อุปสรรค รัก ต่างด้าว แถม(จะ)เลข 4 (ตอน 2)
ตอนที่ 2 Broken heart 💔
อกหัก แม่งก็ไม่ตายนะ

คลิก...........
เจอภาพแฟนตัวเองถ่ายคู่กับหญิงอื่น พร้อมแคปชั่นของเพื่อนนางว่า ไม่ได้เจอเพื่อนคนนี้นานแล้ว วันนี้นางพาแฟนมาฉลองเค้าท์ดาวท์.............. แล้วกรูหล่ะใคร ช็อค สิ คะ ในยุคโลกออนไลน์ก็มีทั้งข้อดี ข้อเสีย นะว่าไหม แต่อย่างน้อยเราก็สืบจากโซเชียลจนรู้ความจริงว่า เมิงมันเลว!!!!!!!!!!!!!! เลิกสิคะ รอไร ......
เอาหล่ะเข้าเรื่อง ความรักของคนอายุจะเลข 4 ก็ มีหลากหลายอารมณ์ และ รสชาติ จริงๆก็น่าเป็นเหมือนกันทุกคนแหล่ะ  รักแรกรุ่นก็หวานแหวว โลกชมพู  อะไรๆก็สวยงามไปหมดแหล่ะจริงไหม๊  มาเริ่มต้นรักแรกของอิฉันกันเลยจร้า เริ่มขึ้นตอน ม.3 จริงๆกว่าจะมีความรู้สึกแบบนี้ได้ ก็ใกล้จะจบ ม. 3 แหล่ะ เป็นเด็กบ้านนอกอะนะ แถมพ่อแม่ ขึ้นชื่อในเรื่องความเฮียบมาก ไม่เคยได้ออกไปเที่ยวกับเพื่อน แม่อนุญาตให้เพื่อนมาบ้านได้ แต่ไม่อนุญาตให้ออกจากบ้านง่ายๆ ต้องรู้จักพ่อแม่ หรือ ไปพร้อมๆกับพ่อแม่เพื่อนเท่านั้น อย่าคิดว่าจะรอดสายตา ก็มีการจีบกันที่โรงเรียน ซึ่งจริงๆแล้วจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าทำไมมันมาจีบ แต่ที่พีค คือ เพื่อนสนิทมันก็มาจีบจร้า เหมือนรัก 3 เศร้านะ สมัยนั้นไม่มีมือถือนะเขียนจดหมาย และ การ์ด แล้วเอามาวางใต้โต๊ะเรียนแทน 555555 ดู โบราณนะ แต่น่ารักดี ใครเคยอยู่จุดนี้บ้าง พูดมาเลย  และฉันก็มีคนที่เอากระดาษมาให้เยอะมาก จริงๆก็ไม่ได้สวยมากนะ แค่มีเสน่าเท่านั้น หุหุหุหุ ขนาดเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่สุดของบ้านนะเนี๊ยะ  เพราะลูกผู้หญิงที่บ้านจะหน้าตาดีทุกคน มีเชื้อจีนเลยจะผิวขาว ยกเว้นอิฉันนี่แหล่จร้า จะออกไปทางคุณยาย ผิวแทน หน้าไทยๆ และเป็นคนที่ชอบทำกิจกรรมมาตั้งแต่เด็ก เลยอาจจะมีแฟนคลับเยอะสักหน่อย 
สมัยนั้นหนุ่มๆจีบสาว กันก็มักจะแว่นมอเตอร์ไซด์ ผ่านหน้าบ้าน เท่านั้นยังไม่พอจร้า ยังอัดเพลงใส่เทปมาให้อีกด้วย นอกจาก กระดาษโน็ต และ จดหมายแล้ว ส่วนเวลาคุยกันก็ต้องไปใช้บริการตู้โทรศัพท์สาธารณะ เหรียญนี้ใส่ถุงพลาสติกมาเลย ใครต่อฉันรอยาวไป 5555 ไม่กล้าใช้โทรศัพท์บ้านเดี๋ยวแม่รู้ และ ช่วงเวลานั้นก็ผ่านไป ความรักช่วงนั้นแบบเด็กๆ ไม่มีอะไรหวือหวาเล้ยยยย เป็นรักแบบเด็กๆ เพราะเราต้องอยู่ในกรอบ สังคมต่างจังหวัดอย่าได้ทำอะไรผิดพลาด เพราะจะรู้กันถ้วนทั่ว อีกอย่างแม่กับป๊าเป็นที่รู้จักของคนส่วนใหญ่ในอำเภอด้วย
จากเด็กบ้านนอก กระโดดเข้ามาอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยแสงสี ตื่นตาตื่นใจ และไปเรียนพิเศษที่สยามได้พบเจอเพื่อนใหม่ๆ และเข้าสู่การแข่งขันเพื่อเตรียมแย่งพื้นที่เข้าสู่ ม.ปลาย ซึ่งก็ได้เรียนหญิงล้วนตามที่ แม่ตั้งใจไว้ ซึ่งที่นี่ทำให้โลกหลายอย่างฉันเปลี่ยนไป มันเป็นความรักที่จริงจังขึ้น มีโรงเรียนชายล้วนอยู่ติดกันขนาดนี้ แต่เชื่อปะว่าผู้ที่ฉันเป็นแฟนด้วยเรียนอินเตอร์ทั้งนั้น เจอกันได้อย่างไงนะเหรอง่ายมากเพราะยุคนั้นมีเว็ปไซด์ที่เพื่อนๆชวนไปนั่งเล่นหลังเลิกเรียน ชื่อว่า เพิร์ซ ใครเคยเล่นมั้งอะ บอกมาเลยนะ 555  จึงทำให้ได้รู้จักผู้ชาย 2 คน ซึ่งกลายมาเป็นแฟนเราในอนาคต คนแรก ชื่อ บี เรียนอยู่ ไอเอสบี เป็นลูก สส. เก่า เรานัดเจอกันและเดทกันเรื่อยๆจนเป็นแฟนกัน เค้าเป็นคนที่น่ารักมาก เป็นผู้ชายโรแมนติกมาก มีอะไรพิเศษในวันสำคัญเสมอๆ ตัวก็จะอ้วนๆนิดหนึ่ง น่ารัก ขาวๆ ใส่แว่น อายุน้อยกว่าเรา 1 ปี  เค้าไม่ได้ดีแค่เรานะแต่ดีกับเพื่อนๆเราด้วย  เวลาขับรถมารับเราก็จะขนเพื่อนๆเราไปสยามด้วยกัน คบได้ประมาณ 1 ปี เราก็เลิกกัน ก็มีร้องไห้แหล่ะเรื่องธรรมดา และคิดมาตลอดว่าไม่ใช่ความผิดของนางหรอก เป็นเราเองที่ไม่ดีเอาแต่ใจมากมายมหาศาลและตอนนั้นก็มีคนมาจีบ เรื่อยๆด้วย แบบวิ่งมาขอเบอร์ไรงี้เวลาเลิกเรียนพิเศษ แต่เรื่องราวกลับกลายเป็นว่าจริงๆเค้าแอบคบผู้หญิงอายุมากกว่าเป็นพยาบาลไปพร้อมๆกัน เพราะผู้หญิงคนนั้นโทรหาเรา และ มาปรึกษาเรื่อง บี เราก็เอ๋อๆอยู่แต่เรื่องมันผ่านไปแล้ว ก็เลยเป็นที่ปรึกษาให้โดยปริยาย ซึ่งเค้าก็บอกว่าบี รักเรามาก และเป็นเค้าเองที่ไม่ปล่อย บีเค แถมยังโดนทำร้ายร่างกายด้วย ย้อนนึกถึงตัวเองที่ทำกับบีเค ทั้งเอาแต่ใจ ปาของใส่ เดินลงจากรถกลางถนน (คิดว่าตัวเองเป็นนางเอกมิวสิค หรือไงเนี๊ยะ) สารพัด แล้วก็ตัวเล็กอย่างกะมด ไม่น่าเชื่อเลยว่าผู้ชายที่ อ่อนโยน และจิตใจดี จะทำร้ายผู้หญิงได้ 
ความรักครั้งที่ สอง คนนี้ชื่อ บอม และคือคนที่รู้จักพร้อม บี แต่ตอนนั้นพี่เค้ามีแฟนแล้ว เราก็คุยกันทางโทรศัพท์บ้าง และ ทางเพจ ส่งข้อความหากัน แบบพี่น้องมาตลอด หลังจากที่เราโสดทั้งคู่ พี่เค้าก็ถามเราว่าเป็นแฟนกันใหม๊ เพราะเราคุยกันรู้เรื่องเข้าใจกันดี ตอนนั้นวางก็ ตกลงเป็นแฟนกับพี่เค้า เราเคยเจอหน้ากันเพียงครั้งเดียวซึ่งเป็นเรื่องบังเอิญมาก เรานัดเค้าท์ดาวท์กับเพื่อนแถวสยาม ซึ่งต่างคนต่างนัดเพื่อนที่ร้านดันกิ้นโดนัท พอดี เลยได้เจอกันแป๊บหนึ่ง ตอนนั้นก็มั่นหน้า มั่นโหนก ตัวเองระดับหนึ่ง หุหุหุ คิดบวกแบบสวยๆ ไม่มั่นใจในตัวเองแล้วจะให้คนอื่นมามั่นใจแทนเหรอจริงไหม๊ คืนนั้นก็เลยได้คุยโทรศัพท์กับพี่เค้านานมาก ราวกับผ่านช่วงปีใหม่ไปด้วยกันเลย 
พี่บอมเป็นคนน่ารัก โรแมนติกไม่ว่าจะครบรอบ 3 เดือน 6 เดือน มีช่อดอกไม้เซอร์ไพร์ซ มีของขวัญตลอด พี่บอมเป็นเด็กเรียน และ เรียนร่วมฤดี ก่อนจะไปเรียนต่อปริญญาตรี และ โท ที่อเมริกา และที่สำคัญ พี่เค้าเอาเก่งมาก 555555 วันละ 4-5 รอบ  นี่เป็นรักที่เรามีความสัมพันธ์แบบลึกซึ้งครั้งแรกเลย ซึ่งอยากบอกว่าเข้าไม่ได้จร้า เพราะมันแน่นมาก นั้นเอง พี่เค้าเลยไปหยิบโลชั่นมาทาที่ cock ตอนนั้นตกใจมาก บอกเดี๋ยวแสบน้องพอดี พี่เค้าบอกไม่เป็นไรเชื่อดิ ตอนคบกับบี เรายังไม่ได้อยู่คนเดียว เลยไม่เคยค้างกับบี ได้แค่จูบ ลูบๆคลำๆ เรื่องเพศสัมพันธ์มันคือเรื่องธรรมชาติ แต่ก็ต้องรู้จักป้องกันนะจ๊ะเด็กๆ บอกผู้เลย no condom no sex นะจ๊ะ หรือ หลั่งนอก เท่านั้น จริงๆอย่าอายนะเพราะภาระหนักจะตามมาหากเราไม่พร้อม เข้าโหมดเรียนกันไป 
เราเริ่มรักระยะไกล ตอนเรียน ม.ปลาย เราเขียนจดหมายหาพี่บอนเสมอ แต่ตอนนั้นก็มี อินเตอร์เนทแหล่ะ แต่เราว่าจดหมายมันเป็นอะไรที่คลาสสิคและรู้สึกดีกว่าจดหมายอิเลคทรอนิกส์ เราส่งของขวัญได้ด้วยเวลาโอกาสพิเศษ คิดดูสิ 7 ปี ที่คบกัน จดหมายเราจะมากมายขนาดไหน ช่วงแรกที่ไปเรียน 3 เดือน กลับมา 1 ครั้ง หลังจากนั้นก็ 6 เดือนกลับมา 1 ครั้ง และ เริ่มเป็นปีละ 1 ครั้ง พี่เค้าจะโทรหาเราอาทิตย์ละ 1 ครั้ง คุยกันแบบยาวนาน อัพเดททุกเรื่องราว ฤดูกาลเปลี่ยนไปแต่เราก็ยังเหมือนเดิม ความรักไม่ได้ลดน้อยลงไป เพราะนอกจากอัพเดทเรื่องราวชีวิตแล้ว เราก็ต้องกระชับรักเรื่องเซ็กซ์ผ่านโทรศัพท์ แบบ sex phone ไรงี้ เพราะระบบการสื่อสารมันยังไม่ง่ายเหมือนแบบนี้อะ 
พอพี่เค้ากลับมาไทยแต่ละทีเราก็คลุกอยู่ที่บ้าน และ ในห้องทั้งวัน ออกมากินข้าว และ เข้าห้องดูหนัง ออกไปกินข้าวข้างนอกบ้านบ้าง ไปกินข้าวกับเพื่อนพี่เค้าบ้าง ไปลั้ลล้ากับเพื่อนๆเค้าบ้าง เวลาผ่านไปราวกับโกหกพี่บอมเรียนจบโท กลับมาเมืองไทย แต่ทุกอย่างกลับเปลี่ยนไปอย่างไม่มีวันเหมือนเดิม ด้วยความที่เค้ารวยมาก ขับรถหรู ผู้หญิงพุ่งเข้าใส่เป็นเรื่องธรรมดา แม้พี่เค้าไม่ได้หน้าตาดีมากก็ตาม เราเริ่มมีช่วงเวลาที่ห่างกัน เราใกล้จบมหาวิทยาลัย ส่วนเค้าหางาน ก็เจอกันน้อยลง เพราะต่างคนต่างยุ่ง พี่บอมเริ่มเปลี่ยนไปบ้าง ไม่รับสาย ไม่โทรกลับ เริ่มจำวันสำคัญไม่ได้ (สมองเริ่มเสื่อม 555) และคืนที่ทำให้เราร้องไห้เหมือนคนบ้า ก็มาถึง  เราโทรหาพี่บอน.............................
ตื้ด...........ตื้ด...............
เรา : ฮาโล (เสียงใส แฟนรับสาย)
ปลายสาย : สวัสดีคะ นั้นใครเหรอคะ
เรา: เรา แฟนพี่บอม คะ  แล้วนั้นใครเหรอคะ 
ปลายสาย : อ้อ แฟนเก่า พี่บอมนะเหรอคะ ส่วนเรา โบว์ แฟนใหม่พี่บอม คะ มีอะไรหรือเปล่าคะ 
เรา : (คือ งง มาก กรูเป็นแฟนเก่าตอนไหนอะ กูไม่เคยเลิกกับพี่บอนเลยจร้า กูต้องถามสิว่าเมิงอะคือใคร มารับสายแฟนกรูเนี๊ยะ) ก็ไม่รู้ว่าผีนางเอกสิง ตั้งแต่เมื่อไหร่ เลยตอบไปว่า คะ รบกวนฝากให้พี่บอมโทรกลับด้วยนะคะ 
ปลายสาย : บอกไปก็ไม่รู้พี่บอมเค้าจะรับสายหรือเปล่านะคะ แล้วก็อย่าโทรหาพี่บอนอีกนะคะ ขอบคุณคะ ตุ๊ด..........ตุ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด 
เรา ................................................ คือเหมือนโดนฟ้าผ่าลงมากลางกบาล โลกหมุนไปหมด เกิดอะไรขึ้น เหมือนยืนอยู่ในห้องกระจก แล้วกระจกเกิดระเบิดใส่ คือมันรู้สึกเจ็บไปทุกส่วนของร่างกาย โดยเฉพาะหัวใจ นี่เป็นอกหักครั้งแรกในชีวิต ตอนนั้นทำอะไรไม่ถูกคบกันมา 7 ปี เราไม่เคยนอกลู่นอกทางเลย ร้องไห้หนักมาก แหกปากด้วย เหมือนโดนรถแบล็คโฮล ทับเท้า ไรงี้ 555555 แต่อารมณ์นั้นคือขำไม่ออก และ รีบโทรหาเพื่อนสนิท เล่าเหตุการณ์ให้ฟัง ร้องหนักมาก จนเพื่อนพูดว่า ใจเย็นๆนะเมิง คือกูไม่รู้เรื่องเลยว่าเมิงพูดว่าอะไร เลยต้องอดทนอดกลั้นไว้ เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อนบอกกูว่าเมิงโทรกลับไปหาพี่บอน ก่อนถามความจริงจากปากเค้า หรือไม่ก็ไปคุยกับเค้าที่บ้านเลยดีไหม 
ตอนนั้นก็ไม่รู้ผีบ้าอะไรเข้าสิง คือ บอกว่าไม่ กูมีศักดิ์ศรีพอ ในเมื่อเค้ามีคนใหม่กูก็จะตัดเค้าทันทีเหมือนกัน พูดไปตอนนั้นไม่ได้ดูสภาพตัวเองเล้ยยยยยย เก็บเสื้อผ้าไปอยู่คอนโดเพื่อนสนิท ร้องไห้ทั้งคืน ตื่นเช้ามา อย่าเรียกว่าตื่นเช้าเพราะไม่ได้นอน ชวนเพื่อนออกไปซื้อซิมใหม่หน้าปากซอย ตอนนั้นซิมหาซื้อง่ายไม่ต้องลงทะเบียน ออกไปทั้งตาบวมๆ หน้าสดยิ่งกว่าปลาในตลาดอีก ได้ซิมใหม่มาใส่โทรศัพท์ เลยจร้า แล้วกำลังจะตัดซิมเก่าทิ้ง เพื่อนวิ่งมาห้าม เมิงคะ ควรเม็มเบอร์ให้เรียบร้อยก่อน เมิงจะติดต่อครอบครัวอย่างไงคะ และยังไม่ได้บอกใครเลยว่าเปลี่ยนเบอร์ อกหักมักทำให้กราฟความฉลาดคุณลดลง 99.99% แต่ไม่เคยคิดทำร้ายตัวเองนะ อยู่คอนโดเพื่อนประมาณ 1 เดือน และกลับไปนอนคอนโดตัวเอง ตอนนั้นแม่มาหา และ ได้เล่าเรื่องนี้ใหม่แม่ฟังว่าเลิกกับพี่บอม แล้ว และคิดว่าตัวเองอยู่ไม่ได้ วันๆกินอะไรไม่ได้ เอาแต่ร้องไห้ สิ่งที่ทำให้มีสติมากที่สุด คือการได้เห็นน้ำตาแม่ และอ้อมกอดของแม่มันอบอุ่นยิ่งกว่าอะไรทั้งหมดจริงๆ ทำให้คิดได้ และ กลับเป็นคนใหม่ได้เหมือน เปิดสวิทออน เลิกร้องไห้ และ move on อย่างชีวิตอย่างรวดเร็ว เพราะชีวิตมีอะไรให้ทำอีกเยอะ ก็แค่ผู้ชาย 1 คน ที่ไม่รักเรา ปล่อยแม่งงงงงง
3 เดือน ผ่านไป มี อีเมลจากผู้ที่ทิ้งเราไปส่งมา ........... เฮ้ยนั้นมันเมลพี่บอม นี่น่า  คิดในใจ ควรเปิดอ่านเลยดีไหม หรือ ควรจะทิ้ง 2-3 วันก่อน เดี๋ยว มันจะหาว่าอยากรู้จนตัว สั่น ว่าแล้วก็กดอ่านทันที นี่แหล่ะนะ ชะนี ที่ยังลืมไม่ลง!!!!!!!!!! ข้อความในเมลทำให้ตัวเองถึงกับ งง มาก ว่าทำไมเรื่องมันเป็นแบบนี้หล่ะ ข้อความในเมล คือ "เธอหายไปจากชีวิตพี่ทำไม ติดต่อไม่ได้เลย เปลี่ยนเบอร์ทำไมไม่บอก พี่ไม่รู้จะติดต่อเธออย่างไง ไปที่บ้านป้าเค้าบอกเธอย้ายไปอยู่คอนโดแล้ว พี่ขอเบอร์ติดต่อหน่อย อันนี้เบอร์พี่นะ ช่วยติดต่อพี่กลับหน่อยได้ไหม อย่าหายไปจากชีวิตพี่แบบนี้ พี่อยากเจอเธอมากเลยนะรู้ไหม "
คุณพระเกิดอะไรขึ้น นี่กรูเป็นคนที่คิดไปเองเหรอเนี๊ยะ และคิดในใจ ว่า บ้าน่า ได้ยินมากับหู แล้ว สรุปนังนั้นมันเป็นใครกันหล่ะ  อ่านเสร็จก็ยังไม่ตอบรู้สึกงุนงง กับ ชีวิต โทรหาเพื่อนสนิทก่อนเลย เฮ้ยยยยย แก เรื่องมันเป็นแบบนี้ วะ เอาไงดีวะ  เพื่อนบอก กรูบอกเมิงแล้วให้ถามพี่บอม ก่อน ถ้าเมิงอยากเจอก็ตอบเค้าไป หากเมิงไม่อยากเจอ อยากจบแล้วก็ ไม่ต้องตอบ เครนะ !!!!! วางสายปุ๊บ ก็ยังไม่ตอบนะ รอไป 3 วัน ถึงจะตอบ แล้วก็ให้เบอร์ไป แล้วเค้าก็โทรมาขอนัดเจอ แต่พอเจอหน้าพี่บอม เหมือนความรู้สึกมันเปลี่ยนไปแล้ว ความจริงก็คือว่า ผู้หญิงคนนั้นเป็น ลูกพี่ลูกน้องของเพื่อนสนิท เค้าชอบพี่แต่พี่ไม่เคยรู้เลยว่าเค้าทำแบบนี้กับเธอ เรากลับมาคบกันเหมือนเดิมได้ไหม พี่ว่าเหมือนชีวิตพี่ขาดอะไรไป แต่ความรู้สึกมันเปลี่ยนไปแล้ว เรา แฮปปี้ ที่ไม่มีเค้าในชีวิต สรุปรักครั้งนี้ เกือบจะดีแหล่ะ แต่ก็ยังไม่ใช้...................
รักครั้งที่ สาม นี่คือแบบสุดๆ บู๊ อย่างกะ จา พนม แหล่ะ คนนี้ชื่อเค้าคือ เดียวดาย ความจริงก็เหมาะสมแล้วที่จะอยู่คนเดียวนะ ถ้าจะเจ้าชู้ขนาดนั้น คนนี้สูง หล่อ ขาว สาวๆ เยอะ แต่เราก็คิดว่าเค้าคงหยุดที่เราแล้ว แต่อย่างว่าเสือก็ยังเป็นเสืออยู่วันยังค่ำ จับได้สิคะว่าพาหญิงอื่นเข้า รร.  อีนี่กะเซอร์ไพร์ซวันเกิด เปิดกระเป๋าเป้ เพื่อเอาของขวัญใส่ไว้ให้ ดัน ไปเจอ นามบัตร  สบู่ และ แปรงฟันที่แจกตาม รร. เท่านั้นแหล่ะจร้า โป๊ะแตกสิคะ เลยถามว่าไปนอน รร. มาเหรอ นางตอบเปล่านะ รร. นี้เค้ามาเปิดบูธนอกสถานที่ โปรโมทโรงแรม ถามจริงเชื่อมะ เลยบอกไปว่า กินข้าวนะไม่ได้กินหญ้า เลยบอกงั้นแป๊บนะ เอาโทรศัพท์ มากดเข้าเบอร์ รร. ตามนามบัตร แล้วก็เปิดสปีคเกอร์โฟน ถามพนักงาน โรงแรมว่า โรงแรมมีไปเปิดบูธ และแจกแปรงสีฟัน และ สบู่ไหม คะ พนักงานตอบเสียงดังฟังชัดว่า ไม่มีคะ !!! หันกลับมาถาม ชัดไหม แล้วความโป๊ะแตกไม่ได้มีแค่นั้น โทรศัพท์ ที่ไม่ได้เม็มเบอร์ ก็โทรเข้ามาพอดี นางเห็นแป๊บเดียวก็รู้สิคะว่า เบอร์กิ๊กอีกคน เหมือนในหนังเป๊ะ ต่างคนมองหน้ากันแล้ว กระโจนไปที่โทรศัพท์ ตอนนี้เดือดสุดๆ เพราะเป็นคนที่คว้าโทรศัพท์ได้แต่ยังยื้อแย่งกันอยู่ อีกมือหนึ่งจิก ผม ผู้แล้วตามด้วยถีบสุดแรงเกิด นางถึงกับหงายหลังไปจร้า คร่าวนี้ผู้หญิงโทรมาใหม่ เลยกดรับและ เปิดสปีคเกอร์โฟน ผู้หญิงถาม แฟนเราว่าเป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมรับสายช้าจัง แฟนเราบอกเปล่าไม่เป็นอะไร ถึงตาเราพูดบ้าง คุยกับแฟนคนอื่นสนุกไหมคะ ผู้หญิงตกใจสุดขีด แล้วก็ร้องไห้หนักมาก เราเลยถามต่อว่าจะเอาอย่างไง คะ ผู้หญิงบอกว่าอยุ่ไม่ได้ถ้าไม่มี แฟนเรา และเค้าสุขภาพไม่ค่อยดี  เลยหันไปถามแฟนตัวเองว่าเลือกใคร ผู้ตอบว่า เราแข็งแรง (ใช่สิ กูทั้งถีบทั้งจิกหัว ทั้งทึ้งผมเมิง หลุดเป็น กำมือ นี่น่า ความรุนแรงไม่ควรเอาเยี่ยงย่างนะคะ เด็กๆ ตอนนั้นป้าไม่ไหวจะเคลียร์จริงๆ ) น่าจะอยู่ได้ถ้าไม่มีเรา สินเสียงที่แฟนเราพูด เราตบหน้าแบบไม่ยั้ง ซ้ายขวา ซ้ายขวา ไป 4 ทีติด และบอกว่า เราเลิกกัน ............................................ ไม่ใช่เวย์เรา ก็ต้องปล่อยไป 
รักครั้งที่ สี่ - ห้า - หก แบบผ่านๆไม่ได้ จริงจังอะไร คนที่สี่เป็นไกด์ เดินทางบ่อย คอยส่ง โพสการ์ดให้ตลาด ทุกเมืองที่ไป และ ซื้อกระเป๋า แบรนด์เนม มาฝาก แต่ด้วยความที่เรางานเยอะด้วย เลยไม่ได้สานความพันธ์ แบบจริงจัง ส่วนคนที่ ห้า เป็นนักจัดสวน คนนี้ก็คอยส่งดอกไม้ และ อาหาร มาให้ที่ออฟฟิต บ่อยๆ แต่ก้ไปไม่รอด เพราะงานยุ่ง ส่วนคนที่ หก เป็นพี่ที่ออฟฟิต คบได้ 1 ปี เค้าดีนะ แต่ยังไม่ใช่ และเราเองก็คุยกับคนอื่นแล้วตอนนั้น ประกอบกับย้ายที่ทำงานด้วยเลยต้อง บ๊ายยยยยยยยย
รักครั้งที่ เจ็ด กับหนุ่มผู้บริหาร ที่ดูเพียบพร้อมไปซะทุกอย่าง เป็นหนุ่มแบบที่เราชอบ ฉลาด สูง ดูดี ซึ่งก็เป็นที่หมายปองของสาวในบริษัทเค้า ชื่อ ต้นไทร แต่ใครจะรู้หล่ะ ว่าเค้าแอบตกหลุมรักเรา ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ คุณพระ อย่างกะหนังเลย ตอนนั้นผมสีทอง เปรี้ยวสุดๆ แต่นมไม่ได้ใหญ่นะจ๊ะ แค่ตัวเล็ก น่ารัก เท่านั้น 555555 และ เราก็เพิ่งเข้าไปเป็นพนักงานใหม่ของบริษัท แต่เราสองคนไม่ได้อยู่บริษัทเดียวกันแต่บังเอิญว่าเราต้องเจอกัน พอกลางคืนเข้าสู่งานเลี้ยง ธีม ฮาวาย เราก็ใส่ชุดสีขาวลายดอก เข้างานช้าแหล่ะเพราะมัวแต่ใส่คอนแทคเลนส์อยู่นะ เพิ่งมารู้มีหลังว่าเค้ามายืนรอถ่ายรูปกับเรา นานมาก พองานเลี้ยงเริ่มก็มีการดื่มกันปกติ พี่ต้นไทร ก็เดินมานั่งดื่มโต๊ะที่เรานั่งอยู่ เข้ามานั่งถ่ายรูปด้วยใกล้ๆ เค้ามาคุยแบบหน้าแดงเกิ๊นนน นึกว่าโดนน้ำร้อนลวก หรือไม่ก็ชาติที่แล้วเป็นกุ้ง 55555 จะตีหนึ่งแหล่ะ รูมเมทเราก็ง่วงเลยเดินกลับห้อง พี่ต้นไทรก็บอกว่าเดินไปส่งไหม (อีนี่คิดในใจ สภาพแบบนี้พี่เอาตัวเองให้รอดก่อนไหมคะ) เลยยิ้มให้ แล้วบอกว่า ไม่เป็นไรคะ และบอกฝันดี นะคะ อ้อย เบา เบา เพราะเป็นสเปก 555555
ตอนเช้ามาก็ออกไปทานข้าวกับเพื่อน พี่เค้าก็รักษามาดผู้บริหารไม่ได้มาเกาะแกะอะไร เพียงแค่เดินทางสวัสดีตอนเช้า เราก็ทักทายปกติและนั่งคนละโต๊ะ แต่อยู่ๆเค้าก็ย้ายโต๊ะ ขอมานั่งด้วย แต่ด้วยความที่มีแต่คนมานั่งด้วยที่โต๊ะเยอะ ก็เลยไม่ได้นั่งกันสามคน กลายเป็น 8 คน 55555 เลยไม่ได้คุยอะไรกันมาก กินเสร็จก็เข้าไปเก็บของ และมาที่ล็อบบี้ โรงแรม เพื่อเช็คเอ้าท์ และ เช็ครูปปริ้นของตัวเองที่ ทีมงานเอามาแขวนไว้ให้ แต่กลับไม่มีรูปเราเลยสักรูป แล้วก็เห็นผู้ชายคนหนึ่งเดินตรงมาที่เรา พี่ต้นไทรเดินมาพร้อมรูปถ่ายเราประมาณ 10 ใบ แล้วบอกว่า พี่เก็บมาให้แล้วครับ โอ๊ยยยยยย ผู้อะไรดีขน๋าดดดด เราก็หยิบรูปและพูดว่า ขอบคุณคะ เค้ายืนนามบัตรให้พร้อมยืนปากกาให้แล้วบอกว่าจดเบอร์ส่วนตัวพี่ไว้นะ เราเลยตอบไปสั้นว่า คะ จริงๆก็เขิน แต่ก็รีบจดอย่างว่าง่ายเลยแหล่ะจร้า 
และก็กลับ กรุงเทพระหว่างทางพี่เค้าก็ส่งข้อความหาตลอด เราติดต่อกันทางข้อความมือถือ และ whatsapp เราก็คุยกันเดทกัน ไปกินไอติม กินข้าว ดูหนัง มีความสุขมาก ช่วงแรกอะไรๆก็ดูสวยงามสีชมพูไปหมด และ พี่เค้าก็เริ่มจะมีปัญหา ด้วยงานที่ฉันทำคือต้องเจอกันมากมาย ตั้งแต่ระดับรากหญ้าไปจนถึงระดับราชวงศ์ การกินข้าวนอกรอบ การสังสรรค์ หลังเลิกงานคือเรื่องปกติ แต่พี่ต้นไทร เค้าไม่ชอบ แรกๆก็เข้าใจ คุยอธิบายว่าเราต้องรักษาคอนเนคชั่น เพราะเรื่องงาน แต่หลังๆคือพี่เค้าไม่เข้าใจ โมโห ตัดสายทิ้ง แล้วบางครั้งก็โทรจิกอย่างกะไก่ตกมัน และที่ฉันเกลียดที่สุดคือขับรถมาตามถึงร้าน มารอหน้าร้านแล้วก็โทรเรียกฉันออกมาโดยไม่บอกว่าเข้ามารับแล้วก็มาลากฉันกลับบ้านเดี๋ยวนั้น มันเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ฉันยื่นคำขาดกับเค้าว่า หากทำแบบนี้อีก เราเลิกกันคะ เราคุยกันวันละกี่ครั้ง ส่งข้อความบอกพี่วันละกี่รอบ รายงานทุกอย่างตั้งแต่ตื่นนอน วันนี้ไปไหนทำอะไรกับใคร รายงานตัวตลอดเวย์ แล้วจะเะอาเวลาที่ไหนไปมีคนอื่น ทำขนาดนี้ยังไม่เชื่อใจอีกเหรอคะ งานคือสิ่งที่เรารัก มันไม่ใช่แค่งานแต่มันคือ passion เพราะมันคือความฝันของเรา!!!!!!!!!
หลังจากนั้น พี่ต้นไทรเค้าก็ปรับตัว ไม่ได้โทรจิก โทรหามากมายเหมือนเมื่อก่อน แต่จุดเปลี่ยนคือช่วง 2-3 เดือนเค้ากลับกลายเป็นคนที่ไม่ว่าง และ ช่วงเสาร์อาทิตย์ก็อยู่ต่างจังหวัด ดูสาขาต่างๆทั่วประเทศของบริษัทตลอดเลย จนวันหนึ่งเราต้องไปทำงานที่เขาใหญ่พอดี และ พี่ต้นไทร ก็อยู่ที่นั้น เค้าเลยมาหาเราที่ทอสคาน่า เรานอนที่นั้นและรูมเมทเรายังไม่มา มาพรุ่งนี้ พี่ต้นไทรมาในสภาพเมาๆหน้าแดงมาเชียว เราคุยสารทุกข์สุขดิบกันนิดหน่อยแล้วพี่เค้าก็ขอไปอาบน้ำ ตอนเค้าอาบน้ำเราเหลือบไปเห็นกุญแจรถรูปหัวใจของ coach เลยเปิดดูว่าเอารูปคู่เราใส่ไว้หรือเปล่า พอเปิดปุ๊บสิ่งที่เห็นทำให้เราตัวชาไปหมด มันคือรูปคู่เค้ากับผู้หญิงคนอื่น เราถ่ายรูปเก็บไว้เป็นหลักฐานทุกอย่าง และ ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งคือ เรานอนไม่หลับ ร้องไห้ตลอด และครุ่นคิดตลอดว่าเราทำอะไรผิด พอทานข้าวเช้ากันเราก็ส่งรูปเข้า whatsapp แล้วบอกว่า พี่ต้นไทร ช่วยดูรูปใน whatsapp หน่อยได้ไหมคะ หน้าเค้าถอดสีและ พูดด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบว่า พี่เอากุญแจรถสำรองมาใช้ และ รูปนี้เป็นรูปเก่าเมื่อหลายปีที่แล้ว แล้วพี่ไม่เอาออกเนี๊ยะนะคะ ยังใช้อยู่ไม่แปลกไปหน่อยเหรอคะ พี่ต้นไทรก็บอกว่าทำไมเธองี่เง่าจัง เราเลยบอกว่าไม่ใช่เรื่องงี่เง่าหรอกคะ ลองกลับกันถ้าเป็นเราทำบ้านแตกแน่ๆ พี่ต้นไทรพูดต่อว่าพี่ไม่อยากเสียสมาธิเพราะพี่ต้องไปเล่นก็อล์ฟต่อกับเพื่อนๆ ไว้คุยกันนะ ตั้งใจทำงานหล่ะ !!!! ห่านมากทิ้งระเบิดไว้แบบนี้ คิดว่ากูจะทำงานรู้เรื่องไหมถามจริง แต่ผู้หญิงบ้างานอะนะ the show must go on สิคะ ข่มน้ำตาให้มันไหลอยู่ข้างใน สตรองไว้ ยิ้มไว้ พอกลับถึงห้องเท่านั้นแหล่ะร้องไห้หนักมาก ดีนะมีรูมเมทให้ได้ระบาย บอกตามตรงไม่รู้จะทำอย่างไงดี คือจะคิดว่าพี่เค้าชั่วช้า ก็นะเดี๋ยวจะเป็นเหมือนคนก่อน คือ เมิงมันบ้าคิดไปเอง นี่แหล่ะนะ ผู้หญิงมี 2 อย่างที่เก่งเหลือเกิน คือ คิดมาก กับ คิดไปเอง เออๆแม่งโครตจริงเลยอะ สิ่งที่เราเลือกคือ รอคุยแหล่ะกัน ...................................................................................
2 เดือนผ่านไป นานไปเปล่าวะ เพราะโทรไปพี่เค้าไม่รับ และ ไม่โทรกลับ เราเลยได้แต่ส่งข้อความหาตลอดด้วยความที่ยังรักอะนะ ก็พยายามประคองรักเอาไว้ (พร้อมคิดบวกเอาน๊า เค้ายังไม่บอกเลิกเรานี่หว่า เค้าอาจจะต้องใช้เวลาคิด พอมาถึงวันนี้จะคิดเห้ยไรนานขนาดนี้ กรูรอทำไมเนี๊ยะวันนั้น) จนแม่เจ้านายเค้าเสียเพื่อนเราบอกแกไม่ไปเหรอ พอดีฉันติดงานเลยส่งข้อความไปหาพี่ต้นไทร เค้าบอกว่า เค้าอยู่ต่างจังหวัดจะบินกลับกรุงเทพแค่วันเดียว วันเผาคงไม่ได้ไป คงไม่ได้เจอกันนะ แต่โชคดีเรามีสปายที่บริษัทเค้า ก็เป็นผู้ชายคนหนึ่งที่เค้ามาชอบเรา แต่เราชัดเจนบอกว่าเป็นได้แค่เพื่อน เพราะเค้าก็รู้ว่าเราเป็นแฟนนายเค้า เพื่อนคนนี้ก็ถ่ายรูปมาให้ดูว่าพี่ต้นไทรอยู่กรุงเทพ และอยู่งานเผาศพแม่เจ้านายเค้า และ อยู่กรุงเทพหลายวันด้วย ในเมื่อชัดเจนว่าเค้าโกหกเราเลยส่งหลักฐานรูปเค้าที่อยู่ที่งานแล้วบอกว่า พอสักทีกับคำโกหก เราเลิกกันคะ .............. คนนี้ก็ยังไม่ใช่อีกแล้ว ตอนนี้ก็ปาเข้าไป 32 แล้วนะ...............................
3 ปีต่อมา เราก็ยังคงบ้างานและใช้ชีวิตสนุกสนานกับเพื่อนๆ รวมถึงเอ็นจอยกับการทำงานสุดๆ เดินทางตลอดเวลาทั้งในประเทสและต่างประเทศ จนเพื่อนสนิทคนหนึ่งบอกว่าแกเล่นแอพนี้ดู คุยขำๆ ถูกใจค่อยเดท TINDER เลยโหลดมาเล่น ก็กดทางขวาบ้าง ทางซ้ายบ้าง แล้วแต่อารมณ์ ก็มีทั้งถูกใจต่างชาติเป็นส่วนใหญ่ ไม่อยากกดคนไทย แม่งเดี๋ยวรู้จักเพื่อน หรือรู้จักใครที่เป็นเพื่อนเรา 5555555 ส่วนมากเราก็คุยไปเรื่อยๆแต่ไม่ได้ออกไปเจอใคร เพราะไม่ชอบ one night stand อย่างว่าแม่เลี้ยงมาแบบโบราณ แต่ถ้าคบใครเป็นแฟนก็เอากันบ้างเป็นเรื่องปกติ และมีคนหนึ่งที่ชอบท้ามาก ซึ่งเราเป็นบ้าอย่างหนึ่งไม่ชอบให้ใครมาท้า เลยออกไปเดทด้วย หลังเลิกงานที่ร้าน long table ไปถึงก็เจอฝั่ง อเมริกัน แต่งตัวลำลอง เชิ๊ตแขนสั้น กางเกงยีนส์ และ รองเท้าผ้าใบ ก็ดูสะอาดดี ชอบผู้ชายสะอาดๆ กลิ่นหอมๆ ด้วย คนนี้ชื่อ จิม ขาว เป็น สเปน-อเมริกัน เค้าเป็น เมเนเจอร์ของบริษัทนำเข้าพวกอาหาร เบสอยู่ภูเก็ต และ มีมาประชุมที่กรุงเทพบ้าง  แต่ไม่สูง พอคุยด้วยแล้วก็มีความโรแมนติกและน่ารัก หลังจากกินข้าวเราก็คุยกันอยู่นาน มีเสน่าแฮะ 4 ทุ่มกว่าแล้ว เราเลยบอกว่าพรุ่งนี้ต้องทำงานเช้าขอกลับก่อนแล้วกัน เค้าก็ส่งเราขึ้นแทกซี่ หลังจากนั้นเราก็คุยกันไปเรื่อยๆ และเค้าก็บินมากรุงเทพบ่อยเพื่อมาหาเรา เดท กัน จนผ่านไป 2 เดือน เราก็ตกลงคบเค้าจริงจังหลังจากโสดมานาน จำได้ครั้งแรกที่จะเอากัน คือ เข้าไม่ได้เลยเพราะ cock ของจิมค่อนข้างใหญ่ จิมเลยออรัลให้เราซึ่งเมื่อผู้หญิงมีอารมณ์ก็จะหลั่งเมือกใสๆออกมาทำให้มันง่ายขึ้น แต่ช้าก่อนมันก็ยังแน่นอยู่ดี จนต้องบอกว่า stop don't move เพราะมันดูดแรงไปเปล่าวะ 55555 ก็หยุดประมาณ 5 วิ แล้วจิมก็ค่อยๆ move ก็ดีขึ้น แล้วก็ fantastic มาก จิมก็ชอบมาก หลังจากเดทกันได้ 6 เดือน   จิมก็ซื้อรถ BMW ใหม่ ซึ่งเค้าบินมารับรถที่กรุงเทพ และขับรถไปหัวหินกัน ช่วงปลายปีจิมบอกว่า งานไอจะยุ่งมาก และ ก็เริ่มไม่รับสายไม่โทรกลับ แต่มีส่งข้อความกลับ เค้าชอบวีดีโอคอลมาเพื่อให้เราเห็นว่าอยู่กับใคร เพื่อนคนไหน เราก็เลยไม่ได้คาดหวังว่าเค้าจะบินมาหาเราเหมือนเดิม แต่ช่วงปีใหม่ เค้าท์ดาวน์ เราต้องทำงานที่เอเชียธีค และ แน่นอน จิมโทรหาเราบอกอยาก count down ด้วย เลยบอกไปว่า วันนี้ติดงานเจอกันพรุ่งนี้ก็ได้นะ แต่ในใจก็แอบคิดว่าต้องมา surprise แน่ๆ 
5...........4................3...............2................1.................HAppy New Year 2018 เสร็จงานตี 2 โอเคร โทรหาจิมสิ ไม่รับสาย ไม่มีข้อความตอบกลับ ไม่มี Happy new year คิดในใจอาจจะเมาหลับไปกับเพื่อนๆหรือเปล่านะ เราเลยส่งข้อความให้แทน พอตอนเช้าโทรไปก็ไม่รับสายอีก เลยเริ่มรู้สึกเอ๊ะใจ ปกติเป็นคน respect ในความเป็นส่วนตัวมาก เลยไม่เคยเช็คโทรศัพท์ หรือ โทรจิก และไม่เคยเช็คโลกโซดชียลจิมเลย ไม่ว่าจะเป็น Fb และ IG แต่วันนี้ปีใหม่แล้วกูควรเบิกเนตรที่ 3-4 เพื่อเบ่งความจริงบ้าง เลยให้น้องชายที่เป้นโปรแกรมเมอร์เช็คให้หน่อย แป๊บหนึ่งน้องชายส่งลิงค์มาให้ ไอ จี ไม่ได้ตั้งไพรเวทไว้ เลยเข้าไปดูมีคนมากดหัวใจตรงเม้นท์ ชื่อ คิดตี้ ซึ่งเป็นแฟนเก่าจิม นางบอกว่าอย่างนั้น แฟนเก่าที่ยังทำงานอยู่บริษัทเดียวกันและเป็นคนไทย เลยกดเข้าไปดูไอจี นาง ไม่ได้ตั้งไพรเวท ดูได้ แต่ภาพที่เห็นยิ่งอึ้งไปจร้า เพราะยางอยู่กับจิม แถมเพื่อนนางมาเม้นท์ว่า................................ ขึ้นไปอ่านได้นะคะเรื่องนี้พิมพ์ไว้ตอนเปิด ตอนที่ 2   
จะหารักที่จริงใจทำไมมันยากนักวะ................นี่ก็ปาเข้าไป 36 แล้ว 

ตอน 3  ได้แฟน เสียเพื่อน



Create Date : 26 กุมภาพันธ์ 2563
Last Update : 26 กุมภาพันธ์ 2563 18:47:56 น.
Counter : 889 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 4923023
Location :
  United States

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



ความรักเป็นสิ่งสวยงาม แม้ไกลกัน ก็ยังโชคดีที่ได้รัก