอนเย็น แต่ไม่ต้องห่วงครับ เพราะมีคนห่วงผมไว้ก่อนแล้ว 55555 ไนท์ไม่เอารถตัวเองไป แล้วมาขับรถผมให้แทน พอไปถึงร้าน ก็เรียกน้ำเปล่ามาตั้งไว้ก่อนเลยครับ จะได้ไม่มีใครเทอะไรใส่แก้ว 2 ข้างของผมมีพัทกับไนท์ประกอบคนละข้าง แต่ลูกค้าก็มือไว้ หาแก้วใหม่มาจนได้ ก่อนจะถามว่า "เอาเบียร์อะไรกันดี" จังหวะนั้นไนท์หันไปมองหน้าพัท แล้วยกมือเหมือนห้ามว่า "เมิงไม่ต้องพูด" "อะไรก็ได้ครับ แต่พวกผมขอ 3 คนขวดเดียวพอนะ" "เฮ้ยยย จริงหรอ ไว้เอาเพิ่มก็สั่งเลยนะ" ลูกค้าตอบไนท์พร้อมเส่งขวดเบียร์มาให้ ไนท์เทให้ตัวเองคนเดียว แล้วตั้งขวดเบียร์ไว้ข้างๆ
ว่าแล้ว ผมยังไม่ทันได้ตัดอาหารซักอย่างเข้าปาก ลูกค้าก็เริ่มบรรเลงยิงคำถามใส่ผมรัวๆ "คุณคิดว่าโฟล์คหัวหน้าใหม่ของคุณเป็นยังไง" "โอเคครับ พี่เค้าดีเหมือนที่คิดไว้ครับ" "แล้วมันมีไหมที่แนวทางก็เค้ากับของคุณจะไม่ตรงกัน เพราะคุณก็คุมทุกอย่าง" "ผมว่ามันไม่มีแนวทางไหนที่ถูกหรือผิดหรอกครับ ทุกอย่างขึ้นกับสถานการณ์" "คุณคิดว่าคุณจะทำงานกับโฟล์คยังไง"......ยิงกุรัวเป็น M16 เลยนะเมิง.....ผมที่สมองทำงานหนักมาตลอดทั้งวัน นี่ถึงกับรู้สึก RAM ไม่พอ จนผมต้องเอียงหน้าไปหาไนท์ ซึ่งไนท์ก็รีบเอียงหูมาให้ "พี่ว่าพี่ต้องได้ซักแก้วว่ะ ไม่งั้นพี่ไม่ลื่น" "เอาไหม เอาจริงหรอ" "...เท..." ไนท์รีบหันไปหยิบแก้วแล้วเทเบียร์ให้ผม 1 แก้ว ยัดใส่มือ
ผมก็กระดกไปก่อนเลยครึ่งแก้ว แบบท้องว่างๆ ส่วนไนท์ก็รินเบียร์ตามมาอีกให้เต็มแก้ว "ไนท์...." เสียงพัทเรียก แล้วส่ายหน้าใส่พัท เหมือนจะบอกว่าให้พอ ส่วนไนท์ก็ยกนิ้วว่า แก้วเดียวไง ไม่เติมแล้ว

แต่...ให้ตายเถอะ....ครึ่งแก้วมันจะได้อะไร ผมยังไม่รู้สึกอะไรเลย เลยคุยไปยกไป จนหมดไปอีกครึ่งแก้ว "โฟล์ครู้ไหม ปริ๊นซ์นี่เป็นดังอยู่นะ หลายคนรู้จักเค้า คุณรู้จังเค้ามาก่อนรึป่าว" ลูกค้าพูด "เคยเจอครับ" พี่โฟล์คพูดหน้าเจื่อนๆ เพราะเค้าจำผมไม่ได้ 5555 ผมเลยตอบต่อ "พี่โฟล์คเป็นคนดังครับ ผมรู้จักเค้ามาก่อน เพราะเราอยู่วงการเดียวกัน เจนเนอร์เจชั่นผมมันจำเป็นครับที่ต้องรู้จักตัวท้อประดับบนครับ" ส่วนลูกค้าก็พยักหน้า แล้วเริ่มถามต่อ
"แล้วโฟล์คจะช่วยอะไรงานคุณยังไงบ้าง" ผมเห็นเลยว่าพี่โฟล์คหน้าเสียแปลกๆ ส่วนลูกค้าน่าจะเมา "ผมอยู่บริษัทนี้มาเกือบ 10 ปีแล้ว vission ของผมกว้างที่สุดก็ในบริษัทนี้ และมันเป็นเรื่องที่ดีมากครับที่มีพี่โฟล์คมา เพราะผมจะได้มองใน Vission ของพี่โฟล์คด้วย" พี่โฟล์คไม่ได้แค่ก้มหัวเบาๆ ส่วนลูกค้าก็กอดอกแล้วหยักหน้า
ไม่ได้แล้วกุมันยิงกูพรุนแน่นอน ผมเลยต้องลุกยืนละครับ"Cheers for the business"จับชนแม่งซะให้รอบวง!!! ไม่งั้นกุต๊าย!!!ผมกระดกหมดแก้ว แล้ววางลงบนโต๊ะ ส่วนลูกค้าก็ฮาเฮเทเบียร์ลงมาให้ผมอีกแก้วนึง จังหวะนี้คนที่นั่งทนจิบเบียร์เบา ๆ แบบแทบไม่พร่องอย่างพัท ก็จับแก้วตัวเองกระดกหมดแก้ว ก่อนจะเอื้อมมาหยิบแก้วผมไปไว้ที่ตัวเอง แล้วนั่งกอดอกเงียบๆ พร้อมเขย่าขาเบา ดูก็รู้ว่าไอ่พัทกำลังใช้ความคิดอยู่ทำไมพัทถึงท่าทางแปลก ๆน่ะหรอครับ และทำไมพวกผม 3 คนถึงบอกว่า 3 คน กินแค่ 1 ขวดพอนะต้องเล่าย้อนไปตั้งแต่ก่อนคริสมาสทีมงานผมไปปาร์ตี้ ที่บ้านประธานบริษัทของลูกค้า มีทีมงานของผม 5 คน ลูกค้าอีก 4-5 คน วันนั้นดื่มกันหนักมาก พองานเลิกซัก 4 ทุ่มผมกับพี่ ผจก ขอตัวกลับก่อน เพราะมีประชุมเช้า ส่วนคนอื่นๆ ไปต่อกันที่ผับแถวๆ นั้น ซักเที่ยงคืน ไนท์ก็แท็กสตอร์รี่ในเฟซบุ๊คผมมา เป็นรูปพัทหลับฟุบอยู่กับโต๊ะ ผมตื่นมาเห็นตอนตี 3 ก็รับแท็กแล้วตอบไปขำ ๆ "ไหนบอกกุว่าเบาๆ เช้ามันจะไหวไหม" นอกจากเฟซบุ๊ค ผมก็เห็นว่า อ้าว มีสายเข้าตอนตี 2 จากไนท์ แต่คิดว่ามันคงโทรมาบอกว่า กลับบ้านแล้ว เพราะเป็นเวลาร้านปิด
เช้ามาผมไปอาบน้ำ แล้วด้วยอะไรไม่รู้ก็คิดว่า 'ไม่ใช่ไอ่พัทรถชนละ...' สาบานเลยว่าอยู่ๆ ก็คิดแบบนั้น แล้วแป๊บเดียวครับ มือถือดัง ผมที่อาบน้ำเส็ดพอดีก็รีบมารับ คนที่โทรมาคือไนท์ ผมถามมันคำแรกเลยว่า "มีอะไรป่ะเนี้ย" ถามเสียงจริงจังเลยครับ ไนท์มันก็เสียงแย่ๆ เหมือนแฮ้งแล้วเสียแหบ หรืออดนอน อะไรซักอย่าง มันอึกๆอักๆ ซักพัก จนผมถามซ้ำ "เมิงมีอะไร" มันถึงได้บอกว่า "เมื่อคืนพัทรถชนยับเลยนะพี่" โอ้โห!!! กุว่าแล้ว!!!จากนั้นก็มีไลน์เข้าจากพัท โดนส่งรูปรถตัวเองที่พังยับเยินมาให้ดู พร้อมข้อความว่า "ขอโทษนะครับพี่ วันนี้คงไม่ได้เข้าไปช่วยหน้างานนะ ถ้าไปได้จะไป"
เกิดอะไรขึ้นก่อนหน้านั้น......คืนนั้นพวกมันก็กลับกันตอนร้านปิดนั่นแหละครับ โดนพัทเมาแบบเพื่อนต้องหิ้ว พอกลับมาเอารถ เจมส์แยกกลับไปอีกทาง ส่วนไนท์ขับนำพัทกลับมา ขับมาซักพัก พัทขอจอดอ้วกข้างทาง ไนท์ก็ลงไปจับล้างหน้าจับยืนซักพักว่าไหวไหม พัทบอกว่าไหวแล้วต่างคนต่างขึ้นรถ ซึ่งไนท์มันก็ขับนำทางออกมา อยู่ ๆ มันก็ได้ยินเสียงดัง ปัง!!!!!! ปัง!!!!!! สองครั้งติดๆ หันไปมองกระจกหลังไม่เห็นรถพัท เห็นแต่สิบล้อที่จอดอยู่กับเศษสีแดงกระจายเต็มถนน
ไนท์บอกว่าใจหายว้าบ เพราะรู้เลยว่าพัทโดนชน มันก็รีบวิ่งกลับไปดู เห็นสิบล้อ 1 คัน รถกระบะอีก 1 คัน และเอเวอร์เรสสีแดงของพัทที่พังยับ ประตูพังเปิดไม่ได้ เครื่องยนต์ไหลออกมานอกห้องเครื่อง กระจกแตกทุกบาน ท้ายฝั่งนึงขาด เสาเอยุบ เพลาขับหัก และพัทติดอยู่ในรถ พัทรู้สึกตัวไม่ได้สลบ แต่เบลอมาก บ่นว่าเจ็บแต่ไม่รู้ว่าตรงไหน ไนท์มันก็โทรหาทุกคนที่จะโทรหาได้ ตามคนมาช่วยทุบกระจกให้พัทปีนออกมา แล้วกู้ภัย แล้วตำรวจ ประกันอะไรก็มาครับ แต่แน่ๆ คือพัทเข้าห้องฉุกเฉิน
เรื่องใหญ่โตมากครับ ผมเล่าได้เท่านี้ โชคดีมากที่พัทไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่าแผลถลอก เคล็ดๆ ตามตัวแค่นั้น โชคดีมากที่เป็นฟอร์ดเอเวอร์เรส ที่ทั้งใหญ่ทั้งแข็ง ถ้าเป็นผมคงเข้าไปบี้อยู่ใต้ท้องสิบล้อไปแล้ว
คืนนั้นพัทเมาจัดครับ พอจอดอ้วกขึ้นรถไปมันบอกว่ามันเบลอมาก ออกตัวมาแบบเบลอ ๆ ไม่รู้ว่าเหยียบไปเท่าไหร่ แล้วมันก็วูบไป ก่อนบวกท้ายกระบะเต็มเบอร์ ก่อนสิบล้อที่ตามหลังมาจะเก็บสแปร์ทั้ง 2 คันซ้ำอีกที ดีเท่าไหร่ที่ไม่ตาย.....หลังจากวันนั้น พัทคือเข็ดครับ บอกกับผมว่า "เราจะไม่บอกว่า ชีวิตนี้จะไม่กินเหล้า แต่ถ้าเกิน 2 แก้ว เราก็จะไม่ขับรถแล้ว ไม่ว่าจะรู้สึกว่าเมาหรือไม่เมาก็ตาม" วันนั้นที่มันต้องดื่มอีกครั้งเลยเครียด ๆ แต่มันก็ไม่อยากให้ผมต้องดื่มเลยต้องดื่มมากกว่าที่มันรู้สึกปลอดภัย
ส่วนผม ผมก็มีเรื่องส่วนตัวที่อยากงดดื่มไปซักพัก ถ้าจะต้องดื่มหนักก็คงเก็บไว้นานๆ ที
พวกผม 3 คนเลยคุยกันว่า เราจะไม่ดื่มเป็นเพื่อนกัน หรือถ้าดื่มก็จะดื่มแค่เป็นมารยาท ไม่ได้จับชนจับชน จับยกจับยกเหมือนเมื่อก่อน
ทีมงานผมตัวท้อปเรื่องดื่มคงต้องยกให้ เจมส์ ครับ ผู้ชายลุคอ่อนโยน สุภาพบุรุษ ตัวเล็กๆ ขาวๆ เสียงเบาๆ หน้าหวานๆ แต่ไม่หวานนะฮะ ตัวจริงไอ่นี่ beyond Badboy ไปเป็นคำว่า ถ่อย เลยครับ ลุคเวลาทำงานก็อีกเรื่อง แต่ตัวจริงมันคือ ไม่เก๋าแต่เหงาตีน ในน้ำเสียงนุ่มๆ มีความกวนส้นทีนสูงมาก อารมณ์ร้อน แบบหลุดแล้วหลุดเลย เตะบอลเก่ง และมีความ Bad มากกว่าคนลุค Bad อย่างไนท์มากไอ่นี่ตัวอันตรายครับ วางตรงไหนเรียกว่าตายยกตี้ถ้าดื่มกับลูกค้าแล้วอยากกลับเร็วๆ บอกเจมส์ได้เลย เห็นเจมส์เดินออกไปดูดบุหรี่เมื่อไหร่ กลับเข้ามาคือด้านมืดทำงานแล้ว เปิดไปไม่กี่ยก ลูกค้าถึงกับต้องเช็คบิลส่งเลยครับ ไม่งั้นตาย ส่วนไอ่เจมส์ยังนั่งไขว่ห้างยิ้มๆ แล้วเอาแก้วเคาะแก้วคนอื่นเบาๆ พวกผมก็ยอมแพ้ครับ เวลาไปดื่มกันใครนั่งใกล้เจมส์นี่เตรียมตัวเละได้เลย ตอนนี้เจมส์เลยอาสาว่า ถ้ามีต้องดื่มจริงๆ จังๆ มันจะเก็บฝั่งตรงข้ามเอง
นี่แหละครับศีล 5 ที่ผมรักษายากจริงๆ ด้วยงานที่เราต้องเอ็นเตอร์เทนลูกค้า ด้วยความที่เราเป็นวิศวะ ด้วยความที่เป็นผู้ชาย จะไม่ดื่มซักเดือนนึงนี่ถือเป็นเรื่องยากจริงๆ ครับ แต่ผมจะพยายามครับ เพราะอยู่ๆก็พบว่าตัวเองเป็นอะไรก็ไม่รู้ เหนื่อยๆ หรือเบื่อๆ เซ็ง ๆ ก็อยากดื่ม คือซักกระป๋องก็อยากดื่มครับ ซึ่งเมื่อก่อนผมไม่เป็นนะ อย่างวันนั้นที่ลูกค้ายิงคำถามเยอะ ๆ เข้า ผมก็รู้ตัวว่า ตัวเองต้องได้เบียร์หรือเหล้า ไม่งั้นรู้สึกสมองไม่ลื่น ยิ่งต้องเอ็นเตอร์เทนเป็นอังกฤษผมนี่ยิ่งต้องได้แอลกอฮอล์เลย
ช่วงนี้ผมขอกลับมาออกไซต์ แต่ก็ดันป่วยครับ เป็นหวัดแล้วหอบมาหลายวันซะโทรม วันจันทร์ผมลาป่วยครับ วันนี้เข้าไซต์นี่เพลียมากครับ บวกกับวันนี้อาการหอบจริงจังมากครับ เดินแล้วเหนื่อย พูดแล้วเหนื่อยมาก แต่ไม่ต้องห่วงครับ มือซ้ายมือขวาผมมาครบ ทั้งไนท์ทั้งพัท ผมแค่มาเป็นหัวหน้างานที่มีอำนาจตัดสินใจเท่านั้นเอง เดี๋ยวนี่ว่าจะกลับบ้านแล้วครับ รอ Settle ซักหน่อยสุระเมระยะ ปะทะโซดา กับแกล้มมา เอ้ย!!!!! สุราเมระยะ มัชชะ ประมาทัฏฐานาขอถือศีล 5 ให้ได้ซักเดือนหน่อยนะครับ
Create Date : 17 มกราคม 2566 |
Last Update : 17 มกราคม 2566 16:21:26 น. |
|
26 comments
|
Counter : 304 Pageviews. |
 |
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณnonnoiGiwGiw, คุณเริงฤดีนะ, คุณtoor36, คุณhaiku, คุณคนผ่านทางมาเจอ, คุณชีริว, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณกิ่งฟ้า, คุณสองแผ่นดิน, คุณอุ้มสี, คุณThe Kop Civil, คุณSweet_pills, คุณRain_sk, คุณกะว่าก๋า, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณหอมกร, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณtanjira, คุณทุเรียนกวน ป่วนรัก, คุณทนายอ้วน |
โดย: หอมกร วันที่: 17 มกราคม 2566 เวลา:16:01:56 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 17 มกราคม 2566 เวลา:18:09:46 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 17 มกราคม 2566 เวลา:19:28:29 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 17 มกราคม 2566 เวลา:21:30:35 น. |
|
|
|
โดย: ชีริว วันที่: 17 มกราคม 2566 เวลา:21:38:22 น. |
|
|
|
โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 17 มกราคม 2566 เวลา:22:12:03 น. |
|
|
|
โดย: อุ้มสี วันที่: 17 มกราคม 2566 เวลา:23:30:39 น. |
|
|
|
โดย: =[]=!!! (Rain_sk ) วันที่: 18 มกราคม 2566 เวลา:2:00:34 น. |
|
|
|
โดย: =[]=!!! (Rain_sk ) วันที่: 18 มกราคม 2566 เวลา:3:05:40 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 18 มกราคม 2566 เวลา:5:14:01 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 18 มกราคม 2566 เวลา:14:50:33 น. |
|
|
|
โดย: tanjira วันที่: 18 มกราคม 2566 เวลา:20:10:20 น. |
|
|
|
โดย: tanjira วันที่: 19 มกราคม 2566 เวลา:12:09:14 น. |
|
|
|
|
|
 |
|
มุสาวาทนี่ถ้ารักษาหยาบก็แค่ไม่พูดโกหก
แต่ถ้ารักษาแบบละเอียดก็รวมคำหยาบกับส่อเสียดเพ้อเจ้อด้วยจ้า
ส่วนข้อ 5 นี่รักษาง่ายมากเลยเพื่อสุขภาพตัวเองไงปริ้น