Group Blog
 
<<
เมษายน 2560
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
6 เมษายน 2560
 
All Blogs
 
เที่ยวคันไซตามใจฉัน (4): นารา



ไปเที่ยวเมืองเก่าที่เกียวโตซะสองวันครึ่ง คราวนี้ถึงคิวชมเมืองหลวงเก่าแก่กว่าเกียวโตอย่างนารากันบ้างครับ ด้วยความที่มันไม่มีวัดที่สวยงามดึงดูดนักท่องเที่ยวมากอย่างเกียวโต และไม่มีย่านธุรกิจใหญ่โตแบบโอซาก้า ในมุมมองของนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ นาราเลยได้รับความสนใจเป็นรองสองเมืองนั้นเยอะอยู่ แต่ด้วยความที่เป็นศูนย์กลางการปกครองแรกๆของญี่ปุ่นที่รวมตัวกันเป็นชุมชนใหญ่และความไม่แออัดก็ทำให้เมืองนี้เป็นขวัญใจของคนชอบประวัติศาสตร์หรือชอบที่เที่ยวนอกกระแสได้ไม่ยาก

จังหวัดนารามีเมืองเล็กเมืองน้อยจำนวนมาก ศูนย์กลางคือเมืองนาราที่เอ็นทรี่นี้จะพาเที่ยวกัน อยู่บนสุดของจังหวัดเลย



มาเล่าถึงญี่ปุ่นในยุคบรรพกาลเรียกน้ำย่อยกันหน่อย ช่วงเริ่มต้นของประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นจะเกี่ยวข้องกับเมืองคาชิฮาระและหมู่บ้านอาสึกะมาก ถึงจะอยู่ในจังหวัดนาราแต่อยู่นอกเมืองนารา จะพาไปชมเอนทรี่ต่อไปนะครับ วันนี้ขอเริ่มจากการสร้างเมืองนาราขึ้นมา...

ในอดีตเดิมทีนั้นเมืองศูนย์กลางการปกครองของญี่ปุ่นจะเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆหลังจักรพรรดิสวรรคตลง เพราะถือว่าเมืองเก่าแปดเปื้อนมลทินไปแล้ว จนกระทั่งจักรพรรดินีเก็มเม (เป็นผู้หญิงที่ขึ้นครองตำแหน่งผู้ปกครองสูงสุดของญี่ปุ่นเป็นคนที่ 4 จากทั้งหมด 8 คน ในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น) ได้สร้างเมืองหลวงถาวรขึ้นที่เฮโจเคียว (นารา) ในปี 710 แต่มีการย้ายเมืองหลวงช่วงสั้นๆ ไป 3 ที่ เพื่อหนีโรคระบาดในช่วงปี 740-745 ก่อนจะย้ายกลับมานาราเหมือนเดิม

ช่วงปลายยุคนาราอำนาจของราชวงศ์ถูกสั่นคลอนอย่างหนัก เพื่อหนีอิทธิพลของศาสนาและขุนนางสายฟูจิวาระ ในปี 784 จักพรรดิคัมมุจึงได้ย้ายเมืองหลวงจากนาราไปยังนากาโอกะเพื่อวางรากฐานการปกครองใหม่ชั่วเวลาหนึ่ง ก่อนจะย้ายเมืองหลวงอีกครั้งเพื่อหนีน้ำท่วมและโรคระบาด ไปยังเฮฮันเคียว (เกียวโต) แล้วเกียวโตก็เป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นมากว่า 700 ปี ก่อนจะย้ายเมืองหลวงมาโตเกียวปัจจุบัน

วัดสำคัญในเมืองนารารวมกันเป็นเป็นมรดกโลกเรียกว่า World Heritage Sites of Ancient Nara ประกอบด้วยวัดต่างๆตามรูปนี้เลยครับ จากหนังสือ Japan's World Heritage Sites ของ John Dougill (คลิ๊กที่รูปเพื่อชมภาพขยาย) แต่เราเที่ยวแค่ฝั่งตะวันออกนะ ทางตะวันตกไม่ได้ไปเลย



นั่งรถไฟสาย JR Nara Line จากเกียวโต (ในที่นี้ออกจากสถานีอุจิ) มาจนถึงนารา ใช้เวลาครึ่งชั่วโมงก็ถึงนาราครับ เทียบกับเกียวโตแล้วที่นี่เงียบสงบกว่ามาก แต่สิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวก็มีพร้อมไม่แพ้กันเลย





นึกถึงนาราก็ต้องนึกถึงกวางครับ เดินทั่ววัดเก่าแก่ในเขตโบราณสถาน โดยเฉพาะเขตสวนสาธารณะนารา กวางเยอะอย่างกับหมาจรจัด แถมเชื่องคนด้วยนะ


สถานีนาราจุดรวมรถเมล์และรถไฟ ในเมืองนี้เที่ยวได้ด้วย Nara Kotsu Bus ไปได้ทั่วที่เที่ยวดัง ยังคงใช้ตั๋ว ICOCA ได้เช่นเดิมนะครับ




มาสคอตของเมืองนาราคือเซนโตคุง (ซ้าย) ออกแบบขึ้นมาส่งเสริมการท่องเที่ยวในปี 2010 เพื่อเฉลิมฉลองที่นารามีอายุครบรอบ 1,300 ปี แต่มันไม่ได้มีความน่ารักเอาเสียเลย แถมมีดราม่าศาสนาอีก ที่สำคัญงบประกวดออกแบบไอ้ตัวนี้ตั้ง 5 ล้านเยน! (เอ็งเป็นสติกเกอร์ค่านิยม 12 ประการรึไง?) คนเลยสร้างมาสคอตมันโตคุง (ตัวขวา) ขึ้นมาแทน ไม่ได้เป็นมาสคอตอย่างเป็นทางการแต่หลายๆที่ก็เอาไปใช้นะ


แต่ตัวที่ขายดีจริงๆคือเจ้านี่เลยครับ ชิกะมาโระคุง เป็นมาสคอตของสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวนารา เอาไปทำสินค้าขายดิบขายดีจนบ้านผมยังซื้อตุ๊กตาเจ้านี่ที่ขายในพิพิธภัณฑ์นารามาตัวนึง ตัวนี้ฮิตกระทั่งแม็คโดนัลด์ยังจับมันไปยืนหน้าร้านสาขาที่นาราแทนลุงโรนัลด์


ออกจากสถานีไปหาที่พักก่อนครับ จะได้เก็บกระเป๋า เราปล่อยให้แอพ booking นำทางไปที่พัก เดินไปตามตรอกซอกซอย จนมาถึง Guess House Iki อยู่ไม่ลึกจากถนนใหญ่ แต่ซอยเล็กสังเกตยากนิดนึง ซึงเจ้าของเขาก็ส่งเมล์มาบอกตั้งแต่ตอนจองที่เมืองไทยแล้วว่าซอยตรงนี้ดูยากนิดนึงนะครับ พร้อมส่งแผนที่เส้นทางจากสถานีมาให้โดยละเอียดแสดงถึงความเอาใจใส่

และพอได้เจอตัวจริงก็รู้ว่าพี่ท่านเป็นคนเอาใจใส่ลูกค้ามากจริงๆ Mr.Jun หน้าโหดแต่สุภาพใจดีและภาษาอังกฤษแจ๋วเมื่อเทียบกับคนญี่ปุ่นทั่วๆไป คอยสอบถามแนะนำที่เที่ยวที่กินได้หมด ละเอียดถึงขั้นว่าที่ไหนถ่ายรูปได้ที่ไหนห้ามถ่าย เซอร์วิสกระทั่งพยากรณ์อากาศ ช่วงไหนฝนตกให้เตรียมร่มไปด้วย เอ้อ เอากะพี่แกสิ

Guess House Iki เป็นเกสเฮ้าส์เล็กๆให้เช่าห้องพักห้องเสื่อตาตามิ ได้บรรยากาศแบบญี่ปุ่นแต่ต้องช่วยเขาถนอมเสื่อหน่อยนะครับ ห้ามลากกระเป๋า ตำแหน่งที่จะวางของหนักๆก็เอาผ้าปูรองไว้ก่อน ปูฟูกนอนเอา ห้องครัวใช้ครัวรวมเวฟอาหารได้ ส่วนห้องน้ำมีในห้องพักแต่เป็นแบบบิลด์อินเล็กมากๆครับ ไม่มีอ่างอาบน้ำนะ  คืนละ 3,360 บาท ความสะดวกน้อยกว่า Sunrich ที่พักคืนก่อน แต่แลกกับจิตบริการของคุณจุนแล้วถือว่าทัดเทียมกัน ที่สำคัญมันอยู่ใกล้ถนนคนเดินที่มีของน่ากินน่าซื้อมากมายเลยละครับ



บรรยากาศเมืองนาราก็สมเป็นเมืองเก่าแบบขลังๆดีนะครับ ตามตรอกซอกซอยมีศาลพระภูมิที่ทิ้งจิโซหรือจารึกเก่าๆหลายแห่ง เดินไปตามซอยเจอเด็กหญิงตัวน้อยเป่าขลุ่ยใบไม้ด้วย (แต่แอบถ่ายไม่ทันนะ เธอเดินเร็วอย่างกับผี)

เวลาช่วงเย็นวันนี้เหลือครับ เลยออกเที่ยววัดที่อยู่ในแผนที่ท่องเที่ยวที่คุณจุนให้มา และก็เป็นมรดกโลกด้วยนะ คือวัดโคฟุคุจิและวัดกังโกจิ



แผนที่ท่องเที่ยวเมืองนาราจาก https://narashikanko.or.jp (click ที่ภาพเพื่อชมภาพขยาย) ที่พักเราอยู่ในซอยตรงข้าม Isagawa Jinja Shrine

วัดโคฟุคุจิ (Kofuku-ji Temple) เป็นวัดสำหรับขุนนาง และเป็นวัดแรกที่ถูกสร้างขึ้นพร้อมเมืองนารา โดยตระกูลฟูจิวาระเป็นผู้ย้ายเอาวัดอุมายาซากะจากอาสึกะมา เดิมมีอาคารมากกว่า 150 หลัง เป็นวัดใหญ่โตมาก แต่อาคารไม้หลายแห่งก็ถูกเผาทำลายโดยตระกูลไทระในช่วงสงครามศตวรรษที่ 12 ที่เห็นส่วนใหญ่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ วัดนี้เข้าฟรีนะครับ แต่ถ้าจะเข้า The Eastern Golden Hall (Tokondo) เสียค่าเข้า 300 เยน (ถูกเชียว)

จุดเด่นคือเจดีย์ห้าชั้นที่สร้างขึ้นในปี 725 (หลังถูกทำลายก็ถูกสร้างใหม่ในปี 1426) สูง 50 เมตร เป็นเจดีย์ที่สูงอันดับสองของญี่ปุ่นรองจากเจดีย์ที่วัดโทจิ และเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของเมืองนาราด้วย ที่น่าทึ่งก็คือเจดีย์นี้สร้างโดยไม่ใช่ตะปูสักตัว เหมือนระเบียงที่วัดคิโยมิสึนั่นเลย



ส่วนโทคอนโดะอาคารหลักของวัดนี้สร้างใหม่ในปี 1415 ที่อยู่หน้าเจดีย์ประดิษฐานพระพุทธรูปพระไภษัชยคุรุ (Yakushi Nyorai) และพระพุทธรูปเก่าแก่องค์รองๆมาอีกมากมาย ...ซึ่งแน่นอนว่าถ่ายรูปไม่ได้อีกแล้วจ้า เสียตังค์เข้ามาดูด้วยตาอย่างเดียว อาคารนี้สร้างโดยจักรพรรดิโชมุเพื่อรักษาป้าที่ป่วย จึงสร้างพระไภษัชยคุรุที่เป็นเทพเจ้าแห่งการรักษาไว้เป็นพระประธาน



ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

เริ่มมีกวางให้เห็นประปรายแล้ว เรามาถึงเมืองนาราแล้วจริงๆ



ออกจากวัดลงทางใต้ไปยังเขตเมืองเก่าจะผ่านสระน้ำซารุซาวะก็แวะถ่ายรูปสักหน่อยครับ ทางเดินลงไปชมสระเป็นบันไดสูงชัน แต่เห็นคนชราท่านนี้เดินลงมาด้วยตนเองทีละขั้นๆแบบไม่ต้องให้ใครช่วยเหลือแล้วก็นึกถึงคนญี่ปุ่นรุ่นสงครามโลกครั้งที่สองที่ต้องเผชิญเคราะห์กรรมสงคราม แบกรับความผิดบาปของประเทศชาติที่ก่อไว้ช่วงสงครามที่คนรุ่นก่อนหน้าสร้างขึ้น ผ่านยุคสร้างชาติญี่ปุ่นขึ้นใหม่ภายใต้การควบคุมจากสหรัฐ อยู่ในยุคที่ญี่ปุ่นต้องปฏิรูปทั้งโครงสร้างทางสังคม กองทัพ บทบาทและอำนาจขององค์จักพรรดิ และการเปลี่ยนแปลงอื่นๆ ตอนสึนามิถล่มโรงไฟฟ้านิวเคลียร์คนรุ่นนี้ก็ยอมเสียสละชีวิตที่เหลืออีกไม่กี่ปีเข้าไปเก็บกู้เพื่ออนาคตของคนหนุ่มสาว ฯลฯ นี่คือคนรุ่นที่เรียกว่า Silent Generation ครับ (อายุ 80-90 ปี) รุ่นเดียวกับคุณยายผม ผมชื่นชมคนยุคนี้มากๆ ถือเป็นรุ่นที่ฝ่าฟันความยากลำบากวางรากฐานหลายอย่างให้กับสังคมปัจจุบัน ส่วนคนรุ่นที่กำลังทำลายมันอยู่ก็ไปไล่กันเอาเองละกัน อิอิ




...เห็นลุงเดินลงบันไดก็เตลิดไปซะไกล กลับสระๆ สระน้ำซารุซาวะ (Sarusawa-ike Pond) อยู่ติดกับวัดโคฟุคุจิ เป็นสระที่ขุดขึ้นในปี 749 ยิ่งตอนกลางคืนเจดีย์ห้าชั้นเปิดไฟจะสะท้อนลงน้ำสวยงามยิ่งขึ้น

ริมสระมีสุสานของสาวใช้สมัยนาราที่เผลอตกหลุมรักองค์จักพรรดิจึงมากระโดดน้ำตายที่บ่อนี้




เดินผ่านตรอกซอกซอยลงมาทางใต้ก่อนถึงวัดกังโกจิจะเป็นเขตเมืองเก่านารามาชิ ที่เคยเป็นพื้นที่ของวัดกังโกจิ แต่หลังถูกทำลายในสงครามก็โดนหั่นออกมาเป็นบ้านเรือนและโรงเรียน มีบ้านอนุรักษ์ (Historical Materials Preservation House) ที่สร้างโดยพ่อค้างานศิลปะในศตวรรษที่ 18 และยังคงรักษาสภาพเดิมไว้ มีห้องชงชาและทางเดินชมสวนด้วย





นอกจากบ้านอนุรักษ์แล้วแถวนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นและร้านขายของที่ระลึกเยอะเลย แต่ตอนนี้ปิดเกือบหมดแล้วครับ


วัดกังโกจิ (Gangō-ji Temple) สร้างโดยอูมาโกะแห่งตระกูลโซกะตั้งแต่ปี 588 สมัยอาสึกะ เดิมชื่อวัดโฮโกจิและอาสึกะเดระ วัดนี้ถูกย้ายมาที่นาราในปี 718 เดิมวัดนี้กินพื้นที่ใหญ่โตถึงบริเวณที่เป็นโซนอนุรักษ์ปัจจุบัน แต่ถูกทำลายในช่วงสงครามเช่นเดียวกัน อาคารหลายหลังที่ปัจจุบันอยู่นอกเขตวัดก็ถูกปรับปรุงเปลี่ยนแปลงสภาพไปจนไม่เหลือเค้าเดิม วัดนี้ค่าเข้า 600 เยน

อาคารที่ยังคงสภาพเดิมมากที่สุดคือ Gangō-ji Gokurakubō Hondō ภายในห้ามถ่ายรูปอีกแล้วครับท่าน (เที่ยวญี่ปุ่นข้อเสียคือห้ามถ่ายรูปจังเลยเนี่ยแหละ) ประธานของวัดเป็นภาพมันดาละสมัยคามาคุระ





ได้เวลาหาข้าวเย็นกินแถว ถนนคนเดิน Mochiido กลางเมืองนารา อยู่ทางซ้ายของวัดโคฟุคุจิ (บนแผนที่ข้างบนคือโซนถนนที่เป็นเส้นประๆน่ะ) เป็นแหล่งช้อปปิ้งและมีร้านอาหารมากมาย โชคดีจริงๆที่พักอยู่ใกล้ๆ กินแถวนี้ทั้งสองวันที่อยู่นาราได้เลยครับร้านเยอะจริงๆ





มื้อเย็นนี้กินร้าน Cafe Kissa Jaruda ด้วยความที่น้องชายอยากกินข้าวหน้าหมูทอดทงคัตสึ ไหนๆก็มาญี่ปุ่นแล้วต้องกินอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ของญี่ปุ่นให้ครบ ราเม็งก็แล้ว ข้าวหน้าเนื้อก็แล้ว ข้าวหน้าปลาไหลก็แล้ว ข้าวทงคัตสึก็แล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้กินซูชิต่อเลย ร้านนี้อาหารหลากหลายตั้งแต่ข้าวห่อไข่ อุด้ง ไปจนถึงข้าวหน้าหมูทอด-ปลาทอด ซึ่งตระกูลคัตสึก็อร่อยตามที่มันควรเป็น แต่อุด้งผักทอดที่ผมสั่งไม่ค่อยเวิร์คเท่าไหร่ ของทอดมันไม่ควรไปอยู่ในน้ำตั้งแต่แรกแล้ว มื้อนี้ 2,320 เยน





เพิ่งห้าโมงครึ่งมืดอย่างกับสามทุ่ม หลังกินอิ่มแล้วก็ได้เวลากลับที่พักครับ แวะซื้อของเซเว่นสำหรับเป็นมื้อเช้า และมื้อกินเล่นดับกิเลส ก็พอเห็นน้ำแปลกๆไอติมแปลกๆที่ประเทศไทยไม่มีขายแล้วมันอดใจไม่ไหว ทริปนี้ตั้งใจมาหา Pablo ต้นตำรับกินที่โอซาก้า (ตอนนั้นเพิ่งไปเปิดที่เมืองไทยคิวยังแน่นอยู่) วันนี้เจอแบบแช่แข็งในตู้ไอติมเลยซื้อมาลองสักหน่อย ก็มีความเปรี้ยวแต่หอมชีสเหมือนตัวทาร์ตชีสมันนั่นแหละ






1 พ.ย. 2559 วันที่ 4 จาก 7 วันของทริปนี้เรานั่งรถไฟลงใต้ไปเที่ยวคาชิฮาระและอาสึกะที่เป็นที่ตั้งพระราชวังของจักพรรดิยุคก่อนเมืองนารากัน ตรงนี้เป็นไฮไลท์ของทริปนี้เลย เดี๋ยวจะยกมาเล่าในเอ็นทรี่หน้าครับ Smiley

ช่วงเย็นเราเดินทางกลับมาที่นารา มาหาของกินแถวๆถนนคนเดินเช่นเดิม กว่าจะถึงก็ห้าโมงเย็นได้เวลามื้อเย็นพอดี



วันนี้กินซูชิหมุนที่ร้าน Totogon ให้หยิบซูชิจากรางและคิดราคาตามสีจานครับ หน้าหรูๆอย่างโอโทโร่ ไข่หอยเม่น เนื้อปู ก็แพงหน่อย พวกโหลๆอย่างปูอัด หอยหวาน ยำสาหร่าย ก็ถูกหน่อย ของสดเชื่อถือได้ หน้าซูชิก็ล้นข้าวดี 3 คน กินไป 10 จาน มื้อนี้ตก  3,542 เยนครับ ขนาดกินซูชิยังไม่แพงเท่าอีร้านแรกวันแรกที่ป่าไผ่เกียวโตเลยคิดดู!






2 พ.ย. 2559 วันนี้จะเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของนาราอย่างศาลเจ้าคาสุกะ สวนสาธารณะนารา และวัดโทไดจิที่มีพระพุทธรูปไดบุทสึ หลังบอกลาคุณจุนแล้วพวกเราก็ลากกระเป๋าไปสถานีนาราขึ้นรถเมล์ที่ป้าย 1 ไปยังศาลเจ้าคาสุกะกัน

ศาลเจ้าคาสุกะ (Kasuga-taisha Shrine) หรือที่คนไทยเรียกว่าวัดพันโคม เป็นศาลเจ้าชินโตที่สร้างในปี 768 เป็นศาลเจ้าของตระกูลฟูจิวาระ ค่าเข้า....ฟรีครับ! มาถึงก็จ๊ะเอ๋กับเจ้าถิ่นเลย เป็นการตอกย้ำว่าเรามาถึงนาราแล้วจริงๆ เชื่่อกันว่ากวางเป็นพาหนะของเทพเจ้าที่ตระกูลฟูจิวาระอัญเชิญลงมาที่ศาลเจ้าแห่งนี้ ถึงจะน่ารักเชื่องคนแต่ก็มีป้ายเตือนระวังกวางจู่โจมด้วยนะ รูปแบบการจู่โจมมีทั้งกัด เตะ ขวิด และสเปียร์ใส่ ท่าเยอะกว่าโรมันเรนจ์ของ WWE อีก



มีเสาโคมเรียงรายไปจนถึงศาลเจ้ากว่า 3,000 ต้น เป็นจุดขายของศาลเจ้าแห่งนี้เลย เพราะมีคนมาบริจาคตะเกียงทีละนิดละหน่อย ช่วงเทศกาลเซ็ตสึบ้ง (3-4 ก.พ.) และโอบ้ง (14-15 ส.ค.) จะมีการจุดโคมยามค่ำคืนสวยงามครับ



ถึงจะย้ายเมืองหลวงจากนาราไป แต่ตราบเท่าที่ตระกูลฟูจิวาระยังทรงอำนาจ ศาลเจ้าแห่งนี้ก็ยังคงได้รับการทำนุบำรุงอยู่ตลอดเวลาครับ ซึ่งฟูจิวาระก็รักษาอำนาจด้วยการให้ลูกสาวในตระกูลไปแต่งงานกับองค์จักรพรรดิมาหลายยุคหลายสมัย





มิโกะจ้ะมิโกะ


ป้ายอธิษฐานที่นี่เป็นรูปกวาง เติมหน้าตาได้ตามอัธยาศัย


ออกมาที่สวนสาธารณะนารา จุดชมใบไม้แดงยอดนิยมและมีกวางให้เล่นมากมาย มีขนมเซมเบ้ขายชุดละ 150 เยน ซื้อให้กวางกิน



ที่นี่กวางเยอะมาก และเยอะขึ้นเรื่อยๆจนเกิดปัญหากวางล้นเมือง จนเมื่อไม่นานมานี้รัฐบาลต้องออกมาตรการขั้นเด็ดขาด!!
คนอ่าน: อนุญาตให้ล่ากวางได้?
เจ้าของบล็อก: ป่าว อนุญาตให้เอากวางกลับไปเลี้ยงที่บ้านได้

ใครไปเที่ยวแล้วอยากได้กวางไปเลี้ยง ต้องเข้าไปตรวจสอบคุณสมบัติว่าฐานะดีและจิตใจโอบอ้อมอารีย์พอที่จะไม่เอากวางไปทารุณหรือส่งร้านอาหารป่าด้วยนะ

ที่นี่กวางเยอะมาก แต่ในซีรี่ยส์ Game of Thrones กวางใกล้สูญพันธุ์แล้ว





มองหน้าพลางส่งกระแสจิต "ซื้อเซมเบ้ให้ตูกินซะดีๆ"

ตรงเข้าวัดโทไดจิครับ ที่นี่มีนักท่องเที่ยวมากมายมหาศาลที่สุดในเมืองนารา ถ้าไม่คิดว่าพื้นที่มันกว้างจนคนเหมือนจะไม่แออัดมากแล้วต้องยอมรับว่าคนเยอะกว่าวัดคินคาคุจิหรือคิโยมิสึด้วยซ้ำ นี่ขนาดวันพุธนะเนี่ย เด็กมาทัศนศึกษาก็เยอะ



Nandaimon เป็นประตูเข้าวัดทางทิศใต้ สร้างในศตวรรษที่ 12 หลังจากประตูเดิมถูกใต้ฝุ่นทำลายไป สองฝั่งมีเทพนิโอ หรือคอนโงริคิชิสูง 8.5 เมตร เป็นผู้รักษาประตู





วัดโทไดจิ (Tōdai-ji Temple) สร้างโดยจักพรรดิโชมุในปี 728 เป็นศูนย์กลางของวัดในพุทธศาสนา ช่วงนั้นญี่ปุ่นต้องเผชิญโรคระบาดและการก่อกบฏของตระกูลฟูจิวาระจนต้องย้ายเมืองหลวงชั่วคราวหลายครั้งตามที่เล่าไปด้านบน พอย้ายเมืองหลวงกลับมาที่นาราก็สร้างพระไดบุทสึที่วัดนี้เป็นศูนย์รวมจิตใจผู้คน ค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์ของวัดและพระไดบุทสึ 800 เยน ความใจกว้างของที่นี่คือสามารถถ่ายรูปได้ทั้งหมด!

Daibutsuden หรือหอพระใหญ่ (The Great Buddha Hall) อาคารหลักของวัดนี้เคยเป็นอาคารไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วยนะครับ (แต่โดนสนามเบสบอลที่อากิตะทำลายสถิติไปละ) เดิมเคยใหญ่โตกว่านี้อีก แต่ถูกไฟไหม้และบูรณะขึ้นมาใหม่ในปี 1709 สูง 47 เมตร กว้าง 57 เมตร ลึก 50 เมตร (เดิมกว้าง 88 เมตร) ตะเกียงขนาดใหญ่ด้านหน้ามีมาตั้งแต่ตอนสร้างวัดในยุคนารา



พระไดบุทสึของวัดโทไดจิเป็นพระพุทธรูปพระไวโรจนพุทธะใช้เวลาสร้าง 10 ปีจนแล้วเสร็จเบิกเนตรโดยพระจากอินเดียในปี 752 องค์พระสูง 15 เมตร เคยถูกแผ่นดินไหวและบูรณะหลายครั้งเหมือนกันเหลือแต่ส่วนขากับฐานดอกบัวนี่ละครับที่มีมาแต่ดั้งเดิม ตั้งแต่เข้ามาที่ญี่ปุ่นก็มีวัดนี้กับวัดอาสึกะเดระที่หมู่บ้านอาสึกะนี่ละครับที่ถ่ายรูปพระประธานได้ แถมเป็นพระพุทธรูปที่โด่งดังที่สุดของญี่ปุ่นด้วยนะ ด้วยความใหญ่โต เก่าแก่ และมีความสำคัญกับประวัติศาสตร์ยุคนารามาก





ด้านข้างซ้าย-ขวาขององค์พระมีพระโพธิสัตว์ที่สร้างเพิ่มมาในปี 1709 ด้านซ้ายคือ พระอากาศครรภโพธิสัตว์ (Kokuzo Bosatsu) พระโพธิสัตว์แห่งภูมิปัญญาและความจำ ด้านขวาคือ พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ (Kannon Bosatsu) พระโพธิสัตว์แห่งความกรุณา



ด้านหลังมีเทพแห่งยักษ์ที่ปกปักษ์รักษาโลกทั้งสี่ทิศ ด้านซ้ายคือท้าววิรูปักษ์แห่งทิศตะวันตก ด้านขวาคือท้าวเวสวัณแห่งทิศเหนือ



เสาไม้ด้านหลังองค์พระมีโพรงขนาดเท่ารูจมูกของไดบุสสึ เชื่อกันว่าใครลอดผ่านโพรงนี้ได้จะสามารถตรัสรู้ได้ในชาติต่อไป



ด้านหน้าหอพระใหญ่มีพระบินซุรุ สร้างในศตวรรษที่ 18 เป็นรูปจำลองพระปิณโฑลภารทวาชเถระ เชื่อกันว่ามีอำนาจในการรักษา หากเจ็บป่วยส่วนใดให้ลูบองค์พระที่ส่วนนั้น โรคภัยจะหายไป



ตัวพิพิธภัณฑ์ของวัดไม่ได้เข้านะครับ ไม่เห็นจะเปิด เดินออกจากวัดเล่นกวางไปตามทางไม่นานจะมาถึง พิพิธภัณฑสถานแห่งชาตินารา (Nara National Museum) อยู่ในเขตสวนสาธารณะนาราเช่นกัน เปิดในปี 1895 ไล่ๆกับพิพิธภัณฑ์ที่เกียวโตและโตเกียว เป็นพิพิธภัณฑ์แห่งชาติสามแห่งแรกของญี่ปุ่นครับ เปิด 9.30 - 17.00 น. ปิดวันจันทร์ ค่าเข้าชม 520 เยน และห้ามถ่ายรูปอีกแล้วครับท่าน



นอกจากพระพุทธรูป และโบราณวัตถุจำนวนมากจุใจแล้ว ร้านขายของที่ระลึกที่นี่ก็มีของน่าซื้อเยอะนะ (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)



กลับมาที่ถนนคนเดินก่อนขึ้นรถไฟออกจากนาราครับ ยังคงเหลือร้านน่าลองอีกมากมายแต่ครั้งนี้เป็นมื้อสุดท้ายของที่นี่แล้ว สุดท้ายก็เลือกกินร้านอาหารแบบญี่ปุ่นจ๋าดูสักหนครับ Shikiyujin ร้านนี้เป็นอาหารชุด ได้ลองหลายอย่างดี ทั้งเทมปุระ ซาซิมิ โอเด้ง ฯลฯ รสชาติกลางๆ ราคาไม่แพง ที่สำคัญที่นั่งมันสบายดี คนก็ไม่แน่น มื้อนี้ 2,590 เยนครับ






จากนั้นก็ออกจากเมืองนารามุ่งสู่โอซาก้าครับผม!! ต่อไปจะหมดจากการเที่ยววัดชิลๆไปสู่เมืองธุรกิจอันแออัดแล้วนะครับ แต่ก่อนอื่นเอนทรี่หน้าจะขอเล่าถึงเมืองอาสึกะที่ไปเที่ยวมาระหว่างอยู่ที่นาราก่อน

Smiley









Create Date : 06 เมษายน 2560
Last Update : 6 เมษายน 2560 14:51:35 น. 43 comments
Counter : 3059 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณtuk-tuk@korat, คุณบาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณคนผ่านทางมาเจอ, คุณเนินน้ำ, คุณMax Bulliboo, คุณสาวไกด์ใจซื่อ, คุณกาบริเอล, คุณsettembre, คุณกะว่าก๋า, คุณtoor36, คุณเรียวรุ้ง, คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณอุ้มสี, คุณRinsa Yoyolive, คุณClose To Heaven, คุณThe Kop Civil, คุณmambymam, คุณข้ามขอบฟ้า, คุณInsignia_Museum, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณmariabamboo, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณบ้านต้นคูน, คุณhaiku, คุณรัชต์สารินท์, คุณmultiple, คุณTui Laksi, คุณสองแผ่นดิน, คุณkae+aoe, คุณทุเรียนกวน ป่วนรัก, คุณsecreate, คุณlovereason


 
ชอบหาอาหารทานนี่ละค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 6 เมษายน 2560 เวลา:12:35:22 น.  

 
พูดถึงนารานึกถึงกวางก่อนเป็นอันดับแรกเลยค่า
ที่เหลือคือไม่รู้จัก ฮ่าๆๆๆ


โดย: บาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน วันที่: 6 เมษายน 2560 เวลา:12:49:24 น.  

 
นั่งอ่าน นั่งดู ลงมาเรื่อย ๆ เพลินครับคุณชีริว

สงสารคนสูงวัย ที่ค่อย ๆ เดินลงบันใด... ดูจะมีความตั้งใจ
และเชื่อมั่นตนเอง...

ดู ๆ แล้วน่าทึ่ง รุปแบบบ้านอาคาร ที่เป็นไม้ หรือวัดใช้ไม้
ทำ เขารักษาได้ดี สงสัยอีกแหละว่า ปลวกไม่มีหรือไงครับ


ชีริว Travel Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 6 เมษายน 2560 เวลา:13:20:23 น.  

 
สวัสดีคะคุณชีริว...

วาว..ได้มาเที่ยวญี่ปุ่น..น่าอิจฉาจังคะ..

โหวตให้แล้วคะ



โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ ) วันที่: 6 เมษายน 2560 เวลา:13:27:24 น.  

 
โหวตจองที่ไว้ก่อนนะคะ


โดย: เนินน้ำ วันที่: 6 เมษายน 2560 เวลา:13:30:38 น.  

 
เราชอบอ่านมากๆเลยเวลาคุณอัพบล๊อกท่องเที่ยวเนี้ยยยย มันสนุกมาก ภาพประกอบก็โดนใจมาก อ่านแล้วสนุกเหมือนเราได้ไปด้วยตัวเองเลยอ่ะค่ะ อันนี้เรื่องจริงนะ

ญี่ปุ่น.. สามีเรายังไม่เคยไปเลยค่ะ ว่าจะ ว่าจะ หลายพันรอบแล้ว ก็มาจบแค่ที่ไทย เห็นเมืองนาราแล้วอยากไปจัง กวางนี่เชื่องนะคะ ที่เยอรมันไม่มีนะมาเดินป้วนเปี้ยนกับคนเนี่ย ขืนมาใกล้คนมากๆจะโดนจับทำไส้กรอก ฮ่าๆๆๆๆ

งั้นโหวตจ้ะ


โดย: Max Bulliboo วันที่: 6 เมษายน 2560 เวลา:13:42:44 น.  

 
กดโหวตรัวๆ เลยอ้ะ เมืองนี้น่าจะถูกจริตพี่ รออ่านไฮไลท์เอนทรี่หน้า

ที่พักใกล้ถนนที่มีของกินเยอะๆ คือดีย์ เจ้าของน่ารักด้วยยิ่งดีย์

วัดโทไดจิเป็นที่เดียวที่เคยไป รู้จักญี่ปุ่นก็ที่นี่แหละ แม่ไปก็ชอบมาก ชอบกวาง 555

ขนาดมัสคอตยังมีดราม่า เอิ่มมมมม

โหวตนะจ๊ะ

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
kae+aoe Parenting Blog ดู Blog
Tui Laksi Home & Garden Blog ดู Blog
Max Bulliboo Klaibann Blog ดู Blog
สายหมอกและก้อนเมฆ Photo Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Photo Blog ดู Blog
We Are FroM BeLGiUM Klaibann Blog ดู Blog
ชีริว Travel Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 6 เมษายน 2560 เวลา:14:03:09 น.  

 
เห็น ... เด็กหญิงตัวน้อยเป่าขลุ่ยใบไม้
---- จะคิดเป็นอื่นได้ไง ก็ผีไงเล่า !!!


ย้ายเมืองกันสนุกเชียว ถ้ายังเป็นเช่นนี้อีกหลายยุค
เด็กๆน่าจะลำบากเวลาทำข้อสอบ 55

ชอบเมืองข้างนอกแบบสงบๆอย่างนี้นะ
ใช่แล้วๆๆๆ ถ้าให้นึกถึง นราฯ
ก็คงหนีไม่พ้นเรือ กอและ แน่นอน

(เดี๋ยวๆ นี่มัน นารา นะเฟร้ย ต้องเป็น กวาง สิ)



มาสคอตตัวแรก ก็นึกว่าจำลองแบบมาจาก พราหมณ์แถวๆอินเดีย
นี่ถ้ามีปอยผมที่ท้ายหัวอีกหน่อยน่ะใช่เลยละ...

ที่พักรอบนี้ เจอหน้าเจ้าของฯ ด้วย
แต่ก็ยังดีตรงที่แกมีจิตวิญญาณ
แห่งผู้ให้บริการดีเยี่ยม ก็ถือว่าดีนะ
ฟังเรื่องของผู้สูงอายุ ที่อาสาไปเก็บกู้พื้นที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์
แล้วน่ายกย่องอ่ะ เห็นแก่ชนรุ่นหลังมากๆ ภาพคุณลุงคนนั้นก็
สะท้อนถึงคนรุ่นก่อนได้ดีเลย ก็คงได้ผ่านยุคสมัยเก่าก่อน
ตอนหนุ่มๆ ที่เห็นการเปลี่ยนแปลงของประเทศนี้ อ่ะเนอะ
(คนรุ่นนั้นน่าจะตัวเล็ก)

ห้าโมงพระอาทิตย์ตกแล้วเหรอ ฟากโน้นตกไวจริง

น่าจะเอากวางกลับมาเลี้ยงซักตัวนะ




โดย: กาบริเอล วันที่: 6 เมษายน 2560 เวลา:14:38:09 น.  

 
โหวต Travel Blog ครับน้องชีริว

ชอบวัดญี่ปุ่น
ชอบพระพุทธรูปญี่ปุ่น
และชอบภาพถ่ายคุณลุงที่กำลังเดินลงบันได
จับจังหวะภาพได้ดีจริงๆครับ

นาราเป็นเมืองเก่าที่น่าไปเยือนอีกเมืองนึงเลยนะครับ
เห็นภาพแล้วอยากมีบ้านที่ตกแต่งภายในแบบบ้านญี่ปุ่นมากๆเลยครับ





โดย: กะว่าก๋า วันที่: 6 เมษายน 2560 เวลา:15:48:52 น.  

 
เซนโตคุงไม่มีความน่ารักเลย ดูน่ากลัวด้วยถ้าเห็นตอนกลางคืนอาจช็อค!! คุณชีริวก็พูดเป็นเล่นไป ถ้าจำไม่ผิดของเรา 7 ล้านบาทเลยนะครับ (เราชนะ)

เจ้าของที่พักดูอินดี้ดีครับ คนญี่ปุ่นถึงพูดไม่รู้เรื่องแต่ถ้าเค้าจะช่วยเราเค้าก็พยายามช่วย (แบบไม่รู้เรื่องนะ) แต่เคยเจอคนที่ไม่อยากช่วยเราพี่แกเมินเราเลย

นารากวางเยอะจริงๆ ครับ ขนาดป้ายข้างถนนมีป้ายระวังกวางด้วย แสดงว่าเยอะแบบไม่ธรรมดา

จากทั้งหมดมี วัดโทไดจิ ที่เดียวครับที่ได้ไป เสาไม้นั่นเห็นเค้าว่าใครที่ลอดผ่าน จะได้มาเที่ยวอีกด้วยนะครับ 555 ทัวร์มันพาลงที่เดียวแล้วเข้าโอซาก้าเลย เลยไม่มีโอกาสสัมผัสถนนคนเดิน รวมไปถึงกวางมากนัก ได้สัมผัสก็ที่วัดโทไดจินี่แหละ ในวัดมีโมเดลจำลองวัดสมัยก่อนด้วย






จากบล็อก
ต้องลาไปวันธรรมดาจริงๆ ครับ ไม่งั้นไม่ไหว แต่ปีนี้คนน้อย (เมื่อเทียบกับปีก่อนๆ) การ์ตูนผมก็ซื้อตามร้านหนังสือ แต่ร้านที่ซื้อประจำมันปิดไปแล้วด้วย เซ็งเป็ดเลย

ปีนี้ได้มาน้อยกองการ์ตูนดองพอถึงช่วงปลายปี อาจจะไม่เหลือก็ได้ ปีนี้ตั้งเป้าอ่านกองที่ดองไว้ให้ได้ซักครึ่งนึงก่อน ที่เหลือค่อยว่ากันอีกที


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 6 เมษายน 2560 เวลา:17:10:39 น.  

 
ชอบบบรรยากาศแบบนี้จัง
ชอบๆ


โดย: อุ้มสี วันที่: 6 เมษายน 2560 เวลา:17:35:24 น.  

 
จองที่ไว้ก่อนนะคะ จะไปนอนแล้วค่ะ
ง่วงงงงง





โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) วันที่: 6 เมษายน 2560 เวลา:22:24:34 น.  

 
เที่ยวคันไซ (ตอน 2) เคยแวะไปแล้วไง
ที่โยชิสึเนะหนีภัยไปบวชที่นครศรีธรรมราชนั่นแหละ
แต่ถ้าเม้นต์เรื่องนี้บ่อย ๆ เดี๋ยวทั้ง จขบ. และคนเม้นต์
ต้องหนีไปนครศรีธรรมราชด้วยกันแหง ๆ เหอเหอ




เที่ยวคันไซ (ตอน 2) เคยแวะไปแล้วไง
ที่โยชิสึเนะหนีภัยไปบวชที่นครศรีธรรมราชนั่นแหละ
แต่ถ้าเม้นต์เรื่องนี้บ่อย ๆ เดี๋ยวทั้ง จขบ. และคนเม้นต์
ต้องหนีไปนครศรีธรรมราชด้วยกันแหง ๆ เหอเหอ


ป.ล. Time up!
วันนี้อ่านตอน 3 ก่อน เดี๋ยวตอน 4 ค่อยแวะมาใหม่วันหลังนะครับ ^^


โดย: ทุเรียนกวน ป่วนรัก วันที่: 6 เมษายน 2560 เวลา:23:13:09 น.  

 
^
^

ขออภัย พิมพ์ข้อความซ้ำซะงั้น ^^"


โดย: ทุเรียนกวน ป่วนรัก วันที่: 6 เมษายน 2560 เวลา:23:15:31 น.  

 


สวัสดียามเช้าครับน้องชีริว



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 7 เมษายน 2560 เวลา:6:30:59 น.  

 
สวัสดีจ้า

พออ่านหัวข้อว่าพาเที่ยวนารา ในหัวก็เริ่มประมวลไปเที่ยวชมอะไรหนอที่นารา อ้อ กวาง....กวางขึ้นชื่อที่นาราสินะ

และแล้วก็ใช่กวางจริงด้วยอะ เข้าวัดก็เสียตังค์ อย่ากระนั้ันเลย ดูกวางดีกว่านิ ถ่ายรูปกะกวาง หา...ซื้อขนมเซมเบ้ให้กวางด้วยรึ แม้กระทั่งชมกวางก็ยังอาจต้องเสียตังค์รึเนี่ย มีส่งสายตาพร้อมกระแสจิตอีกต่างหาก เฮ้อ!

ส่วนเรื่องรับกวางไปเลี้ยง เข้าใจออกมาตรการนะ ว่าแต่ประชากรกวางลดลงบ้างมั้ยล่ะนั่นภายหลังจากออกมาตรการน่ะ แต่ก็ยังดีกว่าเนื้อกวางส่งออกนิ


เห็นขนมจาก 7-11 แล้วอยากลองมั่งเลยอะ คราวที่แล้วที่ไปญี่ปุ่นก็วิ่งเข้าออก 7-11 นี่แหละ รักกันทุกวันเลย

********************************

ปล.ถึงแม้จะมาเป็นบทความแต่ก็ยังมีกลอนส่งท้าย 2 บทนะจ๊ะ



โดย: เรียวรุ้ง วันที่: 7 เมษายน 2560 เวลา:10:17:21 น.  

 
เมืองนาราเหรอ ไม่เคยได้ยินชื่อเลย
สมเป็นเมืองเก่าแก่กว่า สำหรับคนที่ชอบเที่ยวนอกกระแสแบบชีริวเป็นแน่แท้ อิอิ

ศาลเจ้าบ้านเขาสวยอยู่นะ ขลังๆ เก่าๆ ตามเมืองไปด้วย ทีทึ่งคือวัดโคฟุคุจิ นี่ล่ะ ภายในดูยิ่งใหญ่มากจริงๆ
ที่พักคืนสามพันกว่าเป็นเงินไทยบาท แบบนั้นรินก็ยังมองว่าแพงนะ
เจ้าของอัฌชาสัยดีก็โอเคแล้ว ดีที่ไม่ลากระเป๋าบนพื้นพรมเค้าจะค้อนเอาได้

แต่มองอาหารญี่ปุ่นแล้วรินมองยังไง ก็งั้นๆ อ่ะ เพราะตัวเองไม่ชอบนี่แหละ ยกเว้น Seafood จะตาโต
ของกินเซเว่นญ๊่ปุ่นที่ซื้อมาหลายอย่างเหมือนพี่ไทยเราเลยนะ
จำชื่อเหมือนช็อฟเค้กสีเหลือนุ่มๆด้านในไส้ช็อคฯ ด้วยอร่อยมากกก
บ้านเราขายชิ้น 12 บาทเล็กนิดเดียวแต่อร่อยสุดๆ


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ชีริว Travel Blog ดู Blog


ช่วงนี้ทำบล้อกถี่มากไม่ดองบล็อกนานล่ะ
สงสัยพลังเหลือเยอะแหละ เคลียร์รีวิวก่อนกลับบ้านนอกหลายวัน
ไม่เอาคอมไปแระ



โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 7 เมษายน 2560 เวลา:12:08:49 น.  

 
ชีริว Travel Blog ดู Blog

นี่ ๆ เรากำลังวางแผนว่าจะไปเที่ยวญี่ปุ่นจริงจังนะตัวเธอ
และโอซาก้า นารา เกียวโต เป็นสถานที่ที่กำลังเล็งอยู่
บล๊อกนี้มีประโยชน์มากมาย ขอบคุณนะจ๊ะ
ข้อมูลเพียบ แต่ต้องมานั่งคิดก่อนว่าจะไปไหนบ้าง
ที่แน่ ๆ ต้องตามรอยไปเที่ยววัดต่าง ๆ
(นี่ไม่รู้ว่าฝันไปหรือเปล่า กะจะพาสองหนุ่มไป ไหวมั้ยเนี่ยยยย)


โดย: Close To Heaven วันที่: 7 เมษายน 2560 เวลา:13:10:27 น.  

 
ละเอียดมากครับ เป็นคู่มือนำเที่ยวที่ยอดเยี่ยมเลยครับ


โดย: The Kop Civil วันที่: 7 เมษายน 2560 เวลา:13:43:04 น.  

 
กลับมาอ่านค่ะคุณซีริว พี่ชอบญี่ปุ่นในเรื่องของวินัยและความสะอาดค่ะ
โอ้..เมืองนาราอายุ 1300 ปีแล้ว ที่นี่วัดเยอะนะคะจัดเป็นเมืองที่เก่าแก่และมรดกโลกด้วย


โดย: เนินน้ำ วันที่: 7 เมษายน 2560 เวลา:17:04:04 น.  

 
ตามไปเที่ยวเมืองหลวงเก่าแก่กว่าเกียวโตอย่างนาราต่อจ้ะ
อ่านถึงการย้ายเมืองหลวงแล้วนึกถึงเมืองไทยเราเลยเนาะ

พี่ว่าเมืองเจริญแล้ว ไม่ว่าที่ไหนก็คงจะเหมือนกันหมด
จะอยู่นอกแค่ไหนก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อมไม่แพ้กันเลย
พี่ก็อยู่บ้านนอกนะ ที่นี่มีทุกอย่างพร้อมเหมือนเมืองใหญ่ๆ
บ้านพี่เดินไม่ถึง 300 เมตร ก็ถึงแมคโดนัลด์แล้ว

ที่พักถ้าได้เจ้าของใจดี เซอร์วิสดีแบบนี้อุ่นใจขึ้นเยอะมาก
พี่ก็ชอบนะใกล้ถนนคนเดิน ยิ่งเดินหาของกินนี่ถูกใจมาก
เหนื่อยก็กลับมานอนพักเลย ไม่ต้องเดินทางไกล
บริเวณสระน้ำซารุซาวะร่มรื่นน่าเดินเล่นมาก
วัดกังโกจิเสียดายข้างในถ่ายรูปไม่ได้อีกแล้ว
ภาพที่มีแผ่นหินเยอะๆตั้งในสวน ใช่สุสานหรือเปล่า

ไปเมืองไหนต้องลองกินอาหารของเมืองนั้น ไม่งั้นไปไม่ถึงนะ
ถ้าพี่ไปญี่ปุ่นก็กะจะลองให้ครบเลย ปลาดิบไม่เคยกินก็จะกินที่ญี่ปุ่นนี่แหล่ะ
ทำไมมืดเร็วจัง พี่ยังนึกว่าช่วงนี้ยังสว่างอยู่นะ

ยังเจ็บใจไม่หาย อิอิ เสียตังค์เยอะแล้วไม่ได้ดังใจเนอะ

กวางเยอะจริงๆ พี่ก็นึกว่าล่าไปทำอาหารได้ แหะๆ
เอาไปเลี้ยงที่บ้านพี่ว่าตัวใหญ่ไปมั้ง
วัดโทไดจิใหญ่โตอลังการ ร่มรื่นบริเวณกว้างขวางมาก
ถ้าไปช่วงดอกซากุระบานคงจะสวยงามมาก

ชีริว Travel Blog


โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 8 เมษายน 2560 เวลา:3:43:22 น.  

 
อ่านแล้ว เหมือนได้ไปเที่ยวกับนักประวัติศาสตร์ที่ชำนาญเรื่องญี่ปุ่น นอกจากจะได้ประโยชน์ในการนำเที่ยวแล้ว ถือเป็นข้อมูลเชิงลึกที่น่าสนใจครับ


โดย: Insignia_Museum วันที่: 8 เมษายน 2560 เวลา:15:58:54 น.  

 
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับน้องชีริว

เม้นท์ของน้องชีริว
ทำให้รู้ว่า
เถียงอะไรเถียงได้
แต่อย่าเถียงภรรยา 5555

ภรรยาสั่งอย่างไร
พึงปฏิบัติตามโดยดี



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 8 เมษายน 2560 เวลา:19:37:48 น.  

 
บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Tui Laksi Home & Garden Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Dharma Blog ดู Blog
สาวไกด์ใจซื่อ Review Food Blog ดู Blog
ฟ้าใสวันใหม่ Home & Garden Blog ดู Blog
ชีริว Travel Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


ปีหน้ากะไปค่ะ ทำการบ้านไว้ละ

อยากไปปั่น จกย. หรือ นั่งรถรอบเมืองค่ะ ^^


โดย: mariabamboo วันที่: 8 เมษายน 2560 เวลา:20:54:22 น.  

 
สวัสดี ตอนดึก จ้ะ น้องชีริว

กว่าจะอ่านจบ เป็นชั่วโมงนะเนี่ย เมือง นารา นี่น่ะ
เมืองนี้ ครูยังไม่เคยไป จ้ะ การเที่ยวเมืองที่คนไม่ค่อยไปก็ดีนะ ไม่พลุกพล่าน ครูเคยได้คุยกับเด็กแลกเปลี่ยนที่โรงเรียนครูตอนยังไม่เกษียณ เขาว่าเที่ยวญี่ปุ่นให้สนุก ต้องไปเมืองทางชนบท จะได้เห็นวิถีชีวิตจริง ๆ ของเขา จ้ะ
โห เกียวโต เป็นเมืองหลวงถึง 700 ปีเชียวเหรอ มากกว่า อยุธยาของเราอีก ของเราแค่ 417 ปี มั้งถ้าจำไม่ผิดนะ
นารา มีกวางเยอะ จริง ๆ ด้วย เห็นถ่ายรูปมาเห็นกวางหลายตัว ดูเชื่อง ไม่กลัวคน ประหยัดไม่ต้องไปเที่ยวสวนสัตว์เลย ห้าห้า
เจ้าของที่พัก ก็ใจดี แนะนำสถานที่เที่ยวอีก ไปครั้งนี้ ดูเหมือนจะโชคดีตลอดทริป นะ
ครูเห็น ป้ายก่อนเข้าร้านซื้อสินค้าของที่ระลึก มีคำว่า ของฝาก เป็นภาษาไทยด้วย หรือ เธอไปเขียนเอง ห้าห้า ไม่งั้นเจ้าของร้าน น่าจะเป็นคนไทยหรือเปล่า อิอิ

ชอบศาลเจ้า คาสุกะ นะ มีเสาโคมเยอะมาก ตั้ง 3000 ต้น แสดงว่าต้องเป็นวัดใหญมาก กว้างขวางมาก
พระพุทธรูป ของวัด โทไดจิ ก็งดงามมาก

โหวดเลยจ้ะ หมวดท่องเที่ยวนะจ๊ะ


โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 8 เมษายน 2560 เวลา:23:19:42 น.  

 
ตามมาเที่ยวกับคุณชีริวแล้วนึกถึง นารานี่เดินจนเมื่อยเลยค่ะ จี๊ดจ๊าดจำได้ว่าเดินจากป้ายรถเมล์ แล้วไปวัด แล้วไป..... โอยเยอะ เหนื่อย ไม่ไหว ขอขี่หลังคุณชีริวไปแทนจะได้ไหม
อ้อ ....... แม้จี๊ดจ๊าดจะชอบพวกโบราณสถานโบราณวัตถุ พิพิทธภัณฑ์เก็บของเก่า ชอบดูของโบราณก็ตามที
แต่พอไปเที่ยวเมืองนอก จี๊ดจ๊าดไม่ยอมเข้าพิพิทธภัณฑ์เลยค่ะ แม้แต่พิพิทธภัณฑ์ปลายังไม่ยอมเข้าเลย เน้นเที่ยว เน้นกิน เน้นเล่น อายจุง
เพราะงั้น ต้องมาขอเกาะติดคุณชีริวเข้าพิพิิทธภัณฑ์ล่ะค่ะงานนี้

ว่าแต่ร้านข้าวต้มไรๆนี่ ถ้าไปคนเดียวมันไม่เวิร์คจริงๆนะคะ มันจะกลายเป็นร้านตามสั่งไปซะจริงจัง ฉะนั้นพอจะไปทานไร จะโทรจิตไปหาคุณชีริวกะคุณต่อให้มากินเป็นเพื่อนกัน จะได้ไม่เป็นตามสั่ง

โหวต Travel Blog นะคะ


โดย: จี๊ดจ๊าด (บ้านต้นคูน ) วันที่: 9 เมษายน 2560 เวลา:0:16:03 น.  

 


มาอ่าน มากิน มาเที่ยว ตามคุณชิริว...อิอิ


โดย: ออมอำพัน วันที่: 9 เมษายน 2560 เวลา:0:16:39 น.  

 
หูย อะไรกันเนี่ย ตอนที่ 4 แล้วพึ่งจะมาตาม อ.เต๊ะ

แอบดีใจนะเนี่ย เย้ย 555

คุณชีริวร้อง ฮึ่มๆ เดี๋ยวเถอะมรึง
ช่วง happy hour ของเอ็งหมดแล้ว

อย่างเอ็งมันต้องเจอ บล็อกประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น เต็มรูปแบบ ย้อนหลังไป200ปี ถึงจะสาสม 555

อ.เต๊ะ ก้มหน้ารับกรรม เม้นท์ต่อก้ได้ แง๊ๆ555

เรื่องประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นนี่ ในสมอง อ.เต๊ะ มีข้อมูลน้อยมาก
ที่จำได้ก็มีแค่ โองามิ อิโต กับไดโกโระ ซำมูไรพ่อลูกอ่อน

กับ อิกคิวซัง แค่นั้นเองครับ แฮ่ๆ555

คุณชีริวบอก แค่นั้นก็พอแล้ว ให้จำแยะเดี๋ยวอาการเอ็งจะหนักไปกว่านี้ เย้ย 555

แล้วไอ้ที่เค้าฮิตๆกัน ตึก7ชั้นในตำนาน ชีริวไม่ไป ผ่าไปเที่ยวเมืองเก่า รู้อนาคตเลยอะ วัดเต็มๆ แหงเลย ขอทำใจแพร้บ แง๊ๆ555

ตัดกลับมาเดินเข้าวัดทั้งน้ำตา 555 วัดโคฟุคุจิ นี่น่าทึ่งมากเลยนะครับ
ตรงที่การออกแบบ โครงสร้าง เสาผนังหลังคา ประตูหน้าต่าง นี่
ทำได้โดยไม่ใช้ตะปูซักตัว

อ.เต๊ะ เดาเอาว่า โดเรมอน คงแอบเอา เครื่องยิงแม็กลม ไปให้ช่างสมัยนั้นใช้ยิงผนัง แหงๆ ชัวร์ป้าบๆ เลย อิอิ

ส่วนเรื่อง คนยุค Silent Generation นี่ สมัยตอนที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ระเบิด ดูแล้ว คนที่เสียสละชีวิต เข้าไปกู้ไปซ่อมนี่
น่ายกย่องมากเลยนะครับ นับถือความเด็ดเดี่ยวของคนญี่ปุ่นเค้าจริงๆ

ตรงนี้ต้องชมเจ๊ เอ๊ยคุณชีริวด้วย มีการแทรกดราม่า เย้ย เสริมแนวคิด ที่เป็นประโยชน์ แง่มุมในชีวิต ดีกว่าคนที่เอาแต่ไปช็อปชั้น4 ตึก7ชั้นในตำนาน แบบ อ.เต๊ะ แยะเลย อิอิ

สำหรับ อ.เต๊ะ แล้ว ชอบบ้านอนุรักษ์มาก การวางแปลน
สไตล์ดั้งเดิม มีสวนตรงกลาง ทางเดินและห้องต่างๆล้อมรอบนี่ ได้ทั้งประโยชน์ใช้สอย และความงาม ครบครันจริงๆ

ว่าแต่ว่า เค้าให้เช่านอนซักคืนมั้ยครับ คราวหน้าไปคุณชีริวถามให้เค้าหน่อยนะ ตะเอง อิอิ

ชีริวบอก เค้าไม่ให้นอนโว้ยยยย ข้าถามแล้ว
เค้ากลัวของจะหาย เดี๋ยวเกิดเอ็งงัดลูกกรงระเบียงเค้าใส่กระเป๋ามาเป็นของที่ระลึก ใครจะรับผิดชอบ ขนาดข้ายังม้วนเสื่อทาทามิ มาได้แค่ผืนเดียวเอ็ง เวลาไม่พอ เย้ย 555

พักเม้นท์ครึ่งแรก ยาวเกิ้น อัดอั้นตันใจมาจากไหนเนี่ย
เขียนบล้อกแบบนี้แกล้ง อ.เต๊ะ ชัดๆ นะครับนี่
น่าจะซอยซัก 20ตอนจบ เป็นซีรียืไปเล้ยย อิอิ

ชีริว บอก โสนะน้า เอ็งนานๆมาที ต้องโดนแบบนี้แหละ เย้ย555








โดย: multiple วันที่: 9 เมษายน 2560 เวลา:4:10:55 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับน้องชีริว



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 9 เมษายน 2560 เวลา:6:36:37 น.  

 
โหล ๆ ๆ ๆ เมื่อไหร่เข้าเมืองอีกทีอ่าาา


โดย: Close To Heaven วันที่: 9 เมษายน 2560 เวลา:16:35:07 น.  

 
ยังสุ่มหาทุกอย่างที่บ้านป่าไม่ได้หรอกค่ะ คุณชีริว
น่าจะได้สัก 5%

ไม่มีใครรู้ทุกอย่างในโลกนี้หรอกค่ะ เอาแค่รู้อะไร
ก็รู้ให้จริงสักอย่างก็พอ เรื่องต้นไม้นี่ พี่ก็ยังรู้ไม่จริงเลย
แค่สนใจมากเท่านั้น

ขอบคุณที่แวะไปชทนะคะ ขอบคุณที่โหวตให้ด้วยค่ะ



โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) วันที่: 9 เมษายน 2560 เวลา:19:13:58 น.  

 
โห...เล่าเรื่องเพิ่มสาระความรู้ได้ดีเยี่ยมด้วย
ภาพสวยมากเลยนะคะ เราชอบคร้า
คนในญี่ปุ่นก็ชอบเที่ยววัดมากนะ น.ร.ไปทัศนศึกษากันเยอะอีกด้วย
เวลาไปเที่ยวไกลๆได้เข้าร้านสะดวกซื้อก็ประหยัดดีไปอย่างในมื้อง่ายๆ
เราก็ชอบแวะ 7 ข้างทางบ่อยๆยามเดินทาง
ขอบคุณรีวิวคร้า...ช่วงนี้ดองบล๊อกนานหน่อยจร้า

เราเป็นพวกเขียนบล๊อกแนวหลากหลาย ตามสภาวะคะ
ที่เขียนลงบล๊อกไว้นะ...คือชอบทำทั้งหมดเลยอ่ะคร้าคุณชีริว

ชีริว Travel Blog


โดย: Tui Laksi วันที่: 9 เมษายน 2560 เวลา:23:20:05 น.  

 
ตามมาเที่ยวต่อครับ
คนที่ลอดผ่านโพรงไม้ใช่คนชีริวหรือเปล่าครับ


โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 9 เมษายน 2560 เวลา:23:29:57 น.  

 


สวัสดียามเช้าครับ

จะว่าไปน้องชีริวก็เริ่มเข้าใจในสัจธรรมแห่งภรรยาแล้วนะครับ 5555




ตอนยังไม่มีเมีย
เห็นเค้าแซวๆกันก็ขำ
นึกว่าเป็นเรื่องโจ๊ก
พอแต่งงานปุ๊บ

เข้าใจสัจธรรมถ่องแท้เลย 555




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 10 เมษายน 2560 เวลา:6:39:36 น.  

 
ตามมาเที่ยวด้วยค่ะ

ชีริว Travel Blog

ผู้หญิงปกครองเมื่องสมัยก่อน ดูดีเนอะ เชียร์ผู้หญิง

มาสคอท ก่อนอ่านคำบรรยาย แอบ งง ว่าน่าจะน่ารัก พออ่านที่เขียนบอกไว้ 55555 เนอะๆ เห็นด้วยเลย

เที่ยวยังไม่จบ งานเข้า ไปทำงานก่อนเดี๋ยวตามมาเที่ยวต่อ


โดย: kae+aoe วันที่: 10 เมษายน 2560 เวลา:9:42:40 น.  

 
สวัสดี จ้ะ น้องชีริว

แวะมาเยี่ยมตอนดีก จ้ะ เป็นไงบ้าง เตรียมอัพบล็อกเมือง นารา ตอน 2 จบยัง ของครูตอนสุดท้ายคิดว่า อีก 2 วันน่าจะได้อ่านตอนจบทริป จ้ะ อิอิ

อัพบล็อกเสร็จอย่าลืมไปเคาะประตู นะจ๊ะ


โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 10 เมษายน 2560 เวลา:21:19:28 น.  

 
"เรื่องเก่า ๆ ไว้ใจเรา" (สโลแกนชีริว)

นารานี่เก่าจริงครับ
บรรยากาศคนละแบบกับซากอิฐซากปูนบ้านเราเลย
ของเค้าพังเนื่องจากแผ่นดินไหว, ไฟไหม้ ฯลฯ ก็สร้างใหม่
ก็ดูใช้การได้เสมอ อะไร ๆ ก็ดูดี สะอาดสะอ้านไปหมด ^^
แต่...เอ่อ...
เซนโตคุง หน้าตาน่ากลัวอะ 0_0
ชิกะมาโระคุง ดูคล้าย ๆ ช็อปเปอร์ค่อยดูเป็นมิตรหน่อย
แต่ถึงขนาดยืนแทนลุงจ่าเฉยร้านแมคได้นี่ แสดงว่าเจ๋งจริง ^^

วัดโตไดจินี่อลังการสุดยอดจริง ๆ เป็นสถานที่ที่ต้องไปเยือนเลย
ที่สำคัญคือถ่ายรูปได้ด้วยแบบไม่มีกั๊กนี่แหละ >_<


ป.ล. พวกค่าที่พัก และค่าอาหารตามร้านที่คุณชีริวนำมารีวิว
น่าจะเขียนกำกับไว้ซักนิดนะครับ ว่าเป็นราคาสำหรับ 3 ท่าน
คนที่เพิ่งมาอ่านดูแล้วจะได้พิจารณาได้ถูกว่าคุ้มไหม ^^


โดย: ทุเรียนกวน ป่วนรัก วันที่: 10 เมษายน 2560 เวลา:21:34:40 น.  

 
ยางงงไม่เปลียนบล็อกอีก
เดี๋ยวรินดองบ้างล่ะสงกรานต์นี้ไปอาบแดดบ้านนอก 555
รูปในอ่างถายเองจ้าาา เพราะกล้องมีไวไฟแระตอนนี้ส่วนใหญ่จะถ่ายเอง เห็นมือถือวางข้างๆ อ่างนั่นแหละ กดตั้งเวลาได้เลย
สะดวกกว่าเยอะ
รีวิวทำเร็วอยูนะ ไปกินบุฟเฟต์มาเมื่อวาน ออนล่ะเคลียร์รีวิวรัวๆ
แต่ไม่ได้ตั้งไว้หน้าหลักหรอกพวกนั้น 555



โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 10 เมษายน 2560 เวลา:23:05:01 น.  

 
สวัสดีค่ะ

ถึงขนาดยอมแพ้เลยหรือคะ

อ่านยากจริงอะ แสดงว่าอ่านสำนวนคุณหญิงวิมลไม่รอด5555555

แต่ยังไงก็ขอบคุณสำหรับโหวตค่ะ


โดย: เรียวรุ้ง วันที่: 11 เมษายน 2560 เวลา:11:31:38 น.  

 
โห คุณน้องเขียนเอ็นทรีนึงใช้เวลาเป็นสัปดาห์หรือเปล่าเนี่ย
ขยันสุดๆ
อัดแน่นไปด้วยสาระและภาพสวย

พี่นี้แค่อ่านตามก็ตาลายแล้ว
รวบรวมเป็นหนังสือรวมเล่มดีป่ะ


โดย: secreate วันที่: 11 เมษายน 2560 เวลา:16:19:57 น.  

 
สวัสดีค่ะ คุณชีริว
เปิดหน้าบล็อกนี้อ่านอยู่เห็นตอน5เด้งมาไวๆ อิอิ
เมืองนารานี่แน่ๆเลยที่นุ่นเคยดูซีรีย์ญี่ปุ่นเรื่องนึง
เกี่ยวกับกวางนึี่แหละค่ะ ต้องใช่แน่เพราะมีกวางเป็นมาสคอตประจำเมือง ขนาดเอาไปเป็นหุ่นแทนเนอะ เก๋มาก
เป็นเมืองที่น่าจะสงบดีจัง ชอบที่ให้เอากวางไปเลี้ยงได้จัง
ดีกว่าปล่อยเค้าอยู่เต็มเมือง แต่ใครจะเข้าข่ายเลี้ยงได้ก็คงยากเหมือนกันเนาะ
ญี่ปุ่นห้องพักแพงมากเลยอ่า ต้องมีเงินเท่าไหร่นะจะได้อยู่เที่ยวแบบดีๆ
เกสต์เฮาส์น่รักอยู่นะคะ เล็กแต่ดูอบอุ่นดี อยากเห็นห้องน้ำไม่ถ่ายมาบ้าง ><
จริงๆแล้วชอบการ์ตูนญี่ปุ่น ซีรีย์ญี่ปุ่น หนังด้วย แต่ไม่เคยอยากไปญี่ปุ่นเลย เห็นเพื่อนเที่ยวกันเอามาเล่าให้อ่านก็อิ่มแล้ว เยอะและละเอียดกว่าเราไปเองด้วย อิอิ
วัดสวยๆทั้งนั้นเลย ประวัติความเป็นมาก็เยอะ
จำได้ยังไงนะ นี่ขนาดไปเที่ยวระนองมา ยังคิดแล้วก็เหนื่อยเลยค่ะอยากอัพบล็อกเล่าให้เพื่อนๆบ้างก็ขี้เกียจทำรูป
เด๋วพรุ่งนี้ตามไปบล็อก5ค่ะ วันนี้โหวตหมดแล้ว เด๋วลืม
ขอบคุณสำหรับรีวิวค่า




โดย: lovereason วันที่: 11 เมษายน 2560 เวลา:21:24:14 น.  

 
ขอบคุณที่แบ่งปัน


โดย: Kavanich96 วันที่: 12 เมษายน 2560 เวลา:2:29:38 น.  

 
หลายวัดที่บอกว่าบูรณะขึ้นใหม่ ต่อให้ใหม่ก็สร้างมานานโข ไม่ได้อ่าน พี่คงดูไม่ออกหรอก

มาสคอต น่าเกลียดจริง นึกว่าประเทศเจริญแล้ว เค้าคงไม่ทำอะไรไม่เข้าท่า ... รู้สึกดีกับบ้านเราขึ้นเยอะแฮะ

พิพิธภัณฑ์หลายที่ (บ้านเรา) ที่ห้ามถ่ายรูป พี่ไม่ค่อยได้แวะเหมือนกัน

ซูชิ คำใหญ่คำโตดีเนาะ

ชอบภาพคุณลุงลงบันได กับภาพใบไม้เปลี่ยนสีค่ะ

คงเป็นคนรุ่นนี้สินะ ที่กำลังทำลาย หึหึ


โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 25 เมษายน 2560 เวลา:18:29:38 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ชีริว
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 89 คน [?]





**5 Latest Entries**
RedLife
เบตง
โดราเอม่อน ตอน ปืนหยั่งรู้ความคิด
ปัว-บ่อเกลือ
โดราเอมอน ตอน ฝาแฝดของโนบิตะ


Friends' blogs
[Add ชีริว's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.