รีวิวการ์ตูนไทย - Thai Comic Review
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2565
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
17 สิงหาคม 2565
 
All Blogs
 
(รีวิวการ์ตูนไทย) Summer เธอกับฉันในฤดูร้อน (รวมนักเขียน)


   รวมเรื่องสั้นการ์ตูนรักเล่มแรกสุด ในธีม "ฤดูกาลของไทย" จากค่าย CTS ที่ไม่ได้ไปต่อ (เพราะขาดเล่ม Winter เพียงแค่เล่มเดียว) และก็ไม่น่าจะมีอีกต่อไป เพราะสำนักพิมพ์ปิดตัวไปแล้ว -- จับมือถือแขน พาเราไปทำความรู้จักกับ Summer หรือ ฤดูร้อน ผ่านเรื่องสั้นฟีลกู้ด อบอุ่นหัวใจถึง 5 เรื่องด้วยกัน -- แม้ประเทศไทยในช่วงฤดูร้อน จะคุกรุ่นไปด้วยบรรยากาศอันแสนอบอ้าวตลอดทั้งกลางเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงกลางเดือนพฤษภาคม แต่ภายใต้ 3 เดือนนี้ ก็กลับเต็มไปด้วยช่วงเวลาที่น่าจดจำให้กับใครหลายๆคน ไม่ว่าจะเป็นช่วงปิดเทอมของเหล่าเด็กๆ วันสงกรานต์ กิจกรรมพักร้อนในชายหาด และอื่นๆอีกมากมายในการหาเรื่องคลายร้อนของเหล่ามวลมนุษยชาติ -- แต่เหนือสิ่งอื่นใด อะไรมันจะดีไปกว่าการที่เราได้อยู่เคียงข้างใครซักคน โดยเฉพาะคนที่เรารัก ใช้เวลาสนุกสนานในช่วงหน้าร้อน สร้างความทรงจำที่ดีร่วมกัน ก่อนที่จะหวนเข้าสู่ช่วงฤดูฝนอีกครั้ง (ซึ่งจะเชื่อมไปยังรวมเล่ม Rainy ที่เป็น "ธีมฤดูฝน" อีกทีนึง ไม่มีเวอร์ชั่นหนังสือ แต่จะมีขายเฉพาะเวอร์ชั่น E-Book เท่านั้น โดยในเล่มจะเกี่ยวกับธีม "รักที่ไม่สมหวัง" ซึ่งเป็นคนละขั้วกับเล่ม Summer และสามารถหาซื้อได้ใน Meb อีกเช่นเคย)

   เรื่องสั้นส่วนมากในรอบนี้ จะตีวงกว้างไปถึงความสัมพันธ์ในหลายๆระดับ นอกเหนือจากความรักหนุ่มสาวแล้ว ก็จะมีความสัมพันธ์แบบเพื่อนและคนรู้จักเพิ่มเข้ามา ช่วยดับกลิ่นความรักให้หอมมากยิ่งขึ้น -- เริ่มกันตั้งแต่ เธอกับฉันในหน้าร้อน (กิตติณัฐ ชัยยะ/วาวี พรสิริภักดี) ว่าด้วยพนักงานรักษาความปลอดภัยที่สูบบุหรี่จัด ได้มาเจอกับเด็กอนุบาลสาวที่มักจะซื้อลูกอมแท่งให้ยามกินอยู่เสมอ (แบบงงๆ) และด้วยนิสัยที่ร่าเริงของสาวน้อยที่มักจะเข้ามาป้วนเปี้ยนอยู่เสมอ ก็เลยทำให้การเฝ้ายามที่แสนน่าเบื่อในช่วงหน้าร้อน กลับเต็มไปด้วยเรื่องที่สนุกสนานมากขึ้นอย่างคาดไม่ถึง

   การ์ตูนเปิดเรื่องด้วยความน่ารักสดใสของสาวน้อย เดินพล็อตสไตล์เด็กๆ โดดเด่นด้วยความเคมีเข้ากันของนักเขียนทั้งสองฝ่าย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะสตอรี่บอร์ดอันแสนอ่อนหวานของวาวี ได้ผลักดันทำให้คุณกิตติณัฐ ได้ปลดล็อกความสามารถที่แท้จริงที่ซุกซ่อนเอาไว้ นอกเหนือจากสไตล์งานห่ามๆแบบผู้ใหญ่เหมือนกับเรื่องสั้นที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นทั้งการวาดตัวละครและสถานการณ์แบบเด็กๆที่ดูน่ารักน่าชัง ซึ่งเข้ากับบอร์ดของวาวีได้แบบเป็นปี่เป็นขลุ่ย ไม่ว่าจะด้วยสีหน้าท่าทางของตัวละครที่ดูลื่นไหล การดำเนินเรื่องที่สนุกสนาน บทพูดกระชับ อ่านลื่นไปจนสุดซอย มากพอที่จะทำให้รู้สึกได้ว่า เราสามารถหาเรื่องทำสนุกๆอย่างอื่นคลายร้อนได้ โดยไม่จำเป็นที่จะต้องทำเรื่องเสียสุขภาพอย่างการสูบบุหรี่คลายเครียด -- แม้บทพูดเปิดใจ "สุดแสนซีเรียส" ในช่วงโค้งสุดท้าย ("พอไม่ได้ดั่งใจก็ลงเอยกับมันทุกที ทั้งๆที่เห็นพี่เป็นแบบนี้ แต่ก็ยังเอาลูกอมมาให้อีก ขอบใจนะ") จะขัดกับบรรยากาศเดินพล็อตแบบสนุกสนาน จนทำให้การดำเนินเรื่องชะงักไปบ้าง แต่อย่างน้อยนี่ก็ถือเป็นตัวเปิดเล่มที่อ่านแล้ว รู้สึกใจเต้นกับความน่ารักจนแทบไม่หวาดไม่ไหว ก่อนที่คุณภาพเรื่องสั้นหลังจากนั้นจะค่อยๆดรอปลงมาให้คนอ่านได้เตรียมอกเตรียมใจกันตั้งแต่เนิ่นๆ

   แต่ก่อนที่จะไปถึงจุดนั้น อย่างน้อยในเล่มก็ยังพอมีเรื่องสั้นดีๆให้ได้อ่านกันอยู่บ้าง -- Love & Test บททดสอบแห่งรัก สู้ตายเพื่อเธอ (พลอยไพลิน ศิริมุจลินทร์/ Lin Sirin) ผลงานจากปลายปากกาโดยเจ้าของรางวัลชนะเลิศการประกวดการ์ตูนเรื่องสั้น Debut Special หัวข้อ "ห้องปิดตาย" ของค่าย CTS ในเรื่อง Visible Voice ซึ่งกลับมาในรอบนี้ โหมดเนื้อเรื่องซึ่งเป็นจุดแข็งของคุณลิน ก็ยังคงเข้มข้นหนักแน่นอยู่อีกเช่นเคย -- เนื้อเรื่องเกี่ยวกับเด็กสาวที่พยายามตั้งใจเรียนอย่างหนัก เพื่อที่จะทำให้แม่ที่แสนเข้มงวด อนุญาตให้ตัวเองออกไปดูคอนเสิร์ตศิลปินเกาหลีที่ตัวเองชื่นชอบ ก่อนที่จะเข้าสู่ช่วงปิดเทอมหน้าร้อน ซึ่งจะไม่มีคอนเสิร์ตแบบนี้จัดไปอีกนาน

  เช่นเดียวกับรวมเล่ม Crazy Idol ของคุณอัจจิมา -- Love & Test จะเน้นเจาะลึกชีวิตแฟนคลับศิลปินในเชิงบวก ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ศิลปินที่มีชื่อเสียงบนโลกใบนี้ ได้สร้างแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตให้กับแฟนคลับมากแค่ไหน มากจนขนาดที่ว่าคนๆหนึ่งสามารถข้ามขีดจำกัดของตัวเอง ในการทำสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้อย่างเรื่องการเรียน โดยเฉพาะนางเอกคนสุดท้อง ที่จะต้องเผชิญกับความยากลำบากในการทำคะแนนสูงๆ เพราะพวกพี่ๆต่างเรียนเก่งกันหมด มันกดดัน เพราะฝ่ายแม่เองก็เอาแต่เข้มงวดอย่างเดียว และแทบจะไม่ได้ให้กำลังใจอะไรกันเลย แต่พอนางเอกได้พบกับสิ่งที่ตัวเองชอบ มันก็เลยทำให้เจ้าตัวเริ่มที่จะมีกำลังใจ และตั้งใจเรียนมากยิ่งขึ้น ทุกครั้งที่นึกถึงภาพของคนๆนั้น -- ดังนั้น การที่มีโอกาสได้ไปดูศิลปินที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับตัวเองถึงงานคอนเสิร์ต จึงเป็นสิ่งที่ล้ำค่ามากๆสำหรับนางเอก และจะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อออกไปดูให้ได้ ไม่ว่าบัตรเข้าชมจะแพงแค่ไหนก็ตาม

   นอกจากนั้น ในเล่มก็จะมีพล็อตโมเมนต์ชีวิตประจำวันทั่วไปสั้นๆที่พออ่านได้เพลินๆ ค่อนข้างสนุก แต่ก็ไม่ค่อยโดดเด่นอะไรมาก อย่างเช่นเรื่อง ที่พักร้อน (รุจา กลิ่นเกษร) พล็อตสูตรสำเร็จรอบที่ 18,957 ว่าด้วยสาวแว่นเกิดตกหลุมรักพนักงานร้านกาแฟรูปหล่อเข้า และทำได้แค่แอบมอง แต่ก็ไม่กล้าที่จะเดินเข้าไปบอกรักซักที ทั้งๆที่ตอนแรก ตั้งใจจะเข้ามาหาที่หลบร้อนเงียบๆอยู่คนเดียวแท้ๆ -- นอกจากในพล็อตจะพูดถึงเรื่อง "ที่พักใจ" ซึ่งก็คือพระเอกแล้ว นี่คือเรื่องสั้นเรื่องแรกจากค่าย CTS ที่รุจาได้ลงไปแต่งเรื่องและวาดการ์ตูนรักด้วยตัวเองทั้งหมด ต่างจากเรื่องสั้นเรื่องอื่นๆ ที่เจ้าตัวจะได้รับหน้าที่เพียงแค่ "เขียนสตอรี่บอร์ด" ให้กับคนอื่นๆเพียงเท่านั้น (ไม่นับรวมเล่ม What Kind is Your Love ซึ่งเรื่องนั้นจะออกไปทางการ์ตูนแก๊กซะมากกว่า) -- ส่วนบทสรุปของเรื่องก็ประมาณว่า ต่อให้อากาศร้อนแค่ไหน ให้ตายก็สามารถทนได้ ถ้าได้เจอหน้าคนที่เรารักทุกวัน ฟังดูลึกซึ้ง แต่การเดินเรื่องมันไม่น่าสนใจเท่าพล็อตที่วางเอาไว้นี่สิ (มันเดินพล็อตแบบงานโดอ้า แล้วจะให้เอาอะไรไปจำ)

   ต่อกันด้วยพล็อตฮาแตกในการตามหา "ไอศกรีมกูลิโกะ" ที่หาซื้อโคตรยากในขณะนั้น (ซึ่งยากจริงๆ) ในเรื่อง Summer Survivor (ฉัตรสุดา เจนกิจรุ่งเรือง/ T-Han) การ์ตูนกึ่งชายรักชายที่ไม่ได้แสดงออกมากเท่างานโด แต่วาดลายเส้นออกมาได้เนี้ยบมากๆ (ก็งานสำนักพิมพ์นี่นะ) -- กับพล็อตสั้นๆ ว่าด้วยชายหนุ่มที่ต้องการจะเอาชีวิตรอดจากช่วงหน้าร้อนด้วยไอศกรีมกูลิโกะ แต่ก็ต้องพบกับความผิดหวัง เพราะตั้งเป้าหมายเอาไว้ใหญ่เกินไป (ก็แหงล่ะ ซื้ออะไรไม่ซื้อ) -- ซึ่งไม่ว่าจะเป็นยังไงก็ตาม เพื่อนตัวดีที่แอบตามพระเอกมาตั้งแต่แรก ก็เดินเข้าไปซื้อไอศกรีมอย่างอื่นให้กินแทน (เลือกยักษ์คู่ด้วยไอ้ชิบหาย) และเข้ามาปลอบใจพระเอกประมาณว่า ถึงวันนี้จะไม่ได้กินไอศกรีมกูลิโกะอย่างที่ตัวเองต้องการ แต่ซักวันหนึ่งก็ต้องได้กินอยู่ดี เพราะไอศกรีมที่อยากกิน มันไม่ได้หนีไปไหนอยู่แล้ว (ซึ่งนั่นก็เป็นเรื่องจริง เพราะไอศกรีมกูลิโกะในตอนนี้ สามารถหาซื้อได้ง่ายยิ่งกว่าเดิม ไม่ใช่อะไร เพราะมันหมดกระแสไปแล้ว) เหมือนกับเพื่อนพระเอกที่พยายามจะคว้าพระเอกมาเป็นแฟนให้ได้ แบบเดียวกับวิ่งไล่ตามรถไอศกรีม โดยเริ่มจากการสร้างความสัมพันธ์ด้วยความเป็นห่วงเป็นใยแบบเพื่อนไปก่อน 

   แม้ทั้งเรื่องจะจบแบบปลายเปิดในรูปแบบ "การ์ตูนกึ่งชายรักชาย" แต่ประเด็นหลักๆใน Summer Survivor ส่วนมากจะเน้นไปที่เรื่องของ "มิตรภาพเพื่อน" ซะมากกว่า โดยเฉพาะไอ้หนุ่มหัวทองเพื่อนยาก ที่เข้ามาให้กำลังใจพระเอกในยามเข้าตาจน พร้อมกับย้อนความทรงจำสุดรวดร้าวกึ่งจิกกัดเล็กๆว่า ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคสมัย การออกตามหาไอติมกูลิโกะในยุคปัจจุบัน ก็ยังคงยากพอๆกับการวิ่งไล่ตามรถไอศกรีมในตอนเด็ก ที่ขับผ่านไปเหมือนไม่อยากขายอยู่ดี -- T-Han จับเอาประสบการณ์เล็กๆน้อยๆที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน มาทำให้กลายเป็นเรื่องที่สนุกได้ ด้วยความที่มันเป็นเรื่องใกล้ตัว จับเอาของกินในช่วงหน้าร้อนอย่างไอศกรีม มาถักทอเรียงร้อยให้เข้ากับเรื่องราวความรักได้อย่างลงตัว เรียบง่ายแต่ลึกซึ้ง ได้ฟีลงานหนังสือทำมือ ที่เดินเรื่องสบายๆและไม่ค่อยเน้นงานภาพซักเท่าไหร่ (โดยเฉพาะงานฉาก ที่วาดได้โคตรยับชิบหาย)

   เข้าสู่เรื่องสุดท้ายของเล่ม อย่าง เวร (ภาณุพันธ์ จึงตระการ) การ์ตูนรักในธีมที่ไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนัก อย่าง การทำเวรในโรงเรียน โดยในเรื่องจะโฟกัสไปที่ พระเอกนางเอกพ่อแง่แม่งอนที่จิกกัดใส่กัน จนเพื่อนๆที่ทำเวรด้วยพอจะเดาทางออก มีแต่พระเอกคนเดียวเท่านั้นที่ไม่รู้เรื่อง มองนางเอกเป็นแค่เพื่อน และก็เป็นอย่างที่ทุกคนคิด นางเอกแอบชอบพระเอกมาโดยตลอด -- ดังนั้น "เวร" ในเรื่องนี้จึงมี 2 ความหมาย นั่นคือ "เวร" ที่หมายถึง หน้าที่ผลัดกันทำความสะอาด และ "เวร" ที่หมายถึง คำสบถเวลาทำสิ่งที่ผิดพลาดอย่างไม่น่าให้อภัย 

   โดยรวมทั้งเรื่องก็จะเด่นไปที่บทพูดปะทะคารมระหว่างพระเอกกับนางเอก ซึ่งจะมีให้เห็นกระจัดกระจายอยู่ตลอดทั้งเรื่อง แต่โดยรวมกลับทำออกมาได้เบามากๆสำหรับบทพูดเด็ก ม.ปลาย เหมือนไม่เคยเขียนแนวนี้มาก่อนเลยในชีวิต ยกตัวอย่างเช่น "ลูกผู้ดีแตะถังขยะไม่ได้" นี่คือคำด่าหรือคำชม? หรือ "เมื่อวานครูชมว่าเราเป็นคนดีด้วยแหละ" ก็เป็นคำด่าที่ฟังดูแล้ว น่าจะชวนให้เจ็บใจได้แค่เด็กประถมซะมากกว่า -- มีตัวละครน้องผมบ๊อบที่ชอบพูดจาน่ารักๆใส่คนอื่นอยู่เสมอ ซึ่งดูๆแล้วน่าจะเป็นตัวละครสมทบที่โดดเด่นได้ แต่พอจะมีบทจริงๆจังๆกับเค้า ก็ดันพูดแต่อะไรที่โคตรจะน่าอายออกไปซะหยั่งงั้น (อยากแปะตัวอย่างให้ดูใจจะขาด แต่เนื้อที่ไม่พอ) ทำให้การปรากฎตัวของน้องผมบ๊อบที่ดูเหมือนจะฟูใจคนอ่าน กลับกลายเป็นตัวละครที่น่ารำคาญไปในทันที -- และที่แย่ยิ่งกว่านั้น งานฉากวาดมืออันสวยสดงดงามในบางช่องของคุณภาณุพันธ์ กลับถูกลดคุณค่าลงด้วยการแปะสกรีนโทนที่ดูไม่เป็นมืออาชีพ ทำให้งานฉากในหลายๆหน้าดูแข็ง และไม่มีน้ำหนัก โดยเฉพาะฉากห้องเรียนในหน้าสุดท้าย ที่พอไม่มีเด็กอยู่ในฉาก ก็ยิ่งเห็นได้ชัดเลยว่าดูแข็งแค่ไหน -- แล้วก็งงใจจริงๆว่าทำไมตัวละคร "ครูเด็กมัธยม" ในการ์ตูนไทยหลายๆเรื่อง ถึงได้พูดจาสุภาพผิดกับที่เคยไปเจอมาขนาดนี้ พูดซะนึกว่ากำลังคุยกับเด็กอนุบาล ("อย่าลืมส่งหัวข้อก่อนเลิกคาบนะลูก") ไม่รู้ว่าโรงเรียนอื่นเป็นแบบนี้รึเปล่า แต่โรงเรียนตู มันไม่มีอะไรแบบนี้โว้ย!!!

   แล้วก็อีกอย่างหนึ่งที่จะฝากไปถึงคุณภาณุพันธ์ ในฐานะที่ติดตามผลงานมากว่า 5-6 ปี อยากจะบอกว่า เริ่มทำการ์ตูนจริงๆจังๆได้แล้วโว้ย!!! ยึกยักลงแต่รูปวาดอยู่นั่นแหละ จะไม่มั่นใจตัวเองไปถึงไหน เห็นในเพจวาดแต่เด็กผู้หญิงดีดกีต้าร์มาเกือบ 2-3 ปี วนซ้ำไปมาอยู่อย่างงั้น อยากจะบอกว่าไอ้การ์ตูนดนตรีเรื่องนั้นน่ะ ตูอยากอ่านจะแย่อยู่แล้ว รีบๆทำออกมาให้มันเป็นเรื่องเป็นราวซักทีสิเฟ้ย!!!

   ด้วยขุมพลังของเรื่องสั้นทั้ง 5 เรื่อง ที่เน้นไปที่ความหลากหลาย -- Summer เป็นรวมเล่มที่เต็มไปด้วยเรื่องสั้นการ์ตูนรักที่เน้นกินบรรยากาศสบายๆ เหมาะกับวันพักผ่อนในช่วงหน้าร้อน แม้คุณภาพเรื่องสั้นส่วนมาก อาจจะไม่ได้ดีเท่ารวมเล่ม First Love และ Miracle of Love แต่โดยรวมก็ถือว่าไม่ได้แย่ขนาดนั้น ในเมื่อเรื่องสั้นเรื่องสุดท้ายอย่าง เวร ของคุณภาณุพันธ์ สามารถปิดเล่มได้อย่างสวยงาม ด้วยบรรยากาศที่สนุกของแต่ละคนที่ได้ทำเวรร่วมกัน ก่อนจะเข้าสู่เดือนกรกฎาคม ซึ่งเป็นช่วงหน้าฝนพอดี ถือเป็นการเชื่อมเนื้อหาไปยังรวมเล่ม Rainy ได้อย่างเหมาะเจาะเหมือนนัดกันมา ราวกับเป็นสัญญาณบ่งบอกว่า เล่มต่อไปจะได้ออกในไม่ช้านี้แน่นอน ไม่ว่าผู้เขียนจะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม (ภายในเล่มจะแถมโมเดลร้านกาแฟกระดาษ (แบบต่อเอง) จากเรื่อง "ที่พักร้อน" และโมเดลตัวละครจากเรื่อง "Summer Survivor" ให้ด้วย)


เรื่องที่ชอบมากที่สุด Love & Test (พลอยไพลิน ศิริมุจลินทร์)
เรื่องที่ชอบน้อยที่สุด ที่พักร้อน (รุจา กลิ่นเกษร)

(สรุป 8/10)

ติดตามเพจที่ https://www.facebook.com/ThaiComicReview/

(ตีพิมพ์ครั้งแรกในเดือนเมษายน พ.ศ. 2559)



หนึ่งในซีนที่ชอบมากที่สุดของเล่ม




Create Date : 17 สิงหาคม 2565
Last Update : 9 ธันวาคม 2566 12:42:07 น. 2 comments
Counter : 805 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณ**mp5**, คุณnewyorknurse


 
แวะมาเยี่ยมและส่งกำลังใจครับ


โดย: **mp5** วันที่: 17 สิงหาคม 2565 เวลา:16:21:14 น.  

 
ง่า ขอบคุณมากๆครับ


โดย: เรลกันคุง วันที่: 17 สิงหาคม 2565 เวลา:16:33:40 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

เรลกันคุง
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




สวัสดีครับ ผมเรลกันครับ ชอบอ่านการ์ตูนมากๆ หวังว่าจะสนุกกันนะครับ




Friends' blogs
[Add เรลกันคุง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.