Group Blog
 
<<
มกราคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
14 มกราคม 2552
 
All Blogs
 
เปิดปมโจรกรรม"พุทธศิลป์"อีสาน

ภูมิบ้านภูมิเมือง

บูรพา โชติช่วง




     ดินแดนอีสาน ตั้งแต่แอ่งโคราชไปจนถึงแอ่งสกลนคร ด้านหนึ่งมรดกทางวัฒนธรรมแล้ว มีขนบธรรมประเพณีมาแต่โบราณกาล ที่เรียกกันว่า ฮีตสิบสอง คองสิบสี่ ตลอดสิบสองเดือน ซึ่งมีความผูกพันทางด้านตำนาน คติความเชื่อ และพิธีกรรม รวมทั้งประเพณีผูกโยงกับพุทธศาสนา นอกจากนี้แล้วยังเป็นดินแดนที่มีผู้คนอาศัยมาก่อนยุคประวัติศาสตร์ เห็นได้แหล่งโบราณคดีพิธีกรรมฝังศพ ภาพเขียนผนังถ้ำ

     ไม่เพียงเท่านั้นในยุคสมัยประวัติศาสตร์ก็ยังอุดมไปด้วยวัดวาอาราม มี “สิม” หรืออุโบสถหลังย่อม อันเป็นเสน่ห์ที่ชวนให้ดูขลังยิ่งนัก และในวัดแต่ละวัดย่อมมีพระพุทธรูปเก่าแก่คู่บ้านคู่เมือง เป็นที่เคารพศรัทธา ทว่าข่าวโจรใจบาปขโมยพระพุทธรูปมีมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นไปส่วนน้อยที่เจ้าหน้าที่บ้านเมืองจับได้คาหนังคาเขา หรือเป็นส่วนน้อยที่จะได้พระพุทธรูปองค์นั้นกลับคืนมา ส่วนใหญ่แล้วโจรใจบาปจะลอยนวลเสียมากกว่า

     พระพุทธรูปเก่าที่มีอายุราว 100 ปีขึ้น ส่วนหนึ่งกรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนศิลปวัตถุไว้ แต่ก็มีอีกจำนวนมากที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนไว้ อย่างไรก็ดีการขึ้นทะเบียนและไม่ขึ้นไว้นั้นก็ดูเหมือนโจรใจบาปไม่ได้ใส่ใจในตัวบทกฎหมายลงโทษเท่าใดนัก อีกทั้งไม่เกรงกลัวต่อบาป เพราะพุทธศิลป์บางรูปเมื่อตีมูลค่าเงินแล้วองค์หนึ่งตกร่วมหนึ่งล้านบาท หรือมากกว่านั้น โดยมีนักค้าขายนักสะสมศิลปวัตถุของเก่ารับซื้อ

แทบไม่น่าเชื่อว่า “ถิ่นอีสานมีการขโมยพระพุทธรูปมากกว่าในภาคเหนือ และภาคอื่นๆ” ทั้งนี้จากการเปิดเผย นายเขมชาติ เทพไชย รองอธิบดีกรมศิลปากร ดูแลงานด้านพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ โบราณสถานและศิลปวัตถุ ได้รวบรวมสถิติพระพุทธรูปที่ถูกโจรกรรมตามวัดหลวงและราษฎร์ รวมไปถึงโบราณสถานที่ต่างๆ

     จากสถิติในช่วง11 ปี ตั้งแต่ปี 2540-2551 มี 21 วัด 1 และ 2 แห่งในและนอกเขตโบราณสถาน อาทิ พระพุทธรูปปางสะดุ้งมาร วัดท่าเลียบ อ.นาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ พระพุทธรูปปางมารวิชัย อ.เมือง จ.นครราชสีมา ฉัตรพระประธาน วัดราศรีไฉล อ.อาจสามารถ จ.ร้อยเอ็ด แท่นทองเหลืองรอยพระพุทธบาท วัดชัยมงคลมุนีวาส อ.ศรีขรภูมิ จ.สุรินทร์ พระพุทธรูปแกะสลักไม้ จำนวน 80 องค์ วัดโพธิ์ชัย อ.นาแห้ว จ.เลย สัตภัณฑ์ อ.เชียงคาน จ.เลย พระพุทธรูปยืนปางประ ทานอภัย ขึ้นทะเบียนศิลปวัตถุ วัดสุปัฏนารามวรวิหาร อ.เมือง จ.อุบลราชธานี

พระพุทธรูปปางมารวิชัย ขึ้นทะเบียนศิลปวัตถุ วัดทุ่งไชย อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ หินทรายแกะ สลัก ลายกลีบขนุน วัดสระกำแพงใหญ่ ในพื้นที่อำเภอจังหวัดเดียวกัน พระพุทธรูปทองคำ-ทองสัมฤทธิ์ 70 องค์ ถ้ำวังคำ ภูเขาภูสีฐาน อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ ใบเสมา ทั้งในและนอกเขตโบราณสถานบ้านเสมา อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร วัดกู่คันธนาม อ.โพนทราย จ.ร้อยเอ็ด

บานประตู วัดไชยศรี อ.เมือง จ.ขอน แก่น บานประตู้พระธรรม ขึ้นทะเบียนศิลปวัตถุ วัดโคกพระ อ.จักราช จ.นครราชสีมา โดยเฉพาะคันทวย 6 ชิ้น ขึ้นทะเบียนศิลปวัตถุ วัดศรีฐาน อ.ทุ่งเขาหลวง จ.ร้อยเอ็ด คิดเป็นมูลค่าแล้ว 7 แสนบาท คิดเป็นศิลปวัตถุที่ถูกโจรกรรมจำนวน 382 ชิ้น

     เขมชาติ กล่าวว่า “ดูเหมือนในปี 2544 เกิดการโจรกรรมพระพุทธรูปในอีสานเป็นจำนวนมาก เหมือนสมัยหนึ่งพระพุทธรูปในจังหวัดนนทบุรีถูกขโมยเป็นว่าเล่น โดยเฉพาะวัดที่อยู่แถวริมแม่น้ำเจ้าพระยาและลึกจากชายฝั่งเข้าไป” และตั้งข้อสังเกต พระพุทธรูปที่หายไปนั้นเป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้าน ข้อสังเกตต่อมาวัดบางแห่งมีการจำลองพระพุทธรูปขึ้นมา พอไปวางที่องค์พระประธานด้านหน้าได้ไม่นานนักองค์จริงก็หายไป เป็นไปได้หรือไม่ว่ามีการเตรียมการกัน ตรงนี้เราเองก็ไม่อยากจะกล่าวถึงผู้ดูแลวัด ที่ไม่มีเวลามาดูแลศิลปวัตถุ

ข้อสังเกตต่อมา เป็นไปได้มีใบสั่งของกลุ่มนักค้าศิลปวัตถุของเก่าที่มีอยู่หลายกลุ่มในพื้นที่อีสานค่อนข้างจะทำกันมานานและมีอิทธิพลจนสร้างเป็นเครือข่าย ที่สำคัญเมื่อขโมยไปแล้วเจ้าหน้าที่ก็ไม่สามารถจับมือ ขโมยได้ เพราะนักนิยมศิลปวัตถุไม่น้อยเป็นคนใหญ่คนโตในบ้านเมืองและท้องถิ่นเสียเอง

     นอกจากนี้แล้ววันดีคืนดี ศิลปวัตถุก็ไปโผล่ห้องแสดงของพิพิธภัณฑ์ในยุโรปและอเมริกาจำนวนหลายชิ้น แล้วทางไทยพยายามเจรจาขอคืน อย่างกรณีพระมาลาทองคำ ที่เป็นข่าวฮือฮาเมื่อสามปีก่อน มีเพียงบางชิ้นเท่านั้นที่ได้คืน เช่น ทับหลังนารายบรรทมสินธุ์ ปราสาทหินพนมรุ้ง และล่าสุดร้อนๆ ที่เพิ่งได้คืนมาอีกชิ้นหนึ่ง เป็นพระพุทธรูปสมัยทวารวดีที่อยู่ในวัดศรีโพธิ์ จ.ปราจีนบุรี

เส้นทางการเคลื่อนย้ายศิลปวัตถุไปต่างประเทศ รองอธิบดีกรมศิลป์มอง “แน่นอน ไม่เรือก็เครื่องบินทางใดทางหนึ่ง และแน่นอน คนในบ้านเรานี่แหละที่รู้เห็นเป็นใจด้วย ไม่อย่างนั้นขนออกไปไม่ได้ อย่างข้อมูลพระพุทธรูปทวารวดีองค์นี้ ที่ชาวต่างชาติกลับใจส่งคืนมาให้ในภายหลัง ก็บอกกับเราเสียค่าขนส่ง 222,000 เหรียญยูเอส เอา 35 บาทเวลานั้นคูณ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 7 ล้านบาท แต่ขนถ่ายออกไปอย่างไรนั้นไม่ยอมบอก จะใช้กลยุทธ์อย่างไรนี่สิน่าศึกษา”

     ที่น่าเป็นห่วงการซื้อขายศิลปวัตถุในระดับสากล มีการพัฒนาโดยผ่านทางเว็บไซต์ www.ebay.com เป็นต้น ผิดกับแต่เดิมที่ศิลปวัตถุชิ้นนั้นจะซื้อขายโดยการประมูลราคากันในห้องประมูล ทั้งนี้การซื้อขายผ่านทางเว็บไซต์นั้นบางทียังไม่มีสินค้า มีเพียงรูปภาพปรากฏ หากคนที่สนใจก็จะทำการสั่งจองสินค้าวัตถุชิ้นนั้นๆ นั่นหมายถึงศิลปวัตถุชิ้นนั้นที่ตั้งอยู่ในวัดหรือโบราณสถานไม่นานนักก็ถูกขโมยไป

อย่างไรก็ดีคนที่ซื้อนั้นจะต้องรู้เรื่องประวัติศาสตร์ศิลป์ และต้องเป็นศิลปวัตถุที่หายากบ่งบอกความเก่าแก่ของอายุสมัย อีกทั้งบุคคลที่มีรสนิยมศิลปวัตถุขอมก็ต่างไปจากคนที่มีรสนิยมพุทธศิลป์ และเท่าที่ทราบจากข้อมูล คนซื้อพระพุทธรูปเก่านั้นหลากหลาย แต่ก็จัดว่าเป็นระดับมีฐานะการเงินอย่างแน่นอน และถ้าเป็นพระไม้ก็อาจจะมีฐานะระดับปานกลาง

     การเลียนแบบหรือจำลองศิลปวัตถุยอดนิยม รองฯ อธิบาย “ทำได้ ถ้าไม่เข้าเกณฑ์ศิลปวัตถุ 9 รายการที่กรมศิลปากรกำหนดไว้1.ศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหง 2.ธรรมจักร 3.พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร4.พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 5.พระอิศวร 6.ตู้พระธรรม 7.ช้างทรงเครื่องพระคชาธาร 8.พระเต้าทองคำ(สุวรรณภิงคาร) และ 9.พระแสงขรรค์ มีพระราชบัญญัติโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่ง ชาติ พ.ศ.2504 แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่ 2) พ.ศ.2535 ระบุโทษทั้งจำและปรับ ครอบคลุมถึงการออกนอกราชอาณาจักรด้วย”

     รองฯ เสริมภาพร้านขายศิลปวัตถุว่า เท่าที่ทราบข้อมูลแหล่งค้าขายวัตถุโบราณ นอกจากในกรุง เทพฯ แล้ว ในอีสานก็มีที่อุบลราชธานี ภาคใต้ที่ภูเก็ต แล้วก็มีปัญหาบ้างเมื่อเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปตรวจสอบ เพราะร้านมักจะอ้างสิทธิส่วนบุคคล อย่างไรก็ตามเมื่อตรวจสอบเนื้อศิลปวัตถุชิ้นนั้นแล้วก็จะรู้ว่าใช่ของจริงหรือไม่

     สิ่งหนึ่งที่ดูเหมือนกรมศิลปากรจะตกเป็นที่ครหาอยู่เสมอ ศิลปวัตถุที่หายไปนั้นใครจะรู้ดีกว่าคนกรมศิลปากร “ปลาอยู่ในข้องเดียวกัน ก็มีปลาเน่าอยู่บ้าง ในอดีตเคยมีขโมยพระรอดไปขาย แต่ถูกจับได้ ส่วนปัจจุบันนี้ไม่น่าจะมี และถ้ามีกรมศิลปากรก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย ที่สำคัญการทำงานทางด้านนี้ต้องมีจรรยาบรรณวิชาชีพ” รองฯ กล่าว และขยายความมาตรการเบื้องต้น

อย่างแรก ต้องดูแลรักษาศิลปวัตถุในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติให้ดีก่อน ไม่ให้เกิดการสูญหายขึ้น อย่างที่สอง วัดวาอารามเมื่อเกิดการขโมยพระพุทธรูป เจ้าอาวาสต้องรีบแจ้งความ และประสานกรมศิลปากรในพื้นที่ให้ภัณฑารักษ์และนักโบราณคดีมาร่วมตรวจสอบดู อย่างที่สามศิลปวัตถุที่ขึ้นทะเบียนไว้ควรถ่ายภาพให้ กับกองบังคับการตำรวจภูธร จะได้ตรวจสอบรูปพรรณสัณฐานพระพุทธรูปองค์นั้นตรงกับที่หายไปหรือไม่

     ที่สำคัญเจ้าอาวาส ต้องไม่ไว้ใจคนแปลกหน้า ที่ทำทีเข้ามาตรวจสอบพระพุทธรูป ต้องถามหาบัตรติดตัวก่อนว่าเป็นเจ้าหน้าที่หรือไม่ เพราะมักจะมีการแอบอ้างอยู่เสมอๆ เคยมีกรณีที่กรมศิลปากรทำขึ้นทะเบียนไว้ ไม่นานนักก็มีคนมาสวมลอยเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ แล้วพระพุทธรูปองค์นั้นก็ถูกขโมยไป

"จากสถิติข้อมูลพระพุทธรูปเก่าในอีสานถูกขโมยมากที่สุด จะได้ให้ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรในพื้นที่รวบรวมปัญหาที่เกิดขึ้น ทั้งจะได้ระดมความคิดเห็นทุกภาคส่วนของราชการ กองบังคับการตำรวจภูธรในพื้นที่ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เจ้าคณะภาค และภาคประชาชนเครือข่ายอาสาสมัครปก ป้องโบราณสถาน รวมทั้งสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดของกระทรวงวัฒนธรรมก็ต้องเข้ามามีส่วนร่วมด้วย" รองอธิบดีกรมศิลป์ กล่าวทิ้งท้าย

แม้จะแก้ปัญหาการขโมยศิลปวัตถุได้ไม่สิ้นซาก แต่ก็น่าทุเลาลงได้บ้าง


สุวิมล เชื้อชาญวงศ์: รายงาน

ขอขอบคุณ
ที่มา :
สยามรัฐ 8 มกราคม 2552

H O M E




Create Date : 14 มกราคม 2552
Last Update : 14 มกราคม 2552 0:49:48 น. 3 comments
Counter : 1067 Pageviews.

 
เวอะมาทักทายค่ะ


โดย: CrackyDong วันที่: 14 มกราคม 2552 เวลา:2:08:46 น.  

 
อ่านแล้วเสียดายแทนชาติบ้านเมืองจัง


โดย: ต้น (บังเอิญมีหัวใจ ) วันที่: 25 มกราคม 2552 เวลา:12:08:37 น.  

 
whenever you felt that your heart is going to breakdown
feel it with the love of God ask for his and then you will
find out what is the truth love in Your life as he does for me!

GOD always forgive your mistake
the one that you cant even forget,
he always does it and always being with us
to help and blesss us for us whose heart is full of him


โดย: da IP: 124.122.247.144 วันที่: 18 เมษายน 2553 เวลา:23:06:21 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jenifaae
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Editor
บทความ ความคิดเห็นที่นำลง"สนามหลวงแก็งค์" ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
เพียงเราเห็นว่าน่าสนใจและเป็นประโยชน์ในทางข้อมูล ข่าวสาร
หากท่านมีข้อคิดเห็นประการใด โปรดแจ้งให้เราทราบ จักขอบคุณยิ่ง
"สนามหลวงแก็งค์"
kunkorn : Facebook



"Sanamluang's Gang"
"สนามหลวงแก๊งค์"

kunkorn : Facebook

     เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนให้เกิดการศึกษา การเรียนรู้ เผยแพร่ ส่งเสริม สนับสนุน รวบรวมข้อมูล ข่าวสาร อนุรักษ์ รักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ของชนชาติไทย วิถีชีวิต และปรัชญา คุณค่าจิตวิญญาณที่งดงาม สืบสานต่อยอดกันมานานนับพันๆปี และกำลังถูกทำลายด้วยอิทธิพลจากแนวคิดเชิงวัตถุนิยมแบบตะวันตก

● เพื่อการศึกษาหาความรู้ ส่งเสริม สนับสนุน ให้เกิดการศึกษา เรียนรู้ สิ่งที่พระพุทธเจ้าค้นพบ และนำมาเผยแพร่แก่มวลมนุษยชาติ อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ที่แท้จริง มิใช่เพียงวิทยาศาสตร์เชิงวัตถุเพียงอย่างเดียว เพราะถือว่าพระพุทธเจ้า ทรงค้นพบความจริงของธรรมชาติ ทั้งหมดทั้งสิ้น ที่มนุษย์ธรรมดาสามัญอย่างเราๆ ท่านๆ ยังเป็นเพียงผู้รู้ แค่หางอึ่งที่ยังอยู่ในกะลาครอบ แต่บังอาจด่วนสรุป ขัดแย้งกับ สิ่งที่องค์ศาสดาทรงค้นพบมากว่าสองพันปี จนทำให้บังเกิดความสับสน ลดความน่าเชื่อในสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบ

● สนามหลวงแก๊งค์ ต้องขออนุญาตและขอขอบคุณท่านเจ้าของข่าวสาร ข้อมูล ที่เราได้นำลงในสนามหลวงแก๊งค์ ไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยจิตคารวะ ทั้งนี้และทั้งนั้น ก็เพื่อให้สนามหลวงแก๊งค์ เป็นแหล่งในการเผยแพร่ ข้อมูล ข่าวสารที่เป็นประโยชน์และเพื่อเป็นวิทยาทานแก่สาธารณชน แต่หากท่านเจ้าของข้อมูล ข่าวสารที่ สนามหลวงแก๊งค์ นำลงไม่มีความประสงค์ให้นำลง ขอได้โปรดแจ้งความประสงค์ เรายินดีที่จะถอดออกต่อไป

ด้วยจิตคารวะ
www.sanamluang.bloggang.com
kunkorn : Facebook


ดาวหาง
     เป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นในห้วงมหาจักรวาลอันยิ่งใหญ่ ลี้ลับไร้ขอบเขต ทุกครั้งที่ดาวหางปรากฏ มันจะส่งสัญญาณแห่งความพินาศ มหันตภัย ธรรมชาติ ความตาย ความเจ็บป่วย สงคราม ความขัดแย้ง การกดขี่ การเอารัดเอาเปรียบ การคดโกง การเบียดเบียนของมนุษย์บนพื้นพิภพใบนี้

     มันคือสัญญาณเตือนภัยที่มนุษย์ไม่อาจจะควบคุมได้ ทั้งภัยทางธรรมชาติและภัยที่เกิดขึ้นจากมนุษย์สร้างกันขึ้นมาเองในทุกรอบพันปี

     ไม่ว่ามนุษย์จะคิดว่าตัวเองเก่งกาจสามารถ ฉลาดสักเพียงไหน ก็ไม่อาจหลีกพ้นมหันตภัยเหล่านี้ไปได้
     ดังนั้น จงเชื่อและปฎิบัติตามอย่างไม่ลังเลต่อคำสอนของศาสดาของเราอย่างจริงจังเถิด

     แม้จอมจักรพรรดิ จอมราชันย์ หรือจอมทรราชที่ยิ่งใหญ่ในอดีต ก็ต้องตายร่างกายเน่าเปื่อยเป็นผุยผง และในที่สุดวิญญาณของเขาก็ต้องชดใช้กรรม ด้วยการถูกไฟนรกเผาผลาญโดยไม่มีข้อยกเว้นทั้งทั้งสิ้น

     จงอย่าอหังการ์ว่าตัวเองเก่ง ฉลาด และยิ่งใหญ่กว่าคำสอนของพระศาสดา ไม่มีมนุษย์ตนใดที่จะพ้นจากกฎแห่งธรรมชาติได้ มนุษย์ที่เก่งกว่าเรา เขาได้ตายร่างกายทับถมปฐพีแห่งนี้นับไม่ถ้วนแล้ว


     ● ขออนุญาตนำภาพวาด "วีระชนบนพานรัฐธรรมนูญ" ของ คุณสถาพร ไชยเศรษฐ ศิลปินอิสระ อดีตแนวร่วมศิลปินแห่งประเทศไทย ซึ่งวาดเนื่องในโอกาส 2 ปี 14 ตุลา มาเป็นส่วนหนึ่งของหัว "สนามหลวงบล็อก"                


บริการดูดวง



"สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" มีความภาคภูมิใจในความสำเร็จตามอุดมการณ์ของเรา ที่ได้ตั้งเอาไว้ว่า "เราจะใช้วิชาความรู้ในด้านการพยากรณ์เพื่อให้เป็นประโยชน์สำหรับการให้การปรึกษาของผู้คนที่กำลังประสบปัญหา ความเดือดเนื้อร้อนใจ หรือการเผชิญกับปัญหานั้นๆได้อย่างไรดี

มนุษย์เกิดแต่กรรม มนุษย์มีกรรมเป็นเหตุ เมื่อเราประสบเคราะห์กรรม ปัญหาอยู่ที่ว่าหากเราทราบเสียก่อน ย่อมเป็นสิ่งที่ดีกว่าการไม่ทราบ อย่างน้อยก็ทำให้เราระมัดระวังตัว อย่างน้อยก็ทำให้เราหลีกเลี่ยงเพื่อทำให้เราเผชิญกับกรรมน้อยลงไป อย่างน้อยก้ทำให้เรารู้ว่าสิ่งเหล่านั้นมันมีที่มา มันมีที่ไปของมัน

มีนักวิชาการและนักวิทยาศาสตร์วัตถุจิตนิยม มักโจมตีอยู่เสมอว่า การดูดวง เป็นเรื่องของความงมงาย หมอดูคู่กับหมอเดา หมายถึงว่า เขาไม่เชื่อในเรื่องของวิชาโหราศาสตร์เพราะคิดไปว่ามันเป็นเรื่องเดียรัจฉานวิชาบ้าง เป็นการคาดเดาเอาเองบ้าง คิดว่ามันเป็นวิชาที่ใช้สถิติสุ่มเอาบ้าง ไม่เชื่อว่าวิชาโหราศาสตร์จะสามารถไขปริศนาแห่งรหัสลับของดวงดาว จักรวาล และธรรมชาติรอบตัว

แสดงว่าเขาลืมไปว่า อัลเบิร์ต ไอสไตน์ และสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้กล่าวไว้ว่า ทุกสรรพสิ่งในโลกรอบตัวเรา ตั้งแต่เล็กเท่าอะตอม (จุลจักรวาล)จนถึงมหาจักรวาล ล้วนมีความผูกพัน ล้วนมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งแยกกันไม่ออก เพียงแต่ว่า กับอะไร เมื่อไร อย่างไร เท่านั้น

กรรมเป็นผลจากการกระทำของเราในอดีตชาติ จะดีหรือจะร้ายก็เพราะเราทำ เป็นสิ่งที่เราจะต้องได้รับผลแห่งการกระทำเหล่านั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

โหรฯเป็นเพียงผู้แปลรหัสของดวงดาวและธรรมชาติรอบตัว เพื่อเผยแผนที่ชีวิตของเรา และสามารถมองเห็นช่องทางที่จะเลี่ยงหลบสิ่งเลวร้าย ให้ลดน้อยถอยลงหรือพบพานแต่สิ่งที่ดีดี

การสะเดาะเคราะห์ หรือพิธีการตัดกรรมที่กำลังกล่าวขานถึงก็คือการขออโหสิกรรม ลดการอาฆาตจองเวรกับเจ้ากรรมนายเวรที่กำลังจ้องจองเวรด้วยความอาฆาตพยาบาทที่ถูกเรากระทำในอดีตชาติ ไม่ใช่เป็นการตัดทอนผลกรรมที่เราทำให้หมดไปหรือให้ลดลง เพราะกรรมที่เรากระทำไม่สามารถตัดทอนลงไปได้



สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์พยากรณ์เที่ยงตรง แม่นยำเชื่อถือได้ วิเคราะห์พยากรณ์อย่างเป็นระบบ ไม่เลื่อนลอย ยึดมั่นในอุดมการณ์ของครูที่ท่านได้กำชับให้นำเอาวิชาการพยากรณ์มาช่วยเหลือแนะนำ บรรเทาทุกข์ของผู้คนมากกว่าการพยากรณ์เพื่อการค้า

ต้องยอมรับว่า ไม่ว่าประเทศใด? ชาติใด ภาษาใด? สมัยไหน? ชนชั้นวรรณะใด? ไม่ว่าจะเป็นเจ้าสัว นักธุรกิจ นักการค้า แม่บ้าน นักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ หรือไม่เว้นแต่นายพล นายพัน รัฐมนตรี หรือระดับผู้นำประเทศ ล้วนแต่เคยดูดวงด้วยกันทั้งสิ้น เพียงแต่ว่า เราจะเชื่ออย่างงมงายหรือจะเชื่อโดยใช้เหตุผลอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ โดยนำเอาคำพยากรณ์มาใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการดำเนินชีวิต หรือทำธุรกิจ การค้า หรือเพื่อการทำสงครามฯ

"สนามหลวงแก็งค์" ไม่สนับสนุนให้เชื่อเรื่อง "ดวง" อย่างงมงาย แต่เราสนับสนุนให้ใช้คำ "พยากรณ์"อย่างมีวิจารณญาณประกอบการตัดสินใจอย่างมีสติ ใช้ "ปัญญา"อย่างมี "เหตุผล"

หลังจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม จนต้องมีการเข้าจองคิวดูดวงเป็นจำนวนมาก ณ ขณะนี้ ไม่ใช่แต่เฉพาะคนไทยในประเทศที่เข้ามาใช้บริการจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"เท่านั้น

แต่ยังมีคนไทยที่อยู่หลายประเทศทั่วโลกเข้ามาดูดวง ตรวจสอบชื่อ นามสกุลมากมาย ทั้งนี้คงเป็นเพราะผู้ที่เข้ามา"ดูดวง" กับ "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับความพอใจในคำพยากรณ์ที่ถูกต้อง แม่นยำ แนะนำแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมตามหลักโหราศาสตร์ จึงได้มีการบอกเล่า แนะนำชักชวนกันปากต่อปากเป็นจำนวนมาก

ปัจจุบันนี้ มีผู้เข้ามาเยี่ยมชมwww.sanamluang.bloggang.com มีจำนวนถึง 118 ประเทศ โดยเข้ามาเปิดดูหน้า "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"คิดเป็นร้อยละ 80 ของ pageviews ต่างๆใน www.sanamluang.bloggang.comจัดทำบล็อกครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2550 มีผู้เข้าชมจำนวนทั้งสิ้น 579,020 ครั้ง จากจำนวน 262,960 visitors (ข้อมูล ณ เวลา 12.00 น.ของวันพุธที่ 6 ตุลาคม 2553)

ส่วนใหญ่ลูกค้าที่โทรเข้ามาเกือบ 98% เมื่อโทรฯ เข้ามาดูดวงแล้ว จะสามารถนัดวัน เวลาดูดวงได้โดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด อาจจะมีอยู่บ้างเพียงไม่กี่รายที่โทรฯเข้ามาเพื่อสอบถามรายละเอียดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

อาจจะเนื่องมาจากไม่คุ้นเคยการทำธุรกิจแบบออนไลน์ โดยมีการโอนเงินก่อน ไม่ไว้ใจ หรือไม่กล้า ซึ่งมีจำนวนน้อยมาก ประมาณ 2%

สำหรับที่เมลฯมาถามและเงียบไป ไม่สามารถทราบจำนวนได้ อาจเนื่องจากเป็นรายที่โทรเข้ามานัดอีกทางหนึ่งก็เป็นได้

สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์ ยังมีอาจารย์ผู้สอนวิชาโหราศาสตร์ ผ่านประสบการณ์ในการดูดวงหลายปีคิดเป็นจำนวนหลายพันดวง

แน่นอน แม่นยำกระชับ ชัดเจน หากไม่ทราบเวลาตกฟากท่านก็ยังสามารถดูได้ รายที่กำลังประสบเคราะห์หามยามร้าย ท่านก็จะช่วยแนะนำและแก้ไขเรื่องเลวร้ายให้กลายเป็นดีด้วยศาสตร์แห่งความลี้ลับของโหราศาสตร์ โดยไม่ต้องเสียเงินสะเดาะเคราะห์ สามารถดูได้ถึงขนาดปัญหาเรื่องคู่ครอง เรื่องเคราะห์ เรื่องหน้าที่การงาน โดยใช้ "วิชาโหราศาสตร์ดวงไทย"อันเป็นสุดยอดของวิชาโหราศาตร์โบราณของไทย

นอกจากนั้น เรายังมี ซินแส ที่เชี่ยวชาญเรื่องการดูฮวงจุ้ย ทำเลปลูกบ้าน อาคารสำนักงาน ดูฤกษ์ยาม แต่งงาน คลอดบุตร ขึ้นบ้านใหม่ เปิดกิจการต่างๆโดยใช้วิชาโหราศาสตร์จีนโบราณผสานตำราดวงไทย ซึ่งซินแสท่านมีประสบการณ์การดูดวงมาไม่น้อยกว่า 45 ปี ผ่านการดูให้กับนักธุรกิจชื่อดังของเมืองไทย และนักธุรกิจชั้นนำจากฮ่องกงหลายราย

ติดต่อ 081-4834367 หรือ workingmailhome@hotmail.com
--------------------------------------------
● ปรึกษาปัญหากฏหมาย
ละเมิด,สัญญา,อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์
--------------------------------------------
● ปัญหาติดต่อราชการ
บริการปรีกษาเรื่อง ภาษีป้าย ภาษีโรงเรือน ภาษีที่ดิน ค่าธรรมเนียมต่างๆ และการติดต่อราชการต่างๆ ของสำนักงานเขต
--------------------------------------------
● พิมพ์รายงาน,ค้นหาข้อมูล,

● งานพิมพ์ Lay-Out,Art Work
--------------------------------------------
สำนักพิมพ์ดาวหาง
www.sanamluang.bloggang.com




รับวาดรูปเหมือน และสอนวาดรูป
โดยอาจารย์ ผู้ชำนาญ

ราคาย่อมเยา

















หลังเกิดเหตการณ์ 14 ตุลา 2516 นิสิต นักศึกษา ปัญญาชน ต่างหลั่งไหลดั่งสายน้ำ ล้นขอบ ออกจากเมือง เข้าสู่ ชนบท เหตุเกิดเมื่อ กลางปี พ.ศ.2516 จนถึง พ.ศ.2519 นักศึกษากลุ่มหนึ่ง ได้ พบกันโดยบังเอิญ และ ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับชาวบ้าน ณ หมู่บ้าน แม่ตะมาน ตำบลกื๊ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้ ชื่อโครงการว่า "โครงการหมู่บ้านสหกรณ์แม่ตะมาน"
เชิญ พบ และติดตาม กับเรื่องราว และบทสรุป อันควรเป็นจุดเริ่มต้น ต่อไปใน

     เมล็ดพันธุ์ประชาธิปไตย ที่ถูกหว่านทั่วท้องทุ่งแห่งประชาไทย มาบัดเดี๋ยวนี้ เมื่อต้องฝน ต้องลม แห่งกาลเวลาพัดผ่าน จาก 2516 , 2519 2535,จน 2540 ถึง 2550บางเมล็ดพันธุ์ก็ยังขาวพิสุทธิ์สดใส บ้างเมล็ดพันธุ์เปลี่ยนสี บ้างก็ดอกสีเหลือง บ้างก็ดอกสีแดง บ้างก็ดอกสีม่วงก้มี สีเขียว สีน้ำเงิน หรือบ้างก็อาจเฉาโรยรา หรือบ้าง ผสมผสานกลายพันธุ์ ก็มีไม่น้อย
มาบัดเดี๋ยวนี้ มันไม่ใช่ จิต วิญญาณ แห่ง 14 ตุลา เดิมเสียแล้ว ไม่ใช่พันธุ์เดียวกัน อย่าได้ เอ่ยอ้างเลย ว่า วิญญาณ 14 ตุลา ยังคง...มันประชาธิปไตย ที่ไม่ บริสุทธิ์ผุดผ่องเหมือนอย่างเดิมเสียแล้ว.....
..แต่มันเป็น.ประชาธิปไตย...เพื่อใคร..??


“ทุกวันนี้ เราจะรับรู้ ได้เห็น ได้ยินแต่เรื่องเลวร้าย ในสังคม
เราจึงขอบันทึกสิ่งที่ดีๆ ต่างๆ เหล่านี้ ด้วยจิตคารวะ และขอเป็นกำลังใจให้เกิดสิ่งที่ดีงามเหล่านี้ต่อไป”>>>



อ่านงานเขียนเกี่ยวกับภาพยนตร์หลากหลายประเทศทั่วโลก ที่นี่ >>>





*จำนวนผู้ชมทั้งสิ้น* สถาปนาบล็อค 21 ก.ค.2550
Friends' blogs
[Add jenifaae's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.