เรื่องราวผู้หญิงกับการเดินทางด้วยหัวใจ 2 ล้อ (มอเตอร์ไซด์) รวมถึงการท่องไปในโลกกว้างด้วยวิธีการอื่นๆ คลอเคล้าด้วยคนตรีไพเราะหลากหลายรูปแบบ เรามาผจญภัยด้วยกันนะคะ
Stem cell ... ช่วยให้สวย หรือ ชะลอความชราได้จริงหรือ !!??

ผู้หญิงทุกคน ไม่มีใครไม่อยากสวย เพียงแต่คำว่าสวยของแต่ละคน ไม่เท่ากัน จากนั้นก็ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจว่าต้องการเปลี่ยนแปลงตัวเองหรือไม่ ซึ่งส่วนใหญ่ ขอให้ได้สวย แม้จะต้องจ่ายเงินมากมายหรือเจ็บตัวแค่ไหน ก็ยอมทุ่มเทกันเต็มที่

เพราะเหตุนี้...ในปัจจุบัน เราจะเห็นว่ามีผลิดภัณฑ์ นวัตกรรมเพื่อช่วยเสริมเติมแต่ง เพื่อก่อให้เกิดความงามออกมาสู่ท้องตลาดอย่างมากมายมหาศาล จริงบ้างไม่จริงบ้าง ก็แล้วแต่ผู้ซื้อจะสรรหามาใช้ หรือ ไปใช้บริการ

วันนี้...จึงอยากเขียนถึงความรู้เรื่อง Stem Cell ว่าคืออะไร แล้วช่วยให้สวย ไม่แก่ได้จริงหรือไม่ อย่างไรค่ะ

ถ้าเราสังเกตุดูความแตกต่างระหว่างเด็ก กับ ผู้ใหญ่ ชัดเจนเลยว่าเด็กมีผิวหนังที่เต่งตึงกว่าผุ้ใหญ่ ยิ่งเด็กเล็กๆ แล้วด้วย ผิดใส เนียน ละเอียด กว่ามาก รวมทั้งการหายของแผลที่ผิวหนัง ยิ่งเมื่อเป็นแผลตั้งแต่วัยเด็กเล็กลงไปเท่าไหร่ ก็จะคงเหลือแผลเป็นเมื่อตอนเป็นผู้ใหญ่น้อยเท่านั้น

นอกจากนี้ หากเรามองสิ่งมีชีวิตบางประเภท เช่น จิ้งจก แม้จะเป็นจิ้งจกแก่ๆ เมื่อหาขาด ก็สามารถงอกใหม่มาทดแทนได้เหมือนเดิมอย่างไม่มีผิดเพี้ยน

ทำให้เหล่านักวิทยาศาตร์สงสัยว่า อะไรที่ทำให้การซ่อมแซมตัวเองในเด็กนั้นดีกว่ามาก และกลไกใดในสัตว์ที่ทำให้ทำเช่นนั้นได้ ถ้ามนุษย์สามารถเฉลยความมหัศจรรย์เหล่านี้ได้และนำไปประยุต์ใช้ในคน ก็จะเปลี่ยนโฉมหน้าของวงการแพทย์ในอนาคต

เซลล์ที่ประกอบเป็นร่างกายมนุษย์โตเต็มวัยมีปริมาณถึง 60 ล้านล้านเซลล์ เซลล์แต่ละชนิดมีหน้าที่และคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป ความที่เซลล์มีขนาดเล็กมากและต้องทำงานยอย่างหนัก เป็นเหตุให้แต่ละเซลล์จึงมีชีวิตที่สั้น เพียงแค่ 2-3 ปีเท่านั้น ดังนั้นธรรมชาติจึงออกแบบให้มี "เซลล์อะไหล่" เอาไว้ทำหน้าที่สร้างเซลล์ขึ้นมาเพื่อทดแทน เพื่อให้ชีวิตดำรงอยู่จนสิ้นอายุขขัย

เริ่มแรกการทำวิจัยต่างๆ เกี่ยวกับ Stem cell เกิดขึ้นเพื่อใช้ในการรักษาโรค (Disease) จริงๆ เช่น มะเร็ง, โรคที่เกิดจากความเสื่อมสภาพ, โรคที่เป็นแต่กำเนิดบางชนิด) ซึ่งการนำมาใช้ในวงการ Aesthetic และ Anti-ageing medicine นี้เป็นผลพลอยได้

Stem cell หรือ เซลล์ต้นกำเนิด คือ เซลล์ที่มีความสามารถในการสร้างสเต็มเซลล์ใหม่ขึ้นมาอีก ทำให้ได้ปริมาณสเต็มเซลล์เพิ่มขึ้น บวกกันความสามารถในการเปลี่ยนสภาพจากสเต็มเซลล์ไปเป็นเซลล์ที่มีคุณสมบัติเฉพาะเจาะจง ซึ่งร่างกายกำลังต้องการใช้ เพื่อซ่อมแซมส่วนที่ศึกหรอหรือขาดหายไป



โดย Stem cell จะเป็นเซลล์อ่อนที่ยังไม่มีคุณสมบัติใดๆ แต่มีศักยภาพที่จะเพิ่มจำนวนตัวเองขึ้นมาใหม่ได้อีก (Self Regeneration)
แล้วพัฒนาให้กลายเป็นเซลล์ที่มีคุณลักษณะเฉพาะเจาะจง (Differntiation) ไปเป็นเซลล์ที่ต้องการในที่สุด

ชนิดของ Stem cell (* ในที่นี้พูดถึงแค่ตามแหล่งที่มา ที่ใช้จริงๆ ในบ้านเราเท่านั้นค่ะ)


1 Embryonic stem cells เป็นสเต็มเซลล์ในช่วงตั้งแต่ปฏิสนธิจนถึงก่อนทารกจะคลอด ซึ่งในช่วงนี้จะสามารถจำแนกชนิดของสเต็มเซลล์ได้อีกหลายลำดับ โดยจะมี Fetal stem cells เป็นช่วงที่นำมาใช้ในปัจจุบัน คือ เป็นสเต็มเซลล์ที่นำมาจากตัวอ่อนทารก ในระยะ Fetus ( 8-12 สัปดาห์ของการตั้งครรภ์ ) แต่มีราคาแพงมากกกก คงเคยได้ยินว่ามีดาราบางคนไปฉีดกันมาจากเมืองนอกเมืองนา ราคาเป็นแสนเป็นล้าน


2 Adult stem cells ( Tissue หรือ Somatic Stem cells ) เป็นสเต็มเซลล์ในช่วงปลาย Fetus จนถึงหลังคลอด กระทั่งเป็นผู้ใหญ่ ซึ่งจะมีความสามารถในการสร้างเซลล์ได้น้อยกว่า Embryonic stem cells แต่มีความปลอดภัยต่อผู้รับมากกว่า หาได้จาก สายสะดือ, น้ำคร่ำ, รก และในร่างกายของเราเอง (ไขกระดูก, เลือด, ผิวหนัง, ตับ แต่บางอวัยวะ เราก็ยังหาไม่เจอว่ามีไหม) แต่ยิ่งเราแก่ตัวมากขึ้น สเต็มเซลล์เหล่านี้ก็จะหายากมากขึ้นเรื่อยๆ

การนำไปใช้ในปัจจุบัน

- Bone Marrow Transplantation การเปลี่ยนถ่ายไขกระดูก จากผู้บริจาคที่ผ่านการตรวจสอบว่าเข้ากันได้กับผุ้ป่วย นี่ก็เป็นการนสเต็มเซลล์ไปใช้ในอีกทางหนึ่ง ที่มีมานานแล้ว ใช้ในการรักษาผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งเม็ดเลือด

- Umbilical cord stem cells คงเคยได้ยินเรื่องของการเก็บสายสะดีอไว้เพื่อให้ลูกใช้ในอนาคต เดี๋ยวนี้มีบริษัทมากมายที่รับฝากสายสะดือของลูกไว้ตั้งแต่แรกคลอด

คำที่เรานะได้ยินบ่อยขึ้นในอนาคต นั่นคือ Cell Therapy ก็คือการฉีดสารที่มีเซลล์ จะเป็นสเต็มเซลล์หรือเซลล์ปรกติที่เหมือนกันในร่างกาย อาจจะนำมาจากส่วนประกอบของตัวอ่อนมนุษย์ หรืออาจสกัดมาจากเนื้อเยื่ออวัยวะของสัตว์ในระยะตัวอ่อน (สัตว์ที่ใช้ในปัจจุบัน ได้แก่ แกะม กระต่าย) เพื่อให้เข้าไปกระตุ้นให้ซ่อมแซมร่างกายเราเอง โดยไม่ต้องผ่าตัด ซึ่งแต่ละที่ก็คิดชื่อเรียกกันเอง เช่น Cellular therary, Live cell therapy, Freash cell therapy เป็นต้น



อย่าสับสนกับคำว่า Biochemical Therapy (การรักษาบำบัดแนวชีวะโมเลกุล) คือ การนำสารจากเนื้อเซลล์ (Cytoplasm) ของอวัยวะชนิดเดียวกันฉีดเข้าสูร่างกาย เพื่อมาเป็นตัวกระตุ้นการทำงานของเซลล์ที่เสือมสภาพ

ในแง่ของวงการความงามและศาสตร์การชะลอวัยในประเทศไทย ถึงแม้จะมีการโฆษณาในเรื่องสเต็มเซลล์แบบสดๆ ที่ยังมีชีวิต (Live) ในความเป็นจริงแล้วเป็นไปได้ยาก เนื่องจากราคาที่แพงลิบลิ่ว การนำมาให้คนไข้จะถูกนำส่งจากห้องปฏิบัติการโดยตรงและบรรจุอยู่ในภาชนะพิเศษด้วยความเย็นจัด เพื่อคงสภาพมันไว้

สิ่งที่เกี่ยวข้องกับรก (Placenta extract) รวมทั้ง Live หรือ Fresh cells จึงเป็นในแง่ของการสกัดสารจากเซลล์ (Extraction) มาใช้เสียมากกว่าที่จะมีสเต็มเซลล์อยู่จริง (ในเมืองนอกมี แต่ราคาแพงมากกกก) แต่สารสกัดที่มาเหล่านี้มีหลายตัวที่เป็นประโยชน์ในการช่วยชะลอความชรา ( เช่น Humen Growth Factor, IGF-1, CRH, ACTH, IL-6, IL-10, GnRH เป็นต้น )

อนาคต วิวัฒนาการทางวิทยาศาสตร์ที่ก้าวหน้ามากขึ้น จะทำให้เราหาทางสกัดสเต็มเซลล์จากแหล่งที่หาได้ง่ายขึ้น เช่น ไขมัน, ฟันน้ำนม, หรือแม้แต่กระทั่งเลือดจากประจำเดือน



การนำมาใช้กับมนุษย์ในปัจจุบันยังเป็นเพียงระยะเริ่มต้นในระยะเวลาไม่นาน ว่าสามารถทำให้ผู้ที่ได้รับการบำบัดด้วยวิธีนี้มีสุขภาพที่ดีขึ้น หรือคืนความรู้สึกอ่อนวัยได้จริง แม้ในปัจจุบันจะมีการรับรองว่าปลอดภัย แต่ในระยะยาว ก็ยังไม่มีคำตอบ การเลือกที่จะรับการรักษาด้วยวิธีนี้คงต้องไตร่ตรองถึงความเสี่ยงและความคุ้มค่าด้วยตัวของท่านเองใด้ดี

ใครอยากอ่านเรื่องนี้เพิ่มเติมลองเข้าไปในนี้ค่ะ stemcells.nih.gov เป็นเวปของอเมริกาค่ะ



Create Date : 30 กรกฎาคม 2553
Last Update : 5 เมษายน 2554 15:34:05 น. 2 comments
Counter : 2487 Pageviews.

 
คุณอาของป้าแอ๊ดเคยไปใช้บริการนี้ที่มาเปิดในเมืองไทยแล้วค่ะ
ได้ผลจริงๆ นะคะ คุณอาอายุ 74 แล้ว หน้าตายังเต่งตึงอยู่เลย

แต่ราคาไม่ต้องพูดถึงนะคะ เล่นซะกระเป๋าแฟบไปเลยละ

ที่คุณอาเล่าให้ฟังคือ มีคนไข้คนหนึ่ง เดินไม่ได้
แต่เมื่อมาฉีดสเต็มเซลล์นี้แล้ว ไม่นานก็เดินได้ค่ะ แทบไม่น่าเชื่อ แต่ก็เป็นจริงไปแล้ว

ปัจจุบันการใช้สเต็มเซลล์ จะใช้มากในกลุ่มของคนมีเงิน และชนชั้นสูงที่รวยๆ ค่ะ

(เฉพาะแค่การตรวจ ว่าเจ็บไข้จากอาการอะไร เบื้องต้น ก็กว่า 5,000 บาท เป็นอย่างต่ำ)




โดย: addsiripun วันที่: 30 กรกฎาคม 2553 เวลา:18:44:07 น.  

 
ใช่ค่ะ เพราะราคาของอุปกรณ์ที่นำมาใช้สกัดนั้นแพงลิบลิ่วจริงๆ ค่ะ ราคาของการรักษาด้วยวิธีนี้ ในกรณีของ Live หรือ fresh จึงได้แพงหูตาเหลือก

แต่ก็นับว่าเป็นเรื่องดี เพราะในอนาคตราคาก็ต้องถูกลงเรื่อยจนอาจจะกลายมาเป็นการักษาหลักในบางโรคในที่สุดแน่นอนค่ะ


โดย: blue passion วันที่: 30 กรกฎาคม 2553 เวลา:19:37:57 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

blue passion
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 47 คน [?]




มีหัวใจไว้เดินทาง ค้นหาความหมายของชีวิต เพื่อเติมเต็มให้กับคำถามที่เกิดขึ้นมากมายระหว่างการเติบโต วิธีการในการเดินทางมีมากมาย แต่ ณ วันนี้ ขอเลือกสองล้อเป็นพาหนะในการนำพาไปสู่จุดหมายปลายทาง

Site Meter

Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add blue passion's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.