ชื่อหนังสือ : โลกเก้าใบในร้านหนังสือ
เขียนโดย : วิวัฒน์ เลิศวิวัฒน์วงศา และคณะ
พิมพ์ครั้งแรก : กรกฎาคม 2553
สำนักพิมพ์ : ร้านเล่า
จำนวน 119 หน้า ราคา 150 บาท

กระซิบก่อนอ่าน

   “ โลกเก้าใบในร้านหนังสือ ” เต็มไปด้วยเรื่องราวของโลกหลากรสชาติ ซึ่งนักเขียนรับเชิญทั้ง 9 คนตั้งใจกลั่นและกรองแล้วปรุงรสเรื่องราวต่าง ๆ ในรูปแบบของทั้งเรื่องสั้น บทบันทึก สารคดี ที่ใช้ฉากของร้านหนังสือมานำเสนอด้วยหัวใจอันยิ่งใหญ่มอบให้กับ “ ร้านเล่า ” ด้วยความเต็มใจ โลกในร้านหนังสือ เต็มไปด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย ยิ้ม สนุก สุข เศร้า และมีน้ำตาบ้างในบางครั้ง แต่เมื่อย้อนคิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมาเมื่อไร หรือไม่ว่าจะเป็นอารมณ์ใด ๆ ที่เกิดขึ้นในร้านหนังสือก็ตาม มันก็ล้วนเต็มไปด้วยความหมายและมากมายเรื่องเล่าไม่รู้จบ.....


ขอบคุณรายละเอียดและภาพปกจาก... เคล็ดไทย ... นะคะ

แวะเคาะประตูร้านหนังสือ

เขียนความรู้สึก...บันทึกหลังอ่าน

   ขณะเดินเลียบ ๆ เคียง ๆ ไปตามชั้นหนังสือในห้องสมุดของมหาวิทยาลัยในบ่ายวันหนึ่งเป็นการคั่นเวลาระหว่างรอการบรรยายในวิชาถัดไป สายตาของหวานเย็นก็ไปสะดุดเข้ากับ โลกเก้าใบในร้านหนังสือ หนังสือเล่มบาง ๆ ที่มีชื่อน่าสนใจเล่มนี้ หากถามว่าเรื่องราวในโลกแต่ละใบที่รอคอยการค้นพบอยู่นั้นเป็นอย่างไร หวานเย็นจะหยิบยกบางบทบางตอนมายั่วยวนให้คุณอยากอ่านกันค่ะ ค่อย ๆ ตามมาช้า ๆ นะคะ

   โลกใบแรก... ชายหนุ่มคนหนึ่งได้รับมรดกเป็นหนังสือมากมายในร้านหนังสือชื่อ ' นอร์ท วินด์ บุ๊คส์ ' เขาจึงเดินทางมาเพื่อค้นพบบางสิ่งบางอย่างที่รอคอยให้เขาได้พบเจอ ใน นอร์ท วินด์ บุ๊คส์ ถ่ายทอดเรื่องราวโดย นฆ ปักษานาวิน

   ' เรารู้จักคนคนนั้นจากหนังสือที่เขาเลือกอ่าน ผมชงกาแฟจากหนังสือที่คุณเลือก นี่ไง คุณเข้าใจหรือยัง โลกในเชิงอุปมา ในโลกของการอุปมา ที่นี่คือจุดศูนย์กลางของเอกภพคู่ขนาน แต่ช่างเถอะ คุยเรื่องของคุณดีกว่า '

   โลกใบที่สอง... ชีวิตน้องปีหนึ่งในรั้วมหาวิทยาลัย กับรุ่นพี่กลุ่มหนึ่งซึ่งอาศัยร้านหนังสือซาโรยันเป็นจุดนัดพบ พูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับหนังสือที่ได้อ่าน ใน ร้านหนังสือชื่อซาโรยัน และเพื่อนปรารถนาให้ยามเย็นมาถึงอีกครั้งหนึ่ง ถ่ายทอดเรื่องราวโดย สุวิชานนท์ รัตนภิมล

   นับจากวันที่ยอดผักบุ้งกระโจนลงกระทะน้ำมันอย่างพร้อมเพรียงกัน จนได้เมนูผักบุ้งไฟแดงหอมกรุ่นไปทั้งบ้าน เหมือนผมได้รับอนุญาตผ่านประตูเข้าออกร้านซาโรยันอย่างเต็มตัว เย็นมาเมื่อไหร่ วงพูดคุยหลังร้านก็จะเป็นไปอย่างเข้มข้นทุกวัน แต่ผมเป็นฝ่ายนั่งฟังเสียมากกว่า เหมือนโลกการอ่านของผมได้เปิดขึ้นอย่างเป็นทางการด้วย ผมได้ยินชื่อ เฮอร์มานน์ เฮสเส นักเขียนเยอมันเป็นครั้งแรก ฟรานซ์ คาฟคา, จอห์น สไตเบ็ค, เออร์สกิน คอลเวลล์, เอเนสต์ เฮมิงเวย์, ลีโอ ตอลสตรอย, แม็กซิม กอร์กี้, รพินทรนาถ ฐากูร, คาลิล ยิบราน และนักเขียนอีกมากมายที่เรียงตัวกันเข้ามา

   โลกใบที่สาม... เมื่อคนรักหนังสือและหนังสือได้ใช้เวลาร่วมกันอยากสงบ ค่อย ๆ เรียนรู้ ทำความรู้จักกันผ่านตัวอักษร แม้จะห่างเหินกันบ้างในบางครา แต่เมื่อได้กลับมาพบกันอีกครั้ง ได้หยิบหนังสือเล่มโปรดเล่มนั้น หรือเล่มไหนมาอ่านก็ยังคงมีคำว่า ' รัก ' มอบให้อยู่เสมอ ใน คนรักภายใน ถ่ายทอดเรื่องราวโดย รวิวาร

   ความอบอุ่นมั่นใจของชีวิตคือมีเธอรออยู่เสมอ ในร้านหนังสือที่ที่ฉันเคยคุ้น ที่ซึ่งมีกลิ่นอายและรอยเหยียบย่างของฉัน เหนียมอายอยู่บนชั้น เงี่ยฟังเสียงฝีเท้าที่เธอรู้จักทุกคืนวัน ท่ามกลางความช่วยเหลือของคนเสื้อขาวผู้ให้เวลาแก่เรา ขอบคุณที่เขาไม่ทำหน้าบูดบึ้ง คอยเปิดเพลงไพเราะ ดูแลความสะอาด และจัดสรรความเงียบ ที่ว่าง อย่างเคารพในความเป็นส่วนตัวของคู่รัก

   โลกใบที่สี่... เมื่อเปลวอัคคีเริงระบำ ณ ร้านหนังสือ หน้ากระดาษหนังสือย่อเป็นเชื้อเพลิงชั้นดีในการเผาผลาญ ใน 452 ถ่ายทอดเรื่องราวโดย FILMSICK วิวัฒน์ เลิศวิวัฒน์วงศา

   เราพบกันในร้านหนังสือ

   ระบำเปลวเพลิงสีส้มโชติช่วงชัชวาลด้วยเชื้อไฟจาก มาเกอริต ดูราส์ ฟรานซ์ คาฟคา ยูกิโอะ มิชิมา กนกพงศ์ สงสมพันธุ์ ฮารูกิ มุราคามิ หรือ แดนอรัญ แสงทอง หน้ากระดาษในร้านหนังสือเก่าลุกติดไฟโดยเท่าเทียมกันไม่เลือกว่าคลาสสิคหรือร่วมสมัย พิมพ์ครั้งแรกหรือพิมพ์ครั้งหลังสุด ขายดีหรือขายไม่ออก ราคาถูกหรือราคาแพง เมื่ออยู่นอกเหนือประโยชน์ใช้สอยตามข้อกำหนด ลำดับชั้นหรือคำวิจารณ์หรือราคาหรือยอดพิมพ์ล้วนไร้ความหมาย เขามองดูมัน

   สวยสดงดงามเหลือเกินหนังสือที่กำลังไหม้ไฟ

   โลกใบที่ห้า... ปอม ป่าน และตูน เด็กน้อยทั้งสามต้องออกจากโรงเรียนกลางคันเนื่องด้วยฐานะทางบ้านไม่เอื้ออำนวยให้ได้รับการศึกษาเท่าที่ใจอยาก กระนั้นทั้งสามต่างก็มีความใฝ่ฝัน แต่ความฝันก็ยังคงเป็นความฝัน เมื่อโลกแห่งความเป็นจริงนั้น แค่ต้องการอ่านหนังสือสักเล่มยังไม่มีเงินจะซื้อ ไม่มีที่ให้หยิบยืมมาอ่าน ชีวิตของทั้งสามจะเป็นเช่นไรติดตามได้ใน โลกนอกหนังสือ ถ่ายทอดเรื่องราวโดย รุ้งกาญจน์ แก้วสุวรรณ

   ตูนเองก็อยากทำอะไรเป็นที่สุดในโลกเหมือนกัน ตูนอยากจะเขียนหนังสือให้เก่งที่สุดในโลก เขียนหนังสือดี ๆ ให้ทุกคนอ่าน และตูนก็อยากมีร้านหนังสือด้วย แน่นอนว่าร้านของตูนก็จะต้องใหญ่ที่สุดในโลก มีหนังสือเยอะแยะมากมาย และที่สำคัญต้องเป็นร้านที่อนุญาตให้คนที่ไม่ใส่รองเท้าทั่วโลก เข้าไปอ่านหนังสือได้อย่างสบายใจ เพราะพวกเขาทั้งสามเคยเข้าไปอ่านหนังสือในร้านนี้ แล้วก็โดนไล่ออกมา ตูนคิดว่านั่นคงเป็นเพราะพวกเขาไม่มีรองเท้าใส่ ถึงเข้าไปอ่านหนังสือแบบคนอื่นไม่ได้...

   โลกใบที่หก... เมื่อหนุ่มร้านหนังสือโคจรมาพบกับสาวนักอ่าน นอกร้านหนังสือ แล้วโดยไม่คาดคิดก็มีใครคนหนึ่งเป็นคนก่อประเด็นให้ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ในคืนหนึ่ง... ฉันฝันถึงดอกผีเสื้อ ถ่ายทอดเรื่องราวโดย ปิยศักดิ์ ประไพพร

   ' ฉันอ่านหนังสือพวกนั้น และก็อ่านหนังสือทั้งสองเล่มที่เธอพูดถึงด้วย ไม่เห็นแปลก เมื่อมีคนชอบมันเยอะ ๆ ก็แสดงว่ามีคนเห็นอะไรบางอย่างข้างในนั้น ฉันก็จะอ่านเพื่อที่จะอยากรู้ในแบบของฉัน อยากรู้ว่าพวกเขามองเห็นอะไรในนั้น และฉันมองเห็นเหมือนคนอื่นหรือต่างจากคนอื่นอย่างไร เช่นเดียวกัน ถ้าฉันไปเจอหนังสือเล่มนึงที่ฉันไม่รู้จัก ฉันก็จะอ่านมัน เพราะฉันอยากรู้ว่าความลับในนั้นที่ฉันยังไม่เคยรู้คืออะไร '

   ' สำหรับฉัน หนังสือก็คือหนังสือ ฉันจะไม่ตัดสินมันเพียงเพราะว่าฉันไม่รู้จักมัน หรือมันมีชื่อเสียงมากเกินไปหรอก '

   โลกใบที่เจ็ด... พบแมลงสาบหนุ่ม ผู้รักการอ่านหนังสือ กับ ตุ๊กแกสาวซึ่งอาศัยอยู่ในร้านหนังสือ โดยฝ่ายสาวไม่รู้มาก่อนว่าทั้งคู่เป็นสัตว์ต่างสายพันธุ์ ในเหมือนฝันในร้านหนังสือ ถ่ายทอดเรื่องราวโดย อิษฏ์ ปักกันต์ธร

   ผมเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า ' อ่านหนังสือร้อยเล่มไม่เท่าเดินทางหนึ่งลี้ ' ไอ้ผมเองก็ไม่รู้ว่าหนึ่งลี้มันไกลเท่าไหร่กันแน่ แม้จะคอยเงี่ยหูฟัง แต่ก็ยังไม่มีใครกล่าวถึงระยทางนี้แม้สักคนเดียว พจนานุกรมเก่า ๆ เล่มหนึ่งบอกว่าเป็นหน่วยวัดระยะทางของชาวจีน ประโยคดังกล่าวทำเอาผมต้องไปคิดใคร่ครวญหาความหมาย นี่ผมเริ่มกลายเป็นแมลงช่างคิดไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ผมเองแม้ว่าจะเคยเดินทางอยู่บ้างแต่ก็ไม่ไกลเกินกว่าการเดินทางข้ามจากร้านข้าวมาร้านหนังสือ ระยะทางแค่นั้นผมยังเจอเหตุการณ์หลากหลาย นี่กระมังความหมายของมัน แต่ยังไงก็ตามผมคงไม่สามารถเดินทางไปยังทิเบต ประเทศที่ถูกคนนอกประเทศเผาตำรับตำราเป็นว่าเล่น แต่นั่นก็ยิ่งเน้นย้ำความสัมพันธ์ที่สำคัญระหว่างหนังสือกับมนุษย์ให้มากขึ้นไปอีก การเผาหนังสือในทิเบตนั้นทำให้มูลค่าและคุณค่าของหนังสือเดินทางไปไกลกว่าขอบเขตที่คิดไว้มากนัก จากแหล่งความรู้สู่อำนาจ เอ... นี่ผมคิดมากไปหรือเปล่านะ

   โลกใบที่แปด... บทสนทนาระหว่างเจ้าของร้านหนังสือ กับผู้มาเยือน ในวายันกับร้านหนังสือบนเนินเขา ถ่ายทอดเรื่องราวโดย เสี้ยวจันทร์ แรมไพร

   ' ที่ไหน ๆ ทั่วโลกก็เป็นเช่นนี้ พอความเจริญไปถึง ผู้คนก็สนใจเรื่องของจิตใจน้อยลง เรื่องของการอ่านหนังสือกลายเป็นเรื่องรอง เพราะคนไปอ่านอะไรเอาจากอินเตอร์เน็ต '

   โลกใบที่เก้า... หากคุณเป็นหนึ่งในสาวก ภาพยนตร์ Notting Hill ขอเชิญมาทำความรู้จักร้าน The Travel Book Shop อย่างเป็นทางการ ใน ร้านหนังสือ-หนังรัก-ณ ตลาดนัด ถ่ายทอดเรื่องราวโดย อรินธรณ์, ภาพประกอบเรื่องราวโดย อรินธรณ์ และอาร์ก้า

   หากลองสังเกตดูดี ๆ ร้าน The Travel Book Shop ต้นแบบนั้น จะเป็นตึกแถวสองคูหา เต็มไปด้วยหนังสือสารคดี รวมบทความดี ๆ หนังสือภาพสวย ๆ อยู่เต็มชั้น ต่างกับร้าน The Travel Book Co. ในหนังซึ่งมีแค่คูหาเดียว

   ...

   และไม่ว่าความจริงจะเป็นเช่นไร ก็ไม่มีใครสน เพราะยังไงซะ The Travel Book Shop ก็เป็นร้านหนังสือเดินทางจริง ๆ เพียงร้านเดียวในย่านน็อตติ้งฮิลล์ ชื่อเดียวกับภาพยนตร์

   ข้อความที่พิมพ์เป็นตัวเอียงที่อ่านมาทั้งหมดข้างต้นเป็นเพียงบางส่วนของหนังสือนะคะ หวานเย็นแค่ยกบางตอนที่คิดว่าน่าสนใจมาให้ลองอ่านกันดูค่ะ เพราะหวานเย็นกลัวจะบอกเล่าเก้าสิบได้ไม่ดีเท่าที่ควรแล้วทำให้คนที่สนใจเกิดอาการไม่อยากอ่านขึ้นมาเสียอย่างนั้น หากสนใจก็ลองหามาอ่านกันดูนะคะ และหากถามหวานเย็นว่า... โดยส่วนตัวแล้วชอบเรื่องไหน ? คงต้องบอกว่าตอบอยากจังค่ะ ก็ชอบทุกเรื่องล่ะค่ะ เพราะแต่ละเรื่องในโลกแต่ละใบนั้นเสนอมุมมองบางมุมที่เล่าไม่เคยมองเห็นหรือมองเห็นจนชินตาทว่าไม่ใส่ใจ พอได้มาสัมผัสเหตุการณ์เหล่านั้นผ่านตัวอักษรที่นักเขียนแต่ละท่านบรรจงถ่ายทอดออกมาก็ทำให้ต้องย้อนกลับไปมองใหม่อีกครั้ง พร้อมถามตัวเองว่าจริง ๆ แล้วคิดเช่นไรกับแต่ละสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และเมื่อเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นตรงหน้าจะมีปฏิกิริยาเช่นไร บางครั้งซึ่งที่คิดในใจเมื่อได้อ่านกับสิ่งที่กระทำลงไปในโลกของความเป็นจริงมันก็เป็นคนละสิ่งกันเลยทีเดียว

   อยากให้ลองอ่านกันดูนะคะ สำหรับ โลกเก้าใบในร้านหนังสือ ไม่ว่าจะคิดเห็นเช่นไรก็ตาม อย่าลืมแวะมาเล่าสู่กันฟัง แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันนะคะ หวานเย็นจะรอค่ะ

Create Date : 30 มกราคม 2555
Last Update : 30 มกราคม 2555 14:55:05 น.		7 comments
Counter : 1797 Pageviews.
Share Tweet