Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2568
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
6 ตุลาคม 2568
 
All Blogs
 
ศรีลังกา (2): เมืองกอลล์และโคลัมโบ


มาต่อศรีลังกาเอ็นทรี่ที่สองครับ จากหนก่อนพาเที่ยวอดีตเมืองหลวงที่มีความสำคัญต่อการสืบสานพุทธศาสนาจากอินเดียและส่งต่อมายังภูมิภาคนี้อย่างอนุราธปุระกับแคนดี้แล้ว หนนี้มาชมเมืองที่เติบโตขึ้นในยุคล่าอาณานิคมอย่างกอลล์และโคลัมโบกันครับ

เช้าวันที่ 4 (11 พ.ค. 68) ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของทริปนี้ ตื่นเช้ามาชมทะเลริมหาดฮิกคาดูวา เวลาเที่ยวทะเลชอบไปเดินดูสิงสาราสัตว์ที่ขึ้นมาที่ชายหาดตอนเช้าๆ นะ แต่ละหาดก็จะแตกต่างกันไป หาดนี้ไม่ค่อยมีเปลือกหอย คนน่าจะแห่เก็บกันไปหมดแล้ว เหลือแค่เปลือกแตกๆ มีปะการังและเม่นทะเลประปราย ปูทหารมาปั้นบอลทรายแบบชายหาดบ้านเราก็ไม่มี แต่ที่เยอะจริงๆ คือปูเสฉวนครับ 



เจอคุณลุงชาวศรีลังกาเจ้าถิ่นมาทักทายยามเช้า เขาเล่าว่าถ้าอยู่จนสายๆ สัก 10 โมง จะมีการให้อาหารเต่าทะเลด้วย มันจะขึ้นมาทุกวัน หลายทัวร์ก็จะพานักท่องเที่ยวไปชมกัน แต่กว่าจะสิบโมงทัวร์เราคงไปถึงไหนต่อไหนแล้วครับ วันนี้โปรแกรมแน่นอยู่
 

หลังกินข้าวเช้ารถบัสก็ออกจากโรงแรมแปดโมงครึ่ง เป้าหมายถัดไปคือวัดที่ ร.5 เคยเสด็จอยู่ใจกลางเมืองกอลล์ ไกลจากโรงแรม 18 กม. ก็พักชมวิวข้างทางไปพลางๆ

368

 


 

วัดพระศรีปรมนันทะราชวรมหาวิหาร
(Sri Paramananda Raja Maha Viharaya)
 

 
วัดพระศรีปรมนันทะราชวรมหาวิหาร สร้างขึ้นในปี 1824 ช่วงที่พระบุราทะกามาเถโรเป็นเจ้าอาวาสท่านมีความชำนาญหลายภาษา และมีความสัมพันธ์อันดีกับราชวงศ์สยามตั้งแต่สมัย ร.4 ในช่วง ร.5 ได้เชิญท่านมาจำพรรษาที่ประเทศไทยด้วย จากนั้น ร.5 ได้เสด็จมาเยี่ยมชมอารามนี้ในปี 1897 หลังท่านมรณภาพไปแล้ว และได้สร้างศาลาการเปรียญขึ้นที่นี่ เรียกว่าจุฬาลงกรณ์ธรรมศาลา ร.9 ก็เคยเสด็จมาที่วัดนี้ในปี 1993 ปัจจุบันยังคงมีคณะผู้เดินทางจากประเทศไทยมาเยี่ยมชมเรื่อยๆ ทางวัดก็มีความชำนาญในการรับแขกคนไทยครับ ประวัติต่างๆ ของวัดมีเป็นภาษาไทยให้อ่านด้วย

 


จุฬาลงกรณ์ธรรมศาลาเป็นศาลาการเปรียญที่ใหญ่โตที่สุดในศรีลังกา
และใช้เป็นที่สอนหนังสือ เสาของศาลาทุกต้นเป็นไม้ต้นขนุน

 


ทำพิธีสวดมนต์เช้าและผูกสายสิญจน์
มีพระพุทธรูปมอบให้ลูกทัวร์ที่ต้องการเอากลับไปบูชาด้วย

 


ขึ้นไปชั้นบนเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก็บของสำคัญของวัดและข้าวของที่ราชวงศ์ไทยส่งมา หนังสือเชิญไปร่วมจำพรรษาที่ส่งมาจาก ร.4 ยังคงถูกเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดีในพิพิธภัณฑ์


ทางวัดเชิญคณะทัวร์ไปห้องรับรองด้านหลัง เลี้ยงขนม น้ำชา น้ำมะพร้าว และนำของมีค่าที่สุดของวัดมาให้ชม คือพระพุทธรูปทองคำที่ ร.5 ถวาย หลังเชิญพระบุราทะกามาเถโรมาจำพรรษาครับ



ออกจากวัดนิดเดียวก็จะเข้ามายังเขตเมืองเก่ากอลล์ที่เต็มไปด้วยอาคารแบบตะวันตก ตามที่เล่าในเอ็นทรี่ก่อนหน้านะครับ ศรีลังกาเคยตกเป็นเมืองขึ้นของโปรตุเกส เนเธอร์แลนด์ และอังกฤษ ตามลำดับ เลยมีสิ่งก่อสร้างของประเทศเหล่านี้โดยเฉพาะในเมืองกอลล์ที่เป็นเมืองปราการทางทะเลที่สำคัญ และเป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมด้วย เราจะเข้าไปเที่ยวชมในเขตป้อมปราการกอลล์กันครับ
 
 

ป้อมปราการกอลล์
(Galle Fort)

 
 


ภายในป้อมเป็นเมืองขนาดย่อมๆ เลย ต้องนั่งรถสามล้อชม
จับคู่กันไปคันละสองคน ค่ารถทัวร์ออกให้หมดแล้วครับ
ทิปคนขับรถกันได้ตามอัธยาศัย

 


หน้าทางเข้าป้อมปราการมีอนุสาวรีย์ ศ.เซนาราธ ประนาวิตานา
นักโบราณคดีคนสำคัญของศรีลังกาที่บูรณะป้อมแห่งนี้

 


ป้อมปราการกอลล์ สร้างโดยโปรตุเกสในปี 1588 และเสริมความแข็งแรงโดยดัตช์ในปี 1649 เมื่ออังกฤษสร้างโคลัมโบเป็นเมืองหลวงและท่าเรือหลัก เมืองกอลล์ก็ลดความสำคัญลง ปัจจุบันป้อมถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมของยูเนสโกแล้ว

จุดถ่ายรูปยอดนิยมคือหอนาฬิกาตรงทางเข้าป้อม ตรงนี้เป็นยอดของส่วนที่เรียกว่าป้อมพระจันทร์ (Moon Bastion) สร้างโดยโปรตุเกสตั้งแต่ยุคแรกสร้างป้อม ส่วนหอนาฬิกาสร้างโดยอังกฤษในปี 1883




รถสามล้อจะมาจอดจุดถัดไปที่ Flag Rock Bastion ซึ่งอยู่ล่างสุดของป้อมกอลล์  จากตรงนี้เดินเลาะริมทะเลไปชม ประภาคารกอลล์ และ มัสยิดมีราน ที่สวยงามได้ 


เสร็จแล้วนั่งสามล้อไปตลาดนัด ก่อนจะวนกลับไปส่งที่จุดเดิมหน้าทางเข้าป้อม คนขับแนะนำสถานที่ต่างๆ เป็นอย่างดีและช่วยถ่ายรูปกับมุมสำคัญๆ ด้วยครับ คู่ควรแก่การทิปเป็นอย่างยิ่ง
 


ตึกศาลสูงภาคใต้ (Southern Province High Court)
เป็นอาคารเก่าแก่ริมทะเล

 


โรงรถตำรวจเก่าตั้งแต่ปี 1917

 


จตุรัสหน้าศาลเป็นสถานที่ที่ผู้คนมาพักผ่อน
มีต้นไทรอายุกว่า 300 ปีเป็นแลนด์มาร์คของลานนี้ แยกกับรถสามล้อตรงนี้ครับ
เดินชมตึกไม่ไกลก็ถึงทางออกป้อมแล้ว

 


ลานนี้มีตลาดนัดงานศิลปะช่วงวันหยุด
ของที่ระลึกซื้อที่นี่ไปเลยก็มีของสวยๆ หลายชิ้นนะครับ

 


ด้านซ้ายคือตึกพิพิธภัณฑ์ทางทะเลแห่งชาติเมืองกอลล์
แสดงประวัติศาสตร์การเดินเรือและค้าขายทางทะเลของศรีลังกา
ไม่มีเวลาเข้าไปชมนะครับ

 


British Queen's House สร้างโดยดัตช์ในปี 1683 และต่อเติมโดยอังกฤษ
ตั้งชื่อให้เป็นเกียรติราชินีวิคตอเรีย แต่ควีนไม่เคยมาพักนะครับ

 


Dutch Reformed Church สร้างโดยดัตช์ในปี 1755
ปิดตอนเที่ยงตรง แต่ 11.40 น. ก็ไล่แขกออกแล้ว ไอ้คนเฝ้าขี้เกียจ

 


เดินมาถึงหอนาฬิกาที่เป็นแลนด์มาร์คทางเข้าออกป้อม
รถบัสรออยู่ด้านนอกครับ

 


แวะกินข้าวเที่ยงแล้วนั่งรถยาวๆ จากเมืองกอลล์ขึ้นมาโคลัมโบครับ ระหว่างลูกทัวร์แวะเข้าห้องน้ำก็ขอแว้บไปเก็บภาพ Independence Memorial Hall สักหน่อย เป็นอนุสรณ์ที่สร้างขึ้นเป็นที่ระลึกวันที่ศรีลังกาประกาศเอกราชจากอังกฤษในปี 1948 และสร้างเสร็จในปี 1953 ด้านหน้ามีอนุสาวรีย์ของดอน สตีเฟน เสนานายาเก นายกรัฐมนตรีคนแรกของศรีลังกา และถือเป็นบิดาแห่งชาติศรีลังกาด้วย


อันนี้นั่งรถผ่านครับ ตึก Victoria Memorial Building สร้างโดยรัฐบาลอังกฤษ เพื่อเฉลิมฉลองการครองราชย์ครบ 60 ปีของราชินีวิคตอเรียในปี 1897 ใช้เป็นโรงพยาบาล เปิดใช้งานในปี 1903


ทัวร์ให้เวลาช้อปปิ้งที่ห้างโอเดลหนึ่งชั่วโมง มีลูกทัวร์ขอแยกไปพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติโคลัมโบแทน ผมนี้หูผึ่งเลยครับ มันห่างจากห้างนี้ 1 กม. เท่านั้นเอง และมันคือพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดและรวบรวมประวัติศาสตร์ทั้งหมดของศรีลังกาไว้ ว่าแล้วก็โบกสามล้อตามกันไปครับ นัดเจอกรุ๊ปใหญ่อีกทีที่วัดคงคารามเลย
 
 

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ
โคลัมโบ
(Colombo National Museum)

 
 
 

หรือ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติศรีลังกา เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ก่อตั้งขึ้นในปี 1877 โดยเซอร์วิลเลียม เฮนรี เกรกอรี ผู้ว่าราชการเมืองซีลอน ตั้งแต่ยุคที่ศรีลังกายังเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ

เป็นอาคารรูปแบบนีโอบาโรกสีขาว จัดแสดงโบราณวัตถุตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์จนถึงยุคอาณานิคม ค่าเข้าชาวต่างชาติคนละ 1200 รูปีศรีลังกา (128 บาท)

 


 


หน้าทางเข้ามีพระพุทธรูปโตฬุวีฬะ แกะสลักจากหินแกรนิต พบที่อนุราธปุระ อายุราวศตวรรษที่ 4-5 และนับเป็นโบราณวัตถุที่มีสภาพดีที่สุดจากยุคอนุราธปุระ


พิพิธภัณฑ์มีสองชั้น 15 ห้อง เดินชมกันตาเหลือกครับ มีเวลาชั่วโมงเดียวก่อนไปรวมตัวกับกรุ๊ปทัวร์ไหนจะต้องหารถกลับอีก เจ้าหน้าที่แนะนำให้ชมจากห้องด้านในสุดออกมาก่อน เพราะชั้นสองกำลังจะปิดแล้ว มีตั้งแต่ประวัติศาสตร์การเกษตรและชนเผ่าต่างๆ ในศรีลังกา


ห้อง 12 Art & Craft รวบรวมผลงานศิลปะยุคโบราณ ส่วนใหญ่เป็นงานโลหะทำลวดลายสวยงาม 


แตรหอยสังข์ประดับทองเหลืองยุคศตวรรษที่ 19 นำมาจากศาสนสถานของฮินดูใช้บูชาพระวิษณุ


ห้อง 10 Coins & Currency ห้องเงินตรา มีเหรียญเงินเก่าจากทุกยุค ตั้งแต่เหรียญที่ใช้ในยุคอนุราธปุระ และเหรียญต่างชาติที่เข้ามาในยุคโบราณเช่นเหรียญเงินโรมัน และเหรียญของประเทศเจ้าอาณานิคม


ห้อง 8 (Textiles) และ 7 (Paintings) มีภาพเขียนบนผืนผ้าและภาพเขียนที่จำลองจากสถานที่สำคัญต่างๆ ภาพเขียนบนพระราชวังลอยฟ้าสิกิริยาที่ถ่ายรูปไม่ได้ก็มาถ่ายของจำลองจากตรงนี้แทนครับ




ลงมาชั้นล่างห้อง 6 (Stone Antiquities) คือห้องที่ผมชอบที่สุดครับ เต็มไปด้วยงานสลักหินทั้งพระพุทธรูปของพุทธและเทวรูปตามความเชื่อของฮินดู ช่วงอายุก็มีหลากหลาย ที่ร่วมสมัยกับอารยธรรมไทยยุคทวารวดี-ศรีวิชัย-ขอม ก็เยอะ




จำลองทางขึ้นวิหารยุคโบราณ ด้านล่างบันไดจะมีแผนหินแกะสลักครึ่งวงกลมเรียกว่ามูนสโตน เป็นสัญลักษณ์ของสังสารวัฏในพระพุทธศาสนา


ศิลาจารึกภาษาโบราณทุกก้อนใช้ฟอนต์ไซส์ใหญ่มาก ไม่เขียนละเอียดประหยัดหินแบบศิลาจารึกบ้านเรา


ห้อง 5 ไล่ไปจนถึง 1 จะเรียงตามยุคแล้วครับ 5. แคนดี้ 4. ช่วงเปลี่ยนผ่าน 3. โปลอนนารุวา 2. อนุราธปุระ 1. ก่อนประวัติศาสตร์ 

ห้อง 5 (Kandy Period) ในภาพนี้คือบัลลังก์ของ Wimaladharamasuriya II ที่ครองราชย์ในปี 1687-1707 โดยข้าหลวงชาวดัตช์เป็นผู้ถวายให้ และใช้ยาวมาจนถึง Sri Wickrama Rajasinghe กษัตริย์องค์สุดท้ายของศรีลังกา ก่อนจะถูกยึดทั้งบัลลังก์ ดาบ ที่รองเท้า ส่งไปอังกฤษในปี 1815  และทยอยได้คืนมาอีกรอบในช่วงปี 1934-1936


ห้อง 2-4 มีโบราณวัตถุชิ้นงามๆ สำคัญๆ อีกเยอะเลยครับ อาทิ
- รูปสำริดศิวนาฏราช (ศตวรรษที่ 12-13) จากโปลอนนารุวา
- รูปพระศิวะและพระแม่ปารวตี (ศตวรรษที่ 12) จากโปลอนนารุวา
- ตะเกียงสำริดรูปช้าง (ศตวรรษที่ 11-12) จากโกตาเวเฮรา
- พระโพธิสัตว์สำริด-พบเฉพาะส่วนเท้า (ศตวรรษที่ 9) จากอนุราธปุระ
- รูปสำริดพระตารา-พระโพธิสัตว์หญิงของมหายาน (ศตวรรษที่ 9) จำลองจากของจริงที่ตรินโคมาลี ปัจจุบันของจริงเก็บไว้ในบริทิชมิวเซียม 
- พระพุทธรูปยืนสำริด (ศตวรรษที่ 9) จากอนุราธปุระ




เป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงและเงินร้อยยี่สิบบาทที่คุ้มค่ามาก เหมือนได้เที่ยวประวัติศาสตร์ทั้งประเทศศรีลังกาเลยครับ ว่าแล้วก็โบกรถสามล้อไปสมทบกรุ๊ปทัวร์ที่วัดคงคาราม

 

วัดคงคาราม
(Gangaramaya Temple)

 

 
สร้างขึ้นในปี 1885 ริมทะเลสาบเบรา มีสถาปัตยกรรมผสมผสานทั้งศรีลังกา อินเดีย ไทย และจีน และมีรูปปั้นสิ่งของที่ผู้คนนำมาถวายประดับวัดจนดูละลานตา พระประธานของวัดคือพระปางมารวิชัยศิลปะลังกา


ห้องเก็บพระเกศาธาตุ พระจะเปิดให้เข้าเป็นรอบๆ 


ที่วัดนี้มีพิพิธภัณฑ์ขนาดเล็กที่เก็บพระธาตุ พระพุทธรูป และของเก่ามีค่าจากที่ต่างๆ ที่มีคนมาถวายไว้มากมาย เช่น พระแก้วมรกตจำลอง พระทองคำขนาดเล็กที่สุดในโลก พระแกะสลักจากงาช้าง ฯลฯ

 

กลางทะเลสาบเบรามี วัดสีมามาลากา (Seema Malaka) สร้างในทศวรรษ 70s ประดิษฐานทั้งพระพุทธรูป เทพเจ้าฮินดู และเจ้าแม่กวนอิม

ถือเป็นโซนสงบของโคลัมโบที่ทำนิยมมาทำสมาธิกัน ค่าเข้าจะรวมกับวัดคงคารามครับ

 


ตอนนี้เวลาห้าโมงเย็น จองอาหารเย็นไว้หกโมงครึ่ง ไปฆ่าเวลากันที่ห้าง One Galle Face Mall สักหน่อยครับ ไม่มีโซนการ์ตูนของเล่นแบบห้างตอนไปจีน ก็ซื้อของกินกำจัดเศษเงินไปพลางๆ ครับ ถ้าเหลือมันแลกคืนไม่ค่อยได้

 

กินมื้อเย็นที่ภัตตาคารจีนเป็นมื้อสุดท้ายก่อนเดินทางไปสนามบิน

ที่สนามบินจะรับแลกเงินเฉพาะแบงค์ใบใหญ่ๆ และต้องมากกว่ากี่พันรูปีจำไม่ได้ เค้าถึงจะให้แลก สรุปว่าเงินเหลือกันตรึมครับ หยอดตู้บริจาคสนามบินกันจนตู้อ้วน 137

แต่ผมไม่บริจาคอะ ไม่อยากให้สนามบินหารายได้ด้วยการตั้งเงื่อนไขให้แลกคืนยากๆ ยกให้ไกด์คุณแอรรี่ไปใช้ต่อทริปหน้าดีกว่า แบงค์ที่ไม่ซ้ำก็เก็บใส่อัลบั้มสะสมไป

 


ออกเดินทางจากศรีลังกาตอนตีหนึ่งและถึงสุวรรณภูมิ 6 โมงเช้าตามเวลาประเทศไทย จบไปอีกทริปที่น่าประทับใจในสถานที่ท่องเที่ยว คุณภาพทัวร์ และเพื่อนร่วมเดินทางครับ ก่อนปิดบล็อกมาเล่าถึงเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเก็บตกจากประเทศศรีลังกากัน... 119

 


เวลาที่ศรีลังกาช้ากว่าไทย 1 ชม.ครึ่ง ใช้เวลาเดินทางจากไทย 3 ชม.ครึ่ง ประเทศสะอาดน่าเที่ยวกว่าที่คิดมาก ที่สำคัญห้องน้ำมีสายฉีดตูดทุกแห่ง ไม่เว้นแม้แต่ตามห้างหรือสนามบินครับ แต่ไม่สิ เราไม่ควรเริ่มเก็บตกด้วยสายฉีดตูด...

อาหารครับ! คาดหวังว่าจะคล้ายๆ อาหารอินเดีย เอาจริงๆ ก็ไม่คล้ายเท่าไหร่ ด้วยความที่เครื่องเทศแตกต่างกันและใช้วัตถุดิบในประเทศเกาะอย่างกะทิแทนการใช้นมหรือโยเกิร์ตแบบแกงอินเดีย ผมชอบแกงอินเดียมากกว่านะ มันเข้มข้นและเครื่องเทศหอมร้อนแรงกว่า มีน้ำพริกให้ตักกินกับข้าวส่วนใหญ่ทำจากพริก มะพร้าวขูด หอมซอย ปลาย่าง หลายเมนูก็มีอิทธิพลจากอาหารตะวันตกช่วงที่เป็นเมืองขึ้น อาหารเลยหลากหลายน่าดู 

 


ฮอปเปอร์เป็นหนึ่งในเมนูขึ้นชื่อของศรีลังกา มีชื่อเล่นว่าแพนเค้กศรีลังกา รูปทรงเหมือนถ้วย สำหรับตักน้ำพริกหรือกับข้าวอื่นๆ ใส่ลงไปกินด้วยกัน มีแบบใส่ไข่ด้วยนะ

 


ทัวร์พาไปกินอาหารจีน 2 มื้อ จัดว่ากินดีอยู่ดีครับทริปนี้

 


ตามข้างทางเต็มไปด้วยแผงลอยขายผลไม้ นับว่าอุดมสมบูรณ์ แต่ผลไม้เค้าไม่อร่อยสักอย่างอะ ที่มีชื่อเสียงคือมะพร้าวไฟคิงโคโคนัท ผลรีสีส้มแสด น้ำเยอะโคตร บางคนกินแทนน้ำไปเลยครับ แต่เปรี้ยวนะ ไม่ได้หวานหอมแบบมะพร้าวน้ำหอมบ้านเรา ส่วนกะทิที่ใช้ทำแกงทำขนมจะเอาจากมะพร้าวลูกเขียวทั่วไป กล้วยสีแดงๆ นั่นกล้วยนาก เคยกินที่กาญจนบุรี กินที่นี่อีกทีก็ยังไม่อร่อยเท่ากล้วยหอมครับ มันมีความยางเยอะกว่า


ประชากรส่วนใหญ่ของศรีลังกาคือชาวสิงหล คำทักทายคือ "อายุบวร" ตามข้างทางจะมีซุ้มพระพุทธรูปอยู่ เป็นสัญลักษณ์ว่าหมู่บ้านหรือชุมชนนั้นเป็นชาวพุทธ 100% บางที่รวยหน่อยก็ทำได้ใหญ่โตสวยงามเลย


แม้จะเป็นประเทศที่มีความพุทธเข้มข้น แต่ก็ให้อิสระในการนับถือศาสนา คนศรีลังกานับถือพุทธ 70% ฮินดู 13% อิสลาม 10% คริสต์ 7% เมื่อชมวิวตามถนนหนทางจึงเห็นทั้งวัดพุทธ เทวสถานฮินดู มัสยิด และโบสถ์คริสต์


ขนส่งสาธารณะที่นิยมที่สุดคือสามล้อหรือตุ๊กตุ๊ก ส่วนใหญ่นำเข้าจากอินเดีย ตอนนี้รัฐบาลสั่งห้ามนำเข้ารถน้ำมันแล้วนะครับ จะค่อยๆเปลี่ยนเป็นสามล้อไฟฟ้าเพื่อสิ่งแวดล้อม ค่าโดยสารก็แล้วแต่ตกลงกับคนขับเลย ปกติ 1-2 กม. ก็ไม่เกิน 200-300 รูปีศรีลังกา แต่ผมนั่งไปพิพิธภัณฑ์ 500 กลับ 300 ด้วยความที่พอหารเป็นเงินไทยแล้วรู้สึกไม่แพงก็เลยไม่ได้ต่อราคา


สาดรูปวิวข้างทางครับ เวลาไปทัวร์ผมชอบนั่งเบาะหลังสุดของรถบัสเพราะชอบถ่ายผ่านกระจกหลัง ศรีลังกาเป็นอีกประเทศที่อนุสรณ์สถานเยอะน่าดู มีอนุสาวรีย์แทบจะทุกวงเวียนครับ 








สตรีทอาร์ทก็เยอะครับ และส่วนใหญ่เป็นภาพประวัติศาสตร์และพุทธศาสนาด้วย หวังว่าคงไม่มีพวกกุ๊ยฝีมือกากมาบอมบ์งานแบบแถวบางรัก


และศรีลังกาเป็นประเทศที่พื้นที่ส่วนใหญ่ธรรมชาติยังอุดมสมบูรณ์ มีพื้นที่ท่องเที่ยวธรรมชาติทั้งทุ่งซาฟารีในอุทยานยาลา ชมฝูงช้างป่าที่อุทยานกาดูลา หรือล่องเรือชมวาฬที่มิริสซา แม้แต่ในทริปนี้ที่ไม่เน้นธรรมชาติก็ยังมีสิงสาราสัตว์ออกมาโชว์ตัวเรื่อยๆ เลยครับ ชอบคุณช้างข้างทางแถวดัมบูลา ฝูงลิงบนสิกิริยา และลิงหนุมานที่อนุราธปุระ เปลือกหอยที่ขายที่กอลล์คล้ายๆ ในบ้านเราอยู่ อีกตัวที่มีเยอะแต่ถ่ายไม่ชัดสักตัวคือนกยูงครับ มีทั่วไปตั้งแต่ในนาข้าวยันบนหลังคาบ้าน


1 บาทมีค่าประมาณ 10 รูปีศรีลังกา เวลาดูราคาของก็หารสิบเอาง่ายๆ เลยครับ ทริปนี้แลกเงินไปไม่เยอะ เพราะคิดว่าคงไม่มีอะไรให้ซื้อมาก ไปๆมาๆ ล้มละลายหมดตัว จึงขอแสดงรายการเสียทรัพย์เป็นอุทาหรณ์ไว้ ณ ที่นี้... 
- ซื้อคุกกี้ 450R
- บริจาคค่าหนังสือสิกิริยา 1000R
- ซื้อเหรียญที่ระลึก 2000R
- ซื้อเสื้อยืด 1000R
- ทิปนักแสดง 100R
- ทิปคนหิ้วกระเป๋าโรงแรมสอง 100R
- ดอกมะลิไหว้พระเขี้ยวแก้ว 500R
- ถวายพระวัดพระเขี้ยวแก้ว 500R
- ทิปคนหิ้วกระเป๋าโรงแรมสาม 50R
- ทำบุญที่จุฬาลงกรณ์ธรรมศาลา 500R
- ทิปรถตุ๊กตุ๊กเมืองกอลล์ 1000R
- ซื้อแม่เหล็กติดตู้เย็น x3 1000R
- ซื้อแลสซี่ 1300R
- ทิปร้านอาหาร 100R
- ทิปหมองูริมถนน 100R
- ค่าเข้าพิพิธภัณฑ์โคลัมโบ x2 2400R
- ตุ๊กตุ๊ก ไปพิพิธภัณฑ์ขาไป 500R ขากลับ 300R
- ซื้อของในซูเปอร์ห้าง One Galle Face Mall 3759R
- ซื้อไอศครีมถั่ว 350R

124 รวมแล้วเสียทรัพย์สกุลเงินศรีลังกาไป 17,009 รูปีศรีลังกา ถ้าซื้อชาซีลอนและผลิตภัณฑ์สวนสมุนไพรคงต้องเบิ้ลอีกเท่านึง

สรุปว่าของไม่แพงและน่าซื้อเยอะกว่าที่คิดแหละ ใครสนใจจับจ่ายตามรายการข้างต้นก็แลกเงินไปเยอะสักหน่อยก็ดี รูปสุดท้ายนี้คือของฝากจากศรีลังกาครับ พวกช็อคโกแลตซื้อที่สนามบินใช้บัตรเครดิตนะ เงินรูปีหมดแล้วจ้ะนาย


แต่ถ้าซื้อของจากไทยไปฝากคนศรีลังกาจะชอบพระเครื่อง ส่วนคนอินเดียจะชอบยาหม่องตราลิงถือลูกท้อ (คุณไกด์บอกมา)

จบละครับ ทัวร์ต่างประเทศปีละหน ใครมีวันลาเหลือๆ อยากเที่ยวประเทศใกล้ๆ ข้าวของไม่แพง มีวัดมีประวัติศาสตร์และมีสายฉีดตูด ขอฝากศรีลังกาไว้ในตัวเลือกด้วยครับ


17


 


Create Date : 06 ตุลาคม 2568
Last Update : 8 ตุลาคม 2568 23:10:59 น. 24 comments
Counter : 527 Pageviews.
(โหวต blog นี้) 

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณหอมกร, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณhaiku, คุณtoor36, คุณmultiple, คุณกะว่าก๋า, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณThe Kop Civil, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณtuk-tuk@korat, คุณcyberlifenlearn, คุณmariabamboo


 
ศรีลังกา อยู่ในใจ อยู่ในช้อยส์พี่เหมือนกันค่ะ แต่ไม่รู้จะได้ไปมั้ย เพราะเป็นช้อยส์ท้าย ๆ ด้วยค่ะ



โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 6 ตุลาคม 2568 เวลา:11:27:33 น.  

 
ตามมาเที่ยวศีลังกาต่อจ้า
สวยสู้เมืองไทยไม่ได้นะ



โดย: หอมกร วันที่: 6 ตุลาคม 2568 เวลา:11:38:34 น.  

 
เป็นประเทศที่น่าสนใจและน่าไปเยือนจริงๆครับ

พี่ก๋าก็ยังชอบจดด้วยมือลงบนกระดาษนะครับ
ชินมากๆกับแบบนี้ครับ

ปีนี้ฝนตกเยอะจริงๆครับ
เชียงใหม่เสี่ยงน้ำท่วมหนักๆหลายรอบเลย




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 6 ตุลาคม 2568 เวลา:22:58:51 น.  

 
เดี๋ยวผมมาอีกทีครับ วันนี้ไม่ไหวแล้ว


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 7 ตุลาคม 2568 เวลา:0:26:55 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับน้องชีริว



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 7 ตุลาคม 2568 เวลา:4:35:23 น.  

 
อุ๊ย ทริปนี้ลืมไปเลย นึกว่าจบไปแล้วนะครับ ป้าดดมีต่ออี้กก555

อ่านไปเรื่อยๆ มาพีคตรง ทางเลือก จะไปเที่ยวห้าง หรือจะไป พิพิธภัณฑ ซีริว วิ่งแจ้นไป พิพิธภัณฑ ทันทีแง้ๆๆๆ เค้าอยากดูห้างๆๆๆๆ
ขัดใจมากกก ลงนอนดิ้นกลาง พิพิธภัณฑเล้ยยย 5555


ซีริวบอก เอ๊งรีบลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้ พิพิธภัณฑ์มีสองชั้น 15 ห้อง ข้ามีเวลา ชม เดียว เช่า มอไซดืขี่ถ่ายรูปจะทันมั้ยนี่ 555

แต่เฮ้ย พิพิธภัณฑ์ สวยอะ ดูกะได้ Interior สวย แสงสวย
วัตถุจัดแสดงเด่นๆนี่ ดูไปดูมา อยากได้ พระพุทธรูปโตฬุวีฬะ กะ
แตรหอยสังข์ อิอิ ซีริว บอก หนอย เอ็งนี่ นิสัย โจรปล้นสุสานเก่า ไม่ต้องเลย ดูแต่ตา5555

ดูตบท้าย มีอาหารมาฝาก เย้ๆ แต่อ้าวกลายเป็นว่าอาหารอินตระเดียอร่อยกว่าศรีลังกาเหรอครับ
แต่ทริปนี้ฟาดอาหารจีนอร่อยดี ยังไงจ๊ะ555

สรุปทริปนี้ ต้องคนชอบวัด ประวัติศาสตร์ไหว้พระทำบุญ
จริงๆศรีลังกานี่ พี่สาว ชวนอาจารย์เต๊ะไปหลายครั้งแล้ว แต่ทำไมไม่ไปก็ไม่รู้555

อ้อ เรื่องปูก้อน ต้นทุนแค่1200 ทำไข่เจียวแล้วยังเหลือทำอย่างอื่นตั้งแยะ ทำกินเอง เจ๊เต๊ะ ประหยัดไปได้หลายพัน เลยนะจ๊ะ จะบอกให้555






โดย: multiple วันที่: 7 ตุลาคม 2568 เวลา:4:56:32 น.  

 
พออ่านรีวิวทริปการท่องเที่ยวของคุณชีริว อยากไปขึ้นศรีลังกาขึ้นมาทันทีเลยครับ แต่ละที่ที่ไปมีสัญลักษณ์ ความหมาย อนุสาวรีย์ที่มาที่ไปทุกที่เลย ห้องน้ำสะอาดผมเทใจไปเกินครึ่งละ 555 ผมว่าความสัมพันธ์ระหว่างไทย - ศรีลังกามีมายาวนาน พระพุทธรูปทองคำที่ ร.5 ถวาย มีคุณค่าทางจิตใจมาก ๆ เลยครับ


โดย: The Kop Civil วันที่: 7 ตุลาคม 2568 เวลา:14:40:58 น.  

 
สวัสดี จ้ะ น้องชีริว

หายหน้าหายตาไปจากบล็อกนานเนาะ งานคงยุ่ง ตามธรรมดา
ของคนที่ยังไม่เกษียณ อิอิ
ศรีลังกา ตอนสองนี่แค่1 วัน ก็เที่ยวได้หลายสถานที่นะ แสดง
ว่าสถานที่เที่ยวไม่ไกลจากกันนัก และไม่ต้องเดินจนขาลากเหมือน
ประเทศจีน เฮ้อ ! บางแห่งที่จีน เสียเงินค่าเข้าแล้ว ต้องสละสิทธิ์
เช่น ทะเลทรายที่ตุงหวงนั่งเฝ้าของของน้อง ๆ ที่เดินทะเลทรายไหว
555 ดังนั้น ถ้าอยากเที่ยวจีน ต้องไปเที่ยวแต่อายุอย่าเกิน เลข7
-วัดพระศรีปรมนันทะราชมหาวิหาร ที่เป็นชื่อไทย น่าจะเกี่ยว
ข้องก้บการที่ ร. 4 ร.5 ได้เสด็จและสร้าง จุฬาลงกรณ์เป็นศาลา
การเปรียญที่ใหญ่ที่สุด ใช้เป็นที่สอนหนังสือ ร.9 ท่านก็เคยเสด็จ
ในวัดยังมีพิพิธภัณฑ์ และประวัติยังเขียนเป็นภาษาไทยด้วย
-ป้อมปราการกอลล์ จากภาพ สร้างได้ใหญ่โตทีเดียว พวก
ต่างชาติที่มายึดครอง ไม่ว่า โปรตุเกต เนเธอแลนด์ และอังกฤษ
ต่างก็ได้สร้างสิ่งก่อสร้างในรูปแบบของตนไว้ เป็นป้อมที่เป็นมรดก
โลกอีกด้วย
- จุดถ่ายรูปยอดนิยม คือ หอนาฬิกา ไม่เห็นมีรูป ชีริว ถ่าย
อยู่ที่นี่เลย อิอิ ใหญ่โตดี เนาะ
- พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติโคลัมโบหรือ ศรีลังกา สถานที่
โปรดของเธอนี่ มีตั้ง 15 ห้อง ดูจุใจเลย ห้อง 6 ที่เธอชอบมาก
ห้องนี้ก็คือ การแกะสลักหินเป็นพระพุทธรูป ผลงานทางศิลปะ ซึ่
ส่วนใหญ่เป็นโลหะ
-วัดคงคาราม อยู่ริมทะเล มีสถาปัตยกรรมผสมผสาน ศรีลังกา
อินเดีย จีน สวยงาม พระประธานในวัด เป็นปางมารวิชัย ศิลปะ
ลังกา สีสันแปลกตาดี
บทส่งท้าย รายการอาหารมากมายเหลือเกิน น่าจะคล้าย ๆ
อาหารอินเดียไหม อิอิ ได้คำทักทายของชาวศรีลังกา "อายุบวร"
อิอิ นมัสเต (เนปาล)
สรุป ทริปนี้ คุ้มคา มัคคุเทศก์ดี เพื่อนทริปน่ารัก ได้เที่ยวจุใจ
ข้อสำคัญเดินเยอะะะะะะะะไหม เผื่อจะไปเที่ยวกับทัวร์
โหวดหมวด ท่องเที่ยว


โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 7 ตุลาคม 2568 เวลา:20:40:45 น.  

 
สวัสดีครับคุณชีริว
อยากเม้นท์ยาวๆ เหมือนเดิม แต่นิ้วโดนอะไรแทงไม่รู้ครับ เหมือนจะอักเสบใต้เล็บ ซวยมาก

จริงๆ ผมมาอ่านบล๊อกแรกแล้วนะครับ แต่มาเม้นไม่ทัน

ทะเลศรีลังกาน่าจะยังสมบูรณ์นะครับ มีสัตว์น้ำ เต่าทะเล

นึกถึงตอนเรียนครับ ว่าศาสนาพุทธ ไทยกับศรีลังกาเราเหมือนแลกนิกายกัน

ป้อมกอลล์สวยดีนะครับ นึกถึงหนังสงคราม กับ ฉากใน Assassin creed

เมื่องซีลอนกับชาชีลอนมีอะไรเกี่ยวกันไหมครับ อันนี้สงสัย

พระพุทธรูปโตฬุวีฬะ สวยมากครับ เหมือนพระในอดมคติเลย
วัดคงคารามนี่ดูมีลายเส้นที่เป็นเอกลักษณ์มาก เห็นแล้วรู้เลยว่าศรีลังกาแน่ๆ แต่จริงด้วยครับ มีความตีนนิดๆ

คำทักทาย อายุบวร นี่ดีจังเลยครับ เหมือนเป็นคำอวยพรต่อกัน เหมือน สวัสดี ของไทย

พูดถึงพระเครื่อง บอกให้คนศรีลังกามาไทยตอนนี้ครับ กำลังเดือดเลย 5555


โดย: จันทราน็อคเทิร์น วันที่: 8 ตุลาคม 2568 เวลา:22:57:28 น.  

 
ทะเลจากที่ดูมาหลายๆ ประเทศบ้านเรามันสวยจริงๆ แหละครับ (แต่ทำลายกันเองจนแย่ลง)

เวลาเราเห็นภาษาไทยในต่างประเทสมันรู้สึกดีนะครับ เรียกว่าเที่ยวแบบเสพย์ประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับบ้านเราไปด้วยเลย

เป็นเมืองขึ้นของหลายประเทศเลย บ้านเรายังไม่เคยเป็นเมืองขึ้น แต่ก็ต้องใช้คำว่าก่อนที่จะเป็นรัฐชาติสมัยใหม่ล่ะนะ

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ถ้าไม่ได้สนใจนี่อาจมีเบื่อได้ง่ายๆ เลย ไปเที่ยวถ้าไปทัวร์คนไทยสนใจซื้อของครับ แล้วก็มีห้างด้วย มันต้องอย่างนี้สิ 555


คนนิยมตุ๊กตุ๊กซะงั้น ในภาพมอเตอร์ไซด์โดนตำรวจเรียกด้วย น่าจะใช่ตำรวจ (ถ่ายจังหวะดีมากๆ)


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 9 ตุลาคม 2568 เวลา:3:54:09 น.  

 
สวัสดี จ้ะ น้องชีริว

ขอบใจที่มาอ่าน นางฟ้าประจำตัว ของครู เราครอบครัวคน
จีน ก็เข้าใจประเพณีเกี่ยวกับครอบครัวจีน เนาะ อิอิ
แม่ชีริว 73 ปี ยังเที่ยวได้อีกหลายปี ครูนั้น ถ้าไม่หกล้ม
กระดูกสันหลังยุบไป 2 ข้อ ครูก็น่าจะเที่ยวและเดินเก่งไม่น้อยกว่าแม่ของเธอแน่นอน เพราะเป็นประเภทชอบเที่ยว อิอิ ถ้าศรีลังกา เดินไม่เยอะ น่าจะต้องหาโอกาสไปสักครั้ง นะ แต่เมืองจีน มันเดินเยอะจริง ๆ ทิวทัศน์เขาก็ทำให้หลงใหลอยากไป (สำหรับคนชอบธรรมชาติ ภูเขา )


โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 9 ตุลาคม 2568 เวลา:9:04:33 น.  

 
จากบล็อก
หินสามวาฬ บึงกาฬครับ คุณชีริวไปมาแล้วใช่มั๊ยครับ ผมเสียดายมากเลย ขึ้นไปวัดภูทอก แต่ข้างบนเดินไม่ครบ เวลาไม่พอต้องรีบลงมาก่อนนะครับ


โดย: The Kop Civil วันที่: 9 ตุลาคม 2568 เวลา:15:06:45 น.  

 
น่าไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์มาก - ได้เห็นของจริงที่ได้อ่านมา
บรรยากาศสงบเงียบดี - น่าไปค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 10 ตุลาคม 2568 เวลา:12:34:50 น.  

 
มีวัดที่มีความสัมพันธ์กับทางไทยด้วย อันนี้ก็น่าจะถือว่าเป็นซอฟต์พาวเวอร์ได้เหมือนกันแต่อาจจะเฉพาะกลุ่มคนกลุ่มเล็กๆ กลุ่มหนึ่ง

ของให้ชมเยอะเลย

พวกเปลือกหอยสวยๆ บ้านเราก็มีขายเหมือนกัน ตอนเห็นมันก็สวยดี แต่พอซื้อกลับมาแล้วบางครั้งก็นึกเหมือนกันว่าเราจะซื้อกลับมาทำไม

การซื้อของจ่าเงินทีละนิดๆ น่ากลัวกว่าจ่ายก้อนเดียวเสียอีก เพราะเรามันไม่ค่อยรุ้ตัว ไม่รู้สึกว่าเราจ่ายไปเยอะ


โดย: โลกคู่ขนาน (สมาชิกหมายเลข 7115969 ) วันที่: 10 ตุลาคม 2568 เวลา:22:17:18 น.  

 
ตามมาเที่ยว ภาพสวยจ้า


โดย: อุ้มสี วันที่: 12 ตุลาคม 2568 เวลา:20:54:58 น.  

 
กำลังอยากไป


โดย: cyberlifenlearn วันที่: 12 ตุลาคม 2568 เวลา:21:13:30 น.  

 
ที่มาคุย
A.I. Love You ผมไม่ทันครับ ตอนนั้นหาซื้อไม่ได้ด้วย ยุคที่อินเทอร์เน็ตยังไม่แพร่หลาย ตามหาหนังสือก็ตามยากเหมือนกัน

สมัยก่อนมีฟ้าใส : เลขาส่วนตัว ผมโหลดมาเล่นด้วยนะ แต่มันไม่เข้าใจคำถามเยอะเกิน ทุกวันนี้ Gemini หรือ Chat GPT ช่วยเราได้เยอะจริงๆ ครับ


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 15 ตุลาคม 2568 เวลา:22:20:25 น.  

 
ที่มาคุย
ผมว่าเกมนี้เริ่มสนุกละ เกาหลีโดดเข้ามาเล่นด้วย ผมรู้แต่พวกจีนเทาถ้าจับมันส่งกลับประเทศ มันโดนยิงตายครับ ยิ่งถ้าเป็นพวกที่หลอกคนจีนด้วยกันยิ่งตายครับ ทางการจีนไม่เอาไว้


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 15 ตุลาคม 2568 เวลา:22:22:41 น.  

 
สวัสดี จ้ะ น้องชีริว

ขอบใจจ้ะ ที่มาอ่าน เม้นท์และให้กำลังใจในการไปท่องเที่ยว
ประเทศจีน
วันนี้ ครูจะไปทอดกฐินที่แม่แจ่มกับเพื่อน กลุ่มไปอินเดีย
แสวงบุญ จ้ะ กลับมาก็คงมีเรื่องเขียน เนาะ อิอิ


โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 16 ตุลาคม 2568 เวลา:5:10:12 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับน้องชีริว



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 16 ตุลาคม 2568 เวลา:5:27:37 น.  

 
กลับมาอ่าน กลับมาเยี่ยม


โดย: cyberlifenlearn วันที่: 16 ตุลาคม 2568 เวลา:22:18:08 น.  

 
สวัสดีค่ะ
จากบล็อกเพลงโอเจ้านกกางเขน
ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ
ได้พลังใจมาเพียบเลย


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 17 ตุลาคม 2568 เวลา:10:45:03 น.  

 
ดีใจมีคนรีวิวละเอียด


โดย: cyberlifenlearn วันที่: 18 ตุลาคม 2568 เวลา:16:24:09 น.  

 
พิพิธภัณฑ์ถ้าคนไม่ได้สนใจจริงๆ คงจะรู้สึกเบื่อได้ง่ายๆ เลย แต่มันก็เป็นที่รวบรวมความเป็นมาของท้องถิ่นนั้นๆ แต่สำหรับคนไทยแล้วต้องช็อปปิ้ง ห้างเขาก็ดีทันสมัยเหมือนกัน

อาหารดูแปลกตาจริงๆ แต่ความแตกต่างวทางวัฒนธรรมก็ถือเป็นเรื่องที่น่าสนใจ ถือว่าได้ประสบการณ์ใหม่ๆ เลย

เห็นสตรีทอาร์ทนึกถึงพวกกระจอกที่ไปบอมบ์งานคนอื่นในไทยจริงๆ

พวกเปลือกหอยในไทย เห้นว่าทางภาครัฐพยายามรณรงค์ให้ไม่เก็บเอากลับบ้านนะ แต่เหมือนจะไม่ค่อยได้ผลเท่าไหร่


โดย: โลกคู่ขนาน (สมาชิกหมายเลข 7115969 ) วันที่: 23 ตุลาคม 2568 เวลา:17:59:34 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

BlogGang Popular Award#21


 
ชีริว
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 93 คน [?]





**5 Latest Entries**
เชียงใหม่ตะวันตก
เชียงใหม่ตะวันออก
ศรีลังกา (2/2)
ศรีลังกา (1/2)
โดราเอม่อน ตอนห่วงทะลุท้องฟ้า


Friends' blogs
[Add ชีริว's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.