๑๑ มีนาคม ๒๕๖๑ // 2018年3月11日 // March 11, 2018
เดี๋ยวนี้ ชอบหายไปนาน พอดีว่าไม่มีเรื่องอะไรจะเขียนน่ะ อีกอย่างนึงก็... ช่วงนี้มีเรื่องเครียด ๆ เยอะ มีปัญหาเยอะ ก็เลยเอาเวลาไปแก้ปัญหา แบ่งเวลาไม่เป็น พูดง่าย ๆ เลย
เมื่อ 2-3 วันก่อนที่อากาศมีฝนตก อึมครึม ฉันก็เป็นหวัดเช่นเคย เวลาที่อากาศเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา วันนึงมีแดดออก ร้อน แต่พอวันต่อมากลับมีฝนตกพรำ อากาศอึมครึม ร่างกายฉันก็เลยปรับตัวไม่ทัน ผลลัพธ์ก็เลย"เป็นหวัด น้ำมูกไหล"
อาการอยู่ในระดับกลาง ๆ ไม่มากไม่น้อย ไม่ถึงกับต้องล้มหมอนนอนเสื่อ แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้คล่องตัว เพราะน้ำมูกไหลตลอดเวลา
แต่ตอนนี้หายแล้ว กลายเป็นว่าเจ็บจมูกมาก ผลจากการสั่งน้ำมูกบ่อย เช็ดจมูกบ่อย
2 ปีมานี้ ฉันมีปัญหาค่อนข้างเยอะ มีหลายเรื่องที่ฉันต้องแก้ไขปัญหาให้สำเร็จ
ตั้งแต่ต้นปี พ.ศ.2559 จนถึงตอนนี้ สภาพร่างกายของฉันทรุดโทรมลงไปมาก ใบหน้าจากที่แต่ก่อนก็ไม่ค่อยจะยิ้มอยู่แล้ว ตอนนี้ก็กลายเป็นว่าเฉยชาเหมือนคนไร้ความรู้สึก นับวันจะยิ่งคล้ายหุ่นยนต์ ไม่ทุกข์ ไม่สุข ไม่เจ็บ ไม่สน ไม่ยินดี ไม่ยินร้าย ไม่ใช่ว่าปลงนะ แต่เป็นคนที่ชอบแบกความเครียดมากกว่า
ไม่รู้จะอธิบายยังไงให้ใครเข้าใจได้ทั้งหมด เพราะฉันก็ไม่สามารถที่จะเปิดเผยทุกอย่างในนี้ได้ ถึงแม้จะไม่มีใครรู้จักเราก็ตาม แต่ฉันก็เปิดเผยออกไปทั้งหมดไม่ได้ ไม่มีใครเป็นเพื่อนแท้ของเรานอกจากตัวเราเอง ยิ่งในอินเตอร์เน็ตหรือในโซเชี่ยล ก็ยิ่งไม่ใช่
เพราะฉะนั้น บางส่วนเท่านั้นที่จะบอกได้ แต่ถ้าให้บอกทั้งหมดเลยนั้น คงทำไม่ได้
เราไม่รู้ว่าจะมีใครกำลังหัวเราะเยาะเราอยู่ เพราะฉะนั้น การที่เราเปิดเผยมากเกินไปก็จะเป็นผลเสียกับตัวเอง บั่นทอนจิตใจตัวเองเปล่า ๆ
คนที่เป็นมิตรแท้ของฉันในโลกใบนี้มีอยู่แค่สองคน ซึ่งเขาก็ตายไปแล้ว นั่นคือ"พ่อน้อยกับแม่อ้วน" นอกเหนือจากนี้ ฉันไม่ไว้ใจใคร เพราะทุกคนพร้อมที่จะโจมตีฉันอยู่ตลอดเวลา เตรียมพร้อมที่จะเหยียบซ้ำ เตรียมพร้อมที่จะเดินข้ามหัว เตรียมพร้อมที่จะหัวเราะเยาะ เตรียมพร้อมที่จะพูดคำดูถูกดูแคลน เมื่อเวลาที่ฉันล้มลงอยู่แบบนี้ เพราะฉะนั้น"ฉันจะไว้ใจใครไม่ได้อย่างเด็ดขาด!!"
ตอนนี้ ในเวลานี้ ถึงแม้ว่าฉันจะไม่มีศัตรู แต่ฉันก็ไม่มีมิตรแท้
ฉันไม่เสียใจ แต่ฉันก็แค่รู้สึกอ้างว้างยังไงชอบกล เหมือนโลกใบนี้มันกว้างใหญ่เกินไปจนน่ากลัว การที่เราต้องต่อสู้อยู่คนเดียว ก้าวต่อไปเพียงลำพัง ต้องใช้ความแข็งแกร่งที่มีอยู่ในจิตใจอย่างเยอะมาก
แกร่งจนกลายเป็นด้านชา ตอนนี้ ฉันจึงไม่มีความรู้สึกอะไรแล้วไง
เมื่อก่อน ฉันเป็นคนที่กลัวความตาย กลัวจนขึ้นสมอง กลัวมากที่สุด แต่ตอนนี้ ฉันว่าฉันไม่กลัวแล้วแหละ เพราะอยู่หรือไม่อยู่ ก็มีค่าเท่ากัน
แต่ตอนนี้ก็ยังคงต้องอยู่ แน่นอนว่าเพื่อหมาแมว แต่ไม่ได้อยู่เพื่อตัวเองอีกแล้ว ถ้าอยู่เพื่อตัวเอง ก็ต้องมีความฝัน แต่ตอนนี้ไม่มีความฝันอะไรแล้ว เพราะถึงแม้จะมีความฝัน มันก็ไม่มีประโยชน์อะไร
"ช่างมันเถอะ" และถอนหายใจ ทำแบบนี้ทุกครั้งที่มองไปถึงอนาคต แล้วรู้สึกว่ามองไม่เห็น จากนั้น ก็เข้าสู่โหมดหุ่นยนต์เหมือนเดิม
ฉันเป็นหุ่นยนต์ที่ไม่เศร้า ไม่ร้องไห้ ไม่ยิ้ม ไม่ทุกข์ ไม่สุข แต่เป็นหุ่นยนต์ที่เบื่อโลก 55555555555555
เฉยชาและไร้ความรู้สึก
ในเวลานี้มีเพียงสิ่งเดียวที่ทำให้ยิ้มอย่างมีความสุขได้คือ "เล่นกับหมาแมวที่เลี้ยงไว้"
คิดถึงพ่อกับแม่จัง แต่หนูรู้ว่าพ่อกับแม่จะยังคงเป็นกำลังใจให้หนูอยู่เสมอ หนูรักพ่อกับแม่นะ
Facebook Twitter |