เก็บตกบรรยากาศ ททท.สำนักงานลพบุรี เปิดตำนานพ่อครัวหัวป่าก์ ตามรอยเสด็จประพาสต้น รัชกาลที่ 5






เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2563 ณ วัดพรหมเทพาวาส(ชลอน) อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี
นางจิรารัตน์ มีงาม ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานลพบุรี
และ นางอารีย์ ฤกษ์สภาพ รองผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานลพบุรี
เข้าร่วมงานตามรอยเสด็จประพาสต้น รัชกาลที่ 5 ประจำปี 2563
โดยได้รับเกียรติจากนายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี มาเป็นประธานพิธี
เปิดงานตามรอยเสด็จประพาสต้น รัชกาลที่ 5 ประจำปี 2563
พร้อมร่วมชม และแข่งขันทำอาหารตำรับแม่ครัวหัวป่า ระหว่าง “ชมรมแม่ครัวหัวป่าก์” กับ "เชฟบุ๊ค" เชฟชื่อดัง
โดยมีนักท่องเที่ยว หัวหน้าส่วนราชการฯ ตลอดทั้งประชาชนชาวจังหวัดสิงห์บุรี
พร้อมใจแต่งกายไทยเข้าร่วมงานฯ กันอย่างคับคั่ง




เป็นการแข่งขันกันปรุงอาหารอย่างสุดฝีมือ






เมนูอาหารทั้ง 2 อย่างเสร็จแล้วพร้อมชิม








อาจารย์ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี ศิลปินแห่งชาติ มาชิมเป็นคนสุดท้ายให้เสมอค่ะ



นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์
ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี
กล่าวเปิดงานไว้ว่า
วันนี้ถือว่าเป็นวันสำคัญวันหนึ่งที่ทางจังหวัดสิงห์บุรีได้กำหนดไว้ในกิจกรรมที่จะต้องทำเป็นประจำทุกปี
นั่นคือ การจัดงานตรมรอยเสด็จประพาสต้นรัชกาลที่ 5
ซึ่งปีนี้ พ.ศ.2563 เราจัดติดต่อกันมาเกือบจะทุกปี ปีที่แล้วผมก็มาแต่ไม่ได้จัดยิ่งใหญ่เหมือนกับปีนี้
ปรนี้ที่จัดยิ่งใหญ่เพราะว่า ส่วนราชการและ ททท.ซึ่งของบประมาณให้จัดให้ใหญ่ขึ้นเป็นเวลา 3 วัน
ซึ่งแต่เดิมเราจัดในระดับท้องถิ่น
แล้วปีงบประมาณ 64 ผู้ว่าฯ ก็ของบประมาณมาจัดเหมือนเดิมอีกครับ
ปีหน้าก็จะมีงานเหมือนเดิมแต่จะเป็นรูปแบบไหนค่อยว่ากัน

ทำไมเราถึงต้องจักงานตามรอยเสด็จประพาสต้น พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
เขากล่าวไว้ว่าพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เสด็จย่างพระบาทไปที่ใด
ที่นั่นก็จะมีความสุขความเจริญมีการพัฒนา
เพราะในหลวงรัชกาลที่ 5 พระองค์ท่านเป็นนักปฏิรูป เป็นนักพัฒนา
ท่านจะเห็นว่ากระทรวงทบวงกรมเกิดขึ้นในสมัยพระองค์ท่าน ไฟฟ้า ประปา เกิดขึ้นในสมัยพระองค์ท่าน
กิจการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรถไฟก็เกิดขึ้นในสมัยพระองค์ท่าน เลิกทาสก็เลิกในสมัยพระองค์ท่าน
ถ้าไม่มีการเลิกทาสป่านนี้เราคงเป็นทาสไม่ได้เป็นไท
นั่นคือ พระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ที่สิงห์บุรีจำเป้นต้องจัดงานก็เพราะพระองค์ท่านทรงโปรดฯ เสด็จมายังจังหวัดสิงห์บุรีเป็นจำนวน 5 ครั้ง 5 คราว

ครั้งแรกที่พระองค์ท่านเสด็จมาเพื่อที่จะมาปฏิสังขรณ์วัดพระนอนจักร์สีห์วรวิหารซึ่งตอนนั้นเก่าทรุดโทรม
พระองค์ท่านทรงพระราชทานภาษีซึ่งเป็นภาษีที่เก็บจากวัดพระนอนจักรสีห์
เก็บได้จากเมืองสิงห์เป็นภาษีไร่นานำมาปฏิสังขรณ์วัดพระนอนจักร์สีห์

ในปีถัดมาหรือในครั้งที่ 2 พระองค์ท่านเสด็จมาที่จังหวัดสิงห์บุรีเพื่อมาพระราชทานพระแสงศาสตราประจำเมือง
ซึ่งพระแสงศาสตราประจำเมืองนี้เป็นตัวแทนพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ซึ่งจะพระราชทานให้กับเจ้าเมือง
หรือผู้ว่าราชการจังหวัดในปัจจุบัน
ถามว่าพระแสงศาสตราประจำเมืองตอนนี้อยู่ที่ไหน รู้ไหมครับองค์นี้จำลองมาของจริงในประเทศไทยมีอยู่ไม่กี่พระแสง
สิงห์บุรีเป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่ในหลวงรัชกาลที่ 5 เสด็จมาเพื่อพระราชทานพระแสงศาสตราประจำเมือง
ไว้ให้จังหวัดสิงห์บุรี
เพื่อเป็นตัวแทนพระราชอำนาจของพระองค์ท่าน
ครั้นพระมหากษตริย์เสด็จมาที่จังหวัดสิงห์บุรีเราก็จะเอาพระแสงศาสตราประจำเมืองถวายคืนพระองค์ท่านไป
แล้วถ้าพระองค์ท่านจะเสด็จกลับท่านก็จะพระราชทานกลับคืนมาไว้ที่เจ้าเมืองหรือข้าหลวงประจำจังหวัดในสมัยนั้น
เอามาเก็บไว้เป็นสัญญลักษณ์เพราะเป็นตัวแทนของพระมหากษตริย์

ครั้งที่ 3 ที่พระองค์ท่านเสด็จมาเพื่อที่จะติดตามงานว่าวัดพระนอนจักรสีห์
ที่พระราชทานภาษีมานั้นได้ปฏิสังขรณ์เสร็จเรียบร้อยแล้วหรือไม่เพื่อมาติดตามผล
และเสด็จพระราชดำเนินไปวัดหน้าพระธาตุ เพราะฉะนั้นพรุ่งนี้จะปั่นจักรยานก็จะมีจุดเหล่านี้
วัดหน้าพระธาตุเป็นวัดที่สวย มีหลวงพ่อทันใจด้วย ใครสนใจก็ตามไป

ครั้งที่ 4 เสด็จประพาสต้นมาที่บ้านหัวป่าก์แห่งนี้ แต่ครั้งอื่นมีพระราชกรณียกิจ
เสด็จประพาสต้นมาที่บ้านหัวป่าก์แห่งนี้แล้วท่านยังเสด็จพระราชดำเนินไปตลาดบ้านแบง ไปที่วัดเสาธงทอง
และไปซื้อผ้าลายริ้วทอง แล้วเสด็จพระราชดำเนินมาที่วัดชลอนแห่งนี้
เพราะพระองค์ท่านศรัทธาเจ้าอาวาสที่วัดแห่งนี้ลองไปอ่านดูประวัติ
แล้ววัดแห่งนี้ก็มีสิงศักดิ์สิทธิ์สำคัญที่พระองค์ท่านได้ถ่ายภาพไว้ คือโบสถ์
ซึ่งในโบสถ์ที่ในหลวงรัชกาลที่ 5 ถ่ายรูปไว้ก็ยังอยู่เหมือนเดิมเลย
ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ พระพรหมนิรมิตเป็นพระนอนสวยมาก อายุราว 200 ปี
สมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์คือรัชกาลที่ 1
แล้วถัดจากนั้นไปจะมีต้นพระศรีมหาโพธิ์ที่นำกิ่งพันธุ์มาจากอีกวัดหนึ่งซึ่งได้มาจากพุทธคยาประเทศอินเดีย
นำมาปลูก ได้มีจดหมายเหตุกล่าวถึงการเสด็จประพาสต้นบอกว่า
"ต้นโพธิ์นั้นไม่ตรงมันเอียงเพราะว่ามันหลบต้นมะม่วง"
ที่ปรากฎเป็นหลักฐานแต่ปัจจุบันต้นมะม่วงหายไปแล้วเหลือแต่ต้นโพธิ์

แล้วที่วัดชลอนแห่งนี้ท่านเจ้าอาวาสวัดชลอนท่านไม่ค่อยชอบชื่อวัดว่าวัดพรหมเทพาวาส(ชลอน)
บางคนก็อ่านเป็นชลอม ที่จริงคือวัดชลอน
ท่านบอกว่าตามประวัติศาสตร์นั้นในหลวงรัชกาลที่ 5 จะเขียนชื่อวัดนี้ว่า "วัดชลอน พรหมเทพาวาส"
ตามประวัติศาสตร์ในหลวงรัชกาลที่ 5 จะเขียนชื่อวัดว่า "วัดชลอนพรหมเทพาวาส"
ท่านอยากจะเปลี่ยนให้กลับไปใช้ที่ในหลวงรัชกาลที่ 5 จะเขียนชื่อวัดว่า "วัดชลอน พรหมเทพาวาส"
ท่านเขียนไว้..ก็ไว้ค่อยไปคุยกัน
และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ที่วัดพรหมเทพาวาสแห่งนี้ เป็นพระพุทธรูปที่ปั้นโดยช่างสิบหมู่
ในสมัยก่อนๆ ที่จะเข้ากับอธิบดีกรมศิลปากร
ป็นพระพุทธรูปประจำอยู่ที่โบสถ์ในวัดชลอน พรหมเทพาวาส คือ พระพรหมพิพัฒน์สัตยา
เป็นพระที่ใช้เป็นประธานในการดื่มน้ำพิพัฒน์สัตยา หรือโองการแช่งน้ำ
ซึ่งสมัยก่อนใครที่เป็นข้าราชการจะบรรจุ จะแต่งตั้งทำงานในหน้าที่ราชการได้นั้นจะต้องผ่านการดื่มน้ำพิพัฒน์สัตยา
ซึ่งพระพุทธรูปที่อยู่ในโบสถ์นี้ชื่อว่า พระพรหมพิพัฒน์สัตยา นั้นเป็นพระประธาน
ที่ข้าราชการเมืองพรหม์บุรีจะต้องกระทำการสาบานและดื่มน้ำพิพัฒน์สัตยา ก่อนทำหน้าที่ปีละ 2 ครั้ง
นี่ก็เป็นประวัติศาสตร์ที่เล่าให้ฟังกันไหนๆ มาตามรอยเสด็จประพาสต้นพระพุทธเจ้าหลวง รัชกาลที่ 5
จะได้กลิ่นไอแห่งประวัติศาสตร์ เวลาท่านไปตามรอยเสด็จท่านจะได้รู้ว่าควรจะไปดูอะไรไปตามพระองค์ท่านที่ไหน

และที่ท่านมาที่หัวป่าก์แห่งนี้ สิ่งที่พระองค์ท่านโปรดน้ำมือรสแกง "หัวป่าก์" คือ อาหารกึ่งแกง
คือแกงบวนกับแกงบอน
วันนี้เราทำแกงบวน วันนี้ได้ "เชฟบุ๊ค" มาปรุงอาหารกันครับ ปะทะกับ "ครูตุ๊ก" ไปแล้ว
ซึ่งเป็นของดีและเป็นสิ่งที่เป็นวัฒนธรรมประเพณีของชาวหัวป่าก์เราเองก็ได้
เพราะฉะนั้นชาวหัวป่ากืเราเองควรที่จะต้องเลื่อมใสศรัทธาในความเป็นพ่อครัวหัวป่าก์
ท่านจะต้องพัฒนาบ้านเมืองของท่าน เพราะในหลวงรัชกาลที่ 5เสด็จมาแล้ว ต้องพัฒนามากๆ ยิ่งขึ้นไป
เพราะฉะนั้นในการจัดงานแต่ละปีก็อยากให้มีการพัฒนายิ่งๆ ขึ้น
โดนเฉพาะในครั้งที่ 5 ที่ในหลวงรัชกาลที่ 5 เสด็จไปที่วัดจำปาทองที่โพธิ์ประจักษ์

นี่ก็คือการเสด็จประพาสต้นของในหลวงรัชกาลที่ 5 ทั้ง 5 ครั้ง
ผู้ว่าฯ เล่าให้ฟังก็เพราะว่าเราจัดงานตามรอยเสด็จประพาสต้นรัชกาลที่ 5
จึงอยากให้ท่านตามรอยไปให้ถูก ไปให้ทัน ไปให้ถึงแก่นแท้ เพราะว่าพระองค์ท่านมาสิงห์บุรี
อล้วถ้าพรุ่งนี้มีเวลาและอยากมีสุขภาพแข็งแรงเชิญมาปั่นจักรยานได้ ระยะทาง 44 กินโลเมตร
จะออก start ที่นี่ไปตามรอยเสด็จประพาสต้นพุทธเจ้าหลวงด้วยกันนะครับ
แล้วท่านจะได้ทั้งความสุข ได้ทั้งการท่องเที่ยวในเชิงสุขภาพ ไปชมวิถีชีวิตของคนที่สิงห์บุรี
ผ่านตามรอยเสด็จประพาสต้นของพระพุทธเจ้าหลวง
แล้วหวังว่าสิ่งที่เราจัดในวันนี้จะเป็นที่ถูกอกถูกใจและถ้าเป็นไปได้อยากให้ท่านช่วยกด Like กดแชร์
เชื่อว่าจะมีคนมาเที่ยวกันให้มากๆ นะครับ
บัดนี้ก็ได้เวลาอันสมควรแล้วกระผมก็ขอเปิดงานตามรอยเสด็จประพาสต้นรัชกาลที่ 5 ประจำปี 2563 ณ บัดนี้



มีการแสดงหลากหลายภาพในงาน



ที่ประทับใจเด็กชายป.4 เป่าขลุ่ยเก่งมาก










สำหรับงานดังกล่าว จัดขึ้นระหว่างวันที่ 7-9 สิงหาคม 2563
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานลพบุรี โทร. 036-770096-7



อ.ฮนิสร์ ศรีกลิ่นดี ศิลปินแห่งชาติชาวจังหวัดสิงห์บุรี
มาบรรเลงเพลงขลุ่ยในบทเพลงพระราชนิพนธ์ในหลวงรัชกาลที่ 9 "ความฝันอันสูงสูด"



ขอขอบคุณ
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานลพบุรี



Create Date : 12 สิงหาคม 2563
Last Update : 12 สิงหาคม 2563 19:15:31 น. 4 comments
Counter : 1239 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณสองแผ่นดิน, คุณอุ้มสี, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณKavanich96


 
ตามไปเที่ยวด้วยคราบ


โดย: ทนายอ้วน วันที่: 12 สิงหาคม 2563 เวลา:13:59:00 น.  

 
จองที่ก่อนนะคะ
ภาพไม่ขึ้นเลยค่ะ



โดย: ภาวิดา คนบ้านป่า วันที่: 12 สิงหาคม 2563 เวลา:14:38:41 น.  

 
เห็นภาพแล้ว
รู้สึกรักเมืองไทยค่ะ
รักในหลวง


โดย: อุ้มสี วันที่: 13 สิงหาคม 2563 เวลา:9:55:11 น.  

 
ขอบคุณที่แบ่งปัน


โดย: Kavanich96 วันที่: 19 สิงหาคม 2563 เวลา:2:43:15 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เจ้าหญิงไอดิน
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2563
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
12 สิงหาคม 2563
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add เจ้าหญิงไอดิน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.