Group Blog
 
 
มิถุนายน 2551
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
24 มิถุนายน 2551
 
All Blogs
 
งุบงิบได้ใจ.."ฮุนเซน" ยังไม่คายแผนที่พระวิหาร

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 22 มิถุนายน 2551 15:23 น.


ปราสาทพระวิหารกับอาณาบริเวณความยาวกว่า 800 เมตรจากชะง่อนผา ซึ่งเป็นแนวสันปันน้ำที่ควรจะเป็นเส้นพรมแดนธรรมชาติไทย-กัมพูชา ตามหลักสากล ทั้งที่ตั้งและอาณาบริเวณโดยรอบจึงเป็นกรณีพิพาทมายาวนานเกือบครึ่งศตวรรษ แม้ว่าศาลโลกจะตัดสินให้ปราสาทเก่าแก่อายุกว่า 1,000 ปี ตกเป็นของกัมพูชาไปแล้วก็ตาม

     ผู้จัดการออนไลน์-- คณะกรรมาธิการการต่างประเทศรัฐสภากัมพูชาทนไม่ไหว รัฐบาลไม่โปร่งใสกรณีเซ็นแถลงการณ์ร่วมกับไทยโดยไม่ปรึกษารัฐสภา และ จนกระทั่งบัดนี้ก็ยังไม่มีการเปิดเผย “แผนที่ปริศนา” ที่เสนอประกอบการจดทะเบียนตัวปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก

     นายสนชัย (Son Chhay) ประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ ซึ่งเป็น สส.พรรคสมรังสี พรรคฝ่ายค้านเพียงพรรคเดียวในขณะนี้ได้เรียกร้องให้รัฐบาลของสมเด็จฯ ฮุนเซน เปิดเผยแผนที่ซึ่งฝ่ายกัมพูชาจัดร่างขึ้น และนำไปเสนอให้ฝ่ายไทยอนุมัติเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

     ไม่มีการเปิดเผยแผนที่ฉบับดังกล่าวจากฝ่ายไทยเช่นเดียวกัน นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีการต่างประเทศให้สัมภาษณ์รายการข่าวสถานีวิทยุเอฟเอ็ม 97 เมกะเฮิรส สัปดาห์ที่แล้วระบุว่า ได้รับการร้องขอจากรัฐบาลกัมพูชาให้ปิดเรื่องนี้เป็นความลับ เพราะอาจจะกระเทือนถึงสถานการณ์การเมืองภายในประเทศนั้นได้

     รมว.ต่างประเทศของไทยกล่าวด้วยว่า หากเกิดความไม่เข้าใจกันขึ้น ก็อาจจะมีนำไปสู่การเผาสถานทูตไทยในกรุงพนมเปญอีก "แล้วใครจะรับผิดชอบ?"

     วันพุธสัปดาห์ที่แล้วไทยกับกัมพูชาได้ร่วมกันลงนามในแถลงการณ์ร่วมฉบับหนึ่งเกี่ยวกับการจดทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกซึ่งไทยให้การรับรองแผนที่ที่ฝ่ายกัมพูชานำเสนอ และสองฝ่ายยังเก็บเป็นความลับจนกระทั่งบัดนี้


ดั้งเดิมเมื่อยื่นขอจดทะเบียนปี 2549 กัมพูชาจะจดทะเบียนปราสาทกับอาณาบริเวณโดยรอบพื้นที่กว่า 10 ตร.กม. เป็นมรดกโลก โดยยึดเส้นพรมแดน (เส้นประหนาสีม่วงแดง) ตามแผนที่ที่ฝรั่งเศสที่ขึ้นเมื่อ 100 ปีมาแล้ว


แต่ประเทศไทยได้ยืนยันในแนวเส้นเขตแดนที่สันปันน้ำมาตลอด 46 ปี มิใช่เพิ่งจะหยิบยกขึ้นมาเป็นกรณีพิาพาท ในช่วงที่กัมพูชาขอจดทะเบียนปราสาทพระวิหารกับอาณาบริเวณโดยรอบเป็นมรดก คณะกรรมาธิการรัฐสภากัมพูชาเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดเผยแผนที่ที่ "งุบงิบ" นำเสนอต่อไทยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

     รมว.การต่างประเทศของไทยยืนยันว่า การจดทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกของฝ่ายกัมพูชาไม่ส่งผลกระทบต่อเขตพื้นที่อาณาบริเวณโดยรอบ ที่ไทยกล่าวอ้างอธิปไตยแต่อย่างไร และผู้แทนของฝ่ายทหารก็ยืนยันว่าไม่กระทบต่อเขตแดนไทย

     แต่หลายฝ่ายกล่าวว่า การยอมรับให้นำปราสาทหินอายุกว่า 1,000 ปีเข้าจดทะเบียนเป็นมรดกโลก จะส่งผลต่อการเจรจาปักปันเขตแดน ซึ่งตลอด 46 ปีที่ผ่านมาไทยได้ยืนยันอธิปไตยเหนือดินแดนโดยรอบปราสาท อันเป็นดินแดนที่อยู่ในเขตสันปันน้ำตามหลักสากล

     สำหรับกัมพูชานั้น นักวิเคราะห์กล่าวว่าเป็นครั้งแรกในระยะเวลากว่า 46 ปี ที่ไทยยอมรับอย่างเป็นทางการว่า ปราสาทพระวิหารกับผืนดินที่ตั้งอยู่เป็นของกัมพูชาโดยสมบูรณ์ แม้ว่าอาณาบริเวณทั้งหมด รวมทั้งผืนดินโดยรอบๆ จะอยู่ในเขตสันปันน้ำของไทยก็ตาม

     ศาลโลกในกรุงเฮกได้พิพากษาวันที่ 15 มิ.ย.2505 ให้ปราสาทพระวิหารกับผืนดินที่ตั้งตกเป็นของกัมพูชา โดยยึดแผนที่ฝรั่งเศส-สยามเมื่อปี 1907 อ้างอิง

     แผนที่ดังกล่าวไม่ได้ใช้สันปันน้ำในการแบ่งเขตแดนซึ่งผิดหลักสากลในการปักปันเขตแดน และไทยได้ยื่นประท้วง พร้อมทั้งยืนยันสิทธิที่จะโต้แย้งเกี่ยวกับเส้นเขตแดนช่วงนี้มาตั้งแต่เดือน ก.ค.2505


โคปุระชั้น 1 ที่อยู่ติดกับองค์ปราสาท ยังคงสภาพเป็นห้องโถงใหญ่ให้เห็น สภาพงดงาม กัมพูชาหวังว่าการจดทะเบียนเป็นมรดกโลกจะได้รับความช่วยเหลือมในการฟื้นฟูบูรณะขึ้นมาใหม่เช่นเดียวกันกับปราสาทเก่าแก่อีกหลายหลังในขณะนี้

     ขณะเดียวกันผู้อ่านหนังสือพิมพ์และเว็บไซต์ในกัมพูชากำลังรอคอยการแถลงของรัฐบาลอย่างกระวนกระวายใจ ขณะที่เฝ้าติดตามการชุมนุมประท้วงของคนหลายหมื่นที่บริเวณทำเนียบรัฐบาลในกรุงเทพฯ อย่างใกล้ชิด

     อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์ในกัมพูชากล่าวว่า นายกรัฐมนตรีสมเด็จฯ ฮุนเซน จะ "ประกาศชัยชนะ" ที่สามารถฟันฝ่ายอุปสรรคนำปราสาทพระวิหารเข้าจดทะเบียนเป็นมรดกโลกจนสำเร็จ ระหว่างการหาเสียงครั้งใหญ่สำหรับการเลือกตั้งวันที่ 27 ก.ค.ศกนี้

     ในเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา หลังพิธีเปิดใช้ทางหลวงเลข 48 สายเกาะกง-สีหนุวิลล์-พนมเปญ ซึ่งสร้างขึ้นโดยความช่วยเหลือจากรัฐบาลไทย สมเด็จฯ ฮุนเซนก็ได้ประกาศว่า ทั้งหมดเป็นผลงานของรัฐบาลภายใต้การนำของตนเอง

     สัปดาห์ที่แล้ว ได้มีการนำเอกสารข้อเสนอจดทะเบียนพระวิหารเป็นมรดกโลกความยาว 47 หน้าออกเผยแพร่ เป็นฉบับล่าสุดที่ออกภายหลังมีการลงนามในแถลงการณ์ไทย-กัมพูชาในกรุงเทพฯ ในนั้นได้กล่าวถึงเพียงรายละเอียดที่มาที่ไปของแผนการ


บริเวณโคปุระชั้น 3 ที่อยู่กึ่งกลางจากบันได 149 ขั้นไปยังทางเดินสายหลักกับองค์ปราสาทใหญ่ ได้รับการยกย่องว่าสวยงามที่สุดและยังคงสภาพดีที่สุดในบรรดาโคปะรุทั้ง 5 หลัง การเดินทางไปชมปราสาทพระวิหารต้องขึ้นจากดินแดนไทย หรือไม่ก็จะต้องไต่หน้าผาทางฝั่งกัมพูชาขึ้นไปตามความลาดราว 500 เมตร

     ไม่มีการเปิดเผยแผนที่ฉบับใหม่ในเอกสารดังกล่าว โดยระบุในส่วนที่เกี่ยวข้องแต่เพียงว่า ฝ่ายกัมพูชาได้ตกลงที่จะไม่กำหนด "เขตกันชน" (Buffer Zone) โดยรอบเพื่อนำเข้าจดทะเบียนด้วย

     ประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศรัฐสภา กล่าวว่าสาธารณชนต่างข้องใจและสงสัยว่า แผนที่ที่รัฐบาลจัดทำและนำไปเสนอต่อฝ่ายไทยนั้น อาจจะไม่ได้ยึดถือแผนที่ที่ฝรั่งเศสทำเอาไว้เมื่อกว่า 100 ปีก่อนในการอ้างอิง

     คณะกรรมการมรดกโลกมีกำหนดประชุมพิจารณาข้อเสนอของกัมพูชาในวันที่ 2 ก.ค.ศกนี้ ในนครควีเบ็ค แคนาดา.

ภาพ: เอกสารเสนอจดทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก

H O M E



Create Date : 24 มิถุนายน 2551
Last Update : 23 กรกฎาคม 2551 0:21:31 น. 1 comments
Counter : 1425 Pageviews.

 
รักและหวงดินแดนไทย ที่บรรพบุรุษได้ลำบาก
ต่อสู้เพื่อนผืนดินนี้

ขออธิษฐานให้ทุกสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในโลกนี้ ขอวิงวอนพระสยามเทวาธิราชเจ้า ปกป้องไทย...


โดย: pakwadee วันที่: 24 มิถุนายน 2551 เวลา:15:37:56 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jenifaae
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Editor
บทความ ความคิดเห็นที่นำลง"สนามหลวงแก็งค์" ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
เพียงเราเห็นว่าน่าสนใจและเป็นประโยชน์ในทางข้อมูล ข่าวสาร
หากท่านมีข้อคิดเห็นประการใด โปรดแจ้งให้เราทราบ จักขอบคุณยิ่ง
"สนามหลวงแก็งค์"
kunkorn : Facebook



"Sanamluang's Gang"
"สนามหลวงแก๊งค์"

kunkorn : Facebook

     เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนให้เกิดการศึกษา การเรียนรู้ เผยแพร่ ส่งเสริม สนับสนุน รวบรวมข้อมูล ข่าวสาร อนุรักษ์ รักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ของชนชาติไทย วิถีชีวิต และปรัชญา คุณค่าจิตวิญญาณที่งดงาม สืบสานต่อยอดกันมานานนับพันๆปี และกำลังถูกทำลายด้วยอิทธิพลจากแนวคิดเชิงวัตถุนิยมแบบตะวันตก

● เพื่อการศึกษาหาความรู้ ส่งเสริม สนับสนุน ให้เกิดการศึกษา เรียนรู้ สิ่งที่พระพุทธเจ้าค้นพบ และนำมาเผยแพร่แก่มวลมนุษยชาติ อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ที่แท้จริง มิใช่เพียงวิทยาศาสตร์เชิงวัตถุเพียงอย่างเดียว เพราะถือว่าพระพุทธเจ้า ทรงค้นพบความจริงของธรรมชาติ ทั้งหมดทั้งสิ้น ที่มนุษย์ธรรมดาสามัญอย่างเราๆ ท่านๆ ยังเป็นเพียงผู้รู้ แค่หางอึ่งที่ยังอยู่ในกะลาครอบ แต่บังอาจด่วนสรุป ขัดแย้งกับ สิ่งที่องค์ศาสดาทรงค้นพบมากว่าสองพันปี จนทำให้บังเกิดความสับสน ลดความน่าเชื่อในสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบ

● สนามหลวงแก๊งค์ ต้องขออนุญาตและขอขอบคุณท่านเจ้าของข่าวสาร ข้อมูล ที่เราได้นำลงในสนามหลวงแก๊งค์ ไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยจิตคารวะ ทั้งนี้และทั้งนั้น ก็เพื่อให้สนามหลวงแก๊งค์ เป็นแหล่งในการเผยแพร่ ข้อมูล ข่าวสารที่เป็นประโยชน์และเพื่อเป็นวิทยาทานแก่สาธารณชน แต่หากท่านเจ้าของข้อมูล ข่าวสารที่ สนามหลวงแก๊งค์ นำลงไม่มีความประสงค์ให้นำลง ขอได้โปรดแจ้งความประสงค์ เรายินดีที่จะถอดออกต่อไป

ด้วยจิตคารวะ
www.sanamluang.bloggang.com
kunkorn : Facebook


ดาวหาง
     เป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นในห้วงมหาจักรวาลอันยิ่งใหญ่ ลี้ลับไร้ขอบเขต ทุกครั้งที่ดาวหางปรากฏ มันจะส่งสัญญาณแห่งความพินาศ มหันตภัย ธรรมชาติ ความตาย ความเจ็บป่วย สงคราม ความขัดแย้ง การกดขี่ การเอารัดเอาเปรียบ การคดโกง การเบียดเบียนของมนุษย์บนพื้นพิภพใบนี้

     มันคือสัญญาณเตือนภัยที่มนุษย์ไม่อาจจะควบคุมได้ ทั้งภัยทางธรรมชาติและภัยที่เกิดขึ้นจากมนุษย์สร้างกันขึ้นมาเองในทุกรอบพันปี

     ไม่ว่ามนุษย์จะคิดว่าตัวเองเก่งกาจสามารถ ฉลาดสักเพียงไหน ก็ไม่อาจหลีกพ้นมหันตภัยเหล่านี้ไปได้
     ดังนั้น จงเชื่อและปฎิบัติตามอย่างไม่ลังเลต่อคำสอนของศาสดาของเราอย่างจริงจังเถิด

     แม้จอมจักรพรรดิ จอมราชันย์ หรือจอมทรราชที่ยิ่งใหญ่ในอดีต ก็ต้องตายร่างกายเน่าเปื่อยเป็นผุยผง และในที่สุดวิญญาณของเขาก็ต้องชดใช้กรรม ด้วยการถูกไฟนรกเผาผลาญโดยไม่มีข้อยกเว้นทั้งทั้งสิ้น

     จงอย่าอหังการ์ว่าตัวเองเก่ง ฉลาด และยิ่งใหญ่กว่าคำสอนของพระศาสดา ไม่มีมนุษย์ตนใดที่จะพ้นจากกฎแห่งธรรมชาติได้ มนุษย์ที่เก่งกว่าเรา เขาได้ตายร่างกายทับถมปฐพีแห่งนี้นับไม่ถ้วนแล้ว


     ● ขออนุญาตนำภาพวาด "วีระชนบนพานรัฐธรรมนูญ" ของ คุณสถาพร ไชยเศรษฐ ศิลปินอิสระ อดีตแนวร่วมศิลปินแห่งประเทศไทย ซึ่งวาดเนื่องในโอกาส 2 ปี 14 ตุลา มาเป็นส่วนหนึ่งของหัว "สนามหลวงบล็อก"                


บริการดูดวง



"สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" มีความภาคภูมิใจในความสำเร็จตามอุดมการณ์ของเรา ที่ได้ตั้งเอาไว้ว่า "เราจะใช้วิชาความรู้ในด้านการพยากรณ์เพื่อให้เป็นประโยชน์สำหรับการให้การปรึกษาของผู้คนที่กำลังประสบปัญหา ความเดือดเนื้อร้อนใจ หรือการเผชิญกับปัญหานั้นๆได้อย่างไรดี

มนุษย์เกิดแต่กรรม มนุษย์มีกรรมเป็นเหตุ เมื่อเราประสบเคราะห์กรรม ปัญหาอยู่ที่ว่าหากเราทราบเสียก่อน ย่อมเป็นสิ่งที่ดีกว่าการไม่ทราบ อย่างน้อยก็ทำให้เราระมัดระวังตัว อย่างน้อยก็ทำให้เราหลีกเลี่ยงเพื่อทำให้เราเผชิญกับกรรมน้อยลงไป อย่างน้อยก้ทำให้เรารู้ว่าสิ่งเหล่านั้นมันมีที่มา มันมีที่ไปของมัน

มีนักวิชาการและนักวิทยาศาสตร์วัตถุจิตนิยม มักโจมตีอยู่เสมอว่า การดูดวง เป็นเรื่องของความงมงาย หมอดูคู่กับหมอเดา หมายถึงว่า เขาไม่เชื่อในเรื่องของวิชาโหราศาสตร์เพราะคิดไปว่ามันเป็นเรื่องเดียรัจฉานวิชาบ้าง เป็นการคาดเดาเอาเองบ้าง คิดว่ามันเป็นวิชาที่ใช้สถิติสุ่มเอาบ้าง ไม่เชื่อว่าวิชาโหราศาสตร์จะสามารถไขปริศนาแห่งรหัสลับของดวงดาว จักรวาล และธรรมชาติรอบตัว

แสดงว่าเขาลืมไปว่า อัลเบิร์ต ไอสไตน์ และสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้กล่าวไว้ว่า ทุกสรรพสิ่งในโลกรอบตัวเรา ตั้งแต่เล็กเท่าอะตอม (จุลจักรวาล)จนถึงมหาจักรวาล ล้วนมีความผูกพัน ล้วนมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งแยกกันไม่ออก เพียงแต่ว่า กับอะไร เมื่อไร อย่างไร เท่านั้น

กรรมเป็นผลจากการกระทำของเราในอดีตชาติ จะดีหรือจะร้ายก็เพราะเราทำ เป็นสิ่งที่เราจะต้องได้รับผลแห่งการกระทำเหล่านั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

โหรฯเป็นเพียงผู้แปลรหัสของดวงดาวและธรรมชาติรอบตัว เพื่อเผยแผนที่ชีวิตของเรา และสามารถมองเห็นช่องทางที่จะเลี่ยงหลบสิ่งเลวร้าย ให้ลดน้อยถอยลงหรือพบพานแต่สิ่งที่ดีดี

การสะเดาะเคราะห์ หรือพิธีการตัดกรรมที่กำลังกล่าวขานถึงก็คือการขออโหสิกรรม ลดการอาฆาตจองเวรกับเจ้ากรรมนายเวรที่กำลังจ้องจองเวรด้วยความอาฆาตพยาบาทที่ถูกเรากระทำในอดีตชาติ ไม่ใช่เป็นการตัดทอนผลกรรมที่เราทำให้หมดไปหรือให้ลดลง เพราะกรรมที่เรากระทำไม่สามารถตัดทอนลงไปได้



สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์พยากรณ์เที่ยงตรง แม่นยำเชื่อถือได้ วิเคราะห์พยากรณ์อย่างเป็นระบบ ไม่เลื่อนลอย ยึดมั่นในอุดมการณ์ของครูที่ท่านได้กำชับให้นำเอาวิชาการพยากรณ์มาช่วยเหลือแนะนำ บรรเทาทุกข์ของผู้คนมากกว่าการพยากรณ์เพื่อการค้า

ต้องยอมรับว่า ไม่ว่าประเทศใด? ชาติใด ภาษาใด? สมัยไหน? ชนชั้นวรรณะใด? ไม่ว่าจะเป็นเจ้าสัว นักธุรกิจ นักการค้า แม่บ้าน นักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ หรือไม่เว้นแต่นายพล นายพัน รัฐมนตรี หรือระดับผู้นำประเทศ ล้วนแต่เคยดูดวงด้วยกันทั้งสิ้น เพียงแต่ว่า เราจะเชื่ออย่างงมงายหรือจะเชื่อโดยใช้เหตุผลอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ โดยนำเอาคำพยากรณ์มาใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการดำเนินชีวิต หรือทำธุรกิจ การค้า หรือเพื่อการทำสงครามฯ

"สนามหลวงแก็งค์" ไม่สนับสนุนให้เชื่อเรื่อง "ดวง" อย่างงมงาย แต่เราสนับสนุนให้ใช้คำ "พยากรณ์"อย่างมีวิจารณญาณประกอบการตัดสินใจอย่างมีสติ ใช้ "ปัญญา"อย่างมี "เหตุผล"

หลังจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม จนต้องมีการเข้าจองคิวดูดวงเป็นจำนวนมาก ณ ขณะนี้ ไม่ใช่แต่เฉพาะคนไทยในประเทศที่เข้ามาใช้บริการจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"เท่านั้น

แต่ยังมีคนไทยที่อยู่หลายประเทศทั่วโลกเข้ามาดูดวง ตรวจสอบชื่อ นามสกุลมากมาย ทั้งนี้คงเป็นเพราะผู้ที่เข้ามา"ดูดวง" กับ "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับความพอใจในคำพยากรณ์ที่ถูกต้อง แม่นยำ แนะนำแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมตามหลักโหราศาสตร์ จึงได้มีการบอกเล่า แนะนำชักชวนกันปากต่อปากเป็นจำนวนมาก

ปัจจุบันนี้ มีผู้เข้ามาเยี่ยมชมwww.sanamluang.bloggang.com มีจำนวนถึง 118 ประเทศ โดยเข้ามาเปิดดูหน้า "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"คิดเป็นร้อยละ 80 ของ pageviews ต่างๆใน www.sanamluang.bloggang.comจัดทำบล็อกครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2550 มีผู้เข้าชมจำนวนทั้งสิ้น 579,020 ครั้ง จากจำนวน 262,960 visitors (ข้อมูล ณ เวลา 12.00 น.ของวันพุธที่ 6 ตุลาคม 2553)

ส่วนใหญ่ลูกค้าที่โทรเข้ามาเกือบ 98% เมื่อโทรฯ เข้ามาดูดวงแล้ว จะสามารถนัดวัน เวลาดูดวงได้โดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด อาจจะมีอยู่บ้างเพียงไม่กี่รายที่โทรฯเข้ามาเพื่อสอบถามรายละเอียดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

อาจจะเนื่องมาจากไม่คุ้นเคยการทำธุรกิจแบบออนไลน์ โดยมีการโอนเงินก่อน ไม่ไว้ใจ หรือไม่กล้า ซึ่งมีจำนวนน้อยมาก ประมาณ 2%

สำหรับที่เมลฯมาถามและเงียบไป ไม่สามารถทราบจำนวนได้ อาจเนื่องจากเป็นรายที่โทรเข้ามานัดอีกทางหนึ่งก็เป็นได้

สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์ ยังมีอาจารย์ผู้สอนวิชาโหราศาสตร์ ผ่านประสบการณ์ในการดูดวงหลายปีคิดเป็นจำนวนหลายพันดวง

แน่นอน แม่นยำกระชับ ชัดเจน หากไม่ทราบเวลาตกฟากท่านก็ยังสามารถดูได้ รายที่กำลังประสบเคราะห์หามยามร้าย ท่านก็จะช่วยแนะนำและแก้ไขเรื่องเลวร้ายให้กลายเป็นดีด้วยศาสตร์แห่งความลี้ลับของโหราศาสตร์ โดยไม่ต้องเสียเงินสะเดาะเคราะห์ สามารถดูได้ถึงขนาดปัญหาเรื่องคู่ครอง เรื่องเคราะห์ เรื่องหน้าที่การงาน โดยใช้ "วิชาโหราศาสตร์ดวงไทย"อันเป็นสุดยอดของวิชาโหราศาตร์โบราณของไทย

นอกจากนั้น เรายังมี ซินแส ที่เชี่ยวชาญเรื่องการดูฮวงจุ้ย ทำเลปลูกบ้าน อาคารสำนักงาน ดูฤกษ์ยาม แต่งงาน คลอดบุตร ขึ้นบ้านใหม่ เปิดกิจการต่างๆโดยใช้วิชาโหราศาสตร์จีนโบราณผสานตำราดวงไทย ซึ่งซินแสท่านมีประสบการณ์การดูดวงมาไม่น้อยกว่า 45 ปี ผ่านการดูให้กับนักธุรกิจชื่อดังของเมืองไทย และนักธุรกิจชั้นนำจากฮ่องกงหลายราย

ติดต่อ 081-4834367 หรือ workingmailhome@hotmail.com
--------------------------------------------
● ปรึกษาปัญหากฏหมาย
ละเมิด,สัญญา,อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์
--------------------------------------------
● ปัญหาติดต่อราชการ
บริการปรีกษาเรื่อง ภาษีป้าย ภาษีโรงเรือน ภาษีที่ดิน ค่าธรรมเนียมต่างๆ และการติดต่อราชการต่างๆ ของสำนักงานเขต
--------------------------------------------
● พิมพ์รายงาน,ค้นหาข้อมูล,

● งานพิมพ์ Lay-Out,Art Work
--------------------------------------------
สำนักพิมพ์ดาวหาง
www.sanamluang.bloggang.com




รับวาดรูปเหมือน และสอนวาดรูป
โดยอาจารย์ ผู้ชำนาญ

ราคาย่อมเยา

















หลังเกิดเหตการณ์ 14 ตุลา 2516 นิสิต นักศึกษา ปัญญาชน ต่างหลั่งไหลดั่งสายน้ำ ล้นขอบ ออกจากเมือง เข้าสู่ ชนบท เหตุเกิดเมื่อ กลางปี พ.ศ.2516 จนถึง พ.ศ.2519 นักศึกษากลุ่มหนึ่ง ได้ พบกันโดยบังเอิญ และ ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับชาวบ้าน ณ หมู่บ้าน แม่ตะมาน ตำบลกื๊ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้ ชื่อโครงการว่า "โครงการหมู่บ้านสหกรณ์แม่ตะมาน"
เชิญ พบ และติดตาม กับเรื่องราว และบทสรุป อันควรเป็นจุดเริ่มต้น ต่อไปใน

     เมล็ดพันธุ์ประชาธิปไตย ที่ถูกหว่านทั่วท้องทุ่งแห่งประชาไทย มาบัดเดี๋ยวนี้ เมื่อต้องฝน ต้องลม แห่งกาลเวลาพัดผ่าน จาก 2516 , 2519 2535,จน 2540 ถึง 2550บางเมล็ดพันธุ์ก็ยังขาวพิสุทธิ์สดใส บ้างเมล็ดพันธุ์เปลี่ยนสี บ้างก็ดอกสีเหลือง บ้างก็ดอกสีแดง บ้างก็ดอกสีม่วงก้มี สีเขียว สีน้ำเงิน หรือบ้างก็อาจเฉาโรยรา หรือบ้าง ผสมผสานกลายพันธุ์ ก็มีไม่น้อย
มาบัดเดี๋ยวนี้ มันไม่ใช่ จิต วิญญาณ แห่ง 14 ตุลา เดิมเสียแล้ว ไม่ใช่พันธุ์เดียวกัน อย่าได้ เอ่ยอ้างเลย ว่า วิญญาณ 14 ตุลา ยังคง...มันประชาธิปไตย ที่ไม่ บริสุทธิ์ผุดผ่องเหมือนอย่างเดิมเสียแล้ว.....
..แต่มันเป็น.ประชาธิปไตย...เพื่อใคร..??


“ทุกวันนี้ เราจะรับรู้ ได้เห็น ได้ยินแต่เรื่องเลวร้าย ในสังคม
เราจึงขอบันทึกสิ่งที่ดีๆ ต่างๆ เหล่านี้ ด้วยจิตคารวะ และขอเป็นกำลังใจให้เกิดสิ่งที่ดีงามเหล่านี้ต่อไป”>>>



อ่านงานเขียนเกี่ยวกับภาพยนตร์หลากหลายประเทศทั่วโลก ที่นี่ >>>





*จำนวนผู้ชมทั้งสิ้น* สถาปนาบล็อค 21 ก.ค.2550
Friends' blogs
[Add jenifaae's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.