space
space
space
<<
ตุลาคม 2568
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
space
space
18 ตุลาคม 2568
space
space
space

จากดราม่าคลีนิคความงาม..สู่บทเรียนธุรกิจ

ไทม์ไลน์และไฮไลน์ของดราม่าฮุบธุรกิจ พริมย่าคลินิก” จากฝันสู่ไฟเริ่มเรื่องกันแบบนิยายธุรกิจที่ใครก็คิดว่าไปได้สวย พริมย่าคลินิก เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ด้วยผู้ถือหุ้นทั้งหมด 4 คน ในตอนนั้นชื่อยังขายได้ ธุรกิจคลินิกเสริมความงามดูจะรุ่งโรจน์ มีทั้งทุน มีทั้งชื่อเสียง เหมือนจะปังไม่หยุด
 

 
แต่... ฟ้าก็กลั่นแกล้งขั้นสุด  เมื่ออยู่ ๆ หุ้นส่วนบางรายดันมีคดีอาญาติดตัว ไม่ใช่คดีเบา ๆ แต่เป็นคดีที่สะเทือนชื่อเสียงธุรกิจสุด ๆ  พอมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ใครจะกล้าทำต่อ?  สุดท้ายก็ต้องขายหุ้นคืนไป เพราะลำพังเอาตัวเองยังไม่รอด  จะมานั่งบริหารต่อก็คงไม่ไหว  
ผลลัพธ์คือ...   จากที่เคยฝันจะโกยกำไร กลับขาดทุนยับเป็นล้าน  ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะการเริ่มต้นธุรกิจใหม่ มันไม่มีทางง่ายอยู่แล้ว   
 
 


 
แต่เรื่องยังไม่จบแค่นั้น...  หลังจากนั้น 2 หมอ + 1 สาวเก่ง ที่ยังอยู่ในวงการ  ก็เดินหน้าลุยต่อด้วยการเปิดคลินิกใหม่ชื่อแบรนด์ เดอมาทีจ (DERMATIGE)  คราวนี้ถือหุ้นกันแค่ 3 คน และขยันทำคอนเทนต์สุด ๆ  กลายเป็นไวรัลใน TikTok คนจำหน้าได้ คนแชร์เพียบ  
 
IMG_256
   

แต่เหมือนหนังจะมีภาคต่อ เพราะหุ้นส่วนเก่าที่เคยออกไปตอนมีคดี  กลับเข้าใจว่า “เดอมาทีจ” แค่รีแบรนด์จากพริมย่า 
 ไม่ได้รู้เลยว่านี่คือแบรนด์ใหม่คลินิกใหม่ คนละหุ้นแล้วจ้า พอเคลียร์คดีจบ ก็หวนกลับมาทวงสิทธิ์  ขอส่วนแบ่ง ขอชื่อ ขอที่ยืน ขอซื้อหุ้น
 ขอหุ้น  แต่ปัญหาคือ...  เอกสารทุกอย่างมันชัด!  ทั้งสัญญาขายหุ้นเดิม, MOA, เอกสารการเปิดบริษัทใหม่  ครบถ้วนแบบเปิดห้องศาลก็ไม่มีอะไรให้พลิก   
 
ทางทีมคนนอกแต่อยากใส่ใจอย่างเรานอกจากจะมาเล่าแล้ว ก็ยังอยากหยิบประเด็น ที่ทั้งสองฝ่ายพูดไม่ตรงกัน มาแชร์

  1. การซื้อขายหุ้นและการแยกทาง
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
ประเด็น
 
ฝั่งคุณญาญ่า (พร้อมหมอกลางหมอต่อ และทนาย)
 
ฝั่งคุณเม พรีมายา
 
  การออกจากบริษัท
 
คุณเมเสนอขายหุ้นเอง  เพราะคดีส่งผลกระทบกับรายได้ของคลินิก ยืนยัน“ขายขาด ไม่มีเงื่อนไขคืน”
 
ยืนยันว่า “ฝากหุ้นไว้” ชั่วคราว เพื่อไม่ให้กระทบธุรกิจ ระหว่างสู้คดี
 
หลังขายหุ้น/ฝากหุ้น
 
ไม่เคยจ่ายปันผลให้คุณเมอีก
 
บอกว่ายังได้รับผลตอบแทนต่อเนื่อง
 
    การซื้อหุ้นคืน
 
ไม่ได้ขายคืนให้คุณเม แต่ขายให้ "ญาติของคุณเม (คุณไอซ์)" ในสัดส่วน 25% ในราคาเดิม โดยคุณเมเป็นคนประสานงานมา
 
ถูกปฏิเสธการกลับมาถือหุ้นในชื่อตัวเอง แม้คดีจะสิ้นสุดแล้ว โดยอีกฝ่ายเสนอให้ 2 ทางเลือก (ถือ 25% ห้ามออกหน้า หรือถือ 12.5% ใช้ชื่อ "Nominee" คือ น้องสาวของตน)
 
       มูลค่าบริษัท
 
รายได้ราว 5 ล้าน/ปี ไม่ถึง 50 ล้าน/เดือนอย่างที่อีกฝ่ายอ้าง
 
สงสัยว่าทำไมบริษัทมีกำไรหลักล้าน ถึงขายหุ้นเพียง 3 แสนกว่า
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
2. “เดอมาทีจ” คือแบรนด์ใหม่ หรือแค่เปลี่ยนชื่อ?
ประเด็น
 
ฝั่งคุณญาญ่า (พร้อมหมอกลางหมอต่อ และทนาย)
 
ฝั่งคุณเม พรีมายา
 
การเปลี่ยนแบรนด์
 
เลิกกิจการ พริมย่าคลินิก  ส่วนบริษัทชื่อดังกล่าว มาเปลี่ยนชื่อเป็น DMT ของทั้ง3 คน  พร้อมสร้างแบรนด์ใหม่ชื่อ "Dermatige (เดอร์มาทีจ)" หลังคุณเมขายหุ้นออกไป โดย
แบรนด์นี้เป็นทรัพย์สินร่วมของ ยาย่า, หมอกลาง, หมอต่อ
 
ยืนยันว่า Dermatige มีต้นกำเนิดจากพรีมย่าช่วงรีแบรนด์ และตั้งคำถามว่าทำไมเครื่องหมายการค้าจดในชื่อบุคคลแทนบริษัท
 
บริษัทใหม่ (DMW, DMP)
 
ตั้งเพื่อแยกงานขยายสาขา และรองรับนักลงทุน ไม่ได้ซ้อนบริษัท
 
มองว่าเป็นการเปิดคลินิกใหม่ซ้อน โดยใช้ชื่อ ช่องทาง และลูกค้าเดิม
 
การโอนเงินลูกค้า
 
เป็นการโอนตามระบบสาขา ไม่ใช่ยักยอก
 
บอกว่าลูกค้าโอนเงินเข้าบริษัทเก่า (DMT) แต่ยอดใหญ่ถูกโอนต่อไปยังบริษัทใหม่ (DMW)
 
การปิดบริษัท DMT
 
ไม่ได้ปิด แต่ “ชำระบัญชีตามขั้นตอน” มีผู้ชำระบัญชีถูกต้อง
 
บอกว่าไม่ได้รับแจ้ง และถูกตัดสิทธิ์ในการมีส่วนร่วมแม้ถือหุ้นเท่าคนอื่น
 
 
 
  1. ไฮไลน์อื่น ๆ
 
 
 
 
 
 
ประเด็น
 
ฝั่งคุณญาญ่า (พร้อมหมอกลางหมอต่อ และทนาย)
 
ฝั่งคุณเม พรีมายา
 
การตรวจสอบเอกสาร
 
บ.แจ้งเลื่อนนัดเพราะติดเคสคนไข้ แต่ทีมคุณเมบุกมาหลายคน พนักงานเลยเรียกตำรวจ
 
ยืนยันว่าแจ้งล่วงหน้าแล้ว แต่กลับถูกแจ้งข้อหา “บุกรุกบริษัทตัวเอง”
 
ใบอนุญาตคลินิก
 
แขวนใบอนุญาตผิดเพราะทีมงาน แต่ตอนนี้ทุกสาขาถูกต้องแล้วแล้ว
 
มองว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่ควรทำ และขัดกฎหมาย
 
หลักฐานยืนยัน
 
มีครบทุกอย่าง ทั้งสัญญา, การประชุม, การโอนหุ้น และยื่นศาลแล้ว
 
มีแชต, คลิปเสียง, เอกสาร พร้อมสู้ในชั้นศาล
 
 
ทั้งสองฝั่งต่างก็ยืนยันเสียงแข็งว่า ฉันพูดความจริง!
ฝั่งคุณเมก็ลุกขึ้นมาทวง ความยุติธรรม” พร้อมอยากเห็นมูลค่าที่แท้จริงของบริษัทแบบไม่ต้องมีใครมาปัดฝุ่นใส่แสงเพิ่ม ส่วนฝั่งญาญ่าก็ยังคงยิ้มสวยๆ แต่พูดตรงๆ ว่า ทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมายค่ะ” และตอนนี้ก็กำลังอยู่ในขั้นตอน ชำระบัญชีบริษัท” อย่างเป็นทางการ
เรียกได้ว่าคนหนึ่งอยากเคลียร์ใจ อีกคนขอเคลียร์บัญชี
ต่างคนต่างมั่น แต่ดูเหมือน ความจริง” จะมีเพียงหนึ่งเดียว งานนี้ใครจะพูดจริง ใครจะพูดเนียน คงต้องรอให้เอกสารเปิดปากออกมา ก่อนละกันงานนี้ 

 
https://youtu.be/aucEeOPtJrk?si=NIZGZMUmPDs6FS0c
 

 
https://youtu.be/V803To2HBc4?si=iVs-R9QQ9iA3j9TJ
มีหลายสำนักข่าวเลยที่ไปถามความเห็นจาก ทนายชื่อดัง ซึ่งแต่ละคนต่างพูดไปในทางเดียวกันว่า
“เอกสารแน่นขนาดนี้... พลิกยากครับ” ⚖️
งานนี้เลยไม่รู้ว่า “เรือล่มเพราะใคร” หรือจริง ๆ แล้ว... “กอดคอกันล่ม” ตั้งแต่ต้น  
ระหว่างที่คดีอยู่ในกระบวนการศาล ฝั่งที่รู้สึกเสียเปรียบก็เลย “เลือกสู้ทางสื่อ” ก่อน  เริ่มจากร้องเรียนตามรายการ ออกรายการใหญ่ ไลฟ์สดรัว ๆโพสต์เป็นชุด ๆ จนกลายเป็น ดราม่าร้อนแรงทั่วโซเชียล แต่พอเวลาผ่านไป คนดูเริ่มตั้งสติ ใช้วิเคราะห์มากกว่าความรู้สึก หลายเสียงก็เริ่มพูดตรงกันว่า
“นี่มันไม่ใช่การฮุบหรอก… แต่มันคือการไม่อ่านเอกสารก่อนเซ็นต่างหาก”  หรือขายแล้วเห็นว่าดี ไปได้ดีเลยอยากแจม
 
 

 


 
 
 
 
https://youtu.be/3m61XZIekas?si=EfPffAXmMf52ro37
สุดท้ายดราม่านี้เลยกลายเป็นบทเรียนทองของวงการธุรกิจไทยว่า “ก่อนลงทุนกับใคร อย่าลืมศึกษากฎหมายให้ชัด  เพราะเวลารุ่ง มันไม่มีปัญหา...  แต่เวลาร่วงนั่นแหละ ที่เอกสารจะพูดแทนทุกอย่าง”  “อย่าให้ความไว้ใจมาชนะลายเซ็น เพราะสุดท้ายมันคือเอกสารที่ศาลอ่าน โพสต์ที่คนแชร์กี่ล้านแชร์ก็พลิกคดีไม่ได้”
 
 




 

Create Date : 18 ตุลาคม 2568
0 comments
Last Update : 18 ตุลาคม 2568 10:26:59 น.
Counter : 162 Pageviews.
(โหวต blog นี้) 

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณAnanya Amy_1994, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณnewyorknurse

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

space

BlogGang Popular Award#21


 
ผักกาดดองเน่า
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






space
space
[Add ผักกาดดองเน่า's blog to your web]
space
space
space
space
space