Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2561
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
6 พฤษภาคม 2561
 
All Blogs
 
อยุธยายศยิ่งฟ้า (7): นอกเกาะเมืองทิศเหนือ



กลับมาอีกครั้งกับบล็อกร้างกลางซากอิฐ ...ไม่สิ ไม่ร้างขนาดนั้น! หลังจากพาเที่ยวเกาะเมืองอยุธยา นอกเกาะเมืองฝั่งตะวันออก (อโยธยา), ฝั่งใต้, ฝั่งตะวันตก ไปแล้ว คราวนี้มาถึงฝั่งที่ผมหนักใจที่สุดคือฝั่งเหนือครับ ทำใจเตลิดไปอัพบล็อกปีใหม่อยู่นานกว่าจะมีเวลาหยุดยาวรวบรวมพลังเขียนบล็อกนี้ขึ้นมาได้ เพราะฝั่งทิศเหนือนี่วัดโคตรเยอะ! เยอะไม่แพ้ในเกาะเมืองเลยครับ! และที่สำคัญหลายวัดมันรกร้าง ไม่ได้ลุยเข้าไปถ่ายได้รัวๆแบบวัดในเกาะเมืองนะครับ ต้องขออนุญาตคุณหมาๆ ผู้เป็นเจ้าของพื้นที่ไม่ให้ไล่กัดด้วย ทีแรกคิดว่าต้องขออนุญาตสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ปกป้องวัดอยู่และขออนุญาตผีป่า แต่ก็ไม่เคยไปล่วงเกินอะไร มีไอ้หมานี่แหละคุยไม่รู้เรื่อง

แผนที่ครับ! ขอเริ่มจากเส้นออกนอกเกาะเมืองที่เป็นที่นิยมกันได้แก่เส้นอยุธยา-อ่างทองที่ตรงดิ่งเข้าจังหวัดอ่างทองครับ ถ้ามาตามถนนอู่ทองรอบเกาะเมือง พอเห็นอนุสรณ์สถานปรีดีพนมยงค์ และพิพิธภัณฑ์ล้านของเล่นเกริก แล้วก็เลี้ยวซ้ายที่แยกไฟแดงตรงที่มีร้านขายเครื่องบูชาใหญ่ๆ เลยครับ



Click ที่ภาพเพื่อโหลดแผนที่ขนาดใหญ่ (ควรเปิดประกอบการอ่านบล็อกนี้เป็นอย่างยิ่ง เพราะเจ้าของบล็อกมันบอกเส้นทางแล้วงงๆ)


ออกมานอกเกาะเมืองแล้ว วัดแรกที่เจอด้านซ้ายมือคือวัดพนมยงค์ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามบ้านเดิมของท่านปรีดี พนมยงค์ครับ (ปัจจุบันทำเป็นอนุสรณ์สถานปรีดีพนมยงค์) ครั้งมีการใช้นามสกุลในสมัย ร.6 ตระกูลของท่านปรีดีก็ใช้ชื่อของวัดนี้แหละเป็นนามสกุล

วัดพนมยงค์ สร้างในสมัยพระนารายณ์ เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้นางโยง พระนมในราชสำนักท่านหนึ่งที่เสียชีวิตไปแล้ว เลยได้ชื่อว่าวัดพระนมโยง --> พนมยงค์ (อืม มีเหตุผลๆ) จุดเด่นคือองค์พระนอนขนาดใหญ่ที่พุทธลักษณะใกล้เคียงพระนอนวัดป่าโมก จ.อ่างทอง จึงเชื่อได้ว่าสร้างในสมัยอยุธยาตอนกลางเช่นเดียวกัน วัดถูกทิ้งร้างหลังเสียกรุง แม้จะได้รับการบูรณะในสมัย ร.5 แต่ก็ไม่มีคนดูแลต่อ จนกระทั่งกลุ่มลูกศิษย์ท่านปรีดีร่วมกันสมทบทุนลงกองทุนปฏิสังขรณ์วัดในปี พ.ศ.2538 วัดจึงกลับมาดูงดงามครับ





ภายในอุโบสถ



ฝั่งตรงข้ามเห็นเรือนเก่าของท่านปรีดี เดิมเป็นเรือนแพลอยน้ำ แต่นำขึ้นบกมาอนุรักษ์ไว้ มีสะพานเดินเท้าข้ามไปอีกฝั่งได้นะครับ

ขึ้นไปอีกหน่อยจะเป็นซอยทางเข้า วัดศาลาปูน เหตุที่ได้ชื่อนี้เพราะในสมัยอยุธยาบริเวณนี้เป็นแหล่งเผาปูน (อืม มีเหตุผลอีกแล้ว) วัดนี้บูรณะในสมัย ร.3 และ ร.5 ภายในอุโบสถจึงมีภาพจิตรกรรมสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นด้วย วัดนี้เคยเป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อวัดไร่ขิงมาก่อน แต่ในปี พ.ศ.2427 สมเด็จพระพุฒาจารย์ (พุก) เจ้าอาวาสวัดศาลาปูนสมัยนั้นได้อัญเชิญพระประธานไปที่วัดไร่ขิง เพราะท่านเป็นชาวเมืองนครไชยศรีและก่อนหน้าจะมารับตำแหน่งที่วัดศาลาปูนท่านเป็นผู้สร้างวัดไร่ขิง พระประธานองค์ก่อนของวัดศาลาปูนจึงกลายเป็นหลวงพ่อวัดไร่ขิงที่ชาวนครปฐมเคารพนับถือกันมากนับแต่นั้น ส่วนพระประธานองค์ปัจจุบันของวัดศาลาปูนสร้างจำลองขึ้นมีลักษณะเหมือนหลวงพ่อวัดไร่ขิงทุกประการครับ





ขับตามเส้นอยุธยา-อ่างทองขึ้นมาต่อเลยครับ พอไกลออกจากเขตเมืองเก่าออกไปเรื่อยๆ เหล่าซากอิฐก็ลดความหนาแน่นลง มีทุ่งนามากขึ้นๆ บริเวณนี้คือทุ่งภูเขาทอง-ทุ่งลุมพลี-ทุ่งหันตรา-ทุ่งมะขามหย่อง เป็นสมรภูมิเก่าที่มีการสู้รบหลายครั้งหลายครา แต่ปัจจุบันใช้เป็นที่ทิ้งน้ำป้องกันน้ำท่วมครับ มองไปด้านซ้ายมือจะเห็นเจดีย์สูงเด่นเป็นสง่าอยู่กลางทุ่งนาเลย นั่นคือภูเขาทองของอยุธยาที่กรุงเทพสร้างภูเขาทองวัดสระเกศตามอย่าง

ด้านหน้าภูเขาทองมี อนุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวร ในปี พ.ศ.2129 กองทัพของนันทบุเรงเข้าล้อมกรุงศรีอยุธยาที่กระด้างกระเดื่อง พระนเรศวรได้ควบม้าใช้ทวนแทงลักไวทำมู นายกองของพม่าตายที่บริเวณทุ่งลุมพลีแห่งนี้ อนุสาวรีย์นี้สร้างเสร็จในปี พ.ศ. 2542 จำลองพระนเรศวรถือทวนบนหลังม้าตามสงครามครั้งนั้นครับ



วัดภูเขาทอง สร้างโดยพระราเมศวร ในปี พ.ศ.1930 ส่วนองค์เจดีย์นี้สร้างตามมาทีหลังครับ ฐานของเจดีย์เป็นแบบมอญที่มีขนาดใหญ่โตกว่าเจดีย์ทรงอยุธยาปกติ เชื่่อกันว่าสร้างโดยพระเจ้าบุเรงนองในปี พ.ศ.2112 เพื่อประกาศชัยชนะเหนืออยุธยา แต่ในสมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศตอนปลายของอยุธยาด้านบนของเจดีย์องค์นี้ก็ถูกแก้เป็นเจดีย์ย่อมุมไม้สิบสองแบบอยุธยา





ด้านหลังเจดีย์ภูเขาทองคือพระอุโบสถที่สร้างทับฐานเดิมที่สร้างมาตั้งแต่สมัยพระราเมศวร รอบอุโบสถมีเจดีย์รายที่ส่วนใหญ่สร้างตอนบูรณะวัดสมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศครับ



พระพุทธรูปในอุโบสถแบ่งเป็นสามตอน มีพระพุทธรูปเก่าแก่ที่สำคัญอยู่หลายองค์เลยครับ
ตอนที่ 1 - หลวงพ่อขาว หลวงพ่อเสือ
ตอนที่ 2 - พระพุทธรูปสุโขทัย 3 องค์ รอยพระพุทธบาทจำลอง ปู่ฤาษีตาไฟ
ตอนที่ 3 - พระประธาน หลวงพ่อเชียงแสน



บนกุฏิเจ้าอาวาสมีรอยพญานาคด้วย ผมไปวัดนี้รอบหลังสุดปี พ.ศ.2555 ตอนนั้นกำลังฮิตพญานาคเลยเนอะ



ไม่ใช่แค่ศึกลักไวทำมูนะครับ ทุ่งบริเวณนี้เป็นสนามรบหลักในสมัยอยุธยาเลยก็ว่าได้ ตอนปลายอยุธยาทั้งในศึกพระเจ้าอลองพญาและสงครามเสียกรุงพม่าเข้าประชิดอยุธยารอบด้าน วัดภูเขาทองก็ถูกใช้เป็นที่ตั้งทัพของพม่า เช่นเดียวกับวัดนอกเกาะเมืองอีกหลายวัด ตอนพระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้บุกกรุงศรีครั้งแรก พระมหาจักรพรรดิก็ใช้วัดภูเขาทองและวัดโคกพระยาที่อยู่ใกล้ๆกันนี้เป็นที่ตั้งรับข้าศึก แม้แต่สงครามที่พระสุริโยทัยขาดคอช้างก็เกิดที่ทุ่งมะขามหย่องใกล้ๆกันนี้ครับ

ก่อนออกไปทุ่งมะขามหย่องขอมาชม วัดโคกพระยา กันก่อน ถึงจะชื่อโคกพระยาแต่วัดนี้ไม่ใช่สถานที่ประหารชีวิตกษัตริย์นะครับ วัดโคกพระยาที่ใช้ประหารนั่นอยู่แถวคลองสระบัว ปกติเมื่อกล่าวถึงวัดโคกพระยาที่ภูเขาทองที่มีสำคัญน้อยกว่าเลยต้องวงเล็บท้ายชื่อว่า วัดโคกพระยา (ภูเขาทอง) วัดนี้เป็นสถานที่ที่พระมหาจักรพรรดิใช้ตั้งทัพรับศึกกับพระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้ ศึกเดียวกับที่เสียพระสุริโยทัยครับ



จากภูเขาทองตรงขึ้นเหนือมาอีก 3 กม. จะมีสี่แยกใหญ่แยกเข้าทุ่งมะขามหย่อง ระหว่างทางด้านขวามือมี วัดตูม เป็นวัดเก่าแก่ ได้รับการบูรณะสมัยรัตนโกสินทร์ ปัจจุบันเป็นวัดที่มีพระสงฆ์จำพรรษาครับ มีเครื่องรางของขลังให้เช่าเยอะ เพราะเดิมตั้งแต่สมัยอยุธยาก็ใช้สระโบราณในวัดนี้เป็นที่ลงเครื่องพิชัยสงคราม และ ร.6 เคยมาประกอบพิธีกรรมลงยันต์และอักขระบนธงพระครุฑพ่าห์เป็นธงไชยเฉลิมพลให้ทหารในสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่วัดนี้ด้วย พระประธานคือหลวงพ่อสุขสัมฤทธิ์ (องค์หน้า) ที่เศียรเปิดได้มีน้ำไหลตลอดเวลาและเชื่อว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ดื่มรักษาโรค



ขึ้นมาจนเจอสี่แยกแล้วเลี้ยวซ้ายลงมาทางใต้จะเข้ามาถนน 347 ขับลงมา 2 กม. จะถึง ทุ่งมะขามหย่อง ครับ (หลุดจากแผนที่ด้านบนออกไปทางซ้ายอีก) ในหลวงภูมิพลเคยเสด็จมาที่ทุ่งมะขามหย่องสามครั้งครับ ครั้งแรกปี พ.ศ.2534 เพื่อเปิดอนุสาวรีย์พระสุริโยทัย เนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองราชินีครบ 5 รอบ ครั้งที่สองในปี พ.ศ.2538 เพื่อเกี่ยวข้าว ครั้งที่สามในปี พ.ศ.2555 หลังน้ำท่วมใหญ่ พื้นที่ทุ่งมะขามหย่องเป็นพื้นที่แก้มลิงที่ช่วยลดความรุนแรงของน้ำที่จะทะลักเข้าเมือง และเป็นการเสด็จอยุธยาครั้งสุดท้ายด้วย



กลางทุ่งมะขามหย่องมี อนุสาวรีย์พระสุริโยทัย มเหสีของพระมหาจักรพรรดิ (เคยเผลอเขียนชื่อเป็นสุริโยไทหลายหนเพราะชื่อหนังท่านมุ้ย) เพื่อระลึกถึงสงครามพระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้ ในปี พ.ศ.2091 ช้างของพระมหาจักรพรรดิเสียทีพระเจ้าแปร พระสุริโยทัยจึงไสช้างเข้าขวางและถูกพระเจ้าแปรฟันขาดสะพายแล่ง สิ้นพระชนม์ที่ทุ่งมะขามหย่องนี้ พระศพถูกนำกลับพระนครโดยพระมหาจักรพรรดิได้สร้างวัดสบสวรรค์ขึ้นบริเวณที่ถวายพระเพลิง



ไปไกลแล้วทีนี้กลับมาแถวๆเกาะเมืองบ้างครับ ถ้าเลยแยกพิพิธภัณฑ์ล้านของเล่นเกริกมาจะเห็นพระราชวังโบราณอยู่ด้านขวา ด้านซ้ายเป็นคลองเมือง (เดิมคือแม่น้ำลพบุรี แต่ตื้นเขินลงกลายเป็นคลอง) จะมีสะพานข้ามออกจากเกาะเมืองตรงกับวัดหน้าพระเมรุ สะพานค่อนข้างเล็กสำหรับรถนะครับ ถนนด้านบนที่ตรงกับเกาะเมืองเป๊ะๆเลยจะมีแต่ถนนชนบทที่แคบกระจิ๋วหลิว แต่มีวัดโบราณอยู่เพียบ! เพราะในอดีตบริเวณนี้มีคลองสระบัวที่เป็นแหล่งสัญจรที่สำคัญของอยุธยาเชื่อมกับเกาะเมืองครับ ปัจจุบันยังคงเหลือแนวคลองแต่ก็ตื้นเขินจนใช้การไม่ได้แล้ว

วัดหน้าพระเมรุ สร้างโดยพระองค์อินทร์ พระราชโอรสองค์เล็กของพระรามาธิบดีที่ 2 เมื่อปี พ.ศ.2047 ที่เรียกหน้าพระเมรุไม่ใช่เป็นที่เผาศพหรืออะไรนะครับ แต่ตำแหน่งวัดนี้อยู่ตรงข้ามกับสนามหลวงในเกาะเมืองอยุธยาที่เป็นที่ปลงศพเจ้านายชั้นสูงสมัยอยุธยา แต่ในช่วงอยุธยาตอนปลายพื้นที่ตรงนี้ส่วนใหญ่ถูกเปลี่ยนเป็นสนามหน้าจักรวรรดิไป สำหรับศัตรูที่จะมาบุกอยุธยาวัดนี้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะแก่การยึดเป็นอย่างยิ่ง เพราะอยู่นอกเกาะเมือง แถมอยู่ตรงข้ามพระราชวังพอดี การถูกใช้เป็นที่ตั้งทัพของพม่าจึงไม่ถูกทำลายเลยกลายเป็นจุดขายของวัดไปเลย แต่อันที่จริงพม่าก็ยึดวัดรอบเกาะเมืองไปตั้งค่ายเป็นสิบๆวัดอะนะ ที่พังๆจนเหลือแต่ซากนั่นส่วนใหญ่มารื้อเอาไปสร้างกรุงเทพทั้งนั้น แต่วัดนี้ถูกบูรณะในสมัย ร.3 เพราะอยู่ใกล้จวนของพระยาไชยวิชิตเจ้าเมืองอยุธยาในสมัยนั้น จึงเป็นวัดแรกๆที่ถูกบูรณะขึ้นท่ามกลางอยุธยาที่เหลือแต่ซากอิฐ ต่อมาในสมัย ร.4-5 ที่เริ่มสนใจประวัติศาสตร์จริงจังแล้วจึงเริ่มมีการบูรณะวัดหลายแห่งในอยุธยาตามมาครับ

พระประธานวัดนี้มีชื่ออันยาวเหยียดว่า "พระพุทธนิมิตรวิชิตมารโมลีศรีสรรเพชญ์บรมไตรโลกนาถ" (ตั้งชื่อสมัย ร.3) อยู่ในอุโบสถ สร้างในสมัยพระเจ้าปราสาททองซึ่งนิยมทำพระพุทธรูปทรงเครื่องตามคติจักรพรรดิราช เพื่อแสดงความยิ่งใหญ่ของกษัตริย์ทั้งทางโลกและทางธรรม เป็นเทคนิคเสริมสร้างบุญญาธิการของคนที่ไม่ได้มาจากเชื้อสายเจ้าแต่ขึ้นเป็นกษัตริย์



ในวัดยังมีสิ่งที่น่าสนใจหลายจุดเลยครับ ทั้งหลวงพ่อพระพุทธลีลา ศิลปะลพบุรี ในวิหารหลวง อายุ 800 ปี



หลวงพ่อเชียงแสน อายุ 700 ปี ในวิหารโกนาคมโน



หลวงพ่อขาว สมัยอยุธยา อายุ 500 ปี



...สรุปว่าพระทรงเครื่องใหม่สุด อายุแค่ 300 ปี


เจดีย์รายครับ มีต้นโพธิ์งอกรากกำลังจะสวยละ ทำไมต้องเอาหัวพระไปแปะด้วยนะ จะทำแบบวัดมหาธาตุรึ..... หัวพระจะไปลอยอยู่บนนั้นได้ไงเล่า! Smiley

องค์ที่สำคัญต้ององค์นี้เลยครับ พระคันธารราฐ ศิลปะสมัยทวารวดีอายุ 1,200 ปีที่นำมาจากทุ่งพระเมรุที่นครปฐม ตามที่เคยเล่าตอนอัพบล็อกนครปฐมเมื่อ 4 ปีก่อน (ใครมันจะไปจำได้ฟะ!) วัดทุ่งพระเมรุเดิมเคยมีสถูปกลางที่มีพระศิลาขาวประจำสี่ทิศ แต่วัดพังทลายและพระศิลาขาวได้กระจายไปยังที่ต่างๆ ส่วนพระคันธารราฐองค์นี้เป็นพระศิลาเขียวที่เคยอยู่ที่ทุ่งพระเมรุเช่นกัน เป็นองค์ที่ 5 (อาห์.....สมบัติลับ) ในสมัยอยุธยาได้อัญเชิญมาไว้ที่วัดมหาธาตุ กลางเมืองอยุธยา ก่อนจะย้ายมาประดิษฐานที่วิหารน้อยในวัดหน้าพระเมรุจนถึงปัจจุบันครับ สันนิษฐานว่าพระศิลาขาวทั้ง 4 (ยกพระหัตถ์แสดงธรรม) คือพระพุทธเจ้าทั้งสี่ในภัทรกัปป์ และพระศิลาเขียวองค์นี้ (วางพระหัตถ์ทั้งสองข้าง) คือพระศรีอาริยเมตไตรย



ด้านหลังวัดหน้าพระเมรุมี วัดหัสดาวาส สร้างในสมัยอยุธยาตอนต้น ถนนระหว่างวัดหน้าพระเมรุและวัดหัสดาวาสเคยใช้เป็นที่เจรจาสงบศึกระหว่างพระมหาจักรพรรดิและพระเจ้าบุเรงนอง โดยจะจัดช้างเผือกถวายให้หงสาวดีตามที่ขอ (a.k.a. ขอยอมแพ้นั่นเอง) วัดหัสดาวาสมีอีกชื่อว่าวัดช้าง มีเจดีย์ทรงกลมขนาดใหญ่เป็นประธาน สมัยก่อนเคยเป็นเจดีย์ช้างล้อม แต่ตอนนี้ไม่เหลือช้างแล้วครับ



ด้านซ้ายของวัดหน้าพระเมรุมี วัดเชิงท่า ตำนานเล่าว่าลูกสาวของเศรษฐีหนีตามชายหนุ่มไป เศรษฐีเลยปลูกเรือนให้รอลูกสาวกลับมาจะยกให้อยู่กับคนรัก แต่เธอไม่กลับ เศรษฐีเลยเลยถวายเรือนให้เป็นที่วัด มีชื่อดั้งเดิมว่าวัดคอยท่า (น่าจะชื่อวัดคอยเก้อ) และเปลี่ยนเป็นเชิงท่าในภายหลัง ได้รับการบูรณะในสมัย ร.4

ปรางค์ประธานของวัดมีลักษณะแบบอยุธยาตอนต้น ด้านหน้ามีปรางค์บริวารอีกมากมายเลยครับ



วัดนี้เป็นอีกวัดทางตอนเหนือของเกาะเมืองที่คนนิยมมาทำบุญกันมาก ตอนไปครั้งแรกกับครั้งหลังอัพเกรดขึ้นมาเยอะเหมือนกัน



ศาลาการเปรียญถูกสร้างขึ้นในสมัย ร.4 เป็นศาลาสองชั้นอายุกว่า 100 ปีที่ยังคงสภาพเดิม มีภาพจิตรกรรมเทพชุมนุม พุทธประวัติ ทศชาติชาดก และเตมีย์ชาดก



ทางเหนือของวัดหัสดาวาสเป็นเขตชุมชน ต้องตั้งใจวนหาหน่อยนะครับถึงจะเจอวัดนี้ วัดโคกพระยา สถานที่ประหารกษัตริย์และเจ้านายในสมัยอยุธยาหลังมีการชิงบัลลังก์กันนับครั้งไม่ถ้วน เป็นหนึ่งในโบราณสถานที่มีประวัติศาสตร์นองเลือดมากที่สุดแล้ว เพราะเป็นที่ๆระบุให้เป็นที่ประหารชีวิตตั้งแต่สมัยพระเจ้าอู่ทองกำหนดลงในกฎมณเทียรบาลก่อนพระบรมไตรโลกนาถจะร่างกฎหมายตราสามดวงเสียอีก

ถ้าแลโทษหนักถึงสิ้นชีวิตไซร้ ให้ส่งแก่ทะลวงฟันหลังแลนายแวงหลังเอาไปมล้างในโคกพญา

แต่กฎหมายประหารเจ้านายถูกใช้งานจริงครั้งแรกก็ตอนที่พระเจ้าทองลันผู้ครองราชย์ได้ 7 วัน ถูกพระราเมศวรนำตัวมาสำเร็จโทษด้วยท่อนจันทน์ที่นี่ในปี พ.ศ.1931 หลังจากนั้นวัดนี้ก็ถูกใช้เป็นที่ประหารกษัตริย์มาตลอด เวลาอ่านประวัติศาสตร์ช่วงชิงบัลลังก์หลายท่านจึงคุ้นเคยกันดีกับคำว่า "แล้วนำไปสำเร็จโทษที่วัดโคกพระยา" มาดูรายนามกษัตริย์ที่สวรรคตที่นี่กันครับ...

1. พระเจ้าทองลัน ถูกพระราเมศวรสำเร็จโทษในปี พ.ศ.1931
2. พระรัษฎาธิราช ถูกพระไชยราชาธิราชสำเร็จโทษในปี พ.ศ.2077
3. พระยอดฟ้า ถูกขุนวรวงศาธิราชสำเร็จโทษในปี พ.ศ.2091
4. พระศรีสาวภาคย์ ถูกพระเจ้าทรงธรรมสำเร็จโทษในปี พ.ศ.2154
5. พระเชษฐาธิราช ถูกพระเจ้าปราสาททองสำเร็จโทษในปี พ.ศ.2172
6. เจ้าฟ้าไชย ถูกพระศรีสุธรรมราชาร่วมกับพระนารายณ์สำเร็จโทษในปี พ.ศ.2199
7. พระศรีสุธรรมราชา ถูกพระนารายณ์สำเร็จโทษในปี พ.ศ.2199



ฉากประหารพระยอดฟ้าจากเรื่องสุริโยไท

เมื่อประหาร จะนำตัวนักโทษใส่ถุงแดงแล้วเอาท่อนจันทน์ตอกเพื่อไม่ให้เลือดเจ้าหยดใส่แผ่นดินตามความเชื่อสมัยก่อนครับ ส่วนกษัตริย์อีกหลายองค์ที่ถูกชิงอำนาจแต่ไม่ได้ประหารที่นี่ก็จะมีเหตุจำเป็นต่างๆกันไปครับ เช่น ขุนวรวงศาธิราช ถูกลอบฆ่าแถวคลองสระบัว แล้วนำหัวไปเสียบประจานที่วัดแร้ง (พวกคณะก่อการไม่ถือว่าขุนวรวงศาเป็นกษัตริย์) หรือพระอาทิตยวงศ์ ถูกพระเจ้าปราสาททองชิงอำนาจ แต่ไว้ชีวิต เมื่อเติบใหญ่ขึ้นก็มาก่อกบฏ เลยถูกจับไปประหารที่ตะแลงแกงแบบนักโทษทั่วไป

และยังมีเจ้านายชั้นสูงอีกมากที่ถูกจับใส่ถุงแดงเอาท่อนจันทน์ตอกที่นี่ครับ เอาเฉพาะที่ดังๆก็เช่น พระพันปีศรีศิลป์, เจ้าพระขวัญ, เจ้าฟ้าอภัย, เจ้าฟ้าปรเมศร์, พระองค์เจ้าชื่น, พระองค์เจ้าเกิด, กรมหมื่นจิตรสุนทร, กรมหมื่นสุนทรเทพ, และกรมหมื่นเสพภักดี หลังประหารเสร็จก็ห่อศพด้วยผ้าแดงแล้วทิ้งลงในหลุมหรือในบ่อน้ำวัดนี้โดยไม่เผา เป็นที่มาของคำว่าไม่เผาผี...



...แต่อาถรรพ์ก็คงไม่ค่อยจะเหลือแล้วครับ บ้านเรือนสร้างเบียดที่วัดเข้ามาเหลือกระจึ๋งเดียว ซากกระดูกส่วนใหญ่คงถูกฝังอยู่ใต้บ้านพวกนี้แหละ พอย้ายเมืองหลวงไปกรุงเทพก็ไปประหารกันต่อที่วัดปทุมคงคา การประหารชีวิตด้วยท่อนจันทน์ยกเลิกไปในสมัย ร.4 ครับ

เหนือจากวัดโคกพระยาขึ้นไปมี วัดตะไกร ถึงจะมีบ้านเรือนและต้นไม้ขึ้นหนาทึบ แต่เจดีย์วัดนี้สูงพอสังเกตได้ครับ สร้างในสมัยอยุธยาตอนต้น ในวรรณคดีขุนช้าง-ขุนแผน วัดนี้เป็นที่ปลงศพนางวันทองด้วย ตอนนี้ก็มีคนเข้ามาใช้งานนะครับ คนจรจัดที่เข้ามาทำเพิงอยู่นั่นเอง



บริเวณนี้ยังเห็นแนวคลองสระบัวอยู่ครับ คลองนี้ไหลลงแม่น้ำลพบุรีทางตอนเหนือของเกาะเมือง (ปัจจุบันเป็นคลองเมือง) เดิมเป็นลำคลองตามธรรมชาติ แต่พระมหาจักรพรรดิได้สั่งขุดขยายคลองขึ้นไปจนถึงพระที่นั่งเพนียด หลังจากตัวเองสั่งให้ย้ายเพนียดคล้องช้างออกไปนอกเมืองแถวสวนพริก พอกษัตริย์จะเสด็จไปคล้องช้างก็ต้องนั่งเรือผ่านคลองนี้ขึ้นไปครับ สมัยก่อนเป็นเส้นทางสัญจรที่สำคัญมีตลาดมีชุมชนขึ้นพรึ่บพั่บ มีวัดเรียงรายสองฝั่งคลอง แต่ตอนนี้เหงาทั้งคลองทั้งวัดเลยครับ กาลเวลาเปลี่ยนอะไรๆก็เปลี่ยนไป



ข้างคลองมีถนนแคบๆให้เดินเท้าจากด้านข้างวัดหน้าพระเมรุขึ้นไปจนถึงวัดศรีโพธิ์ เดินมาเพลินๆ เจอเอาวัดนี้ครับ วัดกำแพง เป็นวัดร้างริมคลองสระบัว เหลือพระประธานที่ถูกโจรเจาะจนพรุนไปแล้ว ไปต่อจากนี้มีฝูงหมามาไล่เห่า เลยเดินกลับทางเดิมดีกว่า



จากวัดหน้าพระเมรุ ขับตามถนนเข้าวัดศรีโพธิ์ขึ้นมาสักพักจะเห็น วัดเจ้าย่า อยู่ข้างทางครับ วัดนี้มีถนนผ่านไม่ต้องลุยป่าเข้าไป แต่ถนนมันผ่ากลางวัดเลยนี่สิ! วัดเลยอยู่ทั้งสองฝั่งถนนจ้ะ วัดนี้ยังคงเหลือร่องรอยโบราณสถานมากมาย ฝั่งตะวันออกของถนนมีเจดีย์และวิหาร สร้างในสมัยอยุธยาตอนต้น



ฝั่งตะวันตกของถนนมีหอระฆังและตำหนัก เป็นอาคารสองชั้นเหมือนตำหนักกำมะเลียนวัดกุฎีดาว คาดว่าสร้างขึ้นสมัยอยุธยาตอนปลาย



ใกล้ๆ วัดเจ้าย่านี้มีวัดเก่ากระจายอยู่ในป่าเพียบเลย เดี๋ยวจะพาไปดูวัดที่ดังที่สุดคือ วัดแร้ง ครับ หลังท้าวศรีสุดาจันทร์หนุนขุนวรวงศาธิราชขึ้นเป็นกษัตริย์สร้างความไม่พอใจให้ขุนนางผู้ใหญ่ เหล่าขุนนางนำโดยขุนพิเรนทรเทพ (พระมหาธรรมราชา) จึงก่อการหลอกให้ขุนวรวงศาไปคล้องช้างป่าที่เพนียดวัดซองแถวหัวรอ (ตอนนั้นยังไม่ได้ย้ายเพนียดไปสวนพริก) เมื่อขุนวรวงศา ท้าวศรีสุดาจันทร์ และโอรส ล่องเรือมาตามคลองสระบัวก็ถูกคณะก่อการโจมตี ต้องล่าถอยขึ้นมาบนฝั่งและถูกสังหารแถวๆ วัดแร้ง จากนั้นก็ถูกนำศพมาเสียบประจานไว้ที่วัดแร้งแห่งนี้ แล้วคณะก่อการก็เชิญพระเฑียรราชาขึ้นครองราชย์เป็นพระมหาจักรพรรดิ ใช่แล้ว! เราจะไม่ยอมให้คนนอกมาครองบัลลังก์ของอยุธยาเด็ดขาด! ....แล้วไม่นานก็เสียกรุงครั้งที่ 1 โดยพระมหาธรรมราชาไปเข้าข้างพม่ามาเล่นงานอยุธยาเองด้วย เวรกำ...



ทางเข้าวัดแร้งจะเห็นบ้านร้างหลังนี้ครับ ข้างบ้านมีทางลงไปยังป่าละเมาะด้านล่าง


แถวนี้มีอิฐโบราณกระจัดกระจายอยู่ทั่ว มีขนาดเล็กกว่าอิฐที่วัดอื่นๆ



วันหนึ่งฉันเดินเข้าป่า ♫ เข้ามาสักพักจะเจอส้วม! ...ไม่ใช่! นั่นคือวัดแร้ง!! ถูกไถกลบจนไม่เหลือสภาพวัดละครับ อิฐของวัดนี้ถูกโกยมากองกัน ด้านบนพยายามสร้างอาคารอะไรสักอย่าง น่าจะทำเป็นศาล แต่ตอนนี้รื้อออกไปแล้วเหลือแต่เสา



ด้านหลังวัดแร้งมีร่องรอยของคลองบางปลาหมอ เป็นลำคลองเล็กๆที่แยกจากคลองสระบัว และไหลลงแม่น้ำลพบุรีเช่นกัน ปัจจุบันตื้นเขินกลายเป็นหนองน้ำไปแล้วครับ ข้ามหนองไปทางตะวันออกเฉียงใต้อีกนิดจะมีวัดลายสอ แต่ควรให้ชาวบ้านในพื้นที่พาเข้าไปนะครับ เดี๋ยวไปตกน้ำตกท่าเอา


แถวป่าละเมาะบริเวณนี้ยังมีซากวัดกระจัดกระจายอยู่ แต่ถ้าไม่ได้ชาวบ้านนำเข้าไปก็ลำบากนะครับ หลายๆวัดถูกไถกลบไปจนแทบไม่เหลือซากแล้วด้วย อย่างบ้านแถบนี้มีเศษอิฐของวัดเก่ากระจายอยู่ตามพื้นดิน ในป่าหลังบ้านนั้นถามชาวบ้านได้ความว่าเป็นซากวัดใบสอ (อย่าสับสนกับวัดลายสอแถววัดแร้งนะ)



ตอนนี้กลับมาแถวนี้ไม่เห็นจุดสังเกตที่เคยเห็นแล้วนะครับ กลุ่มอาคารหน้าวัดใบสอกลายเป็นตึกแถวไปหมดแล้ว ส่วนบ้านร้างหน้าวัดแร้งก็ยิ่งรกชัฏจนมองไม่เห็นทางเข้าแล้ว Smiley

ขับตามถนนขึ้นมาต่อจะถึง วัดศรีโพธิ์ สร้างในสมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ แต่ถูกทิ้งร้างหลังเสียกรุงครั้งที่สอง ปัจจุบันควบรวมกับวัดพรหมกัลยารามที่ร้างไปแล้วและบูรณะขึ้นใหม่ทั้งหมด เจดีย์หน้าอุโบสถถึงจะทาสีใหม่เอี่ยมอ่องแต่ยังคงรูปแบบเดิมสมัยอยุธยาตอนปลายอยู่ครับ




จากวัดศรีโพธิ์มีถนนอ้อมมาหลังวัดทั้งด้านซ้าย-ขวา ถนนขวาใหญ่กว่าครับ เป็นทางไปยัง วัดกลางคลองสระบัว ปัจจุบันเป็นวัดที่มีพระจำพรรษา วัดนี้ไม่ได้มีแค่ซากอิฐ แต่มีผู้คน! เป็นวัดที่คึกคักที่สุดของชุมชนคลองสระบัวเลย ที่นี่มีวิหารพระพุทธรูปเก่าแก่หลายองค์ ที่โด่งดังที่สุดคือหลวงพ่อทันใจ (รูปซ้ายบน-องค์หน้า-ด้านซ้าย)



ถ้ามาถนนด้านซ้ายถนนแคบมากครับ จะมีโบราณสถานเรียงกันสามวัดเลย วัดพระงาม-วัดจงกลม-วัดพระยาแมน ส่วนทุ่งทางตะวันตกของวัดเหล่านี้เรียกว่าทุ่งขวัญ สมัยก่อนรู้สึกว่ายิ่งเข้าไปลึกวัดก็ยิ่งใหญ่ขึ้นๆ วัดพระงามไม่มีอะไรเท่าไหร่ วัดจงกลมใหญ่ขึ้น วัดพระยาแมนใหญ่มาก แต่ตอนนี้วัดพระงามดังสุดเลยครับ เพราะการท่องเที่ยวโปรโมทว่าประตูวัดที่มีรากโพธิ์คลุมนี้คือประตูกาลเวลา~ เท่านั้นละ นักท่องเที่ยวแห่กันมาถ่ายรูปไม่ขาดสาย ถนนเล็กๆบ้านเหงาๆที่อยู่แถวนั้นก็เริ่มมีร้านขายของผุดขึ้นมา นี่มันวัดไชยวัฒนารามโมเดล! (แบบลดอิมแพ็คลงมา)



วัดพระงาม หรือวัดชะราม สร้างในสมัยอยุธยาตอนต้น มีเจดีย์แปดเหลี่ยมเป็นประธานครับ



วัดจงกลม สร้างในสมัยอยุธยาตอนต้นและมีเจดีย์แปดเหลี่ยมเป็นประธานเช่นกัน แต่อุโบสถยังค่อนข้างสมบูรณ์มีกำแพงครบ



วัดพระยาแมน สร้างในสมัยอยุธยาตอนกลาง เป็นวัดที่พระเพทราชาเคยมาผนวชก่อนขึ้นครองราชย์ พอครองราชย์แล้วก็กลับไปถมที่บูรณะจนใหญ่โตกว่าวัดอื่นในบริเวณนี้ ศิลปะเลยคล้ายวัดบรมพุทธารามที่พระเพทราชาสร้าง เนื่องจากวัดมันอยู่ลึก ไปทีไรก็เจอแต่ฝรั่งเที่ยวครับ คนไทยแถวนั้นก็มีแต่ชาวบ้านที่เข้ามาเลี้ยงวัวเลี้ยงไก่ในวัด



ระหว่างวัดจงกลมและวัดพระยาแมนสมัยก่อนเคยมี ตลาดน้ำคลองสระบัว เป็นตลาดน้ำแห่งแรกๆที่ผมเคยมาเที่ยวเลย มาครั้งแรกสุดปี 2552 ครับ เป็นแพต่อให้เดินกลางสระน้ำ มีควายเผือก มีอาหารขาย มีการแสดงกลางน้ำเป็นรอบๆด้วย



น่าเสียดายช่วงน้ำท่วมปี 54 ตลาดปิดตัวไป แล้วก็ไม่เปิดกลับมาอีกเลย ตอนปี 2558 เคยไปด้อมๆมองๆด้วยความคิดถึง ก็ได้เจอลุงรงค์เจ้าของตลาดน้ำแห่งนี้ชวนให้เข้าไปชมด้านใน มีเรือนไทย มีห้องสัมมนา ระหว่างรอเปิดตลาดใหม่ก็ให้โรงถ่ายหนังเช่าพื้นที่ไปถ่ายละครหลายเรื่องแล้ว เสียดายชื่อละครที่ลุงเล่ามาผมไม่รู้จักจ้า (ดังอยู่นะ แต่ผมไม่ค่อยได้ดูละคร) ตอนนั้นลุงบอกว่าเตรียมเปิดตลาดกลับมาอีกครั้ง แต่ด้วยการท่องเที่ยวแถบนี้ที่ซบเซาน่าจะยาก ลูกๆลุงก็โตทำงานกันหมดแล้ว ผมไปรอบล่าสุดเมื่อเดือนที่แล้วเอง (เม.ย. 2561) การท่องเที่ยวอยุธยาบูมขึ้นมาเพราะกระแสบุพเพสันนิวาส แต่ลุงรงค์ไม่ได้คิดจะกลับมาเปิดตลาดแล้วครับ ตอนนี้มีทั้งตลาดน้ำอโยธยา ตลาดกรุงศรี ตลาดน้ำบางกะจะ ถนนคนเดินคลองในไก่ ฯลฯ ตลาดแนวท่องเที่ยวเต็มอยุธยาไปหมดแล้ว ให้เช่าพื้นที่เป็นที่ถ่ายหนังไปเลยดีกว่า อ้อ บุพเพสันนิวาสก็ถ่ายทำที่นี่ฉากนึงนะครับ ฉากคว่ำเรือตอนแรกสุดเลย


ออกมาชนกับถนน 3060 จะเจอ วัดสี่เหลี่ยม ที่สามแยก ชื่อก็ตามภาพเลยครับ สี่เหลี่ยมเน้นๆก้อนเดียวเลย วัดนี้เหลือแค่อุโบสถ



จากวัดสี่เหลี่ยม เลี้ยวมาทางขวาจะชนกับถนนเส้นที่ออกจากวัดหน้าพระเมรุมาทางขวา ที่หัวมุมมี วัดครุฑธาราม วัดนี้สร้างในปี พ.ศ.2302 สมัยพระเจ้าเอกทัศน์ ปัจจุบันก็ยังมีพระสงฆ์จำพรรษานะครับ แต่หน้าตาเหมือนวัดร้างไปหน่อย



ทางใต้ของวัดสี่เหลี่ยมมีวัดข้างๆอีกแห่งนึง วัดแคครับ แต่ก่อนเห็นเจดีย์กองอยู่ข้างทางหรอมแหรมคิดว่าวัดไม่ใหญ่มาก ไปรอบล่าสุดลงไปเดินถ่ายรูป ข้างในยังมีซากโบราณของวัดนี้อีกเพียบเลยครับ! พื้นที่วัดกินไปถึงบ่อน้ำหน้าเพนียดคล้องช้างเลย 

วัดแค สร้างตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนต้น ประกอบด้วยเจดีย์ขนาดใหญ่ถึง 3 องค์ ป้ายของกรมศิลป์จะระบุเป็นเจดีย์ประธานหมายเลข 1, 2, 3 มองจากฝั่งถนนไล่จากซ้ายไปขวา ซึ่งในรูปนี้คือเจดีย์ประธานหมายเลข 1 มีวิหารอยู่ด้านหน้าครับ ด้านหลังติดถนน



เจดีย์ประธานหมายเลข 2 มีลักษณะคล้ายพระธาตุหริภูญไชยที่ลำพูน คาดว่าบริเวณนี้เดิมเป็นที่อยู่อาศัยของชาวล้านนาที่ถูกกวาดต้อนมาในสมัยพระไชยราชาไปตีล้านนา



เจดีย์ประธานหมายเลข 3 เป็นเจดีย์ทรงระฆังสององค์ตั้งอยู่บนฐานเดียวกันคล้ายเจดีย์วัดพระศรีสรรเพชญ์



ส่วนวัดแคที่โด่งดังเรื่องหลวงปู่ทวดเคยมาจำพรรษาคือวัดแคบนเกาะลอย ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

ข้ามคลองหัวรอไปอีกฝั่งมี วัดป้อมรามัญ เดิมชื่อวัดป้อม และแถวนี้เป็นที่เผาอิฐมอญขาย เลยเอาคำว่ารามัญมาเติมทีหลัง (มีเหตุผลๆ) ปัจจุบันบูรณะจนไม่เหลืออะไรเก่าๆไว้ดูแล้วครับ



ทีนี้กลับมาที่เกาะเมืองอีกรอบ จากวัดราชประดิษฐานออกมาทางซ้ายข้ามสะพานออกจากเกาะเมืองมา เส้นนี้จะพาเลาะไปวัดทางตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะเมือง ซึ่งโซนนี้ไม่ได้รกชัฏแบบคลองสระบัวครับ มีวัดเก่าๆที่ได้รับการบำรุงรักษาอย่างดีอยู่เลยเลย ข้ามสะพานมาเจอวัดแรกคือ วัดวงษ์ฆ้อง ถนนตัดผ่ากลางวัดนี้เลยครับ เดิมชื่อวัดโรงฆ้อง เป็นวัดเก่าแก่ก่อนยุคกรุงศรีอยุธยา ได้รับการบูรณะในปี พ.ศ.1920 สมัยขุนหลวงพะงั่ว สมัยอยุธยาบริเวณนี้มีตลาดวัดโรงฆ้องที่คึกคัก



ซากเจดีย์ในวัดทุกองค์มีรอยทะลวงกรุหมดสิ้น แย่จัง Smiley



จากวัดวงษ์ฆ้องขับมาทางตะวันตกจะผ่านโบราณสถาน วัดโพธิ์ (ร้าง) สร้างในสมัยอยุธยาตอนปลาย ปัจจุบันเหลือเจดีย์ วิหาร อุโบสถ และเจดีย์ราย เป็นวัดร้างท่ามกลางวัดที่ถูกบูรณะวัดอื่นๆเลย



เลยมาอีกเป็น วัดกุฎีทอง ถูกถนนผ่ากลางวัดเช่นกัน วัดนี้เป็นวัดเก่าก่อนยุคกรุงศรีอยุธยา เดิมเป็นวัดใหญ่โต ปิดทองสวยงาม แต่ถูกทำลายในครั้งเสียกรุงครั้งที่ 2 เพิ่งบูรณะครั้งใหญ่ปี พ.ศ.2525 จนอุโบสถใหม่เอี่ยมปิ๊งๆ~ แต่ซุ้มประตูทางเข้าวัดกับเจดีย์หลังอุโบสถยังเก่าอยู่นะครับ 





ใกล้วัดกุฎีทองมี วัดใหม่คลองสระบัว สร้างสมัยอยุธยาตอนปลาย ถึงจะชื่อวัดใหม่ แต่โทรมกว่าวัดอื่นๆครับ (ใหม่เมื่อ 200 ปีที่แล้ว) ลงไปถ่ายรูปมีหมามาไล่เห่าฝูงนึง วัดที่ไม่ค่อยมีคนมาหมาแถวนั้นจะขี้ตื่นน่ะ



กลับมาที่วัดวงษ์ฆ้องอีกรอบ คราวนี้ไปต่อทางตะวันออกบ้างครับ จะมี วัดแม่นางปลื้ม สร้างในปี พ.ศ.1920 สมัยขุนหลวงพะงั่ว (กษัตริย์ต้นราชวงศ์สุพรรณภูมิท่านนี้อุปถัมป์พุทธศาสนามากจึงมีวัดเกิดขึ้นมากมาย ที่สำคัญที่สุดคือวัดมหาธาตุกลางเกาะเมืองอยุธยา) และได้รับการบูรณะในสมัยพระนเรศวร เพื่ออุทิศให้แม่ปลื้มซึ่งพระนเรศวรเคยรับมาอุปการะ พร้อมเปลี่ยนชื่อเป็นวัดแม่นางปลื้ม ส่วนอุโบสถบูรณะในสมัย ร.3 ภายในประดิษฐานหลวงพ่อขาว

ปัจจุบันวัดนี้มีพระสงฆ์จำพรรษาครับ




จุดขายสำคัญของวัดนี้คือเจดีย์สิงห์ล้อมเช่นเดียวกับที่วัดธรรมมิกราช คาดว่าสร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนต้นหลังเจ้าสามพระยาตีเขมรและยึดเอาศิลปะการสร้างสิงห์แบบเขมรมาด้วย ภาพนี้ถ่ายวันฝนตก แต่เมฆก่อนฝนลงก็ช่วยให้ฟ้าสวยแฮะ



ขับข้ามสะพานข้ามคลองบางขวดมาจะเห็น วัดสามวิหาร ที่มีเจดีย์สูงเด่น เดิมชื่อวัดสามพิหาร สร้างในปี พ.ศ.1920 สมัยขุนหลวงพะงั่ว (อีกแล้วครับท่าน) เอกลักษณ์ของวัดนี้คือมีวิหารสามหลัง วิหารพระนอน วิหารพระนั่ง และวิหารพระยืน ปัจจุบันวิหารพระยืนพังทลายไปหมดแล้ว มีการสร้างพระอุโบสถใหม่ขึ้นมา ส่วนวิหารพระนั่งและวิหารพระนอนได้รับการบูรณะอย่างดี ภาพด้านล่างคือพระนั่ง (พระพุทธนิมิตรพิชิตมาร) หน้าเจดีย์ประธานครับ



องค์พระนอนยาว 21 เมตร อยู่ในวิหารด้านในสุด อายุ 600 ปีตั้งแต่แรกเริ่มสร้างวัด นับเป็นพระนอนที่ใหญ่โตและเก่าแก่อันดับต้นๆของอยุธยา (ใหญ่โตที่สุดคือพระนอนวัดโลกยสุทธา ยาว 42 เมตร)



ทางเหนือของวัดสามวิหารมีถนนสองเส้นขึ้นไปยังวัดเจดีย์แดง ถ้ามาทางเส้นติดแม่น้ำลพบุรี ข้างทางจะมี วัดกุฎีสูง อยู่ในป่า แต่เข้าไปจากถนนไม่ลึกป่าไม่รกมากครับ มีวิหารและหอระฆังปกคลุมด้วยรากไม้สวยงาม



ภายในวิหารมีการสร้างพระประธานขึ้นใหม่ในปี พ.ศ.2522 แทนที่พระประธานองค์เดิมที่พังทลายหมดแล้วเรียกว่าหลวงพ่อขาว



วัดเจดีย์แดง มีเจดีย์ย่อมุมไม้ยี่สิบเป็นประธาน สร้างในสมัยอยุธยาตอนปลาย ลายปูนปั้นรอบองค์เจดีย์ค่อนข้างสมบูรณ์ นับว่าเป็นเจดีย์ที่มีลักษณะงดงามที่สุดในอยุธยา สมัยก่อนเคยทาสีแดง เป็นที่มาของชื่อวัด แต่ตอนนี้สีหลุดลอกหมดแล้วครับ





รอบเจดีย์เป็นสถูปบรรจุกระดูกรูปร่างหน้าตาหลากหลาย ทรงแปลกๆก็มีครับ


เดี๋ยวสิ... แกไม่ใช่สถูปใช่มั้ย?!



ภายในอุโบสถมีพระประธานตั้งแต่สมัยอยุธยา วัดนี้ดังเรื่องเครื่องรางของขลังครับ ที่เด่นคือตะกรุดหลวงพ่อจำลอง ผมไม่ได้เล่นเพระเครื่องเลยไม่ค่อยรู้จักเท่าไหร่ รอบที่ไปเที่ยววัดเมื่อปี 2557 หลวงพี่ที่พาชมในวัดโชว์พระเครื่องของอาจารย์ของสมเด็จโตให้ดูด้วย เป็นสมบัติล้ำค่ามาก (เสียใจผมจำรายละเอียดไม่ได้ ไม่เชี่ยวเรื่องพระจริงๆ)




ในเขตสังฆาวาสของวัดนี้มีโบราณสถานอยู่หลังกุฏิพระด้วยนะครับ มีหอระฆังกับเจดีย์องค์เล็ก แต่สร้างสมัยรัตนโกสินทร์แล้ว

ขับขึ้นมาอีกหน่อยจะมีรูปปั้นยุทธหัตถีหน้าเพนียดคล้องช้าง แสดงความสำคัญของช้างในสงครามสมัยอยุธยา



เพนียดคล้องช้าง เดิมตั้งอยู่แถวหัวรอ แต่พระมหาจักรพรรดิขยายกำแพงเมืองออกเพื่อรับศึกกับพม่า เลยย้ายมาสร้างเพนียดใหม่นอกเกาะเมืองทิศเหนือแถบสวนพริกครับ ไปต้อนจากในป่ามาคล้องได้เลย จะใช้การปักซุงล้อมเป็นเพนียด แล้วพรานช้างจะนำช้างไปล่อเอาช้างป่าเข้ามาในเขตเพนียด เอาบ่วงคล้องขาช้างที่จะนำไปใช้งานแล้วปล่อยช้างที่เหลือกลับไป กลางเพนียดมีศาลปะกำใช้ทำพิธีก่อนคล้องช้าง หน้าเพนียดเป็นพระที่นั่งสำหรับกษัตริย์ชมการคล้องช้าง ตัวที่มีลักษณะดีจะนำมาใช้เป็นพระราชพาหนะ และช้างหายากอย่างช้างเผือกนับเป็นหนึ่งในสัปตรัตนะแห่งพระเจ้าจักรพรรดิ ได้แก่ จักรแก้ว ช้างแก้ว (ช้างเผือก) ม้าแก้ว มณีแก้ว นางแก้ว คฤหบดีแก้ว และ ปรินายกแก้ว พระมหาจักรพรรดิมีช้างเผือกในครอบครองถึง 7 ช้าง จึงมีอีกพระนามหนึ่งว่าพระเจ้าช้างเผือก



ที่นี่ถูกใช้งานอีกครั้งในสมัยรัตนโกสินทร์ ซึ่งกลับมามีการคล้องช้างมาใช้ในงานราชการเกือบทุกปี สมัยนั้นตามที่ราบแถวนี้มีช้างป่าเยอะมากๆครับ ในสมัย ร.5 ปี พ.ศ.2451 มีเหตุการณ์รถไฟที่เพิ่งเปิดใช้งานในรัชกาลนี้ขับชนช้างพังทั้งขบวนเลย งานคล้องช้างครั้งใหญ่จัดในปี พ.ศ.2426 เพื่อต้อนรับดยุคโยฮัน อัลเบรกต์แห่งรสเซีย และปี พ.ศ.2434 ต้อนรับมกุฏราชกุมารนิโคลัสแห่งรัสเซีย (ต่อมาขึ้นครองราชย์เป็นพระเจ้าซาร์ นิโคลัสที่ 2) ที่มาเยือนประเทศแถบนี้หลังทำการเปิดเส้นทางรถไฟทรานส์ไซบีเรีย การสร้างสัมพันธไมตรีกับมหาอำนาจอย่างรัสเซียช่วยต้านทานการรุกรานจากอังกฤษและฝรั่งเศสในช่วงล่าอาณานิคมด้วย



ภาพการคล้องช้างเมื่อครั้ง ร.5 ต้อนรับมกุฏราชกุมารนิโคลัส พ.ศ.2434
จากหนังสือกรุงเก่าเมื่อกาลก่อน ของ Siam Renaissance




ตรงข้ามเนียดคล้องช้างมีเตาเผาบ้านเพนียด เป็นเตาเผาที่ใช้มาตั้งแต่สมัยอยุธยาจนถึงรัตนโกสินทร์และเพิ่งถูกปล่อยร้างเมื่อไม่กี่สิบปีก่อนนี้เอง มีศาลอยู่ด้านบนครับ


ติดกับเพนียดเป็นหมู่บ้านช้างเพนียดหลวงที่มีช้างอยู่หลายสิบตัว เลี้ยงไว้สำหรับการท่องเที่ยวและการแสดงต่างๆ



ใกล้เพนียดคล้องช้างมีวัดบรมวงศ์ หรือชื่อเดิมคือวัดทะเลหญ้า เป็นวัดร้างหลังเสียกรุง แต่หลังจากมีการนำเพนียดคล้องช้างกลับมาใช้งานอีกครั้ง วัดทะเลหญ้าได้รับการบูรณะโดยเจ้าฟ้ามหามาลา กรมพระยาบำราบปรปักษ์ ในสมัย ร.5 เพื่อใช้เป็นที่ทำบุญของเจ้าพนักงานในกรมคชบาลด้วย เปลี่ยนชื่อเป็น วัดบรมวงศ์อิศรวราราม (ชื่อแบบรัตนโกสินทร์นี่เรียกยากจัง) เป็นการสร้างวัดใหม่ทับลงไปบนซากวัดเดิมแบบไม่เหลือเค้าเลยนะครับ ศิลปะเป็นแบบรัตนโกสินทร์ทั้งนั้น เจดีย์กลางวัดบรรจุพระบรมสารีริกธาตุและอัฐิกรมพระยาบำราบปรปักษ์ด้วย





ภายในวิหารสร้างสมัย ร.5



ภายในอุโบสถมีพระรูปและรูปถ่ายเก่าสมัย ร.5 เสด็จมาทอดกฐินที่นี่หลายครั้งเหมือนกัน

ข้ามสะพานข้ามแม่น้ำลพบุรีไปอีกฝั่ง ไกลออกมาจากตัวเมืองพอสมควรแล้วครับ แถบนี้จะมี วัดตองปุ อยู่ริมน้ำ วัดนี้สร้างสมัยอยุธยาตอนต้น และถูกบูรณะสมัยพระนเรศเพื่อเป็นที่จำพรรษาของมหาเถรคันฉ่อง ปัจจุบันวัดนี้มีพระสงฆ์จำพรรษา พื้นที่วัดถูกบูรณะหมดแล้ว แต่ก็มีพระพุทธรูปโบราณที่เป็นที่นับถืออยู่เยอะเลยครับ



องค์ที่สำคัญที่สุดคือหลวงพ่อโต ที่สร้างขึ้นพร้อมกับวัด อายุราว 600 ปี แต่ต่อมาอุโบสถหลวงพ่อโตชำรุด จึงสร้างพระอุโบสถใหม่ขึ้น แต่เนื่องจากเกรงว่าจะทำให้องค์พระเก่าแก่เสียหายไปด้วย เลยขยับอุโบสถออกมาด้านหน้า แล้วเปลี่ยนอุโบสถเดิมเป็นวิหารหลวงพ่อโตคลุมองค์พระไว้เฉยๆ ส่วนพระประธานองค์ใหม่หันหน้าเข้าหาหลวงพ่อโต พระเก่าแก่อีกองค์คือหลวงพ่อหินที่ชะลอมาจากวัดนางคำฝั่งอโยธยา อายุกว่า 500 ปี ส่วนพระองค์ดำน่าจะสร้างขึ้นมาภายหลังเพื่อบูชาพระนเรศ



ด้านหลังวัดติดแม่น้ำป่าสัก ฝั่งตรงข้ามเป็นเกาะเล็กๆ มีวัดช่องลมอยู่กลางเกาะเลยเรียกว่าเกาะวัดช่องลม (คนละวัดกับวัดช่องลมที่คลองมหานาคนะครับ) ไม่มีแม้แต่สะพานคนเดินครับ จะขึ้นไปต้องนั่งเรืออย่างเดียว ผมไม่ได้ข้ามไปดูนะครับ หาข้อมูลในเว็บแทบไม่เจออะไรคงไม่มีอะไรน่าสนใจ ส่วนที่เห็นฝั่งไกลๆนั่นคือตอนเหนือนอกเกาะเมืองแถวๆวัดสามวิหาร



จริงๆมีผืนดินแยกออกจากส่วนอื่นๆของอยุธยาที่น่าสนใจคือ เกาะลอย อยู่ฝั่งตรงข้ามพระราชวังจันทรเกษม ล้อมด้วยแม่น้ำลพบุรีและแม่น้ำป่าสักทุกทิศ กลายเป็นเกาะโดดเดี่ยว แต่ขนาดใหญ่กว่าเกาะวัดช่องลมมากๆครับ มีบ้านเรือนชุมชน โรงเรียน และที่สำคัญ โบราณสถาน ตั้งอยู่บนเกาะด้วย วัดที่สำคัญคือวัดแคที่หลวงปู่ทวดเคยมาจำพรรษา เกาะนี้มีสะพานเดินเท้าข้ามมาได้ทางเดียวนะครับ ไปจอดรถในด่านตรวจคนเข้าเมืองแล้วข้ามมาได้เลย



เมื่อข้ามมาจะเป็นพื้นที่ของวิทยาลัยเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมการต่อเรือ เดินออกจากโรงเรียนแล้วเดินมาตามทางเท้าที่เขาทำไว้ข้ามทุ่งนามาเรื่อยๆเลยครับ บ้านเรือนชาวบ้านจะอยู่สองฝั่ง วันที่ผมไปเกาะลอยครั้งแรก พอถามทางไปวัดแค ผู้ใหญ่ในโรงเรียนก็ให้กลุ่มเด็กๆแถวนั้นขี่จักรยานพาไปเลย

ระหว่างทางมีซาก วัดข้าวสารดำ เหลือแค่โคกแล้ว



เดินมาประมาณ 700 เมตรจะถึง วัดแค ที่อยู่อีกฝั่งของเกาะลอย ให้ค่าขนมน้องๆเอาไปแบ่งกันแล้วสำรวจวัดต่อเลยครับ เนื่องจากชื่อซ้ำกับวัดแคทางเหนือของเกาะเมือง เลยนิยมเขียนชื่อว่าวัดแค (เกาะลอย) หรือวัดแค (ราชานุวาส) ที่นี่เคยเป็นที่จำพรรษาของหลวงปู่ทวดเมื่อครั้งเดินทางจากภาคใต้มาที่อยุธยา



วิหารหลวงปู่ทวด สร้างบนบริเวณเดิมที่เคยเป็นกุฏิที่หลวงปู่ทวดมาจำพรรษาหลายปีช่วงมาพำนักอยู่ที่อยุธยา ข้างใต้กอบเอาเศษอิฐเก่าของวัดนี้มารวมกันไว้



ภายในอุโบสถมีภาพวาดประวัติหลวงปู่ทวด ภาพหลวงปู่ทวด และหุ่นขี้ผึ้งด้วย เพิ่งเคยเห็นหุ่นขี้ผึ้งหลวงปู่ทวดครับ ปั้นเกจิในตำนานที่ไม่มีต้นแบบให้ดูออกมารายละเอียดดีมากเลย



มีทางเดินเท้าไปวัดมณฑปต่อนะครับ แต่คนแถวนั้นเตือนว่ามีหมาดุฝูงนึง แล้วพวกมันก็เห่าเป็นซาวแทร็คประกอบ เลยถอยดีกว่า ไม่ไปดีกว่า~ ชะโงกถ่ายเอาจากฝั่งตลาดหน้าวังจันทร์นี่ละครับ แชะ! วัดมณฑป สร้างในสมัยอยุธยา แต่ถูกบูรณะจนไม่เหลืออะไรเก่าแล้วครับ เนื่องจากทำเลที่อยู่ตรงข้ามวังจันทร์พอดีเลยถูกพม่าใช้เป็นที่ตั้งปืนยิงถล่มวังบ่อยๆ ด้วย





Smiley กว่าจะจบ แทบจะสลายร่างราวโดนอินฟินิตี้กันเล็ตสั่งตาย ถ้ามีร้านอาหารให้รีวิวสักหน่อยคงยาวกว่าบล็อกเกาะเมืองซะอีกครับ ตอนเหนือจัดว่ามีวัดมากมายมหาศาลจริงๆ ทีนี้ก็พาเที่ยวรอบอยุธยาเกือบครบแล้วนะครับ - อโยธยา, พระราชวังโบราณ, บึงพระราม, เกาะเมือง, สวนสมเด็จ, นอกเกาะเมืองทิศใต้, ตะวันตก, เหนือ เหลือแค่โบราณสถานนอกตัวเมืองอยุธยา และพาเที่ยวพิพิธภัณฑ์+เทศกาล ก็จะจบซีรี่ยส์อยุธยาแล้ว 













Create Date : 06 พฤษภาคม 2561
Last Update : 15 พฤษภาคม 2561 23:31:49 น. 78 comments
Counter : 6469 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณtuk-tuk@korat, คุณเริงฤดีนะ, คุณmambymam, คุณ**mp5**, คุณtoor36, คุณซองขาวเบอร์ 9, คุณmastana, คุณกะว่าก๋า, คุณmcayenne94, คุณเนินน้ำ, คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณสองแผ่นดิน, คุณKavanich96, คุณRain_sk, คุณkae+aoe, คุณโอพีย์, คุณThe Kop Civil, คุณMax Bulliboo, คุณlife for eat and travel, คุณSweet_pills, คุณTui Laksi, คุณRinsa Yoyolive, คุณยังไงก็ได้ว่ามาเลย, คุณข้ามขอบฟ้า, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณmariabamboo, คุณJinnyTent, คุณhaiku, คุณruennara, คุณmoresaw, คุณสาวไกด์ใจซื่อ, คุณVELEZ, คุณหงต้าหยา, คุณคนผ่านทางมาเจอ, คุณทุเรียนกวน ป่วนรัก, คุณกาบริเอล, คุณnewyorknurse, คุณที่เห็นและเป็นมา, คุณlovereason


 
อ่านแล้วหนึ่งรอบ
ต้องอ่านอีกสัก 2-3 รอบ
ขอบคุณที่นำมาฝากค่ะ ไม่มีตำราที่ไหนเขียนได้


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 6 พฤษภาคม 2561 เวลา:10:04:52 น.  

 
เห็นด้วยกับ tuk-tuk@korat


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 6 พฤษภาคม 2561 เวลา:11:52:58 น.  

 
มาอยุธยา 3 ครั้งในรอบเดือนมีนาคม

ครั้งแรก
มาทำงานกับกรมกิจการเด็กและเยาวชน
ช่วงพักทานก๋วยเตี๋ยวเรือ
ได้โฉบมาปีนถึงยอดเจดีย์ภูเขาทอง
เก็บผลพุทราที่รายล้อมเจดีย์ทานแก้กระหายน้ำ !! (อ้างไปเรื่อย)
เลยกราบอนุเสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวร
และแวะนมัสการ ท่านเจ้าอาวาสที่วัดหน้าพระเมรุ
ท่านให้พระเครื่องและผูกสายสิญจ์ให้

ครั้งที่ 2
มากับ 3 สาวครอบครัวตัว อ
มาเป็น"ออเจ้า ห่มสไบ"ถ่ายรูปที่วัดไชยวัฒนาราม

ครั้งที่ 3
มาสัมนา"ล่ามอาสาสมัครภาษาต่างประเทศ ช่วยงานกระทรวง พม."

ได้แวะตลาดน้ำอโยธยา และวัดพนัญเชิงเท่านั้น

ยังไม่ถ้วนทั่วเหมือน ชิริวเลย


คราวหน้ามาใหม่ต้องตามทั้ง ...

"วัดพนมยงค์" กราบพระนอน
"วัดหัสดาวาส "กราบเจดีย์องค์ใหญ่ที่เคยมีช้างล้อม (จะลองใช้จินตนาการเอา)
"วัดเชิงท่า " จากภาพพี่อ้อชอบปรางค์ประธานนี้ค่ะ
" วัดโคกพระยา " ตอนแรกขึ้นว่าจะเฮี้ยน หรือ แรง
แต่ความเจริญของตัวเมืองและคนเมืองล้างความแรงไปหมดสิ้น
"วัดตะไกร "ที่กลายเป็นHomeless ของคนไร้บ้าน ซะแล้ว
"วัดศรีโพธิ์ " ที่สีสันต์สดใสไม่บอกนึกว่าวัดใหม่ในยุคปัจจุบัน
"วัดกลางคลองสระบัว " มากราบขอพรหลวงพ่อทันใจ
และก่อนหยุดพัก ขอแวะถ่ายรูป ประตูกาลเวลา ที่"วัดพระงาม"




ไว้แวะมาเที่ยวชม วัดที่เหลือ นะคะ


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 6 พฤษภาคม 2561 เวลา:12:31:02 น.  

 
ตามไปเที่ยวชมด้วย ภาพสวยครับ


โดย: **mp5** วันที่: 6 พฤษภาคม 2561 เวลา:14:14:59 น.  

 
อ่านเพลิน ๆ เดินเข้าไปเจอส้วม!!! ฮาแตก

อยุธยามีวัดเยอะมากๆๆๆๆๆๆจริงๆค่ะ หลาย ๆ วัดเคยไป หลาย ๆ วัดไม่เคยไป พวกวัดร้างนี่กลัวเจ้าถิ่นที่มาทั้งกลางวันและกลางคืนเลยค่า


โดย: บาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน วันที่: 6 พฤษภาคม 2561 เวลา:16:37:59 น.  

 
ชอบวัดภูเขาทองจังเลย ดูสวยงามและอลังการดี
หลายวัดไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน ต้องบอกว่าคุณชีริวนี่สุดยอดจริงๆ
รู้จักวัดเยอะมากกกกก
ชอบทุ่งมะขามหย่องด้วย กว้างใหญ่ ทุ่งหญ้าเขียวขจี ชมแล้วสบายตาดี
อยุธยา เป็นจังหวัดที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์จริงๆ
พี่อยากไปอีกสักครั้งจัง

มัสคารี่ เห็นแล้วนึกถึงผักตบกับพวงองุ่น
อืมมมม! จริงด้วย เห็นด้วยตามนั้น เหมือนเนอะ

ขอบคุณโหวตจ้ะ




โดย: mambymam วันที่: 6 พฤษภาคม 2561 เวลา:16:57:56 น.  

 
แผนที่นี่ลงทุนมาก คลิกดูภาพใหญ่ได้

เรือนเก่าของท่านปรีดี เรือนแบบนี้อยู่สบายนะครับ ต้องดูด้วยไม้อะไร ถ้าไม้ดีราคาไม่ต้องพูดถึงเลย เกินกว่าเราจะเอื้อมถึง

วัดศาลาปูน ตั้งชื่อง่ายๆ แบบนี้เลย จะว่าไปไม่ว่าชื่อถนน หรือ บาง... (หลายๆ แห่ง) ก็ตั้งชื่อประมาณนี้นะ ตามสิ่งที่ผลิต หรือสิ่งก่อสร้างที่โดดเด่นแถวนั้น

วัดที่ชื่อวัดภูเขาทองรู้สึกมีหลายที่แฮะ บ้านเมืองเราได้รับอิทธิพลในเรื่องสิ่งก่อสร้างจากหลายๆ ที่เลยตามแต่ยุคสมัย ทั้งมอญ ขอม ถ้าเป็นช่วง ร.5 จะได้รับอิทธิจากทางยุโรป

เศียรพระกับต้นโพธิเป็นจุดขายมั้งครับ ถ้ามีหลายที่มันจะไม่ขลังเอานาาา

ในสมัยก่อนนี่การสำเร็จโทษนี่มีเยอะจริงๆ ถึงขนาดจำไม่ได้เลยแหละ

พึ่งทราบที่มาของคำว่าไม่เผาผีเหมือนกัน นึกว่ามาจากโกรธกันมาก

ตรง ประตูกาลเวลา~ รูปนี้สวยนะ บางครั้งโปรโมตจนมีร้านขายของหรือสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มขึ้นมันก็ส่งผลกระทบกับแหล่งท่องเที่ยว

ลุงแกคงถอดใจแล้วมั้งครับ ถนนคนเดินคลองในไก่ อันนี้ได้ยินว่าเพื่อนผมไม่ไปขายของอยู่

เดี๋ยวๆ เจ้าถิ่นตัวนี้ร้ายกาจจริงๆ ขึ้นไปอยู่บนนั้นได้ยังไง

คราวนี้ใช้เวลาอ่านมากกว่าที่คิดจริงๆ ผมยังบไม่เคยไปสักที่เลยครับ



จากบล็อก To Love Ru ภาคสอง (อนิเม) ยังคงเป็นภาคแรกในหนังสือครับ ส่วนภาค darkness ในหนังสือ มีเป็นอนิเมเหมือนกัน มี 2 ซีซั่น (ยังไม่ได้ดูเลย)

Gang Cartoon ยุติออกอากาศทางดาวเทียมไปแล้วครับ แต่สามารถดูได้ผ่าน App ของเขา


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 6 พฤษภาคม 2561 เวลา:18:10:06 น.  

 
ตามมาเที่ยวค่ะ

วัดสวยๆแถมคนบรรยายเก่งมาก ยอดเยี่ยมจริงๆ


โดย: ซองขาวเบอร์ 9 วันที่: 6 พฤษภาคม 2561 เวลา:18:35:46 น.  

 
โหวตครับ

ทริปนี้อัดแน่นไปด้วยวัด
ถ้าคนไม่ชอบอ่านประวัติศาสตร์
เดินไปเดินมาก็จะงงนะครับ
ว่าให้ฉันดูอะไรเนี่ย 5555

แต่สำหรับคนชอบอ่านหนังสือ หาข้อมูล
การเที่ยวชมสถานที่จริง
ยิ่งทำให้ดื่มด่ำกับประวัติศาสตร์จริงๆ

วิธีการประหารชีวิตในสมัยก่อน
ต้องบอกว่าเจ็บปวดและน่าสะเทือนขวัญมากจริงๆนะครับ

ปล. เทวดาราฟาเอลวาดเหมือนกับที่พี่ก๋าวาดหมื่นตาครับ
เพียงแต่ใช้พู่กันวาดโดยไม่มีการร่างก่อน
จากนั้นค่อยใช้ Photoshop ลงสีและใส่ข้อความครับ




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 6 พฤษภาคม 2561 เวลา:20:34:33 น.  

 
ขอบคุณ(อาจารย์)น้องชีริว รีวิวพร้อมภาพประกอบละเอียดยิบ เล่าเป็นเรื่องราวน่าสนใจ จากซากกองอิฐเก่าๆที่คนไม่มีความรู้ก็คงแค่เดินผ่านไปเท่านั้น
เรื่องอยุธยาของน้องชีริวอ่านทีไรก็สนุกสนาน น่าจะเป็นข้อมูลที่ดีที่สุดชิ้นหนึ่งทีเดียว ถ้าตีพิมพ์รวมเป็นรูปเล่ม เหมือนที่มีขายเล่มใหญ่ตามร้านหนังสือคงน่าสนใจทีเดียวค่ะ พี่จะรวบรวมปริ้นท์เก็บไว้อ่านทบทวนและประกอบเวลาไปเที่ยวสถานที่จริงสักวันค่ะ

สำหรับอิตาลี ยังมีสมบัติของมหาราชา ข้าวของสิ่งก่อสร้างประติมากรรมในตัวเมืองอิตาลีก็น่าสนใจอลังการและต้องใช้เวลาเดินเที่ยวชมอีกมากโข พี่ก็อยากไปเดินชมอาคาร และสถาปัตยกรรมอื่นๆบ้างถ้ามีโอกาสค่ะ


โดย: mcayenne94 วันที่: 6 พฤษภาคม 2561 เวลา:20:34:50 น.  

 
พี่เชื่อไหมไปอยุธยา
แต่ยังไม่ได้อัพบล็อกเรื่องอยุธยาเลย
อิอิอิ
วันเวลาหมดไปกับอะไรก็ม่ายรู้ คริคริ


โดย: อุ้มสี วันที่: 6 พฤษภาคม 2561 เวลา:21:58:42 น.  

 
สวัสดี จ้ะ น้องชีริว

ยาวมาก ๆ อ่านหลาย ช.ม. ช่วงหลัง ๆ ไม่อ่านละเอียด
แล้ว ผ่าน ๆ เลย ห้าห้า คนอะไร ค้นมาละเอียดยิบยับ น่า
จะเป็นนักประวัติศาสตร์ ดีกว่ามั้ง

โหวดก่อน หมวดท่องเที่ยว ดึกแล้ว พรุ่งนี้ค่อยมาเม้นท์
วันนี้เพิ่งกลับจากแก่งกระจาน ง่วงมาก



โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 6 พฤษภาคม 2561 เวลา:22:46:04 น.  

 
ขอบคุณที่แบ่งปัน


โดย: Kavanich96 วันที่: 7 พฤษภาคม 2561 เวลา:3:24:37 น.  

 


อรุณสวัสดิ์ครับน้องชีริว



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 7 พฤษภาคม 2561 เวลา:5:59:16 น.  

 
วัดหน้าพระเมรุตอนนั้นไปไม่เจออย่างอื่นเลยค่ะเข้าไปไหว้อย่างเดียวไม่ได้เดินดูรอบๆ

วันนี้วัดเยอะมากเลยนะคะ

วัดพระงามอยากไปค่ะเห็นคนถ่ายรูปมาสวยๆ ประตูกาลเวลา

วัดแร้ง ...สุดยอดมากๆ ยังหาเจออีกนะคะ หุหุ



โดย: kae+aoe วันที่: 7 พฤษภาคม 2561 เวลา:8:34:46 น.  

 
ได้รับความรู้ทางด้านประวัติศาสตร์เต็มเปี่ยมเลยครับ ผมอ่านมาถึงวัดโคกพระยา สมัยก่อนก็โหดร้ายกันไม่เบา บ้านเมืองแตกแยกมาตั้งแต่สมัยก่อนโน้นเลย แปะไว้ก่อนนะครับเดี๋ยวกลับมาอ่านใหม่ครับ


โดย: The Kop Civil วันที่: 7 พฤษภาคม 2561 เวลา:13:15:10 น.  

 
เห็นภาพสมเด็จพระนเรศวร แล้ว..เรามีคำถามในใจเลยว่า "ในยุคนั้นเมืองไทยมีการเดินทางด้วย ม้า..มีคอกม้า และมีที่ฝึกขี่ม้าแล้ว?" คือแค่สงสัยไง..และสนใจอยากรู้...เรื่องของ ม้า ในเมืองไทยที่นำมาใช้งานน่ะ ใครเป็นคนมาฝึกให้ทหารขี่ม้านำไปใช้ในการรบหนอ.... เพราะเราเดาเองว่า มันคงไม่ง่าย.... เพื่อนเราไปขี่ม้ามาเพิ่งตกหลังม้า ไหล่หลุด...น่าสงสารมาก เราก็เลยคิดเองว่ามันคงไม่ง่ายง่ะ ฮ่าๆๆขำภาพแมวสีขาว..ที่นั่งนิ่งทำตัวเป็นสถูป..ให้คนกราบไหว้รึปล่าวเนี่ย 555 อ่ะงั้นโหวตจ้า


โดย: Max Bulliboo วันที่: 7 พฤษภาคม 2561 เวลา:13:47:14 น.  

 
ไปเที่ยวยุดยาด้วยคนค่ะ โหวตเรียบร้อย


โดย: life for eat and travel วันที่: 7 พฤษภาคม 2561 เวลา:15:49:45 น.  

 
สวัสดี น้องชีริว

มาเม้นท์ต่อจ้ะ ก่อนเม้นท์ ก็อ่านคำเม้นท์ของเพื่อน ๆ
ชีริว เม้นท์มากบ้างน้อยบ้าง ชื่นชมกันไปเนาะ อิอิ
อย่างที่มีคนเม้นท์ว่า ทริปเที่ยวอยุธยาทริปนี้ เธอพาทัวร์
วัดมากมาย มากจนจำชื่อไม่ได้หรอกนะ ใครจำได้หมด เลยไม่มี
การจด บันทึกไว้ คงมาเม้นท์ไม่ถูก ห้าห้า
แต่ละวัด เธอก็ให้ข้อมูล ให้ความรู้ประกอบ ค้นคว้ามา
อย่างละเอียดมาก สมกับที่มีเพื่อนชาวบล็อกขอก๊อปเอาไว้ เผื่อ
เป็นข้อมูลไปเที่ยวอยุธยา แค่นี้ คนเขียนก็หน้าบานแน่นอน
อิอิ ครูเห็นด้วยนะจ๊ะ

ของครูก็เขียนย่อ ๆ ไว้ เพื่อคอมเม้นท์ เช่น
- วัดพนมยงค์ อ้อ เดิม ชื่อ วัดนางโยง ได้ทราบความเป็นมา
ของวัดนี้ จุดเด่น คือพระนอนองค์ขนาดใหญ่ เวลาไปเที่ยวเจอ
วัดนี้ ก็ต้องไปชม กราบพระพุทธไสยาสน์องค์นี้เนาะ
- วัดศาลาปูน เพราะมีแหล่งเผาปูน คนโบราณนี่เขาเก่งเนาะ
ตั้งชื่อโดยเอาข้อมูลที่อยู่รอบ ๆ ดี ได้ความรู้พระประธานองค์จริงมาอยู่ที่วัดไร่ขิงเสียแล้ว
- ภูเขาทอง ของวัดสระเกดในปัจจุบัน ก็มาจากการจำลองมาจาก
ภูเขาทอง ที่อยุธยา ที่ด้านหน้ามีพระบรมราชนุสรณ์ของสมเด็จ
พระนเรศวรมหาราช ่ส่วนวัดภูเขาทอง สร้างในสมัยพระราเมศวร
องค์เจดีย์ ผู้สร้างคือ พระเจ้าบุเรงนอง เพื่อแสดงอำนาจเหนือ
กว่าอยุธยา สงสัยจะเป็นธรรมเนียมเนาะ ใครที่ได้ชัยชนะ ก็จะ
สร้างไว้เพื่อแสดงอำนาจของตน
- พระพุทธรูปต่าง ๆที่เธอรวบรวมมาให้ชมมากมายจริง ๆ แต่ครู
ก็ไม่มีความรู้เรื่องพระหรอก ดูไม่เป็น ไปทำบุญที่ไหน พระท่านก็ชอบให้พระมา ที่บ้านมีพระเยอะมาก อิอิ

- วัดโคกพระยา ก็มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ในสมัยพระเจ้า
จักรพรรดิ์ ก่อให้เกิดวีรสตรีไทย พระนางสุริโยทัย ทบทวนความรู้ทางประวัติศาสตร์ได้เป็นอย่างดี
-ทุ่มมะขามหย่อง อ่านถึงที่นี่ คิดถึงพ่อหลวงของเราเลยเนาะ
เพิ่งรู้ว่าพระองค์เสด็จมาที่นี่ถึง 3 ครั้ง ด้วยเรื่องราวต่าง ๆ
- วัดหน้าพระเมรุ แหม แค่ตั้งอยู่ตรงข้ามสนามหลวงที่ใช้เป็น
ที่เผาศพ ไม่น่าตั้งชื่อตามลักษณะนี้เลย แถม มีพระประธานชื่อ
ยาวมาก ๆ ด้วย อิอิ
- วัดเชิงท่า ชอบฝาผนังวัดนะ จิตรกรรมฝาผนังสวยมาก ถึงจะ
ดูเก่าแต่ก็ยังงดงามด้วยภาพวาดที่สวย
-เพิ่งทราบ ที่มาของคำว่า ไม่เผาผี ห้าห้า
สารพัดวัด เยอะมาก วัดตะไกร วัดเจ้าย่า วัดแร้ง วัดนี้ประหาร ขุนวรวงศาธิราช โจรปล้นแผ่นดิน สงสัยหวังจะให้อีแร้ง
มากินศพหรือเปล่า หนอ อิอิ วัดศรีโพธิ์ (นามสกลเดียวกับ
ลูกศิษย์คนหนึ่งของครูเลย อ่ะ)
- ชอบประตูกาลเวลา จัง ถ้าครูไปเที่ยว ต้องไปยืนถ่ายรูปตรงนี้
อย่างแน่นอน ห้าห้า
- ตลาดน้ำคลองสระบัว ปัจจุบันไม่มีแล้ว คงเพราะเกิดตลาด
น้ำใหม่ ๆ เยอะมาก
- เพนียดคล้องช้าง ตรงนี้ ครูเคยไปแน่นอน จ้ะ รู้จักดี

สนุกสนานในการเม้นท์ วัดหลัง ๆ อ่านผ่าน ไม่ได้เก็บ
รายละเอียดนะจ๊ะ
นับว่า เป็นการท่องเที่ยวที่ให้ความรู้เป็นเลิศจริง ๆ ขอ
ยอมแพ้ในการให้รายละเอียดเช่นนี้ จ้ะ


โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 7 พฤษภาคม 2561 เวลา:16:25:47 น.  

 
เคยไปพิพิธภัณฑ์ล้านของเล่น เกริกยุ้นพันธ์
ยังคิดว่าถ้าตั้งต้นตรงนั้นแล้วเลี้ยวซ้ายที่แยกไฟแดงตามรอยน้องชีริวโดยมีข้อมูลบล็อกนี้ในมือยังไม่ง่ายเลยค่ะ
โดยเฉพาะวัดแร้งที่เหลือแต่เศษอิฐไม่น่าจะหาเจอ

เรื่องการสำเร็จโทษทางประวัติศาสตร์ทั้งน่าศึกษาและสลดใจหดหู่ไปพร้อมๆกัน

วัดตูม วัดแคและทุ่งมะขามหย่อง เคยไปค่ะ
ตลาดน้ำคลองสระบัวเคยขับรถตามป้ายไปตามถนนเล็กๆแล้วไม่เห็นตลาด
ตอนหลังเพิ่งทราบว่าปิดไปแล้ว
วัดกุฎีทอง เพิ่งไปวัดชื่อเดียวกันแต่เป็นที่จังหวัดสุพรรณบุรี
แต่ที่อยุธยายังไม่เคยไป

ขอบคุณน้องชีริวที่ทำให้รู้จักวัดและสถานที่อีกมากมาย
ขอบคุณเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ด้วยนะคะ
เยี่ยมมากๆค่ะ


โดย: Sweet_pills วันที่: 8 พฤษภาคม 2561 เวลา:0:17:10 น.  

 
ดอกแรกน่าจะเป็นไฮยาซินจ้ะ
แต่ดอกยังไม่สมบรูณ์เลยดูก๋องแก๋งไปหน่อย
ถ้าสมบรูณ์ดี ดอกจะใหญ่และเต็มช่อ สวยมาก

ขอบคุณที่แวะชมจ้ะ


โดย: mambymam วันที่: 8 พฤษภาคม 2561 เวลา:5:53:38 น.  

 


สวัสดียามเช้าครับน้องชีริว

กระท่อก
มากจากคำว่ากระท่อกกระแท่กน่ะครับ
พี่ก๋าชอบคำนี้ 555
อีกคำที่คนสมัยก่อนชอบใช้คือ ท่อกแท่กโทงเทงครับ



โฟโต้ชอปพี่ก๋าชอบใช้ถังสีครับ
มันลงง่ายดี เวลาวาดลายเส้นเราแค่ต้องวาดให้มันเป็นพื้นที่ปิด
แต่ถ้านักวาดภาพรุ่นใหม่พี่ก๋าว่าเค้าชอบใช้แปรงกันมากกว่านะครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 8 พฤษภาคม 2561 เวลา:6:28:42 น.  

 
แปะก่อน พาเที่ยวถิ่นใกล้ตัวนี่เอง


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
สองแผ่นดิน Photo Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog
ซองขาวเบอร์ 9 Home & Garden Blog ดู Blog
สายหมอกและก้อนเมฆ Photo Blog ดู Blog
เนินน้ำ Food Blog ดู Blog
คนบ้านป่า Hobby Blog ดู Blog
ชีริว Travel Blog ดู Blog




โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 8 พฤษภาคม 2561 เวลา:17:24:44 น.  

 
สวัสดีตอนเย็นๆ ค่ะ
เนื้อหาจัดแน่น จัดเต็มเช่นเคยเลย
ดูแต่รูป ยังไม่ว่างอ่านรายละเอียดเลยค่ะ
อยุธยานี่สมกับเป็นเมืองเก่าจริงๆเลยค่ะ

ขอบคุณที่แวะไปอ่านตะพาบ
และโหวตค่ะ ขอบคุณค่า



โดย: ann_shinchang (ยังไงก็ได้ว่ามาเลย ) วันที่: 8 พฤษภาคม 2561 เวลา:18:17:52 น.  

 
วัดเยอะมากนะคะ อ่านจบลบลืม
อยากไปเดินชมบ้างเหมือนกัน
วัดพนมยงค์เพี้ยนมาจากพระนมโยงหรือ
ตั้งใจให้เป็นก็เป็นข้อมูลที่น่าสนใจ
คุณชีริวค้นคว้าเรื่องราวเช่นนี้ไว้มากและ
ลึกซึ้งนะคะ เวลามาอ่านต้องมีเวลามา
มากๆ พี่อ่านลำบากด้วย ถ้ามาโดยมีอะไร
ค้างอยู่ก็อ่านไม่สนุกแล้ว

วันก่อนกลับจากบ้านป่า เข้ามาโหวตแล้วก็
เขียนคอมเม้นท์ ก็เม้นท์ได้เยอะแหละ แต่
วันนั้นพี่เหนื่อยมากมาจากบ้านป่า เพราะ
คนสวนผัวเมียทะเลาะกันแล้วทิ้งงาน งานเข้า
พี่เลย เหนื่อยเสียนอนหลับมาตลอดทาง ดังนั้น
ก็ไม่น่าแปลกใจที่พี่ทำคอมเม้นท์นั้นหลุดไป
เสียนี่ โกรธตัวเองจนกลับไปซะงั้น แล้วเลย
หายเฮดไปเขียนบล็อกตัวเอง วันนี้อัพใหม่
แล้วค่ะ ดอกไม้ที่ญี่ปุ่น ถือโอกาสมาเคาะ
เรียกด้วยนะคะ ภาพแค่ร้อยกว่าภาพ ไม่มาก
ไม่มายจ้าาาา



โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) วันที่: 8 พฤษภาคม 2561 เวลา:19:28:21 น.  

 
ต๊ะเอ๋ โผล่หัวมาแร้วจร้า
มุดดินไปเสียหลายวัน ทำภาระกิจที่อยากจะทำ
เวลามีอยู่เท่าเดิม ชีวิตก็เลยต้องเลือก

ดีใจนะ ที่โผล่ศีรษะมาบล็อกนี้
ก็เจอเรื่องราวที่น่าสนใจมาก
อ่านแค่ย่อหน้าแรกก็ขำกร๊ากกก
ดีแล้ว!!!! ที่คุยกับมันไม่รู้เรื่อง
ถ้าคุยกับหมารู้เรื่อง พี่คงต๊กใจ 5555

พี่ดูแผนที่แล้วตาลาย สายตาก็ยิ่งไม่ค่อยจะดีอยู่
ตอนไปเที่ยวยุดยาคราวก่อน ได้แผนทีน่ารักจากโฮสเทลมา
เอออันนั้นพี่ว่าดูรู้เรื่อง มันทำน่ารักกว่าของจริง
แปลกเนอะ ดูแผนที่เขียนมารู้ แต่ทีแผนที่จริงกลับไม่รู้
อิป้านิ แปลก ๆ มะ 555555
ลองพยายามเบิงตาดู ขยาย 3 ครั้ง
มันก็ดูมืด ๆ อ่ะ

วันนี้ ขอจบที่ทุ่งมะขามหย่องก่อนนะ
ในหลวง ร.9 พระองค์ท่านเสด็จไปที่นี่หลายครั้งเหมือนกันเนอะ
แต่ละที่ที่นำมาฝากในวันนี้ ล้วนมีความหลังที่หดหู่ใจมากมาย
กว่าที่บล็อกก่อนที่พาไปเที่ยวหมู่บ้านของต่างชาติ
ที่เข้ามาค้าขายกับกรุงศรีอยุธยาแต่ละยุคสมัย

บล็อกนี้ น่าจะต้องได้มาท่องเอาความรู้สัก 3 วัน
ถึงจะได้อะไรติดหัวสมองไปบ้าง อิอิ

พรุ่งนี้มาใหม่เน้อ คั้นหน้าไว้ก่อน



โดย: JinnyTent วันที่: 8 พฤษภาคม 2561 เวลา:21:42:34 น.  

 
ช่วงนี้รู้สึกเหนื่อยๆ ครับ อาจมีพิมพ์ตกหล่นบ้าง แต่คิดว่าน่าจะพอเข้าใจสิ่งที่อยากสื่อสาร


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 8 พฤษภาคม 2561 เวลา:23:20:20 น.  

 


อรุณสวัสดิ์ครับน้องชีริว



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 9 พฤษภาคม 2561 เวลา:5:51:38 น.  

 
บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
mambymam Home & Garden Blog ดู Blog
ควายเฒ่า Literature Blog ดู Blog
toor36 Education Blog ดู Blog
ขุนเพชรขุนราม Science Blog ดู Blog
Sweet_pills Travel Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog
kae+aoe Parenting Blog ดู Blog
หอมกร Movie Blog ดู Blog
ชีริว Travel Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


ตามมาเที่ยว และส่งกำลังใจค่ะ


โดย: mariabamboo วันที่: 9 พฤษภาคม 2561 เวลา:11:28:42 น.  

 
เข้ามารอบสองค่ะ อ่านละเอียดเลยวันนี้


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 9 พฤษภาคม 2561 เวลา:13:15:03 น.  

 
กว่าจะอ่านจบ แม่เจ้า
หยิกแขนตัวเองหลายรอบ ตื่น ๆๆๆๆ
วันนี้ไม่ได้กินกาแฟเสียด้วย
นี่ถ้าเป็นคนอื่นนะ ซอยได้เป็นสิบบล็อก

จะอัพรวดเดียวทำมายยย
กะดองบล็อกเป็นปีเรอะ ตาชีริวเอ๊ยยย
เนื้อหาแน่นเปรี้ย แม้จะมีลูกเล่นขำ ๆ ให้ตาสว่างก็เถอะ
อ่านรวดแบบนี้ มันไม่เข้าหัว
กลับไปแก้มาใหม่ อิอิ

ไปอยุธยาอีกครั้งจะไปถ่ายกับประตูกาลเวลา
อันที่จริงถ้าการท่องเที่ยวไม่โปรโมท
้ถ้าพี่ไปเห็นแบบนี้ก็กรี๊ดแระ ชอบอ่ะ

ส่วนเจดีย์ราย พี่ก็งงนะ ว่าเศียรพระไปอยู่บนนั้นได้ยังไง
เข้าใจว่านกกินเมล็ดแล้วขีี้ทิ้งบนยอดเจดีย์แล้วมันก็งอกเป็นต้นไม้
รากมันก็ชอนไชลามไปเรื่อย ลงมาเรือ่ย ๆ
แต่เศียร์พระ ถ้าอยู่ตรงนั้นมันจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งของเจีดีย์ก็ไม่น่าใช่เนอะ
ช่างเถอะ 5555 ทำไรไม่ได้นินา หวังว่าคงไม่โปรโม
เหมือนวัดมหาธาตุนะ นั่นมันธรรมชาติ

องค์พระองค์นี้เด่นจริง ๆ ดูจากเนื้อองค์พระดูขลัง
พระคันธารราฐ ศิลปะสมัยทวารวดี เก่ามากนะนั่น
เอาจริง ๆ พี่ก็ดูพระไม่ออกหรอก ฟังสามีเล่าเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา
สามีพี่ดูออกขานี้เค้าสนใจเพราะพ่อเค้าเป็นช่างแกะพระเก่าแก่

ส่วนฉากประหารพระเจ้ายอดฟ้า นั่นพี่ก็จำได้
อีตอนดูหนังครั้งแรกยอมรับว่าดูไม่ค่อยรู้เรื่อง
หลังจากที่อ่านนิยายอิงประวัติศาสตร์
แล้วหาข้อมูลเพิ่มเติมจากเน็ต จากหนังสือประว้ติศาสตร์บ้าง
ก็เริ่มจะเข้าใจ และนึกออกเลย
น่าสงสารเนอะ

ลึก ๆ แล้วเกิดคำถามนะว่า
ทำไมเชื้อพระวงศ์ต้องเข่นฆ่าพี่น้องสายเลือดเดียวกัน
ทั้งที่ปุถุชนธรรมดา ชาวบ้าน เป็นพี่น้องกัน เครือญาติกัน
รักกัน ช่วยเหลือกัน เพราะราชสมบัติ ก็ไม่ต่างจากความโลบ
ที่มีมากกว่าปุถุชนธรรมดา ไม่เข้าใจเนอะ

อดนึกเล่น ๆ ไม่ได้นะ
ที่กรุงศรีอยุธยาล้มสลาย ก็เพราะบ่วงกรรมนี่แหละ
สาเหตุหลัก ๆ เลย
โดยเฉพาะราชวงศ์บ้านพลูหลวง
พ่อลูกคิดฆ่ากัน พี่น้องฆ่ากันตาย
ที่ยอมก็ไปผนวช วัง-วัด เป็นเกี่ยวพันกัน
น่าสลดหดหู่นะ







โดย: JinnyTent วันที่: 9 พฤษภาคม 2561 เวลา:18:26:26 น.  

 
ส่วนเรื่องการกอบกู้บ้านเมือง
กับเรื่องราวของพระเจ้าตากนั้น
พี่อ่านที่ชีริวคอมเม้นส์ก็ประหลาดใจน่ะ

ประหลาดใจที่คำถามของชีริวมีส่วนถูก
แต่อ่านแล้วรู้สึกแปลก ๆ เอาเป็นว่าไม่ใช่เรื่องไสยศาสตร์
หรือเรื่องพิศดารพันลึก น่าเหลือเชื่ออะไรเถือกนั้นนะ

รศ.ดร.สุทัสสา อ่อนค้อม ทำธรรมนิยายชุดนี้มา
เพื่อเล่าอัตชีวิตประวัติของหลวงพ่อจรัญ เสียส่วนใหญ่
แต่ละเล่มเป็นแต่ละช่วงของชีวิต ตั้งแต่เด็กจนกระทั่งอยู่ร่วมกาสาวพัสตร์
เล่มที่ 5 เล่าช่วงที่มีคนนิมนต์หลวงพ่อไปอินเดียดินแดนพุทธภูมิ
แล้วช่วงต้นได้เล่าถึงที่หลวงพ่อเคยเจอ หลวงพ่อในป่า ครูอุปชาจารย์ของหลวงพ่อ
ท่านมากับพระบัวเฮียวอดีตลูกศิษย์หลวงพ่อจรัญ
และก็พระเจ้าตาก ท่านมาเป็นรูปบรรพชิต และมีครูอุปชาจารย์เดียวกับหลวงพ่อ
นั่นก็คือ หลวงพ่อในป่า

หลวงพ่อในป่าท่านให้กรรมฐานเพียง 3 คน
คือ คนที่หนึ่งคือ พระเจ้าตาก หลวงพ่อจรัญ พระบัวเฮียว
ว่าจะเจอในนิมิตก็ไม่เชิง มาเป็นกายทิพย์ก็ไม่แน่ใจ
ไว้จะกลับไปอ่านอีกรอบหนึ่งนะ
"อยากรู้ก็ไปหาอ่านเอาเอง ตอนความหลงในสงสาร" 555

เล่มนี้เป็นลักษณะเล่า จากที่หลวงพ่อจรัญท่านบันทึกไว้
แล้วนำมาเล่าให้ลูกศิษย์ท่านไม่กี่คน
แต่การที่คนนำไปบอกต่อ ปากต่อปาก หรือทำหนังสือเพื่อการธุรกิจนั้น
มันอาจจำให้เรือ่งราวมันผิดเพี้ยน สุ่มเสี่ยงต่อการเข้าใจผิด

ซึ่งอันที่จริงถ้าไม่เชื่อ รศ.ดร.สุทัสสา ก็ว่าไว้อยู่แล้วว่า
อย่ามาเอานิยายอะไรกับฉัน

แต่สำหรับพี่ถ้าให้บอกตรง ๆ พี่เชื่อนะ
เชื่อในการปฎิบัติดี ปฏิบัติชอบ ของหลวงพ่อจรัญ
เชื่อในคำสั่งสอนในกฎแห่งกรรมที่ท่านเพียรสอนทุกคน
การที่ท่านเล่าเรื่องนี้ พี่ก็ไม่คิดว่าท่านจะมุสาอันทำให้ศีลท่านด่างพร้อยหรือแปดเปื้อน

ในหนีงสือเล่าไว้ตอนหนึ่งว่า ที่เขียนในประวัติศาสตร์นั้นเป็นเรื่องจริง
แต่เรื่องจริง ๆ ก็อีกเรื่อง เพราะไม่มีประวัติศาตร์ชาติไหน
ตรงกับความจริงทุกอย่าง ที่บันทึกไว้ในประวัติศาสตร์
คือความจริงส่วนหนึ่ง ความจริงอีกส่วนหนึ่งไม่ได้บันทึกไว้

ว่าแต่เราคุยกันถึงเรื่องอยุธยากันอยู่ไม่ใช่เหรอ
นี่กระโดดข้ามไปกรุงธนบุรี เข้าสู่รัตนโกสินทร์แล้วนะ 5555
ไว้พี่มารีวิวเล่าดีกว่า ถ้ามีจังหวะและโอกาสทำนะ



โดย: JinnyTent วันที่: 9 พฤษภาคม 2561 เวลา:19:07:43 น.  

 
พัทยาฝนตก อดเที่ยว พอฝนหยุดต้องเดินทางต่อซะแล้วค่ะ

ไว้น้องชีริวเก็บภาพโบราณสถานที่กำแพงเพชรอีกเมื่อไหร่
จะรออ่านประวัตินะคะ

เทอร์มินัล 21 ที่โคราช ได้แต่ผ่านไปมาหลายเที่ยวตอนพักค้างคืนที่นั่นแต่ไม่ได้แวะ
เผลอๆได้แวะที่พัทยาก่อน

ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะคะ
นอนหลับฝันดีคืนนี้ค่ะ



โดย: Sweet_pills วันที่: 9 พฤษภาคม 2561 เวลา:22:46:21 น.  

 
สวัสดีค่ะน้องซีรีว
มาอ่านสองรอบแล้ว แต่ไม่ได้ทิ้งร่องรอยไว้ค่ะ
เวลาที่ได้อ่านและชมภาพ คงจะดีถ้าได้เห็นความงดงามเมื่อครั้งอดีต และอดจะเสียดายไม่ได้นะคะแต่ก็ได้ข้อคิดว่าไม่ว่าสิ่งใด ๆ ก็ไม่อาจเอาชนะกาลเวลาได้


โดย: เนินน้ำ วันที่: 10 พฤษภาคม 2561 เวลา:12:10:04 น.  

 
ตามมาเที่ยวด้วย
นอกเกาะเมืองทิศเหนือ วัดสวยหลายวัด
เคยไปเที่ยวชมแต่วัดหน้าพระเมรุ
เคยเป็นที่ตั้งทัพของพม่าจึงไม่ถูกทำลาย
พระประธานวัด สวยงามอลังการมาก
ยังคิดว่าถ้าวัดทั้งหลายไม่ถูกทำลาย
คงจะเห็นวัดสวยงามมากมายในอยุธยา
ขอบคุณที่ผจญภัยกับเจ้าถิ่น ซึ่งไปเองคงยากมาก
จนได้ภาพวัดที่หาดูยาก มาให้ชมด้วยครับ


โดย: moresaw วันที่: 10 พฤษภาคม 2561 เวลา:22:04:50 น.  

 
จากบล็อก
ที่ผมวงเล็บไว้นั่นผมเขียนแซวขึ้นมาเองนะ

ที่นั่นเหรอครับ น้อยมากครับ น้อยมากถึงขนาดเคยคุยกับนักศึกษา เขาบอกว่าต้องรอฝให้พวกคนแก่ กับผู้ใหญ่ตายไปให้หมดก่อน คนรุ่นเขาจะสร้างวัฒนธรรมดีๆ ขึ้นมาเอง ถึงจะแย่ ชอบแซงคิว แต่เห็นอย่างนี้พวกเขาสามารถขึ้นรถประจำทางประตูหน้า และลงประตูหลังได้นะเออ ไทยต้องเรียนรู้สิ่งนี้จากเขาแล้วล่ะ ไม่ใช่ไปเรียนรู้การ ขากถุยจากเขา


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 10 พฤษภาคม 2561 เวลา:22:07:27 น.  

 
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับน้องชีริว

ดญ.ปรางค์กำลังคุ้ยเขี่ย....
ไม่ได้ฟังนานแล้วนะเนี่ย
เพลงนี้ตอนหัดเล่นกีตาร์ใหม่ๆ
พี่ก๋าชอบเล่นครับ

ชื่อตัวละครบางตัว
ให้พิมพ์อีกรอบพี่ก๋าก็พิมพ์ไม่ถูกครับ 555

เอาแค่ชื่อดาวที่เทวดาราฟาเอลอยู่ก็ได้
บางทีก็เรียกอะบึ๊ดจาฮึด
บางทีก็พิมพ์เป็น อะฮึดจาบึ๊ด
จนพี่ก๋าไม่รู้แล้วว่าอันไหนผิดอันไหนถูกครับ 5555



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 10 พฤษภาคม 2561 เวลา:22:32:55 น.  

 
ทำไมกดโหวตแล้วมันขึ้นว่าโหวตบล็อกนี้ไปแล้วฟระ งง

ยังไงเดี๋ยวกลับไทยแล้วจะมาอ่านอีกทีละกันนะ




โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 11 พฤษภาคม 2561 เวลา:2:53:22 น.  

 
สวัสดีตอนเช้าๆค่ะ

ขอบคุณที่แวะไปตามติดและส่งกำลังใจให้น้องปันปันค่ะ
ห้องพิเศษที่อาคารเฉลิมพระเกียรติสะดวกสบาย ราคาแพงจริงๆค่ะ
ดีว่ารอบนี้นอนแค่สองคืนค่ะ



โดย: ann_shinchang (ยังไงก็ได้ว่ามาเลย ) วันที่: 11 พฤษภาคม 2561 เวลา:6:37:15 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับน้องชีริว



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 11 พฤษภาคม 2561 เวลา:6:51:15 น.  

 
นับถือจริงๆ เลยนะคะ ต้องผ่านคุณหมากว่าจะรวบรวมได้ขนาดนี้ สุดยอดค่ะ


โดย: kae+aoe วันที่: 11 พฤษภาคม 2561 เวลา:8:29:17 น.  

 
นี่ๆๆ นายชีริว
ชั้นว่าชั้นอ่านบล็อกเธอยาวจนต้องแบ่งเป็น 2-3 ตอนแล้วนะ
มาเจอเม้นส์เธอ ฉันต้องอ่านทวนไม่ต่ำกว่า 2 รอบ!!!
เอาไปแก้มาใหม่ เขียนแบบนี้กะจะเอาเนื้อหามารบกับตาชั้นรึไง หาาา 555555+

โอ๊ย จะบอกว่าอีตอนเห็นเม้นส์ชีริวที่บ้าน
ตะลึง ตึง อึ้ง สะตั้นไปหลายวิ!!!!
ยกตำแหน่งให้ไปเลยเม้นส์แห่งปีของบล็อกจินนี่เต็นท์ แท่น แทน แท้นนนนน
เขียนอธิบายไรนักหนาเนี่ย และอีกตอนเช็คบล็อกตอนดึก
เช็คอ่านมือถือ มันยาวววววมากกกก ตาลายอ่ะ
ต้องมาอ่านผ่านจอคอมตอนเช้าอีกรอบ

พี่ชอบอ่ะ พี่ชอบอ่าน ที่ชีริวเม้นส์ ที่อธิบายในหลาย ๆ เรื่อง
เออ จะว่าไปก็เกือบทุกเรื่องแระ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับประวัติศาสตร์
อ่านแล้วสนุก อ่านแล้วรู้เรื่อง แถมมุกขำ ๆ อ่านเพลิน
ไม่รู้สึกน่าเบื่อ ถ้าเป็นครูสอนวิชาประวัติศาสตร์นะเธอว์

นี่ ๆ สารภาพแอบสงสัยว่าชีริวทำงานอะไร
พี่แอบคิดในใจว่าเป็นนักวิชาการ โบราณคดี ทำงานเกี่ยวกับ
ประวัติศาสตร์ไรแบบนั้น ตอนคุณเต้ย น้องชื่น พี่แหม่ม มาเชียงใหม่
ที่เจอกันร้านคุณก๋า ก็แอบเม้าธ์ชีริว เม้าธ์ไรไม่บอก อิอิ
ถามไปว่าชีริวทำงานไร ทำไมรู้เรื่องประวัติศาสตร์ดีจัง
ก็ได้คำตอบว่า ปตท. เราก็หะ..
แสดงว่าการเขียนบล็อก เล่าเรื่องราวได้ดีพร้อมลุยสถานที่
เก็บภาพมาหลายปี แสดงว่าใจรัก ชอบที่จะทำ ค้นคว้าส่วนตัว
น่าชื่นชมนะ

ส่วนเรื่องรีวิวธรรมนิยาย แค่อยากจะทำนะ คิดหนักอยู่
แล้วก็คิดว่าทำยากตรงที่เอามารีวิวเนี่ยแหละ
เพราะมันไม่เหมือนนิยายเสียทีเดียวและก็ไม่ใช่หนังสือประวัติศาสตร์
และก็ไม่ใช่หนังสือสอนวิชาศาสนา
มันเป็นเพียงเอาชีวประวัติของหลวงพ่อจรัญ ตั้งแต่วัยเด็ก
จนกระทั่งท่านบวช ท่านเจออะไรมาบ้าง ได้เรียนกับครุบาอาจารยือะไรมา
ได้รู้ได้เห็นอะไร ก่อนหลังที่ท่านบวช จนกระทั่งท่านบวช
จนเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป และเคารพศรัทธาท่าน

การรีวิวหนังสือแบบนี้ ถ้ารีวิวไม่ดี หรือคนอ่านตีเจตนาผิด
หรือแม้การมีทิฐิหน่อยเดียว มันสุ่มเสี่ยงต่อความรู้สึกหลายอย่าง
รวมไปการการจาบจ้วงพระอริยสงฆ์ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบโดยไม่ได้ตั้งใจ

ชีริวเอาหนังสือไปอ่านดีกว่ามั้ย พี่เคยทำรีวิวหนังสือนิดเดียวของหลวงพ่อที่บล็อกนี้

https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=jinnytent&month=07-2017&date=05&group=11&gblog=5

แต่รายละเอียดต้องไปอ่าน อยู่ที่เล่มที่ 5
ถ้าอยากอ่านหาหนังสือไม่ได้ เอาที่อยู่หลังไมค์มา
เด่วพี่ส่งให้อ่าน ย้ำนะ มันก็คือธรรมนิยาย ที่นำชีวประวัติของหลวงพ่อ
มาเล่าในรูปนิยาย ไม่ใช่หนังสือประวัติศาตร์

รู้จักคนเขียนธรรมนิยาย รศ.ดร.สุทัสสา อ่อนค้อม
ลองเข้าไปดูเวปนี้นะ https://www.sudassa.com/main.php

ในเวปจะมีให้โหลดแอพพลิเคชั่นบนมือถือ
ในแอพฯ จะมีเสียงอ่านธรรมนิยายที่พี่พูดถึงด้วย
ถ้าไม่มีเวลาอ่าน ก็ลองโหลดแอพฯ แล้วเปิดฟังตอนที่ 5
ความหลงในสงสาร ฟังเล่น ๆ ดู
พี่อ่าน พี่ฟัง จากธรรมนิยายแค่นี้แหละ
ไม่ได้รู้หรือได้อ่านเรื่องราวของพระเจ้าตากจากเล่มอื่น ๆ
นอกเหนือจากตำราเรียนแล้ว ก็มีจากนี่แหละ

ดังนั้น ถ้าจะมาถกกันจริง ๆ พี่ถกตอบชีริวไม่ได้หรอก
เพราะพี่ไม่เคยศึกษาจากหนังสือประวัติศาตร์หรือประวัติพระเจ้าตากจากเล่มอื่น ๆ เลย
ถกกันไปก็ไม่รู้เรื่อง พี่ไม่รู้จะเอาอะไรมาถกรู้แต่ธรรมนิยายที่พูดถึง

คงคล้ายวิทยาศาสตร์มันพิสูจน์ด้วยการทดลอง
กับสภาวะธรรมมันพิสูจน์ด้วยการปฏิบัติ
ถ้าจะให้มาพูดมาเปรียบเทียบค้นหาความจริงมากระทบกัน
มันเป็นไปไม่ได้นะ

เอาเป็นว่า รออ่านเรื่องราวของกรุงธนบุรีจากชีริวนะ
จะได้เป็นอีกหนึ่งความรู้นอกจากตำราเรียน ธรรมนิยาย
และก็มาจากการค้นคว้าหาความรู้ของชีริว ที่น่าจะเข้าใจได้ง่าย
กว่าที่พี่จะไปหาอ่านหนังสือประวัติศาสตร์เอง 5555
ชอบที่ชีริวนำมาเล่าอยู่แล้ว สไตล์การเขียนมีความจูงใจให้อ่าน

ว่างจะชะแวปไปดู"อินเดีย"นะ
เป็นอีกประเทศที่อยากจะไปมาก อยากไปเห็นสังเวชนียสถาน
แต่สามีเบรกไว้ บอกอย่างเธอไปไม่ได้หรอก ลำบาก 555

ส่วนเรื่องบล็อก พี่เขียนยาวไม่มากเฟ้ย ขอเถียง 555
เที่ยวทริปหนึ่งแบ่งอยู่นะ ไม่แยกวัน ก็แยกประเภทของแหล่งท่องเที่ยวย่ะ
ไม่ได้อัดแน่นเปรี้ยะเหมือนชีริว

แต่ข้อดีเวลามาหาข้อมูล เปิดหน้าเดียวจบครบเครื่อง
ไม่ต้องไปคลิ๊กลิ้งค์ให้วุ่นวายเวียนหัว
เสียตรงป้าจะต้องมาเบิกหลายรอบในบล็อกเดียวเนี่ยแหละ 555



โดย: JinnyTent วันที่: 11 พฤษภาคม 2561 เวลา:11:55:41 น.  

 
เป็นบล๊อกที่อ่านเพลินมากๆเลยค่ะ
มีหลายวัดเลยที่อยากไป


โดย: VELEZ วันที่: 11 พฤษภาคม 2561 เวลา:12:59:29 น.  

 
มานั่งอ่านของชีริวเรื่อยๆที่ละช่วง
หลังจากกลับจากเมกาก็พักบ้าง
จนตัวเกียจคร้านจับไม่อัพบล้อค
จะเปิดบ้านอีกครั้งเป็นที่นั่งพักผ่อนก็รอฤกษ์ยู๊ๆๆๆ

วัดพนมยงค์ผ่านตาผ่านการไปเยี่ยมชมตั้งแต่เด็ก
จนย้ายมาเชียงใหม่ไม่ได้ไปอีกเลย

วัดศาลาปูนพอทราบประวัติบ้าง
แต่ก็เพิ่งรู้ว่าเกี่ยวโยงกับวัดไร่ขิงเรื่องพระประธานนี่เอง

ผ่านมาที่วัดภูเขาทอง ทุ่งมะขามหย่อง
เป็นสถานที่ขับรถผ่านจากบ้านป่าโมกไปจ่ายตลาดที่หัวรอหรือไม่ก็ตลาดเจ้าพรหมเป็นประจำ
คุ้นเคยกับเส้นทางนี้ตั้งแต่เด็กจนย้ายจากบ้านเกิด

วัดภูเขาทองมีเจดีย์ย่อมุมไม้สิบสองที่งดงาม
และอนุสาวรีย์พระสุริโยทัยที่ยามผ่านยกมื้อไหว้ทุกครั้ง
เพราะเป็นศิษย์เก่าร.ร.ศ.ท.ย่านวัดดอนนั่นเอง

เวลาไปวัดก็จะชอบเดินดูภาพจิตรกรรมเทพชุมนุม
พุทธประวัติ ทศชาติชาดก และเตมีย์ชาดกจนจำได้ดี
เส้นทางที่ชีริวรีวิววัดต่างๆนี้ทำให้คิดถึงอดีตที่เคยอยู่
เคยผ่าน เคยดู เคยเที่ยว แม้กระทั่งเพนียดคล้องช้าง
ที่ยังไม่เจริญเหมือนปัจจุบัน

ไม่น่าเชื่อเลยเส้นทางที่สงบ ร่มรื่นกลายเป็นเส้นทาง
แห่งการท่องเที่ยวไปที่ทำรายได้ไม่น้อยทีเดียว

อ่านจบเหมือนย้อนรอยกลับบ้านเกิด
ที่ระลึกถึงครั้งใดก็มีความสุขทุกครั้ง


โดย: หมุยจุ๋ย วันที่: 11 พฤษภาคม 2561 เวลา:13:52:14 น.  

 
แวะมาตอบค่ะ กุ้งทอดกระเทียมค่ะ กินได้ทั้งตัวเลย กรอบมากกกกค่ะ


โดย: life for eat and travel วันที่: 11 พฤษภาคม 2561 เวลา:16:04:51 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณชิริว..

ตามมาเที่ยววัดในอยุธยาด้วยคะ

มีวัดมากมาย น่าสนใจ..

โหวตให้เลยคะ



โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ ) วันที่: 12 พฤษภาคม 2561 เวลา:7:20:40 น.  

 
เค้าขำอ่ะ ว่าเราอยู่ประถม แล้วหลายคนเกิดไม่ทัน เจอกันเรียกพี่ก็พอนะคะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 12 พฤษภาคม 2561 เวลา:10:49:48 น.  

 
โอ้~ บล็อกนี้อัดแน่นมากกกก พาทัวร์หลายที่จนนับไม่ถูกเลยอะ o_O

แผนที่ที่คุณชีริวจิ้มจุดสถานที่แต่ละแห่งไว้ละเอียดดีนะครับ
แต่สำหรับคนไม่คุ้นเคยกับอยุธยาอย่างผมนี่...จำอะไรไม่ได้เลย แหะ ๆ
ขนาดสลับไปดูแผนที่ในขณะที่อ่านเนื้อหาไปด้วยก็ยังงง ๆ เลยครับ
สงสัยคงต้องทำคีย์แปลนแผนที่ เวลาบรรยายสถานที่แต่ละแห่งด้วยแล้วมั้ง ^^"

เศียรพระที่ติดอยู่บน เจดีย์ราย โคตรหลอนเลย ปกติมันไม่น่าจะอยู่ตรงนั้นนะ
ถ้าติดไฟส่องจากด้านล่าง นึกถึงการ์ตูนของ มากิ โคจิ กับ จุนจิ อิโต้ o_O

เจดีย์ที่วัดเจดีย์แดงสวยจริง ๆ ทั้งรูปทรงและสร้างได้ดิ่งตรงเป๊ะ ๆ สมบูรณ์มาก
เจดีย์ยอดแมวนั่นก็เจ๋ง ดูแล้วนึกถึงถ้ำเสือจากเรื่องหน้ากากเสือ
อิเค อิเค ไทกาาาา ไท-กา-มา-ซือ-คือออออ

(เริ่มมั่วแล้ว พอเหอะเนอะ :P)



ป.ล.1 "พระมหาจักรพรรดิ" น่าจะพิมพ์ ร เรือ ตกไปเกือบทุกคำเลย ลองหาดูนะครับ
ส่วน "คติจักรพรรดิราช" ก็น่าจะพิมพ์ ร เรือ ตกไปเหมือนกัน ^^

ป.ล.2 (เรื่องดราม่าไอดอล จากบล็อกนู้น~)
ถ้าเห็นใครผิดหวัง BNK48 แนะนำ GokuDolls เลยครับ ไม่มีเรื่องฉาว ๆ กับผู้ชายแน่นอน
แถมไม่น่าจะมี IG ลับด้วย (เพราะแต่ละคนคงไม่มีหน้าเปิดเผยตัวเองให้ใครรู้มั้ง 55 :D)


โดย: ทุเรียนกวน ป่วนรัก วันที่: 13 พฤษภาคม 2561 เวลา:21:36:55 น.  

 
พี่คอมเมนท์เหมือนพี่ตุ๊กค่ะ

ต้องกลับมาอ่านหลายรอบ

ขอบคุณ คุณชีริว ในความตั้งใจเขียนให้เพื่อน ๆ อ่าน


โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 14 พฤษภาคม 2561 เวลา:5:22:07 น.  

 
แวะมาทักทายยามค่ำค่ะ


โดย: ซองขาวเบอร์ 9 วันที่: 14 พฤษภาคม 2561 เวลา:19:59:13 น.  

 
มาอ่านวนเวียนไป อ่านจบแล้วก็อ่านอีกได้ พี่จะมีเวลา
อ่านบล็อกดีๆเพิ่มขึ้น กำลังปรับตัวให้มีสภาพคล่องมากขึ้น
ถ้าว่าง แวะไปอ่านกติกาการบริหารโหวตแบบใหม่ของพี่
ด้วยนะคะ คลิกไปเลย ไม่ต้องล็อกอินก็ได้ แค่อยากให้
คนคุ้นๆกันได้อ่านค่ะ



โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) วันที่: 15 พฤษภาคม 2561 เวลา:9:07:59 น.  

 
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับน้องชีริว

ไว้มีโอกาสเหมาะๆจะร้อง ดญ.ปรางค์เวอร์ชั่นกะว่าก๋าให้ฟังนะครับ 555




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 พฤษภาคม 2561 เวลา:22:42:38 น.  

 
อารายๆ ทำแล้ว แต่ยังไม่เสร็จเฟ้ย
มัวแต่หัวเราะคิกคักอยู่เฟช 555

มาแข่งกันมั้ยล่า ใครจิอัพก่อน ธ่อ

รีวิวเจียงใหม่ฉบับเจ้าบ้าน อะจ๊าก บะมีเจ้า
ขะเจ้ากบในกะลา บะได้ไปแอ่วไหนเล้ย อยู่ก้าฮ้านตั๋วเก่า 555
ที่กิ๋นที่แอ่วต้องถามคนกุงเต้บ อย่าง
สาวไกด์ น้องชื่น ฮู้ดีไปหมด คนเจียงใหม่ยังอายเลยหนา 5555


โดย: คนงาม ณ เจีนงใหม่ IP: 171.96.55.77 วันที่: 15 พฤษภาคม 2561 เวลา:22:59:15 น.  

 
จากบล็อก
ผมไม่ทันได้คิดเลยครับ ใครจะทำแบบนั้นก็ทำได้นะ

จริงๆ แล้วผมซื้อของจิ๋วมาครับ ไม่แน่ใจว่าคุณชีริวได้เห็นจากในเฟสบุ๊คหรือไม่ เอามาเล่นได้พอดีเลย~


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 16 พฤษภาคม 2561 เวลา:0:22:25 น.  

 
ขอบคุณน้องชีริวมากค่ะ
555 ผัดพริกขิงซื้อเยอะไปหน่อยน่ะค่ะ
นอนหลับฝันดีนะคะ


โดย: Sweet_pills วันที่: 16 พฤษภาคม 2561 เวลา:0:28:30 น.  

 


สวัสดียามเช้าครับน้องชีริว



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 16 พฤษภาคม 2561 เวลา:6:37:00 น.  

 
snow town เกตเวย์เอกมัยค่ะ
ต้องรีบไป เพราะเปิดอีกแค่สองเดือนก็จะปิดแล้ว ^^


โดย: VELEZ วันที่: 16 พฤษภาคม 2561 เวลา:7:05:53 น.  

 
ไม่ต้องจดหรอกค่ะ คุณชีริว
เพราะแต่ละวันที่เราโหวตให้ใครไปบ้าง
จะมีบันทึกอยู่ในหน้าจัดการแล้วนะคะ
เช็กที่นั่นได้ทุกวัน ย้อนหลังก็ได้ค่ะ

เนอะ เหมือนจะเก่งเทคโนโลยี แต่ก็
ไม่ใช่อีก โค้ดต่างๆนาๆที่ใช้ในบล็อกพี่
ล้วนแต่ไปเที่ยวเก็บโค้ดของกูรูด้านนี้
มาจากที่เค้าเขียนๆทิ้งไว้ในอินเตอร์เน็ต
พี่เก็บมาลองตัดต่อเปลี่ยนแปลงไปตาม
ความน่าจะเป็น ถ้ามันออกมาเข้าท่า
ก็เอามาเล่น เพราะพี่ก็ทำอะไรที่พวกเทพ
เค้าทำกันได้แต่พี่ทำไม่ได้อ่ะจิ๊ โชคดีที่
กระดิกหูกับภาษาปะกิตบ้าง รู้ว่าตรงไหน
เป็นงูตรงไหนเป็นปลาพอสมควร 55

ลดการเขียนบล็อกเหรอ อย่าเลยน้าาาา
ที่ทำอยู่นี้ก็น้อยแล้วจ้าาาาา เอาแค่ใช้โหวต
ตามที่ควรก็ลดภาระลงได้มากแล้ว



โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) วันที่: 16 พฤษภาคม 2561 เวลา:8:50:03 น.  

 
สวัสดีอีกรอบเน้อ รอบนี้มาอ่านแล้ว

ยาวมากกกก ชั้นจะจำที่จะเมนท์หมดมั้ย หืออออ

ทั้งหมดเคยไปวัดศาลาปูนกับวัดหน้าพระเมรุหละ เพิ่งรู้เรื่องพระประธานวัดแฮะ

ส่วนโคกพระยา เพิ่งรู้เลย แล้วก็เพิ่งรู้ว่าสมัยรัตนโกสินทร์นี่เป็นที่วัดปทุมคงคา

แกควรเอาดีด้านประวัติศาสตร์นะ 555



โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 16 พฤษภาคม 2561 เวลา:9:09:20 น.  

 
ซีบอกชอบต่อนะแต่มันไม่ใช่ทางของหนู โห........ มีทางเป้นของตัวเองด้วย ซีบอก หนูจะเป็น เชฟ พูดแบบนี้มาตั่งแต่ อ.1 แล้ว มุ่งมั่นแต่ไม่ขยันทำ 555


โดย: kae+aoe วันที่: 16 พฤษภาคม 2561 เวลา:9:27:48 น.  

 
ขอบคุณที่ไปคุยกันนะคะ
วิ่งแจ้นตามมาลุ้นให้เขียนเรื่องใหม่
ยังไม่มีก็คุยกันไปพลางๆ
เวียดนามตกอยู่ใต้การครอบครองของจีนนาน
จนมีภาษาจีนจารึกเต็มไปหมด
ภาษาที่ใช้ปัจจุบันก็มีระดับเสียงวรรณยุกต์
เช่นเดียวกับจีน และไทย

แต่บ้านเมืองได้รับอิทธิพลจากฝรั่งเศส
ที่เคยครอบครองและวางผังเมืองไว้อย่างดี
สีที่ใช้ทาอาคารของรัฐสีเหลือง
ก็มาจากอิทธิพลของฝรั่งเศส
ตอนที่ไปได้ฟังบรรยายผ่านภาพยนตร์สั้นๆ
ที่เล่าถึงความเป็นมาของประเทศด้วย

ไปมานานเกินสิบปี
เดี๋ยวนี้การศึกษาเขาไปไกลกว่าเราแล้วค่ะ

อย่ากังวลเรื่องโหวตนะคะ
ไม่ใช่เรื่องสำคัญสำหรับพี่
ไปคุยกัน เยี่ยมกันน่ะมีความสุขแล้ว

คงเหมือนกับชีริวที่เขียนบล้อคด้วยความสุข
ดูจากอักษรที่ไหลลื่นเรียงยาวจนจบ
อย่าทำงานหนักจนลืมพักผ่อนบ้าง
อะไหล่อื่นๆน่ะพอหาได้
แต่อะไหล่ร่างกายไม่มีของแท้แล้วค่ะ


โดย: หมุยจุ๋ย วันที่: 16 พฤษภาคม 2561 เวลา:10:52:21 น.  

 
เอาแค่ในเกาะก็ว่าเยอะแล้วนาาาา
เข้าใจว่าเป็นแถบถิ่นที่มีวัดผุดขึ้นมาเยอะสุด ๆ
ถ้าบล็อกนี้ร้าง บล็อกข้าพเจ้าก็ป่าช้าแล้ว 5555

ตอนต้นเรื่องนี้ดูเหมือนจะมีชื่อหลายชื่อที่ต้องโยงกับที่มาเนาะ
ที่มาของชื่อ พนมยงค์ เป็นอย่างงี้นี่เอง ^^" บางวัดก็มีชื่อซ้ำแฮะ
(แต่ก็เป็นคนละที่กัน) ที่น่ากลัวหน่อยก็ตำนานการสำเร็จโทษนี่แหละ

อ้อ...เคยอ่านเจอวิธีการประหารแบบเต็มขั้น ก่อนที่จะลด
เหลือแค่ตีท้ายทอยแบบในหนังท่านมุ้ยอ่ะ
(ที่เริ่มจากฟาดท้อง > อก > หน้า) อ่านแล้วก็จุกแทน

เคยคิดว่า นี่ถ้าเกิดได้ไปเห็นวัดโคกพระยาจริง ๆ คงรู้สึกขนลุก
แต่ไหงตอนนี้มีบ้านเรือนขนาบใกล้ขนาดนี้เนี่ย เสียจินตนาการ
หมดเลย แบบนี้วันดีคืนดีเกิดเจ้าบ้านอยากขุดดินขึ้นมา คงเจอ
กระดูกมั่งล่ะ ส่วนที่ว่าตอนย้ายเมืองหลวงก็เปลี่ยนมาใช้ที่
วัดปทุมคงคา นี่เพิ่งรู้นะ ....

ที่จริงก็ชอบสิ่งก่อสร้างที่โดนรากไม้พันรอบนะ
แต่ไอเดียฝังเศียรพระที่เจดีย์รายนี่ไม่โอง่ะ
ส่วนประตูกาลเวลาที่วัดพระงาม กลัวว่าจะพังจากจัง
(นึกไปถึงกลุ่มคนที่ชอบยืนโพสยืนเกาะโบราณวัตถุอ่ะ)


ดีนะที่วัดลึกลับ (จำชื่อได้ไม่หมด)
ยังยังมีชาวบ้านช่วยนำทางให้ ขืนให้เดินสุ่มเข้าไปเอง
อาจไปถึงอยู่หรอกแต่คงมองไม่ออก ว่ามันใช่เรอะ????

ขอบคุณมากที่สละเวลาทำรีวิวนี้ด้วยน้อ




โดย: กาบริเอล วันที่: 16 พฤษภาคม 2561 เวลา:16:12:38 น.  

 
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับน้องชีริว

กวนกายฯ พี่ก๋าเห็นเจ้าตัวดึงของกระป๋องน้ำอัดลมครับ
เลยเอามาเขียนเป็นตัวละครซะเลย 555
สังเกตดูดีดีนะ
ตัวละครในเรื่องนี้ มาจากสิ่งของใกล้ตัวทั้งนั้นเลยครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 16 พฤษภาคม 2561 เวลา:23:08:11 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับน้องชีริว




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 17 พฤษภาคม 2561 เวลา:6:37:23 น.  

 
สวัสดีตอนเช้าค่ะ คุณซีริว
ขอบคุณที่แวะไปฟังเพลงค่ะ
วันเด็ก วัยรุ่น นี่พลังงานเหลือเฟือ
และมีเวลาเยอะแยะจริงๆค่ะ
พอโตขึ้นพลังงานลดลด
และเหมือนเวลาจะน้อยลงด้วยค่ะ





โดย: ann_shinchang (ยังไงก็ได้ว่ามาเลย ) วันที่: 17 พฤษภาคม 2561 เวลา:8:12:25 น.  

 
ใช่จ้ะ ดอกไม้และธรรมชาติเมืองหนาวสวยจริงๆ
ดอกไม้เมืองนอก เวลาออกดอกทีบานพรึ่บพร้อมกันเป็นดง
ของบ้านเราจะมีบานพร้อมกันก็ทานตะวัน เห็นจนชินตาแล้วเนอะ

ขอบคุณที่แวะชมจ้ะ



โดย: mambymam วันที่: 17 พฤษภาคม 2561 เวลา:10:01:11 น.  

 
สวัสดี จ้ะ น้องชีริว

ขอบใจนะ ชีริว ที่แวะไปอ่าน กระจกเงา โจทย์ ตะพาบ
ที่ครูตั้งให้ น้องต่อ ตามคำเชื้อเชิญ อิอิ ไม่เห็นเธอเขียน ตะพาบ
มานานแล้วนะ ครูรับปากไปแล้วว่า จะพยายามเขียนคะพาบทุก
ครั้ง ในปีนี้ ก็ต้องรักษาคำพูด ตะพาบ ครั้งหน้า 204 ต้องส่ง
ช้า เพราะเขากำหนดให้ส่ง 29 พ.ค. ครูยังอยู่ตุรกีเลย (ไป
อ่านตุรกีของเธอย้อนหลัง หาข้อมูลไว้ล่วงหน้า อิอิ)

ขอบใจสำหรับคะแนนโหวดที่แวะโหวดให้ครู จ้ะ

ช่วงนี้ครู ยุ่งมาก ทั้งซ่อมบ้าน กลัวน้ำท่วมอีก ไปเรียน
ภาษาจีนอีก เที่ยว ได้รับเชิญจากลูกศิษย์ไปกิน ไปรดน้ำดำหัว
โอ! แม่งานเยอะ งานเข้า ห้าห้า แต่ต้องมาคุยกับเธออยู่แล้ว ยิ่งมีเพื่อนน้อย ๆ เดี๋ยวงอนหายไป แย่เลย อิอิ

คุยแค่นี้ก่อนนะ ยังไม่ได้ไปเยี่ยมอีกหลายบ้าน เดี๋ยว
เพื่อนหายหมด



โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 17 พฤษภาคม 2561 เวลา:12:55:46 น.  

 
ยังไม่ได้ทำการบ้านอาหารในวรรณคดีส่งครูเกศเลยค่ะ
เหมือนใกล้จะหมดไปในการอัพบล็อก ^__^


โดย: เนินน้ำ วันที่: 17 พฤษภาคม 2561 เวลา:13:06:26 น.  

 
ปิดเฉพาะ snow town ค่ะ
ส่วนตัวห้างยังอยู่ค่ะ ^^


โดย: VELEZ วันที่: 17 พฤษภาคม 2561 เวลา:13:19:05 น.  

 
แค่จะสี่สิบเอง จิ๊บ ๆ จ้า น้องชีริว


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 17 พฤษภาคม 2561 เวลา:14:47:49 น.  

 

มาเที่ยวเมืองอโยธยาด้วยค่ะ
ได้ความรู้และชมภาพ เหมือนได้ไปเที่ยวเองเลย

ขอบคุณที่นำมาแบ่งปัน

โหวดค่ะ


โดย: newyorknurse วันที่: 18 พฤษภาคม 2561 เวลา:4:13:27 น.  

 


เดียวคืนนี้มาอ่าน



โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 18 พฤษภาคม 2561 เวลา:17:14:02 น.  

 
ต้องขอบคุณหมาๆ นีหมาวัดมันแว้งกัดแรงด้วยป่าว แต่ที่รินเคยเจอมาหมาวัดน่ารักดีออก
เพราะคนชอบให้อาหารมันบ่อยๆ ถ้าไม่ให้มันจะขู่เอา อิอิ

ว่าแต่ทำไมคนเราเวลาปิดทองกันชอบเอาไปปิดตามหน้าตาพระเสียหมด
พอปิดเยอะๆ ทำพระมอมแมม มองไม่เห็นไปด้วยเลยนั่
ตะก่อนรินก็ปิดทองตรงลูกตานะ แหะๆ

เป็นอันว่า วัดรอบนอกส่วนมากรินไม่เคยไปเลยจริงๆ และคนก็แห่ไปแตวัดในเมืองกันมากเสียจริงด้วยนะ
วัดหน้าพระเมรุ นี่ก็เคยไปมาล่ะ กับวัดเชิงท่านี่ก็ด้วย
เพราะอยู่ในเมืองเดินทางง่าย
บางทีไปวัดในเมือง 9 วัดภายใน 2 ชั่วโมงยังได้ คือไปวันธรรมดานะ
ถ้าไปวันหยุด ทั้งวันนี่ต้องทำเวลากันสุดๆ เลยล่ะ



การประหารสมัยก่อนโหดมากจริงๆ แม้แต่กษัตริย์ก็ไม่เว้น
เมือมีการก่อกบฎ


โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 18 พฤษภาคม 2561 เวลา:21:40:58 น.  

 
วัดพระงามเป็นวัดที่ผมเล็งไว้นานแล้วว่าจะไปถ่ายรูป
เพราะว่าซุ้มประตูตรงนี้สวยมากเลย
รอให้ฤดูที่มีแสงลอดผ่านประตูแล้วใบไม้ร่วงลงมาซักนิด
จะสวยงามน่าดูชมเลยทีเดียว


โดย: เป็ดสวรรค์ วันที่: 19 พฤษภาคม 2561 เวลา:0:06:29 น.  

 
ใช่แล้วครับมันเป็นสงครามที่ไม่ใช่สงครามของเราด้วยซ้ำ
ไปตายฟรีง่ะ


โดย: เป็ดสวรรค์ วันที่: 21 พฤษภาคม 2561 เวลา:1:44:02 น.  

 
สวัสดีอีกรอบเน้ออออ

ไม่ได้เรียนนวดเฟ้ยยย เมนท์ยังกะไม่อ่าน (รู้น่าว่าแซว 555)

ลูกประคบที่ได้มายังเอาไว้ในตู้เย็นอยู่เลยยย ยังไม่ได้ลองนึ่งมานวดหละ แหะๆ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 21 พฤษภาคม 2561 เวลา:12:48:34 น.  

 
จากบล็อก
เท่าที่ได้อ่าน FBI ใช้ความรู้ด้านจิตวิทยาเยอะอยู่นะครับ

ที่ไปเม้นต์ไม่ต้องเปลี่ยนให้เป็นมิตรก็ได้ครับ แค่ไม่มองเราเป็นศัตรูก็ดีเท่าไหร่แล้ว


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 21 พฤษภาคม 2561 เวลา:23:45:27 น.  

 
นานๆ มาหาทางเข้าไม่เจอค่ะ แงงงงง
คุณชีริวอัปบล็อกนี้แบบว่านุ่นขนลุกเลยอะ
เพิ่งอ่านนิยายคุณทมยันตีไม่นานนี้ค่ะเรื่อง นากพัทธ์
มีฉากประหารเจ้าฟ้าน้อยๆ ที่วัดโคกพระยาด้วยอะ
นึกภาพตามแล้วมาดูภาพประกอบมีความขลังเลย

ไปอยุธยามาหลายเดือนแล้ว พักคืนเดียวค่ะ สมัยออเจ้ายังไม่ดังมากนะคนยังไม่ค่อยเยอะ แต่ละวัดที่ไปคือแบบเดินเที่ยวกำลังด แต่พอมีกระแสละครเหมือนว่าเศรษฐกิจจังหวัดดีขึ้นมากเลยเนาะ
ในลิสต์นี้ ชอบวัดภูเขาทองค่ะ ถ่ายรูปสวย มีความอลังการ ที่จริงอีกหลายวัดก็สวยมากและสมัยก่อนน่าจะสวยมากจริงๆ เสียดายๆๆ
แต่บางทีไม่บูรณะมากเกินไปน่าจะดีกว่า
เหมือนที่วัดพระมหาธาตุที่นคร ตอนนี้เจดีย์ขาวจั๊วะเลย สวยแต่แปลกตาไปมากค่ะ นี่ก็เพิ่งไปมาอยากอัปบล็อกเที่ยวมั่งแต่ความขี้เกียจยังสูงอยู่
เอาไว้มาๆ หายๆ เหมือนเดิมค่า


โดย: lovereason วันที่: 21 พฤษภาคม 2561 เวลา:23:59:57 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ชีริว
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 89 คน [?]





**5 Latest Entries**
RedLife
เบตง
โดราเอม่อน ตอน ปืนหยั่งรู้ความคิด
ปัว-บ่อเกลือ
โดราเอมอน ตอน ฝาแฝดของโนบิตะ


Friends' blogs
[Add ชีริว's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.