อ่านเรื่อยๆ มาเรียง ๆ ทุกวันของ หนี่งหน่อง นะครับ
รีวิว The Glory นี่คือนิยามของคำว่า 10 ปีล้างแค้นก็ยังไม่สาย

              [รีวิว] The Glory นี่คือนิยามของคำว่า 10 ปีล้างแค้นก็ยังไม่สาย [Series] 
  • เขียนบทโดย Kim Eun-sook
        .  กำกับโดย Ahn Gil-ho 

                                                      นำแสดงโดย 

  • Song Hye-kyo (จากซีรีส์เรื่อง Autumn in My Heart และ Fullhouse) รับบทเป็น Moon Dong-eun
  • Jung Ji-so (จากภาพยนตร์เรื่อง Parasite และซีรีส์เรื่อง Hellbound) รับบทเป็น Moon Dong-eun (ช่วงวัยรุ่น)
  • Lim Ji-yeon (จากภาพยนตร์เรื่อง Obsessed, The Treacherous และซีรีส์เรื่อง Monet Heist: Korean) รับบทเป็น Park Yeon-jin
  • Shin Ye-eun รับบทเป็น Park Yeon-jin (ช่วงวัยรุ่น)
  • Park Sung-hoon รับบทเป็น Jeon Jae-joon
  • Song Byeong-geun รับบทเป็น Jeon Jae-joon (ช่วงวัยรุ่น)
  • Cha Joo-young รับบทเป็น Choi Hye-jeong
  • Song Ji-woo รับบทเป็น Choi Hye-jeong (ช่วงวัยรุ่น)
  • Kim Hieora รับบทเป็น Lee Sa-ra
  • Bae Kang-hee รับบทเป็น Lee Sa-ra (ช่วงวัยรุ่น)
  • Kim Gun-woo รับบทเป็น Son Myeong-oh
  • Seo Woo-hyuk รับบทเป็น Son Myeong-oh (ช่วงวัยรุ่น)
  • Lee Do-hyun รับบทเป็น Joo Yeo-jeong
  • Yeom Hye-ran (จากซีรีส์เรื่อง The Uncanny Counter) รับบทเป็น Kang Hyeon-nam
         Jung Sung-il (จากภาพยนตร์เรื่อง A Frozen Flower) รับบทเป็น Ha Do-yeong 
                                    รับชมได้ทาง Netflix มีจำนวนทั้งหมด 16 ตอน    

                                                  เนื้อเรื่อง/เรื่องย่อ 

เรื่องราวของ มุนดงอึน เด็กสาวชั้นมัธยมปลายปีที่ 5 ที่เป็นเหยื่อของการใช้ความรุนแรงที่เกิดขึ้นภายในโรงเรียน ทั้งจากเพื่อนนักเรียนและครูประจำชั้น โดยที่ไม่มีใครสามารถช่วยเหลือเธอได้เลย เนื่องจากอิทธิพลของครอบครัวเด็กนักเรียนที่รุมรังแกเธอ จนในที่สุดเธอจึงต้องลาออกจากโรงเรียน


          แต่ด้วยความเจ็บปวดทั้งทางร่างกายและจิตใจที่ยังหลอกหลอนเธออยู่ตลอดเวลา จนเธอไม่สามารถที่จะแบกรับความรู้สึกนั้นได้อีกต่อไป เธอจึงตัดสินใจที่จะฆ่าตัวตาย แต่แล้วกลับมีเหตุการณ์บางอย่างที่เปลี่ยนใจเธอให้กลับมาสู้กับชะตากรรมต่อไป
          และตั้งแต่วันนั้นเองที่เธอได้ตั้งเป้าหมายในชีวิตที่จะกลับมาล้างแค้นกับทุกคนที่เคยทำร้ายเธอ ไม่ว่ามันจะต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ก็ตาม 

ความรู้สึกหลังดูจบ 

 ยอมรับว่าผิดจากที่คิดไว้พอสมควรเลยฮะคือตอนแรกรู้จักซีรีส์เรื่องนี้ว่าเป็นซีรีส์ที่เกี่ยวกับการตามล้างแค้นของตัวละครเอก ก็เข้าใจว่าจะมาในโทนบู๊แอ็คชั่นแก้แค้นซัดกันนัวเหมือนหนังตระกูล John Wick หรือซีรีส์เรื่อง My Name
          แต่พอได้เริ่มดูถึงได้รู้ว่าเรื่องนี้ไม่ใช่แนวนั้น ซีรีส์มาในแนววางแผนที่จะเล่นงานคนที่นางเอกต้องการล้างแค้นโดยที่มือตัวเองไม่เปื้อนเลือด โดยเป้าหมายแต่ละคนที่นางเอกหมายหัวไว้เปรียบเสมือนเป็นตัวหมากในกระดาน ที่จะเดินไปตามเกมที่นางเอกได้วางเอาไว้ 
 ในซีรีส์ไม่มีฉากแอ็คชั่นใดๆ เลย (นอกจากซีนการทำร้ายร่างกาย ซึ่งไม่น่าจะเรียกว่าเป็นซีนแอ็คชั่นได้นะฮะ) การเดินเรื่องเต็มไปด้วยบทพูดและการเชือดเฉือนคารมกันของตัวละคร ซึ่งทำออกมาได้สนุกเกินคาดมากฮะ ดูไม่เบื่อเลย แม้จะมีบางช่วงที่ดูจะยืดๆ ไปบ้างก็ตาม
          สิ่งหนึ่งที่แตกต่างจากซีรีส์แนวล้างแค้นเรื่องอื่นๆ คือในซีรีส์แนวล้างแค้นทั่วๆ ไป โดยปรกติตัวละครที่วางแผนจะแก้แค้นนั้น มักจะปิดบังตัวเองไม่ให้เป้าหมายรู้ตัวเลยว่าฉันกำลังวางแผนจัดการแกอยู่นะ คือกว่าจะรู้ตัวอีกทีตัวเป้าหมายก็โดนจัดการไปเรียบร้อยแล้ว 

 แต่กับเรื่องนี้ นางเอกเปิดหน้าชนและประกาศให้เป้าหมายได้รู้เลยว่า “เฮ้ย มึง กูกลับมาแล้วนะ เตรียมตัวเอาไว้ได้เลย กูจะเอานรกมาส่งให้ถึงมึงกับมือกูเองเลย มึงเคยทำอะไรกับกูไว้บ้าง จำให้ได้ด้วยนะ” เออ เนี่ย มันเลยดูแล้วรู้สึกสะใจดีฮะ


          และที่ชอบที่สุดเลยก็คือนักแสดงทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีมากๆ ถ่ายทอดคาแรคเตอร์ของตัวละครที่ตัวเองสวมบทอยู่ออกมาได้เป็นอย่างดีเลยฮะ เคมีทุกคนเข้ากันดีมาก 
 เป็นซีรีส์อีก 1 เรื่องที่สะท้อนสังคมถึงปัญหาการบูลลี่และการใช้ความรุนแรงทั้งในโรงเรียนและในครอบครัวออกมาได้เป็นอย่างดี ที่เชื่อว่ายังคงเกิดขึ้นอยู่ในสังคมทุกประเทศบนโลกใบนี้ และยังมองไม่เห็นหนทางที่จะแก้ไขให้ดีขึ้นได้เลย หนำซ้ำยังมีแนวโน้มที่จะรุนแรงขึ้นทุกวัน จนกระทั่งลุกลามไปถึงขั้นก่ออาชญากรรมกันได้เลย
          รวมถึงการเสียดสีสังคมทุนนิยมที่คนรวยจะทำอะไรก็ได้ไม่เคยได้รับโทษในความผิดที่ตัวเองก่อไว้ เพียงแค่ใช้เงินและอิทธิพลในการแก้ปัญหา ทุกอย่างก็เคลียร์จบ (กว่าที่เหยื่อจะได้รับความยุติธรรม ก็อาจจะต้องใช้เวลาอย่างยาวนานหลายสิบปี หรือบางเคสก็อาจจะไม่ได้รับความยุติธรรมเลย) 
 สรุป >> ให้ไปเลยฮะ 9 เต็ม 10 สนุกและตื่นเต้นแม้จะไม่ได้มีฉากแอ็คชั่นใดๆ เลยก็ตาม เป็นอีก 1 ซีรีส์คุณภาพที่สะท้อนปัญหาสังคมได้เป็นอย่างดี ไม่ควรพลาดเลยฮะ 
                                         ขอบคุณภาพจาก : เว็บไซต์ Netflixเฟซบุ๊ก Netflix 
 


Create Date : 29 มีนาคม 2566
Last Update : 29 มีนาคม 2566 12:30:41 น. 0 comments
Counter : 448 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หนี่งหน่อง
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 33 คน [?]




pub-1485477287124314
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add หนี่งหน่อง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.