space
space
space
<<
มกราคม 2566
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
space
space
11 มกราคม 2566
space
space
space

ริ้วรอยใต้ตา เกิดจากอะไร แก้ไขอย่างไรได้บ้าง เรียกคืนความมั่นใจบนใบหน้า

ริ้วรอยใต้ตา เกิดจากอะไร แก้ไขอย่างไรได้บ้าง เรียกคืนความมั่นใจบนใบหน้า

ริ้วรอยใต้ตา

ริ้วรอยใต้ตา

ริ้วรอยใต้ตา ใต้ตาดำ ใต้ตาคล้ำ อาจไม่ใช่ปัญหาใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อร่างกาย แต่เป็นปัญหาใหญ่ที่รบกวนจิตใจ ส่งผลให้ใบหน้าดูเหนื่อย ดูโทรมมีอายุ ขาดความมั่นใจได้ โดยเฉพาะสาว ๆ จะเป็นกังวลมากเมื่อเกิดริ้วรอยใต้ตา

ใครที่สงสัยว่า ริ้วรอยใต้ตา เกิดขึ้นเพราะอะไร จะเริ่มมีริ้วรอยใต้ตา ปัญหาใต้ตาตอนอายุเท่าไร สามารถแก้ไขและป้องกันริ้วรอยใต้ตาได้อย่างไร ติดตามอ่านได้ในบทความนี้


ริ้วรอยใต้ตา คืออะไร ?

ริ้วรอยใต้ตา คืออะไร

ริ้วรอยใต้ตา คือ ปัญหาที่พบบริเวณใต้ตา โดยมากจะพบเมื่อมีอายุเพิ่มมากขึ้น แต่ทั้งนี้อายุน้อยก็สามารถเกิดขึ้นได้ ซึ่งปัญหาริ้วรอยใต้ตาสามารถแยกออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้

  1. Dynamic Line ริ้วรอยที่เกิดขึ้นตอนแสดงสีหน้า คือ ริ้วรอยที่เกิดจากการหดตัวซ้ำของกล้ามเนื้อใต้ผิวหนังเป็นระยะเวลาต่อเนื่อง พบได้เมื่อมีการขยับบริเวณใบหน้า (Expression Wrinkle) เช่น เวลายิ้ม หัวเราะ เลิกคิ้ว ยิ่งถ้าเป็นคนที่ยิ้มเก่ง ร้องไห้บ่อย โอกาสการเกิด Dynamic Line จะพบได้เร็วขึ้น
  2. Static Line ริ้วรอยที่เกิดขึ้นคงที่ คือ ริ้วรอยที่ไม่ได้เกิดจากการขยับ เคลื่อนไหวบริเวณใบหน้าก็สามารถสังเกตเห็นได้ ริ้วรอยประเภทนี้พบได้บ่อยในผู้ที่มีปัญหาผิวแห้ง สูญเสียคอลาเจนในชั้นผิว และในผู้ที่แสดงสีหน้าบ่อย ๆ ริ้วรอยที่เกิดขึ้นนั้นสามารถพัฒนามาเป็นริ้วรอย Static Line ได้

ริ้วรอยใต้ตา เริ่มมีตอนอายุเท่าไหร่

ริ้วรอยใต้ตา จะเริ่มมีตอนอายุ 25 ปีขึ้นไป เนื่องจากเป็นช่วงวัยที่กระดูกใต้ตาเกิดการยุบตัว ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย ถือเป็นสัญญาณแห่งวัย เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะสังเกตเห็นเป็นร่องใต้ตา ใต้ตาลึก เบ้าตาลึก ตาโหล ถุงใต้ตา ฯลฯ


ริ้วรอยใต้ตา เกิดจากอะไรได้บ้าง ?

ริ้วรอยใต้ตา เกิดจากอะไรได้บ้าง

  • อายุที่เพิ่มมากขึ้น : ส่งผลให้คอลลาเจนและอิลาสตินเสื่อมสภาพลง ทำให้ผิวที่เคยยืดหยุ่น เต่งตึง เกิดริ้วรอยได้ง่าย
  • กระดูกใต้ตาเกิดการยุบตัว : เมื่อมีอายุ 25 ปีขึ้นไป ตามที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น ซึ่งปัญหาการยุบตัวของกระดูกใต้ตา จะส่งผลให้เกิดถุงใต้ตาหย่อนคล้อย เบ้าตาลึก ใต้ตาคล้ำ ฯลฯ
  • ผิวแห้งขาดความชุ่มชื้น : มักจะเกิดปัญหาริ้วรอยได้ง่ายกว่าคนที่มีผิวมัน โดยเฉพาะผิวบริเวณรอบดวงตา เนื่องจากเป็นบริเวณที่มีไขมันน้อย บอบบางและแห้งง่ายกว่าผิวบริเวณอื่นของใบหน้า
  • พฤติกรรมการใช้ชีวิต : ผู้ที่ชอบแสดงสีหน้า ยิ้ม หัวเราะบ่อย ๆ เป็นประจำ ส่งผลให้เกิดริ้วรอย เกิดรอยพับได้ และในผู้ที่เช็ดล้างเครื่องสำอางบริเวณรอบด้วยตาอย่างไม่ถูกต้อง เช่น เช็ดเครื่องสำอางแรงเกินไปก็สามารถเกิดริ้วรอยได้ตาได้ นอกจากนี้การไม่ดูแลตัวเอง นอนดึก พักผ่อนไม่เพียงพอก็ส่งผลต่อการเกิดริ้วรอยใต้ตาได้ด้วยเช่นกัน
  • แสงแดด : รังสี UV ในแสงแดด ถือเป็นตัวทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิวให้เสื่อมสภาพเร็วขึ้น เป็นตัวการสำคัญในการทำลายเซลล์ผิว รวมถึง ฝุ่น PM2.5 มลพิษต่าง ๆ

จะเห็นได้ว่า ริ้วรอยใต้ตาเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ หากต้องการแก้ไขริ้วรอยใต้ตาอย่างตรงจุด จำเป็นต้องปรึกษาแพทย์เพื่อให้แพทย์ประเมินปัญหา แนะนำหัตถการที่เหมาะสม สำคัญคือผลลัพธ์ที่ได้ต้องดูเป็นธรรมชาติและปลอดภัย


ริ้วรอยใต้ตา แก้ไขได้อย่างไร ?

หลายคนที่สงสัยว่า เมื่อเกิดริ้วรอยใต้ตาแล้ว แก้ไขได้อย่างไร ? ความจริงแล้ววิธีการแก้ไขริ้วรอยใต้ตา มีหลายวิธีด้วยกัน สำหรับวิธีที่ให้ผลลัพธ์ไว ไม่ต้องพักฟื้นจะเป็นวิธีทางการแพทย์ เช่น

  • การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คือ การฉีดสารเติมเต็ม Hyaluronic Acid หรือ HA เข้าไปบริเวณใต้ตา ฟิลเลอร์จะช่วยเติมเต็มริ้วรอยใต้ตา ร่องใต้ตา จากปัญหากระดูกใต้ตาที่ยุบตัว หลังฉีดฟิลเลอร์ผิวบริเวณใต้ตาตื้นขึ้นเรียบเนียนขึ้น ริ้วรอยลดลง ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น หลังฉีดจะสามารถเห็นผลลัพธ์หลังทำทันที ให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนใน 2 สัปดาห์ และสามารถอยู่ได้นาน 6-24 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์ รุ่นที่เลือกใช้ และปริมาณที่ใช้

 ริ้วรอยใต้ตา แก้ไขได้อย่างไร

  • การฉีดโบท็อกใต้ตา คือ การฉีดสาร Botulinum Toxin A ที่ทำงานต่อระบบประสาท ทำให้กล้ามเนื้อทำงานลดลงชั่วคราว เข้าไปบริเวณกล้ามเนื้อใต้ตา เพื่อลดการเกิดริ้วรอยเล็ก ๆ ใต้ตา ที่เกิดขึ้นเวลายิ้มหรือแสดงสีหน้า หลังฉีดโบท็อกจะออกฤทธิ์ใน 3-4 วัน ผิวบริเวณที่ฉีดจะตึงขึ้นใน 2 สัปดาห์ และสามารถอยู่ได้นานประมาณ 3-4 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อโบท็อกที่ใช้ และปริมาณการฉีด รวมถึงเทคนิคการฉีดของแพทย์เป็นสำคัญ
  • การทำ Hifu ใต้ตา คือ เครื่องมือยกกระชับผิว ด้วยคลื่นอัลตราซาวด์ความถี่สูงแบบเฉพาะเจาะจง สามารถลดริ้วรอยใต้ตา และรอบด้วยตาได้ด้วยหัวยิงขนาดเล็ก 1.5-2.0 mm. ในการเก็บรายละเอียด หลังทำสามารถเห็นผลทันที 20% ผิวรอบดวงตายกกระชับขึ้น เรียบเนียนขึ้น ให้ผลลัพธ์เต็มที่ใน 2-3 เดือน สามารถคงผลลัพธ์ได้นานประมาณครึ่งปี
  • การทำ Ulthera SPT ใต้ตา จะเป็นเครื่องลักษณะเดียวกับ Hifu แต่จะมีหน้าจอแสดงผล แพทย์จะสามารถยิงพลังงานได้แม่นยำ เห็นผลลัพธ์หลังทำได้ทันที 30% ให้ผลลัพธ์เต็มที่ใน 2-3 เดือน สามารถคงผลลัพธ์ได้นานถึง 1 ปี
  • การทำ Thermage FLX ใต้ตา เป็นการยิงคลื่นวิทยุความถี่สูง โดยใช้หัวยิงเฉพาะ EYE Tip 0.25 cm² ซึ่งจะเป็นคนละแบบกับที่ใช้ทำหน้า หลังทำสามารถเห็นผลลัพธ์ทันที 20% เห็นผลเต็มที่ใน 2-3 เดือน และสามารถอยู่ที่นานประมาณ 1-2 ปี
  • การฉีดเมโสหน้าใส เป็นวิธีที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นเพิ่มคอลลาเจนให้กับผิว เนื่องจากหนึ่งในสาเหตุที่เกิดริ้วรอยใต้ตา เกิดจากผิวที่ขาดความชุ่มชื้น หลังฉีดจะเห็นผลประมาณ 3 วัน เห็นผลเต็มที่ใน 7-14 วัน และสามารถอยู่ได้นานประมาณ 1-2 เดือน

ริ้วรอยใต้ตา ป้องกันอย่างไรได้บ้าง ?

ริ้วรอยใต้ตา ป้องกันอย่างไรได้บ้าง

  • ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 2 ลิตร หรือมากกว่านั้น เพื่อให้ผิวชุ่มชื้น
  • ทานอาหารที่มีประโยชน์ครบทั้ง 5 หมู่
  • หลีกเลี่ยงแสงแดด สาเหตุของทุกปัญหาผิว
  • ไม่ขยี้ตา หรือเช็ดถูบริเวณใต้ตาแรง ๆ
  • สวมแว่นกันแดดเป็นประจำ
  • ทาครีมบำรุงใต้ตาอย่างต่อเนื่อง
  • ทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่

สรุป

สำหรับใครที่มีปัญหาริ้วรอยใต้ตา ต้องการแก้ไขแต่ไม่แน่ใจในสาเหตุการเกิดริ้วรอยใต้ตาว่าเกิดจากอะไร ควรแก้ไขด้วยวิธีไหนดี แนะนำให้เข้ารับคำปรึกษากับแพทย์เพื่อประเมินปัญหา และเลือกหัตถการที่เหมาะสมในการแก้ปัญหาที่ตรงจุดและแม่นยำ




Create Date : 11 มกราคม 2566
Last Update : 11 มกราคม 2566 16:01:58 น. 0 comments
Counter : 377 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
space

สมาชิกหมายเลข 6948345
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






space
space
[Add สมาชิกหมายเลข 6948345's blog to your web]
space
space
space
space
space