|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | |
|
|
|
|
|
|
|
จากงานพระราชพิธี: มารู้จักปืนใหญ่กันเถอะ
เราคงรู้จักปืนใหญ่กันดีครับ เพราะไปที่ไหน ๆ ก็เห็น ในหนัง ในค่ายทหาร ตามพิพิธภัณฑ์ แม้ว่ากาลเวลาจะผ่านไปเป็นพันปี แต่ปืนใหญ่ที่ทหารสหรัฐใช้ตอนนี้กับปืนใหญ่ที่สมเด็จพระนเรศวรใช้ กลับยังยึดถือหลักการพื้นฐานเดียวกันอยู่ครับ
แน่นอนการค้นพบดินปืนโดยชาวจีนคือต้นกำเนิดของปืนใหญ่ครับ เพราะสมัยก่อนที่มนุษย์ยังไม่รู้จักดินปืนนั้น เวลามนุษย์จะฆ่ากันเขาจะใช้เครื่องดีดส่งแบบที่เราเห็นในหนังเช่นพวก Ballista, Catapult, trebuchet ฯลฯ ยิงหินหรือฉมวกใส่กัน แต่เมื่อดินปืนเริ่มปรากฏตัวขึ้น ทุกคนก็เริ่มติดใจดินปืนและเปลี่ยนไปใช้ปืนใหญ่แทน เพราะการยิงหินใส่กันมันไม่ค่อยสะใจวัยรุ่น (โบราณ) อีกต่อไป 
ศาสตร์ของการยิงปืนใหญ่นั้นไม่มีจุดมุ่งหมายอะไรที่ซับซ้อนเลยครับ หน้าที่ก็คือเอากระสุนไปตกในที่ ๆ ตกการ ..... แค่เนี๊ยแหละ
แต่ปัญหาที่ว่าจะทำให้กระสุนมันไปตกตรงนั้นได้ยังไงนี่สิครับเรื่องใหญ่ เพราะการยิงปืนใหญ่แต่ละทีมันคือคณิตศาสตร์ล้วน ๆ และเป็นศาสตร์ที่ต้องอาศัยทักษะและองค์ความรู้พอสมควร
ถ้าอยากรู้เราต้องมาดูกระสุนปืนใหญ่กันครับ
การยิงปืนใหญ่ นอกจากเราจะต้องมีปืนใหญ่แล้ว (ก็แหงล่ะสิ ) เราต้องมีอีก 4 ส่วนนั่นก็คือ
1. ชนวน 2. ดินระเบิด 3. ปลอกกระสุน 4. ดินส่งกระสุน
ซึ่ง 1. - 3. นั้นเราเรียกรวม ๆ กันว่ากระสุนปืนใหญ่นั้นเอง
.... คืองี้ครับ ปืนใหญ่สมัยสมเด็จพระนเรศวรเป็นยังไง สมัยนี้ก็ยังเป็นอย่างงี้อยู่ครับ
ถ้าเราดูหนังจะเห็นว่าทหารจะต้องเทผงสีดำ ๆ ลงไปในปืนใหญ่ แล้วก็กระทุ้งตุ๊บ ๆ ๆ ๆ แล้วก็เอาลูกกลม ๆ สีดำ ๆ ใส่เข้าไป เสร็จแล้วก็เอาคบไฟจ่อ แล้วก็ตู๊มมมมมมมมมมมมมม
ฉันใดก็ฉันนั้น
สมัยนี้ ทหารก็ใส่ลูกกระสุนเข้าไป (ซึ่งในอดีตก็คือลูกกลม ๆ สีดำ ๆ ) และเอาก้อนกลม ๆ ยัดตามเข้าไป (ซึ่งในอดีตคือผงสีดำ ๆ ) แล้วก็กระตุกเชือก แล้วก็ตู๊มมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม
เห็นไหมครับ ไม่ว่าสมัยใด การยิงปืนใหญ่จะต้องมี
1. กระสุน - ซึ่งมีหน้าที่ตกไปทำลายเปาหมาย 2. ดินส่งกระสุน - ซึ่งมีหน้าที่ดันกระสุนส่งไปตกที่เป้าหมาย
ถ้างั้นเรามารู้จักกระสุนปืนใหญ่และดินส่งกระสุนกันสักเล็กน้อยครับ
ลองดูตามแผนภาพนี้นะครับ ภาพด้านขวาสุด กระสุนปืนใหญ่ประกอบไปด้วย
A: ชนวน: ซึ่งก็คล้าย ๆ เวลาเราจะจุดประทัดหรือยิงปืนนี่แหละครับ มันต้องมีสิ่งที่บอกว่าแกเตรียมระเบิดได้แล้วนะ B: ปลอก: มันคือส่วนที่หุ้มดินระเบิดเอาไว้นั่นเองครับ D: ครีบ: เอาไว้รักษาทิศทางของกระสุนนั่นเอง
ส่วนดินส่งกระสุนนั้น ลองดูภาพซ้ายสุดด้านล่างนะครับ
E: ปลอกดินส่งกระสุน: เจ้านี่แหละครับที่มันจะร่วงลงมาข้างหลังตอนที่ยิงเสร็จ มันเก็บดินส่งกระสุนเอาไว้ข้างในครับ ซึ่งบางทีมันก้เก็บในปลอกทองเหลืองแบบนี้ หรือว่ามันอาจจะมาเป็นถุงให้ยัดเข้าไปแทนครับ F: ดินส่งกระสุน: นี่แหละครับตัวที่มันระเบิดจนได้ยิงเสียงตู๊มมมม มันอาจจะอยู่ในปลอกทองเหลืองหรืออยู่ในถุงแบบภาพที่ 3 ก็ได้ G: ชนวน: ซึ่งอันนี้เป็นชนวนของดินส่งกระสุนครับ

อย่างภาพข้างบนนี้ก็ทำให้เราเห็นว่ามันก็มีกระสุนอยู่หลายแบบเช่นกันครับ กระสุนบางแบบก็มีแต่หัวกระสุน กระสุนบางแบบก็มีดินส่งกระสุนตามมาด้วย
อันนี้หัวกระสุน

อันนี้ดินส่งกระสุน ที่ยิงในงานพระราชพิธีนี่แหละครับคือตัวนี้ เราไม่ใส่กระสุนเข้าไปครับ

แต่ใช่ว่าทุกอย่างจะง่ายนะครับ
เพราะปืนใหญ่เวลายิงจะต้องคิดถึงหลาย ๆ อย่างครับ เราไม่สามารถจะเอาปืนใหญ่มาตั้งแล้วยิง ๆ ๆ แล้วเผ่นได้อย่างรวดเร็ว แต่เราต้องทำการ "คำนวณ" ครับ
คำนวณในที่นี้ คือการคำนวณทุกอย่างตั้งแต่ ....
1. จะใส่ดินส่งกระสุนแค่ไหน 2. จะปรับมุมของปืนใหญ่ยังไง 3. ตำแหน่งกระสุนตกอยู่ที่ไหน 4. ภูมิประเทศเป็นอย่างไร
ฯลฯ
โหย ยุ่งครับ 
---------
งั้นเราลองมาสมมุติสถานการณ์กันครับ
ตอนนี้ข้าศึกติดพันมากเลย ทหารราบขอให้เราช่วยยิงปืนใหญ่ไปสนับสนุนหน่อย ...... ดังนั้นคนแรกที่เราต้องคุยด้วยก็คือ "ผู้ตรวจการณ์หน้า" หรือ Forward Observation Officer ครับ
คน ๆ นี้ มีหน้าที่บอกตำแหน่งที่ปืนใหญ่จะต้องยิงครับ ปกติแล้วเขาจะต้องตามไปกับหน่วยทหารราบ เจ้าผู้ตรวจการณ์หน้าหรือผตน.นี้จะรายงานมาว่าที่เขาอยากให้ยิงน่ะ ต้องยิงไปตรงไหน พิกัดอะไร ตำแหน่งเท่าไหร่
ผตน.เป็นตำแหน่งที่สำคัญมากนะครับ เพราะปืนใหญ่เป็นอาวุธที่ยิงทั้ง ๆ ที่มองไม่เห็นเป้า ผตน.จึงต้องทำหน้าที่เป็นตาให้ปืนใหญ่เอง ยิงผิด ยิงถูก ขึ้นอยู่กับผตน.เป็นส่วนมากครับ เพราะถ้าบอกพิกัดผิด กระสุนก็อาจจะลงหัวตัวเองซะงั้น = =! .... และเมื่อปืนใหญ่ยิงไปแล้ว ไม่โดนใจ ไม่ถูกใจ ต้องปรับการยิง ผตน.ก็ต้องมีหน้าที่บอกปืนใหญ่ว่าจะต้องปรับเท่าไหร่ แค่ไหน กี่องศา กี่เมตร ฯลฯ
ซึ่งผตน.อาจจะเป็นใครก็ได้ครับ เป็นคน เป็นเรด้าร์ เป็นอากาศยาน ได้หมดครับ .... เป็นคนก็คือใช้คนนี่แหละบอกตำแหน่งกลับมา เป็นเรด้าร์ก็คือปัจจุบันเรามีเรด้าร์ที่ตรวจจับเป้าหมายต่าง ๆ แล้ว ก็ใช้พิกัดที่ได้จากเรด้าร์นั้นในการยิง หรือเป็นอากาศยาน ซึ่งอาจจะไปถ่ายภาพกลับมาให้ดูว่าต้องยิงไปตรงไหน หรือว่าอาจจะบินแล้วบอกพิกัดบนอากาศเลย เป็นต้น
เมื่อทราบตำแหน่งที่ต้องการยิงแล้ว เราก็ต้องมาคำนวณครับ ตรงนี้เป็นหน้าที่ของ "ศูนย์อำนวยการยิง" ซึ่งเป็นเสมือนมันสมองของฐานปืนใหญ่ครับ
ศูนย์อำนวยการยิงจำคำนวณว่า ....
- เป้าหมายคืออะไร มีขนาดเท่าไหร่: เพราะเป้าหมายต่างชนิดกัน ก็มีผลต่อการเลือกชนิดกระสุนที่จะยิงครับ เช่นถ้าเป้าหมายเป็นกลุ่มคน เราก็อาจจะเลือกกระสุนแตกอากาศเพื่อที่จะได้ส่งสะเก็ดไปได้ครอบคลุมเป้าหมาย - ทิศทางการยิงเป็นอย่างไร: นั่นคือการหาว่าตอนนี้ปืนใหญ่ของเราอยู่ที่ไหน เป้าหมายอยู่ที่ไหน เมื่อมองจากแผนที่ ตำแหน่งทั้งสองอยู่ที่พิกัดไหน ห่างกันเท่าไหร่ ผลลัพธ์จะได้ออกมาว่าเราจะต้องปรับมุมของลำกล้องปืนใหญ่อย่างไร ใช้ดินส่งกระสุนเท่าไหร่ เพราะถ้าใช้ดินมากเกินไป แรงดันมันก็จะมาก กระสุนก็จะตกเลยเป้าหมาย แต่ถ้าใช้น้อยเกินไป แรงดันมันก็จะน้อย กระสุนก็จะตกไม่ถึงเป้าหมาย โดยปกติแล้วเพื่อความสะดวกเราจะมีตารางระบุเอาไว้ครับว่าจะยิงไปกี่กิโลเมตร ต้องใช้ดินส่งกระสุนเท่าไหร่ - ภูมิประเทศและภูมิอากาศเป็นอย่างไร: ไม่น่าเชื่อครับ ว่าการคำนวณการยิงปืนใหญ่ เราจำเป็นต้องสนใจความโค้งของโลกด้วยเพื่อความแม่นยำ และเราก็ต้องสนใจอากาศว่ามันเป็นอย่างไร ลมแรงไหม มีอะไรบ้าง เพราะมันมีผลต่อการเดินทางของกระสุนครับ
เมื่อหาข้อมูลทั้งหมดเสร็จแล้ว เราต้องเอาข้อมูลเหล่านี้มาใส่สูตรเพื่อคำนวณหาสิ่งที่จำเป็นต่าง ๆ
ยุ่งไหมครับ .... นี่ไงครับที่เขาบอกว่าคนจะเป็นทหารปืนใหญ่ได้นั้นต้องเก่งเลขพอตัวทีเดียว เพราะลำพังตำราการยิงปืนใหญ่ก็หนาพออยู่แล้ว ดันมาเจอคำนวณอีก ฮ่วย!!! คำนวณก็ใช่จะคำนวณกันง่าย ๆ นะครับ เพราะถ้าคำนวณผิด เราก็ให้ค่า Setting กับปืนใหญ่ผิด นั่นหมายความว่ากระสุนจะตกผิดที่เช่นกัน ดังนั้นต้องรอบคอบครับ
ซึ่งในอดีตก็ต้องใช้คนคำนวณกันไป มีแต่มือ หัว และตัวเราเท่านั้น หลัง ๆ ก็สบายหน่อยครับเพราะเราสามารถเขียนโปรแกรมให้คอมพิวเตอร์มันคิดเลขให้ ได้ความแม่นยำเพิ่มขึ้นมาเยอะครับ
เมื่อคำนวณเสร็จแล้ว เราก็ส่งค่าต่าง ๆ ให้กับ "ส่วนยิง" ซึ่งมีหน้าที่ยิงปืนใหญ่ครับ พลยิงก็จะมีหน้าที่ใส่ดินส่งกระสุนให้ถูกต้อง เลือกกระสุนให้ถูกชนิด ปรับมุม ปรับองศาให้ถูกต้อง เมื่อทุกอย่างพร้อมก็ ........
ยิงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
ตู๊ม!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

ยิงไปแล้วครับทุกท่าน กระสุนจะวิ่งแหวกอากาศไปสู่เป้าหมายที่เราคำนวณไว้ ซึ่งก็ไม่ใช่ว่าจะยิงปุ๊บแล้วโดนปั๊บเลยนะครับ เพราะกระสุนเดินทางตามหลักฟิสิกส์ ดังนั้นจึงต้องให้เวลามันหน่อย ตั้งแต่หลายวินาทีจนถึงหลายสิบวินาทีครับ ตอนนี้เราก็มีหน้าที่รอ ....
รอ
รอ
รอ
รอ
รอผีตานี .... เอ้ย ....ผตน. รายงานกลับมาครับ ถ้าเขารายงานกลับมาว่า โอ้ววว กระสุนโดนเป้าหมายจัง ๆ เลยจอร์จ ก็ถือว่าหมดงานครับ วันนั้นเราก็เป็นปืนใหญ่เมพ แต่ถ้าไม่โดนล่ะก็ ผตน. ก็ต้องแจ้งมาว่ามันเฉออกไปห่างเท่าไหร่ ต้องปรับการยิงไปเท่าไหร่ เราเรียกว่า "การปรับการยิงปืนใหญ่" ครับ ซึ่งก็เหมือนเราเริ่มต้นกระบวนการทั้งหมดใหม่อีกครั้ง
นี่แหละครับการยิงปืนใหญ่ให้ได้สักนัดนึง
ซึ่งการยิงมันก็มีหลากหลายเทคนิคนะครับซึ่งก็ว่ากันไปตามสถานการณ์ ยกตัวอย่างตลก ๆ กันง่าย ๆ ตัวอย่างนึงครับว่า ตอนนี้ปืนใหญ่เรามีอยู่ 5 กระบอก ยิงเท่าไหร่ก็ไม่ค่อยได้ผลเพราะยิงไปรอบนึงกระสุนก็ตก 5 นัด ซึ่งไม่เพียงพอที่จะทำลายข้าศึกได้ เราก็มีวิธีเพิ่มอำนาจการยิงกันง่าย ๆ แบบลูกทุ่ง ๆ ครับ
คือเรายิงปืนใหญ่นัดนึงออกไปก่อนด้วยมุมที่สูง และยิงออกไปอีกนัดด้วยมุมที่ต่ำกว่า การยิงมุมสูงโดยหันปากกระบอกปืนให้มีองศามาก ๆ จะทำให้กระสุนเดินทางอยู่ในอากาศนานขึ้น ส่วนการยิงด้วยมุมที่ต่ำก็จะทำให้กระสุนเดินทางในอากาศเร็ว ดังนั้นคำนวณให้มันตกลงเป้าหมายพร้อมกันได้จากคุณสมบัตินี้ครับ ทำให้การยิง 1 ครั้งของปืนใหญ่ 5 กระบอกมีกระสุนตกทั้งหมด 10 นัด!!!
โอ้ววววววว

ด้วยความยุ่งยากของหน่วยปืนใหญ่ซึ่งมีหลายฝ่าย หลายคน มีอุปกรณ์หลายอย่าง ทำให้ทหารปืนใหญ่ต้องเป็นหน่วยที่เคลื่อนที่ด้วยยานยนต์ 100% นั้นคือไปไหนมาไหนก็ต้องนั่งรถไป ไม่ต้องเดินลุยป่าลุยเขาแบบทหารเหล่าอื่นครับ รถก็จะลากปืนใหญ่ไปด้วย พอไปถึงจุดตั้งยิงก็ต้องปลดปืนใหญ่ออกจากรถ นำไปตั้ง ปรับภูมิประเทศ คำนวณที่อยู่ของตน และเตรียมการยิงครับ
เมื่อปฏิบัติภารกิจเสร็จแล้ว ก็จะต้องเก็บอุปกรณ์ เอาไปเทียบกับรถ และขับไปที่อื่น

ซึ่งบางครั้งเราก็ไปด้วยรถไม่ได้ครับ เราก็ต้องนั่งเฮลิคอปเตอร์หรือเครื่องบินไป เฮลิคอปเตอร์หลายแบบจึงมีคุณสมบัติที่สามารถขนปืนใหญ่ได้ครับ โดยส่วนมากจะแขวนอยู่นอกตัวเครื่อง เฮลิคอปเตอร์ก็จะมีหน้าที่ขนไปที่ตำแหน่งยิง

แต่มันก็เปลือง เปลื๊อง เปลือง และก็ยังไม่คล่องตัวเท่าที่ควร จึงมีคนคิดเอาปืนใหญ่ไปติดกับรถครับ เราเรียกปืนใหญ่ชนิดนี้ว่า "ปืนใหญ่อัตตาจร" ซึ่งมันไม่เหมือนกับรถถังนะครับ เพราะปืนใหญ่อัตตาจรเทียบกับรถถังแล้วมีขนาดใหญ่กว่า มีความคล่องตัวน้อยกว่า และมีเกราะบางกว่าครับ รวมถึงจะมายิงดวลกับรถถังในระยะใกล้แบบตัวต่อตัวไม่ไหวครับเนื่องจากข้อจำกัดที่กล่าวมา นอกจากรถที่ติดปืนแล้ว ยังต้องมีรถขนกระสุนอีก 1 คันวิ่งตามไปครับ ส่วนมากแล้วปืนใหญ่อัตตาจรจะใช้สนับสนุนหน่วยยานเกราะเนื่องจากมันสามารถเดินทางไปเร็วพอที่จะตามการเคลื่อนที่ของหน่วยยานเกราะเช่นรถถังหรือรถเกราะไปครับ
ภาพนี้คือปืนใหญ่อัตตาจรแบบ M 109A5 ภาพโดยคุณ FW190 ครัย

สำหรับปืนใหญ่ที่มีประจำการในกองทัพบกไทยนั้นมีหลายแบบครับ
เท่าที่มีข้อมูลก็คือ
- ปืนใหญ่ขนาด 155 มม. GHN-45 จำนวน 42 กระบอก จากประเทศแคนาดา (มีกระสุนที่ยิงได้ไกลกว่า 30 กม. เชียวครับ) - ปืนใหญ่ขนาด 155 มม. M71 จำนวน 32 กระบอก จากประเทศอิสราเอล - ปืนใหญ่ขนาด 155 มม. M198 จำนวน 62 กระบอก จากประเทศสหรัฐอเมริกา - ปืนใหญ่ขนาด 155 มม. M114 จำนวน 56 กระบอก จากประเทศสหรัฐอเมริกา - ปืนใหญ่อัตตาจรขนาด 155 มม. M109A5 จำนวน 20 กระบอก จากประเทศสหรัฐอเมริกา - ปืนใหญ่อัตตาจรขนาด 155 มม. CAESAR จำนวน 6 กระบอก จากประเทศฝรั่งเศส (อยู่ระหว่างการสั่งซื้อ ซึ่งมีข่าวลือว่ายกเลิกไปแล้วครับ ยังไม่แน่ใจสถานะเหมือนกัน) - ปืนใหญ่ขนาด 130 มม. Type-59 จำนวน 15 กระบอก จากประเทศจีน - ปืนใหญ่ขนาด 105 มม. L119 จำนวน 38 กระบอก จากประเทศอังกฤษ (ถือเป็นปืนใหญ่เบาที่ทันสมัยที่สุดแบบหนึ่งของโลกครับ) - ปืนใหญ่ขนาด 105 มม. LG1 Mk II จำนวน 24 กระบอก จากประเทศฝรั่งเศส - ปืนใหญ่ขนาด 105 มม. M101 จำนวน 285 กระบอก จากประเทศสหรัฐอเมริกา - ปืนใหญ่ขนาด 105 มม. M102 จำนวน 12 กระบอก จากประเทศสหรัฐอเมริกา - ปืนใหญ่ขนาด 105 มม. M618A2 จำนวน 32 กระบอก จากประเทศสหรัฐอเมริกา
รวม ๆ แล้วราว ๆ 600 กระบอกครับ
ภาพนี้ครับ GNH-45 ขอบคุณคุณ FW190 ครับ

สำหรับเรื่องการยิงสลุตนั้น ท่านใดที่สนใจ สามารถหาอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ
//www.rta.mi.th/22252u/main/info/salut.asp
ส่วนเรื่องกระสุนในการยิงสลุตเมื่อวานนี้ ตามนี้ครับ
"ปืนเป็นปืนใหญ่กระสุนวิถีราบขนาด 75 มม. ของบริษัท Bofors ประเทศสวีเดนครับ กองทัพบกดัดแปลงมาจากปืนที่มีประจำการในตอนนั้นเพื่อใช้ในงานพระราชพิธีด้วยเฉพาะ กระสุนที่ได้ยินเสียงดังนั้น จริง ๆ แล้วไม่ได้ใส่กระสุนครับ ใส่แต่ดินส่งกระสุน ..... ปืนใหญ่ไม่ว่าสมัยโบราณหรือสมัยนี้ก็มีหลักการคล้าย ๆ กันคือมีหัวกระสุนและดินส่งกระสุน ซึ่งดินส่งกระสุนจะระเบิดแล้วส่งหัวกระสุนไปตกที่เป้าหมาย ในการยิงสลุตแบบนี้ก็จะใส่เฉพาะดินส่งกระสุนซึ่งทำให้เกิดเสียงดังเหมือนการยิงปืนใหญ่จริงแต่ไม่มีลูกกระสุนพุ่งออกมาจากปากกระบอกปืนครับ"

วันนี้ก็คงจบเท่านี้ก่อนล่ะครับผม ขอบคุณทุกท่าน สวัสดีครับ 
Create Date : 16 พฤศจิกายน 2551 |
Last Update : 16 พฤศจิกายน 2551 3:03:50 น. |
|
39 comments
|
Counter : 18808 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: Skyman (Analayo ) วันที่: 16 พฤศจิกายน 2551 เวลา:12:46:53 น. |
|
|
|
โดย: helldiver วันที่: 16 พฤศจิกายน 2551 เวลา:13:56:02 น. |
|
|
|
โดย: helldiver วันที่: 16 พฤศจิกายน 2551 เวลา:13:59:33 น. |
|
|
|
โดย: Skyman (Analayo ) วันที่: 16 พฤศจิกายน 2551 เวลา:15:45:02 น. |
|
|
|
โดย: MeMoM วันที่: 16 พฤศจิกายน 2551 เวลา:17:04:11 น. |
|
|
|
โดย: MeMoM วันที่: 16 พฤศจิกายน 2551 เวลา:20:56:20 น. |
|
|
|
โดย: Skyman (Analayo ) วันที่: 16 พฤศจิกายน 2551 เวลา:21:50:17 น. |
|
|
|
โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 17 พฤศจิกายน 2551 เวลา:7:43:37 น. |
|
|
|
โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 17 พฤศจิกายน 2551 เวลา:8:20:31 น. |
|
|
|
โดย: Skyman (Analayo ) วันที่: 17 พฤศจิกายน 2551 เวลา:8:29:30 น. |
|
|
|
โดย: Skyman (Analayo ) วันที่: 17 พฤศจิกายน 2551 เวลา:8:37:51 น. |
|
|
|
โดย: MeMoM วันที่: 17 พฤศจิกายน 2551 เวลา:9:32:56 น. |
|
|
|
โดย: OFFBASS วันที่: 17 พฤศจิกายน 2551 เวลา:9:38:12 น. |
|
|
|
โดย: unsa วันที่: 17 พฤศจิกายน 2551 เวลา:10:57:46 น. |
|
|
|
โดย: จูหน่านพ วันที่: 17 พฤศจิกายน 2551 เวลา:11:00:06 น. |
|
|
|
โดย: น้องผิง วันที่: 17 พฤศจิกายน 2551 เวลา:11:03:16 น. |
|
|
|
โดย: จูหน่านพ วันที่: 17 พฤศจิกายน 2551 เวลา:11:03:20 น. |
|
|
|
โดย: Skyman (Analayo ) วันที่: 17 พฤศจิกายน 2551 เวลา:11:14:26 น. |
|
|
|
โดย: จูหน่านพ วันที่: 17 พฤศจิกายน 2551 เวลา:11:52:34 น. |
|
|
|
โดย: จูหน่านพ วันที่: 17 พฤศจิกายน 2551 เวลา:11:55:07 น. |
|
|
|
โดย: unsa วันที่: 17 พฤศจิกายน 2551 เวลา:12:07:48 น. |
|
|
|
โดย: Skyman (Analayo ) วันที่: 17 พฤศจิกายน 2551 เวลา:12:17:10 น. |
|
|
|
โดย: Skyman (Analayo ) วันที่: 17 พฤศจิกายน 2551 เวลา:14:33:20 น. |
|
|
|
โดย: Skyman (Analayo ) วันที่: 17 พฤศจิกายน 2551 เวลา:14:45:37 น. |
|
|
|
โดย: Skyman (Analayo ) วันที่: 17 พฤศจิกายน 2551 เวลา:14:49:36 น. |
|
|
|
โดย: Skyman (Analayo ) วันที่: 17 พฤศจิกายน 2551 เวลา:15:36:12 น. |
|
|
|
โดย: จูหน่านพ วันที่: 17 พฤศจิกายน 2551 เวลา:17:04:03 น. |
|
|
|
โดย: Skyman (Analayo ) วันที่: 17 พฤศจิกายน 2551 เวลา:17:28:04 น. |
|
|
|
โดย: คังเซน (mlmboy ) วันที่: 26 พฤศจิกายน 2551 เวลา:22:13:17 น. |
|
|
|
โดย: Vitamin_C วันที่: 10 ธันวาคม 2551 เวลา:17:06:52 น. |
|
|
|
|
|
|
@ จ่อยน้องลิง @
@ จ่อยหัวหอม @

|
|
|
|
| |
|
|
โอ๋ ๆ ไม่เป็นไรน๊าใครรังแกเดี๋ยวน้องขวัญจัดการให้
แต่หากเป็นน้าจ่อยปล่อยเขาไปเถอะเขาน่าสงสารใครๆ ก็ไม่ตามใจ
น้าจ่อยบอกว่าหากโตแล้วมีแต่คนขัดใจ ตีตั๋วเด็กเป็นเพื่อนน้องขวัญดีก๊า
ปอลอ. ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นจิตตก รู้สึกแย่ เหม่งนั่งขำอยู่ข้างๆ นะพี่ ฮี่ ฮี่