โลกใบเล็กในหน้ากระดาษ
ในวันว่างๆที่แสงแดดพร้อมจะแผดเผาทุกอณูของเราได้ทุกเมื่อในวันว่างๆที่คุณไม่รู้ว่าควรจะพกเสื้อกันฝนหรือทาครีมกันแดดออกจากบ้านและในวันว่างๆที่การอยู่บ้านคือการเอาตัวรอดจากธรรมชาติที่ดีที่สุดการนอนตากแอร์เย็นๆ กับหนังสือเล่มโปรดสักเล่ม จิบน้ำเย็นๆสักแก้วแค่นี้ก็รู้สึกเหมือนคุ้มค่าที่เกิดมาแล้ว ขึ้นชื่อว่า หนังสือเล่มโปรด คงจะน้อยถ้าเอ่ยชื่อมาแล้วจะตรงกันแต่ หนังสือเล่มโปรด ของฉันทั้ง 7 เรื่องนี้เชื่อว่าคงจะมีสักเรื่องที่เราอาจจะเคยอ่านเหมือนกัน
1. WITCHOAR
เริ่มด้วยหนังสือเล่มโปรดที่ 1 ในใจตอนนี้ WITCHOAR เป็นนิยายแฟนตาซีผลงานของนักเขียนนามปากกา กัลฐิดา จากสำนักพิมพ์สถาพรบุ๊ค WITCHOAR ตอนนี้มีทั้งหมด 3 เล่ม
WITCHOAR BOOK ONE หยดน้ำแห่งกัลดราบก
WITCHOAR BOOK TWO เปลวไฟแห่งเนโคร
WITCHOAR BOOK THREE ถ้วยแก้วแห่งโมนาเซีย
นิยายเรื่องนี้มีการเดินเรื่องแบบเรียบๆผ่านตัวเอกที่มีนิสัยเรียบๆ สิที่เขาต้องการคือ การใช้ชีวิตให้สนุก แต่ดูเหมือนตัวเขาจะทำเรื่องสนุกไว้มากมายเลยทีเดียว นิยายเรื่องนี้ฉันอ่านมาสามรอบแล้วเป็นสามรอบที่ไม่เหมือนกัน ครั้งแรกที่อ่านจบความรู้สึกแรกคือ สนุกเพราะบรรยากาศในเรื่องเป็นการใช้ชีวิตของคนๆหนึ่งที่เพิ่งจะรู้ว่าตัวเองทำอะไรได้บ้างแล้วตัวละครในเรื่องยังเป็นคาแร็กเตอร์ที่มีความตลก ความน่ารัก และด้านมืดในตัวเองทุกตัวแต่บางช่วงบางตอนก็งงกับเนื้อหาจนทำให้นำมาสู้การอ่านครั้งที่สองครั้งที่สองที่อ่านจบความรู้สึกคือ อ๋อ เพราะมันทำให้เราเข้าใจมุกที่ตัวละครเล่นกันเข้าใจปริศนาที่ถูกพูดถึงมากขึ้น เข้าอารมณ์ตัวละครและบรรยากาศในเรื่องมากขึ้นทำให้ยิ่งตื่นเต้นไปกับสิ่งที่ตัวเอกต้องเจอต่อจากนี้และครั้งที่สามที่อ่านจบความรู้สึกคือ เมื่อไรเล่มต่อไปจะมา มันเป็นความทรมานบนรอยยิ้มที่แม้ว่าเราจะอยากรู้เรื่องราวต่อไปมากแค่ไหนแต่การที่คาดเดาเรื่องต่อจากนี้ไปพร้อมๆกับตัวละครก็สนุกและตื่นเต้นอยากจะส่งข้อความไปบอกนักเขียนว่า ช่วยเร่งมือหน่อยค่ะ ลงแดงแล้วแต่อีกใจก็อยากจะบอกว่า ขอเล่มหนาๆนะคะ เนื้อหาเยอะๆ หนังสือเรื่องนี้ทำให้เกิดความรู้สึกมากมายและที่รู้สึกมากที่สุดก็คงจะเป็นความสุขที่ได้อ่าน
2. A Date with My Fairy ผมมีนัดกับนางฟ้า
เป็นนิยายรักวัยรุ่นของสำนักพิมพ์แจ่มใสจากนักเขียนนามปากกา Lady First สิ่งที่พิเศษและแตกต่างจากนิยายแจ่มใสเรื่องอื่นคือการใช้ตัวละครชายเป็นตัวดำเนินเรื่องทั้งหมด นอกจากจะแปลกแล้วตอนอ่านยังรู้สึกว่าเหมือนกำลังได้เห็นมุมมองด้านความรักของผู้ชายคนหนึ่งอยู่เลยรู้สึกว่าเวลาผู้ชายสักคนที่รู้สึกชอบใครขึ้นมาเขาก็คิดเหมือนๆกับผู้หญิงเรานี่แหละ เพียงแต่เขาเลือกที่จะเก็บไว้แล้วค่อยๆเผยออกมาทีละนิด ไม่รีบร้อน พระเอกในเรื่องเป็นนักศึกษาแพทย์ปี4 ที่บังเอิญไปรักษาคนไข้จิตเวชที่น่ารักราวกับนางฟ้า เธอคือสีขาวบริสุทธิ์เหมือนเด็กแรกเกิดแม้ว่าเรื่องราวก่อนหน้าที่ทำให้เธอต้องมาอยู่ในสภาพแบบนี้มันจะโหดร้ายและซับซ้อนก็ตาม ตอนที่ซื้อเรื่องนี้มาไม่คิดว่ามันจะทำให้เกิดความรู้สึกมากมายขนาดนี้ความรักขาวๆของว่าที่หมอกับคนไข้จิตเวชที่ความจำเสื่อมจากเริ่มแรกที่รักษาเพราะอยากเอาชนะ กลายเป็นรักษาเพราะรักเธอ ข้อคิดของเรื่องนี้ถูกทิ้งท้ายไว้เยอะมากทั้งความรักของคนสองคน ความรักของครอบครัว ความรักของพี่น้อง และทำให้คิดได้ว่าการรักใครสักคนมันทำให้เราอยากเป็นคนดีมากกว่าคนเก่งเพื่อเขา
3. เซวีน่ามหานครแห่งมนตรา 
เซวีน่าเป็น1 ใน 101 เล่มวรรณกรรมในดวงใจนักอ่านและนักเขียนจากการสำรวจของสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย ปี 2553 เป็นนิยายหมวดวรรณกรรมเยาวชนมีทั้งหมด 5 เล่มด้วยกัน ซึ่งเจ้าของผลงานก็คือ กัลฐิดา จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์สถาพรบุ๊ค เซวีน่าเป็นเรื่องราวของคนธรรมดากับการสร้างโลกที่สมบูรณ์แบบมุมมองของนักเขียนในการเริ่มสร้างเรื่องนี้ขึ้นมาคือ ถ้าคนธรรมดาต้องการจะสร้างโลกที่สมบูรณ์แบบต้องเสียอะไรไปบ้าง หากเป็นความคิดในมุมมองธรรมดาเราคงจะคิดว่าถ้าเราจะสร้างโลกที่สมบูรณ์แบบเราต้องทำอะไรบ้าง จุดเริ่มต้นนี้เองทำให้นักเขียนสร้างโลกเซวีน่าขึ้นมาโลกที่สมบูรณ์แบบ มีระบบการปกครองแต่ละแคว้นที่ป้องกันความคิดทุจริตของมนุษย์ทุกทางผู้คนในเซวีน่าก็ถูกปลูกฝังในเรื่องที่จะไม่ทำให้ใครเดือดร้อน ถือว่าเป็นโลกในอุดมคติของใครหลายๆคนเลยก็ว่าได้แต่ก่อนที่เซวีน่าจะมาเป็นนครเซวีน่าทุกวันนี้ เหล่าผู้ก่อตั้งต้องเสียอะไรไปบ้างนี่คือจุดที่ทำให้ประวัติศาสตร์ของเซวีน่าน่าสนใจมากขึ้น เนื้อเรื่องหลักของตัวเอกจะอยู่ในสามเล่มแรกเล่มที่สี่และห้าจะเป็นการอธิบายถึงเส้นทางกว่าที่จะมาเป็นเมืองอันสมบูรณ์แบบ เล่าถึงการเสียสละมากมายของผู้ก่อตั้งน้ำตาและเลือดที่ต้องหลั่นเพื่อดินแดนนี้ เมื่ออ่านเซวีน่าจบฉันมีความรู้สึกมากมายทั้งตื่นเต้นกับเส้นทางตัวเอกค่อยๆเดินไปพร้อมๆกับเพื่อนๆของเธอตกใจกับประวัติศาสตร์ของเซวีน่า และตื้นตันกับการยอมเสียสละความสุข ความรู้สึกส่วนตัวของผู้ก่อตั้งเซวีน่าด้วยความปรารถนาอันแรงกล้าที่อยากจะสร้างเมืองที่ไม่มีความขัดแย้ง ไม่มีสงครามไม่มีน้ำตา เพื่อลูกหลานรุ่นต่อไปจะได้อยู่กันอย่างมีความสุขเอาให้ฉันอดนึกย้อนกลับมาถึงโลกของเราเองไม่ได้ ถ้าหากมีสักคนยอมเสียสละ เมืองที่สมบูรณ์แบบก็คงไม่ได้มีอยู่แค่ในหน้ากระดาษเป็นแน่
4. Once เจ็ดวันนี้ที่ฉันจะมีเธอ
Once เป็นผลจากของนักเขียนนามปากกา Oh_nana จากสำนักพิมพ์แจ่มใสเป็นนิยายรักวัยรุ่นที่ให้ข้อคิดเรื่องของการหนีปัญหาด้วยการตาย นักเขียนเปิดเรื่องด้วยการที่นางเอกกำลังจะกระโดดตึกฆ่าตัวตายเธอโพสในเฟซบุ๊คว่า อีก 7 วัน เธอจะกลับมาตายใหม่ ตอนนั้นเองที่พระเอกซึ่งกำลังเบื่อกับชีวิตซ้ำซากได้เข้ามายื่นข้อเสนอให้เธอเขาจะช่วยเธอใช้ชีวิตอีก 7 วันที่เหลือนี้เอง และเรื่องราวความรักเล็กๆก็เริ่มขึ้น ความปรารถนาก่อนตายทั้งยี่สิบเจ็ดข้อของนางเอกทำให้เขาและเธอเหมือนได้ผ่านการเรียนรู้ไปด้วยกันเธอได้ทำในสิ่งที่ชีวิตนี้เธอไม่มีวันได้ทำเขาได้รู้ในสิ่งที่ชีวิตนี้ไม่มีวันได้รู้...หากไม่ได้มาพบกับเธอ นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายเล่มบางๆดำเนินเรื่องแบบเรียบๆ มีปริศนาให้สงสัยแค่เหตุผลที่นางเอกอยากตาย เนื้อเรื่องที่ไม่วุ่นวายไม่ซับซ้อน ความรู้สึกที่แสดงออกชัดเจนของตัวละคร แต่เรื่องนี้กับน่าติดตามจนต้องอ่านให้จบในคราวเดียว ความรู้สึกที่อ่านเรื่องนี้เหมือนกับเราได้หนีไปจากโลกความจริงได้หนีปัญหาไปพักใจ ไปชาร์ตพลัง ทุกครั้งที่ฉันรู้สึกท้อหรือเหนื่อยจึงหยิบนิยายเรื่องนี้มาอ่านทุกครั้งเพราะการได้หนีตามตัวเอกทั้งสองไปสักพักก็ทำให้สามารถมีกำลังใจที่จะไปสู้วันพรุ่งนี้ได้ ในตอนท้ายของเรื่องนักเขียนยังทิ้งข้อคิดเอาไว้อีกในเรื่องการหนีปัญหาที่ครั้งหนึ่งนางเอกเคยหนีทุกอย่างไปพักใจ แต่สุดท้ายเธอก็ต้องกลัมาเผชิญหน้ากับมันอยู่ดีทำให้คิดได้ว่าหากเราจะหนีปัญหาก็หนีได้ แต่เราไม่สามารถหนีไปได้ตลอดสุดท้ายการแก้ปัญหาก็คือทางออกที่ดีที่สุด แต่การตายเพื่อแก้ปัญหา ไม่ใช่ทางออกแต่เป็นการหนี
5. Library Guardian เสกรักใสใส่หัวใจคุณผู้พิทักษ์
เป็นนิยายของTheLittleFinger จากสำนักพิมพ์แจ่มใส เป็นนิยายรักวันรุ่นที่มีการแทรกเรื่องแฟนตาซีไปด้วยเล็กน้อย เป็นเรื่องของห้องสมุดเวทมนตร์และบรรณารักษ์ทั้งห้าที่มีนิสัยต่างกันคนละขั้วเรื่องราวป่วนๆของห้องสมุดที่จะเล่าผ่านความรักของบรรณารักษ์หนุ่มผู้แสนอ่อนโยนกับแม่บ้านจำยอมของห้องสมุดเวนเคนซิงก์ ซึ่งตัวประกอบในเรื่องก็สร้างสีสันได้ไม่แพ้ตัวเอกเลยเริ่มจากเจ้าของห้องสมุดที่แสนจะขี้แกล้ง ชายผู้เคร่งขรึมที่กลายเป็นตัวตลกคนหน้าหล่อนิสัยเพี้ยนอยากเป็นนินจา และราชินีที่ไม่ใช่ราชินี เรื่องดำเนินไปแบบค่อยๆตื่นเต้นความรักของตัวละครก็ไม่หวือหวา เป็นความรักที่เหมือนคนธรรมดาแต่ความสุภาพและความอบอุ่นของพระเอกทำให้อ่านที่เมื่อไรก็ใจสั่นทุกทีแถมตัวประกอบแต่ละตัวก็ชอบเข้ามาทำให้หวั่นไหวซะด้วย ข้อคิดของเรื่องนี้ได้จากเจ้าของห้องสมุดที่เขาถูกใจการทำงานเป็นแม่บ้านของนางเอก ด้วยความที่เธอเป็นคนดี ขยันทำงานเป็นคนซื่อ แต่เพราะเธอเข้ามาทำงานที่ห้องสมุดเพื่อใช้หนี้เจ้าของห้องสมุดจึงกลัวว่าหากวันหนึ่งเธอใช้หนี้หมดเธอก็จะไป เขาจึงใช้คำสอนของคุณปุ่ของเขาที่ว่าหากติดใจใคร และอยากให้คนคนนั้นทำงานด้วยกันไปนานๆ ล่ะก็สิ่งที่ต้องใช้ในการว่าจ้างก็คือหัวใจ ไม่ใช่เงิน ด้วยเหตุนี้เจ้าของห้องสมุดขี้แกล้งจึงคอยแหย่ให้นางเอกตกอกตกใจด้วยเวทมนตร์ของเขาอยู่บ่อยครั้งเพราะทุกครั้งที่โดนแกล้ง บรรณารักษ์แสนอบอุ่นก็อดไม่ได้ที่จะเข้าไปช่วยเธอยิ่งเข้าไปช่วยเขาก็ยิ่งรักเธอ และเมื่อเขากับเธอรักกันเธอก็จะไม่จากไป
6. ปาฏิหาริย์รักคืนคริสต์มาส
ผลงานของOresia จากสำนักพิมพ์แจ่มใสถือเป็นนิยายในใจที่ชื่นชอบอีกเรื่องด้วยความที่เรื่องนี้ตีพิมพ์มานานแล้วการหาอ่านก็ยากมาตามหาแบบมือสองในอินเทอร์เน็ตก็ไม่มี ในเว็บสำนักพิมพ์ก็หมดไม่มีการพิมพ์ซ้ำรูปแบบอีบุ๊คก็ไม่มีเช่นกัน ทางเดียวที่ทำให้อยากจะอ่านเรื่องนี้มากๆคือตัวอย่างหนังสือสองบทแรกที่สำนักพิมพ์ลงไว้และด้วยความปรารถนาอันแรกกล้าที่จะต้องอ่านเรื่องนี้ให้ได้ ทำให้ในงานสัปดาห์หนังสือของปี2017 จากการคุ้ยกองหนังสือมือสองในที่สุดฉันก็ได้นิยายเรื่องนี้มาไว้ในอ้อมกอดสมใจ เป็นเรื่องราวของหนุ่มโสดในคืนคริสต์มาสอันโดดเดี่ยวจู่ๆซานต้าก็ให้ของขวัญชิ้นใหญ่กับเขา สาวน้อยหน้าตาน่ารัก เด็กสาวผู้ใสบริสุทธิ์ดุจแก้วบางๆที่พร้อมจะแตกสลายได้ทุกเมื่อด้วยความที่ไม่รู้จะทำอย่างไรการให้เธอเข้ามาอยู่ในชีวิตเขาจึงไปทางเลือกที่ดีที่สุด หัวใจที่บาดเจ็บของเขาได้รับการเยียวยาจากสาวน้อยปริศนาเพราะความรักไม่ใช่สิ่งที่บังคับกันได้ แม้จะไม่รู้ว่าเธอเป็นใครแต่ด้วยหัวใจที่อบอุ่นของเด็กคนนั้น ทำให้เขาอยากจะเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง...กับเธอแต่เวลาแห่งความสุขมีไม่นานนัก หนึ่งปีผ่านไปจากวันที่เขาเจอเธอวันคริสต์มาสกลับมาอีกครั้ง และครั้งนี้เขารู้ว่า ซานต้าจะมาเอาของขวัญคืน เช้าวันที่26 ธันวาคม เธอหายไปจากอ้อมกอดเขาร่องรอยที่เธอเคยใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับเขาหายไปราวกับทุกอย่างที่ผ่านมาเป็นเพียงฝันที่สวยงามมีเพียงเขาที่รู้ว่ามันคือเรื่องจริง หัวใจของเขายังจดจำความรักของเธอได้ไม่มีวันลืม กาลเวลาผ่านไปหัวใจของชายหนุ่มยังคงรอคอยเธอผู้นั้นเขาใช้ชีวิตด้วยความหวังว่าสักวันจะได้พบเธอ และเขาก็ได้พบจริงๆ ในจังหวัดที่ห่างไกลเขาพบรูปวาดของเธอ สาวน้อยหน้าตาบริสุทธิ์ราวกับนางฟ้า ดวงตาสดใสที่เขาจำได้ดีคนดูแลรูปบอกว่าเธอจากไปแล้วเพียงไม่กี่เดือนก่อนเขาจะมา เธอฝากจดหมายไว้ถึงใครสักคนที่ถามถึงเธอจดหมายที่บรรยายความรู้สึกของเธอทั้งหมด ความทรมานที่เธอต้องเจอจากการรักษาโรคร้ายเพื่อที่จะยื้อชีวิตไว้ให้นานที่สุดเพราะหวังว่าสักวันเขาจะต้องหาเธอพบแน่นอน ตอนสุดท้ายของจดหมายเธอบอกให้เขาเดินต่อไปอย่าเสียใจที่ไม่ได้ใช้ชีวิตด้วยกัน เพราะเธอยังอยู่ในหัวใจเขาเสมอและบอกถึงผู้หญิงอีกคนด้วย ผู้หญิงที่อยู่ข้างกายพระเอกมาตลอด รักเขามาตลอดแต่เพราะเขาไม่ได้รักเธอ เธอจึงยอมรับสถานะเพื่อนสนิทที่เขามอบให้อย่างเต็มใจนางเอกได้ให้กำลังใจเธอให้เธอกล้าที่จะเผยความในใจและฝากฝังให้เธอดูแลพระเอกแทนด้วย นิยายเรื่องนี้ให้ข้อคิดในเรื่องความรักที่เป็นแรงผลักดันให้เราทำสิ่งดีๆต่อไปให้เราเริ่มต้นใหม่โดยใช้ความรักและความเศร้าในอดีตเป็นกำลัง
7. Will the Stars Fall Tonight? นิทาน ความรัก และดวงดาว
ผลงานของOresia จากสำนักพิมพ์แจ่มใสเช่นกันและยังเป็นนิยายเรื่องสุดท้ายที่ถูกตีพิมพ์ก่อนที่นักเขียนจะวางปากกาไปด้วย เป็นเรื่องเกี่ยวกับโลกที่มีการถ่ายโอนอายุขัยของคนคนหนึ่งให้กับอีกคนได้หากใครไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกแล้วก็สามารถเอาอายุขัยของตัวเองยกให้คนที่อยากทีชีวิตต่อได้ซึ่งนางเอกของเรื่องนี้เธอเลือกจะทิ้งชีวิตไปอยู่ในดินแดนระหว่างโลกของความตายกับโลกของคนที่ยังมีชีวิตแต่วันหนึ่งในดินแดนเหมือนฝันกลับถูกชายปริศนาโจมตี เขาพยายามจะทำลายโลกนี้เพื่อให้ทุกคนที่ทิ้งชีวิตตัวเองมากลับไปในโลกของคนเป็นนางเอกและกลุ่มเพื่อนของเธอพยายามขัดขืน แต่สุดท้ายก็ถูกส่งกลับไปจนได้ ระหว่างการเดินทางเพื่อพาเธอกลับชายปริศนากับการกระทำแปลกๆและคำพูดแปลกๆของเขาทำให้เธออดสงสัยไม่ได้ว่าเขาทำทุกอย่างนี้ไปเพื่ออะไร สุดท้ายเธอก็กลับมาจากโลกกึ่งความตายได้สิ่งแรกที่ที่เธอทำคือการไปตามหาเขาคนนั้น คนที่พาเธอกลับมา เธอพบเขา...ที่หลุมศพเขาตายไปแล้ว ที่จริงต้องบอกว่าเขาควรจะตายไปตั้งนานแล้วหากวันนั้นเธอไม่เลือกที่จะทิ้งชีวิตตัวเองเขาได้รับชีวิตของเธอ แต่เพราะเขารักเธอเขาจึงไม่อยากให้เธอต้องหนีปัญหาไปอยู่ในโลกปลอมๆแบบนั้นการช่วยเธอกลับมาให้เจอกับความจริงคือสิ่งที่เขาเลือกทำแม้ว่าการที่เธอกลับมามีชีวิตจะหมายถึงเขาต้องตายก็ตาม Oresia ถือเป็นนักเขียนในดวงใจของฉันคนหนึ่ง นิยายแทบทุกเรื่องเขานักเขียนจะเสนอในแง่มุมของความรักที่โรแมนติกความรักคือการให้ ความรักคือการเสียสละ และส่วนใหญ่จะจบลงด้วยน้ำตาแต่เป็นน้ำตาภายใต้รอยยิ้ม แม้จะเจ็บปวดแต่การทำเพื่อคนที่รักย่อมมีความสุขเสมอและนิยายเรื่องนี้ก็ให้ข้อคิดในเรื่องของความรักที่แม้ไม่เคยเจอกันจริงๆแต่เขาก็รักเธอได้แม้เขาจะต้องเจ็บปวดและหายไป แต่การที่เธอมีความสุขมันก็คือความสุขของเขาเช่นกัน
โลกใบเล็ก 7 ใบนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเวลาว่างที่ฉันชอบยังมีโลกอีกหลายใบที่ฉันเคยไปเยี่ยมเยือนและได้พบกับสิ่งมหัศจรรย์มากมายว่ากันว่านิยายเป็นส่วนหนึ่งของความจริง ความจริงเป็นส่วนหนึ่งของนิยายในนิยายบางครั้งก็มีความจริงปะปนอยู่ ในความจริงบางครั้งก็เหลือเชื่อจนเหมือนเป็นเรื่องที่แต่งขึ้นแต่ท้ายที่สุดไม่ว่าจะในนิยายหรือความจริงทางที่เลือกก็ควรตัดสินใจให้ดีเพราะจะไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไขได้อีกแล้ว นิยายที่ตีพิมพ์แล้วยากนักที่จะเรียกคืนชีวิตที่ผ่านมาแล้วก็ไม่มีวันหวนกลับมาได้อีกเช่นกัน เวลาว่างที่ผ่านไปก็ไม่สามารถนำกลับมาได้อีกฉะนั้นหลายคนจึงมักบอกว่าเวลาว่างควรจะทำอะไรที่มีประโยชน์ อย่าทำเรื่องไร้สาระที่เรียกว่างานอดิเรกแต่ฉันกลับคิดต่าง งานอดิเรกบางอย่างก็ทำให้คนคนนั้นประสบความสำเร็จ แม้งานอดิเรกจะคือการเล่นเกมแต่หากรู้ว่าควรจะเอาความรู้จากการเล่นเกมไปทำอะไรก็ย่อมเกิดประโยชน์ จากคนเล่นเกมกลายเป็นคนสร้างเกมจากเด็กแว้นกลายเป็นนักแข่งรถมืออาชีพ ฉะนั้นทุกอย่างย่อมเป็นไปได้เสมอ
โลกของฉันเป็นแบบนี้ แล้วโลกของคุณล่ะ...เป็นแบบไหน :)
| Create Date : 23 มิถุนายน 2561 |
| Last Update : 23 มิถุนายน 2561 21:31:50 น. |
|
0 comments
|
| Counter : 2145 Pageviews. |
 |
|
