|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | |
|
|
|
|
อยู่ๆ ฤดูหนาวก็เดินจากประเทศไทยไปแบบไม่ลงไม่ลาซักคำ เรียกว่า วันก่อนยังเย็นสบาย เช้ามาก็ร้อนเหงื่อโทรมกันเลย ที่สำคัญ เค้าบอกว่า ปีนี้เราจะเข้าสู่ฤดูร้อนตั้งแต่ปลายกุมพา หุย....แล้วมีนา เมษา จะอยู่ยังไงละนี่ครับ....
แต่ก่อนจะถึงเดือนที่ร้อนที่สุด ตอนนี้กรุงเทพต้องผจญกับ PM 2.5 ครับผม ซึ่งผมไม่รู้ว่าคนอื่นหนังหน่วงแค่ไหน แต่สำหรับผมนี่หนักหนาพอควรเลย จริง ๆ ไม่ใช่ผมไม่เคยเจอ PM2.5 ระดับนี้ หรือมากกว่านี้นะครับ เพราะสมัยอยู่คอนโด แหม่....พูดเหมือนนาน อ่ะปีที่แล้วนี่เองครับ ปีที่แล้วผมอยู่คอนโดไม่ห่างจากรัชวิภา บางเช้าเป็นม่ายมานี่นึกถึง Silence Hill.... ไม่ใช่หมอกแน่นอน แต่เป็นฝุ่นที่เล่นเอาซะบรรยากกาศดูเบลอ ๆ ตั้งแต่เช้า
ปีนี้ผมย้ายมาอยู่บ้านชานเมือง ที่ความเจริญค่อนข้างสูงมาก ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ค่า PM2.5 แถวบ้านนี่ 120-130 ได้ครับ ซึ่งปีก่อนๆ ผมก็ไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่าจามกับคันตาคันหน้าหรอกครับ แต่อาจจะเกิดจากเมื่อช่วงมกรา ผมเป็นหวัด ไม่รู้เพราะฝุ่นด้วยหรือเกิดเป็นหวัดธรรมดาขึ้นมาเอง แต่เป็นหวัดน้ำมูกไหล แสบคอจริงๆ จังๆ จนต้องSWAB ทุกวันอยู่ 5 วันเต็ม อ่ะโอเค กุไม่ได้เป็นโควิด แน่ๆ แล้วหนึ่ง ก็หิ้วสภาพยมๆ ไปทำงานอยู่ทุกวัน ไม่ได้พักไม่ได้ผ่อน พยายามบอกตัวเองว่า "อย่าให้หวัดมันมีผลกระทบต่อชีวิตเว่ย"
สุดท้ายลางานไป 2 วันรวด 5555555 ก็ดีครับ อย่างน้อย ๆ ไอ่หวัดก็หายได้ซักที แต่หวัดที่อยู่ร่วม 10 วัน ก็ชอบทิ้งของแถมไว้ให้ดูต่างหน้า ว่าครั้งหน้าเมิงอย่าหาทำ เป็นหวัดไม่พักไม่ผ่อนอีก
เมื่อศุกร์ที่แล้วผมไปซ่ามาครับ ไปปาร์ตี้กับเพื่อนๆ แก๊งมหาลัย ไม่ได้ดื่มแอลกอฮอล์ตามที่ตั้งใจไว้ครับ ส่วนเพื่อนทีแรกก็แปลกใจ แต่พอได้ยินเสียงพูดผมแล้ว ทุกคนบอก โอเค....เมิงไม่กินน่ะดีแล้ว เพราะเสียงผมแห๊บแหบ พูดมีเสียงบ้างไม่มีเสียงบ้าง แถมเดี๋ยวก็ไอ เดี๋ยวก็ไอ ความเฮฮาลดลงไป 50% แต่ก็เฮฮาอยู่นะ สู้มากครับ พูดไปเหนื่อยไป จนหลังๆ เริ่มไม่ไหว นั่งดมยาดมฟัง 3 ทุ่มนิดๆ ผมก็ขอตัวกลับครับ เพราะยาหมดฤทธิ์ 555555 เรียกว่ากลับไวเป็นประวัติกาล ปกติไม่ 5 ทุ่มเที่ยงคืนล้อไม่หมุนแน่นอน
พอวันเสาร์แฟนชวนไปเดินเกษตรแฟร์ ไปสิครับรออะไร ซึ่งผมก็ท่าทางปกติ มีแค่ไม่ค่อยพูดแค่นั้น เอาจริงๆ ฟอร์มตกตั้งแต่ขับรถไปละ 5555 แต่เงียบไว้ได้เปรียบ
ตัดสินใจถูกมากที่บอกแฟนว่า ถ้าจะไปก็ไปตั้งแต่เช้าเลยนะ เพราะขี้เกียจหาที่จอดรถ หาที่จอดรถเกษตรแฟร์นี่ทรมานทรกรรมมากครับ แต่ถึงยังไง อาคารจอดรถก็เต็มอยู่ดี และต้องไปจอดอย่างไกล อ่ะไม่เป็นไร อย่างน้อยๆ คนก็โล่ง ซื้อของสะดวกมาก ติดอย่างเดียว ร้านของน้องๆ นิสิตยังไม่เปิด!!!! ว๊าาาาา อดเช็คเลยว่า ม.เกษตร เดี๋ยวนี้เค้าน่ารักจริงไหม อุ้ย! นี่กะว่าจะไปซ่อมนะครับ ว่าจะแอบไปช่วงเย็น แล้วเดินถึงดึกๆ
อ่ะจัดไป ไอก็ส่วนไอ ตอนนี้กินก่อนแล้วกัน ถามสิครับว่ากินแล้วไอจะเป็นจะตายไหม ใช่ครับ.... ดูดไปพอสุขใจ แล้วยื่นให้แฟนกินต่อ
ผมเริ่มต้นตั้งแต่โซนต้นไม้ครับ ซึ่งต้นไม้เยอะมากเลือกแทบไม่ถูก เดินๆ อยู่ หันไปเจอกล้วยไม้ครับ แถมกลิ่นหอมๆ ลอยมาก่อนจะเดินถึงอีก เลยคิดว่าจะซื้อกลับไปลองเลี้ยง พี่เจ้าของฟาร์มใจดีมากครับ เฟรนลี่มาก ๆ เค้าดูดีใจมากครับที่คนรุ่นใหม่อยากผมอยากปลูกกล้วยไม้ แต่ผมเปิดไปว่า ผมเลี้ยงไม่เป็นเลยนะครับ ปกติให้คุณพ่อปลูก 5555 พี่เค้าก็สอนอยากดี คุยไปคุยมาฟาร์มพี่เค้าอยู่ใกล้บ้านผมเลย เลยชวนผมแวะไปเดินเล่นหาแรงบรรดารใจที่ฟาร์มได้ พร้อมทั้งเล่าให้ฟังว่า จุดเริ่มต้นของการทำฟาร์มของพี่เค้าเกิดจากอะไร
แล้วผมเป็นคนมือไว ใจเร็ว บอสจับต้นไหนแล้วดูชอบ ผมก็กดโอนเลย 555555 ไม่แพงครับ 250-350 แค่นั้นเอง คุยกันถูกคออยู่ พร้อมจะแวะไปเดินเล่นที่ฟาร์ม พี่เจ้าของเลยแถมมาให้ 1 ต้น เอาไว้ไปเลี้ยงสร้างแรงบันดานใจกับการเลี้ยงกล้วยไม้
เดินต่อมาอีกหน่อยก็เจอพวกไม้แต่งสวนครับ ตั้งใจอยากได้โรสแมรี่ กับไม้ใบเท่ๆ ซัก 2 ต้น แต่เห็นขนาดกระถางแล้ว คิดดูก่อนเลยครับ เพราะยังต้องเดินอีกไกล จะซื้อแล้วฝากไว้ก็ขี้เกียจเดินกลับมาเอาอีก เลยเอาเป็นว่า ถ้ากลับมาก็มาเอาแล้วกัน ไม่กลับก็ไม่กลับ ผมเลยได้มาแต่พืชอวบน้ำ 3 ต้น 100.- กลับมาครับ สาเหตุที่ซื้อกลับมา เพราะหลานไม่รู้ทำอิท่าไหน ทำน้องอวบของผมม่องเท่งไป 3 ต้น แถมแมมอีก 1 ต้น ซึ่งเป็นต้นที่ผมสงสารมันมาก เพราะมันไม่ค่อยแข็งแรง อุตส่าห์ดูแลมากกว่าต้นอื่นๆ อยู่ๆ ก็หายไป ผมถามหากับใครก็บอกไม่เห็น สรุปตายห่าน ขนกระจายอยู่ข้างตู้วางรองเท้า แม่มาสารภาพว่า 2 ยายหลานรดน้ำหนักมือไปหน่อย......สงสารโคตร
อ่ะโอเค ไม่เป็นไร ผมเลยซื้อพืชอวบน้ำไปเติมของซักหน่อย ตายก็ตายไม่เสียดายมากครับ 35 บาท เอาประสบการณ์
เดินเลยมาถึงโซนสัตว์เลี้ยง ถ้าเป็นสมัยก่อน...แหม่...พูดซะแก่ ถ้าเป็นหลายปีที่แล้วนะ ผมจะซื้อขนมไปฝากแฟร์รี่เยอะแยะครับ แต่ตอนนี้แฟร์แก่แล้วครับ เลยไม่อยากให้กินขนมอะไรเยอะ เลยซื้อกลับไปฝากแค่ 2 ซองพอ
พูดไปก็อยากได้โกลเด้น....แต่ไม่อยากได้ภาระแล้วครับ
นี่ก็เดินไปไอไป จนเริ่ม detect ได้ว่า..... เหนื่อยแฮะ.... แต่ข้างหน้าคือโซนก็กินครับ.... กินก่อนแล้วกัน....
อ้าวววววว โอวัลตินภูเขาไฟ ที่เค้าบอกว่าต้องมากิน ก็จัดไปคนละแก้ว ถามว่าไม่รู้ตัวหรอว่าไม่ควรกินน้ำเย็น รู้ครับ!!! แต่นี่เรามาเกษตรแฟร์ไง ไม่กินก็มาไม่ถึงสิวะ!
แล้วก็หมูทอด ไข่ปลาหมึก แคปหมู เงินสดไม่มีก็สแกนดะเลย ผมว่าแค่โซนนี้ผมน่าจะหมดไปพันนึงได้ แต่นี่คือมีข้อจำกัดว่า ผมเหนื่อยๆ อย่าว่าแต่ขนของเลย เดินหน่อยก็เหนื่อยแล้ว และจังหวะเริ่มไม่ค่อยจะดี ไอซักชุดนี่ต้องลุ้นเลยว่ากุจะเกมส์ไหม ผมก็บอกแฟนว่า กลับกันเถอะ เริ่มเหนื่อย ปรากฎว่าเดินไม่ทันพ้นโซนผลไม้เพื่อที่จะกลับรถ หอบครับ.... อย่าว่าแต่เดินเลยจังหวะนี้ ยืนร้อนๆ เฉยๆ นี่ก็น่าจะเป็นลม แฟนก็ค่อนข้างตกใจครับ เพราะนี่คือกลางเกษตรแฟร์ "จากตรงนี้ไปรถไกลมากไหม เดินไปไหวไหม" ผมส่ายหน้าแทนคำตอบ ให้แฟนต้องเดาเองว่า "ไม่ไกล" หรือ "ไม่ไหว" 5555555 จังหวะนั้นไม่พูดได้คือไม่พูดครับ เดี๋ยวอะไรๆจะ uncontrollable ดีที่ใกล้โต๊ะอำนวยการ เลยได้ไปนั่งพักในนั้นครับ ซึ่งพี่เค้าก็ใจดีมากครับ พยายามช่วยเหลือดีมาก อย่างแรกคือได้นั่ง ได้พัดลม ได้น้ำดื่มก่อนเลย ผมก็พ่นยานั่งพักเอาให้โอเคซักหน่อยก่อน
ผมเลยบอกแฟนว่า "ไปนั่งบาร์ใหม่ก่อนเถอะ อยากได้ที่เงียบๆ" ประเด็นคืออายครับ ว่าชายไทย วัยกลัดมัน เอ้ย! วัยฉกรรจ์ มานั่งตากพัดลมอยู่ทำไมแถวนั้น.....
อาศัยความที่เคยเรียน ป.โท ม.เกษตร มา 2 ปี เลยพอรู้ว่าอะไรอยู่ตรงไหน พี่ที่โต๊ะอำนวยการก็ดูดีใจนะ 555555 นี่เลยค่อยๆ เดินไปนั่งที่บาร์ใหม่ครับ และคิดถูกมาก เพราะเย็นสบายสุดๆ ผมนี่นั่งซดน้ำก๋วยเตี๋ยว ซึม ๆ ก่อนจะบอกแฟนขำๆ ว่า "กลับไปซื้อไส้กรอกอีสานไว้กินกับเบียร์เย็นนี้ได้ป่ะ" แฟนตอบแบบไม่คิดว่า ให้เอาตัวเองกับของกินที่ซื้อมากลับรถให้ได้ก่อนเถอะ ฮือออออออ
กลับบ้านไปนี่หายซ่าครับ ยังดีที่ถึงไม่ได้ไส้กรอกอีสานกลับมา แต่ยังมีนมเกษตร 10 แถม 1 ให้นั่งดูดไปดู The last of us ไปชิลๆ
เออผมชอบนมสตอเบอร์รี่นะ
แต่ไม่รู้นอนดูท่าไหน.....หลับครับ ตื่นมาอีกทีเกือบ 5 โมงเย็น แม่เดินมาเทศนาว่า ทำไมไม่รับผิดชอบตัวเอง นี่มันต้องหาหมอแล้วไหม คือ...5 โมงยังไงก็ไม่ทันครับ หมอกลับ 5 โมงเย็น ก็โดนด่าไป 1 ดอก หลังจากนั้นก็ไปโดนหมอด่าอีกดอกในวันอาทิตย์ ผมก็ได้แต่ยิ้มแห้งๆ แห้งพอ ๆ กับเสียงที่ตอนนี้ไม่มีเสียงเถียงกับหมอเลยครับ ตอบแห้งๆ ว่า "ครับ"
สรุปต้องกลับมากินยาที่ผมไม่ชอบเท่าไหร่ พร้อมกับคำสั่งหมอว่า "ห้ามหยุดยาอันไหนเองซักอันเลยนะ เข้าใจไหม"
มาวันนี้รวมๆ ดีขึ้นครับ แต่ Sensitive กับกลิ่นมาก กลิ่นอาหาร กลิ่นเคมี กลิ่นน้ำหอม โดนอะไรนิดนึงผมจะไอมาก อ่ะก็ดีขึ้นตั้งแต่ต้องเป็นภาระ หมอสั่งให้แวะไปพ่นยาที่ รพ เช้า-เย็น แต่เสียงนี่ไม่มีเลยครับ ไม่มีเลยจริงๆ พรุ่งนี้ผมมีงานไซต์ และต้องไปเอ็นฯ ลูกค้าต่อครับ แล้วผมจะเอาเสียงที่ไหนไปเอ็นฯ
หายเถอะ กุเหนื่อย เหนื่อยทั้งแบบ Mental ..... เหนื่อยทั้งแบบ Physical
Create Date : 07 กุมภาพันธ์ 2566 |
Last Update : 7 กุมภาพันธ์ 2566 16:22:13 น. |
|
35 comments
|
Counter : 588 Pageviews. |
|
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณทนายอ้วน, คุณnonnoiGiwGiw, คุณtoor36, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณhaiku, คุณสองแผ่นดิน, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณSweet_pills, คุณกะว่าก๋า, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณtanjira, คุณหอมกร, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณkae+aoe, คุณคนผ่านทางมาเจอ, คุณเริงฤดีนะ, คุณโฮมสเตย์ริมน้ำ, คุณกิ่งฟ้า, คุณRain_sk, คุณnewyorknurse, คุณtuk-tuk@korat, คุณThe Kop Civil, คุณอุ้มสี |
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา:17:42:34 น. |
|
|
|
โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา:17:46:54 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา:18:06:08 น. |
|
|
|
โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา:20:18:45 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา:20:36:27 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา:0:09:41 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา:5:03:09 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา:7:10:02 น. |
|
|
|
โดย: tanjira วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา:7:40:19 น. |
|
|
|
โดย: หอมกร วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา:7:44:26 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา:10:56:16 น. |
|
|
|
โดย: tanjira วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา:13:58:06 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา:15:48:48 น. |
|
|
|
โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา:23:43:57 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา:5:25:32 น. |
|
|
|
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา:15:45:57 น. |
|
|
|
โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา:20:15:12 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา:20:19:09 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา:23:23:08 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา:6:14:14 น. |
|
|
|
โดย: อุ้มสี วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา:11:28:32 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา:15:06:08 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
แต่งจริงครับ..(เรื่องแอบรัก)
ตอนนั้นผมรับเหมาบิวอินเฟอร์นิเจอร์ในมหาลัย คุมช่าง
10 กว่าคนไปพักค้างห้องพักแถวนั้นอาทิตย์กว่า นั่งดู
ช่างเขาทำงานมีทั้งฝุ่น/เสียงดัง เลยหลบไปหาดวอนนภาอยู่ใกล้ ๆ กันกับบางแสน..ไปนอนท้ายรถริมหาด
หลับๆ ตื่น ๆ นึกถึงเพื่อนคู่หนึ่ง ต่างคนต่างมองกันตอนไปเล่นวินด์เซิร์ฟแถวนั้น
ผมคือพี่สิทธิ์..ที่ช่วนเสไปกินเหล้าครับ 555 ที่มีจริงคือ
รองเท้ายางกันหินบาด ทับทรายรีสอร์ทเขาให้สถานที่เก็บบอร์ดและใบของพวกเราที่เล่นวินด์เซิร์ฟฟรี
แต่ไม่รู้ลิน+เส มันพูดกันหรือเปล่าแหะ ๆ ผมเปล่าอยู่ในเหตการณ์นี่ครับ พอเพื่อนบล๊อกเกอร์บอกว่า รับส่งขนาดนั้นไม่พูดกันบ้างเหรอ ผมก็นึกได้ เออจริงด้วย
555
แต่เรื่องนี้ผมให้มีตัวละคร 3 ตัวไม่บังอาจเขียนอะไรมากนักกลัวตี บุคคลิกตัวละครไม่ออก ผมฝึกเขียนเรื่องนี้ไว้น่าจะกว่า 7 ปีแล้วมั้ง เลยนำมาให้เพื่อน ๆ อ่านแก้เหงา
ขอบคุณเพื่อน ๆ ที่แวะเวียนมาอ่านครับ