นางฟ้าประจำตัว
"นางฟ้าประจำตัว" เป็น โจทย์ถนนสายนี้มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 386 ผู้ตั้งโจทย์ คือ น้องต่อ คำอธิบายโจทย์ (แนวทางการเขียน) มีปีศาจก็ต้องมีนางฟ้า ว่ากันว่า ทุกคนมีนางฟ้าของตัวเอง นี่ถือเป็นขั้วตรงข้ามของโจทย์ที่พึ่งจบไป บอกเล่าเรื่องราวตามหัวข้อ แบบใดก็ได้ในแบบของ ตัวเองก็ได้ ลองเขียนกัน ป.ล. นางฟ้า ไม่จำกัดว่าจะต้องเป็นนางฟ้าเท่านั้นนะ จะเป็นพวกเทพ หรือเทวดา ก็ได้ เอาให้สื่อไปในทางฝ่ายดีก็พอ เหมือนโจทย์ครั้งที่ผ่านมา ปีศาจ ไม่ได้จำกัดแค่ปีศาจ จะเป็นพวกมาร หรือสิ่งชั่วร้ายก็ได้
ตะพาบ บล็อกที่แล้ว คือ "ปีศาจประจำตัว" เป็นความหมายในแง่ลบ คือ ไม่ต้องให้มีเลย เพราะทำให้เราเป็นทุกข์ ส่วนบล็อกนี้ "นางฟ้าประจำตัว" ของเรา เป็นความหมายในแง่บวก ชี้แนวทางให้ไปในทางดี เป็นมงคลแก่ชีวิต ปฏิบัติแล้ว จะเกิดความสุขกาย สบายใจ ค่ะ
นางฟ้าประจำตัว เทพบุตร ประจำตัวของฉัน ก็คือ แม่ และ พ่อ นั่นเอง ฉันคิดว่า ไม่ว่าจะเป็นแม่ (นางฟ้า) หรือ พ่อ (เทพบุตร) ต่างก็มี ความรักลูก หวังดีต่อลูก อย่างแน่นอน ไม่มีทางที่จะคิดร้ายต่อลูก เหมือนดังคำพูดที่ว่า "เสือถึงจะร้ายแค่ไหน ก็ไม่มีทางที่จะกินลูกของตน"
ถึงแม้ว่า แม่จะเป็นคนค่อนข้างหัวโบราณ ที่ไม่เห็นด้วยการที่จะให้ลูกสาวเรียนสูง ๆ เพราะมีความเชื่อว่า ลูกผู้หญิงโตเป็นสาว ก็ต้องแต่งงาน ไปเป็นคนของตระกูลอื่น ไม่ได้ทำประโยชน์ให้กับตระกูลของตัวเองเหมือนลูกผู้ชาย แต่ฉัน เถียงหัวชนฝาไม่เห็นด้วยกับความคิดของแม่ ลูกผู้หญิง ไม่จำเป็นต้องแต่งงานและพึ่งพาสามี ถ้าเรามีความรู้ สามารถนำความรู้ไปเลี้ยงตัวเอง เลี้ยงพ่อเลี้ยงแม่ได้ แม่มีความหวังในเรื่องพึ่งพาลูกผู้ชาย แต่ในที่สุดฉันก็ได้พิสูจน์ ให้แม่เห็นแล้วว่า ความคิดของแม่ไม่ถูกต้อง เพราะในที่สุด แม่ก็เห็นความสำคัญของการศึกษา ฉันสัมผัสได้ ตอนฉันเรียน ปี 4 ใกล้จบการศึกษาและจะได้กลับมาอยู่บ้าน แม่เตรียมซื้อตู้เสื้อผ้า ซื้อเตียงนอน ซื้อโต๊ะทำงานให้ฉันไว้พร้อม และลูกคนอื่น ๆ ที่ไม่ยอมเรียนหนังสือ พอพ่อเสีย ปิดกิจการโรงงานน้ำหวาน เซ้งโรงงาน นำเงินมาซื้อบ้านที่อยู่กันในปัจจุบัน ฉันก็ยังเรียนอยู่ปี 1 เรียกว่า แพแตก น้องชายก็ต้องส่งเรียนต่อจนจบ ป.7 ฉันจบแล้วจะส่งเขาเรียนต่อ เขาก็ไม่อยากเรียน น้องสาวส่งไปเรียนเย็บผ้าก็ไม่ได้เรื่องได้ราว แต่งงานไปก็พึ่งพาสามีไม่ได้ แม่คงเห็นแล้วว่า คนที่ไม่มีวุฒิการศึกษาในสมัยนั้น หางาน ลำบาก และแม่เห็นถึงความสำคัญของการศึกษา
ถึงความขัดแย้งของฉันกับแม่ในเรื่องรักลูกชาย ลูกสาว ไม่ตรงกัน ก็จริง แต่แม่ก็รักฉันแหละ ฉันก็สัมผัสได้ ตอนโรงเรียนจะพาไปดูดาวที่ท้องฟ้าจำลอง ช่วงนั้นหน้าหนาว ฉันไม่มีเสื้อกันหนาวตัวใหม่ ฉันก็อยากได้เสื้อกันหนาวตัวใหม่ แม่ก็พาไปซื้อ ที่ห้างใต้ฟ้า แถวเยาวราช กลัวลูกจะน้อยหน้าคนอื่นแหละนะ อิอิ หลังจากที่น้องและหลานแต่งงานกันไปหมด เหลือฉันกับแม่และน้องชาย ซึ่งยังไม่เป็นโล้เป็นพาย ทำงานก็ไม่ค่อยกลับบ้าน เงินก็ไม่พอใช้ เรียนต่อก็ไม่อยากเรียน ดีที่พ่อบังคับให้เรียนภาษาจีน เลยไปเป็นเซล (ก่อนแม่เสียเพียงไม่กี่วันถึงได้งานใหม่ ไม่งั้นแม่คงนอนตายตาไม่หลับ) ดังนั้น หลังจากฉันสอบบรรจุเป็นข้าราชครูแล้ว ฉันกับแม่จึงอยู่ด้วยกันสองคนเป็นส่วนใหญ่ วันไหนที่ไม่ได้สอนภาคค่ำหารายได้พิเศษ แม่จะรอฉัน มากินข้าวมื้อเย็นพร้อมกัน วันไหนที่ฉันสอนภาพค่ำ ถึงสามทุ่ม กว่าจะถึงบ้าน ก็ประมาณ สามทุ่มครึ่ง แม่จะนั่งคอยฉันกลับบ้าน ด้วยความเป็นห่วง ไม่เคยนอนก่อนฉันเลย ค่ะ ยามที่ฉัน มีความรัก แม่ก็บอกว่า ตามใจฉันทุกอย่าง สินสอดที่เขาให้มาสู่ขอตามประเพณี ก็จะให้ฉันทั้งหมด ไม่เก็บไว้เลย เมื่อความรัก ของฉันกับเขาไม่ได้ลงเอยดังที่เขากับฉันสานฝันกันไว้เป็นช่วงหนึ่งของชีวิตที่ฉันทุกข์ มากครั้งหนึ่ง แม่ก็ไม่พูดอะไร ได้แต่ปลอบใจ (จริง ๆ แม่ไม่เห็นด้วยที่จะให้ฉันแต่งไปอยู่กับเขาที่ต่างจังหวัด)เพราะแม่คงเป็นห่วงฉันมากกว่า เราอยู่กันเพียงสองคนแม่ลูก จึงผูกพันมาก ๆ ในช่วงที่จบการศึกษา และทำงานแล้ว เมื่อเกิดเหตุที่ฉันต้องบอกเลิกรากับเขาไป แม่เป็นที่พึ่ง ทางใจ ทางความคิด เป็นกำลังใจ ห่วงใย หลายเดือนอยู่ กว่าฉันจะเข้าสู่ชีวิตปรกติ แม่เริ่มเป็นห่วงฉัน เพราะกลัวว่า หลังจากแม่จากฉันไป ฉันจะอยู่อย่างไร แม่เริ่มให้เพื่อนแม่ ที่ชอบมาคุยกันกับแม่ (ชมรมคนสูงอายุของตึกแถวเพื่อนบ้าน) ช่วยแนะนำผู้ชายให้มาเป็นลูกเขยแม่ ฉันบอกแม่ว่า อย่าห่วงเลย ฉันอยู่คนเดียวได้ เจ็บไข้ได้ป่วย รัฐบาลเขาก็มีสวัสดิการให้ ลูกศิษย์ลูกหาก็พอจะพึ่งพาอาศัยได้ แม่พยายามอยู่หลายปี ฉันก็ปฏิเสธเรื่อยมา ในที่สุดแม่ก็เลยยอมแพ้ เพราะแม่รู้จัก ความเด็ดเดี่ยวของลูกแม่ได้เป็นอย่างดี
แม่อยู่กับฉันหลังจากที่จบการศึกษาและทำงานได้ประมาณ 12 ปี นางฟ้าของฉันก็จากฉันไป เมื่อปี 29 (สิริอายุได้ 76 ปี) เป็นการจากกันที่ทำให้ฉันสติแตกพอสมควร จนเพื่อน ๆ ที่โรงเรียนหลายคนเป็นห่วง มีการจัดการพาฉันไปเที่ยวต่างจังหวัดบ้าง ชวนกันไปกินข้าวกันบ้าง ลูกศิษย์ลูกหาก็แวะมาเยี่ยมเยือนบ้าง กว่าจะหายเบลอ ๆ ก็หลายเดือนอยู่ ตั้งสติได้ว่า การพลัดพรากจากกัน เป็นเรื่องธรรมดา ของชีวิต ต้องทำใจให้ได้ เพื่อดำเนินชีวิตที่เหลือของเราต่อไป จนกว่า เราจะได้ไปเจอ นางฟ้าและเทพบุตรของฉันเมื่อถึงเวลาของเรา ค่ะ  นางฟ้าประจำตัว ของฉัน ค่ะ
ฝากเพลง นางฟ้าของฉัน ให้เพื่อน ๆ ฟัง ค่ะ
ตะพาบ "นางฟ้าประจำตัว" ที่ฉันเขียนมานี้ ถึงนางฟ้าของฉันไม่ได้อยู่กับฉันแล้ว แต่นางฟ้าของฉัน ก็ไม่เคยเลือนหายไปจากใจของฉันเลย คำสอน การปฏิบัติของแม่ ยังตราตรึงอยู่ในใจของฉันเสมอ ค่ะ
| Create Date : 06 ตุลาคม 2568 |
| Last Update : 7 ตุลาคม 2568 10:25:08 น. |
|
15 comments
|
| Counter : 394 Pageviews. |
 |
|
|
| ผู้โหวตบล็อกนี้... |
| คุณหอมกร, คุณThe Kop Civil, คุณhaiku, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณปัญญา Dh, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณสองแผ่นดิน, คุณtoor36, คุณกะว่าก๋า, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณชีริว, คุณmultiple, คุณ**mp5**, คุณร่มไม้เย็น |
โดย: หอมกร วันที่: 7 ตุลาคม 2568 เวลา:12:01:55 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 7 ตุลาคม 2568 เวลา:18:33:02 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 7 ตุลาคม 2568 เวลา:23:06:50 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 8 ตุลาคม 2568 เวลา:5:21:00 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 8 ตุลาคม 2568 เวลา:20:39:38 น. |
|
|
|
โดย: ชีริว วันที่: 8 ตุลาคม 2568 เวลา:23:36:04 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 9 ตุลาคม 2568 เวลา:4:52:13 น. |
|
|
|
โดย: multiple วันที่: 9 ตุลาคม 2568 เวลา:9:24:56 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 9 ตุลาคม 2568 เวลา:10:02:34 น. |
|
|
|
โดย: multiple วันที่: 10 ตุลาคม 2568 เวลา:5:10:28 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 10 ตุลาคม 2568 เวลา:5:29:36 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 10 ตุลาคม 2568 เวลา:12:14:33 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 11 ตุลาคม 2568 เวลา:4:49:04 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 11 ตุลาคม 2568 เวลา:13:42:13 น. |
|
|
|
|
|
 |
|