สิ่งใดเกิดขึ้นแล้ว สิ่งนั้นดีเสมอ
Group Blog
starter
เรื่องเล็ก
ระหว่างทาง
somebody
insprie
coffee or tea
ห้องรับแขก
this is a book
What When Where Why
a day in a
life
project paris
ชั้น5
All Blogs
ขอบใจ
ระหว่างเรา
แค่นั้นเอง
หลอกกันเล่นรึเปล่า
เทคโนโลยีและความสัมพันธ์
จุดเริ่มต้น "ฉันอยากเป็นนักข่าว"
"ทำใจ" สิ่งที่ได้จาก "น้ำ"(ท่วม)1
มากกว่ารัก
หัวใจและร่างกาย
ความพอใจ
เรื่องรักเรื่องเล่าในวงเรา
ความฝัน...ความจริ ง...ความรัก
ความปรารถนา...สุดท้าย
มากกว่าหนังสือหนึ่งเล่ม
พรุ่งนี้...เธอจะยังรักฉันไหม
จะทำทุกอย่างเพื่อ"ใคร"
ความฝันกับการเดินทางครั้งสุดท้าย
ไม่มีไม่ลืม
คิดถึงทุกปี
รัก...เลิก...โกรธ...หลง
ใครบางคน...บางส่วนที่หายไป
ความฝันก็เหมือนไขมัน?
ตัวหนังสือในสมุดฉีก
นานแล้วที่เราไม่ได้เจอกัน
คน (ไม่)ชอบเหงา
ฤทธิ์ (นาย)ทางโทรศัพท์
จะไปทางไหนดี
มนต์รักมือถือ
บางสิ่งบางอย่าง และสี..ในบ้าน
last day...ตะแล็บแก๊ป
ไม่มีรักแท้ในMSN
ข้อความลึกลับ
เมื่อความรักหมดอายุ
คำถามและเวลาที่เหลือ
ไปเป็นชาวเกาะกันเต๊อะ
กลัวอด ไม่กลัวตาย???
"ถ้า..." นกไร้ขาเพื่อนรัก
มากกว่าหนังสือหนึ่งเล่ม
สำหรับคนชอบอ่านจึงถือเป็นความโชคดีที่มีร้านหนังสืออยู่ใกล้ๆ (matichon book club)ให้เดินไปซื้อหรือยืนอ่านเฉยๆ
ทั้งพ็อตเก็ตบุ้ก และนิตยสารสารพัด ยังไม่นับศูนย์ข้อมูลประจำออฟฟิศที่มีทั้งข้อมูล และหนังสือเล่มดีๆ ให้ยืมอ่านได้ฟรีๆ
เกือบทุกวันที่พอมีเวลาฉันจึงไม่พลาดที่จะไปแวะลงไปหาเรื่องดีๆ อ่านที่ร้านหนังสือ ถือเป็นการพักสายตาจากจอคอมพิวเตอร์ พักหูพักปากจากการพูดคุย และฟังเพื่อหาข่าว
ตั้งแต่วีคที่ผ่านมา มีพ็อกเก็ตบุ๊กในเครือมติชนหลายสิบปกลดราคาถูกมากๆ พี่นักขายประจำร้านเชิญชวนว่า ถูกกว่าในงานสัปดาห์หนังสือ(อีกนะ)
งานสัปดาห์หนังสือปลายปีนี้ยังมาไม่ถึง แต่หลายเล่มที่นำมาขายลดราคาทั้งถูก และสภาพใหม่เอี่ยมอ่องจนอดไม่ได้ที่จะซื้อมาเก็บไว้ทีละหลายเล่ม
เล่มไหนอ่านแล้วชอบ บางเล่มยังไม่ได้อ่านแต่คิดเองว่าน่าจะดี ฉันมักซื้อตุนไว้หลายเล่ม เผื่อส่งไปให้เพื่อนๆ พี่ๆ ที่สนิทสนม และชอบอ่านเหมือนกัน
วีคที่แล้วจึงไม่เพียงหอบหนังสือกลับบ้านเป็นกะตัก 2-3 วันที่ผ่านมาจึงอ่านหนังสือจบไป2เล่ม
เล่มแรกเป็นวรรณกรรมเยาวชนของ Sharon Creech เรื่อง Bloomability (วัยแย้มแก้มใส) แปลโดยสมพร วรรธนะสาร
อีกเล่มเป็นบันทึกประสบการณ์ชีวิตของ Joan Didion นักเขียนหญิงชาวอเมริกันวัย71 ปี ที่สูญเสียสามี และลูกภายในเวลาไล่เลี่ยกัน เธอผ่านมันมาได้ และเรียกช่วงปีอันแสนเศร้านั้นว่า the year of magical thinking
การเรียนรู้ และครุ่นคิดถึงประสบการณ์ของคนอื่นผ่านการอ่านประหยัดทั้งเวลา และค่าใช้จ่าย
น่าแปลกที่การสร้างนิสัยรักการอ่านกลับเป็นเรื่องระดับชาติที่หลายฝ่ายพยายามผลักดันแต่ไปไม่ถึงไหน
หลายเดือนก่อนได้ดูหนังทางทรูวิชั่นส์ เป็นเรื่องเกี่ยวกับคนรักการอ่านกลุ่มหนึ่งที่รวมตัวกันอ่านและถกถึงเรื่องราวในหนังสือที่อ่านด้วยกัน
หนังเรื่องนี้ไม่เพียงเป็นแรงบันดาลใจให้ฉันขวนขวายหางานเขียนของเจน ออสตินมาอ่านบ้างยังทำให้ฉันและกลุ่มเพื่อนสนิทรื้อฟื้นกิจกรรมสมัยนักศึกษากลับมาอีกครั้ง
เราตกลงกันว่าจะอ่านหนังสือเรื่องเดียวกันเพื่อนำมาถกกันแลกเปลี่ยนความเห็นถึงสิ่งที่ได้จากเรื่องที่อ่าน
กว่าจะตกลงกันได้ว่าจะเลือกเล่มไหนต้องใช้เวลาไม่น้อย เพราะรสนิยมในการอ่านของเราแตกต่างกัน
เล่มแรกของเราจึงไม่ง่าย
กว่าจะสรุปว่า เป็นพันธุ์หมาบ้าของพี่ชาติ กอบจิตติ พ็อกเก็ตบุ๊กเล่มโปรดสมัยเด็กก็ล่วงเลยไปหลายวัน แต่จนแล้วจนรอดก็ยังทำไม่สำเร็จ เพราะฉันยังหา พันธุ์หมาบ้าไม่เจอ
จำได้ว่ามีแน่ๆ อาจมากกว่าหนึ่งเล่ม ประสาคนชอบซื้อซ้ำ ถ้าจะซื้อใหม่เพื่อการณ์นี้ดูจะยังไม่สมเหตุสมผลนัก
ที่เป็นพันธุ์หมาบ้า เพราะนอกจากจำได้ติดใจว่า สนุกมากชนิดวางไม่ลง (ไม่แน่ใจนักว่าติดงอมแงมจากที่ลงเป็นตอนๆในลลนา หรือรวมเป็นพ็อกเก็ตบุ๊กแล้ว)
ยังคิดกันว่า นอกจากได้ถกเถียงแลกเปลี่ยนความเห็นกับเรื่องราวในหนังสือแล้ว
ความรู้สึกกับเรื่องเดิมๆ ในวัยที่เติบโตขึ้นน่าจะเปลี่ยนไปมาก
กิจกรรมวัยเรียนจึงเลื่อนออกไปจนกว่าพันธุ์หมาบ้าจะปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง
ในระหว่างนี้เราจึงตัดสินใจว่าจะแลกหนังสือที่มีอยู่ และชอบอ่านกันไปพลางๆ ก่อน
เล่มแรกที่เพื่อนส่งมาให้อ่านเป็น ลอนดอนกับความลับในรอยจูบของคุณอนุสรณ์ ติปยานนท์
ฉันส่ง โจเซฟ พูลิตเซอร์ไปแลก
โจเซฟ พูลิตเซอร์ เป็นประวัติชีวิตของนักหนังสือพิมพ์ชื่อก้อง ต้นตำรับรางวัล พูลิตเวอร์รางวัลอันทรงเกียรติของนักหนังสือพิมพ์
อ่านจบไปแล้วหลายปี มาเจอโดยบังเอิญระหว่างกำลังเลือกหนังสือที่ชั้นในบ้านทำให้หยิบมาเปิดดูอีกครั้ง
อ่านแล้วก็ติดลมจนอ่านซ้ำรวดเดียว เรื่องของพูลิตเซอร์ช่วยเติมแรงบันดาลใจในการทำงานได้มาก สำหรับคนที่เลือกแล้วว่างานหนังสือพิมพ์ คืออาชีพ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่วิกฤตเศรษฐกิจส่งผลกระทบไปทั่วถ้วนหน้า
"พูลิตเซอร์"เป็นชาวฮังกาเรียนที่ล่องเรือเป็นเรฟูจีมาอเมริกาเพื่อแสวงหาโอกาสที่ดีกว่า
เป็นเด็กเร่ร่อนรับจ้างทำงานสารพัดชนิดแลกเงินประทังชีวิตไปวันๆ มาอเมริกาใหม่ๆ เขาพูด อ่าน เขียนภาษาอังกฤษไม่ได้เลย แต่ฝึกฝนด้วยตนเองจากการพูดคุย และอ่านหนังสือในห้องสมุด
พูลิตเซอร์เริ่มต้นอาชีพนักหนังสือพิมพ์ด้วยความบังเอิญ แต่ได้รับโอกาสแล้วก็ไม่ปล่อยผ่านไป ไม่นานก็รู้ว่า คือสิ่งที่รักจึงทุ่มเททำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
จากนักข่าวเป็นหุ้นส่วน และเจ้าของหนังสือพิมพ์ฉบับแล้วฉบับเล่า
เป็นความสำเร็จจากการทำงานหนัก
ความเครียด และการทำงานหามรุ่งหามค่ำทำให้สุขภาพย่ำแย่ลง แต่เขาก็ยังไม่ยอมหยุดทำงานจนร่างกายทนทานไม่ไหวอีกแล้วจึงไม่มีทางเลือกอื่น
หยุดเป็นนักข่าว ยุติบทบาทบรรณาธิการ
พูลิตเซอร์ตาบอดสนิททั้งสองข้าง ระบบประสาทมีปัญหาจนทนฟังเสียงต่างๆ ไม่ได้เลยต้องไปใช้ชีวิตอยู่ในที่ๆ เงียบที่สุด แต่เขาก็ยังไม่หยุดทำงาน
ช่วงท้ายของชีวิต เขาใช้ชีวิตบนเรือล่องไปเรื่อยๆ พร้อมเลขาฯหลายคนที่คอยทำหน้าที่สรุปข่าว และติดต่อประสานงานกับออฟฟิศในเรื่องที่ต้องการการตัดสินใจจากเขา
เมื่อรู้ตัวว่าเหลือเวลาอีกไม่นาน เขาตัดสินใจทำพินัยกรรมโดยบริจาคเงินส่วนตัวก่อตั้งกองทุนพูลิตเซอร์เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านการศึกษากับนักศึกษาวิชาการหนังสือพิมพ์ในมหาวิทยาลัย
เป็นการหยิบยื่น โอกาสให้ผู้อื่น เหมือนที่เขาเคยได้รับมาในอดีต
ในฐานะที่เคยเขียนหนังสือเป็นเล่มมาบ้าง สำหรับฉันการเขียนหนังสือสักเล่มไม่ใช่เรื่องง่าย หนัก เหนื่อย และใช้เวลา
มากกว่าค่าตอบแทนเป็นความภูมิใจ
ชีวิตของนักหนังสือพิมพ์ผู้ยิ่งใหญ่ในหนังสือ โจเซฟ พูลิตเซอร์ บรรณาธิการบันลือโลกและเรื่องราวหลากหลายในหนังสือเล่มอื่นๆ จึงเป็นมากกว่าหนังสือหนึ่งเล่ม
Create Date : 31 สิงหาคม 2552
Last Update : 31 สิงหาคม 2552 12:10:48 น.
4 comments
Counter : 795 Pageviews.
Share
Tweet
เป็นคนชอบอ่านหนังสือเหมือนกันค่ะ แต่จะเป็นประเภทนิยาย และก็การ์ตูน แบบว่าเนื้อหาสาระไม่ค่อยมีง่ะ หุหุ
จริงๆแล้วหนังสือแต่ละประเภทมันก็มีดีอยู่ในตัวของมันเอง เพียงแต่เราจะมองมันมุมไหนอ่ะเนอะ หุหุ
โดย: มังกรบินชอบอ่าน (
มังกรบิน@mj_mj
) วันที่: 31 สิงหาคม 2552 เวลา:16:42:14 น.
ยังอ่านหนังสือไม่มาก แต่ก็ริเขียนนิยาย ตอนนี้ก็กำลังทุ่มทุกความพยายามที่มีเพื่องานที่ตัวเองรัก และเพิ่งจะมีโอกาสได้ทำอย่างจริงจังค่ะ
โดย:
อิมาอิซัง
วันที่: 31 สิงหาคม 2552 เวลา:17:16:34 น.
ดีจังน่ะค่ะ มีร้านหนังสืออยู่ใกล้บ้าน
ชอบหนังสือเหมือนกันค่ะ ^^ เห็นเป็นไม่ได้ ตาลุกวาว
โดย:
Capu&Kawi
วันที่: 31 สิงหาคม 2552 เวลา:20:01:57 น.
... รักคนรักการอ่าน...
โดย: ^^ IP: 24.1.66.251 วันที่: 1 กันยายน 2552 เวลา:12:20:17 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
cherydnk
Location :
[Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
Friends' blogs
swin
Webmaster - Bloggang
[Add cherydnk's blog to your web]
Links
ประชาชาติธุรกิจ
มติชน
คนชายขอบ
wired
หนังสือมือสอง-ปะกิต
su booksมือสอง
มหาลัยเที่ยงคืน
ค้นคำจากหนัง
faylicity
ดูหนังอย่างคนป่วย
room2521
อิ่มอร่อยทำเองได้
นิ้วกลมๆ
เช้านี้ยังมีเธอ
คุณใหม่
พี่กรัปป้า
chery's another home
บ้านhi5
กาแฟlover
อยู่ญี่ปุ่น
คนติดเที่ยว
น้องนิด
เท็ดดี้บล็อก(coffeelover)
Bloggang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
จริงๆแล้วหนังสือแต่ละประเภทมันก็มีดีอยู่ในตัวของมันเอง เพียงแต่เราจะมองมันมุมไหนอ่ะเนอะ หุหุ