Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
24 ตุลาคม 2552
 
All Blogs
 
บทวิเคราะห์: โรคระบาดกับการเปลี่ยนแปลงของมนุษยชาติ (1) และ (2)


บทวิเคราะห์: โรคระบาดกับการเปลี่ยนแปลงของมนุษยชาติ (1)

โรคระบาดในสัตว์...สัญญาณเตือนจากธรรมชาติ?

*เมื่อกล่าวถึงคำว่า "โรคระบาด" แทบจะถือได้ว่ากลายเป็นความกังวลและถือเป็นข่าวใหญ่ที่สำคัญของมนุษย์ทั้งโลก โดยเฉพาะในยุคที่มีการติดต่อสื่อสารอย่างรวดเร็ว ทำให้การเชื่อมต่อจากทวีปสู่ทวีปเกิดขึ้นอย่างง่ายดาย รวมถึงการแพร่กระจายของเชื้อโรคที่เกิดขึ้นได้ง่ายด้วยเช่นกัน... ล่าสุดการระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ H1N1 ในประเทศเม็กซิโก ที่เริ่มมีการระบาดไปในบางส่วนของประเทศสหรัฐอเมริกา รวมถึงในทวีปเอเชียอย่างในประเทศเกาหลีใต้ และฮ่องกง

     หากมองย้อนไปในระยะเวลาเพียงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การระบาดของโรคที่มีการข้ามสายพันธุ์จากสัตว์สู่คน และมีการระบาดข้ามประเทศในลักษณะเดียวกับโรคไข้หวัดใหญ่ที่ระบาดในประเทศเม็กซิโกนี้ 'ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก' แต่ก่อนหน้านี้มีการระบาดของโรคไข้หวัดนก ในปี 2550 ในประเทศแถบเอเชียอย่างประเทศจีน เวียดนาม ฮ่องกง รวมถึงประเทศไทย ทำให้เกิดข้อสงสัยที่ว่า โรคติดต่อจากสัตว์สู่คนนี้เหตุใดในระยะเพียงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จึงมีการระบาดอย่างบ่อยครั้งและทวีความรุนแรงขึ้น?? และจะส่งผลกระทบต่อมนุษย์อย่างไรในอนาคต??

สำนักข่าวแห่งชาติ จึงได้ทำการสอบถาม นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งกล่าวถึงโรค "ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ที่ระบาดในประเทศเม็กซิโก" ว่า ปกติไข้หวัดใหญ่ในหมู เป็นโรคที่มีมานานแล้วแต่ไม่ทำให้หมูหรือคนที่เลี้ยงหมูเสียชีวิต ขณะเดียวกันโอกาสการติดโรคจากหมูสู่คนก็เป็นไปได้น้อยมาก แต่การเกิดโรคดังกล่าวอาจมองได้ว่าเกิดจากการปรับเปลี่ยนสายพันธุ์ของเชื้อโรค ซึ่งถือเป็นวิวัฒนาการทางธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตที่ต้องมีการปรับตัวเพื่อความอยู่รอด จึงทำให้ความสามารถในการติดต่อระหว่างสัตว์สู่คนเป็นไปได้ง่ายขึ้น

     ทั้งนี้ ผอ.สำนักโรคติดต่อทั่วไป อธิบายถึง สาเหตุการระบาดของโรคติดต่อจากสัตว์สู่คน ว่ามาจากหลายปัจจัย กล่าวคือ

1) ประชากรโลกมีจำนวนมากขึ้นและมีลักษณะการอยู่ร่วมเป็นสังคมใหญ่ เมื่อประชากรมากทำให้เกิดการลุกล้ำพื้นที่อันเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า ส่งผลให้ระบบนิเวศน์มีการเปลี่ยนแปลง จนเกิดผลกระทบทั้งต่อสัตว์และคนในที่สุด
2) อุตสาหกรรมการเลี้ยงสัตว์ในปัจจุบันที่มุ่งเน้นไปที่การเลี้ยงสัตว์จำนวนมากเพื่อบริโภค ส่งผลให้โรงเลี้ยงมีความแออัดก่อให้เกิดโรคระบาดในสัตว์ได้ง่าย นอกจากนี้กระบวนการในการผลิตและการเพาะเลี้ยงที่ผิดธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นการใช้สารเคมีเร่งสีเร่งโตหรือวิธีที่ผิดธรรมชาติ ซึ่งถือเป็นปัจจัยที่ทำให้สัตว์มีการเปลี่ยนแปลง ส่งผลให้เชื้อโรคในสัตว์เปลี่ยนแปลงและกระทบถึงคนในที่สุด

     นอกจากนี้ นพ.โอภาส กล่าวถึง สาเหตุที่มนุษย์มีความเสี่ยงต่อการระบาดของโรคติดต่อได้ง่ายขึ้น ว่ามาจาก ประการแรก จากการที่วิวัฒนาการทางการแพทย์พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้คนมีอายุยืนยาว โอกาสรอดหายจากโรคภัยสูง ส่งผลให้ประชากรโลกมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันมนุษย์ก็มีสภาวะร่างกายที่อ่อนแอลง ทั้งจากมลพิษมลภาวะ และการกินอยู่อย่างไม่ถูกต้อง ไม่ออกกำลังกาย รวมถึงภาวะการมีประชากรผู้สูงอายุจำนวนมากขึ้น จึงถือเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคภัยไข้เจ็บและการติดต่อโรคจากคนสู่คนที่ง่ายขึ้น ประการที่สอง จากการปรับเปลี่ยนสายพันธุ์ของเชื้อโรค ซึ่งถือเป็นวิวัฒนาการทางธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตที่ต้องมีการปรับตัวเพื่อความอยู่รอด จึงทำให้ความสามารถในการติดต่อระหว่างสัตว์สู่คนเป็นไปได้ง่ายขึ้น

ขณะเดียวกัน ผอ.สำนักโรคติดต่อทั่วไป กล่าวว่า โรคติดต่อจากสัตว์สู่คน ถือเป็นโรคที่เกิดขึ้นได้เป็นประจำ และอาจจะมีการเกิดได้มากยิ่งขึ้นในอนาคต หากมนุษย์ยังคงเปลี่ยนแปลงและรบกวนธรรมชาติสิ่งแวดล้อม ในอนาคตมนุษย์จึงอาจต้องเผชิญกับโรคอุบัติใหม่อย่างเลี่ยงไม่ได้

     ทั้งนี้แม้โรคไข้หวัดใหญ่ที่ระบาดในประเทศเม็กซิโกจะถือเป็นโรคระบาดที่สร้างความหวั่นวิตกต่อประเทศทั่วโลกในปัจจุบัน แต่ผู้อำนวยการสำนักโรคติดต่อทั่วไปมองว่า ความรุนแรงของโรคดังกล่าวหากเทียบกับไข้หวัดนกที่ระบาดในช่วงเวลาที่ผ่านมา โรคไข้หวัดใหญ่ที่ระบาดในประเทศเม็กซิโกถือได้ว่ามีความรุนแรงของโรคน้อยกว่า กล่าวคือ โรคไข้หวัดนกในแต่ละปีจะพบผู้ป่วยทั่วโลกไม่เกิน 500 แต่ผู้ป่วยมีโอกาสเสียชีวิตสูงถึงร้อยละ 60 ขณะที่โรคไข้หวัดใหญ่ที่ระบาดในประเทศเม็กซิโก พบผู้ป่วยมากแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว แต่รายงานผู้เสียชีวิตยังถือได้ว่ามีจำนวนน้อยและสามารถรักษาหายได้อย่างรวดเร็วหากมาพบแพทย์อย่างทันท่วงที

นั่นหมายความว่า โรคที่มีความรุนแรงมากโอกาสเสียชีวิตสูงแต่ขณะเดียวกันโอกาสในการแพร่เชื้อสู่คนอื่นน้อย ขณะที่โรคที่มีความรุนแรงน้อยโอกาสเสียชีวิตต่ำแต่กลับแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว ซึ่ง นพ.โอภาส กล่าวว่า เหตุที่โรคไข้หวัดใหญ่ที่ระบาดในประเทศเม็กซิโก มีลักษณะการแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็วดังกล่าว เนื่องจากการไม่สามารถสืบทราบได้ว่าผู้ป่วยรายแรกคือใคร และมีสาเหตุการเกิดโรคอย่างไร ทำให้การแก้ไขเป็นไปได้ลำบากยิ่งขึ้นนั่นเอง

     หากพิจารณาถึงปัจจัยทั้งหมดนี้อาจกล่าวได้ว่า การเกิดโรคระบาดจากสัตว์สู่คนถือเป็นผลพวงจากการที่มนุษย์รุกรานธรรมชาติและความเป็นอยู่ของสัตว์ ทำให้เกิดผลกระทบสู่คนในที่สุด หากแต่ปัจจัยการเกิดโรคระบาดเหล่านี้ จะส่งผลกระทบต่อมนุษย์อย่างไร รวมถึงมนุษย์ความต้องมีการเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือต่อโรคระบาดที่อาจเกิดขึ้นได้อีกในอนาคตอย่างไร ติดตามได้ใน บทวิเคราะห์: โรคระบาดกับการเปลี่ยนแปลงของมนุษยชาติ (2) โรคระบาด..กับความพร้อมรับมือของมนุษย์?




บทวิเคราะห์: โรคระบาดกับการเปลี่ยนแปลงของมนุษยชาติ (2)

โรคระบาด..กับความพร้อมรับมือของมนุษย์?

*โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ที่ระบาดในประเทศเม็กซิโก หรือไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่กำลังสร้างความตื่นตระหนกไปทั่วโลกในขณะนี้ ถือได้ว่าไม่ใช่โรคใหม่ที่เกิดจากการระบาดจากสัตว์สู่คน จากข้อมูลทางวิทยาศาสตร์และการแพทย์จะพบว่า โรคระบาดส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นร้อยละ 70 เป็นโรคระบาดที่เกิดจากสัตว์สู่คน หากแต่มักไม่มีความรุนแรงและเกิดได้ไม่บ่อยนัก แต่จากปัจจัยการวิวัฒนาการทางพันธุกรรมส่งผลให้ความสามารถในการติดต่อระหว่างสัตว์สู่คนเป็นไปได้ง่ายขึ้น ติดตามอ่านเพิ่มเติมได้ใน บทวิเคราะห์: โรคระบาดกับการเปลี่ยนแปลงของมนุษยชาติ (1) ตอน: โรคระบาดในสัตว์...สัญญาณเตือนจากธรรมชาติ?

     การระบาดของโรคติดต่อจากสัตว์สู่คนที่เกิดขึ้นในแต่ละครั้ง ส่งผลกระทบต่อการติดต่อของโรคและเสียชีวิตเกิดขึ้น แม้การระบาดของโรคติดต่อจากสัตว์สู่คนจะไม่ใช่โรคใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้น แต่การระบาดของโรคที่มีความรุนแรงมากขึ้นเหล่านี้เกิดจากปัจจัยใด?? และโลกร้อนมีส่วนหรือไม่?? การเตรียมพร้อมในการรับมือของมนุษย์ในปัจจุบันควรต้องเตรียมการอย่างไร??

สำนักข่าวแห่งชาติ ได้ทำการสอบถาม นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณะสุข ที่ได้เล่าถึงลักษณะการเกิดโรคระบาดจากสัตว์สู่คนอย่างกรณีโรค "ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่2009" ว่า โรคดังกล่าวถือเป็นเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ซึ่งมีหลายสายพันธุ์และพบได้ทั้งในคน ในลิง สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม รวมถึงสัตว์ปีก ซึ่งเชื้อเหล่านี้มีสายพันธุ์ที่ใกล้เคียงกัน บางครั้งจึงเกิดการแลกเปลี่ยนผสมข้ามสายพันธุ์ เกิดเป็นเชื้อตัวใหม่และเกิดการระบาดสู่คนได้

     ทั้งนี้ นพ.โอภาส เล่าถึงกลไกการเกิดโรคว่ามาจาก 3 ปัจจัย คือ คน เชื้อโรค และสิ่งแวดล้อม ปัจจัยจากคน เช่น โรคติดต่อทางเดินหายใจ สามารถติดต่อทางการไอ จาม น้ำมูก เสมหะ น้ำลาย การสัมผัส ใช้สิ่งของร่วมกัน ด้านสิ่งแวดล้อม ที่อยู่อย่างแออัด ถือเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้การแพร่กระจายของโรคเป็นไปได้ง่าย รวมถึงปัจจุบันที่การสื่อสารคมนาคมสะดวก ทำให้การแพร่กระจายของโรครวดเร็วขึ้น เชื้อโรค เมื่ออากาศร้อนขึ้นส่งผลให้สิ่งมีชีวิตบางประเภทเติบโตอย่างรวดเร็ว อย่างยุง แมลงหรือแม้แต่เชื้อโรคอย่างแบคทีเรีย จึงสามารถนำเชื้อโรคมาสู่คนได้ง่ายขึ้น "แม้ทางวิทยาศาสตร์อาจยังไม่สามารถสรุปคำตอบถึงภาวะโลกร้อนกับปัจจัยการเปลี่ยนแปลงและผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตหรือการเกิดโรคต่างๆ ได้อย่างชัดเจน แต่หากพิจารณาถึงความเป็นอยู่ของคนกับการเกิดโรคอาจกล่าวได้ว่ามีผลเกี่ยวเนื่องกันอย่างเลี่ยงไม่ได้" นพ.โอภาส กล่าว

     ผู้อำนวยการสำนักโรคติดต่อทั่วไป กล่าวว่า ในอนาคตวิถีชีวิตคนอาจจะเปลี่ยนไป คือคนจะมีอายุยืนยาวขึ้น จากวิวัฒนาการทางการแพทย์และสาธารณสุขที่ดี หากแต่ร่างกายไม่แข็งแรงก็จะเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ ได้มากขึ้น สำหรับเชื้อโรคเองก็มีวิวัฒนาการในการปรับตัวต้านยารักษาโรคต่างๆ ทำให้เชื้อแบคทีเรีย หรือเชื้อโรคบางอย่างโตเร็วขึ้น อาศัยอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นานขึ้น "อย่างเช่น อหิวาตกโรค ชอบน้ำเค็ม พอโลกร้อนขึ้น น้ำทะเลสูงขึ้น มันก็มาใกล้คนมากขึ้น ทำให้ในหลายประเทศมีการระบาดในลักษณะนี้เยอะขึ้น ก็คือโลกร้อนมีส่วน แต่ไม่ใช่ปัจจัยเดียวทีทำให้เกิดโรค" นพ.โอภาส กล่าว ดังนั้น โรคติดต่อจากสัตว์สู่คน จึงอาจมีการเกิดได้มากยิ่งขึ้นในอนาคต หากมนุษย์ยังคงเปลี่ยนแปลงและรบกวนธรรมชาติสิ่งแวดล้อม และไม่ปรับเปลี่ยนวิถีความเป็นอยู่ จึงอาจทำให้มนุษย์ต้องเผชิญกับโรคอุบัติใหม่อื่นๆ ในอนาคตอย่างเลี่ยงไม่ได้

วิธีที่เตรียมพร้อมรับมือ ผู้อำนวยการสำนักโรคติดต่อทั่วไป กล่าวถึงการเตรียมพร้อมรับมือกับโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ แบบพื้นฐานเบื้องต้นว่า ควรดูแลร่างกายตนเองให้แข็งแรงอยู่เสมอ ด้วยการออกกำลังกายเป็นประจำ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ สุกสะอาด งดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ ล้างมือบ่อยๆ ทั้งก่อนรับประทานอาหารและหลังเข้าห้องน้ำ ไม่คลุกคลี่กันคนที่เป็นโรค ส่วนผู้ป่วยโดยเฉพาะโรคติดต่อทางเดินหายใจควรสวมหน้ากากอนามัย และใช้ผ้าปิดปากปิดจมูกเวลาไอ จาม ซึ่งจะทำให้มีภูมิคุ้มกันโรคต่างๆ ได้

     ความพร้อมของประเทศไทยในการรับมือโรคอุบัติใหม่ นพ.โอภาส ยอมรับว่า สำหรับประเทศไทยถือว่ามีความเสี่ยงในการติดต่อโรค "ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่2009" เนื่องจากไทยเป็นศูนย์กลางทางการค้าและการคมนาคม ดังนั้นไทยจึงมีการเตรียมความพร้อมทั้งการให้ด่านควบคุมโรคระหว่างประเทศติดตั้งเครื่องวัดอุณหภูมิเทอร์โมสแกนเนอร์บริเวณท่าอากาศยานนานาชาติโดยเฉพาะที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในจุดที่มีผู้โดยสารขาเข้า โดยเฉพาะจากพื้นที่ที่มีการระบาดคือเม็กซิโก และบางส่วนของสหรัฐอเมริกา ถ้าพบผู้ป่วยเข้าข่ายต้องสงสัยจะมีการตรวจตัวอย่างจากช่องโพรงจมูกถ้าติดเชื้อก็จะให้การรักษา และมีการสอบถามว่าไปสัมผัสกับใครหรือไม่ เพื่อควบคุมเชื้อต่อไป นอกจากนี้มีการแจกเอกสารคำเตือนด้านสาธารณสุขหรือ Health Card แก่ผู้ที่จะเดินทางเข้าและออกนอกประเทศ โดยในส่วนของคนไทยได้เตือนให้งดการเดินทางไปประเทศเม็กซิโกและบางรัฐของสหรัฐอเมริกาที่มีการระบาดของโรคในขณะนี้ ส่วนผู้ที่เดินทางไปประเทศอื่น แล้วมีอาการเสี่ยงหรือต้องสงสัยควรรีบมาพบแพทย์ เพื่อให้คำแนะนำในการรักษาต่อไป

     ส่วนยาโอเซลทามิเวียร์ GPO-A-FLU ที่ใช้ในการรักษา ผอ.สำนักโรคติดต่อทั่วไป ยืนยันว่ามีการสำรองยาอย่างเพียงพอ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นยาที่เตรียมพร้อมในส่วนของการควบคุมป้องกันโรคไข้หวัดนก ซึ่งไทยไม่พบผู้ป่วยมานานกว่า 2 ปีแล้ว เนื่องจากมีระบบการเฝ้าระวังโรคที่มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ในขณะนี้องค์การเภสัชกรรมสามารถผลิตยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ได้ จึงทำให้ปริมาณของยาที่กระจายไปตามสถานพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศมีเพียงพอ นอกจากนี้มีการเปิดสายด่วนเพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในเม็กซิโก ตลอด 24 ชั่วโมง ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0-2590-3333 อัตโนมัติ 10 คู่สาย เพื่อป้องกันการตื่นตระหนกของประชาชน

     แม้โรค "ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่2009" ที่มีการระบาดจะสร้างความหวั่นวิตกไปทั่วโลก แต่หากมนุษย์มีความเข้าใจถึงการเกิดโรคที่เกิดจากการทำลายสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ จนส่งผลให้สัตว์และคนอ่อนแอลง และหันกลับมาช่วยกันฟื้นฟูสภาพแวดล้อม และสนับสนุนการอยู่อย่างวิถีธรรมชาติ เพื่อสร้างความแข็งแรงให้แก่คนและสัตว์แล้ว เชื่อได้ว่า การป้องกันการระบาดของโรคอุบัติใหม่ ก็อาจเป็นไปได้อย่างไม่ยากเย็นนัก


พิมพิดา โยธาสมุทร เรียบเรียง

ชูชาติ เทศสีแดง บรรณาธิการ


ขอขอบคุณ
ที่มา :
สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ วันที่ 6 พฤษภาคม 2552


H O M E



Create Date : 24 ตุลาคม 2552
Last Update : 24 ตุลาคม 2552 20:30:08 น. 0 comments
Counter : 742 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jenifaae
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Editor
บทความ ความคิดเห็นที่นำลง"สนามหลวงแก็งค์" ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
เพียงเราเห็นว่าน่าสนใจและเป็นประโยชน์ในทางข้อมูล ข่าวสาร
หากท่านมีข้อคิดเห็นประการใด โปรดแจ้งให้เราทราบ จักขอบคุณยิ่ง
"สนามหลวงแก็งค์"
kunkorn : Facebook



"Sanamluang's Gang"
"สนามหลวงแก๊งค์"

kunkorn : Facebook

     เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนให้เกิดการศึกษา การเรียนรู้ เผยแพร่ ส่งเสริม สนับสนุน รวบรวมข้อมูล ข่าวสาร อนุรักษ์ รักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ของชนชาติไทย วิถีชีวิต และปรัชญา คุณค่าจิตวิญญาณที่งดงาม สืบสานต่อยอดกันมานานนับพันๆปี และกำลังถูกทำลายด้วยอิทธิพลจากแนวคิดเชิงวัตถุนิยมแบบตะวันตก

● เพื่อการศึกษาหาความรู้ ส่งเสริม สนับสนุน ให้เกิดการศึกษา เรียนรู้ สิ่งที่พระพุทธเจ้าค้นพบ และนำมาเผยแพร่แก่มวลมนุษยชาติ อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ที่แท้จริง มิใช่เพียงวิทยาศาสตร์เชิงวัตถุเพียงอย่างเดียว เพราะถือว่าพระพุทธเจ้า ทรงค้นพบความจริงของธรรมชาติ ทั้งหมดทั้งสิ้น ที่มนุษย์ธรรมดาสามัญอย่างเราๆ ท่านๆ ยังเป็นเพียงผู้รู้ แค่หางอึ่งที่ยังอยู่ในกะลาครอบ แต่บังอาจด่วนสรุป ขัดแย้งกับ สิ่งที่องค์ศาสดาทรงค้นพบมากว่าสองพันปี จนทำให้บังเกิดความสับสน ลดความน่าเชื่อในสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบ

● สนามหลวงแก๊งค์ ต้องขออนุญาตและขอขอบคุณท่านเจ้าของข่าวสาร ข้อมูล ที่เราได้นำลงในสนามหลวงแก๊งค์ ไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยจิตคารวะ ทั้งนี้และทั้งนั้น ก็เพื่อให้สนามหลวงแก๊งค์ เป็นแหล่งในการเผยแพร่ ข้อมูล ข่าวสารที่เป็นประโยชน์และเพื่อเป็นวิทยาทานแก่สาธารณชน แต่หากท่านเจ้าของข้อมูล ข่าวสารที่ สนามหลวงแก๊งค์ นำลงไม่มีความประสงค์ให้นำลง ขอได้โปรดแจ้งความประสงค์ เรายินดีที่จะถอดออกต่อไป

ด้วยจิตคารวะ
www.sanamluang.bloggang.com
kunkorn : Facebook


ดาวหาง
     เป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นในห้วงมหาจักรวาลอันยิ่งใหญ่ ลี้ลับไร้ขอบเขต ทุกครั้งที่ดาวหางปรากฏ มันจะส่งสัญญาณแห่งความพินาศ มหันตภัย ธรรมชาติ ความตาย ความเจ็บป่วย สงคราม ความขัดแย้ง การกดขี่ การเอารัดเอาเปรียบ การคดโกง การเบียดเบียนของมนุษย์บนพื้นพิภพใบนี้

     มันคือสัญญาณเตือนภัยที่มนุษย์ไม่อาจจะควบคุมได้ ทั้งภัยทางธรรมชาติและภัยที่เกิดขึ้นจากมนุษย์สร้างกันขึ้นมาเองในทุกรอบพันปี

     ไม่ว่ามนุษย์จะคิดว่าตัวเองเก่งกาจสามารถ ฉลาดสักเพียงไหน ก็ไม่อาจหลีกพ้นมหันตภัยเหล่านี้ไปได้
     ดังนั้น จงเชื่อและปฎิบัติตามอย่างไม่ลังเลต่อคำสอนของศาสดาของเราอย่างจริงจังเถิด

     แม้จอมจักรพรรดิ จอมราชันย์ หรือจอมทรราชที่ยิ่งใหญ่ในอดีต ก็ต้องตายร่างกายเน่าเปื่อยเป็นผุยผง และในที่สุดวิญญาณของเขาก็ต้องชดใช้กรรม ด้วยการถูกไฟนรกเผาผลาญโดยไม่มีข้อยกเว้นทั้งทั้งสิ้น

     จงอย่าอหังการ์ว่าตัวเองเก่ง ฉลาด และยิ่งใหญ่กว่าคำสอนของพระศาสดา ไม่มีมนุษย์ตนใดที่จะพ้นจากกฎแห่งธรรมชาติได้ มนุษย์ที่เก่งกว่าเรา เขาได้ตายร่างกายทับถมปฐพีแห่งนี้นับไม่ถ้วนแล้ว


     ● ขออนุญาตนำภาพวาด "วีระชนบนพานรัฐธรรมนูญ" ของ คุณสถาพร ไชยเศรษฐ ศิลปินอิสระ อดีตแนวร่วมศิลปินแห่งประเทศไทย ซึ่งวาดเนื่องในโอกาส 2 ปี 14 ตุลา มาเป็นส่วนหนึ่งของหัว "สนามหลวงบล็อก"                


บริการดูดวง



"สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" มีความภาคภูมิใจในความสำเร็จตามอุดมการณ์ของเรา ที่ได้ตั้งเอาไว้ว่า "เราจะใช้วิชาความรู้ในด้านการพยากรณ์เพื่อให้เป็นประโยชน์สำหรับการให้การปรึกษาของผู้คนที่กำลังประสบปัญหา ความเดือดเนื้อร้อนใจ หรือการเผชิญกับปัญหานั้นๆได้อย่างไรดี

มนุษย์เกิดแต่กรรม มนุษย์มีกรรมเป็นเหตุ เมื่อเราประสบเคราะห์กรรม ปัญหาอยู่ที่ว่าหากเราทราบเสียก่อน ย่อมเป็นสิ่งที่ดีกว่าการไม่ทราบ อย่างน้อยก็ทำให้เราระมัดระวังตัว อย่างน้อยก็ทำให้เราหลีกเลี่ยงเพื่อทำให้เราเผชิญกับกรรมน้อยลงไป อย่างน้อยก้ทำให้เรารู้ว่าสิ่งเหล่านั้นมันมีที่มา มันมีที่ไปของมัน

มีนักวิชาการและนักวิทยาศาสตร์วัตถุจิตนิยม มักโจมตีอยู่เสมอว่า การดูดวง เป็นเรื่องของความงมงาย หมอดูคู่กับหมอเดา หมายถึงว่า เขาไม่เชื่อในเรื่องของวิชาโหราศาสตร์เพราะคิดไปว่ามันเป็นเรื่องเดียรัจฉานวิชาบ้าง เป็นการคาดเดาเอาเองบ้าง คิดว่ามันเป็นวิชาที่ใช้สถิติสุ่มเอาบ้าง ไม่เชื่อว่าวิชาโหราศาสตร์จะสามารถไขปริศนาแห่งรหัสลับของดวงดาว จักรวาล และธรรมชาติรอบตัว

แสดงว่าเขาลืมไปว่า อัลเบิร์ต ไอสไตน์ และสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้กล่าวไว้ว่า ทุกสรรพสิ่งในโลกรอบตัวเรา ตั้งแต่เล็กเท่าอะตอม (จุลจักรวาล)จนถึงมหาจักรวาล ล้วนมีความผูกพัน ล้วนมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งแยกกันไม่ออก เพียงแต่ว่า กับอะไร เมื่อไร อย่างไร เท่านั้น

กรรมเป็นผลจากการกระทำของเราในอดีตชาติ จะดีหรือจะร้ายก็เพราะเราทำ เป็นสิ่งที่เราจะต้องได้รับผลแห่งการกระทำเหล่านั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

โหรฯเป็นเพียงผู้แปลรหัสของดวงดาวและธรรมชาติรอบตัว เพื่อเผยแผนที่ชีวิตของเรา และสามารถมองเห็นช่องทางที่จะเลี่ยงหลบสิ่งเลวร้าย ให้ลดน้อยถอยลงหรือพบพานแต่สิ่งที่ดีดี

การสะเดาะเคราะห์ หรือพิธีการตัดกรรมที่กำลังกล่าวขานถึงก็คือการขออโหสิกรรม ลดการอาฆาตจองเวรกับเจ้ากรรมนายเวรที่กำลังจ้องจองเวรด้วยความอาฆาตพยาบาทที่ถูกเรากระทำในอดีตชาติ ไม่ใช่เป็นการตัดทอนผลกรรมที่เราทำให้หมดไปหรือให้ลดลง เพราะกรรมที่เรากระทำไม่สามารถตัดทอนลงไปได้



สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์พยากรณ์เที่ยงตรง แม่นยำเชื่อถือได้ วิเคราะห์พยากรณ์อย่างเป็นระบบ ไม่เลื่อนลอย ยึดมั่นในอุดมการณ์ของครูที่ท่านได้กำชับให้นำเอาวิชาการพยากรณ์มาช่วยเหลือแนะนำ บรรเทาทุกข์ของผู้คนมากกว่าการพยากรณ์เพื่อการค้า

ต้องยอมรับว่า ไม่ว่าประเทศใด? ชาติใด ภาษาใด? สมัยไหน? ชนชั้นวรรณะใด? ไม่ว่าจะเป็นเจ้าสัว นักธุรกิจ นักการค้า แม่บ้าน นักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ หรือไม่เว้นแต่นายพล นายพัน รัฐมนตรี หรือระดับผู้นำประเทศ ล้วนแต่เคยดูดวงด้วยกันทั้งสิ้น เพียงแต่ว่า เราจะเชื่ออย่างงมงายหรือจะเชื่อโดยใช้เหตุผลอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ โดยนำเอาคำพยากรณ์มาใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการดำเนินชีวิต หรือทำธุรกิจ การค้า หรือเพื่อการทำสงครามฯ

"สนามหลวงแก็งค์" ไม่สนับสนุนให้เชื่อเรื่อง "ดวง" อย่างงมงาย แต่เราสนับสนุนให้ใช้คำ "พยากรณ์"อย่างมีวิจารณญาณประกอบการตัดสินใจอย่างมีสติ ใช้ "ปัญญา"อย่างมี "เหตุผล"

หลังจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม จนต้องมีการเข้าจองคิวดูดวงเป็นจำนวนมาก ณ ขณะนี้ ไม่ใช่แต่เฉพาะคนไทยในประเทศที่เข้ามาใช้บริการจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"เท่านั้น

แต่ยังมีคนไทยที่อยู่หลายประเทศทั่วโลกเข้ามาดูดวง ตรวจสอบชื่อ นามสกุลมากมาย ทั้งนี้คงเป็นเพราะผู้ที่เข้ามา"ดูดวง" กับ "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับความพอใจในคำพยากรณ์ที่ถูกต้อง แม่นยำ แนะนำแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมตามหลักโหราศาสตร์ จึงได้มีการบอกเล่า แนะนำชักชวนกันปากต่อปากเป็นจำนวนมาก

ปัจจุบันนี้ มีผู้เข้ามาเยี่ยมชมwww.sanamluang.bloggang.com มีจำนวนถึง 118 ประเทศ โดยเข้ามาเปิดดูหน้า "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"คิดเป็นร้อยละ 80 ของ pageviews ต่างๆใน www.sanamluang.bloggang.comจัดทำบล็อกครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2550 มีผู้เข้าชมจำนวนทั้งสิ้น 579,020 ครั้ง จากจำนวน 262,960 visitors (ข้อมูล ณ เวลา 12.00 น.ของวันพุธที่ 6 ตุลาคม 2553)

ส่วนใหญ่ลูกค้าที่โทรเข้ามาเกือบ 98% เมื่อโทรฯ เข้ามาดูดวงแล้ว จะสามารถนัดวัน เวลาดูดวงได้โดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด อาจจะมีอยู่บ้างเพียงไม่กี่รายที่โทรฯเข้ามาเพื่อสอบถามรายละเอียดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

อาจจะเนื่องมาจากไม่คุ้นเคยการทำธุรกิจแบบออนไลน์ โดยมีการโอนเงินก่อน ไม่ไว้ใจ หรือไม่กล้า ซึ่งมีจำนวนน้อยมาก ประมาณ 2%

สำหรับที่เมลฯมาถามและเงียบไป ไม่สามารถทราบจำนวนได้ อาจเนื่องจากเป็นรายที่โทรเข้ามานัดอีกทางหนึ่งก็เป็นได้

สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์ ยังมีอาจารย์ผู้สอนวิชาโหราศาสตร์ ผ่านประสบการณ์ในการดูดวงหลายปีคิดเป็นจำนวนหลายพันดวง

แน่นอน แม่นยำกระชับ ชัดเจน หากไม่ทราบเวลาตกฟากท่านก็ยังสามารถดูได้ รายที่กำลังประสบเคราะห์หามยามร้าย ท่านก็จะช่วยแนะนำและแก้ไขเรื่องเลวร้ายให้กลายเป็นดีด้วยศาสตร์แห่งความลี้ลับของโหราศาสตร์ โดยไม่ต้องเสียเงินสะเดาะเคราะห์ สามารถดูได้ถึงขนาดปัญหาเรื่องคู่ครอง เรื่องเคราะห์ เรื่องหน้าที่การงาน โดยใช้ "วิชาโหราศาสตร์ดวงไทย"อันเป็นสุดยอดของวิชาโหราศาตร์โบราณของไทย

นอกจากนั้น เรายังมี ซินแส ที่เชี่ยวชาญเรื่องการดูฮวงจุ้ย ทำเลปลูกบ้าน อาคารสำนักงาน ดูฤกษ์ยาม แต่งงาน คลอดบุตร ขึ้นบ้านใหม่ เปิดกิจการต่างๆโดยใช้วิชาโหราศาสตร์จีนโบราณผสานตำราดวงไทย ซึ่งซินแสท่านมีประสบการณ์การดูดวงมาไม่น้อยกว่า 45 ปี ผ่านการดูให้กับนักธุรกิจชื่อดังของเมืองไทย และนักธุรกิจชั้นนำจากฮ่องกงหลายราย

ติดต่อ 081-4834367 หรือ workingmailhome@hotmail.com
--------------------------------------------
● ปรึกษาปัญหากฏหมาย
ละเมิด,สัญญา,อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์
--------------------------------------------
● ปัญหาติดต่อราชการ
บริการปรีกษาเรื่อง ภาษีป้าย ภาษีโรงเรือน ภาษีที่ดิน ค่าธรรมเนียมต่างๆ และการติดต่อราชการต่างๆ ของสำนักงานเขต
--------------------------------------------
● พิมพ์รายงาน,ค้นหาข้อมูล,

● งานพิมพ์ Lay-Out,Art Work
--------------------------------------------
สำนักพิมพ์ดาวหาง
www.sanamluang.bloggang.com




รับวาดรูปเหมือน และสอนวาดรูป
โดยอาจารย์ ผู้ชำนาญ

ราคาย่อมเยา

















หลังเกิดเหตการณ์ 14 ตุลา 2516 นิสิต นักศึกษา ปัญญาชน ต่างหลั่งไหลดั่งสายน้ำ ล้นขอบ ออกจากเมือง เข้าสู่ ชนบท เหตุเกิดเมื่อ กลางปี พ.ศ.2516 จนถึง พ.ศ.2519 นักศึกษากลุ่มหนึ่ง ได้ พบกันโดยบังเอิญ และ ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับชาวบ้าน ณ หมู่บ้าน แม่ตะมาน ตำบลกื๊ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้ ชื่อโครงการว่า "โครงการหมู่บ้านสหกรณ์แม่ตะมาน"
เชิญ พบ และติดตาม กับเรื่องราว และบทสรุป อันควรเป็นจุดเริ่มต้น ต่อไปใน

     เมล็ดพันธุ์ประชาธิปไตย ที่ถูกหว่านทั่วท้องทุ่งแห่งประชาไทย มาบัดเดี๋ยวนี้ เมื่อต้องฝน ต้องลม แห่งกาลเวลาพัดผ่าน จาก 2516 , 2519 2535,จน 2540 ถึง 2550บางเมล็ดพันธุ์ก็ยังขาวพิสุทธิ์สดใส บ้างเมล็ดพันธุ์เปลี่ยนสี บ้างก็ดอกสีเหลือง บ้างก็ดอกสีแดง บ้างก็ดอกสีม่วงก้มี สีเขียว สีน้ำเงิน หรือบ้างก็อาจเฉาโรยรา หรือบ้าง ผสมผสานกลายพันธุ์ ก็มีไม่น้อย
มาบัดเดี๋ยวนี้ มันไม่ใช่ จิต วิญญาณ แห่ง 14 ตุลา เดิมเสียแล้ว ไม่ใช่พันธุ์เดียวกัน อย่าได้ เอ่ยอ้างเลย ว่า วิญญาณ 14 ตุลา ยังคง...มันประชาธิปไตย ที่ไม่ บริสุทธิ์ผุดผ่องเหมือนอย่างเดิมเสียแล้ว.....
..แต่มันเป็น.ประชาธิปไตย...เพื่อใคร..??


“ทุกวันนี้ เราจะรับรู้ ได้เห็น ได้ยินแต่เรื่องเลวร้าย ในสังคม
เราจึงขอบันทึกสิ่งที่ดีๆ ต่างๆ เหล่านี้ ด้วยจิตคารวะ และขอเป็นกำลังใจให้เกิดสิ่งที่ดีงามเหล่านี้ต่อไป”>>>



อ่านงานเขียนเกี่ยวกับภาพยนตร์หลากหลายประเทศทั่วโลก ที่นี่ >>>





*จำนวนผู้ชมทั้งสิ้น* สถาปนาบล็อค 21 ก.ค.2550
Friends' blogs
[Add jenifaae's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.