มกราคม 2559

 
 
 
 
 
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog
The Best of 2015 : ต้อนรับปีใหม่รวมรีวิว Item เด็ดๆของปีที่ผ่านมา
 มันเป็นธรรมเนียมไปซะแล้วว่าเมื่อขึ้นปีใหม่มาเราจะต้องรวบรวมที่สุดของปีที่ผ่านมา

ปีใหม่นี้ก็เช่นกัน มีความเปลี่ยนแปลงมากมายที่เกิดขึ้นในปี 2015 ที่ผ่านมา

น้ำตาลก็เลยมีเวลามาคิดและรวบรวมที่สุดของปีเอาวันสุดท้ายของปีจริงๆ


ปีที่ผ่านมานี้มีความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิตเกิดขึ้น

น้ำตาลทำงานที่บริษัทเล็กๆแห่งนึงมานานถึง 11 ปี

จนที่นั่นเป็นบ้านหลังที่สอง ความสัมพันธ์ระหว่างเรากับนายเป็นพี่น้อง

แทบจะเป็นครอบครัวเดียวกัน การตัดสินใจเปลี่ยนแปลงทำได้ไม่ง่ายเลย

แต่.....ชีวิตก็ต้องเดินหน้าต่อไป

น้ำตาลเลยตัดสินใจลาออกแล้วไปทำงานในบริษัทที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม

ก้าวกระโดดเป็นหลายสิบเท่าจากออฟฟิสเล็กๆทำงานกัน 2-3 คน

มาอยู่บริษัทใหญ่คนเป็นร้อยแถมเป็น International Firm อีกต่างหาก

การปรับตัวในช่วงแรกก็ลำบากพอสมควร ตอนนี้เองก็ยังไม่ผ่าน Probation เลย

สิ้นเดือนมกราคมนั่นแหละถึงจะรู้

การทำงานก็เปลี่ยนรูปแบบไปเยอะ งานยากกว่าเดิม เยอะกว่าเดิม และเร่งกว่าเดิม

ถามว่าเป็นไง......ตอบเลยว่าสนุกมาก เหนื่อยมาก และ ท้าทายความสามารถมาก

ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดี และเป็นที่สุดของชีวิตในปีที่ผ่านมาค่ะ





เอาล่ะค่ะมาเริ่มที่ไอเท็มต่างๆที่น้ำตาลให้เป็นที่สุดของปี 2015 ที่ผ่านมาค่ะ

ทั้งหมดนี้คัดเลือกจากความชอบ ความกรี๊ด การหยิบใช้บ่อย

บางชิ้นซื้อหามาเอง บางชิ้นแบรนด์ส่งมาให้ลองและกลับไปซื้อเองซ้ำ

บางชิ้นก็ได้มาจากแบรนด์ที่ใช้ไม่หมดสักที แต่ถ้าหมดก็จะไปซื้อเอง




* ผลิตภัณฑ์ที่แบรนด์ให้มาลองใช้แล้วชอบ เลยมีการซื้อมาใช้ต่อเนื่อง

** ผลิตภัณฑ์ที่ซื้อมาใช้เอง

*** ผลิตภัณฑ์ที่แบรนด์ให้มาใช้แล้วยังไม่หมด และคาดว่าต้องซื้อต่อแน่ๆ






ชิ้นแรกเป็นเทียนหอมของ Organika : Kiss of Jasmine *





เริ่มต้นที่แบรนด์นี้เชิญไปงานเปิดตัวแบรนด์ของนางเอกสาว ศรีริต้า เจนเซ่น

เป็นผลิตภัณฑ์สปาออร์แกนิกพรีเมี่ยมเกรดลูกเล่นเพียบ

เค้าก็ให้ของมาลองใช้เยอะพอสมควร แต่อินี่ก็ยังไปซื้อเค้าอีกเพราะที่ให้มาไม่ใช่อันที่อยากได้

เค้าให้เทียนหอมกลิ่น Secret Rose Garden มาก็ชอบนะคะ

แต่ก็อยากได้กลิ่นมะลิด้วย เลยไปสอยเองมาอีก เป็นเทียนขนาดเล็ก 1,700 บาท

มีครอบแก้วมาให้ และช้อนเล็ก 1 อัน ให้ช้อนมาทำไมวะ???? หลายคนคงสงสัย

มันคือเทียนที่จุดแล้วตักน้ำตาเทียนมานวดตัวได้ด้วย 

เพราะเทียนทำจาก Wax ถั่วเหลืองออร์แกนิก เอามานวดบำรุงผิวให้กลิ่นหอมติดตัว

และ Wax ก็ช่วยเคลือบผิวให้เนียนนุ่มด้วย.....เหมาะกัยสาวซาดิสม์ชอบนวดตัว

มาค่ะ....โซ่ แส้ กุญแจมือ และเทียนพร้อมแล้ว 






Mark & Spencer : Foaming Bath Cream - Magnolia **




สบู่อาบน้ำที่ยังคงครองแชมป์มายาวนาน ถามว่ามีไปใช้อย่างอื่นบ้างไหม

มีค่ะ.....แต่ก็ต้องกลับมาใช้ขวดนี้ตลอด

คืออาบเสร็จแล้วตัวไม่คัน กลิ่นก็หอม....ติดตัวมาก คุณสามีชอบกลิ่นนี้

ขวด 500ml. ราคาไม่เกิน 400 บาท ขวดนึงใช้ได้ครึ่งปีค่ะ

น้ำตาลมักจะซื้อทีละหลายๆขวดช่วงปีใหม่เพราะมันจะลดราคา 20%

หรือแบบซื้อ 2 แถม 1 ไรเง๊ค่ะ ดูโปรโมชั่นดีๆมันคุ้มมาก




MA CHE'RIE : Air Feel Shampoo **




ตอนนี้ตัดผมสั้นแล้ว เรื่องผมแห้งแตกปลายไม่ใช้ปัญหาอีกต่อไป

แต่.....ปัญหาของน้ำตาลคือการแพ้แชมพู หนังศีรษะเป็นเม็ดเป็นสิวและผมร่วง

แชมพูขวดนี้ตอบโจทย์ของปัญหาทั้งหมดที่น้ำตาลมี 

เป็นแชมพูเนื้อใสๆกลิ่นหอมผลไม้ สระแล้วสบายหัว ไม่มีเม็ดขึ้นและผมไม่ร่วง

ใช้หมดไปแล้ว 1 ขวด นี่เป็นขวดที่ 2 แล้วค่ะ

ขนาด 200 ml. ราคา 240 บาท ขวดนึงใช้ได้ 3-4 เดือนสระผมทุกวันนะคะ

หาซื้อได้จาก Watson, Tsuruha และ ซุปเปอร์มาร์เกตทั่วไป





ORIGINS : Ginger Souffle **



ครีมทาตัวกลิ่นขิงเนื้อซูเฟล่ เนื้อของครีมจะเบาและนุ่มแต่ชุ่มชื่นมากๆ

ทาก่อนนอนจะทำให้สบายตัวและหลับสบายสุดๆ

เวลาที่ผิวเป็นผื่นคันเพราะแห้งมากๆ น้ำตาลจะทาครีมอันนี้

ชอบกลิ่นเป็นแรกเริ่ม และชอบสัมผัสเป็นอย่างที่สอง

สุดท้ายคือมันทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื่นและไม่คันคือที่สุด

กระปุกนี้ขนาด 125ml. ซื้อมาพร้อมกับน้ำหอมกลิ่นขิงเป็นเซต

เลยไม่รู้ว่าขนาดแยกนั้นราคาเท่าไหร่ 5555++

นี่ก็จะหมดแล้ว เดี๋ยวคงต้องไปสอยเพิ่มค่ะ




Organika Milk Bath & Massage Oil : Secret Rose Garden **



มันคือ....น้ำมันใสๆ ในขวดเป็นดอกกุหลายแห้งแขวนลอยอยู่ในขวดสวยฟรุ้งฟริ้งมาก

เป็นน้ำมันทาตัวที่เมื่อโดนน้ำจะเปลี่ยนเป็นน้ำนม

สามารถเทลงในอ่างน้ำและแช่ตัวได้ หรือจะเอาลูบตัวหลังอาบน้ำก่อนเช็ดตัวได้

หรือจะใช้นวดตัวแห้งก็ได้ค่ะ ขวดนี้เป็นกลิ่นกุหลาบหอมฟุ้งเหมือนยกสวนกุหลาบมาเลย

ตอนที่ตัวแห้งมาก โลชั่นอะไรก็เอาไม่อยู่ เริ่มหมดปัญญาเลยเทสิ่งนี้ใส่มือแล้วทาแทนโลชั่น

ที่คันๆแห้งๆ หลายเลยอ่ะ และมันหอมมากหอมติดตัวนานมาก

ขวดนี้ 100 ml. ราคา 1,300 บาท

ซื้อที่เคาน์เตอร์ Organika สยามพารากอนค่ะ




Bifesta Eye Makeup Remover **



ผลิตภัณฑ์เช็ดทำความสะอากเครื่องสำอางบริเวณดวงตา

เดิมเคยใช้ Botanic ขวดละร้อยกว่าบาท จนมันเลิกผลิตไป

มีสูตรใหม่ออกมาแทนแต่ลองใช้แล้วไม่ฟินเลย เลยไปตามหาสิ่งที่จะมาทดแทน

ไปได้ Bifesta Eye Makeup Remover มาจากร้าน Tsuruha มาลองใช้

ใช้ไปขวดนึงซึ่งนานเหมือนกันกว่าจะหมดประมาณ 3 เดือนได้

ถือว่าใช้ได้นานทีเดียวเพราะน้ำตาลแต่งตาทุกวัน และใช้เช็ดทั้งหน้า

ไม่ได้เช็ดเฉพาะรอบดวงตา แต่ใช้เช็ดลิปสติกออก ลามไปทั่วหน้าเลยค่ะ

เป็นคลีนซิ่งที่มีส่วนผสมของน้ำกับน้ำมันต้องเขย่าก่อนใช้

ซึ่งดีมากนะ.....เพราะมันจะเช็ดพวก waterproof สารพัดออกได้เกลี้ยง

ขนาดขวดละ 145 ml. ราคาประมาณ 300 บาท ++ (จำราคาไม่ได้แน่นอน แหะๆ)





RMK Cleansing Balm **



ปกติจะใช้น้ำมันหรือพวก Cleansing Oil นวดล้างเอาเครื่องสำอางออกเป็นประจำ

เพราะมันทำให้เครื่องสำอางลอยตัวออกมาล้างออกได้หมดจดที่สุด

แล้ววันนึงก็ไป workshop ของ RMK ค่ะ เค้าให้ Cleansing Balm แบบนี้มา

เป็นกระปุกจิ๋วๆแบบควัก 2 ครั้งหมด....เลยได้เอามาลองตอนไปต่างจังหวัด

พบว่า....มันดีมาก มันนวดลงบนหน้าแล้วกลายเป็นน้ำมัน พอล้างออกก็กลายเป็นน้ำนม

เนื้อบาล์มเป็นสีชมพูอ่อนๆหอมมาก ตักขึ้นมาปริมาณ 1 เม็ดถั่วลิสงก็เพียงพอค่ะ

และกลิ่นบาล์มนั้นหอมกุหลาบแบบนุ่มนวลมาก นวดไปหอมไป

แถมพอตอนล้างออกหน้าจะนุ่มมาก สามารถล้างแต่น้ำเปล่าก็ได้ ผิวจะนุ่มๆชุ่มๆ

แต่ถ้ากลัวไม่สะอาดใช้สบู่อ่อนๆล้างตามก็ได้ค่ะ

กระปุกเป็นฝาเปิดปิดป๊อกแป๊ก มีไม่พายเอาไว้ตักในกระปุกด้วย

กระปุกนึง 100 g. ราคา 1,350 บาท ซื้อตอนมีลด 10% เหลือพันนิดๆ

ใช้นานลืมอ่ะ นี่ใช้มา 3-4 เดือนแล้วยังไม่ถึงครึ่งกระปุกเลยค่ะ





Acne- Aid Liquid Cleanser **



สบู่เหลวล้างหน้าที่มี Salicylic Acid อยู่ในส่วนผสมด้วย ที่สำคัญคือ Soap Free

ทำให้เวลาล้างแล้วผิวไม่แห้งตึง ล้างได้สะอาดลดการอุดตันด้วย

แถมตอนเช้าเวลาอาบน้ำ น้ำตาลจะล้างหน้าและเอาถูรักแร้ด้วย

ทำให้ไม่มีกลิ่นตัวระหว่างวัน เพราะเช้าๆอาบน้ำไม่ได้ถูสบู่อ่ะ ตัวจะได้ไม่แห้งเกินไป

เปลี่ยนไปใช้อย่างอื่น ทั้งแพงกว่า ถูกกว่า หลายรูปแบบ

สุดท้ายก็ต้องกลับมาซบอกพี่แอดเน่เอดเสมอ ไปไหนไม่รอดจริงๆค่ะ

ขวดละ 100 ml. ราคา 159 บาท




ORIGINS  Original Skin ***



มาส์กที่ทำให้ผิวกลับสู่สิ่งที่มันเป็น.....งงอ่ะดิ

คือผิวแรกเริ่มของเราเป็นอย่างไร พอเจอมลภาวะ เจอแสงแดด เจอสิ่งที่ทำร้ายผิว

ผิวก็เริ่มเปลี่ยนสภาพ แต่มาส์กตัวนี้จะช่วยฟื้นฟูผิวให้กลับสู่สภาพเดิมที่มันควรจะเป็นค่ะ

ส่วนผสมเป็น Rose Clay โคลนสีชมพูที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุจากเมดิเตอเรเนียน 

และมีเม็ดบีดส์เล็กๆ ตอนมาส์กก็สามารถขัดผิวไปเบาๆด้วย ตอนพอกมันจะเย็นๆด้วยค่ะ

พอแห้งแล้วก็ล้างออก จะพบว่าผิวนุ่มชุ่มชื่นและสบายผิวมากๆ ทำอาทิตย์ละหนก็พอแล้วค่ะ

หลอดนี้ 100 ml. ราคา 1,200 บาท 






OGUMA Aquakey Super Mask *



มาส์กชีทแบบแผ่นแปะขอยกให้ Oguma อันนี้เลยค่ะ

มันไม่เหนียวเหนอหนะ แต่ก็ชุ่มฉ่ำสบายผิว ช่วงที่ผิวแย่มากๆไปโดนแดดมา

หรือช่วงที่นอนดึก ดื่มน้ำน้อย โปะชีทแล้วนอนนิ่งๆเย็นๆ ผิวจะดูอิ่มขึ้นมาทันที

ที่มันเริ่ดมากคือ มันแปะทับ Makeup ได้ด้วยไม่มีหลุด

แต่เอาจริงๆก็ชอบแปะแล้วนอนหลับนะคะ.....ตื่นมาจะได้สดชื่น

ราคาแผ่นละ 150 บาท ซื้อได้จากเวปขายของออนไลน์หลายเวปเลยค่ะ





fresh : Herperides Grapefruit **



น้ำหอมแห่งปีของน้ำตาลค่ะ ปีนี้ชอบกลิ่นแนวหอมสะอาดสบายจมูก

Fruity Citrus เป็นแนวกลิ่นที่ปลาบปลื้มมากกว่าแนวอื่น

ขวดนี้เป็นของแบรนด์ fresh ที่เน้นความสดชื่นให้สมชื่อแบรนด์

เป็น Eau de Parfum แต่สำหรับน้ำตาลให้ความเข้มข้นแค่ Eau de Toilette พอค่ะ

กลิ่นจะติดอยู่แค่ 6-8 ชั่วโมงเองค่ะ ยิ่งเจออากาศร้อนจะจางไวมาก

ต้องประโคมใส่มากกว่าปกติ 2-3 เท่าถึงจะอยู่ทนอยู่นาน

กลิ่นเปิดเป็นกลิ่นซิตรัสสดชื่นสุดๆค่ะ และกลิ่นที่อวลอยู่เป็นกลิ่นเขียวๆสดชื่นสะอาดๆค่ะ

ขนาดขวด 100 ml. ราคา 3,600 บาท

สอยตอน Sephora ลด 20% เหลือ 2,8xx ฟินค่ะ





POLA BA the lotion ***



ขอมอบรางวัล The Lotion แห่งปีให้เลยค่ะ นี่คือที่สุดในทุกด้าน

ฟีลลิ่งดีที่สุด กลิ่นดีที่สุด ให้ความชุ่มชื่นดีสุด ผิวรู้สึกอิ่มฟูสุด

และแพงที่สุด......แพงมาก แพงแบบอยากซื้อเองแต่คงคิดหนักมาก

120 ml. ราคา 9,000 บาท

ขอเก็บเป็นไอเท็มที่ถ้ามีวาสนาคงได้ซื้อมาใช้ต่อ 55555++





ORIGINS : Plantscription Anti Aging Power Serum *



เซรั่มชะลอเหี่ยวที่ใช้แล้วชอบสุดในรอบปี ยกให้ขวดนี้ค่ะ

เดิมเคยใช้แล้วไม่ชอบเลย พอเค้าปรับสูตรใหม่เมื่อต้นปี ได้มาลองใช้อีกรอบ

ปรากฏว่ามันดีมาก ชอบมากค่ะ กลิ่นหอมผ่อนคลาย

เนื้อไม่ข้นเกินไป ใช้แค่เมล็ดถั่วเขียวก็ทาได้ทั่วหน้า ซึมเร็ว เนื้อไม่เป็นซิลิโคน

ใช้ก่อนนอนพอตื่นตอนเช้า ผิวจะฟู ชุ่มชื่นกำลังดี ผิวตึงกระชับ

เวลาเราทำงานหนักนอนไม่พอ ริ้วเล็กๆที่เหมือนจะเกิดจางๆก็จะหายไป

ขนาด 50ml. ราคา 4,500 บาท

ราคาแรงส์นิดนึงแต่ใช้ได้นานค่ะ น้ำตาลใช้เฉพาะกลางคืนค่ะ 





Skindom : Angels Galactomyces 100% Ampoule *



เป็น Pre-serum น้ำใสๆเจือน้ำมันนิดๆ ลูบก่อนเลยหลังล้างหน้าเสร็จ

เดิมแบรนด์ส่งมาให้ลองใช้เล่นๆค่ะ พอลองเห็นผลว่าผิวดูเรียบขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ผิวหน้าดูเงาใสอย่างที่แบบมีคนทัก เลยสอยต่อใช้มาเรื่อยๆเลยค่ะ

ขนาด 30ml. ราคา 1,350 บาท

ซึ่งบางทีวัตสันเค้าขาย 2 ขวด 1,800 ก็สอยมาตุนไว้เลยเพื่อความอุ่นใจค่ะ

สามารถใช้ได้ทั้งกลางวันและกลางคืนเลย ขวดนึงใช้ได้เดือนนึงพอดีๆ





StriVectin-AR - Advanced Retinol Day Treatment SPF 30 ***



เป็น Day Cream ที่ขอชาบูเลยค่ะ

เพราะหน้าร้อนที่ผ่านมาน้ำตาลเกิดเป็นผื่นบนหน้า และหน้าก็ดูแห้งๆลอกๆลอยๆ

ดูผิวแย่มากไม่รู้ทำไม อาจจะเป็นเพราะอากาศร้อนมากและออกไปตากแดดดูไซท์

ผิวพังมาก ทาอะไรก็ไม่ติดหน้าค่ะ

ไปรื้อตู้เจอหลอดนี้ที่แบรนด์ให้มาเป็นของขวัญปีใหม่ตั้งแต่ต้นปี

เห็นเป็น Day Cream มี SPF เลยลองบีบแล้วทาสักวันคงไม่แหกไปกว่าเดิม

ปรากฏว่าผิวดีขึ้นมาก ที่ดูแย่ๆลอกๆลอยๆ หายหมดเลยค่ะ

หน้านุ่มมากผิวก็ดูอิ่มฟูขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ถึงจะมีกันแดด SPF 30

แต่ก็ไม่ทำให้ผิวอุดตันอย่างที่เคยเป็น

ข้อเสียอย่างเดียวที่พบคือ เกลียดกลิ่นมันค่ะ มันเป็นกลิ่นที่น้ำตาลไม่ชอบ 555+

แต่ทั้งหมดทั้งมวล มันเป็น Day Cream ที่เริ่ดมากจริงๆค่ะ

ขนาดหลอด 100 ml. ราคาประมาณ 4,000 บาท





Clinique Repair Wear Sculpting Night Cream



Night Cream ที่ทดลองใช้แบบไม่คาดหวังอะไร ขอแค่อยากให้ชุ่มชื่นมากๆก่อนนอน

ปรากฏว่ามันดีมาก ตอนทาลงไปมันจะแตกตัวเป็นน้ำซึมลงผิว

และบางส่วนก็ยังเป็นครีมเคลือบผิวเอาไว้ เหมาะมากเวลาที่เรามีเวลาพักผ่อนน้อย

พอโบก Night Cream นี้แล้วนอน ตื่นตอนเช้าจะเหมือนผิวได้นอน 8 ชั่วโมงเต็มอิ่ม

ครีมเนื้อเบาเป็นกึ่งครีมกึ่งเจล ซึมง่าย ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น

ขนาด 50 ml. ราคา 3,300 บาท




Elizabeth Arden Ceramide Capsules Daily Use *



สิ่งนี้คือของวิเศษที่กอบกู้ทุกวิกฤติบนผิวหน้าได้ทั้งหมด

ยังคงครองแชมป์ต่อจากปีที่แล้ว จะหนีไปใช้อย่างอื่นสุดท้ายก็ต้องกลับมาซบอกเหมือนเดิม

นี่คือ แคปซูลเซรามายด์

ในแคปซูลบรรจุเซรามายด์เข้มข้นที่ให้ความชุ่มชื่นและซึมเร็วมาก

เป็นส่วนประกอบหลักของความชุ่มชื่นใต้ผิวที่ทำให้ผิวดูอิ่มเอิบ

เนื้อจะเป็นเหมือนน้ำมันหนืดๆที่ลูบลงไปแล้วลื่นๆ ทาแล้วจะซึมหายไปหมดเลยค่ะ

น้ำตาลใช้เจ้าสิ่งนี้มา 2 ปีกว่าแล้วค่ะ 

มันดีงามมากในเรื่องของการให้ความชุ่มชื่นและฟื้นฟุผิวที่ขาดน้ำ

เพราะผิวที่อายุมากขึ้นจะค่อยๆแห้งมากขึ้น ดูขาดน้ำ ไม่เต่งตึงสดใส รวมถึงเริ่มหย่อนด้วย

เซรามายด์จะเป็นตัวที่ให้ความชุ่มชื่นใต้ผิวได้ดีสุดๆ

น้ำตาลมีีความเชื่อส่วนตัวว่า การที่ทำให้ผิวชุ่มชื่นอยู่เสมอคือการทำให้ผิวสุขภาพดี

ริ้วรอยจะมาเยือนช้าลง ถ้าคุณเติมความชุ่มชื่นให้ผิวได้อย่างเพียงพอ

เห็นอยู่ในกระปุกสีทองหรูหราอลังการ ราคาไม่ได้แรงจนขนลุกนะคะ

ขนาด 60 Capsules ราคา 3,800 บาท

เค้าบอกให้ใช้ครั้งละ 1 เม็ดเลย แต่น้ำตาลแบ่งใช้ค่ะ เม็ดนึงใช้ได้ 4 ครั้ง 

ทาเช้าเย็นก็ 2 วัน

กระปุกนึง 60 เม็ด ใช้ได้ 120-130 วัน ก็ 4 เดือนกว่าคุ้มอยู่นะคะ ^___^




หลังจากสารพัด Skincare ผ่านไปก็มาดูฝั่งของ Make up กันบ้างค่ะ



Make Up Forever STEP 1 Skin Equalizer - Yellow ***



มันคือเบสสีเหลืองค่ะ เบสที่ลงแล้วผิวเรียบกริบแถมปรับสีผิวให้สวยสว่าง

น้ำตาลเป็นคนผิวเหลืองค่ะ แต่หน้าจะค่อนข้างแดง

การลงเบสสีเหลืองทำใหเสีผิวดูกลมกลืนกันมากขึ้น

ปกติเบสที่เป็นซิลิโคนจะรู้สึกเป็นน้ำมันลื่นๆใช่ไหมคะ

แต่ Make Up Forever เป็นเบสที่โครงสร้างซิลิโคนเป็นแผ่นแบนๆค่ะ

มันเลยเคลือบผิวให้เรียบเนียนและไม่รู้สึกถึงความน้ำมันลื่นๆ

โบกเบสแล้วตบแป้งฝุ่น หรือ จะทาแป้งผสมรองพื้นบางๆก็สวยได้แล้วค่ะ

สวยเร็ว....เหมาะกะวันตื่นสาย 5555++

หลอดนึง 30 ml. ราคา 1,600 บาท





NARS : All Day Luminous Weightless Foundation - Medium 3 Stromboli **



สงครามรองพื้นที่ฟาดฟันกันมาตลอดทั้งปี น้ำตาลก็พยายามค้นหา ทดลอง สารพัด

ซื้อเองมาลองใช้ก็หลายขวด ได้มาลองใช้ก็เยอะ

จนมาลงตัวที่ขวดนี้ล่ะค่ะ NARS All Day Luminous Weightless Foundation

เป็นรองพื้นเนื้อบางที่ให้การปกปิดปานกลาง เกลี่ยยากนิดนึง

เพราะมันต้องเร็วใช้กับแปรงลงรองพื้นจะดีที่สุด

ติดทนนานและให้ผิวที่โกลวสวยกำลังดี ไม่เยิ้มแต่ฉ่ำกำลังงาม ไม่แห้งแมตเกินไป

นอกจากเนื้อสัมผัสที่ดีงามแล้ว สีของรองพื้นมีให้เลือกเยอะมาก

น้ำตาลเป็นคนที่ผิวเหลืองมาก หารองพื้นยากมาก เจอที่นี่ล่ะค่ะ

สี Stromboli สีที่โคตรเหลืองแต่พอดีกับผิว ทาแล้วสีสวยลงตัว

ขนาด 30 ml. ราคา 1,800 บาท




Urban Decay Naked Skin Weightless Complete Coverage Concealer ***



คอนซีลเลอร์เนื้อบางเบาปกปิดเทพมาก แถมสีสวยด้วยลงบางๆแท็บๆหน่อยอยู่เลย

ไม่หนาตัว ไม่เป็นคราบ ไม่ดูผิวแห้งเหี่ยวด้วย แต่ผิวดูเป็นผิวจริงๆ

หลอดเท่าลิปกลอส แปรงหัวฟองน้ำแบบเดียวกับลิปกลอสเลยค่ะ

แตะๆแต้มๆนดเดียวกลบมิดเลย......เนื้อดี สีสวย ปกปิดเทพ.... ชนะเลิศ

ขนาด 5 ml. ราคา 1,200 บาท




ขอข้ามแป้งผสมรองพื้นไปนะคะ เพราะน้ำตาลไม่กล้าฟันธงว่าอันไหนปลื้ม

เพราะปกติชอบที่จะลงรองพื้นแล้วใช้แป้งฝุ่นลงทับมากกว่า

หรือลงแค่แป้งฝุ่นเฉยๆไปเลย......ซะงั้น 5555++





Too Faced Primed & Poreless Press Powder **

1028 Ultimate oil control powder ***







แป้งฝุ่นอัดแข็งทั้ง 2 ชนิดที่ให้ขึ้นแท่นคู่กันนี้ มันคือตัวตายตัวแทนของกันและกันค่ะ

เป็นแป้งฝุ่นอัดแข็งที่ช่วยควบคุมความมันและพรางรูขุมขนได้ดีทั้งคู่

ชอบมากที่จะใช้เซตรองพื้น แม้กระทั่งซับมันและเติมหน้าระหว่างวัน

Too faced พรางรูขุมขนได้ดีกว่านิดหน่อย เหมาะกับการเซตรองพื้น 

ตลับใหญ่กว่า ราคาแรงกว่า ขนาด 10 g. ราคา 1,500 บาท

1028 ควบคุมความมันได้ดีกว่า เหมาะกับการเติมระหว่างวันมากเพราะตลับเล็กพกพาง่าย

ขนาด 4.6 g. ราคา 299 บาท

นั่นล่ะค่ะทั่นผู้โชม......เลือกใช้กัยตามอัธยาศัย 5555++





Too Faced Shadow Insurance **


Eye Primer สำหรับการแต่งตาที่ดีที่สุด ณ นาว น้ำตาลไปสอยหลอดเล็กมาลองใช้

แตะแล้วทาที่เปลือกตาก่อนลงอายชาโดว์ ทำให้สีติดทนนานและสีชัดเจนด้วย

สีไม่มีไหลมีเลอะระหว่างวันเลย

เทคนิคของการใช้คือ ทาแล้วลงอายชาโดว์ต่อเลย อย่าทาทิ้งไว้

ตอนที่มันยังหนึบนิดๆ ลงอายชาโดว์เลยจะทำให้สีชัดและติดทนมาก

ขนาด 5 ml. ราคา 390 บาท





Lunasol Eye Shadow *



ใช้วิธีเดิมๆในการตัดสินใจว่า ถ้าจะต้องไปต่างจังหวัดจะหยิบอะไรไป

คำตอบคือพาเลตแต่งตาของ Lunasol ค่ะ

เพราะสีมันสวย เนื้อมันนัว และมันมีแปรงพร้อมสรรพในตลับ

ตลับไม่ใหญ่เกินพกพา และไม่ต้องมีสิ่งอื่นใดมันครบ จบได้ในตัวเอง

เนื้ออายชาโดว์ของ Lunasol มีหลากหลายเนื้อนะคะ แต่เค้าจะจัดมาให้ครบถ้วนใน 4 หลุม

และสีที่เลือกมา รับประกันว่าใช้ร่วมกันได้เรื่อยๆ

ตลับนึงใช้นานลืม 1,800 บาท





Coffret D'or Eye Liner - Black *




อายไลน์เนอร์ที่ใช้มายาวนานเป็นปี ที่กำลังคิดว่าจะต้องทิ้งและเปลี่ยนแท่งใหม่ซะที

เพราะอายไลน์เนอร์อันนี้มันเติมหมึกได้ ซื้อหมึกมาเติมใช้ได้อีก 4 เดือน

แท่งนี้แบรนด์ให้มาก่อนใช้จนหมึกหมดก็เติมมาไม่ต่ำกว่า 5 หลอดแล้วค่ะ

สีดำดีมาก หัวพู่กันใหญ่แต่ปลายแหลม เขียนง่าย ติดทนนานไม่ค่อยเลอะ

ถ้าไม่น้ำหูน้ำตาร่วงอย่างหนักมันก็อยู่ยันเย็นล่ะค่ะ

ราคาแท่งละ 900 บาท ซื้อหมึกมาเติมก็ 300 บาท





Maybelline Hyper Curl Volume Express Waterproof *



เป็นมาสคาร่าอ้วนดำชมพูสูตรเจล ที่ยกขนตาดั๊นให้เด้งขึ้นมาได้

เนื้อเจลสีดำสนิท ยกขนตาได้นาน ไม่เลอะเทอะระหว่างวันด้วย

แถมเนื้อมาสคาร่าจะบางๆแยกขนตาได้เป็นเส้นๆ ไม่จับกันเป็นปึก

ที่ขอยกให้มันเป็นที่สุดเพราะ มันทำขนตาทิ่มๆของน้ำตาลให้เด้งงอนสวย

ในราคา 149 บาท





RinyaLash RL-03 ***





ขนตาปลอมขนมิ้งค์ที่เริ่ดเลอเวอร์วังและสวยที่สุด ติดแล้วขนตาฟูดูเป็นธรรมชาติ

มันดูเยอะ แต่เยอะแล้วสวยอ่ะ 

ที่ชอบที่สุดคือมันทนมาก ที่เห็นนี่คือผ่านการติดมามากกว่า 15 ครั้งแน่ๆ

คนขายบอกว่าน่าจะติดได้มากกว่า 27 ครั้ง

ก้านขนตาแน่นดีมากแต่ไม่แข็ง ติดแล้วไม่เจ็บตา

ราคาอาจจะสูงสักหน่อย คู่ละ 600 กว่าบาท แต่คุ้มค่ะ 





DUO Eyelash Adhesive - Clear White **



กาวติดขนตาปลอมที่ใช้มายาวนาน ไม่หมดสักที และติดแน่นลมพัดไม่หลุด

นั่งวินไปไหนมาไหนก็ไม่หลุด ดึงออกไม่ยากไม่ดึงขนตาจริง

สูตรมันเป็นน้ำอาจจะติดกับก้านขนตาปลอมจนยากที่จะดึงออก

ต้องค่อยๆดึงออก ขนตาปลอมจะได้ใช้ได้นานขึ้นค่ะ

หลอดจิ๋วๆแบบนี้ใช้นานลืมค่ะ หลอดละ 350 บาทมั้ง





Illamasqua : Eye Brow Cake - Thunder ***




ที่เขียนคิ้วเนื้อเค้ก มันไม่เชิงเป็นฝุ่นนะคะ มันเป็นฝุ่นแบบหนึบนิดๆ

เขียนคิ้วได้สวยชะมัด ลากเล้นได้คมเข้ม และเบลนด์หัวคิ้วให้ฟุ้งได้

สีน้ำตาลเข้มสวยกำลังดี ติดทนนาน

ที่ได้มาเป็นหลุมที่มากะพาเลต ใช้มาปีนึงแล้วยังไม่ยุบเท่าไหร่เลย

ของขายแยกอันเบ้อเริ่ม 8-9 ร้อยบาท น่าจะได้ได้นานยันลูกบวชกันทีเดียว

ไอเท็มนี้ปีที่แล้วน้ำตาลก็ให้เค้า ปีนี้ก็ขอให้ต่อค่ะ เพราะยังไม่เจออย่างอื่นที่ถูกใจ






Catrice Illuminating Blush **



บลัชออนเนื้อดีสีสวยราคาถูก ตลับละ 190 บาท ใหญ่เบ้ง

สีสวยปัดแล้วนัวมาก.....คุณภาพเกินราคา

เป็นของดีราคาถูกที่แนะนำเลยค่ะ สอยทั้ง 3 สีได้ไม่ต้องแคร์เป๋าตังค์

บลัชมี Shimmer นิดหน่อยแต่พองาม ปัดไม่ยากเนื้อค่อนข้างแข็ง

แปรงจะจิกสีออกมาได้ไม่มากปัดซ้ำๆได้ไม่ตรูดลิง

ติดทนนานใช้ได้เลยค่ะ ไม่เคยต้องปัดซ้ำระหว่างวัน

ยกให้ไอเท็มนี้เป็นบลัชออนดีราคาเยา





Urban Decay After Glow Blush - Fetish **



อันนี้เป็นบลัชออนราคาสูงหน่อย สีสวยนัวมาก เม็ดสีชัด เนื้อบลัชดีจริงๆ

คือมันเป็นสีที่ดูแมตแต่พอปัดแล้วจะให้สีที่ชัดบนแก้ม และแก้มจะเงานิดๆ

ดูโกลวสวยฉ่ำแบบผิวดี๊ดี......ตลับไม่ใหญ่ไม่เล็ก ราคา 1,000 บาท

เป็นไอเท็มที่เด็ดสำหรับคนมีทุน





Hourglass Ambient Lighting Blush - Ethereal Glow **



จริงๆอันนี้มันเป็นบลัชออนค่ะ แต่พอดีสีมันค่อนข้างขาวสว่างมาก

น้ำตาลเลยชอบเอามาป็น Hi-Light ซะเลย เพราะปัดเจ้าสิ่งนี้ทั่วหน้า

โดยเฉพาะบริเวณใต้ตา โหนกแก้ม และสันจมูก

จะทำให้หน้าดูสว่างและมีมิติมากขึ้น จะแต่งหน้ายังไงก็ตาม

ปัดอันนี้ลงสุดท้าย จะสวยนัวแบบกลมกลืนกันพอดีๆ

ตลับนี้ราคาประมาณ 1,300 - 1,500 บาท จำราคาแน่นอนไม่ได้ค่ะ

เพราะสั่งซื้อหลายๆอย่างพร้อมๆกัน

เห็นว่าปีนี้ทาง Sephora จะนำเอา Hourglass เข้ามาขายในไทยแล้วด้วย เริ่ดเนอะ!!




The Balm : How 'bout them APPLE? **



Cheek & Lip Cream Palette สีสวยครบถ้วยทุกเฉด

เป็นได้ทั้งบลัชออนและทาปากได้ สีเป็นโทนแดงเรื่อ ชมพูแดง ชมพูส้ม

วิธีใช้คือแตะๆบนแก้มแล้วเบลนด์ ให้สีที่ชัดและติดทนนาน

สามารถลงหลังแป้งก็ได้ หรือจะลงหลังรองพื้นแล้วตบแป้งทับอีกทีก็ได้ค่ะ

น้ำตาลใช้มั่วมาก อยากทาตอนไหนก็ทา เอานิ้วแตะๆทาปากได้อีกด้วย

ให้สีสวยที่ดูเป็นธรรมชาติดีค่ะ มันไม่เป็นครีมทำหน้าเมือกด้วย

ราคาในไทยตลับละ 1,800 บาท

อันนี้ฝากเพื่อนสอยมาจากเมกาน่าจะราคาประมาณ 900 บาทได้





ettusais Lip Essence **



ลิปบาล์มที่หยิบมาด้วยความบังเอิญแบบไม่ได้คิดอะไรมาก

แต่พอเอามาลองใช้ เห้ยยย.....มันดีอ่ะ

เนื้อลิปไม่เหนียวมากแต่หนึบกำลังดี เคลือบริมฝีปากได้ดีมาก

กินน้ำก็ไม่หลุด และทำให้ปากนุ่มชุ่มชื่นดีมากๆ 

หลอดเล็กๆลายน่ารักราคา 690 บาท






BOBBI BROWN : Art Stick ***



โดยส่วนตัวชอบทาลิปแมต เพราะหน้ามันไง.....ถ้าหน้ามันด้วยปากมันด้วยจะดูเมือกไป

เลยชอบที่จะทาลิปแมตให้ปากดูแห้งๆหน่อย จะดูเปรี้ยวกว่าด้วย

Art Stick เป็นคำตอบของลิปสติกที่ดูแมต ติดทน สีสวย แต่ไม่แห้ง

จริงๆเค้าเอาทาแก้มก็ได้ด้วยนะคะ แต่น้ำตาลเอาทาปากอย่างเดียว

แท่งละ 1,000 บาท ขายพร้อมกบเหลาด้วยค่ะ ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีกบเหลา

สีที่ชอบคือ Pink Dust, Rose Brown, Hollow Red, Sunset Orange, Cassis

สีที่ดูกุดๆนั่นแหละค่ะ 5555++





หมดแล้วค่ะ.....น่าจะครบถ้วนแล้วสำหรับที่สุดของปีนี้

เป็นผลิตภัณฑ์ที่น้ำตาลเลือกมาแล้วว่าชอบมากจริงๆ

มีอีกหลายอย่างที่ก็ชอบนะ แต่ไม่ที่สุด.....บอกตรงๆว่าเลือกยากมาก

เพราะของที่ชอบมันเยอะจริงๆ 5555++



สวัสดีปีใหม่ทุกท่านนะคะ



Create Date : 01 มกราคม 2559
Last Update : 1 มกราคม 2559 22:14:36 น.
Counter : 5609 Pageviews.

1 comments
  
เป็นเอนทรี่ที่ก่อให้เกิดกิเลสสูงสุดของปี 55555
ตอนนี้ไปซื้อแชมพูตามแล้วค่าาาาาา
กำลังเล็งๆ Organika อยู่เหมือนกันค่ะ
โดย: NickyOkawa วันที่: 5 มกราคม 2559 เวลา:23:45:26 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

bemynails
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 69 คน [?]



ผู้หญิงธรรมดาที่ชอบช๊อปปิ้ง แต่งหน้า เพื่อความสุขเล็กน้อยๆของตัวเอง ในโลกการทำงานที่ผู้ชายเป็นใหญ่
งานออกแบบเป็นชีวิต....ก็ขอออกแบบชีวิตประจำวันด้วยสีสันบ้าง....

เพราะผู้หญิงก็ยังเป็นผู้หญิงวันยังค่ำ.... ^_^


ไม่อนุญาตให้ใช้ข้อมูลหรือชื่อ bemynails ในการนำไปอ้างอิงเพื่อขายสินค้าใดๆค่ะ


แอดเป็นเพื่อนกันใน facebook ได้ค่ะ

bemynails