Group Blog
All Blog
|
แชร์ประสบการณ์ร้อยไหมละลายและฉีดฟิลเลอร์เพื่อปรับรูปหน้าที่ AIC Clinic ค่ะ เมื่อต้นปีน้ำตาลกะคุณแฟนตัดสินใจจะแต่งงานกันค่ะ...ฮิ้ววววว มาตัดสินใจเรื่องวันและเวลาได้เอาช่วงหลังสงกราณต์ไปแล้ว ก็เลยเพิ่งจะปรึกษาคุณหมอพุฒิพงศ์ ภูมิสุวรรณ เรื่องอยากสวยก่อนเป็นเจ้าสาว คุณหมอก็แสนจะใจดี.....จับหน้ามาวางแผนค่ะ  ภาพนี้ถ่ายตั้งแต่ 28 มกราคม 2556 ค่ะ คุณหมอจับหน้า คลำหากราม กล้ามเนื้อ และพิจารณาโครงหน้าว่าจะปรับเปลี่ยนอย่างไร หน้าน้ำตาลแน่นมากค่ะ ผิวแน่น ตึง และ กลม 5555++ เมื่อคุณหมอพิจารณาเห็นว่าไม่ต้องยกกระชับหน้าเพราะหน้าตึงอยู่แล้ว แต่จะทำการปรับเปลี่ยนโครงหน้าแทน โดยให้คงความเป็นตัวของน้ำตาลมากที่สุดแต่จะดูสวยขึ้นแบบถ้าไม่บอกก็หาสาเหตุไม่ได้ 555++ คุณหมอเริ่มวางแผนที่จะลดกรามลงก่อน เพราะกล้ามเนื้อตรงกรามของน้ำตาล มันไม่เยอะค่ะ แต่มันก็มี แล้วมันก็ดึงแก้มไว้ทำให้หน้าดูกางและกลม คุณหมอเลยฉีด Botox ให้ก่อนที่กรามข้างละ 24 Unit และตรงคางอีก 6 Unit เพื่อให้คางดูผ่อนคลายมากขึ้น  หลังจากฉีด Botox ครบ 2 สัปดาห์ก็กลับไปให้คุณหมอดูอีกครั้ง คุณหมอก็ว่ามันลดลงโอเคดี....ให้รออีก 2 สัปดาห์เพื่อให้ Botox ทำงานให้เต็มที่ก่อน แล้วกลับมาดูกันอีกที พอครบตามกำหนดก็กลับมาหาคุณหมออีกครั้งค่ะ คราวนี้.....ก็ถึงขั้นตอนต่อไป หลังจากกรามยุบตัวลงแล้ว แก้มที่ใหญ่และตึงตกลงบ้างบางส่วน คุณหมอไม่ต้องการให้ยุบมากเกินไป หากให้กรามยุบลงไปมาก แก้มจะดูห้อยได้ เพราะกล้ามเนื้อกรามมันยกแก้มน้ำตาลอยู่ค่ะ ตอนนี้แก้มตกได้ที่แล้ว ก็มาวางแผนในการร้อยไหมละลายเพื่อปรับรูปหน้าค่ะ คุณหมอว่านี่เป็นเคสที่ยาก และท้าทายมากกกกกกกก เนื่องจากผิวแน่น และกล้ามเนื้อบนใบหน้าแน่นด้วย การจะปรับรูปหน้าก็ค่อนข้างยาก แถมโครงกระดูกบนใบหน้าก็ไม่ชัดเจน แบบว่าหน้าแบนนั่นเอง โหนก เบ้า อะไรก็ไม่มีสักอย่าง โชคดีมีจมูกเล็กๆได้รูปแล้วอันนึง ไม่ต้องไปยุ่งกะมัน 55555+++ พอคุณหมอถ่ายรูป before และวางแผนในการปรับรูปหน้าเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาล้างหน้า โบกยาชา......ปกติยาชาคุณหมอจะชาเร็วมาก แต่คราวนี้ขอแปะนานๆ แบบว่ากลัวเจ็บเหมือนกัน  ในห้องก็เตรียมของสำหรับโปรเจ็คใหญ่ของน้ำตาลค่ะ เลยพบว่า หมอไม่ได้แค่จะร้อยไหม แต่มีการใช้ฟิลเลอร์ในการปรับรูปหน้าด้วย คุณหมอใช้ฟิลเลอร์ของ Juvederm ค่ะเตรียมไว้ 5 หลอด แต่ใช้เท่าไหร่ค่อยว่ากันอีกที ส่วนไหมละลายสำหรับร้อย.....คุณหมอเตรียมไว้ 5 ชนิด ส่วนจำนวนไม่ทราบค่ะ หมอจะร้อยจนกว่า.....จะพอ   แล้วขั้นตอนที่เจ็บที่สุดก็มาถึงค่ะ.....มันคือการฉีดยาชา อ้าว....แล้วไอ้ที่แปะไว้ล่ะ หมอบอกว่าที่แปะๆทาๆไว้มันช่วยได้แค่ที่ผิวๆ ส่วนที่เราจะทำมันอยู่ลึกเข้าไปยาชาแบบทาเข้าไปไม่ถึงนะจ๊ะ  ตอนจิ้มเข็มเข้าไปไม่เจ็บค่ะ เจ็บแสบๆตอนเดินยานิดหน่อยค่ะ นี่คือเจ็บที่สุดแล้วนับเป็นระดับ 1-10 น้ำตาลให้แค่ 2-3 เท่านั้นค่ะ ถ้าจะเจ็บก็คงเป็นเพราะโดนฉีดหลายจุดทั่วหน้ามากกว่าค่ะ สิริรวมใช้ยาชาไปทั้งหมด 11 หลอด นับจุดไม่ไหว....เยอะค่ะ แล้วก็ได้เวลาคลีนหน้าเพื่อฆ่าเชื้อด้วยเบตาดีนค่ะ  แล้วก็ตั้งเตียงขึ้นเพื่อฉีดฟิลเลอร์ก่อนค่ะ คุณหมอใช้วิธีการฉีดด้วยเข็มปลายทู่ (เข็มปลายทู่ คือ เข็มที่ไม่มีคมค่ะ ปลอดภัยในการฉีดสารเติมเต็มมากกว่า เพราะมันไม่สามารถแทงทะลุเข้าไปในเส้นเลือดได้จนทำให้เกิดปัญหาอย่างที่เคยได้ยินกันมา แต่การใช้เข็มปลายทู่ต้องใช้ในแพทย์ที่เชี่ยวชาญนะคะ) วิธีการฉีดก็คือใช้เข็มมีคมเจาะที่ผิวหนังก่อนค่ะ แล้วค่อยใช้เข็มปลายทู่สอดเข้าไปให้ถึงจุดที่ต้องการแล้วค่อยฉีดสารเติมเต็มลงไปค่ะ  ถามว่าเจ็บไหม......ตอบได้เลยว่า ไม่รู้สึกค่ะ รู้สึกตึงๆหน่อยๆตอนฉีดเท่านั้นเองค่ะ ส่วนที่ไม่เสี่ยงมากนักอย่างปลายคาง ริมฝีปาก ก็ใช่เข็มมีคมตามปกติค่ะ คุณหมอฉีดฟิลเลอร์แต่งคาง กราม และริมฝีปาก ตอนนี้หน้าชาไปหมดแล้ว ไม่รู้สึกอะไรเลยค่ะ และตัวฟิลเลอร์เองก็มียาชาผสมอยู่ ยิ่งทำให้ไม่เจ็บเลยค่ะ   จบจากการฉีดฟิลเลอร์ก็มาต่อด้วยการร้อยไหมละลายค่ะ ถามหมอไปว่า....หมอคิดว่าหนูจะโดนกี่เส้นคะ.....หมอทำหน้าครุ่นคิดแป๊บนึง แล้วก็ตอบด้วยเสียงดังฟังชัดว่า "เป็นร้อยชัวร์" ห๊ะ.....!!! o_O" โอเคหมอ....เต็มเหนี่ยวไปเลยพี่   หมอทำการร้อยไหม 2 บริเวณนะคะ บริเวณใต้คาง และ ที่แก้มคือตั้งแต่ใต้ตาลงมาค่ะ โดยร้อยด้วยไหมละลาย 5 แบบ เป็นแบบไหนบ้างตรงไหนบ้าง อันนี้ไม่ทราบเลยค่ะ คุณหมอทำเร็วมาก เรียกหาไหมจากผู้ช่วยแบบต่างๆ แล้วร้อย 3 ชั้น ด้วยไหมหลายแบบ หลายทิศทาง บางจุดเข็มแทงไม่เข้า....เข็มงอเลยค่ะ หนังคงเหนียวจริง 555+ เมื่อคุณหมอร้อยเสร็จ 1 ซีก......ก็พบว่าหน้ายกขึ้นและเปลี่ยนรูปไปทันทีค่ะ เรียกช่างภาพส่วนตัวมาเก็บภาพโดยด่วน  ระหว่างที่คุณหมอทั้งฉีดฟิลเลอร์และร้อยไหม ผู้ช่วยก็ทำการจดบันทึกการรักษาไปด้วยค่ะ ว่าร้อยตรงไหน ใช้ไหมอะไร กี่เส้น บันทึกกันละเอียดยิบเลยทีเดียว  คุณหมอทำแบบสบายๆมากๆค่ะ น้ำตาลเองก็เกือบหลับ เพราะมันไม่เจ็บค่ะ  หลังการทำก็ยังชาต่อไปอีกประมาณ 6 ชั่วโมงได้ค่ะ ก็ยาชา 11 เข็มอ่ะนะ.....ชาได้ยาวนานดีจริงๆ 555++ หลับไปแบบสบายๆ ตื่นมาตอนเช้าความรู้สึกคือมันเจ็บไปทั้งหน้า เจ็บแบบระบมๆ.....บวมนิดหน่อย ล้างหน้าต้องทำแบบเบามือที่สุด วิ่งไม่ได้ กระโดดไม่ได้ เดินเร็วๆไม่ได้ ลมผ่านหน้ามากไม่ได้......เจ็บค่ะ แต่เจ็บจริงๆก็แค่วันเดียวค่ะ วันที่สองตื่นมาก็ในสภาพนอนคว่ำหน้าซะงั้น ><" คือมันก็ยังเจ็บนิดๆค่ะแต่ก็ไม่มากแล้ว ล้างหน้าจับหน้าได้ วันที่ 2 ก็สามารถแต่งหน้าไปทำงานได้ตามปกติค่ะ อาจจะรู้สึกตึงๆนิดหน่อย วันที่ 3 ก็หายเจ็บแล้วค่ะ ที่บวมอยู่ก็ยุบลงไปมากแล้ว แต่มันเขียวเพิ่มมากขึ้นค่ะ เขียวๆเหลืองๆจางๆ.....เหมือนโดนตบมา 555++ แต่สามารถใช้รองพื้นกลบได้ค่ะ ไม่ต้องกังวล  พอครบ 7 วัน รอยเขียวช้ำก็จางหายไปหมดค่ะ ไม่รู้สึกเจ็บแล้ว.....หน้าก็เหมือนจะปกติ ส่วนที่มีฟิลเลอร์ก็ยุบลงนิดหน่อย ตอนแรกจะรู้สึกเหมือนมันเป็นก้อนแข็งๆ แต่สัก 2 สัปดาห์มันก็จะไม่เป็นก้อนค่ะ เหมือนที่มันบวมก็ค่อยๆยุบลง ครบ 2 สัปดาห์ก็กลับไปพบคุณหมออีกครั้ง กลับไปถ่ายรูปความเปลี่ยนแปลงอีกที พบว่า......หน้าชั้นเล็กลง!!!!!!     มันเริ่มเปลี่ยนไปจริงๆด้วย......กรีดร้อง แต่แอบเกลียดกล้องหมอจัง มันชัดเกิ๊นนนนนนน 55555++ หมอบอกว่ามันจะค่อยๆเปลี่ยนเต็มที่อยู่ที่ 3 เดือนไปจนกระทั่งไหมละลายหมดคือ 6 เดือน ตอนนี้ก็ได้แต่รอความเปลี่ยนแปลงค่ะ น้ำตาลทำวันที่ 1 พฤษภาคม 56 ค่ะ ณ วันนี้ 12 สิงหาคม 56 นี้ก็ 3 เดือนพอดีๆ พยายามถ่ายภาพด้วยมุมเดิม แสงแบบเดิม นับจาก before จริงๆคือช่วงเดือนมกราคมค่ะ จนหลังฉีด Botox ช่วงปลายเดือนเมษายน ก่อนไปร้อยไหมและฟิลเลอร์ ไปจนเมื่อปลายเดือนกรกฎาคมเป็นภาพล่าสุดค่ะ  ขอบคุณคุณหมอพุฒิพงศ์ ภูมิสุวรรณ จาก AIC Clinic สาขาพระราม 4 สำหรับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้.....เปลี่ยนจากอาหมวยหน้ากลมบ๊อกเป็นอาหมวยหน้าเรียวได้ ขอบคุณมากๆค่ะ ^____^ ค่าใช้จ่ายสำหรับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ฟิลเลอร์ 3 หลอด หลอดละ 28,000 x 3 = 84,400 บาท ร้อยไหม 2 จุด จุดละ 75,000 x 2 = 150,000 บาท ติดต่อสอบถามได้ที่ AIC Clinic โทร. 02-2871200-5
ขอแสดงความยินดีด้วยค่า ^^
โดย: NickyOkawa
 วันที่: 14 สิงหาคม 2556 เวลา:15:02:39 น. |
bemynails
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 69 คน [?] ผู้หญิงธรรมดาที่ชอบช๊อปปิ้ง แต่งหน้า เพื่อความสุขเล็กน้อยๆของตัวเอง ในโลกการทำงานที่ผู้ชายเป็นใหญ่ งานออกแบบเป็นชีวิต....ก็ขอออกแบบชีวิตประจำวันด้วยสีสันบ้าง.... เพราะผู้หญิงก็ยังเป็นผู้หญิงวันยังค่ำ.... ^_^ ไม่อนุญาตให้ใช้ข้อมูลหรือชื่อ bemynails ในการนำไปอ้างอิงเพื่อขายสินค้าใดๆค่ะ bemynails 
| ||||||||||||
