สมเด็จพระพี่นางฯ ครูผู้สนับสนุนโอลิมปิกวิชาการ
เรื่อง : กุมารี วัชชวงษ์ ที่มา : เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ข่าวสด (คลิก)
เด็กไทยทำให้ทั่วโลกต้องจับตามองได้ทุกปี ด้วยการคว้าแชมป์การแข่งขันโอลิมปิกวิชาการ แต่ใครจะรู้บ้างว่า บุคคลสำคัญผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของการส่งเยาวชนไทยไปสร้างชื่อเสียงจากการคว้ารางวัลชนะเลิศเหรียญทอง เหรียญเงิน และเหรียญทองแดง ในการแข่งขันโอลิมปิกวิชาการคือใคร
จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ ที่มีสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงเห็นความสำคัญ และทรงอยู่เบื้องหลังของการผลักดันให้เกิดการพัฒนาศักยภาพวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ของนักเรียนไทยมาตลอด
ด้วยความมีจิตวิญญาณของความเป็นนักวิทยาศาสตร์ประกอบกับพระองค์ทรงมีใจรักในความเป็นครู จึงเปรียบเสมือนเด็กๆ ทุกคนเป็นลูกศิษย์ของพระองค์ที่ทรงสนับสนุนให้เจริญเติบโต
โดยเฉพาะการเรียนการสอนด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์นั้นพระองค์ทรงสนพระทัยโครงการจัดส่งเยาวชนไทยไปเข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกวิชาการ ตั้งแต่ปี 2532 เป็นต้นมา
เนื่องจากทรงตระหนักว่าเยาวชนที่มีสติปัญญาเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีความสำคัญยิ่งต่อการพัฒนาประเทศ ดังนั้นพระองค์พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์และเงินทุนการกุศล สมเด็จย่าเพื่อช่วยเหลือ รวมทั้งทรงก่อตั้งและทรงเป็นองค์ประทานมูลนิธิส่งเสริมโอลิมปิกวิชาการและพัฒนามาตรฐานวิทยา ศาสตร์ศึกษา (สอวน.) ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เพื่อเป็นองค์กรเอกชนสำหรับสนับสนุนการส่งเด็กไทยไปแข่งขันระดับโลก ที่สำคัญทรงติดตามความเคลื่อนไหวทุกขั้นตอนการแข่งขัน พร้อมพระราชทานกำลังใจและแสดงความยินดีเมื่อเด็กไทยประสบความสำเร็จกลับมา รศ.ดร.เย็นใจ สมวิเชียร กรรมการและเหรัญญิก มูลนิธิ สอวน. ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ กล่าวว่า สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ทอดพระเนตรนายกสมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทยไปออกรายการโทรทัศน์เพื่อขอรับการบริจาคทุนทรัพย์ เพื่อส่งนักเรียนไทยเดินทางไปแข่งขันโอลิมปิกวิชาการในต่างประเทศ พระองค์ทรงทราบความเดือดร้อนนี้ จึงได้พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ช่วยเหลือ ทำให้เรามีเงินส่งเด็กไทยไปแข่งขัน
ในครั้งนั้นพระองค์มีรับสั่งว่า พระองค์ท่านทรงจบการศึกษาสาขาเคมี ทรงเล็งเห็นว่า การส่งเด็กไปแข่งขันวิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ จะสอนให้เด็กคิดอย่างมีเหตุผลเป็นประโยชน์กับประเทศชาติในระยะยาว ดังนั้นพระองค์ทรงก่อตั้งและอุปถัมภ์มูลนิธิ สอวน. ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โดย สอวน.มีความคล่องตัวในการทำงานคัดเลือกเด็กที่มีความสามารถมาเข้าค่ายฝึกอบรมก่อนที่จะส่งไปแข่งขัน จึงสังเกตได้ว่าในช่วงหลังๆ เด็กไทยสามารถคว้ารางวัลต่างๆ ในการแข่งขันโอลิมปิกวิชาการแต่ละสาขาวิชาไม่ว่าจะเป็น คณิตศาสตร์ เคมี ฟิสิกส์ ชีววิทยา และคอมพิวเตอร์
ทรงมีพระปณิธานแน่วแน่ที่จะพัฒนาวิชาคณิตศาสตร์ให้ทัดเทียมมาตรฐานสากล คณะกรรมการ สอวน. จะสานต่อพระปณิธานของพระองค์ให้บรรลุเป้าหมายให้ได้
"หากไม่มีพระองค์ก็ไม่มีนักเรียนไทยที่ไปสร้างชื่อเสียงในเวทีการแข่งขันโอลิมปิกวิชาการระดับโลก ดังนั้นพระองค์ท่านเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของมูลนิธิ แม้ทุกคนจะเสียใจ แต่ก็ไม่หมดกำลังใจที่จะทำงานต่อ เนื่องจากพระองค์ทรงติดตามความก้าวหน้าของการแข่งขันวิชาการมาโดยตลอด และทรงมีความพยายามจะขยายการอบรมให้กว้างขวางมากขึ้น เพราะจากการทำโครงการนี้พบปัญหาของระบบการศึกษาไทยที่ยังไม่ดีขึ้น
ทั้งนี้พระองค์มีพระดำริว่า จะต้องขยายการอบรมนักเรียนก่อนไปแข่งขัน เนื่องจากพื้นฐานการศึกษาวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ของเด็กไทยต่ำกว่าเด็กจากเมืองนอก ที่สำคัญทรงย้ำทุกครั้งที่นำเด็กนักเรียนเข้าเฝ้า ว่าให้เด็กเป็นคนดีและคนเก่ง พร้อมทั้งรับสั่งเตือนว่า เหรียญที่แขวนไว้ เป็นสิ่งที่บอกว่าครั้งหนึ่งเราเคยเก่ง แต่ก่อนจะช่วยเหลือประเทศชาติ ก็ต้องช่วยตัวเองให้ได้เสียก่อน นอกจากนี้ผู้บริหารภายในมูลนิธิ สอวน. จะทำงานสานต่อแนวพระดำริเรื่องการพัฒนาครูวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาระบบการศึกษาของไทยในอนาคต" รศ.ดร.เย็นใจกล่าว
ด้าน ศ.ดร.สุรินทร์ พงศ์ศุภสมิทธิ์ ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) กล่าวว่า สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงเป็นผู้ริเริ่มและจุดประกายให้กับวงการศึกษาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ โดยเฉพาะการส่งเสริมทักษะให้กับเยาวชนไทย ซึ่งสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ทรงทราบปัญหาการดำเนินงานจึงพระราชทานทุนทรัพย์ส่วนพระองค์ เพื่อให้กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ส่งนักเรียนเข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกวิชาการเป็นครั้งแรก
ช่วงแรกๆ เยาวชนไทยยังไม่สามารถคว้าเหรียญรางวัลได้ แต่ก็พัฒนาขึ้นมาจนเยาวชนไทยสร้างชื่อเสียงชนะเลิศการแข่งขันในสาขาวิชาต่างๆ ทั้งนี้สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ทรงรับสั่งว่า การเรียนการสอนคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์เป็นเรื่องที่ต้องทันสมัยอยู่เสมอ ซึ่งข้อสอบที่ใช้ในการแข่งขันโอลิมปิกวิชาการนั้น ส่วนใหญ่จะนำมาจากผลการวิจัยใหม่ๆ ที่มีความทันสมัยทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ
ฉะนั้นถ้าเราไม่ได้ไปร่วมการแข่งขันก็จะตามประเทศต่างๆ ไม่ทัน เพราะเราจะไม่สามารถทราบว่า ในโลกมีการพัฒนาด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ไปมากน้อยแค่ไหน ดังนั้นเราต้องเข้าไปร่วมแข่งขันเพื่อทราบถึงพัฒนาการด้านวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ จากนั้นนำมาปรับปรุงหลักสูตรการเรียนการสอนของไทยว่า ยังล้าหลังและไม่ทันการเรียนการสอนของต่างประเทศในส่วนใดบ้าง
"สสวท.และเครือข่ายครูวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ รู้สึก เศร้าสลดและเสียใจอย่างมากต่อการสิ้นพระชนม์ของพระองค์ ที่สำคัญสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ มีแนวพระดำริว่า ทำอย่างไรสังคมไทยในศตวรรษที่ 21 จะต้องปลูกฝังจิตสำนึก และค่านิยมในการดำเนินชีวิตตามหลักวิทยาศาสตร์บนพื้นฐานของความมีเหตุผล การรู้จักคิดวิเคราะห์อย่างถ่องแท้ ดังนั้น สสวท. เครือข่ายครูวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะสานต่อพระปณิธานของพระองค์ด้วยการพัฒนาองค์ความรู้ การจัดการเรียนการสอนด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ควบคู่ไปกับการพัฒนาจิตสำนึกให้เด็กและเยาวชนเติบโตอย่างมีคุณธรรม จริยธรรม โดยในปี 2550 ศธ.ร่วมกับ สสวท. และสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) จัดทำห้องเรียนวิทยาศาสตร์ใน 90 โรงเรียนทั่วประเทศ เพื่อขยายห้องเรียนวิทยาศาสตร์ให้มีคุณภาพมากขึ้น แม้ว่าพระองค์จะสิ้นพระชนม์ไปแล้ว แต่เราควรทำงานสานต่อแนวพระดำริด้านการพัฒนาการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ที่ทรงวางรากฐานไว้" ผอ.สสวท.กล่าว
Create Date : 10 มกราคม 2551 |
Last Update : 10 มกราคม 2551 15:15:13 น. |
|
0 comments
|
Counter : 933 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|