Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2553
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
14 มิถุนายน 2553
 
All Blogs
 
ค้นความคิด "สุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ" "ทีวีบูรพา" ต้นแบบองค์กรมีจิตสำนึก


*เราอาจจะคุ้นหน้าคุ้นตา "สุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ" และจดจำมาดสุขุมของเขาได้ในฐานะพิธีกรในรายการ คน ค้น ฅน และอีกหลายรายการของ "ทีวีบูรพา" บริษัทในเครือ "เจ เอส แอล" ผู้ผลิตรายการ "คน ค้น ฅน" "กบนอกกะลา" "จุดเปลี่ยน" "แผ่นดินไท" และ "พลเมืองเด็ก" รายการโทรทัศน์ที่น่าจะเรียกได้อย่างเต็มปากว่า เป็น "สื่อเพื่อสังคม" แต่ในหมวกของผู้บริหารที่เขานั่งในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีวีบูรพา จำกัด นั้นน้อยครั้งนักที่เขาจะบอกเล่าถึงวิธีคิดในการทำงาน และวิธีการในการบริหารองค์กร เช่นเดียวกับที่กำลังนั่งลงบอกเล่าเรื่องราวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ในวันนี้

เช่นเดียวกัน นี่เป็นครั้งแรกที่เขากำลังพูดถึงแนวคิดความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) ของ "ทีวีบูรพา"

ในออฟฟิศเล็กๆ ย่านรามคำแหง "สุทธิพงษ์" บอกเล่าที่มาของต้นทางความรับผิดชอบต่อสังคมที่เขาเชื่อ และวันนี้กลายมาเป็นรากฐานและวัฒนธรรมขององค์กร

"ถ้าย้อนกลับไป ตั้งแต่วันที่เริ่มต้นทำบริษัททีวีบูรพา ความตั้งใจแรกคือบนอาชีพสื่อโทรทัศน์ เราก็น่าจะทำอะไรให้กับสังคมได้ผ่านสื่อ โดยที่ไม่ต้องทำงานโทรทัศน์แล้วเอาเงินที่ได้จากสิ่งที่ทำ จากนั้นจึงไปช่วยสังคม แต่สิ่งเหล่านี้น่าจะอยู่ในเนื้องานของเรา"

" เพราะฉะนั้นทุกรายการของทีวีบูรพา ปลายทางจะต้องสร้างประโยชน์ให้กับสังคมไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง และผมทำงานบนความเชื่อที่ว่า เราทำเพื่อสังคมบนอาชีพของเรา ก็เหมือนกับครูทำงานเพื่อสังคมโดยทำอาชีพครูให้ดี ตำรวจก็ทำได้ เราเป็นคนทำรายการโทรทัศน์ก็ทำเพื่อสังคมได้โดยเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับอาชีพ"


องค์กรต้นแบบสร้างจิตสำนึก

รากฐานวิธีคิดเหล่านี้มาจากความเชื่อส่วนตัวของเขาที่ว่า "การทำประโยชน์ให้กับสังคมถือเป็นหน้าที่" ในช่วงแรกในชีวิตการทำงานเขาเคยลงพื้นที่ในหมู่บ้านห่างไกลเป็นระยะเวลาหลายเดือน ไปกับพรรคพวกเพื่อนฝูงที่เป็นเอ็นจีโอ ก่อนจะมาทำงานแรกแบบเป็นเรื่องเป็นราวในฐานะคนทำรายการโทรทัศน์ ความเชื่อเช่นนี้ก็ยังมีอยู่ ผิดก็แต่ในช่วงเวลานั้นโปรดักต์หรือรายการที่ได้รับมอบหมายก็ไม่ค่อยเอื้อ ให้สามารถทำงานเหล่านี้ได้เต็มที่นัก กระทั่งเมื่อก่อตั้งบริษัททีวีบูรพา ภาพที่ว่าจึงค่อยๆ ปรากฏชัด จนวันนี้สามารถเรียกได้อย่างเต็มปากว่า องค์กรแห่งนี้คือ "องค์กรต้นแบบในการสร้างจิตสำนึก" และเป็น "องค์กรต้นแบบที่กระตุ้นให้เกิดจิตสำนึกสาธารณะ"

"ในฐานะสื่อโทรทัศน์ที่มีอิทธิพลกับสังคม ผมว่าความรับผิดชอบของเราเริ่มตั้งแต่การทำรายการที่ไม่เน้นการขายเต็มที่ ก็ถือเป็นการแบ่งปันทรัพยากรของเราไปส่วนหนึ่ง เพราะทรัพยากรไม่ใช่เพียงเงินที่หามาได้แล้วใช้ไป แต่คือต้นทุนชีวิตของเรากับพนักงาน ซึ่งผู้บริหาร ผู้ถือหุ้น จนพนักงาน ก็เข้าใจตรงกันว่าเราจะเป็นองค์กรเพื่อสังคม ดังนั้นสิ่งที่องค์กรทำคือการใช้สื่อเป็นเครื่องมือในการให้ความรู้ผู้ชม โน้มน้าวชักจูงให้เกิดกลุ่มก้อนทางสังคม เกิดความเปลี่ยนแปลงทางความคิด ความเชื่อ จะช่วยให้เกิดพลังได้มากกว่าการที่เอาเงินไปช่วย"

ความเชื่อนี้นำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดผลจริงในสังคม

" เวลาทำงานเราอาจจะไม่รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากสิ่งที่ทำ แต่ทุกครั้งที่มีโอกาสได้สื่อสารกับแฟนรายการ พวกเขาบอกเล่าความเปลี่ยนแปลงที่ค่อยๆ งอกงามในตัวเขาจากที่ดูรายการที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะเมื่องานครบรอบ 6 ปีทีวีบูรพาที่ผ่านมา มีคนมาร่วมงานเป็นหมื่นคน ผมเห็นความเปลี่ยนแปลงจากตรงนั้น โดยส่วนตัว ผมสนใจความเปลี่ยนแปลงที่งอกงามในตัวมนุษย์ เพราะเชื่อว่าทุกอย่างต้องเปลี่ยนจากในตัวคน แล้วคนจะเป็นเครื่องมือของการเปลี่ยนที่จะค่อยๆ ขยายผลจากพื้นที่ที่เขา รับผิดชอบอยู่ในทุกๆ มิติและวันหนึ่งจะกลายเป็นพลังทางสังคมได้"


จุดเปลี่ยนที่เกิดจากพลัง

พลังทางสังคมที่ส่งให้เกิดผลกระทบในทางบวก ไม่ว่าจะเป็นการจุดกระแสการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมของแม่น้ำเพชรบุรี ให้เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ หลังจากเรื่องราวชีวิตของ "ปู่เย็น" เฒ่าทระนงแห่งลุ่มน้ำเพชรบุรี ที่ใช้ชีวิตบนเรือแทนบ้านออกอากาศ หรือเรื่องราวของเกษตรอินทรีย์ ที่ขยายวงและสร้างเครือข่ายได้อย่างกว้างขวางผ่านรายการแผ่นดินไทย รวมไปถึงความเปลี่ยนแปลงที่คาดหวังว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตที่จุดประกายโดย โครงการริเริ่ม เติมเต็ม ในรายการจุดเปลี่ยน ที่กำลังพยายามจะเปลี่ยนมุมมองต่อเรื่องการให้และการช่วยเหลือสังคม ให้ตรงกับความต้องการของผู้รับอย่างแท้จริง

เขาขยายความว่า "การช่วยเหลือในสังคมไทยที่ผ่านมา มีการเกาไม่ถูกที่คันจำนวนมาก เช่น สมมติสถานสงเคราะห์ คนชราที่มีคนไปบริจาคเสื้อผ้า ไปเลี้ยงอาหาร แต่จริงๆ แล้วอาจจะไม่รู้เลยว่า เขาอาจจะต้องการฟันปลอม ขาดแพมเพอร์ส หรือไม่มีใครรู้หรอกว่ามีโรงพยาบาลใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อยากได้ล้อรถที่สามารถรับมือกับการวางเรือใบไว้ใช้ สำหรับเหตุฉุกเฉิน หรือการทำบุญคนอาจจะไม่เคยรู้เลยว่า พระต้องการแก้วหูเทียม เครื่องช่วยฟัง ไม่ใช่แค่ถังสังฆทาน"

ไม่เฉพาะเนื้อหาผ่านรายการที่จะออกอากาศ ทุกกิจกรรมเพื่อสังคมของบริษัทที่ถูกจัดวางไว้ในแต่ละปีว่า พนักงานของบริษัทจะต้องลงพื้นที่อย่างน้อย 3 ครั้ง ก็ต้องเป็นกิจกรรมที่ริเริ่ม...เติมเต็มเช่นกัน ล่าสุดที่เพิ่งจบไป บริษัทจัดโครงการทอดกฐินปลอดเหล้า โดยพนักงานลงไปเป็นอาสาสมัครและดึงคนในชุมชนเข้ามามีส่วนร่วม นัยหนึ่งเป็นการจุดประกายให้คนในชุมชนหันมาดูแลวัดของตัวเอง ขณะเดียวกันทุกกิจกรรมยังมีนัยสำคัญที่ซ่อนอยู่ ซึ่งถือเป็นประเด็นสำคัญอย่างยิ่งขององค์กรที่ให้ความสำคัญกับจิตสำนึก สาธารณะ

"เราเชื่อว่านี่เป็นวิธีในการหลอมรวมคนในองค์กร ซึ่งต้องพยายามหลอมให้คนเป็นชนิดเดียวกันมากที่สุด แล้วคนก็ไม่ใช่สิ่งที่ตั้งโปรแกรมและกดสวิตช์ได้ วิธีการที่นุ่มนวลคือค่อยๆ ทำให้เป็นธรรมชาติ พนักงานบางคนไม่เคยเห็นความจริงในชนบท เห็นโลกเท่าที่เคยเห็นมา ฉะนั้น เมื่อทำแบบนี้เขาก็จะค่อยๆ ถอดเปลือกเขาออก และเริ่มมีใจและเห็นคุณค่าในสิ่งที่ทำนี่เป็นต้นทุนที่บริษัทพยายามปลูกในคน เป็นเพราะการทำงานของเราเรียกร้องมากกว่าองค์กรทั่วๆไป สมมติว่าถ้าพนักงานไม่มีกรอบคิดและความเข้าใจในอะไรบางอย่าง ไม่มีจิตเสียสละ จิตสาธารณะต่อองค์กร ซึ่งเป็นจิตเดียวกับจิตสาธารณะต่อสังคม ถ้าไม่มีตัวนี้ก็เป็นเรื่องยากในการจะนำพาองค์กรให้เป็นอย่างที่เป็นอยู่ และสามารถอยู่ได้มาถึงวันนี้"

ถึงวันนี้แม้ในทางธุรกิจ "ทีวีบูรพา" อาจจะไม่สามารถฟันฝ่าคลื่นกระแสหลัก และเติบโตแบบก้าวกระโดดเช่นเดียวกับหลายองค์กร แต่การดำรงอยู่และเติบโตอย่างมั่นคงในตลาดเฉพาะกลุ่ม ก็น่าจะเป็นบทพิสูจน์ความคิดและความเชื่อที่ "สุทธิพงษ์" กล่าวไว้ตั้งแต่ต้นว่า "เราสามารถทำเพื่อสังคมได้โดยเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับอาชีพ"

Credit : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ 27 ตุลาคม 2551

สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์

H O M E



Create Date : 14 มิถุนายน 2553
Last Update : 14 มิถุนายน 2553 19:28:14 น. 2 comments
Counter : 1017 Pageviews.

 
การให้ธรรมะเป็นทานชนะการให้ทั้งปวง
เรียนธรรมะตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าในพระไตรปิฏก
//www.samyaek.com/
กัลยาณมิตรที่ดีที่สุดคือ พระพุทธเจ้า


โดย: shada วันที่: 17 มิถุนายน 2553 เวลา:19:10:59 น.  

 
ชอบค่ะ เคยป็นคณะทำงานบ้านมั่นคง และเคยไปในหลายที่ที่ทางรายการไปถ่ายทำ ดีค่ะทำให้เห็นอีกมุมหนึ่งของชีวิตที่ใครหลายๆคนมองผ่านไป


โดย: แอ๋ว คลองลำนุ่น IP: 110.49.193.100 วันที่: 24 ตุลาคม 2553 เวลา:0:48:00 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jenifaae
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Editor
บทความ ความคิดเห็นที่นำลง"สนามหลวงแก็งค์" ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
เพียงเราเห็นว่าน่าสนใจและเป็นประโยชน์ในทางข้อมูล ข่าวสาร
หากท่านมีข้อคิดเห็นประการใด โปรดแจ้งให้เราทราบ จักขอบคุณยิ่ง
"สนามหลวงแก็งค์"
kunkorn : Facebook



"Sanamluang's Gang"
"สนามหลวงแก๊งค์"

kunkorn : Facebook

     เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนให้เกิดการศึกษา การเรียนรู้ เผยแพร่ ส่งเสริม สนับสนุน รวบรวมข้อมูล ข่าวสาร อนุรักษ์ รักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ของชนชาติไทย วิถีชีวิต และปรัชญา คุณค่าจิตวิญญาณที่งดงาม สืบสานต่อยอดกันมานานนับพันๆปี และกำลังถูกทำลายด้วยอิทธิพลจากแนวคิดเชิงวัตถุนิยมแบบตะวันตก

● เพื่อการศึกษาหาความรู้ ส่งเสริม สนับสนุน ให้เกิดการศึกษา เรียนรู้ สิ่งที่พระพุทธเจ้าค้นพบ และนำมาเผยแพร่แก่มวลมนุษยชาติ อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ที่แท้จริง มิใช่เพียงวิทยาศาสตร์เชิงวัตถุเพียงอย่างเดียว เพราะถือว่าพระพุทธเจ้า ทรงค้นพบความจริงของธรรมชาติ ทั้งหมดทั้งสิ้น ที่มนุษย์ธรรมดาสามัญอย่างเราๆ ท่านๆ ยังเป็นเพียงผู้รู้ แค่หางอึ่งที่ยังอยู่ในกะลาครอบ แต่บังอาจด่วนสรุป ขัดแย้งกับ สิ่งที่องค์ศาสดาทรงค้นพบมากว่าสองพันปี จนทำให้บังเกิดความสับสน ลดความน่าเชื่อในสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบ

● สนามหลวงแก๊งค์ ต้องขออนุญาตและขอขอบคุณท่านเจ้าของข่าวสาร ข้อมูล ที่เราได้นำลงในสนามหลวงแก๊งค์ ไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยจิตคารวะ ทั้งนี้และทั้งนั้น ก็เพื่อให้สนามหลวงแก๊งค์ เป็นแหล่งในการเผยแพร่ ข้อมูล ข่าวสารที่เป็นประโยชน์และเพื่อเป็นวิทยาทานแก่สาธารณชน แต่หากท่านเจ้าของข้อมูล ข่าวสารที่ สนามหลวงแก๊งค์ นำลงไม่มีความประสงค์ให้นำลง ขอได้โปรดแจ้งความประสงค์ เรายินดีที่จะถอดออกต่อไป

ด้วยจิตคารวะ
www.sanamluang.bloggang.com
kunkorn : Facebook


ดาวหาง
     เป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นในห้วงมหาจักรวาลอันยิ่งใหญ่ ลี้ลับไร้ขอบเขต ทุกครั้งที่ดาวหางปรากฏ มันจะส่งสัญญาณแห่งความพินาศ มหันตภัย ธรรมชาติ ความตาย ความเจ็บป่วย สงคราม ความขัดแย้ง การกดขี่ การเอารัดเอาเปรียบ การคดโกง การเบียดเบียนของมนุษย์บนพื้นพิภพใบนี้

     มันคือสัญญาณเตือนภัยที่มนุษย์ไม่อาจจะควบคุมได้ ทั้งภัยทางธรรมชาติและภัยที่เกิดขึ้นจากมนุษย์สร้างกันขึ้นมาเองในทุกรอบพันปี

     ไม่ว่ามนุษย์จะคิดว่าตัวเองเก่งกาจสามารถ ฉลาดสักเพียงไหน ก็ไม่อาจหลีกพ้นมหันตภัยเหล่านี้ไปได้
     ดังนั้น จงเชื่อและปฎิบัติตามอย่างไม่ลังเลต่อคำสอนของศาสดาของเราอย่างจริงจังเถิด

     แม้จอมจักรพรรดิ จอมราชันย์ หรือจอมทรราชที่ยิ่งใหญ่ในอดีต ก็ต้องตายร่างกายเน่าเปื่อยเป็นผุยผง และในที่สุดวิญญาณของเขาก็ต้องชดใช้กรรม ด้วยการถูกไฟนรกเผาผลาญโดยไม่มีข้อยกเว้นทั้งทั้งสิ้น

     จงอย่าอหังการ์ว่าตัวเองเก่ง ฉลาด และยิ่งใหญ่กว่าคำสอนของพระศาสดา ไม่มีมนุษย์ตนใดที่จะพ้นจากกฎแห่งธรรมชาติได้ มนุษย์ที่เก่งกว่าเรา เขาได้ตายร่างกายทับถมปฐพีแห่งนี้นับไม่ถ้วนแล้ว


     ● ขออนุญาตนำภาพวาด "วีระชนบนพานรัฐธรรมนูญ" ของ คุณสถาพร ไชยเศรษฐ ศิลปินอิสระ อดีตแนวร่วมศิลปินแห่งประเทศไทย ซึ่งวาดเนื่องในโอกาส 2 ปี 14 ตุลา มาเป็นส่วนหนึ่งของหัว "สนามหลวงบล็อก"                


บริการดูดวง



"สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" มีความภาคภูมิใจในความสำเร็จตามอุดมการณ์ของเรา ที่ได้ตั้งเอาไว้ว่า "เราจะใช้วิชาความรู้ในด้านการพยากรณ์เพื่อให้เป็นประโยชน์สำหรับการให้การปรึกษาของผู้คนที่กำลังประสบปัญหา ความเดือดเนื้อร้อนใจ หรือการเผชิญกับปัญหานั้นๆได้อย่างไรดี

มนุษย์เกิดแต่กรรม มนุษย์มีกรรมเป็นเหตุ เมื่อเราประสบเคราะห์กรรม ปัญหาอยู่ที่ว่าหากเราทราบเสียก่อน ย่อมเป็นสิ่งที่ดีกว่าการไม่ทราบ อย่างน้อยก็ทำให้เราระมัดระวังตัว อย่างน้อยก็ทำให้เราหลีกเลี่ยงเพื่อทำให้เราเผชิญกับกรรมน้อยลงไป อย่างน้อยก้ทำให้เรารู้ว่าสิ่งเหล่านั้นมันมีที่มา มันมีที่ไปของมัน

มีนักวิชาการและนักวิทยาศาสตร์วัตถุจิตนิยม มักโจมตีอยู่เสมอว่า การดูดวง เป็นเรื่องของความงมงาย หมอดูคู่กับหมอเดา หมายถึงว่า เขาไม่เชื่อในเรื่องของวิชาโหราศาสตร์เพราะคิดไปว่ามันเป็นเรื่องเดียรัจฉานวิชาบ้าง เป็นการคาดเดาเอาเองบ้าง คิดว่ามันเป็นวิชาที่ใช้สถิติสุ่มเอาบ้าง ไม่เชื่อว่าวิชาโหราศาสตร์จะสามารถไขปริศนาแห่งรหัสลับของดวงดาว จักรวาล และธรรมชาติรอบตัว

แสดงว่าเขาลืมไปว่า อัลเบิร์ต ไอสไตน์ และสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้กล่าวไว้ว่า ทุกสรรพสิ่งในโลกรอบตัวเรา ตั้งแต่เล็กเท่าอะตอม (จุลจักรวาล)จนถึงมหาจักรวาล ล้วนมีความผูกพัน ล้วนมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งแยกกันไม่ออก เพียงแต่ว่า กับอะไร เมื่อไร อย่างไร เท่านั้น

กรรมเป็นผลจากการกระทำของเราในอดีตชาติ จะดีหรือจะร้ายก็เพราะเราทำ เป็นสิ่งที่เราจะต้องได้รับผลแห่งการกระทำเหล่านั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

โหรฯเป็นเพียงผู้แปลรหัสของดวงดาวและธรรมชาติรอบตัว เพื่อเผยแผนที่ชีวิตของเรา และสามารถมองเห็นช่องทางที่จะเลี่ยงหลบสิ่งเลวร้าย ให้ลดน้อยถอยลงหรือพบพานแต่สิ่งที่ดีดี

การสะเดาะเคราะห์ หรือพิธีการตัดกรรมที่กำลังกล่าวขานถึงก็คือการขออโหสิกรรม ลดการอาฆาตจองเวรกับเจ้ากรรมนายเวรที่กำลังจ้องจองเวรด้วยความอาฆาตพยาบาทที่ถูกเรากระทำในอดีตชาติ ไม่ใช่เป็นการตัดทอนผลกรรมที่เราทำให้หมดไปหรือให้ลดลง เพราะกรรมที่เรากระทำไม่สามารถตัดทอนลงไปได้



สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์พยากรณ์เที่ยงตรง แม่นยำเชื่อถือได้ วิเคราะห์พยากรณ์อย่างเป็นระบบ ไม่เลื่อนลอย ยึดมั่นในอุดมการณ์ของครูที่ท่านได้กำชับให้นำเอาวิชาการพยากรณ์มาช่วยเหลือแนะนำ บรรเทาทุกข์ของผู้คนมากกว่าการพยากรณ์เพื่อการค้า

ต้องยอมรับว่า ไม่ว่าประเทศใด? ชาติใด ภาษาใด? สมัยไหน? ชนชั้นวรรณะใด? ไม่ว่าจะเป็นเจ้าสัว นักธุรกิจ นักการค้า แม่บ้าน นักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ หรือไม่เว้นแต่นายพล นายพัน รัฐมนตรี หรือระดับผู้นำประเทศ ล้วนแต่เคยดูดวงด้วยกันทั้งสิ้น เพียงแต่ว่า เราจะเชื่ออย่างงมงายหรือจะเชื่อโดยใช้เหตุผลอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ โดยนำเอาคำพยากรณ์มาใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการดำเนินชีวิต หรือทำธุรกิจ การค้า หรือเพื่อการทำสงครามฯ

"สนามหลวงแก็งค์" ไม่สนับสนุนให้เชื่อเรื่อง "ดวง" อย่างงมงาย แต่เราสนับสนุนให้ใช้คำ "พยากรณ์"อย่างมีวิจารณญาณประกอบการตัดสินใจอย่างมีสติ ใช้ "ปัญญา"อย่างมี "เหตุผล"

หลังจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม จนต้องมีการเข้าจองคิวดูดวงเป็นจำนวนมาก ณ ขณะนี้ ไม่ใช่แต่เฉพาะคนไทยในประเทศที่เข้ามาใช้บริการจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"เท่านั้น

แต่ยังมีคนไทยที่อยู่หลายประเทศทั่วโลกเข้ามาดูดวง ตรวจสอบชื่อ นามสกุลมากมาย ทั้งนี้คงเป็นเพราะผู้ที่เข้ามา"ดูดวง" กับ "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับความพอใจในคำพยากรณ์ที่ถูกต้อง แม่นยำ แนะนำแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมตามหลักโหราศาสตร์ จึงได้มีการบอกเล่า แนะนำชักชวนกันปากต่อปากเป็นจำนวนมาก

ปัจจุบันนี้ มีผู้เข้ามาเยี่ยมชมwww.sanamluang.bloggang.com มีจำนวนถึง 118 ประเทศ โดยเข้ามาเปิดดูหน้า "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"คิดเป็นร้อยละ 80 ของ pageviews ต่างๆใน www.sanamluang.bloggang.comจัดทำบล็อกครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2550 มีผู้เข้าชมจำนวนทั้งสิ้น 579,020 ครั้ง จากจำนวน 262,960 visitors (ข้อมูล ณ เวลา 12.00 น.ของวันพุธที่ 6 ตุลาคม 2553)

ส่วนใหญ่ลูกค้าที่โทรเข้ามาเกือบ 98% เมื่อโทรฯ เข้ามาดูดวงแล้ว จะสามารถนัดวัน เวลาดูดวงได้โดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด อาจจะมีอยู่บ้างเพียงไม่กี่รายที่โทรฯเข้ามาเพื่อสอบถามรายละเอียดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

อาจจะเนื่องมาจากไม่คุ้นเคยการทำธุรกิจแบบออนไลน์ โดยมีการโอนเงินก่อน ไม่ไว้ใจ หรือไม่กล้า ซึ่งมีจำนวนน้อยมาก ประมาณ 2%

สำหรับที่เมลฯมาถามและเงียบไป ไม่สามารถทราบจำนวนได้ อาจเนื่องจากเป็นรายที่โทรเข้ามานัดอีกทางหนึ่งก็เป็นได้

สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์ ยังมีอาจารย์ผู้สอนวิชาโหราศาสตร์ ผ่านประสบการณ์ในการดูดวงหลายปีคิดเป็นจำนวนหลายพันดวง

แน่นอน แม่นยำกระชับ ชัดเจน หากไม่ทราบเวลาตกฟากท่านก็ยังสามารถดูได้ รายที่กำลังประสบเคราะห์หามยามร้าย ท่านก็จะช่วยแนะนำและแก้ไขเรื่องเลวร้ายให้กลายเป็นดีด้วยศาสตร์แห่งความลี้ลับของโหราศาสตร์ โดยไม่ต้องเสียเงินสะเดาะเคราะห์ สามารถดูได้ถึงขนาดปัญหาเรื่องคู่ครอง เรื่องเคราะห์ เรื่องหน้าที่การงาน โดยใช้ "วิชาโหราศาสตร์ดวงไทย"อันเป็นสุดยอดของวิชาโหราศาตร์โบราณของไทย

นอกจากนั้น เรายังมี ซินแส ที่เชี่ยวชาญเรื่องการดูฮวงจุ้ย ทำเลปลูกบ้าน อาคารสำนักงาน ดูฤกษ์ยาม แต่งงาน คลอดบุตร ขึ้นบ้านใหม่ เปิดกิจการต่างๆโดยใช้วิชาโหราศาสตร์จีนโบราณผสานตำราดวงไทย ซึ่งซินแสท่านมีประสบการณ์การดูดวงมาไม่น้อยกว่า 45 ปี ผ่านการดูให้กับนักธุรกิจชื่อดังของเมืองไทย และนักธุรกิจชั้นนำจากฮ่องกงหลายราย

ติดต่อ 081-4834367 หรือ workingmailhome@hotmail.com
--------------------------------------------
● ปรึกษาปัญหากฏหมาย
ละเมิด,สัญญา,อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์
--------------------------------------------
● ปัญหาติดต่อราชการ
บริการปรีกษาเรื่อง ภาษีป้าย ภาษีโรงเรือน ภาษีที่ดิน ค่าธรรมเนียมต่างๆ และการติดต่อราชการต่างๆ ของสำนักงานเขต
--------------------------------------------
● พิมพ์รายงาน,ค้นหาข้อมูล,

● งานพิมพ์ Lay-Out,Art Work
--------------------------------------------
สำนักพิมพ์ดาวหาง
www.sanamluang.bloggang.com




รับวาดรูปเหมือน และสอนวาดรูป
โดยอาจารย์ ผู้ชำนาญ

ราคาย่อมเยา

















หลังเกิดเหตการณ์ 14 ตุลา 2516 นิสิต นักศึกษา ปัญญาชน ต่างหลั่งไหลดั่งสายน้ำ ล้นขอบ ออกจากเมือง เข้าสู่ ชนบท เหตุเกิดเมื่อ กลางปี พ.ศ.2516 จนถึง พ.ศ.2519 นักศึกษากลุ่มหนึ่ง ได้ พบกันโดยบังเอิญ และ ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับชาวบ้าน ณ หมู่บ้าน แม่ตะมาน ตำบลกื๊ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้ ชื่อโครงการว่า "โครงการหมู่บ้านสหกรณ์แม่ตะมาน"
เชิญ พบ และติดตาม กับเรื่องราว และบทสรุป อันควรเป็นจุดเริ่มต้น ต่อไปใน

     เมล็ดพันธุ์ประชาธิปไตย ที่ถูกหว่านทั่วท้องทุ่งแห่งประชาไทย มาบัดเดี๋ยวนี้ เมื่อต้องฝน ต้องลม แห่งกาลเวลาพัดผ่าน จาก 2516 , 2519 2535,จน 2540 ถึง 2550บางเมล็ดพันธุ์ก็ยังขาวพิสุทธิ์สดใส บ้างเมล็ดพันธุ์เปลี่ยนสี บ้างก็ดอกสีเหลือง บ้างก็ดอกสีแดง บ้างก็ดอกสีม่วงก้มี สีเขียว สีน้ำเงิน หรือบ้างก็อาจเฉาโรยรา หรือบ้าง ผสมผสานกลายพันธุ์ ก็มีไม่น้อย
มาบัดเดี๋ยวนี้ มันไม่ใช่ จิต วิญญาณ แห่ง 14 ตุลา เดิมเสียแล้ว ไม่ใช่พันธุ์เดียวกัน อย่าได้ เอ่ยอ้างเลย ว่า วิญญาณ 14 ตุลา ยังคง...มันประชาธิปไตย ที่ไม่ บริสุทธิ์ผุดผ่องเหมือนอย่างเดิมเสียแล้ว.....
..แต่มันเป็น.ประชาธิปไตย...เพื่อใคร..??


“ทุกวันนี้ เราจะรับรู้ ได้เห็น ได้ยินแต่เรื่องเลวร้าย ในสังคม
เราจึงขอบันทึกสิ่งที่ดีๆ ต่างๆ เหล่านี้ ด้วยจิตคารวะ และขอเป็นกำลังใจให้เกิดสิ่งที่ดีงามเหล่านี้ต่อไป”>>>



อ่านงานเขียนเกี่ยวกับภาพยนตร์หลากหลายประเทศทั่วโลก ที่นี่ >>>





*จำนวนผู้ชมทั้งสิ้น* สถาปนาบล็อค 21 ก.ค.2550
Friends' blogs
[Add jenifaae's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.