Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2552
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
21 มิถุนายน 2552
 
All Blogs
 
การงานธารธรรม ... ไม้ต่อตั้งต้น

คอลัมน์แทบลอย


*พ่อคำฟองแขนขาดจากการหลุดเข้าไปในสานพานของโรงสี สิ้นหวัง คิดจะเลิกกับภรรยาเพราะไม่อยากเป็นภาระ ทว่าก็กลับมาต่อสู้จนกลายเป็นคนสำคัญของชุมชนจนได้รับเลือกเป็นสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) และกรรมการชุมชนอีกหลายชุด เช่นเดียวกับผู้พิการอีกคนที่ขาขาดถึงสะโพกจากการหลุดเข้าไปในเครื่องสีข้าว ท้อแท้ แต่ก็ลุกขึ้นสู้จนเป็นกำลังหลักของครอบครัว ทำนาได้ด้วยตัวเองเกือบทุกขั้นตอน ตลอดจนนำวัวขึ้นไปเลี้ยงบนภูเขาได้สบายด้วยการใช้ไม้เท้าค้ำยัน

สองเรื่องราวชีวิตสิ้นหวังถดถอยค่อยๆ กลับมาเข้มแข็งเป็นที่พึ่งทั้งกับตนเองและครอบครัวนี้มีที่มาจากการทำงานด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์ของพรพรรณ ชัยมงคล พยาบาลเวชปฏิบัติครอบครัว โรงพยาบาลอุบลรัตน์ อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ที่ลงพื้นที่ทำงานบนฐานข้อมูลผู้พิการในชุมชนที่ว่างเปล่าทั้งด้านจำนวน บุคคล และชีวิตความเป็นอยู่

"ข้อมูลจำกัด เราจึงวางแผนการทำงานเป็นสามขั้นตอน หนึ่งสำรวจค้นหาผู้พิการในทุกตำบลจนพบภาพรวมว่าส่วนใหญ่เป็นความพิการจากอุบัติเหตุ ไม่ใช่พิการแต่กำเนิด และมากกว่าครึ่งเป็นหัวหน้าครอบครัว แขนขาของครอบครัว แต่เมื่อพิการ จำนวนมากกว่าครึ่งนั้นกลับอยู่เฉยๆ ไม่ทำมาหากิน ทั้งๆ ที่พวกเขามีศักยภาพที่จะไม่ต้องตกเป็นภาระครอบครัวหรือชุมชนได้ จึงนำมาสู่ขั้นตอนที่สอง จัดกิจกรรมฟื้นฟูสุขภาพผู้พิการให้กลับมาช่วยเหลือตัวเองได้ ตามมาด้วยสาม พัฒนาศักยภาพผู้พิการที่มีความสามารถและมีจิตใจอยากช่วยเหลือคนอื่นเพื่อเป็นแบบอย่างดีๆ ที่น่าเชิดชู"

พรพรรณเผยกลยุทธ์การทำงานที่สร้างต้นแบบผู้พิการที่ไม่ยอมพ่ายแพ้แก่ชะตากรรมขึ้นในชุมชน จนสามารถแผ้วถางทางให้ผู้พิการที่ท้อถอยกลับมาก้าวย่างทางชีวิตอีกครา

ด้วยว่าประสบการณ์ของผู้อยู่ในสถานภาพด้อยโอกาสอย่างเดียวกัน ย่อมรังสรรค์บทเรียนชีวิตต้องสู้ดีกว่าการเอ่ยถ้อยคำปลอบโยนใดๆ ของผู้สมบูรณ์พร้อม

"ภาพผู้พิการแขนขาดกับผู้พิการขาขาดกอดคอกันถ่ายรูปน่าประทับใจมาก กิจกรรมที่เราพาผู้พิการขาขาดไปดูงานผู้พิการแขนขาดก็เพราะอยากให้เขามีกำลังใจ และคิดว่าวิบากกรรมที่ประสบอยู่นั้นไม่จำเป็นต้องยาวนานตลอดชีวิต มีคนที่มีสภาพเหมือนเขาแต่ฟื้นฟูตัวเองได้ วันที่เราพาผู้พิการขาขาดไปพูดคุยกับพ่อคำฟองที่พิการแขนขาด พวกเขาก็นั่งคุยกันเหมือนคนสนิทสนมรู้จักกันนับสิบๆ ปี พ่อคำฟองพาไปดูที่นาตัวเองแล้วเล่าว่า จุดเริ่มต้นก็ท้อแท้ไม่ต่างกัน หลังจากนั้นก็ให้คำมั่นสัญญาระหว่างกันว่าจะทำให้ได้เหมือนกัน ก่อนกลับพ่อคำฟองยังให้ข้าวสารสองกระสอบไปกินที่บ้านด้วย"

ความประทับใจใช่ปรากฏแค่วาจา ทว่ายังฉายชัดในสายตาพรพรรณขณะเล่าเรื่องราวด้วย

     การงานทำด้วยหัวใจกรุณาเช่นนี้ ไม่ใช่แค่เพิ่มพลังใจให้ผู้พิการจากการสร้างสรรค์สายสัมพันธ์ระหว่างผู้พิการที่ส่วนมากมักกีดกันเก็บตัวจากสังคมจนสำเร็จเท่านั้น ทว่าสายใยรักของสมาชิกครอบครัวที่เคยขาดผึงก็กลับมาถักถ้อยร้อยรัดจนเหนียวแน่น เฉกเช่นกรณีที่แม่แก่ชราป่วยอัมพาตครึ่งซีกที่นอนอยู่บ้านเดียวดาย เพราะลูกทั้งสามคนต้องออกไปทำมาหากินแต่เช้ากลับก็พลบค่ำไปแล้ว

"ลูกๆ ไปรับจ้างแต่เช้ากว่าจะกลับก็ค่ำ ไม่ได้ดูแลแม่ แม่ต้องอยู่คนเดียว มีเพียงอาหารวางไว้ให้แม่ตักกินเอง และใส่ผ้าอนามัยผู้ใหญ่ไว้ให้ ตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาลมาก็ไม่เคยได้รับการฟื้นฟูเลย เราก็เข้าไปเป็นตัวเชื่อมให้ลูกๆ ได้ผัดเวลากันกลับมาดูแลแม่ มานวด มากระตุ้น มาทำกายภาพบำบัด โดยมีนักกายภาพบำบัดมาสอนวิธีให้ จนพวกเขาทำได้ดี จากเดิมกลัวแม่จะเจ็บและเป็นหนักขึ้น"

     จุดเปลี่ยนในครอบครัวผู้พิการมาจากการตั้งใจทำงานที่ได้รับมอบหมายมาให้ดีที่สุด ได้ผลดีที่สุด ถึงจะมีอุปสรรคขวากหนามก็พยายามหาทางหักลิดรอนเสียด้วยการสะท้อนปัญหา และระดมความคิดเห็นกับเพื่อนร่วมงาน รวมถึงการปรึกษาผู้บริหารอยู่เสมอของพยาบาลเวชปฏิบัติครอบครัว ที่เริ่มต้นทำงานกับโรงพยาบาลอุบลรัตน์นับแต่แรกเรียนจบปี 2530 จวบจนถึงปัจจุบันนี้ กระทั่งรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนอุบลรัตน์ไปในที่สุดแม้นไม่ได้เกิดที่นี่

"การทำงานกับผู้พิการทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภายในตัวเอง ผนวกกับพื้นฐานครอบครัวที่มีพ่อขยันและอดทนมาก สอนให้ลูกๆ ติดดิน จนเราสามารถทำนา ไถนา คราดนา หว่านข้าว เกี่ยวข้าวได้ตั้งแต่ 7 ขวบ ขณะแม่ถึงจะเป็นคุณแม่อาสาทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกสบาย แต่ก็ให้ลูกเรียนรู้ร่วมด้วยเสมอ ส่วนลูกๆ ก็ได้ตักบาตรทุกวัน ถึงวันพระก็ถือปิ่นโตไปวัด ถูกเพาะบ่มมาโดยใช้หลักธรรม"

     นอกจากสองจุดเปลี่ยนในครอบครัวผู้พิการและภายในจิตใจตัวเธอเองแล้ว การตั้งปณิธานทำสิ่งดีๆ ให้กับคนทุกข์ยากเจ็บไข้ได้ป่วย โดยใช้วิชาชีพพยาบาลบำบัดรักษาก็นำจุดเปลี่ยนแปลงมาสู่องค์กรด้วยเฉกเช่นเดียวกัน เพราะบทบาทหน้าที่หนึ่งของเธอ คือการเป็นทีมวิทยากรที่ทุ่มเททำงานเปลี่ยนแปลงแนวความคิดของประชาชนและเจ้าหน้าที่

"เดิมทำงานชุมชน ก็พยายามดึงรูปแบบงานชุมชนเข้ามาทำในโรงพยาบาล จัดตั้งกลุ่มชุมชนที่มีเจ้าหน้าที่ที่มีจิตอาสาหลายฝ่ายมาร่วมกันเกือบ 20 คน ทำให้เวลาลงพื้นที่ไม่โดดเดี่ยว ทั้งยังเปลี่ยนเจ้าหน้าที่ที่ชอบบ่นคนไข้ว่า ทำไมมาเร็วนักช้านัก ก็ได้เรียนรู้หลังลงพื้นที่ว่ากว่าคนไข้จะมาโรงพยาบาลนั้นพวกเขาต้องตัดสินใจ เตรียมการมากมาย ไม่ใช่นึกจะมาก็มาเลย หลังจากนั้นก็นำปัญหาและความภาคภูมิใจมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันด้วย โดยโรงพยาบาลเปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่ทุกคนลงชุมชนได้ด้วย"

     ความภาคภูมิใจที่ได้เห็นคนไข้เปลี่ยนจากทุกข์มีสุขเช่นนี้ นอกจากกล่อมเกลาจิตใจให้มีแต่ความกรุณาแล้ว ยังสร้างเสริมความเชื่อมั่นคนทำงานด้วยว่าได้ทำบทบาทหน้าที่ดีที่สุดแล้ว จากการให้ที่ผู้อื่นรับ "ไม้ต่อตั้งต้น" นี้ไปสรรค์สร้างทีมงานได้ ไม่ต่างจากวัตรปฏิบัติปราชญ์ชาวบ้านที่พรพรรณศรัทธาใกล้ชิด ทีแรกมักถูกมองเป็น "ผีบ้า" เพราะใช้ชีวิตไม่เหมือนคนอื่นที่ตกใต้วัฒนธรรมทุนนิยม ทว่าเมื่อเวลาผันผ่านก็มีคนก้าวย่างทางที่พวกเขาฝากรอยเท้าไว้มากมาย เพราะตระหนักว่าความสุขแท้จริงจักต้องเริ่มต้นที่การเปลี่ยนแปลงโลภกอบโกยเป็นพอเพียงพออยู่พอกิน.

ภาณุเบศร์ มหาเรือนขวัญ

แผนงานพัฒนาจิตเพื่อสุขภาพ

มูลนิธิสดศรี-สฤษดิ์วงศ์

และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)



ขอขอบคุณ
ที่มา :
ไทยโพสต์ - สาระน่ารู้ 14 มิถุนายน 2552
รูป : www.budpage.com


H O M E



Create Date : 21 มิถุนายน 2552
Last Update : 21 มิถุนายน 2552 21:35:48 น. 0 comments
Counter : 924 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jenifaae
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Editor
บทความ ความคิดเห็นที่นำลง"สนามหลวงแก็งค์" ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
เพียงเราเห็นว่าน่าสนใจและเป็นประโยชน์ในทางข้อมูล ข่าวสาร
หากท่านมีข้อคิดเห็นประการใด โปรดแจ้งให้เราทราบ จักขอบคุณยิ่ง
"สนามหลวงแก็งค์"
kunkorn : Facebook



"Sanamluang's Gang"
"สนามหลวงแก๊งค์"

kunkorn : Facebook

     เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนให้เกิดการศึกษา การเรียนรู้ เผยแพร่ ส่งเสริม สนับสนุน รวบรวมข้อมูล ข่าวสาร อนุรักษ์ รักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ของชนชาติไทย วิถีชีวิต และปรัชญา คุณค่าจิตวิญญาณที่งดงาม สืบสานต่อยอดกันมานานนับพันๆปี และกำลังถูกทำลายด้วยอิทธิพลจากแนวคิดเชิงวัตถุนิยมแบบตะวันตก

● เพื่อการศึกษาหาความรู้ ส่งเสริม สนับสนุน ให้เกิดการศึกษา เรียนรู้ สิ่งที่พระพุทธเจ้าค้นพบ และนำมาเผยแพร่แก่มวลมนุษยชาติ อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ที่แท้จริง มิใช่เพียงวิทยาศาสตร์เชิงวัตถุเพียงอย่างเดียว เพราะถือว่าพระพุทธเจ้า ทรงค้นพบความจริงของธรรมชาติ ทั้งหมดทั้งสิ้น ที่มนุษย์ธรรมดาสามัญอย่างเราๆ ท่านๆ ยังเป็นเพียงผู้รู้ แค่หางอึ่งที่ยังอยู่ในกะลาครอบ แต่บังอาจด่วนสรุป ขัดแย้งกับ สิ่งที่องค์ศาสดาทรงค้นพบมากว่าสองพันปี จนทำให้บังเกิดความสับสน ลดความน่าเชื่อในสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบ

● สนามหลวงแก๊งค์ ต้องขออนุญาตและขอขอบคุณท่านเจ้าของข่าวสาร ข้อมูล ที่เราได้นำลงในสนามหลวงแก๊งค์ ไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยจิตคารวะ ทั้งนี้และทั้งนั้น ก็เพื่อให้สนามหลวงแก๊งค์ เป็นแหล่งในการเผยแพร่ ข้อมูล ข่าวสารที่เป็นประโยชน์และเพื่อเป็นวิทยาทานแก่สาธารณชน แต่หากท่านเจ้าของข้อมูล ข่าวสารที่ สนามหลวงแก๊งค์ นำลงไม่มีความประสงค์ให้นำลง ขอได้โปรดแจ้งความประสงค์ เรายินดีที่จะถอดออกต่อไป

ด้วยจิตคารวะ
www.sanamluang.bloggang.com
kunkorn : Facebook


ดาวหาง
     เป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นในห้วงมหาจักรวาลอันยิ่งใหญ่ ลี้ลับไร้ขอบเขต ทุกครั้งที่ดาวหางปรากฏ มันจะส่งสัญญาณแห่งความพินาศ มหันตภัย ธรรมชาติ ความตาย ความเจ็บป่วย สงคราม ความขัดแย้ง การกดขี่ การเอารัดเอาเปรียบ การคดโกง การเบียดเบียนของมนุษย์บนพื้นพิภพใบนี้

     มันคือสัญญาณเตือนภัยที่มนุษย์ไม่อาจจะควบคุมได้ ทั้งภัยทางธรรมชาติและภัยที่เกิดขึ้นจากมนุษย์สร้างกันขึ้นมาเองในทุกรอบพันปี

     ไม่ว่ามนุษย์จะคิดว่าตัวเองเก่งกาจสามารถ ฉลาดสักเพียงไหน ก็ไม่อาจหลีกพ้นมหันตภัยเหล่านี้ไปได้
     ดังนั้น จงเชื่อและปฎิบัติตามอย่างไม่ลังเลต่อคำสอนของศาสดาของเราอย่างจริงจังเถิด

     แม้จอมจักรพรรดิ จอมราชันย์ หรือจอมทรราชที่ยิ่งใหญ่ในอดีต ก็ต้องตายร่างกายเน่าเปื่อยเป็นผุยผง และในที่สุดวิญญาณของเขาก็ต้องชดใช้กรรม ด้วยการถูกไฟนรกเผาผลาญโดยไม่มีข้อยกเว้นทั้งทั้งสิ้น

     จงอย่าอหังการ์ว่าตัวเองเก่ง ฉลาด และยิ่งใหญ่กว่าคำสอนของพระศาสดา ไม่มีมนุษย์ตนใดที่จะพ้นจากกฎแห่งธรรมชาติได้ มนุษย์ที่เก่งกว่าเรา เขาได้ตายร่างกายทับถมปฐพีแห่งนี้นับไม่ถ้วนแล้ว


     ● ขออนุญาตนำภาพวาด "วีระชนบนพานรัฐธรรมนูญ" ของ คุณสถาพร ไชยเศรษฐ ศิลปินอิสระ อดีตแนวร่วมศิลปินแห่งประเทศไทย ซึ่งวาดเนื่องในโอกาส 2 ปี 14 ตุลา มาเป็นส่วนหนึ่งของหัว "สนามหลวงบล็อก"                


บริการดูดวง



"สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" มีความภาคภูมิใจในความสำเร็จตามอุดมการณ์ของเรา ที่ได้ตั้งเอาไว้ว่า "เราจะใช้วิชาความรู้ในด้านการพยากรณ์เพื่อให้เป็นประโยชน์สำหรับการให้การปรึกษาของผู้คนที่กำลังประสบปัญหา ความเดือดเนื้อร้อนใจ หรือการเผชิญกับปัญหานั้นๆได้อย่างไรดี

มนุษย์เกิดแต่กรรม มนุษย์มีกรรมเป็นเหตุ เมื่อเราประสบเคราะห์กรรม ปัญหาอยู่ที่ว่าหากเราทราบเสียก่อน ย่อมเป็นสิ่งที่ดีกว่าการไม่ทราบ อย่างน้อยก็ทำให้เราระมัดระวังตัว อย่างน้อยก็ทำให้เราหลีกเลี่ยงเพื่อทำให้เราเผชิญกับกรรมน้อยลงไป อย่างน้อยก้ทำให้เรารู้ว่าสิ่งเหล่านั้นมันมีที่มา มันมีที่ไปของมัน

มีนักวิชาการและนักวิทยาศาสตร์วัตถุจิตนิยม มักโจมตีอยู่เสมอว่า การดูดวง เป็นเรื่องของความงมงาย หมอดูคู่กับหมอเดา หมายถึงว่า เขาไม่เชื่อในเรื่องของวิชาโหราศาสตร์เพราะคิดไปว่ามันเป็นเรื่องเดียรัจฉานวิชาบ้าง เป็นการคาดเดาเอาเองบ้าง คิดว่ามันเป็นวิชาที่ใช้สถิติสุ่มเอาบ้าง ไม่เชื่อว่าวิชาโหราศาสตร์จะสามารถไขปริศนาแห่งรหัสลับของดวงดาว จักรวาล และธรรมชาติรอบตัว

แสดงว่าเขาลืมไปว่า อัลเบิร์ต ไอสไตน์ และสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้กล่าวไว้ว่า ทุกสรรพสิ่งในโลกรอบตัวเรา ตั้งแต่เล็กเท่าอะตอม (จุลจักรวาล)จนถึงมหาจักรวาล ล้วนมีความผูกพัน ล้วนมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งแยกกันไม่ออก เพียงแต่ว่า กับอะไร เมื่อไร อย่างไร เท่านั้น

กรรมเป็นผลจากการกระทำของเราในอดีตชาติ จะดีหรือจะร้ายก็เพราะเราทำ เป็นสิ่งที่เราจะต้องได้รับผลแห่งการกระทำเหล่านั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

โหรฯเป็นเพียงผู้แปลรหัสของดวงดาวและธรรมชาติรอบตัว เพื่อเผยแผนที่ชีวิตของเรา และสามารถมองเห็นช่องทางที่จะเลี่ยงหลบสิ่งเลวร้าย ให้ลดน้อยถอยลงหรือพบพานแต่สิ่งที่ดีดี

การสะเดาะเคราะห์ หรือพิธีการตัดกรรมที่กำลังกล่าวขานถึงก็คือการขออโหสิกรรม ลดการอาฆาตจองเวรกับเจ้ากรรมนายเวรที่กำลังจ้องจองเวรด้วยความอาฆาตพยาบาทที่ถูกเรากระทำในอดีตชาติ ไม่ใช่เป็นการตัดทอนผลกรรมที่เราทำให้หมดไปหรือให้ลดลง เพราะกรรมที่เรากระทำไม่สามารถตัดทอนลงไปได้



สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์พยากรณ์เที่ยงตรง แม่นยำเชื่อถือได้ วิเคราะห์พยากรณ์อย่างเป็นระบบ ไม่เลื่อนลอย ยึดมั่นในอุดมการณ์ของครูที่ท่านได้กำชับให้นำเอาวิชาการพยากรณ์มาช่วยเหลือแนะนำ บรรเทาทุกข์ของผู้คนมากกว่าการพยากรณ์เพื่อการค้า

ต้องยอมรับว่า ไม่ว่าประเทศใด? ชาติใด ภาษาใด? สมัยไหน? ชนชั้นวรรณะใด? ไม่ว่าจะเป็นเจ้าสัว นักธุรกิจ นักการค้า แม่บ้าน นักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ หรือไม่เว้นแต่นายพล นายพัน รัฐมนตรี หรือระดับผู้นำประเทศ ล้วนแต่เคยดูดวงด้วยกันทั้งสิ้น เพียงแต่ว่า เราจะเชื่ออย่างงมงายหรือจะเชื่อโดยใช้เหตุผลอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ โดยนำเอาคำพยากรณ์มาใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการดำเนินชีวิต หรือทำธุรกิจ การค้า หรือเพื่อการทำสงครามฯ

"สนามหลวงแก็งค์" ไม่สนับสนุนให้เชื่อเรื่อง "ดวง" อย่างงมงาย แต่เราสนับสนุนให้ใช้คำ "พยากรณ์"อย่างมีวิจารณญาณประกอบการตัดสินใจอย่างมีสติ ใช้ "ปัญญา"อย่างมี "เหตุผล"

หลังจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม จนต้องมีการเข้าจองคิวดูดวงเป็นจำนวนมาก ณ ขณะนี้ ไม่ใช่แต่เฉพาะคนไทยในประเทศที่เข้ามาใช้บริการจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"เท่านั้น

แต่ยังมีคนไทยที่อยู่หลายประเทศทั่วโลกเข้ามาดูดวง ตรวจสอบชื่อ นามสกุลมากมาย ทั้งนี้คงเป็นเพราะผู้ที่เข้ามา"ดูดวง" กับ "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับความพอใจในคำพยากรณ์ที่ถูกต้อง แม่นยำ แนะนำแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมตามหลักโหราศาสตร์ จึงได้มีการบอกเล่า แนะนำชักชวนกันปากต่อปากเป็นจำนวนมาก

ปัจจุบันนี้ มีผู้เข้ามาเยี่ยมชมwww.sanamluang.bloggang.com มีจำนวนถึง 118 ประเทศ โดยเข้ามาเปิดดูหน้า "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"คิดเป็นร้อยละ 80 ของ pageviews ต่างๆใน www.sanamluang.bloggang.comจัดทำบล็อกครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2550 มีผู้เข้าชมจำนวนทั้งสิ้น 579,020 ครั้ง จากจำนวน 262,960 visitors (ข้อมูล ณ เวลา 12.00 น.ของวันพุธที่ 6 ตุลาคม 2553)

ส่วนใหญ่ลูกค้าที่โทรเข้ามาเกือบ 98% เมื่อโทรฯ เข้ามาดูดวงแล้ว จะสามารถนัดวัน เวลาดูดวงได้โดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด อาจจะมีอยู่บ้างเพียงไม่กี่รายที่โทรฯเข้ามาเพื่อสอบถามรายละเอียดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

อาจจะเนื่องมาจากไม่คุ้นเคยการทำธุรกิจแบบออนไลน์ โดยมีการโอนเงินก่อน ไม่ไว้ใจ หรือไม่กล้า ซึ่งมีจำนวนน้อยมาก ประมาณ 2%

สำหรับที่เมลฯมาถามและเงียบไป ไม่สามารถทราบจำนวนได้ อาจเนื่องจากเป็นรายที่โทรเข้ามานัดอีกทางหนึ่งก็เป็นได้

สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์ ยังมีอาจารย์ผู้สอนวิชาโหราศาสตร์ ผ่านประสบการณ์ในการดูดวงหลายปีคิดเป็นจำนวนหลายพันดวง

แน่นอน แม่นยำกระชับ ชัดเจน หากไม่ทราบเวลาตกฟากท่านก็ยังสามารถดูได้ รายที่กำลังประสบเคราะห์หามยามร้าย ท่านก็จะช่วยแนะนำและแก้ไขเรื่องเลวร้ายให้กลายเป็นดีด้วยศาสตร์แห่งความลี้ลับของโหราศาสตร์ โดยไม่ต้องเสียเงินสะเดาะเคราะห์ สามารถดูได้ถึงขนาดปัญหาเรื่องคู่ครอง เรื่องเคราะห์ เรื่องหน้าที่การงาน โดยใช้ "วิชาโหราศาสตร์ดวงไทย"อันเป็นสุดยอดของวิชาโหราศาตร์โบราณของไทย

นอกจากนั้น เรายังมี ซินแส ที่เชี่ยวชาญเรื่องการดูฮวงจุ้ย ทำเลปลูกบ้าน อาคารสำนักงาน ดูฤกษ์ยาม แต่งงาน คลอดบุตร ขึ้นบ้านใหม่ เปิดกิจการต่างๆโดยใช้วิชาโหราศาสตร์จีนโบราณผสานตำราดวงไทย ซึ่งซินแสท่านมีประสบการณ์การดูดวงมาไม่น้อยกว่า 45 ปี ผ่านการดูให้กับนักธุรกิจชื่อดังของเมืองไทย และนักธุรกิจชั้นนำจากฮ่องกงหลายราย

ติดต่อ 081-4834367 หรือ workingmailhome@hotmail.com
--------------------------------------------
● ปรึกษาปัญหากฏหมาย
ละเมิด,สัญญา,อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์
--------------------------------------------
● ปัญหาติดต่อราชการ
บริการปรีกษาเรื่อง ภาษีป้าย ภาษีโรงเรือน ภาษีที่ดิน ค่าธรรมเนียมต่างๆ และการติดต่อราชการต่างๆ ของสำนักงานเขต
--------------------------------------------
● พิมพ์รายงาน,ค้นหาข้อมูล,

● งานพิมพ์ Lay-Out,Art Work
--------------------------------------------
สำนักพิมพ์ดาวหาง
www.sanamluang.bloggang.com




รับวาดรูปเหมือน และสอนวาดรูป
โดยอาจารย์ ผู้ชำนาญ

ราคาย่อมเยา

















หลังเกิดเหตการณ์ 14 ตุลา 2516 นิสิต นักศึกษา ปัญญาชน ต่างหลั่งไหลดั่งสายน้ำ ล้นขอบ ออกจากเมือง เข้าสู่ ชนบท เหตุเกิดเมื่อ กลางปี พ.ศ.2516 จนถึง พ.ศ.2519 นักศึกษากลุ่มหนึ่ง ได้ พบกันโดยบังเอิญ และ ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับชาวบ้าน ณ หมู่บ้าน แม่ตะมาน ตำบลกื๊ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้ ชื่อโครงการว่า "โครงการหมู่บ้านสหกรณ์แม่ตะมาน"
เชิญ พบ และติดตาม กับเรื่องราว และบทสรุป อันควรเป็นจุดเริ่มต้น ต่อไปใน

     เมล็ดพันธุ์ประชาธิปไตย ที่ถูกหว่านทั่วท้องทุ่งแห่งประชาไทย มาบัดเดี๋ยวนี้ เมื่อต้องฝน ต้องลม แห่งกาลเวลาพัดผ่าน จาก 2516 , 2519 2535,จน 2540 ถึง 2550บางเมล็ดพันธุ์ก็ยังขาวพิสุทธิ์สดใส บ้างเมล็ดพันธุ์เปลี่ยนสี บ้างก็ดอกสีเหลือง บ้างก็ดอกสีแดง บ้างก็ดอกสีม่วงก้มี สีเขียว สีน้ำเงิน หรือบ้างก็อาจเฉาโรยรา หรือบ้าง ผสมผสานกลายพันธุ์ ก็มีไม่น้อย
มาบัดเดี๋ยวนี้ มันไม่ใช่ จิต วิญญาณ แห่ง 14 ตุลา เดิมเสียแล้ว ไม่ใช่พันธุ์เดียวกัน อย่าได้ เอ่ยอ้างเลย ว่า วิญญาณ 14 ตุลา ยังคง...มันประชาธิปไตย ที่ไม่ บริสุทธิ์ผุดผ่องเหมือนอย่างเดิมเสียแล้ว.....
..แต่มันเป็น.ประชาธิปไตย...เพื่อใคร..??


“ทุกวันนี้ เราจะรับรู้ ได้เห็น ได้ยินแต่เรื่องเลวร้าย ในสังคม
เราจึงขอบันทึกสิ่งที่ดีๆ ต่างๆ เหล่านี้ ด้วยจิตคารวะ และขอเป็นกำลังใจให้เกิดสิ่งที่ดีงามเหล่านี้ต่อไป”>>>



อ่านงานเขียนเกี่ยวกับภาพยนตร์หลากหลายประเทศทั่วโลก ที่นี่ >>>





*จำนวนผู้ชมทั้งสิ้น* สถาปนาบล็อค 21 ก.ค.2550
Friends' blogs
[Add jenifaae's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.