เล่าสู่กันฟัง
Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2560
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
13 กรกฏาคม 2560
 
All Blogs
 
ห้องไม้ริมกำแพง





สวัสดีครับ นี่ถือเป็นบล๊อคแรกเริ่มเลยนะครับสำหรับผม ก็ไม่มีอะไรมากครับละแวกเมืองกับชุมชน ที่ผมอยู่ และวิถีชีวิตไม่ซับซ้อน ไปมาๆอยู่ไม่กี่ที่ระหว่างบ้านที่นอนกับที่ทำงาน เรื่องที่จะเล่าส่วนใหญ่ผ่านมุมมองของตัวเองและหลายๆประสบการณ์ที่รวมๆกัน อาจจะไม่ได้ตื่นเต้นหวือหวาหรือ แต่จะพยายามเล่าเรื่องที่เป็นที่พบเจอได้ในสังคมทั่วไป  ผ่านทางวิถีชีวิตของชุมชน หรือเป็นเรื่อง"เล่าสู่กันฟัง"เหมือนเรานั่งโขกหมากรุกกัน ทานปิงซูกัน แล้วฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก็เริ่มสนทนา  "นี่ ...รู้ไหม ...อ่ะนะ วันนั้นเขาไป" "เออไอ้ตรงนั้นหน่ะที่คนชอบเดินผ่านบ่อยๆหน่ะเขาว่ามันมี..."  
อะไรทำนองนั้น

ผมชอบถ่ายภาพครับเลยจะเล่าเรื่องส่วนใหญ่ผ่านภาพถ่าย
คือเดินๆไปเจออะไรน่าสนใจก็จะถ่ายเก็บไว้เหมือนบันทึกเหตุการณ์ ไว้เตือนความทรงจำ
วันนั้นก็เดินสะพายกล้องไปเรื่อยๆแถวริมน้ำ
ปรกติ เวลาเดินแถวตึกเก่าริมแม่น้ำจัน ก็จะมาหยุดกันตรงหน้าห้งน้ำที่เขาทำใหม่ให้นักท่องเที่ยว ไม่ก็ข้ามไปอีกฟากของถนน ไปซื้อกล้วยปิ้งเจ้าอร่อยทาน แต่วันนั้นอยากเดินย้อนขึ้นไปทานเนินหน้าโรงพัก มันจะเป็นเนินลาดยาวเลียบกำแพงปูนสูงใหญ่ของวัดโบสถ์ สูงมากครับประมาณตึกสี่ห้าชั้นได้ แล้วที่ฐานกำแพงของวัดจะมีรูระบายน้ำที่เจาะไว้เห็นเป็นหลุมๆ เป็นระยะๆ มีห้องไม้อยู่หลังนึงสร้างขึ้นมอบยาวไปกับตัวกำแพง จะเรียกว่าเป็นบ้านก็คงไม่น่าได้ เป็นแค่ห้องห้องหนึ่งซึ่งยาวนาบไปตามกำแพงมีหลังคาภายใน มีสองชั้น ชั้นล่างโล่ง ชั้นบนแบ่งเป็นห้องๆ
ตอนแรกก็จะเดินผ่านไปเหมือนๆมันไม่มีอะไรเพราะเป็นห้องแถวธรรมดา แต่สายตามันเหลือบมองเข้าไปเห็น องค์ประกอบระเกะระกะภายในบ้านเห็นอารมณ์ของช่างไม้และช่างอิเล็คทรอนิคส์ปนเปกัน เห็นความ"จริง"ของ วัตถุและความดิบแบบไม่เสแสร้ง เลยสะดุดมาก
ลุงต้อนรับผมด้วยรอยยิ้ม แต่เป็นยิ้มแบบแห้งๆ เหมือนฝืนยิ้ม
"สวัสดีครับลุง ลุงทำอะไรอยู่ครับ" ผมยกมือไหว้พร้อมกล้อง
"ซ่อมเฟอร์นิเจอร์ไม้ เข้ามาสิ"
"เออขออนุญาติถ่ายรูปได้ไหมครับ" ผมขออนุญาติตัวแบบก่อนตามธรรมเนียม
"เอาสิ ตามสบาย  แต่รกหน่อยนะ มันไม่มีอะไรน่าถ่ายหรอก" (ลุงไม่รู้เหรอครับอิอิ สวรรค์ของคนLiveเลย)
หลังจากพูดคุยสอบถามเรื่องที่มาที่ไปว่าแกเป็นใครมาจากไหนได้สักพัก ลุงเริ่มเล่า พร้อมๆกับผมบันทึกภาพไปเรื่อยๆ 


ลุงเงยหน้าพร้อมหลับตา ย้อนนึกไปถึงวันที่แกมาเมืองจันใหม่ๆ
"ผมเป็นคนลพบุรี" แกเล่าถึงที่มาที่ไปที่ทำให้แกได้มาอาศัยอยู่"ข้างกำแพงวัด" ของวัดโบถส์เมืองจัน เมื่อประมาณปี พศ.2535
"ตอนนั้นบ้านไม้แถวริมน้ำยังสวยมาก ไฟยังไม่ไหม้" แกเล่า
"ก็รับหมดนะไม่ว่าใครจะเอาอะไรมาให้ซ่อมให้แก้ ถ้าพอทำได้จะทำ วิทยุทีวีตู้เย็น ...เฟอร์นิเจอร์ก็ทำ แต่ตอนนี้มันยุคดิจิตอล ไอ้เราก็ไม่มีความรู้เรื่องระบบนี้เลย มันคนละเรื่องกัน ต้องรับงาน แก้เล็กๆน้อยๆไปเท่าที่พอทำได้ เพราะลูกค้าน้อยลงมาก ดีที่ทางวัดไม่ได้เอาอะไรมาก ทุกวันที่ทำนี้ก็ พออยู่ได้ พอไปได้ ลำบากมั้ง ไม่รู้สิว่าแบบไหนที่เรียกว่าลำบาก เพราะไม่รู้เหมือนกันว่าแบบไหนที่เขาเรียกสบาย เรียกพอใช้ เพราะไม่เคยได้เจอ ก็หากินไปวันๆ55"
PHOTO : Pema Adulvitayakorn
Chanthaburi riverside-community

"I can't describe meaning of "good life" cause I really don't know it. May my present is ok for me, I don't know55. Just keep going on..." Said form the elder who let his vision blow aways up to to stain ceiling in his fixing shop stay beside basement of "Wat Boht" Temple ,Chanthaburi town Thailand.




Create Date : 13 กรกฎาคม 2560
Last Update : 13 กรกฎาคม 2560 17:35:59 น. 0 comments
Counter : 629 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

สมาชิกหมายเลข 3982904
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add สมาชิกหมายเลข 3982904's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.