Smiley Som Orange ฉัน หมาแมว และความฝัน Smiley
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2561
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728 
 
17 กุมภาพันธ์ 2561
 
All Blogs
 
17 กุมภาพันธ์ 2018 พูดแต่เรื่องแมว






๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ // 2018年2月17日 // February 17, 2018


เนื่องจาก ฉันมาเขียนบล็อคในเวลานี้
มันก็ล่วงเลยวันมาแล้วเนอะ
ไม่ใช่วันศุกร์แล้ว กลายเป็นวันเสาร์แล้ว
เพราะฉะนั้น ฉันก็เลยขอเขียนเป็นวันที่ 17 ไปเลยแล้วกัน


ฉันหายไปนานเลย ไม่ได้เขียนมานาน
เพราะว่าไม่รู้จะเขียนอะไรดี
แล้วอีกอย่างช่วงนี้ฉันเองก็ไม่มีเวลาที่แน่ชัด
สภาพตอนนี้คือง่วงนอนตลอดเวลา 55555555555555


อืม... ขาวกับบุตะ แมวตัวผู้ทั้งสองตัวของฉัน
ได้ทำหมันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ปลอดภัยดี Smiley
ผ่านมาเกือบจะสามอาทิตย์แล้ว 
การฉี่สเปรย์ เริ่มไม่มีแล้ว
ลดลงไปมาก จนอาจพูดได้ว่า"ไม่ฉี่สเปร์ย์อีกเลย" Smiley


วิ่งซน ร่าเริง เล่นเหมือนเป็นเด็ก
ไม่มีส่งเสียงร้อง เพื่ออยากจะออกข้างนอกบ้าน
ไม่มีการขึ้นคร่อมตัวเมียอีกต่อไป 


แต่สิ่งที่ยังคงเหมือนเดิมไม่หายคือ ความดุ Smiley
บุตะกับขาว ก็ยังคงกัดกันเหมือนเดิม
คือ อยู่ร่วมกันได้ แต่พอเดินมาเจอหน้ากัน
มองหน้ากันนาน ๆ ก็อาจจะกัดกัน 
ถ้าฉันเห็น ก็จะตะโกนห้ามทุกครั้ง จะบอกทุกครั้งว่า
"อย่ากัดกันนะ เป็นพี่น้องกันนะลูก!!"
ฉันพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง เสียงดังนิด ๆ
ขาวกับบุตะก็จะไม่กัดกัน ก็จะเดินแยกกันไป


แต่ถ้าวันไหน ฉันห้ามไม่ทัน ก็จะกัดกัน 
ฉันก็ต้องไปจับแยก แล้วบอกว่า"ถ้ากัดกัน จะขังทั้งคู่!!"
เขาก็เลยเลิกกัดกัน แยกกันไปอยู่คนละมุม


หรือบางที ฉันไม่อยู่ 
พอเข้าบ้านมา รู้ได้ทันทีเลยว่ามันต้องกัดกันแน่ ๆ 
เพราะมีขนหลุด เต็มบ้านเลย Smiley


แต่มันก็ไม่ได้กัดกันรุนแรงหรอก 
แค่ขนหลุด หรือบางทีอาจจะมีเลือดซิบ ๆ แค่นั้น
แต่ก็เอาเป็นว่า ขาวกับบุตะไม่สามารถเล่นด้วยกันได้เหมือนอย่างตอนเด็ก
ฉันเสียใจมาก Smiley
เป็นความผิดของฉันเองที่ปล่อยให้ลูก ๆ กัดกัน ไม่ชอบขี้หน้ากัน นานจนเกินไป
ถ้าหากพาไปทำหมันตั้งแต่ยังไม่เป็นหนุ่ม หรือเพิ่งเริ่มเป็นหนุ่ม
มันทั้งสองตัวก็คงจะไม่กัดกัน คงจะเล่นด้วยกัน รักกันเหมือนเดิม 
ฉันเสียใจ เป็นความผิดของฉันเอง แม่ผิดเอง Smiley
ยกโทษให้แม่ด้วยนะ Smiley


แต่ก็ยังดีที่มันไม่ได้กัดกันจนรุนแรง จนถึงกับว่าอยู่ร่วมกันไม่ได้
มันอยู่ด้วยกันได้ เพียงแต่ต้องอยู่คนละมุม
ยังกินข้าวกินน้ำร่วมกันได้ แต่เล่นด้วยกันไม่ได้


และความดุนี้ ยังเผื่อแผ่มาถึงน้อง ๆ ครอกสาม
ขาวกับบุตะ บางทีก็ชอบไปกัดน้องไวท์กับน้องจูเนียร์
ซึ่งน้อง ๆ ครอกสามก็ยังไม่ได้ทำหมัน 
ไวท์กับจูเนียร์ สองตัวนี้ก็ซน ค่อนข้างที่จะมีนิสัยหัวโจก 5555555555 Smiley
หัวโจก ฉันใช้คำโบราณไปมั้ย? 55555555555555555555555


คำว่าหัวโจก ส่วนใหญ่ ฉันใช้กับเด็กนะ เด็กประถมถึงเด็กวัยรุ่น
ถ้าโตแล้ว ถ้าเป็นผู้ใหญ่ ฉันจะไม่ใช้คำนี้ เพราะมันดูน่ารักเกินไป Smiley


หัวโจก ก็แปลว่า เด็กที่ห้าว กวน ชวนหาเรื่อง
เด็กที่เป็นผู้นำในเรื่องที่เกเร เรื่องไม่ดี
พูดง่าย ๆ ก็คือแบบว่า"เด็กที่อยากมีเรื่องทะเลาะชวนตีกับคนอื่น"


ซึ่งจูเนียร์กับไวท์มีนิสัยแบบนั้น 
ก็เลย... เป็นสาเหตุให้พี่ขาวกับพี่บุตะ บางทีก็มีอยากจะสั่งสอนน้อง
ก็เลยขู่ วางอำนาจ กัดเพื่อให้รู้ว่า"ข้าใหญ่กว่า"


ตัวผู้อยู่ด้วยกันเยอะ ๆ ก็น่าปวดหัวดี Smiley


แต่ว่า... จัมโบ้ไม่ดุเลย จัมโบ้ใจดีมาก Smiley
ฉันเลยได้ค้นพบว่า"แมวลายสีส้ม คือแมวที่ไม่ดุ เป็นมิตรและใจดี"


เพราะ"แม่แมว, ทองเข้ม, จัมโบ้, ตัวเล็ก"
ทั้งสี่ตัวนี้คือแมวลายสีส้มที่ไม่ดุเลย เป็นมิตร
ส่วนใหญ่เข้ากับแมวตัวอื่น ๆ ได้เป็นอย่างดี Smiley
โดยเฉพาะ"ทองเข้ม"ใจดีมากกกกกกกกกกกกกกกกกกก Smiley
ด้วยความที่เป็นลายสีส้ม
บวกกับมีพี่น้องครอกเดียวกันที่เป็นตัวเมียทั้งสองตัว
อยู่กับตัวเมียมาก นิสัยเลยอ่อนหวาน น่ารัก 555555555555 Smiley
และฉันพาทองเข้มไปทำหมันตั้งแต่ยังไม่โตเป็นหนุ่ม
พาไปทำตอนอายุประมาณ 10 เดือน
ทองเข้มก็เลยไม่มีนิสัยหัวโจก แต่มีนิสัยที่น่ารัก มุ้งมิ้งและซนเหมือนเด็ก


คนเป็นแม่อย่างฉัน เห็นลูกกัดกัน ก็รู้สึกเครียดและไม่สบายใจอยู่แล้ว 
แต่ก็ยังดีที่ไม่รุนแรง แต่ก็ไม่ชอบเลยที่เห็นลูก ๆ ทะเลาะกัน Smiley
แม่เหนื่อย แม่ยอมอดทนสารพัดก็เพื่อลูก ๆ 
แต่พอเห็นลูก ๆ ทำแบบนี้ แม่ก็ท้อแท้ หมดกำลังใจ
ก็นั่นแหละ ก็เป็นความผิดของฉันเองที่ปล่อยวันเวลาล่วงเลยมานานเกินไป
ก็ได้แต่ปลอบใจตัวเองว่า อย่างน้อยก็ยังไม่ได้เป็นศัตรูกันถาวร
แค่ไม่ชอบขี้หน้ากันเฉย ๆ อยู่ด้วยกันได้ แต่อย่ามาระรานในพื้นที่ของตน
คือต่างคนต่างอยู่ ไม่เล่นด้วยกัน แต่อยู่ด้วยกันได้ 


ตอนนี้ก็เหลือแมวอีก 4 ตัวที่ยังไม่ได้ทำหมัน
ตัวผู้ 3 ตัว ตัวเมีย 1 ตัว
ซึ่งก็จะพยายามรีบเร่งพาตัวผู้ทั้ง 3 ตัวไปทำหมันให้ได้โดยเร็วที่สุด
เพราะไม่อยากให้พวกมันเป็นเหมือนขาวกับบุตะ
อยากให้พวกมันรักกัน เล่นด้วยกันได้เหมือนเดิม
ส่วนตัวเมียก็ต้องรอไปก่อน ทำที่หลังสุด 
เพราะตัวเมีย ขั้นตอนการดูแลหลังจากที่ทำหมันแล้ว
ค่อนข้างยากและต้องมีเวลามาก ก็เลยเอาไว้ทำที่หลัง
ทำให้ตัวผู้ก่อน ดูแลง่าย แทบไม่ได้ต้องดูแลอะไร


แน่นอนว่า ฉันก็ต้องพาตัวผู้ทั้ง 3 ตัวไปทำโดยที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนพื้นฐาน
เพราะฉันยังไม่มีเงิน ก็เลยต้องเลือกทำสิ่งที่จำเป็นก่อนนั่นคือการทำหมัน
พอทำหมันครบทุกตัวแล้ว ถึงจะเก็บเงินพาแมว 11 ตัวไปฉีดวัคซีนพื้นฐาน


ตอนที่ไปทำหมันให้ขาวกับบุตะ
หมอก็ถามฉันว่า"ฉีดวัคซีนหรือยัง"
ฉันก็บอกว่า"ยัง"
ความจริงหมอบอกว่าให้ฉันพาขาวกับบุตะไปฉีด
แต่ฉันก็บอกว่ายังมีแมวที่ต้องทำหมันอีก 4 ตัว
หมอบอกว่าระวังหน่อยนะ ไข้หัดแมวกำลังระบาด ให้เลี้ยงไว้แต่ในบ้าน


ฉันอยากจะบอกกับหมอว่า
"ฉันเลี้ยงแมวไว้แต่ในบ้าน จนบ้านจะพังแล้วค่ะ" 55555555555


มีแค่แม่แมวเท่านั้น ที่เลี้ยงไว้นอกบ้าน
สงสารแม่แมวเหมือนกันที่ต้องอยู่นอกบ้าน 
แต่ฉันเคยพาแม่แมวขึ้นบ้านแล้ว แต่แม่แมวก็อยากจะออกข้างนอก
ด้วยความเคยชินของมัน มันก็เลยชอบอยู่ข้างนอกมากกว่า
ก็อดเป็นห่วงไม่ได้ แต่ก็ยังดีใจที่มันได้ทำหมันแล้ว


ฉันบอกมันทุกคืนก่อนนอนว่า"อย่าออกนอกถนนนะลูก"
"อย่าไปกัดกับแมวที่ไหนนะ"
"พรุ่งนี้เจอกัน"
"ต้องอยู่ต่อไปนะ อยู่เป็นกำลังใจให้ลูก ๆ ของหนู รู้มั้ยแม่แมว"


แม่แมวก็ร้องตอบรับ Smiley Smiley


แต่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้ 
เพราะแม่แมวเองก็ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนเช่นกัน 
ในเวลานี้ ฉันถึงต้องอดทนและพยายามที่เร่งรีบ แข่งกับเวลา
เพราะฉันอยากจะฉีดวัคซีนให้พวกมันให้ครบ


เอาแค่วัคซีนพื้นฐานที่จำเป็นเท่านั้นคือ
"ไข้หัดหวัดแมวและพิษสุนัขบ้า"
นอกนั้น ช่างมันไปก่อน 


เพราะฉะนั้น เป้าหมายในเวลานี้ที่ต้องเร่งรีบ รีบทำก็คือ
"ทำหมันแมวตัวผู้สามตัวให้ได้โดยเร็วที่สุด"
จูเนียร์ จัมโบ้ ไวท์
สงสารพวกมันเหมือนกันที่ต้องพาไปทำหมันโดยที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน
แต่มันก็จำเป็นที่จะต้องทำแบบนั้น


แต่ก็ขอยึดถือความเชื่อมั่นเดิม ๆ ว่า
แม่แมวยังไม่เป็นไร ลูก ๆ ก็ต้องไม่เป็นอะไร
และพี่ ๆ ของพวกมัน พี่ขาว พี่บุตะก็ยังไม่เห็นเป็นอะไร
จูเนียร์ จัมโบ้ ไวท์ก็ต้องไม่เป็นอะไรเช่นกัน


ช่วงนี้ ฉันก็จะพูดแต่เรื่องแมวอ่ะนะ 
เพราะชีวิตฉันก็ไม่มีอะไร มันว่างเปล่า มันไม่มีอะไรเลย
ก็มีแต่เรื่องหมาแมวนี่แหละ 
มันไม่มีอะไรน่าสนใจหรอก ชีวิตฉัน 55555555555555555
ก็มีแค่แมวกับหมานี่แหละ 


แต่ฉันก็มีความสุขดีนะ 
ถามว่าพึงพอใจมั้ย ก็พึงพอใจและมีความสุขดี
ถ้าถามว่าอยากได้อะไรเพิ่มเติม
ฉันก็อยากตอบว่า"ฉันอยากให้หมาแมวของฉันมีความเป็นอยู่ที่ดีกว่านี้"
"และฉันอยากออกเดินทางไปไหนก็ได้ที่ฉันอยากจะไป"


ฉันก็แค่อยากจะเห็นอะไรเพิ่มเติมมากกว่านี้
เห็นโลกใบนี้ให้กว้างกว่าที่เคยเห็น 
ฉันคิดว่าถ้าหากทำได้ ฉันก็คงจะมีความสุขมาก


ฉันไม่ใฝ่ฝันที่อยากจะมีครอบครัวหรือคนรักอะไรทั้งนั้น
เพราะฉันแก่แล้ว 555555555555555555
อายุ 30 ท้ายปีนี้ก็ 31
หวังว่าตัวเลขนี้คงจะทำให้ใคร ๆ ได้รู้ว่าฉัน"แก่แล้วนะ" Smiley
ฉันหมายความว่า ฉันแก่สำหรับเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ 


เพราะฉะนั้น ฉันไม่สนใจเรื่องอะไรพวกนั้นอีกแล้ว
ฉันสนใจแค่ว่า ฉันอยากจะมีความสุขกับชีวิตที่เหลืออยู่
ฉันอยากทำในสิ่งที่ฉันอยากจะทำ ทำให้สำเร็จ ไม่ว่าสิ่งนั้นจะคืออะไรก็ตาม


คนอื่น ๆ ผู้หญิงที่รุ่นราวคราวเดียวกับฉัน อาจจะสนใจเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ
เพราะนี่ก็อาจจะเป็นโอกาสสุดท้ายของพวกเราแล้ว Smiley
แต่ว่า... สำหรับฉัน ฉันเลิกแล้ว 555555555555555555
ฉันไม่รู้สึกอะไรอีกแล้ว
แล้วแต่เลย จะมีหรือไม่มี จะยังไง ไม่สนใจแล้ว 


ไม่รู้สิ เป็นความคิดของฉันเอง
ฉันไม่อยากเข้าไปในชีวิตใคร ไม่อยากทำให้ใครต้องเดือดร้อนหรือลำบากใจ
แล้วฉันก็ไม่อยากเพิ่มใครเข้ามาในชีวิตอีก 
ฉันอยากอยู่แบบสบาย ๆ ไม่อยากกดดันอะไรมาก


ฉันอาจจะคิดมากไป แต่ฉันก็คิดว่า"ฉันไม่สามารถเข้ากับใครได้"
ฉันหมายถึง ... คือฉันไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไงให้ใครเข้าใจได้โดยง่าย
แต่ฉันเชื่อว่าคนที่เหมาะสมกับฉัน ที่มีอยู่บนโลกนี้ มีอยู่ไม่กี่คน 
เมื่อมีน้อย ก็คงจะเดินทางมาเจอกันยาก ถูกมั้ย? Smiley
เมื่อคิดแบบนั้น ฉันก็เลยไม่สนใจเรื่องนี้อีกต่อไป 


ฉันเคยเสียใจว่า"ทำไมเป็นแบบนี้เนอะ"
แต่ก็... ต้องยอมรับตัวเองและยอมรับผู้อื่น Smiley
ในเมื่อเราไม่เหมาะกับใครและไม่มีใครที่เหมาะกับเรา
เพราะฉะนั้น"เราก็อยู่คนเดียว"ก็แค่นั้น ไม่มีอะไรซับซ้อน



แล้วอีกอย่างนึง สิ่งที่ฉันคิดอยู่ในหัวมาโดยตลอดตั้งแต่ยังเด็ก
ภาพจำของฉันคือ"พ่อ"
ฉันเลยคิดเสมอว่า ...
"ผู้ชายที่ฉันจะรักและไว้ใจได้ก็ต้องมีนิสัยที่คล้ายกับพ่อ"
ซึ่งจนถึงทุกวันนี้ ฉันก็ไม่เคยเจอ Smiley
แต่ฉันก็ไม่แปลกใจอะไร เพราะจะเจอได้ยังไง
พ่อเป็นคนโบราณ 555555555555555555555
พ่อเกิดปี ค.ศ.1926 
คนละยุค นิสัย ความคิด การกระทำก็ต้องแตกต่างกันอยู่แล้ว Smiley


พูดแล้วก็คิดถึงพ่อ
คือดูรายการอะไรที่เกี่ยวกับพ่อ คือใครพูดถึงพ่อ ไม่ได้เลย
จุดอ่อนไหวของฉันคือพ่อ
ถ้าหากดูรายการอะไรก็ตามที่เขาเล่าเรื่องพ่อของเขา 
ฉันก็จะรู้สึกอินไปด้วย ซาบซึ้งไปด้วย คือน้ำตาคลอทุกทีเลย Smiley


อาจพูดได้ว่า ... 
ฉันเกิดและอยู่บนโลกใบนี้มา 30 ปี
มีผู้ชายอยู่สองคนที่พอฉันนึกถึงขึ้นมาทีไร น้ำตาก็คลอตลอดเลย
แข็งแรงอยู่ดี ๆ ก็กลายเป็นอ่อนไหวอย่างง่ายดาย Smiley
รักมาก Smiley
หนึ่งคือพ่อน้อย
สองคือในหลวงภูมิพล


คิดถึงมาก คิดถึงอดีต คิดถึงความทรงจำที่สวยงาม Smiley
มีความสุขมากที่ครั้งนึงเคยได้อยู่ในยุคของพวกเขา
ดีใจมากที่ได้เกิดมาทัน Smiley


ดึกมากแล้ว ฉันไปนอนก่อนนะ
ถ้าฉันเขียนคำผิด พรุ่งนี้ฉันจะมาแก้ไขนะ 
คืนนี้นอนก่อน 
おやすみなさい。Smiley



Facebook
Twitter


free counters




Create Date : 17 กุมภาพันธ์ 2561
Last Update : 8 พฤษภาคม 2561 23:38:01 น. 0 comments
Counter : 613 Pageviews.

somsu4
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]




はじめまして、私はソムオレンジです。
สวัสดีค่ะ ชื่อ ส้ม ออเรนท์ ค่ะ ^^
Friends' blogs
[Add somsu4's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.