メトロ - M E T R O - เ ม โ ท รรถไฟฟ้า ตู้ที่ 2 ของเวลา .05 นาที
เอื้อก...!!!!เสียงกึ่งไอ กึ่งสำลัก กึ่งคลื่นไส้ ดังแว่วเข้ามาในหูซ้ายของหนูกระต่ายในคืนหนึ่ง‘นั่นเสียงอะไร?’ คุณหนูสงสัยเพราะเพลงที่ฟังผ่านหูฟังโทรศัพท์ทำให้ได้ยินไม่ถนัด เธอดึงหูฟังออกครู่หนึ่งแล้วจึงใส่กลับเข้าไปเพราะไม่มีเสียงอะไรตามมา ทุกอย่างในรถไฟฟ้ายังคงสงบนิ่งราวกับหยุดเวลาไว้ยกเว้นสายน้ำที่กำลังเลื้อยไหลมาตามพื้นด้านหน้า??!อึก! หนูกระต่ายรีบกลืนน้ำลายอึกใหญ่เพื่อสกัดกั้นสิ่งที่ร่างกายพยายามขย้อนออกมาแบบอัตโนมัติ เธอต้องใช้เวลาพักใหญ่เพื่อปรับสภาพจิตใจให้ชินกับกลิ่นอาเจียนที่กำลังไหลจากต้นสายตรงมุมประตูฝั่งซ้าย.... และเกิดคำถามในใจว่า ‘เกิดอะไรขึ้น!’ หญิงสาวบรรจงเก็บโทรศัพท์กับหูฟังเข้ากระเป๋าแล้วโน้มตัวไปข้างหน้า เหลียวหันไปด้านซ้าย จากนั้นก็ค่อยๆ เอนตัวกลับมาแล้วถามตัวเองว่า ‘จะทำยังไงดี!’!!!!ภาพที่เธอเห็นคือบุคคลเพศชายกำลังนั่งกอดเข่าซ่อนหน้าอยู่ในมุมเล็กๆ ของรถไฟฟ้าในช่วงเวลาดึกสงัดชายคนนั้นก้มหน้าหนีทุกสายตาโดยที่ไม่รู้ว่าทุกคนในตู้ที่สามต่างพยายามเบือนหน้าหนีเช่นกัน นั่นเป็นครั้งแรกที่หนูกระต่ายเข้าใจคำว่า จนมุม หลังชนฝา รวมทั้งบรรดาสำนวณสุภาษิตที่มีความหมายว่า ‘ไม่มีหนทางไป’ อย่างลึกซึ้ง ในตอนนั้นเหมือนหยุดเวลาไว้... ผู้โดยสารที่เห็นของกลางรวมถึงเจ้าของกระเพาะอาหาร แน่นิ่ง ไม่ไหวติง ราวกับลืมหายใจไปชั่วขณะ แต่ในที่สุด! ก็ปรากฏร่างผู้กล้าที่ทำให้เข็มนาฬิกากลับมามีชีวิตอีกครั้ง!!……หนูกระต่ายทำใจกล้าเดินออกมาจากที่นั่ง เธอก้าวข้ามสายน้ำเคี้ยวคดอย่างช้าๆ เพื่อหาที่ยืนอันปลอดภัยแล้วจึงเอ่ยถามชายที่นั่งกอดเข่าด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลที่สุดในชีวิต “ไม่ทราบว่า... จะลงสถานีไหนคะ” ความตั้งใจของหนูกระต่ายทำให้ชายหนุ่มแข็งใจยอมเปิดเผยใบหน้า เค้าตอบกลับมาด้วยเสียงเหนื่อยล้าแบบเบาๆ ว่า “สถานีที่10 ครับ” พริบตานั้น! ทุกสิ่งพลันเคลื่อนไหวด้วยความไวแสง!!!ผู้โดยสารที่หยุดนิ่ง ความจริง...พวกเค้าไม่ใช่คนธรรมดา!!!ภาพที่หนูกระต่ายเห็นในขณะนั้นคือยอดมนุษย์ชายหญิงที่ร่วมมือกันกอบกู้สถานการณ์โดยพร้อมเพรียง ชายคนหนึ่งกดปุ่มอินเตอร์คอม (Intercom) ติดต่อเจ้าหน้าที่ในกรณีฉุกเฉินเพื่อแจ้งเหตุและสถานีปลายทางของผู้โดยสารที่ต้องการความช่วยเหลือ คนอื่นๆ ต่างช่วยกันถามหากระดาษทิชชู่และยาดมจนกระทั่งได้มาตามประสงค์สายน้ำขาวขุ่นที่ล้อมรอบยังคงเป็นอุปสรรคทำให้เข้าถึงตัวผู้ประภัยได้ยาก อีกทั้งยังมีชิ้นส่วนบนมือที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษอยู่ด้วย พี่สาวคนหนึ่งพยายามยื่นซองทิชชู่แห้งให้หนูกระต่ายเพื่อเป็นตัวแทนส่งให้ฝ่ายชายแต่เธอกำลังยุ่งอยู่กับการควานหาทิชชู่เปียกในกระเป๋า ในที่สุด พี่สาวคนนั้นจึงตัดสินใจส่งถึงมือผู้ประสบภัยด้วยตนเองอย่างเต็มใจ!!……..…………………สถานีต่อไป สถานีที่ 10ปี๊บๆๆๆๆเสียงตามสายประกาศชื่อสถานีปลายทางของผู้ประสบภัย ตามด้วยเสียงเตือนก่อนเปิดประตูรถไฟฟ้า เมื่อถึงชานชาลาก็พบว่ามีเจ้าหน้าที่รอให้ความช่วยเหลือผู้โดยสารตามที่ได้รับแจ้ง ชายคนนั้นดันตัวขึ้นพร้อมกับยกมือไหว้กล่าวขอโทษทุกคนอย่างจริงใจ “ผมขอโทษจริงๆ ครับ ขอโทษครับ” แล้วจึงก้าวออกจากขบวนไปยืนโค้งตัวส่งยอดมนุษย์ทุกคนที่เคลื่อนจากไปด้วยความรู้สึกขอบคุณ“ขอบคุณมากครับ”……..…………………เวลานั้นแม้พวกพี่สาวจะกระซิบบอกว่าเค้าเมาแต่ฉันคิดว่า... ถ้าเค้าไม่สบายจริงๆ แล้วเป็นอะไรขึ้นมาจะทำยังไงตอนหลังก็คิดได้ว่า... ถ้าฉันหรือคนรู้จัก คือชายคนนั้น ขอให้มีใครสักคนเดินเข้ามายื่นน้ำใจเพียงเล็กน้อยให้ด้วยเทอญ……..…………………“ขอบคุณทุกคนในวันนั้นค่ะ” จาก หนูกระต่าย และ ซ่อนคำ-- จบตอน --
สวัสดียามเช้าครับคุณซ่อน
ส่วนหนึ่งชื่นชมในน้ำใจของคนในตู้รถไฟ
ส่วนหนึ่งก็เกิดความสงสัยว่าชายคนนี้จะป่วยเป็นอะไรกันแน่ด้วยครับ