จุดหมายหลักในการเดินทางมาเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ในครั้งที่3นี้ 

"Lausanne"  เป็นหนึ่งในเมืองจุดหมายหลักที่ต้องมาเยือน  เป็นเมืองสำคัญที่ปีนี้เราวางแผนมาเพื่อตามหาสถานที่สำคัญ สมัย ร.9 ทรงพระเยาว์ที่ครั้งหนึ่งเคยประทับ ณ แผ่นดินอันอบอุ่นของสวิตเซอร์แลนด์  " เมืองโลซานน์ "  มีสถานที่สำคัญให้ระลึกถึงพระองค์ท่านมากมาย เป็นเหตุให้ครั้งนี้เราต้องมาที่เมืองนี้เป็นจุดหมายแรก
 

วันนี้ตามแผนเดิมเราจะเดินทางไปเจนีวา โดยจะเที่ยวในเมืองเขตตะวันตกของสวิส ในเขตสวิส-ฝรั่งเศส ไล่มาตั้งแต่ ออกจากซูริค - Olten-  Solothurn -  Biel -  Neuchatel  นอนค้างเจนีวา  พรุ่งนี้จะไปเมืองลียง ฝรั่งเศส เราจะไปเที่ยวสนามฟุตบอลลียงกัน กลับมานอนเจนีวา และเที่ยวเมืองโลซานน์ ในวันถัดๆไป จองโรงแรมที่เจนีวาไว้2คืนจ่ายเงินเรียบร้อยผ่านagoda แต่เกิดเหตุการณ์ผิดพลาด  มีการสไตร์สของคนงานฝรั่งเศสทั่วประเทศในช่วงวันที่เราจะไปฝรั่งเศส  พนักงานรถไฟหยุดเดินรถไฟทั่วฝรั่งเศส จึงต้องยกเลิกการไปฝรั่งเศส วางแผนเที่ยวกันใหม่หมด   สรุป วันนี้ไปโลซานน์ ซึ่งๆจริงๆไปกลับจากซูริคได้สบายๆไม่ต้องจองโรงแรมก็ได้   ในช่วงสามวันนี้จึงต้องเปลี่ยนแผนไปเที่ยวเมืองในแถบที่ใกล้เจนีวาแทน  เสียที่เที่ยวแถบอื่นไปอย่างน่าเสียดาย เพราะตามแผนเดิม ปีนี้เราไม่เที่ยวในเจนีวา ครั้งก่อนๆเที่ยวจนหมดไปแล้ว เสียวันเที่ยวภูเขาหิมะไปฟรีๆหลายวัน เสียดาย 

------------------------------------------------------

หัวใจในการเดินทางเที่ยวเองคือ แอพ SBB.CH  เช็คตารางการเดินรถไฟ เวลา เส้นทาง การต่อรถไฟได้ทุกอย่าง และสะดวกสบายด้วย  swiss pass 15day เดินทางได้สะดวกทั้งรถไฟ บัส เรือ รถราง ใช้ได้ตั้งแต่นั่งรถรางจากสถานีหน้าบ้าน 

7.38 รอรถรางสถานีใกล้บ้าน สถานี spital zollikerberg นั่งไปลงสถานีข้างทะเลสาบซูริค Stadelhofen รอจับรถด่วนที่วิ่งผ่าน นั่งไป2นาทีถึง Zurich HB เริ่มต้นการเดินทางวันนี้

8.30 Zurich HB 

สถานีรถไฟกลางซูริค  ไปชั้นใต้ดิน platform 32 วันนี้ขึ้นรถที่ชั้นใต้ดิน รถไฟไปโลซานน์ (รถIC ชั้นเดียว) (มีรถเส้นทางเดียวกันไปเจนีวา เป็นรถIC2ชั้นหรูหรากว่า ผ่านทางbern )

วันนี้เปลี่ยนแผนจากไปเจนีวาไปโลซานน์แทน   ขบวนนี้ผ่านเส้นทางเมืองฟากตะวันตกที่เป็นเขตเมืองสวิส-ฝรั่งเศส  นั่งสายนี้หากมีเวลาแวะเที่ยวเมืองต่างๆตามรายทางได้ 

Zurich HB

รอรถไฟชั้นใต้ดิน platform 32 วันนี้ไม่เจอนางฟ้าnanas 

รถไฟขบวนสวยมีให้เห็นเป็นประจำในสวิส 

บรรยากาศระหว่างทาง ตึกนี้น่าจะเป็นตึกของช็อคโกแลต Lind's &Sprungli 

8.52 เส้นทางนี้ออกจากซูริคมาทางเมือง  bern  เราจะผ่านเตานี้ทุกครั้ง เตาอะไรไม่แน่ใจ แต่เราเรียกเตานิวเคลียร์ เตานี้ใหญ่ที่สุด ถ้านั่งต่อไปเรื่อยๆ บริเวณเขตเมือง Biel จะเห็นเตาแบบนี้อีก2เตาแต่มีขนาดเล็กกว่านี้ 

9.02 Olten- 9.26 Solothurn - 9.45 Biel - 10.03 Neuchatel 

ผ่านเมืองแถบนี้ เป็นเมืองเงียบๆ สงบเงียบเรียบร้อย ฝั่งสวิส-ฝรั่งเศส นักท่องเที่ยวไม่นิยมแวะมากนัก  เป็นอีกฝั่งที่เรายังขาดข้อมูลยังไม่ได้มาแวะ ปีนี้วางแผนมาเที่ยวเก็บเมืองในเส้นทางนี้ทั้ง4เมืองไปกลับจากซูริคใช้เวลาไม่นาน แต่ถ้ามาจากเจนีวาจะค่อนข้างไกล 

ก่อนถึงโลซานน์ ผ่านแถบทะเลสาบเจนีวาที่มีการทำไร่องุ่นริมทะเลสาบ 

10.45 Lausanne 

จุดหมายในโลซานน์ วันนี้

-โรงแรม Beau- Rivage Palace " ที่ประทับดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์เจ้าฟ้ามหิดลปี2463 

-สวน สาธารณะ เลอเดอน็องตู Le Denantou ที่ตั้งศาลาไทย Thai Pavilion

-ปราสาทอุชชี่ Chateau D ouchy อายุ800ปี

-พระตำหนักวิลล่าวัฒนา (เดิม) ปัจจุบันถูกทุบทิ้งสร้างเป็นที่พัก มีชื่อ 51 Chemin de chamblandel 

-16Avenue Tissot ที่ประทับในปี 2476-2478 ในช่วงแรกประทับในโลซานน์

- Olympic Museum พิพิธภัณฑ์โอลิมปิก

-โรงแรมซา วอย ( Hotel Royal Savoy )โรงแรมหรู5ดาวที่สมเด็จย่าทรงโปรดปราน 

-Palais de Rumine สถานศึกษาที่ ร.9 เคยลงคลาสเรียนที่นี่ ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์ 

- Ecole Nouvelle dela suisse โรงเรียนที่ ร.8 ร.9 ทรงเข้าศึกษาในปี 1933-1945 (ไม่ได้ไป) 

- ลานสเก๊ต Montchoisi ice parkที่ร.8 ร.9 ทรงโปรดมาเล่นในวัยเด็ก(ไม่ได้ไป) 

- คลินิค Cecilที่ทรงรักษาตัวจากอุบัติเหตุ ปี1949 (ไม่ได้ไป) 

- ร้านช็อคโกแลต Laderach ตามหาช็อคโกแลตต้มยำ รสพิเศษที่ทางร้านทำถวาย 

Lausanne Switzerland 

เมืองริมทะเลสาบ ใหญ่อันดับ2รองจากเจนีวา ในเขตที่พูดฝรั่งเศสของสวิส เป็นเขตสวิส-ฝรั่งเศส ห่างจากเจนีวาประมาณ 36-50นาที 

10.45  Lausanne  Gare ถึงสถานีรถไฟโลซานน์ 

(เขตที่ใช้ภาษาฝรั่งเศสในสวิส สถานีรถไฟจะใช้ Gare แทน Bahnhof )

ภายในสถานีรถไฟโลซานน์ สวยคลาสสิค 

ลงไปชั้นใต้ดินหาที่ฝากกระเป๋ากันก่อน ที่ชั้นใต้ดินมีล็อคเกอร์ฝากกระเป๋า ต้องหยอดเหรียญ 9CHF เราเลือกตู้ใหญ่ขนาดใส่กระเป๋าเดินทางใบเล็กได้ มีตู้เล็กขนาดใส่เป้ ราคารองลงมาประมาณ4-5CHF (เริ่มแรกมาถึงก็เจอเรื่องให้ตื่นเต้นกันเลยไว้เล่าตอนท้ายละกันเหตุจากไปหาแลกเหรียญหยอดตู้นี่ล่ะ) 

เมืองโลซานน์แบ่งออกเป็น2ฟากเมืองหลักๆ คือฝั่งเหนือเป็นเขตเมืองเก่า โบสถ์ ร้านค้าแหล่งชอปปิ้ง ฝั่งล่างเป็นเขตเมืองใหม่ ริมฝั่งติดทะเลมีโรงแรมหรูหรามากมาย เขตนี้เรียกเขต Ouchy 

เราจะไปเที่ยวฝั่ง Ouchy กันก่อนเพื่อตามหาจุดหมายสำคัญ  

สถานีรถ Metro ที่จะไปฝั่งOuchy อยู่ตรงข้ามสถานีรถไฟโลซานน์ ข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามป้ายสถานี รถรางจะวิ่งลงจากเนินในเมืองลงไป 

ด้านนอกสถานีรถไฟ Lausanne

ข้ามถนนมาด้านตรงข้ามจะเจอทางเข้า Metro 

นั่งรถฟันเฟือง จากสถานี Lausanne- Ouchy ระยะทาง 1.5กม. สร้างในปี 1877 เป็นรถรางFunicularแห่งแรกในสวิส  เป็นระบบล้อเฟือง ปี2008เปลี่ยนเป็นระบบไฟฟ้า 

จากสถานีรถไฟMetro (M0) - ลงสู่ย่าน Ouchy (M4 Ouchy) รถฟันเฟืองจะวิ่งลงเนินจากตัวเมืองลงไปถึงป้ายที่4 

สถานี Metro  Ouchy

เมืองแห่งโอลิมปิค อย่าลืมแหงนดูเพดานระหว่างทางเดินออกไปยังหน้าสถานี 

มีป้ายธงนานาชาติด้วย

ที่สถานีรถราง Metro Ouchyนี้ นี้มีศูนย์นักท่องเที่ยวอยู่ด้านหน้าทางออก  มีแผ่นพับแจก เจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำดีมาก เราแวะหาแผ่นพับ 

ที่นี่เราพบของที่ระลึกเป็นหนังสือวางขายในศูนย์นักท่องเที่ยวด้วย สะดุดตากับเล่มแรก

เล่มนี้ KING BHUMIPOL วางเด่นอยู่ชั้นบนสุด ราคา49 CHF

ออกมาหน้าสถานี Metro Ouchy

Ouchy  เป็นย่านริมทะเลสาบเจนีวา หรือ ทะเลสาบเลอมัง (Lac Le Man) ในภาษาฝรั่งเศส  และมีท่าเรือ CGN ที่มีเรือเดินทางทั้งในสวิสและฝรั่งเศส มีทางเดินริมทะเลสาบเจนีวา เป็นทางเดินริมทะเลสาบเลียบยาวไปจนถึง สวน สาธารณะ เลอเดอน็องตู Le Denantou ที่ตั้งศาลาไทย Thai Pavilion

จุดหมายหลักของเราแห่งแรก เป็นทางเดินเลียบทะเลสาบ เป็นเส้นทางที่ ร.9 และทุกพระองค์ชอบเสด็จเดินเล่นชมวิวทะเลสาบเจนีวา เมื่อครั้งทรงประทับที่โลซานน์ มีวิวทะเลสาบเจนีวาและภูเขาหิมะสวยงาม 

วันที่เราไปเป็นวันที่เงียบสงบ ไม่มีคนมากนัก เงียบมาก 

ย่าน Ouchyและท่าเรือ CGN 

ห่างจากเมือง 1.5กม. มีวิวสวยงามของทะลสาบเจนีวาและเทือกเขาแอลป์ อากาศบริสุทธิ์มากสูดหายใจเอาความสุขเข้าเต็มปอด 

ที่นี่มีท่าเรือCGNล่องเรือไปยังฝั่งสวิสและฝรั่งเศส 

 มีหมากรุกยักษ์ให้เล่นริมทะเลสาบ เหมือนที่เจนีวาและbern แต่ที่นี่เป็นตารางเล็กๆ ม้าหมากรุกออกจะโทรมแล้ว

อยู่หน้า Metro 

จากนี้เราจะเดินเล่นริมทะเลสาบเจนีวาไปเรื่อยๆ มีโรงแรมสวยงามตลอดเส้นทาง

ปราสาทอุชชี่ Chateau D ouchy 

สร้าง คศ.1170 อายุ 800ปี เดิมเป็นที่มั่นบิชอปแห่งโลซานน์ ต่อมาเป็นที่คุมขังนักโทษ และสุดท้ายเป็นโรงแรมหรู 

" โรงแรม Beau- Rivage Palace " 

ที่ประทับดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์เจ้าฟ้ามหิดล ปี2463 เป็นที่ๆ ร.9 ทรงเสด็จกลับมาประทับพร้อมสมเด็จพระราชินี เป็นที่เดียวกับที่พระบิดาเคยมาประทับ เป็นโรงแรมริมทะเลสาบสีเหลืองอ่อนสวยคลาสสิค ที่มีวิวทะเลสาบเจนีวางดงาม

วิวทางเดินริมทะเลสาบ 

Olympic Museum พิพิธภัณฑ์โอลิมปิก

เมืองโลซานน์ เป็นเมืองที่ตั้งของคณะกรรมการโอลิมปิคสากล และองค์กรด้านกีฬาอีกหลายแห่ง และมีมิวเซียมสำคัญที่ไม่ควรพลาดที่นี่

Olympic museum เปิด 1000 -1800 หยุดทุกวันจันทร์เหมือนมิวเซียมทั่วไปในสวิส
ได้รางวัลพิพิธภัณฑ์ดีเด่นของยุโรป 

:  swiss pass เข้าฟรี 
เป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมเรื่องราว ทุกอย่างเกี่ยวกับโอลิมปิค จัดทำได้อย่างมีชีวิตเหมือนกับทุกๆที่ในสวิส ที่จัดทำมิวเซี่ยมได้อย่างยอดเยี่ยมน่าเอาเป็นแบบอย่าง

ไปตามหาเป้าหมายสำคัญกันก่อน มีเวลาเหลือเดี๋ยวกลับมาเข้ามิวเซียมกันอีกที 

ทางเดินเลียบทะเลสาบสวยงามมากตลอดเส้นทาง มีม้านั่งริมทะเลสาบเป็นระยะ เราแวะนั่งเล่นชมวิว กินขนม ไส้กรอก bratwurst ในเป้ มีความสุขมาก อากาศเย็นสดชื่นวิวเทือกเขาแอลป์เหนือทะเลสาบเจนีวาสวยมากยังมียอดเขาน้ำแข็งขาวโพลน 

เดินเล่นมาถึงสวนสาธารณะ จุดหมายของเรา 

สวน สาธารณะ เลอเดอน็องตู Le Denantou 

ที่ตั้ง " ศาลาไทย Thai Pavilion "
 

ศาลาไทย Thai Pavilion เป็นศาลาสีทองตั้งอยู่ด้านในสุดของสวน  สร้างเป็นที่ระลึกความสัมพันธ์ไทย-สวิส เป็นศาลาไม้แบบจตุรมุขมี4ด้านมีตราสัญลักษณ์ประดับที่มุขแต่ละด้าน  สร้างเสร็จในปี 2550 และสมเด็จพระเทพ ได้ทรงเสด็จเปิดในปี2552 เพื่อเฉลิมฉลองสองวาระคือ ในวาระร.9ทรงครองราชย์ครบ60ปี และครบรอบ75ปี ความสัมพันธ์ทางการฑูตไทย-สวิส 

วิวทะเลสาบมองจากที่ตั้งศาลาไทย

ฝนเริ่มตกปรอยๆลงเม็ด ฟ้าครึ้ม จุดหมายต่อไป น้องแทนไทนำทางตามพิกัดใน GPS 

จากศาลาไทย เดินขึ้นเนินไปเรื่อยๆ ตามพิกัด ผ่านหลายถนนและย่านบ้านเรือนชาวเมืองที่เงียบสงบ ต้นไม้ร่มครึ้ม ฝนยังตกเบาๆ เดินฝ่าสายฝนตามหา เรามาหยุดที่หน้าตึกสีเหลือง เป็นอาคารตึกตามพิกัดGPS บริเวณนั้นเป็นบ้านพักส่วนตัว ถึงพิกัดจุดหมายสำคัญโดยไม่มั่นใจว่าที่นี่คืออดีตพระตำหนักวิลล่าวัฒนาที่ตามหา แต่ดูจากพิกัดและภาพถ่ายดาวเทียม ตึกนี่แน่นอน

- 51 Chemin de chamblandel  หรือ พระตำหนักวิลล่าวัฒนา (เดิม) 

 ณ ที่เคยเป็นที่ประทับหลังจากขึ้นพิธิราชาภิเษกและกลับมาประทับที่โลซานน์ ก่อนเสด็จกลับประเทศไทยถาวร ปัจจุบันถูกทุบทิ้งสร้างเป็นที่พักส่วนบุคคล ตั้งบนเนินเขาเลขที่51  

GPS 46.5079906, 6.6453664 

ในบริเวณนี้เป็นบ้านที่พักส่วนตัวทั้งสิ้น บรรยากาศเงียบสงบมาก ไม่เห็นผู้คนผ่านไปมาเลย  เราถ่ายภาพที่พักมาแค่2ภาพ การมาที่นี่ควรสงบเงียบไม่ส่งเสียงให้เป็นการรบกวนแก่ผู้ที่พักอาศัย ไม่เดินเพ่นพล่าน การเคารพสิทธิส่วนตัวในสวิสเป็นสิ่งสำคัญมาก เรายืนแค่จุดนี้ถ่ายภาพบ้านพักมาเพียง2ภาพนี้เท่านั้น  แต่ก็อิ่มใจว่ามาตามหาจนเจอ

ตามหาจุดหมายต่อไป  เดินย้อนลงเนินมาที่ถนน 

นั่งbusสาย8 นั่ง5นาทีลงป้าย Alpes จะเห็นอาคารสีเหลืองสูง5ชั้น ที่มุมถนน Tissot ลงจากบัสกลับหลังหันจะเห็นทันที ถึงตรงนี้มีชาวเมืองสวิสมาสอบถามว่ากำลังจะไปไหนและช่วยชี้บอกสถานที่ ที่เรากำลังจะไปพร้อมบอกว่าเดินกลับไปขึ้นรถรางอย่างไร การเที่ยวเองของเราได้รับความเอื้อเฟื้อจากชาวเมืองสวิสอยู่ทุกที่ เป็นความประทับใจในการเที่ยวเสมอ 

- 16Avenue Tissot

ที่ประทับในปี 2476-2478 ในช่วงแรกประทับในโลซานน์ ถือว่าเป็นบ้านหลังแรกในโลซานน์ ที่ประทับอยู่ชั้นล่างเนื่องจากสมเด็จย่าทรงไม่ต้องการให้เป็นที่รบกวนเพื่อนที่ร่วมเช่าที่พัก ด้านหลังอาคารเป็นสวนที่ทั้งสองพระองค์พี่น้องเคยเล่นและฝึกหัดจักรยาน
เราเดินมาด้านหน้าอาคาร ห้องชั้นล่าง ปัจจุบันเป็นสำนักงานให้เช่า 

เหมือนกับทุกที่ บรรยากาศเงียบสงบมาก 

เดินกลับไปทางท่าเรือ Ouchy เพื่อกลับไป Olympic museum เราเดินไปทางถนนในเมืองเส้นคู่ขนานกับทะเลสาบ หรือใครจะเดินเล่นเลียบทะเลสาบกลับไปก็ได้ แต่ถนนเส้นนี้เดินไปจะเจอโรงแรมสุดหรูอีกแห่งที่เราตามหา  

- โรงแรมซา วอย ( Hotel Royal Savoy )

โรงแรมหรูหราเก่าแก่ เปิดปี 1909 เป็นโรงแรมหรูระดับ5ดาว ที่สมเด็จย่าทรงโปรดปราน เป็นอีกที่ที่ควรแวะชม 

เดินอ้อมเมืองมาทั้งวัน หาอะไรทานมื้อเที่ยงกันก่อน 

ข้อมูลที่หามา มีร้านพิซซ่าแถวๆนี้ ตรงข้ามปราสาทอุชชี่ Chateau D ouchy ถนนทางด้านหลังปราสาท

ร้านพิซซา  Boccalino Restaurant Pizzeria Lausanne Ouchy 

แวะร้านพิซซ่าหาอะไรทานง่ายๆรวดเร็ว ร้านพิซซ่าเป็นอีกอาหารยอดนิยมในสวิส ร้านนี้น่าสนใจดูจากเมนูหน้าร้าน มีเมนูครีเอทเยอะมาก 

ร้านบรรยากาศสบายๆแบบครอบครัว มองเห็นทะเลสาบเจนีวาอยู่ไม่ไกล 

ชื่อเมนูพิซซ่า แปลกๆ ทั้งชื่อเมือง นักฟุตบอล ดารา นักร้อง ประธานาธิบดี มีครบ เราเลือกเมนู  Signature 

Pizza Ouchy 20.5 CHF +up size 2 CHF เป็นขนาด 30cm (21.9CHF= 718บ.)

เมนูชื่อเดียวกับย่านนี้ Ouchy พิซซาเห็ดแชมปิญองใส่ผักกะหล่ำปลีดอง โรยไข่ต้มฝาน ถาดใหญ่ยักษ์แป้งบางกรอบ รสชาติแปลกดีอร่อยใช้ได้ 

Pizza Capri 19.9 CHF +up size 2 CHF เป็นขนาด 30cm (22.5 CHF= 738บ.)

พิซซ่าชื่อเกาะคาปรีในอิตาลี สมกับชื่อเกาะ เป็นพิซซ่าปลา มีปลาซาร์ดีนตัวใหญ่รสเค็มจัดโรยมะกอกดำ อร่อยมาก เป็นที่สังเกตุพิซซ่าที่นี่ถาดใหญ่มากอบร้อนๆอร่อยสุดยอด ที่นี่นิยมทานกันคนละถาดไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ เราสั่งมาเเค่นี้ยังหนักใจทานไม่หมดจริงๆ ใหญ่มาก  จริงๆยังอยากลองพิซซ่าชื่อนักฟุตบอลอื่นๆบ้างแต่ไม่สามารถ ที่สั่งนี้ทานไม่หมดทางร้านห่อใส่กล่องแข็งอย่างดีให้ด้วยน่ารักมาก ใครผ่านมาแถบนี้เเนะนำพิซซ่าร้านนี้ มีเมนูแปลกให้เลือก รสอร่อย   เป็นเมนูพิซซ่าที่สนุกในการสั่ง

lemon ขวดเล็กๆ ดื่มแก้เลี่ยนพิซซ่า ขวดละ  5CHF (164บ.) 

อิ่มอร่อยแล้วไปกันต่อ 

ก่อนจากลาบริเวณริมทะเลสาบย่านอูชี่ ouchy เราแวะพิพิธภัณฑ์โอลิมปิคก่อนกลับกันอีกรอบ  

- Olympic Museum พิพิธภัณฑ์โอลิมปิก

เป็นที่ห้ามพลาดหากมาโลซานน์ ที่นี่ได้รางวัลพิพิธภัณฑ์ดีเด่นของยุโรป 

 swiss pass เข้าฟรี

บันไดสลักประเทศเจ้าภาพโอลิมปิกที่ผ่านมา

ทางเข้า สมกับเป็นโอลิมปิคมิวเซียม 

swiss pass เข้าฟรี ติดต่อเจ้าหน้าที่จุดซื้อตั๋ว ห้องแรกเป็นจุดจำหน่ายตั๋วและร้านขายของที่ระลึก 

ด้านในมีทั้งหมด3ชั้น จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับโอลิมปิคในกีฬาทุกประเภทละเอียดยิบ 

ย้อนกลับไปนานตั้งแต่ยุคกรีก 

พาชมคร่าวๆ รายละเอียดในมิวเซียมตามชมต่อในblogspot

มาหยุดนานที่มาสคอต

บรรยากาศด้านในไม่ต่างจากมิวเซียมอื่นๆในสวิส มีสิ่งต่างๆที่เกี่ยวกับโอลิมปิคครบทุกอย่าง เก็บรักษาหลักฐานทุกอย่างละเอียด ดูแล้วคล้ายกับฟีฟ่ามิวเซียมที่ซูริค ครบแม้กระทั่งตั๋วเข้าชมหรือแม้แต่ชิ้นส่วนสนามกีฬา และยังเป็นมิวเซียม"มีชีวิต" มีแสง สี เสียง และมีของเล่นให้ผู้เข้าชมได้มีส่วนร่วม เป็นมิวเซียมที่ดูไม่เบื่อ 

เป็นมิวเซียมที่มีข้อมูลโอลิมปิคอัดแน่นมาก ขนาดที่เรารีบเดินดูผ่านๆยังใช้เวลานาพอสมควร 

ใครสนใจในกีฬา แนะนำมาชมมิวเซียมแห่งนี้ ครบสมบูรณ์แบบ

จบจากฝั่งOuchy ได้เวลาไปในเขตเมืองเก่า 

จากสถานี Ouchy (M4) นั่งรถรางขึ้นไปยังอีกฟากย่านเมืองเก่า เป็นแหล่งเมืองย่านถนนคนเดินและชอปปิง มีร้านค้ามากมาย มิวเซียม โบสถ์สำคัญอยู่ฟากเมืองด้านบนนี้ทั้งหมด  เราไปเยือนสถานที่สำคัญอีกแห่ง 

เขตเมืองเก่า 

เลือกลงได้หลายสถานี 

Metro : Lausanne Flon 

สถานีนี้อยู่ใจกลางเมือง ถนนคนเดิน ย่านชอปปิ้ง แต่เราลงที่สถานีนี้

Metro : Ripome M Bejart 

- Palais de Rumine ( Rumine Palace) 

เดิมคือพระราชวัง Rumine สถานศึกษาที่ ร.9 เคยลงคลาสเรียนที่นี่  ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์และห้องสมุด  อยู่ใกล้กับมหาวิหารโลซานน์ 

ที่อยู่ติดกันคือ มหาวิหารโลซานน์ เราเดินเข้ามาทางด้านข้างมหาวิหาร บรรยากาศตอนนี้หนาวเฉียบ ฝนตกปรอยๆมาทั้งวัน พยากรณ์อากาศที่นี่แม่นมาก 

มีจุดชมวิวเมืองในมุมสูงที่นี่ เจอคนไทยที่อาศัยในเจนีวาเข้ามาคุยด้วย 

ติดกันคือ มหาวิหารโลซานน์ ด้านข้าง 

มหาวิหารแห่งโลซานน์ (Lausanne Cathedral) 

( Cathedral of Notre Dame of Lausanne ) เปิดชมฟรี 9.00-19.00 

เป็นโบสถ์คาทอลิคตกแต่งอย่างวิจิตร มีขนาดใหญ่ที่สุดในสวิส สร้างในปี 1170- 1275  มีออร์แกนยักษ์ใช้เวลาสร้าง10ปี มีน้ำหนัก40ตัน

การเดินทาง มาได้หลายทาง ทั้งจากทางที่เรามา หรือลงรถรางที่ Metro : Bessieres มุมทางเดินจากด้านหน้าจะสวยแนะนำให้ลงทางสถานีรถรางที่ต้องเดินผ่านสะพานมาด้านหน้า 

มุมด้านหน้าจากสะพาน (สามารถลงรถรางที่สถานี Metro : Bessieres ) เดินผ่านทางสะพานมุมถ่ายรูปจะสวยกว่า เดินมาทางนี้จะเจอหน้ามหาวิหาร 

บรรยากาศโดยรอบ มีตึกอาคารเก่าๆและมิวเซียม 

เข้าไปในมหาวิหาร เข้าชมฟรี 

เป็นโบสถ์คาทอลิคตกแต่งอย่างวิจิตร มีขนาดใหญ่ที่สุดในสวิส 

ด้านในโดดเด่นด้วยกระจกสี งดงามมาก

 ความสำคัญของมหาวิหารนี้ มีออร์แกนยักษ์ใช้เวลาสร้างถึง10ปี  มีน้ำหนัก40ตัน

ยังมีสถานที่สำคัญที่วางแผนไป แต่ไม่สามารถไปได้ไปไม่ทัน อยู่ไกลเมืองมาก คือ 
- Ecole Nouvelle dela suisse
โรงเรียนที่สองพระองค์ ทรงเข้าศึกษาในปี 1933-1945เป็นโรงเรียนที่เห็นในสารคดีส่วนพระองค์บ่อยๆ  ส่วนสถานที่อื่นๆ
เช่น ลานสเก็ต Montchoisi ice parkที่ ร.9 ทรงโปรดสมัยยังวัยเยาว์ อยู่ใกล้แต่ลืมไปไม่ได้แวะ ส่วน คลินิค Cecilที่ทรงรักษาตัวจากอุบัติเหตุ ปี1949 อยู่คนละฟากเมืองไปไม่ทัน

เดินเล่นในเมืองเก่า ตามหาจุดหมายสุดท้าย ไกลมาก ร้านช็อคโกแลต

เดินผ่านจัตุรัสกลางเมืองแถบนี้น่าจะเป็นแถบที่สวยที่สุด มีศาลาว่าการเมือง  Place de la Louve

หยุดดูน้ำพุสวย มีทุกเมือง น้ำพุนี้น่าจะเป็น น้ำพุเทพีแห่งความยุติธรรม 

มุมน่ารักในเขตเมืองเก่า เรามักเห็นตุ๊กตาแบบนี้ในเขตเมืองเก่า อีกเมืองที่เห็นเยอะคือ Appenzell 

ร้านช็อคโกแลต Laderach Lausanne 

ตามหาช็อคโกแลตต้มยำ รสพิเศษที่ทางร้านเคยทำถวาย ร.9 ตามข้อมูล มีช็อคโกแลตรสต้มยำขายที่นี่ สาขานี้ที่เดียว ร้านเดียวในสวิส 

ตามข้อมูล สาขานี้ Blese Poyet ครีเอทีฟช็อคโกแลตของร้าน เคยทำช็อคโกแลตต้มยำสูตรพิเศษ ถวายแก่ ร.9 และเคยมีขายที่นี่สาขาเดียวในสวิส 

เดินวนเวียนหาช็อคโกแลตนี้ตั้งนาน สุดท้ายพนักขายแจ้งว่าไม่มีขายที่ร้านแล้ว แต่มีขายอีกสาขาที่เมือง Vevey ที่อยู่ถัดไป เมืองชาลี แชมปลินที่เราจะไปเที่ยวกันในวันต่อไป สรุปว่ามาถึงร้านแต่ไม่เจอช็อคโกแลตต้มยำ น่าเสียดาย   

สรุป วันนี้ถึงพลาดกับช็อคโกแลตต้มยำ แต่ก็ปิดทริปวันนี้ด้วยความอิ่มเอมใจ ภารกิจส่วนใหญ่สำเร็จตามหาสถานที่สำคัญในประวัติศาสตร์จนเจอเกือบครบ ได้เดินเล่นสัมผัสความสวยงามของเมืองโดยเฉพาะริมทะเลสาบเจนีวา 

จากนี้นั่งรถไฟกลับจากโลซานน์ ไปพักเจนีวาคืนนี้ 

17.36 Lausanne Gare