เที่ยววัดชมตลาดเมืองแปดริ้ว
วันนี้พาเที่ยวฉะเชิงเทราครับ เป็นจังหวัดใกล้กรุงเทพแต่ไม่ค่อยได้แวะไปเพราะไม่ใช่ทางผ่านสู่แหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตอะไร ผมเที่ยวไทยมาแล้ว 75 จังหวัดแต่เคยเที่ยวฉะเชิงเทราแบบเต็มๆสองหนเองมั้งครับ คือวันที่ 17 ส.ค. 2557 (เที่ยววัดโสธร, วัดสมาน) กับ 14 เม.ย. 2561 (เที่ยวบางคล้า) นอกนั้นก็ขับผ่านบ๊าง~ปะก๋ง น้ำมันขึ้นๆลงๆ ♫ เพื่อลงไปชลบุรีต่อ
ชาวฉะเชิงเทราเรียกตัวเองว่าคนแปดริ้ว ส่วนบ้านผมเรียกว่าฉะเชิงเชา เพราะฟังดูน่ารักดี จังหวัดนี้ปกติมาทางมอเตอร์เวย์ก็ง่ายและแพงดีครับ แพงตรงเสียค่าปรับความเร็วเพราะแม่งมีกล้องเยอะ แต่วันนี้อยากเที่ยว ตลาดโบราณนครเนื่องเขต ที่อยู่ริมเส้น 304 ด้วย เลยใช้สุวินทวงศ์ออกทางมีนบุรี ตัวตลาดอยู่ติดคลองนครเนื่องเขต จอดรถถนนด้านหน้าได้เลยครับ ไม่ค่อยมีรถน่ะ ถนนก็กว้างดี
คลองนครเนื่องเขตเป็นคลองขุดในสมัย ร.5 ปี พ.ศ.2419 เชื่อมคลองแสนแสบกับคลองท่าไข่ เพื่อความสะดวกในการเดินทางจากฉะเชิงเทราเข้ากรุงเทพ และยังทำให้เกิดพื้นที่สวนตลอดสองข้างทาง รวมทั้งตลาดแห่งนี้ขึ้น แต่ตลาดก็เสื่อมความนิยมลงเมื่อผู้คนเปลี่ยนไปใช้การสัญจรทางบก กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์เช่นเดียวกับตลาดน้ำอื่นๆ ตัวตลาดโบราณที่มีอายุร้อยกว่าปีนี้ยังคงรักษาสภาพบ้านเรือนไม้และวิถีชีวิตผู้คนไว้ ยังไม่ค่อยมีเรื่องการค้าเข้ามามากเท่าไหร่ครับ เลยยังคงเงียบเหงาแลกเปลี่ยนกับความสงบแบบยุคเก่าก่อน ยิ่งผมไปช่วงสงกรานต์พ่อค้าแม่ขายปิดร้านไปเล่นสงกรานต์กันเกือบหมดตลาด ร้างเบย ที่นี่มีสินค้าพวกงานฝีมือและอาหารขายเหมือนตลาดเก่าทั่วไปครับ
เครื่องหนังร้านนี้ฝีมือดีราคาถูก ทำส่งขายให้ร้านขึ้นห้างไปขายแพงๆด้วย
|
ก๋วยเตี๋ยวปากหม้อบ้านเลขที่ ๑ ที่เคยออกรายการมากมาย ใช้ข้าวเกรียบปากหม้อคละไส้ใส่ลงในน้ำซุปซี่โครงหมู ชามนึงได้ 6 ชิ้นเลยครับ ไส้กุ้ยฉ่าย ไส้หวาน ไส้ถั่วฝักยาว ไส้เต้าหู้ ไส้หน่อไม้ ไส้ถั่วงอก อย่างละชิ้น อร่อยด้วย
| ออกจากตลาดไปทาง อ.บางน้ำเปรี้ยวตามถนนชนบท 13 กม. จะมาถึง วัดโพรงอากาศ ที่มีอุโบสถมหาเจดีย์สีทองอร่ามงามตา ถึงจะไม่มีโบราณสถานที่โดดเด่นแต่จุดขายของฉะเชิงเทราก็คือวัดใหม่ที่สวยงามเหล่านี้ครับ ถึงจะตั้งกลางแดดร้อนเปรี้ยงแต่โบสถ์วัดนี้ดีไซน์แบบอาคารประหยัดพลังงานเลยครับ ชั้นล่างเป็นอาคารเปิดให้ลมพัดเย็นสบาย ส่วนลานด้านบนแดดเผาหัวรัวๆ มีพื้นที่ให้เล่นมุมกล้องไม่มาก ถ้าไม่มีเลนส์ไวด์ก็ถ่ายเจดีย์ไม่ถึงยอดจ้า รีบถ่ายรูปแล้ววิ่งกลับลงมาโดยพลัน
ด้านหลังวัดมีอุทยานพระพิฆเนศ เห็นองค์พระพิฆเนศปางนั่งประทานพรแต่ไกล
เข้าเมืองฉะเชิงเทราไปเที่ยววัดที่โด่งดังที่สุดในฉะเชิงเทรากันครับ วัดโสธรวรารามวรวิหาร สร้างขึ้นในช่วงปลายกรุงศรีอยุธยา วัดนี้มีหลวงพ่อโสธรเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของชาวแปดริ้ว ที่คนนิยมมาขอพรและแก้บนด้วยไข่ต้มกันมาก ก่อให้เกิดอุตสาหกรรมไข่ต้มแก่ชุมชนรอบข้าง เดิมชื่อวัดหงส์เพราะเคยมีเสาหงส์ตั้งอยู่ ตามตำนานพบหลวงพ่อโสธรพระพุทธรูปทองสำริดไหลมาตามลำน้ำบางปะกง ชาวบ้านจึงนำมาประดิษฐานที่วัดนี้และเปลี่ยนชื่อเป็นวัดโสธรตามชื่อหลวงพ่อโสธร แต่ช่วงยุคต้นกรุงธนบุรี ได้นำปูนมาพอกไว้เพราะกลัวใครมาขโมย หลวงพ่อโสธรคือองค์กลาง ล้อมรอบด้วยพระพุทธรูปปางอื่น 18 องค์
ส่วนโบสถ์ใหม่ที่ใหญ่โตอลังการนี้สร้างด้วยเงินบริจาคของประชาชนทั้งหมด พระเทพฯเพิ่งตัดหวายลูกนิมิตในปี พ.ศ.2549 เป็นการสร้างทับโบสถ์เก่าโดยไม่มีการย้ายพระพุทธรูปเลยครับ เพราะเชื่อว่าตำแหน่งที่หลวงพ่อโสธรประดิษฐานอยู่เป็นตำแหน่งมงคลที่ทำให้เมืองแปดริ้วอุดมสมบูรณ์ ห้ามย้ายเด็ดขาด
ออกจากเมืองฉะเชิงเทราไปทางตะวันออกเส้น 304 ไปทาง อ.บางคล้า ทางเดียวกับทางไปวัดสมาน ใกล้กันมีอีกหนึ่งที่ท่องเที่ยวที่เพิ่งโด่งดังขึ้นมาอย่าง วัดหัวสวน ด้วยโบสถ์สเตนเลสอันมีเอกลักษณ์ และมีความคงทน เพิ่งบูรณะจากโบสถ์เก่าเมื่อปี พ.ศ.2553 นี้เองครับ สร้างด้วยแรงศรัทธาจากเงินบริจาคเช่นเดียวกัน และเนื่องจากไม่ใช่โบสถ์ปูนการตกแต่งเลยต้องใช้เทคนิคที่แตกต่างไปจากวัดอื่นๆ อย่างช่อฟ้าใบระกาที่อื่นเป็นปูนปั้นที่นี่ต้องขึ้นรูปโลหะ ลวดลายหน้าต่างวาดด้วยวิธีกัดกรด ภาพจิตรกรรมฝาผนังก็ใช้แอร์บรัช ประธานในพระอุโบสถคือพระพุทธมหาลาภประดับอัญมณี
เลยจากวัดหัวสวนมาถึงแม่น้ำบางปะกงมีอีกหนึ่งวัดดังของจังหวัดนี้คือ วัดสมานรัตนาราม ไม่แน่ชัดว่าสร้างขึ้นเมื่อไหร่ แต่เพิ่งโด่งดังหลังสร้างองค์พระพิฆเนศใหญ่ที่สุดในประเทศไทยเป็นสัญลักษณ์ ปางนอนเสวยสุข พ่อค้าแม่ขายนิยมมาขอพรให้มีกินมีใช้ค้าขายรุ่งเรือง นิยมขอพรโดยการกระซิบใส่หูรูปปั้นหนูด้านหน้า ซึ่งเป็นพาหนะของพระพิฆเนศ
นอกจากพระพิฆเนศแล้วต้องหาจุดขายอย่างอื่นเพิ่มอีกนะครับ เดี๋ยวนี้พระพิฆเนศชักผุดขึ้นทั่วภาคตะวันออก วัดนี้เลยมีทั้งเจ้าแม่กวนอิม พระราหู พญานาค ท้าวมหาพรหม พระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ กระทงยักษ์ หุ่นขี้ผึ้งพระเกจิ และอื่นๆอีกมากมายให้ทำบุญ นี่มันวัดท่าการ้องโมเดลนี่หว่า!!
มาทางตะวันออกไม่ไกลจากวัดสมานจะมี วัดโพธิ์บางคล้า ที่มีค้างคาวแม่ไก่ให้ดู ทีแรกก็ลังเลว่าจะไปดูค้างคาวแม่ไก่ทำไม แต่พอได้เห็นแล้วยุ่บยั่บอลังการ แถมดูง่ายกว่าค้างคาวที่อื่น มันเกาะอยู่เต็มต้นไม้บริเวณวัด เลือกซูมถ่ายได้ตามอัธยาศัยเลย
ค้าวคาวแม่ไก่เป็นค้างคาวขนาดใหญ่ที่สุดในโลก กินผลไม้เป็นอาหาร และอยู่ในวัดนี้มานานแสนนาน เล่ากันว่าในปี พ.ศ.2500 ช่วงที่วัดจัดงานฝังลูกนิมิต 9 วัน 9 คืน ค้างคาวพวกนี้ได้อพยพไปอยู่ที่อื่นพักนึงเพื่อจะได้ไม่สร้างความเดือดร้อนให้ผู้มาร่วมงาน หรืออันที่จริงพวกมันอาจหนวกหูลำโพงวัดก็เป็นได้ |
| ช่วงที่พระเจ้าตากสินยกทัพตีฝ่าวงล้อมพม่าออกมา มีการสู้รบที่ปากน้ำโจ้โล้ใกล้วัดนี้ เลยมีอนุสาวรีย์พระเจ้าตากสินในวัดนี้ด้วย แต่ไม่มีหลักฐานว่าท่านเสด็จผ่านวัดนี้นะครับ อันที่จริงนอกจากค้างคาวแม่ไก่แล้ววัดนี้ก็มีสิ่งน่าสนใจนะครับ นั่นคือวิหารของวัดเดิม สันนิษฐานว่าสร้างสมัยอยุธยาตอนปลายหรือไม่ก็ยุคกรุงธนบุรี ภายในประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ ที่เห็นนี่มีการบูรณะบางส่วนโดยพยายามคงลักษณะศิลปะเดิมไว้
ขับมาตามถนนวนะภูติข้ามคลองท่าลาดมาจะถึง วัดปากน้ำโจ้โล้ บริเวณนี้เป็นปากน้ำแต่ไม่ได้อยู่ติดทะเลนะครับ เป็นแค่ปากน้ำที่เชื่อมแม่น้ำบางปะกงกับคลองท่าลาดเข้าด้วยกัน วัดปากน้ำโจ้โล้สร้างในสมัยอยุธยาตอนปลาย แต่เพิ่งถูกสร้างใหม่เป็นสีทองทั้งหลัง เลยช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวคู่กับโบสถ์เงิน (สเตนเลส) ที่วัดหัวสวน อย่างกับคินคาคุจิ-กินคาคุจิ ที่เกียวโต ใต้ฐานพระประธานมีช่องให้ลอดได้นะครับ นอกจากตัวโบสถ์แล้วกำแพงแก้วที่ล้อมโบสถ์ก็ยังมีลวดลายวิจิตรไม่แพ้กัน
วิหารใต้พระยืนตรงที่จอดรถมีภาพสามมิติให้ชม เป็นภาพเมืองสวรรค์และนรก แต่ก็เป็นภาพวาดบนผนังพื้นและเพดานธรรมดา ไม่ถึงกับสามมิติหรอกครับ
โจ้โล้มาจากภาษาจีนว่าจ้อโล้ แปลว่าปลากะพงขาว เพราะสมัยก่อนบริเวณนี้มีปลากะพงขาวชุกชุม บริเวณปากน้ำโจ้โล้นี้เป็นสถานที่ประวัติศาสตร์ที่พระเจ้าตากรบชนะพม่าตอนตีฝ่าวงล้อมออกมา ก่อนจะมุ่งไปทางตะวันออกต่อ หลังขึ้นครองราชย์ท่านได้สร้างเจดีย์เป็นอนุสรณ์ไว้ที่ปากน้ำแห่งนี้ แต่พังทลายลงน้ำไปแล้ว ทางจังหวัดจึงได้สร้าง อนุสรณ์สถานพระสถูปเจดีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ขึ้นมาใหม่ในปี พ.ศ.2542 นี้เอง จากวัดปากน้ำข้ามคลองกลับมาอีกฝั่งจะเห็นเจดีย์ที่ว่าตั้งอยู่ริมปากน้ำโจ้โล้เลย
ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินและอนุสาวรีย์บนถนน 3121 |
| ขากลับแวะเที่ยวตลาดอีกสักแห่ง ตลาดคลองสวน 100 ปี เป็นตลาดที่อยู่คาบเกี่ยวระหว่างจังหวัดฉะเชิงเทราและสมุทรปราการ ริมคลองประเวศบุรีรมย์ เป็นชุมชนการค้าของชาวจีนตั้งแต่สมัย ร.5 เดิมเป็นแถวอาคารไม้ชั้นเดียว ตอนนี้ขยายขึ้นเยอะ และยังคงเป็นตลาดที่คึกคักจนถึงปัจจุบันครับ ของที่ขายส่วนใหญ่เป็นของกินแบบตลาดทั่วๆไปเลยหละ มีร้านที่มีชื่อเสียงอย่างกาแฟแป๊ะหลีที่ขายมา 81 ปี ราคาแบบกาแฟโบราณทั่วไปครับ แก้วละ 25 บาท แต่ปู่แป๊ะหลีไม่อยู่แล้วนะครับ
ฉะเชิงเรานับเป็นจังหวัดที่มีสถานที่น่าเที่ยวกระจายกันอยู่ ถึงจะไม่มีที่เที่ยวระดับประเทศแต่บรรดาวัดที่มีเอกลักษณ์และตลาดเก่าที่เรียงรายริมแม่น้ำลำคลองก็เป็นกิมมิคให้นักท่องเที่ยวเลือกจัดทริปวันเดียวได้แบบสบายๆ ผมยังไม่ได้ไปอีกหลายที่เลยครับ ทั้งหมู่บ้านน้ำตาลสด ตลาดน้ำบางคล้า อุทยานพระพิฆเนศ (ปางยืน) ฯลฯ ไว้โอกาสหน้าแวะไปอีกเน้อ ~♥
Create Date : 23 กันยายน 2561 |
Last Update : 23 กันยายน 2561 9:16:38 น. |
|
45 comments
|
Counter : 2377 Pageviews. |
|
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณtuk-tuk@korat, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณเนินน้ำ, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณคนผ่านทางมาเจอ, คุณtoor36, คุณmambymam, คุณSweet_pills, คุณกะว่าก๋า, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณสองแผ่นดิน, คุณhaiku, คุณKavanich96, คุณnewyorknurse, คุณสาวไกด์ใจซื่อ, คุณkae+aoe, คุณซองขาวเบอร์ 9, คุณschnuggy, คุณmoresaw, คุณอุ้มสี, คุณInsignia_Museum, คุณข้ามขอบฟ้า, คุณJinnyTent, คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณlife for eat and travel, คุณที่เห็นและเป็นมา, คุณRinsa Yoyolive, คุณบาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน, คุณยังไงก็ได้ว่ามาเลย, คุณThe Kop Civil, คุณmariabamboo, คุณTui Laksi |
โดย: เนินน้ำ วันที่: 23 กันยายน 2561 เวลา:13:06:05 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 23 กันยายน 2561 เวลา:15:26:42 น. |
|
|
|
โดย: mambymam วันที่: 23 กันยายน 2561 เวลา:17:15:15 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 23 กันยายน 2561 เวลา:19:47:46 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 23 กันยายน 2561 เวลา:20:23:55 น. |
|
|
|
โดย: Kavanich96 วันที่: 24 กันยายน 2561 เวลา:3:06:30 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 24 กันยายน 2561 เวลา:6:43:05 น. |
|
|
|
โดย: kae+aoe วันที่: 24 กันยายน 2561 เวลา:11:10:26 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 24 กันยายน 2561 เวลา:23:19:55 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 24 กันยายน 2561 เวลา:23:43:31 น. |
|
|
|
โดย: mambymam วันที่: 25 กันยายน 2561 เวลา:5:59:04 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 25 กันยายน 2561 เวลา:7:05:50 น. |
|
|
|
โดย: moresaw วันที่: 25 กันยายน 2561 เวลา:8:10:25 น. |
|
|
|
โดย: อุ้มสี วันที่: 25 กันยายน 2561 เวลา:9:22:35 น. |
|
|
|
โดย: JinnyTent วันที่: 25 กันยายน 2561 เวลา:18:36:01 น. |
|
|
|
โดย: JinnyTent วันที่: 25 กันยายน 2561 เวลา:18:54:40 น. |
|
|
|
โดย: JinnyTent วันที่: 25 กันยายน 2561 เวลา:18:56:49 น. |
|
|
|
โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) วันที่: 26 กันยายน 2561 เวลา:15:17:18 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 30 กันยายน 2561 เวลา:22:27:14 น. |
|
|
|
โดย: mambymam วันที่: 30 กันยายน 2561 เวลา:23:00:22 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 1 ตุลาคม 2561 เวลา:6:39:29 น. |
|
|
|
โดย: kae+aoe วันที่: 1 ตุลาคม 2561 เวลา:9:27:11 น. |
|
|
|
โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 2 ตุลาคม 2561 เวลา:8:23:56 น. |
|
|
|
โดย: mariabamboo วันที่: 2 ตุลาคม 2561 เวลา:19:20:35 น. |
|
|
|
โดย: Tui Laksi วันที่: 2 ตุลาคม 2561 เวลา:20:39:02 น. |
|
|
|
|
|