space
space
space
 
กุมภาพันธ์ 2561
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728 
space
space
13 กุมภาพันธ์ 2561
space
space
space

นอนไม่หลับ 10 ปี หายขาดได้อย่างไร : บทที่ 3 ปรับทัศนคติ
เอาล่ะครับ ก่อนจะปฏิบัติการรักษาโรคนอนไม่หลับ(และโรคทางใจอื่นๆ)ของเรากัน ขอให้เริ่ม set ระบบกันก่อน ดังนี้ครับ

1. วางใจไว้ตรง "ทางสายกลาง" : (เริ่มเลยครับ) ตั้งใจไป หรือชิวไป ไม่เวิคครับ หลักนี้ ใช้ได้กับทุกอย่างในจักรวาลเลยนะครับ สายกีตาร์ ต้องตั้งให้พอดี ตึงไปก็ขาด หย่อนไปก็เล่นไม่เป็นโน้ต โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ได้ เพราะแรงดูดกับแรงผลักมันสมดุลกัน ไม่งั้นมันก็ลอยออกจากกัน หรือชนกัน หลักนี้ครอบจักรวาลครับ ขอให้ดึงทุกอย่างมาที่ความ "พอดี"

ส่วนความพอดีอยู่ตรงไหน ก็เหมือนขึงเชือก1เส้นแล้วเอาไม้ไปวางพาดไว้ จุดไหนที่ไม้มันสมดุล มันจะอยู่ได้นาน ไม่เอียงจนหล่นไป ก็เหมือนความตั้งใจเราครับ วางไว้ตรงที่รู้สึกว่า ทำต่อได้ ไม่อึดอัด และไม่ขี้เกียจเกินไป ทำได้ต่อเนื่อง สม่ำเสมอ

2. ทิ้งความคาดหวัง : การฝึกจิต (และการทำอะไรอีกหลายๆอย่าง) เปรียบได้กับการรดน้ำต้นไม้ครับ เราปลูกมะม่วง เราก็หวังจะได้มะม่วง แต่เราไปบังคับให้มันออกลูกเลยไม่ได้ เราได้แต่รดน้ำใส่ปุ๋ยอย่างสม่ำเสมอ เมื่อถึงเวลา ผลมันจะออกเอง การฝึกจิตก็เช่นเดียวกันครับ เราได้แต่ฝึกไปเรื่อยๆ ผลมันจะออกมาได้ เมื่อถึงเวลาครับ

3. ทิ้งตำรา : การอธิบายเรื่องจิตมีมากมายหลายตำรา ทั้งศาสนา วิทยาศาสตร์ และความเชื่อต่าง ๆ เราจะรู้ได้ไงครับว่าอันไหนจริง คำตอบคือ เราสามารถรับรู้ได้จากการสังเกตการณ์ของเราเองครับ อย่าเชื่อใคร ขอให้เชื่อตัวเองไว้ครับ ตำราบอกก็ฟัง ๆ ไว้ แต่อย่าไปยึดติดมากครับ

4. อย่าไปคิดว่ามันยาก หรือง่ายจนกว่าจะได้ลองทำ : คำว่า ง่าย=เคยชิน , ยาก=ยังไม่ชิน การคิดว่ามันยากมีแต่จะทำให้ท้อ การคิดว่ามันง่าย อาจจะทำให้ประมาท และการคิดมากไป ทำให้ไม่ได้ลงมือทำซะที ขอให้วางใจเป็นกลางนะครับ

5. ทำทันที : เริ่มเลย อย่าคิดเยอะ ต่อเนื่องจากข้อ 4 ครับ บางอย่างมันต้องไปเรียนรู้กันกลางทางครับ ขอแค่ตั้งสติแล้วลงมือทำ

มีประสบการณ์จะเล่าให้ฟังครับ แม่ผม ตอนเกษียณอายุพนง.รัฐวิสาหกิจ อยากหากิจการทำ เพื่อเป็นการวางรากฐานให้ลูกหลาน คิดไปคิดมา ปรึกษาลุง ได้คำตอบว่า จะหุ้นกับลุงทำโรงอบกล้วยตาก คิดเสร็จ วางแผนเสร็จเริ่มเลย แรก ๆ ก็ขายยังไม่ค่อยได้กำไรครับ แม่&ลุงก็คิดหาทางแก้ปัญหาโดยจะเปิดหน้าร้านของตัวเองไว้วางขายกล้วย คิดไปคิดมา อ่ะ...งั้นเปิดร้านกาแฟละกัน (ทั้งๆที่แม่&ลุงไม่กินกาแฟทั้งคู่555) ธุรกิจเริ่มแตกหน่อแล้วครับ แม่&ลุงก็ช่วยกันหาข้อมูล และมาปรึกษาผมว่าร้านควรมีอะไรบ้างดี ผมเห็นครอบครัวเราชอบต้นไม้ เลยบอกไปว่า จัดสวนให้สวยๆเลยครับ คนสมัยนี้ชอบถ่ายรูป เลยได้ญาติๆมาช่วยกันจัดสวนซะสวยเลยครับ ทุกวันนี้ลูกค้าเข้าตลอดวัน รายได้จากร้านกาแฟดีกว่ารายได้จากการขายกล้วยอีกนะครับ

จากประสบการณ์นี้ จะเห็นได้ครับว่า "บางทีเราต้องลงมือทำก่อน เราถึงจะเห็นหนทางให้ไปต่อ"

6. Get out of comfort zone : ทุกวันนี้คนเราติดกับดักของตัวเอง คือความสบายที่เคยชิน แต่หารู้ไม่ว่า สิ่งที่เราไม่เคยชินนั้น จริงๆแล้วมันอาจจะดีกว่าสบายกว่าก็ได้ ลองกลั้นใจแล้วผลักตัวเองออกจากความเคยชินเก่าๆครับ สำหรับผม เมื่อฝึกจิตสำเร็จไปขั้นหนึ่งแล้ว ย้อนมองตัวเองเมื่อก่อน แล้วก็ได้แต่พูดในใจว่า รู้งี้ออกมาจากความเคยชินเก่าๆนานละ 55

7. ทิ้งความคิดเห็นของคนอื่น : ใครจะว่าไงช่างมันครับ บางทีเราทำแล้ว มันยังไม่ได้ผล เจอคนว่าก็ท้อแท้ เลิกทำละ กว่าผมจะมาถึงจุดนี้ได้ โดนเยาะเย้ยถากถางมาเยอะครับ สิ่งที่คนอื่นพูด มันก็แค่คำพูดครับ เค้าไม่ได้มารู้หรอก ว่าเราทำอะไรบ้างวันๆ มันคือคลื่นเสียงที่ลอยมากระทบแล้วก็หายไป มันคือตัวอักษรที่คนมา comment ที่อยู่ใน internet มันเข้ามาอยู่ในใจเราไม่ได้ ถ้าเราไม่แบกมันไว้

8. ไม่จำเป็นต้องนุ่งขาวห่มขาว และไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนโหมดเป็นคนธรรมะธัมโมโดยฉับพลัน : โฟกัสที่การฝึกก่อนครับ ทำทีละอย่าง เรื่องอื่น หากยินดีจะทำก็ทำ ไม่จำเป็นต้องมีพิธีรีตรองให้วุ่นวาย นี่เป็นเรื่องของ "ใจ" ล้วน ๆ ทุกวันนี้ผมใช้ชีวิตตามปกติครับ ยังมีกิเลสบ้าง มีรัก โลภ โกรธ หลง ครบเลยครับ 555

9. ศาสนาไหน ไม่เกี่ยว : ไม่ว่าจะนับถือศาสนาไหนก็ทำได้ครับ เพราะนี่คือเรื่องของการฝึกจิต รักษาจิต ไม่ใช่เรื่องการให้มากราบไหว้บูชานับถือพระองค์ไหน แต่ถ้านำวิชาของท่านมาปฏิบัติได้ผล แล้วเกิดจิตศรัทธาก็สุดแท้แต่ครับ

10. อย่าไปทำอะไรให้ยาก : ใช้วิธีที่ง่ายที่สุด ใช้คำบริกรรมง่าย ๆ เช่น เครียดเรื่องอะไรก็ตาม ก็บริกรรมว่า "เครียดหนอ" ไม่จำเป็นต้องละเอียดขนาด "เครียดเรื่อง... หนอ" (เดี๋ยวพูดแบบละเอียดอีกทีในภาคปฎิบัตินะครับ)

11. สวดมนต์ได้ก็ดี แต่ไม่สวดก็ได้ : มีคำกล่าวว่า "สวดมนต์คือยาทา วิปัสสนาคือยากิน" ความหมายตามคำพูดเลยครับ ยาทาช่วยบรรเทาอาการ แต่ถ้าจะรักษาจริงๆต้องใช้ยากิน ส่วนตัวผมสวดอยู่แค่2-3วันแรกครับ หลังจากนั้นไม่สวดเลย
แต่ จริตแต่ละคนไม่เหมือนกัน ดังนั้นใครสวดแล้วรู้สึกสงบ ก็ควรสวดครับ

12. สถานที่ฝึก : ที่ไหนก็ได้ครับที่สงบ และมีที่ให้เดินจงกรม ไปวัด ถ้าวัดไม่สงบ ฝึกที่บ้านดีกว่าครับ ส่วนถ้าถามว่าที่เดินจงกรมต้องยาวขนาดไหน ผมขอตอบว่า ยิ่งยาว ก็ยิ่งดี เพราะเราจะได้ไม่ต้องเปลี่ยนอิริยาบท จากเดินไปข้างหน้า เป็นการกลับตัวบ่อย ๆ ในระยะแรกที่กำลังจิตยังไม่แข็งแรง กว่าจะรวมจิตมาอยู่ที่เท้าได้ มันก็เดินไปหลายก้าวแล้ว ถ้าถึงจุดกลับตัวไวไป บางทีจิตมันยังไม่ทันจะมีสมาธิกับการก้าวเลย จิตต้องเปลี่ยนไปจับการกลับตัวอีก ...แต่ถ้าไม่มีที่ยาวๆให้เดินจริงๆ ก็ไม่ต้องซีเรียสครับ เพราะบางวันผมก็ฝึกในห้องนอนครับ บางทีโจทย์ยากๆก็ทำให้เราเก่งเร็วครับ

13. เรื่องเวรกรรม บุญบาปในอดีตช่างมัน : ไม่ว่าคุณจะเคยก่อบาปกรรมทำเข็ญอะไรมา จนมันอาจจะรบกวนจิตใจอยู่ตลอดเวลา กลัวกรรมจะตามสนอง กลัวโดนจับได้ ฯลฯ ไม่ต้องใส่ใจครับ ถ้าเวรกรรมมีจริง คนที่มีบุญด้านการฝึกจิตมามาก การฝึกจิตก็คงไปได้ง่าย แต่สักวัน บุญนั้นก็จะถูกใช้จนหมด ถ้าไม่ทำเพิ่ม แต่คนที่มีบาป หากลดละเลิกบาป แล้วมาทำบุญสะสม สักวันมันจะส่งผลครับ ที่เรากำลังทำอยู่นี้ คือการทำ "บุญ" ให้จิตของเราเอง และบุญนี้จะสนอง เมื่อเหตุและปัจจัยพร้อมครับ


Create Date : 13 กุมภาพันธ์ 2561
Last Update : 16 กุมภาพันธ์ 2561 14:39:26 น. 0 comments
Counter : 102 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
space

สมาชิกหมายเลข 3043044
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






space
space
[Add สมาชิกหมายเลข 3043044's blog to your web]
space
space
space
space
space