มิถุนายน 2560

 
 
 
 
1
2
3
4
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
เก็บประสบการณ์..."งานเด็ก"







ภารกิจเก็บชั่วโมงเลี้ยงเด็ก200ชั่วโมง ตอนแรกคิดไว้เหมือนจะง่ายแปบเดี๋ยว วันละ8ชม. 30กว่าวันก็ครบละ แต่พอเก็บจริงล่อไปเกือบสามเดือน ยิ่งอยากเร่งเวลาเท่าไหร่ยิ่งเหมือนโดนสวรรค์กลั่นแกล้ง  หาที่เก็บชม.ว่ายากแล้ว ทำงานว่ายากกว่า ไหนจะต้องดีลกับคุณบอส คุณครู และบรรดาพี่เลี้ยง ด้วยความที่เป็นคนพูดน้อย เงียบๆการจะเข้าหาคนอื่นและเด็กก็ดูจะเป็นเรื่องยากเอาการ จนบางครั้งอยากจะบอกตัวเองว่าแกเลิกคุยกับตัวเองในใจแล้วหันไปคุยกับคนอื่นบ้าง  แต่ก็ยอมรับบางทีคุยกับตัวเองมันสนุกกว่าจริงๆ (คิดเองขำเองมันส์ๆปนกันไป) 


ยังจำความรู้สึกแรกที่ผู้จัดการโทรมาบอกว่าผ่านสัมภาษณ์ ให้เตรียมตัวเริ่มงานวันแรกได้เลย หูยยยยยดีใจมากเหมือนประหนึ่ง ถูกพี่ลูกเกดเลือกเข้าทีม the face  แต่สิ่งที่ต้องทำอันดับต่อไปคือหาซื้อเสื้อโปโลสีพาสเทลไว้ใส่ไปทำงานนี่แหละ เดินประตูน้ำฝั่งแพทตินั่มนึกว่าจะถูก 200-500จะซื้อ5ตัวก็เป็นพัน ถือว่าแพงนะสำหรับนักศึกษาจบใหม่ที่ยังไม่มีงานทำ  แต่พอมาเดินฝั่งกรุงทอง ในที่สุดก็เจอเสื้อตัวละ100 สบายกระเป๋าตังค์ปเปราะนึง แต่ความสนุกสุดหรรษามันจะกำลังจะเริ่ม


ทำงานช่วงแรกๆนี่สบายชิวๆดูเด็กทำกิจกรรม ร้องเพลงดำน้ำกันไปอะไรก็แปลกใหม่และรู้สึกหนุกหนานกับเด็กๆ ทุกเช้าจะได้ยินเสียเพลงบรรเลงกรี๊ดกร๊าดร้องไห้ตามประสาเด็กน้อยต้องจากพ่อแม่  ซึ่งเนอร์สเซอรี่นี้ส่วนใหญ่คนญี่ปุ่นเขาจะมาฝากเลี้ยงกัน มีเด็กฝรั่งบ้างประปราย แต่ที่รู้สึกอเมซิ่งสุดก็คือเด็กญี่ปุ่นนาง
พูดได้สอง-สามภาษานี่แหละ ญี่ปุ่น-ไทย-อังกฤษ ตั้งแต่2-3ขวบเลย  เด็กบางคนพูดได้สามภาษาเพราะพ่อแม่พูดญี่ปุ่น ครูที่เนอร์สเซอรี่พูดไทย เรียนโรงเรียนนานาชาติ มีความลงตัวของภาษาที่สภาพแวดล้อมเอื้ออำนวยมาก แถมเด็กญี่ปุ่นเผลอๆพูดไทยเก่งกว่าพ่อแม่อีก ช่วยแม่ซื้อของกินข้างทางยังได้เลย แต่ตอนทำงานจะมีพี่เลี้ยงที่ชอบว่าวอีสาน ปรากฏว่าเด็กจำเอาไปใช้ค่ะ เด็กญี่ปุ่นว่าวอีสานกันไป Smiley  พอมาอยู่จุดนี้ทำให้รู้ว่าสิ่งแวดล้อมมันมีผลต่อภาษาในวัยเด็กมากๆ ถือว่ามาทำงานที่นี่นอกจากเก็บชม.ยังได้ความรู้เรื่องภาษาเอาไปไว้ใช้ในอนาคตได้ด้วย ประโยชน์คูณสองเลยทีเดียว


แต่แน่นอนทำงานที่ไหนก็ต้องมีอุปสรรคกันบ้าง  วันหนึ่งมีผู้ปกครองรายงานว่าเด็กเป็นมือเท้าปากนะคะ และก็เริ่มลามกันไปคนที่สองและสาม โรคนี้ทจะมากับหน้าฝน และติดกันง่ายมาก อาการของโรคคือมีตุ่มขึ้นที่มือ เท้า ปากตามชื่อโรคแต่สิ่งที่ต้องระวังคืออาการแทรกซ้อน เด็กบางคนถึงกับเข้าโรงพยาบาลเพราะมีอาการที่ปอดร่วมด้วย ถ้ารู้ว่ามีเด็กคน หรือสองคนเป็นทางที่ดีที่สุดคือปิดโรงเรียนทำความสะอาดของเล่น เรียกได้ว่าเช็ดกันจนมือเปื่อยทีเดียว มีน้ำยาฆ่าเชื้ออะไรจับถูทุกซอกทุกมุมโรงเรียนเลยค่ะ สรุปปิด4วัน นั่งทำความสะอาด2วันหยุดเสาร์-อาทิตย์2วัน แต่ต้องยอมรับเลยว่าตอนทำงานนี่ป่วยน้ำมูกไหลเกือบทุกอาทิตย์ คำที่ว่าเด็กติดหวัดจากผู้ใหญ่แทบจะลืมไปได้เลยเพราะ ผู้ใหญ่อย่างเรานี่แหละติดหวัดจากเด็กนั่งเช็ดน้ำมูกทั้งวัน


ความรู้ที่ได้จากเนอร์สเซอรี่นี่ก็มีตั้งแต่กล่อมเด็กนอนตอนกลางวัน (ชอบมากเหมือนได้แอบหลับไปในตัว) การเตรียมข้าวเด็กอ่อน บางทีเด็กน้อยฟันยังขึ้นไม่ครบก็ต้องใช้กรรไกรตัดข้าว ตัดเนื้อให้ละเอียดก่อนกิน เรียกได้ว่าถ้าจับใส่โถ่ปั่นได้นี่ทำไปนานละ  การพาเด็กเข้าห้องน้ำ ส่วนมากเด็กจะฝึกนั่งกระโถนก็ตอน2ขวบ เป็นช่วงทีพอสื่อสารได้แล้ว และก็เปลี่ยนผ้าอ้อม ตรงนี้สำคัญมากสำหรับออแพร์เพราะโฮสต์ส่วนใหญ่จะอยากได้ออแพร์ช่วยเลี้ยงเด็กเล็ก ใครยังไม่คล่องก็ฝึกฝนวิทยายุทธกันไป ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่าถึงแม้บางครั้งจะรู้สึกเหมือนโดนเอาเปรียบจนอยากจะนับวันรอครบชั่วโมงก็ตาม แต่การเก็บชั่วโมงเลี้ยงเด็กเสร็จเหมือนเป็นแค่จุดจบเล็กๆ ที่ต่อยอดกลับไปสู่จุดเริ่มต้นจุดใหม่ที่กำลังรออยู่ 




Create Date : 17 มิถุนายน 2560
Last Update : 18 มิถุนายน 2560 4:55:47 น.
Counter : 598 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 3870294
Location :
กรุงเทพ  United States

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



สาวน้อยกับการเดินทางใช้ชีวิตในต่างแดน Blogนี่ทำขึ้นเพื่อเรียบเรียง ความคิด เรื่องราวก่อนและหลังจากมาอยู่อเมริกา เพราะความโฮมซิก a little bitของหนูน้อย
New Comments