1 2
3 4 5 6 7 8 9
10 11 12 13 14 15 16
17 18 19 20 21 22 23
24 25 26 27 28 29 30
Location :
France
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [? ]
O สิ้นเยื่อใย .. O O เมื่อคืนคำ .. จุดหมายมาป่ายปัด ย่อมแจ่มชัด .. เกินเปรียบ .. ถูกเหยียบย่ำ หลงสร้างภาพสุดแก้เปลี่ยนแปร .. กรรม ใจเอยจำเถิดว่า .. จักลาร้าง O เป็นชายที่มีรัก .. มีศักดิ์ศรี จึงแต่นี้ใจหนอ .. จักขอห่าง จักอยู่ไกลรูปเห็น .. ทุกเส้นทาง ขอเหยียบย่าง .. ทางเที่ยวอย่างเดียวดาย O คลี่คลายความผูกพันแต่วันก่อน ตราบชีพมรณ์ดับดิ้น .. ลมสิ้นสาย จักขอร้างลาไกลทั้งใจกาย สิ้นสุดสายเยื่อใย .. หัวใจมี O จำต้องลา .. ใจเอย .. แม้นเคยรัก หากด้วยความแน่นหนัก .. แห่งศักดิ์ศรี เยื่อใยจำต้องตัดเอาบัดพลี ความภักดีด้านในหัวใจชาย O คงเหมือนหมอก, น้ำค้าง .. ตอนสางตรู่ แดดทอดสู่หม่นพรางก็จางหาย ก่อนหยาดเพชรแพรผืนถูกกลืนกลาย ค่อยค่อยร้างระเหยหาย .. กับสายลม O ฉ่ำชื้นบนยอดหญ้า .. ค่อยพร่าเลือน สิ้นดาวเดือน, งามระยับ-ย่อมลับล่ม งามเอย .. งามละม่อมเคยจ่อมจม มาจะล้มลงวายเมื่อปลายคืน O ระเหิดระเหย-ร้าง .. น้ำค้างหยาด ก่อน .. บำราศดินแดนทั้งแผ่นผืน ระเหยห่างหว่างพลบ .. จนกลบกลืน- คือหยาดน้ำใจรื่น .. เคยตื่นรับ O ฤๅจะเช่นน้ำค้าง .. ตอนสางรุ่ง เพียงเรื่อรุ้งแสงพลอดก็มอดดับ สิ้นผกายเกล็ดแก้วเคยแวววับ เหลือหม่นหมองโจมจับ .. ลำดับนั้น O ลมอุษาพลิ้วผ่าน .. ฝ่าลานหญ้า เมื่อรูปรอยคุณค่าเริ่มพร่า-สั่น จะเริดร้างรูปตระการแห่งวานวัน เพื่อจะตรึงติดมั่น .. ในสัญญา O เสียงวิหคครวญคร่ำ .. ลมร่ำสาย เมื่อใจคล้ายเหม่อลอยละห้อยหา ราวอกใจคร่ำครวญ .. เมื่อจวนลา แต่นี้จักเหว่ว้า .. จนกว่าวาย O สะทกสะท้อนใน .. หัวใจนี้ เมื่อภาพที่ใฝ่ฝันจะพลันหาย มาจะเลือนลับไปทั้งใจกาย เหลือเพียงสายเยื่อใย .. หัวใจมี O ดูเถิดวันคล้อยดวง .. ใกล้ล่วงลับ เหงาก็จับแน่นในหัวใจที่- โหยหารูปอาลัย .. ผู้ใยดี กับไมตรีเคยมอบ-รับตอบกัน O จะรุมเร้าความย้อน .. ครั้งก่อนกี้ กับรูปที่อกอ้อม .. เคยกล่อมขวัญ สองแขนโอบกอดเนื้อ .. อุ่นเนื้อ .. ปัน- ความผูกพัน .. เอมอิ่ม .. ให้ลิ้มรส O ลำดวนเอ๋ย .. เมื่อพรากไปจากถิ่น แม้น-กรุ่นหอมรวยริน .. คงสิ้นบท หาก-แรงฤทธิ์พิสวาดิ .. ฤๅอาจลด อันอาจปลดปลงหวังลงทั้งเป็น O ดูเถิด .. หมอก, น้ำค้าง .. ตอนสางตรู่ แดดทอดสู่โลมต้อง .. ก็มองเห็น- หยดหยาดเพชรเป็นระเบียบ .. กลางเยียบเย็น ย่อมจักเร้นเลือนสลาย .. กับสายลม O ดูเอาเถิด .. อกใจที่ไห้หวน รับรู้ส่วนเช้าชื่นด้วยขื่นขม ลำดับเรื่องบีบคั้นให้รันทม- ก็ห้อมห่มโอบเอื้อ .. เป็นเนื้อเดียว
ดายุ..
ตรงนี้ชอบ...
"O ยังอ่อนโยนอ่อนหวาน .. จนปานว่า-
แววในตาลอบชม้ายยังส่ายสั่น
สั่งชี้จิตวิญญาณจากวานวัน
ก่อนครั้งสัญญาชาติจักขาดวง"
ตรงนั้นชอบ...
"O เห็นงามก็ว่างามไปตามเห็น
กับแฝงเร้นกรณีทุกทีท่า
ดั่งดวงแก้วเหลื่อมประกายต่อสายตา
เพื่อร่ำรอเสน่หาจากตาชาย "
ตรงโน้นก็ชอบ...
" O เห็นมณีน้ำระยับงามจับจิต
ย่อมต้องคิดหมายปอง ตระกองขวัญ
เพื่อยึดโยงปักปลูกความผูกพัน
ไปชั่วกัปชั่วกัลป์พุทธันดร"
ที่ชอบที่ชอบน่ะ มีหลายจุด บ้างก็ชอบการเล่นคำ
บ้างก็เด่นตรงเล่นความ....
สาวของสดายุนี่ .."มาดชาววัง" นะ
แล้วจะมีใน..สาธารณรัฐ.. ไหนล่ะ 555
ว่าแต่ว่า หากศาสนาพุทธล่มนี่..จะหมดรักใช่ไหม
.." ไปชั่วกัปชั่วกัลป์พุทธันดร"
เหลือเวลาเพียงแค่ กึ่งพุทธกาล เท่านั้นนะคะ...