Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2551
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
10 มิถุนายน 2551
 
All Blogs
 
ริบบิ้นสีขาว สันติ ที่แสลงใจความรุนแรง

โดย คุณ ผู้ไม่รักใคร
ที่มา เวบบอร์ด พันทิปราชดำเนิน
10 มิถุนายน 2551


     ก่อนอื่นเลยขอกล่าวถึง ตัวแกนนำเครือข่ายประชาธิปไตยเห็นต่างกันได้ แต่อย่าใช้ความรุนแรง ที่ชื่อว่า นาย ปริญญา เทวานฤมิตรกุล นายคนนี้เป็นนักวิชาการ ที่มีแนวคิดต่อต้านระบอบทักษิณอย่างชัดเจน และทั้งมีทัศนคติแง่ลบกับรัฐบาลปัจจุบันมาโดยตลอด (ถ้าคุณเคยฟังการแสดงความคิดเห็นของนักวิชาการคนนี้)

     ถามว่า วันที่ 2 มิ.ย ซึ่งผ่านวันที่ นายกฯ สั่งให้มีการสลายชุมนุม ประมาณไม่เกิน 2 วันดี ก็มีการตั้งกลุ่มนี้ขึ้นมา พร้อมกับชูธงไม่ให้ใช้ความรุนแรง ถ้าฟังจากทางหน้าข่าว เราจะเห็นว่า กลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มกลาง ๆ ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด เรียกร้องหาสันติ สมานฉันท์ แต่เมื่อลึกลงไปถึงคำแถลง “อยากขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี หลีกเลี่ยงการใช้กำลังเข้าทำร้ายผู้ชุมนุม”

     แต่เอ ทำไมหนอ พันธมิตรถึงไม่เข้าใจเจตนา(ว่าต้องการช่วยพันธมิตรโจมตีในทางอ้อม)จะอธิบายให้ฟังดังนี้

     ท่านทั้งหลายยังคงพอจำได้ว่า ข้าพเจ้าเคยบอกแล้วว่า กลุ่มที่อยู่ฝั่งตรงข้ามรัฐบาลนั้น มีหลายกลุ่ม ถึงแม้เขาจะร่วมมือกันตี แต่แท้จริง เขาก็ระแวงกันอยู่เหมือนกัน (ไม่ขอเจาะลึก)

     ถ้าจะแยกกลุ่ม ต้องบอกว่า แยกได้ยากมาก เพราะมันหลายกลุ่มเหลือเกิน เอาเป็นว่า ยึดอะไรสักอย่างเป็นหลักแล้วกัน จึงแยกเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ ได้ 3 กลุ่มดังนี้

     1.กลุ่มข่าวเนชั่น (ผู้ให้การสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง เป็นกลุ่มที่ใกล้ชิดกับกลุ่มอมาตย์ระดับสูงมากที่สุด และเป็นกลุ่มอมาตย์ 100 %) ผู้ที่ให้การสนับสนุนทุกคน ล้วนมีภาพพจน์ดี สูงส่งในสังคม ถ้าเป็นนักวิชาการ จะเป็นพวกที่แสดงทัศนคติได้ แต่ต้องพยายามวางตัวให้ดูเสมือนว่าเป็นกลาง แต่มีความรู้สึกเป็นห่วงในพฤติกรรมที่เสี่ยงต่าง ๆ นานา ของรัฐบาลเหลือเกิน (จัดได้ว่า พวกมีอคติแบบเนียน ๆ)

2.กลุ่มข่าวในเครือผู้จัดการ – ดูภายนอกเหมือนกับว่า กลุ่มนี้กับกลุ่มเนชั่น จะเป็นพวกเดียวกัน เพราะมีศัตรูคนเดียวกัน แต่ถ้าสามารถกำจัดศัตรูได้ 2 กลุ่มนี้ จะต้องออกมาโจมตีกันเอง เพื่อแย่งผลประโยชน์บางอย่าง อย่างเห็นได้ชัด ดังนั้นหลายครั้ง จะเห็นว่ามีเป้าหมาย โจมตีรัฐบาลเหมือนกัน แต่วิธีดำเนินการไม่ค่อยสอดคล้องกันเท่าไร? ตามสำนวนที่ว่าแยกกันตี กลุ่มผู้จัดการจะเป็นประเภทโฉ่งฉ่าง ประกาศตัวเด่นชัด ผิดกับอีกกลุ่มที่พยายามทำตัวเป็นกลาง แต่เอียงแบบเนียน ๆ (ผู้ให้การสนับสนุนกลุ่มนี้ มีทั้งที่อยู่ในกลุ่มอมาตย์ และไม่ใช่ มีทุนขนาดใหญ่ให้การสนับสนุน โดยมีตำแหน่งเป็นผู้สูงศักดิ์เชื้อสายจีน เป็นคนอีสาน มีทรัพย์สินทั้งสังหาริมทรัพย์ และอสังริมทรัพย์ มากมายมหาศาล(มีความสัมพันธ์กับกลุ่มอมาตย์ชั้นสูง)

3.กลุ่มที่เข้าได้กับทั้ง 2 พวก จะเป็นนักการเมืองแถบภาคใต้ตอนล่าง ซึ่งมีสายสัมพันธ์ไปทางกลุ่มอมาตย์ แต่สายป่านห่างไกลมาก มีทัศนคติที่ตรงข้ามกับรัฐบาลชัดเจน แต่ไม่โฉ่งฉาง เพื่อสร้างภาพให้คนทั่วไปนับถือ

***ที่เขียนมาทั้งหมด อาจจะงง แล้วมันเกี่ยวอะไรกัน ก็กำลังจะชี้ให้เห็นต่อไปนี้ไง

     กลุ่มพันธมิตรต่อสู้กับรัฐบาล จำเป็นต้องจ้องดูการเคลื่อนไหวของคู่ต่อสู้ตลอดเวลา เพื่อใช้ในการต่อสู้ ดังนั้นสื่อชนิดไหนหล๊ะที่ กลุ่มพันธมิตรใช้ ในการติดตามข่าวสารของรัฐบาล ตอบ ช่อง NBTไง แล้วรัฐบาลหล๊ะ ติดตามหลายช่องเลย โดยเฉพาะช่อง ASTV

     ในวันที่กลุ่มริบบิ้นสีขาว แถลง ช่อง NBT ก็ทำการเสนอข่าว แล้วข่าวที่ออกมาเป็นอย่างไร?

     “นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล แกนนำเครือข่ายประชาธิปไตยเห็นต่างกันได้ แต่อย่าใช้ความรุนแรง แถลงข่าวเปิดตัวเครือข่าย พร้อมเชิญชวนประชาชนที่เป็นพลังเงียบ ที่ไม่ต้องการเห็นความรุนแรงและการแตกหัก ร่วมกันแสดงพลัง ด้วยการใช้สีขาวเป็นสัญลักษณ์ บอกรัฐบาลและกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย รวมทั้งกลุ่มที่ต่อต้านการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรว่า อย่าใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหาความขัดแย้ง โดยการผูกริบบิ้นสีขาว ติดแถบผ้าขาว แขวนผ้าขาว หรือสิ่งใดที่เป็นสีขาว ติดที่ตัว ที่รถ หรือที่บ้าน เพราะสีขาวเป็นสีแห่งสันติภาพ ที่มีความเป็นกลาง และเข้าได้กับทุกสี และเป็นสีที่จะทำให้ทุกสีอ่อนความแข็งกร้าวลงด้วย”

     พร้อมกับมีการวิเคราะห์ออกมาว่า เป็นการหาทางลงให้กับ กลุ่มพันธมิตร (เน้นไปที่กลุ่มพันธมิตร)แต่ช่อง เนชั่น (เหมือนรู้รายละเอียด)นำเสนอข่าวที่ค่อนข้างชัดเจนกว่า สังเกตได้เด่นชัดกว่า แต่(เน้นไปที่พฤติกรรมที่แข็งกร้าวของนายกรัฐมนตรี)แหล่งข่าวเดียวกัน แต่ผลลัพธ์ออกมา ความรู้สึกต่างกันโดยชัดเจน

     นี่คือเหตุผลที่ทำไม นายสนธิ ถึงออกมาด่าในเวทีชุมนุมว่า “พวกอีแอบ” “พวกอาศัยสถานการณ์เพื่ออยากดัง” “พวกที่ไม่เลือกข้างที่ถูกต้อง”

     ถ้ามองให้ลึกซึ้งไปอีก สมาชิกกลุ่มนี้ มีนักศึกษาหลายคนเป็นเด็กฝึกงานจาก เนชั่น ยิ่งแน่ชัดไปอีก ***บทเรียนครั้งนี้สอนให้รู้ว่า ควรดูสื่อให้รอบด้าน(ไม่ใช่ดูแต่ฝ่ายตรงข้าม จนลืมดูฝ่ายตัวเอง แต่คนละขั้ว) ก่อนจะพูด เราเป็นนาย เมื่อพูดเสร็จแล้ว คำพูดจะเป็นนายเรา

     ทีนี้ เท่ากับเป็นการตัดวงจรคนกลุ่มนี้ออกไป ถ้ากลุ่มนี้เข้าไปสนับสนุนพันธมิตรอีก ก็เสียสุนัขเลย และนี่ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่ง ที่ทำไมผู้ชุมนุมถึงน้อยลง เพราะตอนแรกขี้เตรียมไว้ปา นายกฯ สมัคร แต่พอดี นายสนธิกลับกระโดดมารับแทนเสียนี่ อย่างนี้ท่านนายกฯ ต้องขอบคุณ คุณสนธิ เขานา






'เครือข่ายประชาธิปไตยเห็นต่างกันได้ แต่อย่าใช้ความรุนแรง' นำโดย 'ปริญญา เทวานฤมิตรกุล' รณรงค์ประชาชนที่ไม่ต้องการความรุนแรงแสดงพลัง โดยใช้สัญลักษณ์ 'สีขาว' ซึ่งเป็นสีแห่งสันติภาพ เช่น ผูกริบบิ้นสีขาวที่ข้อมือหรือหน้ารถ และใส่เสื้อขาว


     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 'เครือข่ายประชาธิปไตยเห็นต่างกันได้ แต่อย่าใช้ความรุนแรง' ซึ่งเป็นเครือข่ายของนักวิชาการ นักศึกษาและภาคประชาชนจำนวน 14 องค์กร นำโดยนายปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นางสาวเธียรขวัญ พงศ์ปรีชา แกนนำกลุ่มนักศึกษาใส่ใจไทย ร่วมกันแถลงเปิดตัวเครือข่ายและรณรงค์ให้ประชาชนทุกคนที่ไม่ต้องการเห็นความรุนแรงร่วมกันแสดงพลังโดยใช้สัญลักษณ์สีขาวเป็นสัญลักษณ์


     นายปริญญา กล่าวว่า ตอนนี้สังคมเกิดการเผชิญหน้าของสองฝ่าย ซึ่งถ้าเป็นเช่นนี้ต่อไป ก็จะเกิดความรุนแรงเกิดขึ้น เราเชื่อว่าไม่มีใครต้องการเห็นความแตกหักของสังคม ด้วยความตั้งใจอยากเห็นประชาธิปไตยที่สามารถเห็นต่างได้แต่ไม่ต้องใช้ความรุนแรง ดังนั้น เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา เราจึงรวมตัวกันเพื่อเสนอทางเลือกให้สังคมไทยด้วยการไม่ใช้ความรุนแรง โดยทุกคนที่ไม่ต้องการเห็นความรุนแรงสามารถใช้สัญลักษณ์สีขาว เช่น ผูกริบบิ้นสีขาวที่ข้อมือหรือหน้ารถ ใส่เสื้อขาว ฯลฯ ที่ถือเป็นการใช้สัญลักษณ์เพื่อสันติภาพและลดความรุนแรง เพราะสีขาวเป็นสีไม่มีข้าง ทั้งนี้ เราไม่ได้เรียกร้องให้ยุติการชุมนุม แต่อยากให้คนที่แสดงออกในทิศทางของประชาธิปไตยเคารพในกติกา ไม่แก้ไขความขัดแย้งด้วยความรุนแรง เราไม่อยากเห็นการนองเลือดเกิดขึ้นอีก


     'ทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งรัฐบาลและฝ่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยควรตั้งโต๊ะเจรจากัน จะขัดแย้งกันอย่างไรปัญหาทุกอย่างก็แก้ไขได้แต่ทั้งสองฝ่ายไม่ควรใช้ความรุนแรง เพราะวันเสาร์ที่ 31 พ.ค.ที่ผ่านมา ก็หวุดหวิดต่อการเกิดความรุนแรง แต่ก็ยังดีที่ไม่มีการสลายการชุมนุม ซึ่งเราก็ไม่อยากเห็นเหตุการณ์นองเลือดเกิดขึ้นอีก' นายปริญญา กล่าว


     นายปริญญา กล่าวต่อว่า ส่วนการที่พรรคร่วมรัฐบาลจะเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญและการที่พันธมิตรฯ ประกาศโค่นล้มรัฐบาลนั้น ถือเป็นเหตุความขัดแย้งอย่างหนึ่ง แต่วัตถุประสงค์ของเครือข่ายฯ คือ อยากเชิญชวนให้ทุกฝ่ายช่วยกันลดอุณหภูมิการเมืองไทย คือ คนส่วนใหญ่ที่อยู่ตรงกลาง ไม่มีข้างควรออกมาแสดงพลังให้เหนือความขัดแย้ง เพราะเมื่อใดก็ตามที่สังคมเกิดความขัดแย้ง ถ้าคนที่อยู่ตรงกลางออกมาเชื่อว่า จะสามารถแก้ไขปัญหาได้ เพียงเท่านี้เราก็สามารถหลีกเลี่ยงการนองเลือดได้ แต่ถ้าเมื่อใดที่รัฐบาลนำพ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินมาประกาศใช้ก็จะเป็นการสร้างเงื่อนไขหนึ่งที่ถือเป็นการราดน้ำมันเข้าไปในกองไฟ ดังนั้นประชาชนต้องออกมาช่วยกันบอกรัฐบาลไม่ให้ใช้ความรุนแรง

     ด้านนางกรองกาญจน์ ศึกษาหาญ กรรมการญาติวีรชนพฤษภาทมิฬ 35 กล่าวว่า จากที่ได้สูญเสียคนในครอบครัวในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬเมื่อ 16 ปีที่ผ่านมา จึงอยากฝากไปถึง พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ ขอให้อดทนอดกลั้น ซึ่งผลที่เกิดขึ้นกับชีวิตของผู้ชุมนุมครั้งนั้น ไม่อยากเห็นอีก เพราะเมื่อเกิดขึ้นมาแล้วเอาคืนไม่ได้ ดังนั้นทั้งสองฝ่ายจึงควรประนีประนอม ถ้าไม่เห็นอกเห็นใจกันบ้านเมืองก็จะพัง


     ขณะที่ นางสาวเธียรขวัญ เป็นตัวแทนอ่านแถลงการณ์ ว่า ประชาธิปไตยเป็นระบอบการปกครองที่ให้สิทธิเสรีภาพประชาชน จึงมีสิทธิที่จะเห็นแตกต่างกันและมีสิทธิ ที่จะเห็นแตกต่างจากรัฐบาล รวมถึงมีสิทธิที่จะแสดงออกหรือเรียกร้องต่อรัฐบาล ถ้าหากมีปัญหาความเห็นแตกต่างที่นำไปสู่ความขัดแย้งแบ่งข้างเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นระหว่างประชาชนกับรัฐบาล หรือระหว่างประชาชนด้วยกัน ทุกฝ่ายจะต้องเคารพกติกาพื้นฐานของระบอบประชาธิปไตยคือประชาธิปไตยเห็นต่างกันได้ แต่อย่าใช้ความรุนแรง รัฐบาลจะต้องไม่ใช้กำลังในการแก้ปัญหา หรือใช้ความรุนแรงต่อประชาชนที่ขัดแย้งกับรัฐบาล ฝ่ายประชาชนไม่ว่าจะเป็นฝ่ายเห็นด้วยหรือฝ่ายเห็นต่างจากรัฐบาลจะต้องไม่ใช้ความรุนแรงเข้าหากัน รวมถึงหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่จะนำไปสู่ความรุนแรง การไม่ใช้ความรุนแรงนี้ มิใช่เพียงแต่ไม่ใช้การกระทำที่รุนแรง แต่รวมถึงการไม่ใช้วาจาหรือคำพูดที่รุนแรงด้วย ทั้งคนในรัฐบาลและประชาชนไม่ว่าฝ่ายใดจะต้องไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคายและไม่พูดจายั่งยุให้เกิดความรุนแรง

     'ไม่ว่าความขัดแย้งจะเป็นเรื่องอะไร ขอให้ทุกฝ่ายเคารพกติกาของระบอบประชาธิปไตย คือ ไม่มีการใช้ความรุนแรง รวมถึงไม่สร้างเงื่อนไขที่จะนำไปสู่เหตุการณ์รุนแรงเครือข่ายฯ นี้ จึงไม่ได้อยู่ข้างหนึ่งข้างใด เชื่อว่าประชาชนคนส่วนใหญ่ของสังคมไทยไม่ต้องการเห็นความรุนแรงและการแตกหัก แต่ไม่ได้แสดงออกมา เราจึงขอเชิญชวนประชาชนที่ไม่ต้องการเห็นความรุนแรงให้ร่วมกันแสดงพลังออกมา ด้วยการใช้สีขาวเป็นสัญลักษณ์บอกรัฐบาล และฝ่ายที่ขัดแย้งกับรัฐบาล รวมถึงฝ่ายที่ต่อต้านฝ่ายที่ขัดแย้งกับรัฐบาลว่า อย่าใช้ความรุนแรง เพราะสีขาวคือสีแห่งสันติภาพ สีที่ไม่มีฝ่าย ไม่มีข้าง โดยสามารถใช้สีขาวเพื่อเป็นสัญลักษณ์ต่อเนื่องไปจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายลง ซึ่งในวันพุธที่ 4 มิ.ย.นี้ทางเครือข่ายฯ จะเดินรณรงค์ที่ย่านสีลมเพื่อให้ประชาชนออกมาร่วมแสดงพลังแห่งการไม่ใช้ความรุนแรงต่อไป' นางสาวเธียรขวัญ กล่าว

     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การแถลงข่าวครั้งนี้สมาชิกเครือข่ายได้สวมเสื้อขาวและภายหลังการแถลงข่าวได้ผูกริบบิ้นขาวให้เป็นตัวอย่าง จากนั้นได้แจกดอกไม้ขาวให้กับผู้สื่อข่าวที่ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งการไม่ใช้ความรุนแรง

.....มติชนออนไลน์


Credit :

Thai E-News
www.parliament.go.th


H O M E






Create Date : 10 มิถุนายน 2551
Last Update : 22 กรกฎาคม 2551 22:16:29 น. 0 comments
Counter : 852 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jenifaae
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Editor
บทความ ความคิดเห็นที่นำลง"สนามหลวงแก็งค์" ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
เพียงเราเห็นว่าน่าสนใจและเป็นประโยชน์ในทางข้อมูล ข่าวสาร
หากท่านมีข้อคิดเห็นประการใด โปรดแจ้งให้เราทราบ จักขอบคุณยิ่ง
"สนามหลวงแก็งค์"
kunkorn : Facebook



"Sanamluang's Gang"
"สนามหลวงแก๊งค์"

kunkorn : Facebook

     เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนให้เกิดการศึกษา การเรียนรู้ เผยแพร่ ส่งเสริม สนับสนุน รวบรวมข้อมูล ข่าวสาร อนุรักษ์ รักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ของชนชาติไทย วิถีชีวิต และปรัชญา คุณค่าจิตวิญญาณที่งดงาม สืบสานต่อยอดกันมานานนับพันๆปี และกำลังถูกทำลายด้วยอิทธิพลจากแนวคิดเชิงวัตถุนิยมแบบตะวันตก

● เพื่อการศึกษาหาความรู้ ส่งเสริม สนับสนุน ให้เกิดการศึกษา เรียนรู้ สิ่งที่พระพุทธเจ้าค้นพบ และนำมาเผยแพร่แก่มวลมนุษยชาติ อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ที่แท้จริง มิใช่เพียงวิทยาศาสตร์เชิงวัตถุเพียงอย่างเดียว เพราะถือว่าพระพุทธเจ้า ทรงค้นพบความจริงของธรรมชาติ ทั้งหมดทั้งสิ้น ที่มนุษย์ธรรมดาสามัญอย่างเราๆ ท่านๆ ยังเป็นเพียงผู้รู้ แค่หางอึ่งที่ยังอยู่ในกะลาครอบ แต่บังอาจด่วนสรุป ขัดแย้งกับ สิ่งที่องค์ศาสดาทรงค้นพบมากว่าสองพันปี จนทำให้บังเกิดความสับสน ลดความน่าเชื่อในสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบ

● สนามหลวงแก๊งค์ ต้องขออนุญาตและขอขอบคุณท่านเจ้าของข่าวสาร ข้อมูล ที่เราได้นำลงในสนามหลวงแก๊งค์ ไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยจิตคารวะ ทั้งนี้และทั้งนั้น ก็เพื่อให้สนามหลวงแก๊งค์ เป็นแหล่งในการเผยแพร่ ข้อมูล ข่าวสารที่เป็นประโยชน์และเพื่อเป็นวิทยาทานแก่สาธารณชน แต่หากท่านเจ้าของข้อมูล ข่าวสารที่ สนามหลวงแก๊งค์ นำลงไม่มีความประสงค์ให้นำลง ขอได้โปรดแจ้งความประสงค์ เรายินดีที่จะถอดออกต่อไป

ด้วยจิตคารวะ
www.sanamluang.bloggang.com
kunkorn : Facebook


ดาวหาง
     เป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นในห้วงมหาจักรวาลอันยิ่งใหญ่ ลี้ลับไร้ขอบเขต ทุกครั้งที่ดาวหางปรากฏ มันจะส่งสัญญาณแห่งความพินาศ มหันตภัย ธรรมชาติ ความตาย ความเจ็บป่วย สงคราม ความขัดแย้ง การกดขี่ การเอารัดเอาเปรียบ การคดโกง การเบียดเบียนของมนุษย์บนพื้นพิภพใบนี้

     มันคือสัญญาณเตือนภัยที่มนุษย์ไม่อาจจะควบคุมได้ ทั้งภัยทางธรรมชาติและภัยที่เกิดขึ้นจากมนุษย์สร้างกันขึ้นมาเองในทุกรอบพันปี

     ไม่ว่ามนุษย์จะคิดว่าตัวเองเก่งกาจสามารถ ฉลาดสักเพียงไหน ก็ไม่อาจหลีกพ้นมหันตภัยเหล่านี้ไปได้
     ดังนั้น จงเชื่อและปฎิบัติตามอย่างไม่ลังเลต่อคำสอนของศาสดาของเราอย่างจริงจังเถิด

     แม้จอมจักรพรรดิ จอมราชันย์ หรือจอมทรราชที่ยิ่งใหญ่ในอดีต ก็ต้องตายร่างกายเน่าเปื่อยเป็นผุยผง และในที่สุดวิญญาณของเขาก็ต้องชดใช้กรรม ด้วยการถูกไฟนรกเผาผลาญโดยไม่มีข้อยกเว้นทั้งทั้งสิ้น

     จงอย่าอหังการ์ว่าตัวเองเก่ง ฉลาด และยิ่งใหญ่กว่าคำสอนของพระศาสดา ไม่มีมนุษย์ตนใดที่จะพ้นจากกฎแห่งธรรมชาติได้ มนุษย์ที่เก่งกว่าเรา เขาได้ตายร่างกายทับถมปฐพีแห่งนี้นับไม่ถ้วนแล้ว


     ● ขออนุญาตนำภาพวาด "วีระชนบนพานรัฐธรรมนูญ" ของ คุณสถาพร ไชยเศรษฐ ศิลปินอิสระ อดีตแนวร่วมศิลปินแห่งประเทศไทย ซึ่งวาดเนื่องในโอกาส 2 ปี 14 ตุลา มาเป็นส่วนหนึ่งของหัว "สนามหลวงบล็อก"                


บริการดูดวง



"สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" มีความภาคภูมิใจในความสำเร็จตามอุดมการณ์ของเรา ที่ได้ตั้งเอาไว้ว่า "เราจะใช้วิชาความรู้ในด้านการพยากรณ์เพื่อให้เป็นประโยชน์สำหรับการให้การปรึกษาของผู้คนที่กำลังประสบปัญหา ความเดือดเนื้อร้อนใจ หรือการเผชิญกับปัญหานั้นๆได้อย่างไรดี

มนุษย์เกิดแต่กรรม มนุษย์มีกรรมเป็นเหตุ เมื่อเราประสบเคราะห์กรรม ปัญหาอยู่ที่ว่าหากเราทราบเสียก่อน ย่อมเป็นสิ่งที่ดีกว่าการไม่ทราบ อย่างน้อยก็ทำให้เราระมัดระวังตัว อย่างน้อยก็ทำให้เราหลีกเลี่ยงเพื่อทำให้เราเผชิญกับกรรมน้อยลงไป อย่างน้อยก้ทำให้เรารู้ว่าสิ่งเหล่านั้นมันมีที่มา มันมีที่ไปของมัน

มีนักวิชาการและนักวิทยาศาสตร์วัตถุจิตนิยม มักโจมตีอยู่เสมอว่า การดูดวง เป็นเรื่องของความงมงาย หมอดูคู่กับหมอเดา หมายถึงว่า เขาไม่เชื่อในเรื่องของวิชาโหราศาสตร์เพราะคิดไปว่ามันเป็นเรื่องเดียรัจฉานวิชาบ้าง เป็นการคาดเดาเอาเองบ้าง คิดว่ามันเป็นวิชาที่ใช้สถิติสุ่มเอาบ้าง ไม่เชื่อว่าวิชาโหราศาสตร์จะสามารถไขปริศนาแห่งรหัสลับของดวงดาว จักรวาล และธรรมชาติรอบตัว

แสดงว่าเขาลืมไปว่า อัลเบิร์ต ไอสไตน์ และสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้กล่าวไว้ว่า ทุกสรรพสิ่งในโลกรอบตัวเรา ตั้งแต่เล็กเท่าอะตอม (จุลจักรวาล)จนถึงมหาจักรวาล ล้วนมีความผูกพัน ล้วนมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งแยกกันไม่ออก เพียงแต่ว่า กับอะไร เมื่อไร อย่างไร เท่านั้น

กรรมเป็นผลจากการกระทำของเราในอดีตชาติ จะดีหรือจะร้ายก็เพราะเราทำ เป็นสิ่งที่เราจะต้องได้รับผลแห่งการกระทำเหล่านั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

โหรฯเป็นเพียงผู้แปลรหัสของดวงดาวและธรรมชาติรอบตัว เพื่อเผยแผนที่ชีวิตของเรา และสามารถมองเห็นช่องทางที่จะเลี่ยงหลบสิ่งเลวร้าย ให้ลดน้อยถอยลงหรือพบพานแต่สิ่งที่ดีดี

การสะเดาะเคราะห์ หรือพิธีการตัดกรรมที่กำลังกล่าวขานถึงก็คือการขออโหสิกรรม ลดการอาฆาตจองเวรกับเจ้ากรรมนายเวรที่กำลังจ้องจองเวรด้วยความอาฆาตพยาบาทที่ถูกเรากระทำในอดีตชาติ ไม่ใช่เป็นการตัดทอนผลกรรมที่เราทำให้หมดไปหรือให้ลดลง เพราะกรรมที่เรากระทำไม่สามารถตัดทอนลงไปได้



สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์พยากรณ์เที่ยงตรง แม่นยำเชื่อถือได้ วิเคราะห์พยากรณ์อย่างเป็นระบบ ไม่เลื่อนลอย ยึดมั่นในอุดมการณ์ของครูที่ท่านได้กำชับให้นำเอาวิชาการพยากรณ์มาช่วยเหลือแนะนำ บรรเทาทุกข์ของผู้คนมากกว่าการพยากรณ์เพื่อการค้า

ต้องยอมรับว่า ไม่ว่าประเทศใด? ชาติใด ภาษาใด? สมัยไหน? ชนชั้นวรรณะใด? ไม่ว่าจะเป็นเจ้าสัว นักธุรกิจ นักการค้า แม่บ้าน นักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ หรือไม่เว้นแต่นายพล นายพัน รัฐมนตรี หรือระดับผู้นำประเทศ ล้วนแต่เคยดูดวงด้วยกันทั้งสิ้น เพียงแต่ว่า เราจะเชื่ออย่างงมงายหรือจะเชื่อโดยใช้เหตุผลอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ โดยนำเอาคำพยากรณ์มาใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการดำเนินชีวิต หรือทำธุรกิจ การค้า หรือเพื่อการทำสงครามฯ

"สนามหลวงแก็งค์" ไม่สนับสนุนให้เชื่อเรื่อง "ดวง" อย่างงมงาย แต่เราสนับสนุนให้ใช้คำ "พยากรณ์"อย่างมีวิจารณญาณประกอบการตัดสินใจอย่างมีสติ ใช้ "ปัญญา"อย่างมี "เหตุผล"

หลังจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม จนต้องมีการเข้าจองคิวดูดวงเป็นจำนวนมาก ณ ขณะนี้ ไม่ใช่แต่เฉพาะคนไทยในประเทศที่เข้ามาใช้บริการจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"เท่านั้น

แต่ยังมีคนไทยที่อยู่หลายประเทศทั่วโลกเข้ามาดูดวง ตรวจสอบชื่อ นามสกุลมากมาย ทั้งนี้คงเป็นเพราะผู้ที่เข้ามา"ดูดวง" กับ "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับความพอใจในคำพยากรณ์ที่ถูกต้อง แม่นยำ แนะนำแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมตามหลักโหราศาสตร์ จึงได้มีการบอกเล่า แนะนำชักชวนกันปากต่อปากเป็นจำนวนมาก

ปัจจุบันนี้ มีผู้เข้ามาเยี่ยมชมwww.sanamluang.bloggang.com มีจำนวนถึง 118 ประเทศ โดยเข้ามาเปิดดูหน้า "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"คิดเป็นร้อยละ 80 ของ pageviews ต่างๆใน www.sanamluang.bloggang.comจัดทำบล็อกครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2550 มีผู้เข้าชมจำนวนทั้งสิ้น 579,020 ครั้ง จากจำนวน 262,960 visitors (ข้อมูล ณ เวลา 12.00 น.ของวันพุธที่ 6 ตุลาคม 2553)

ส่วนใหญ่ลูกค้าที่โทรเข้ามาเกือบ 98% เมื่อโทรฯ เข้ามาดูดวงแล้ว จะสามารถนัดวัน เวลาดูดวงได้โดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด อาจจะมีอยู่บ้างเพียงไม่กี่รายที่โทรฯเข้ามาเพื่อสอบถามรายละเอียดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

อาจจะเนื่องมาจากไม่คุ้นเคยการทำธุรกิจแบบออนไลน์ โดยมีการโอนเงินก่อน ไม่ไว้ใจ หรือไม่กล้า ซึ่งมีจำนวนน้อยมาก ประมาณ 2%

สำหรับที่เมลฯมาถามและเงียบไป ไม่สามารถทราบจำนวนได้ อาจเนื่องจากเป็นรายที่โทรเข้ามานัดอีกทางหนึ่งก็เป็นได้

สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์ ยังมีอาจารย์ผู้สอนวิชาโหราศาสตร์ ผ่านประสบการณ์ในการดูดวงหลายปีคิดเป็นจำนวนหลายพันดวง

แน่นอน แม่นยำกระชับ ชัดเจน หากไม่ทราบเวลาตกฟากท่านก็ยังสามารถดูได้ รายที่กำลังประสบเคราะห์หามยามร้าย ท่านก็จะช่วยแนะนำและแก้ไขเรื่องเลวร้ายให้กลายเป็นดีด้วยศาสตร์แห่งความลี้ลับของโหราศาสตร์ โดยไม่ต้องเสียเงินสะเดาะเคราะห์ สามารถดูได้ถึงขนาดปัญหาเรื่องคู่ครอง เรื่องเคราะห์ เรื่องหน้าที่การงาน โดยใช้ "วิชาโหราศาสตร์ดวงไทย"อันเป็นสุดยอดของวิชาโหราศาตร์โบราณของไทย

นอกจากนั้น เรายังมี ซินแส ที่เชี่ยวชาญเรื่องการดูฮวงจุ้ย ทำเลปลูกบ้าน อาคารสำนักงาน ดูฤกษ์ยาม แต่งงาน คลอดบุตร ขึ้นบ้านใหม่ เปิดกิจการต่างๆโดยใช้วิชาโหราศาสตร์จีนโบราณผสานตำราดวงไทย ซึ่งซินแสท่านมีประสบการณ์การดูดวงมาไม่น้อยกว่า 45 ปี ผ่านการดูให้กับนักธุรกิจชื่อดังของเมืองไทย และนักธุรกิจชั้นนำจากฮ่องกงหลายราย

ติดต่อ 081-4834367 หรือ workingmailhome@hotmail.com
--------------------------------------------
● ปรึกษาปัญหากฏหมาย
ละเมิด,สัญญา,อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์
--------------------------------------------
● ปัญหาติดต่อราชการ
บริการปรีกษาเรื่อง ภาษีป้าย ภาษีโรงเรือน ภาษีที่ดิน ค่าธรรมเนียมต่างๆ และการติดต่อราชการต่างๆ ของสำนักงานเขต
--------------------------------------------
● พิมพ์รายงาน,ค้นหาข้อมูล,

● งานพิมพ์ Lay-Out,Art Work
--------------------------------------------
สำนักพิมพ์ดาวหาง
www.sanamluang.bloggang.com




รับวาดรูปเหมือน และสอนวาดรูป
โดยอาจารย์ ผู้ชำนาญ

ราคาย่อมเยา

















หลังเกิดเหตการณ์ 14 ตุลา 2516 นิสิต นักศึกษา ปัญญาชน ต่างหลั่งไหลดั่งสายน้ำ ล้นขอบ ออกจากเมือง เข้าสู่ ชนบท เหตุเกิดเมื่อ กลางปี พ.ศ.2516 จนถึง พ.ศ.2519 นักศึกษากลุ่มหนึ่ง ได้ พบกันโดยบังเอิญ และ ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับชาวบ้าน ณ หมู่บ้าน แม่ตะมาน ตำบลกื๊ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้ ชื่อโครงการว่า "โครงการหมู่บ้านสหกรณ์แม่ตะมาน"
เชิญ พบ และติดตาม กับเรื่องราว และบทสรุป อันควรเป็นจุดเริ่มต้น ต่อไปใน

     เมล็ดพันธุ์ประชาธิปไตย ที่ถูกหว่านทั่วท้องทุ่งแห่งประชาไทย มาบัดเดี๋ยวนี้ เมื่อต้องฝน ต้องลม แห่งกาลเวลาพัดผ่าน จาก 2516 , 2519 2535,จน 2540 ถึง 2550บางเมล็ดพันธุ์ก็ยังขาวพิสุทธิ์สดใส บ้างเมล็ดพันธุ์เปลี่ยนสี บ้างก็ดอกสีเหลือง บ้างก็ดอกสีแดง บ้างก็ดอกสีม่วงก้มี สีเขียว สีน้ำเงิน หรือบ้างก็อาจเฉาโรยรา หรือบ้าง ผสมผสานกลายพันธุ์ ก็มีไม่น้อย
มาบัดเดี๋ยวนี้ มันไม่ใช่ จิต วิญญาณ แห่ง 14 ตุลา เดิมเสียแล้ว ไม่ใช่พันธุ์เดียวกัน อย่าได้ เอ่ยอ้างเลย ว่า วิญญาณ 14 ตุลา ยังคง...มันประชาธิปไตย ที่ไม่ บริสุทธิ์ผุดผ่องเหมือนอย่างเดิมเสียแล้ว.....
..แต่มันเป็น.ประชาธิปไตย...เพื่อใคร..??


“ทุกวันนี้ เราจะรับรู้ ได้เห็น ได้ยินแต่เรื่องเลวร้าย ในสังคม
เราจึงขอบันทึกสิ่งที่ดีๆ ต่างๆ เหล่านี้ ด้วยจิตคารวะ และขอเป็นกำลังใจให้เกิดสิ่งที่ดีงามเหล่านี้ต่อไป”>>>



อ่านงานเขียนเกี่ยวกับภาพยนตร์หลากหลายประเทศทั่วโลก ที่นี่ >>>





*จำนวนผู้ชมทั้งสิ้น* สถาปนาบล็อค 21 ก.ค.2550
Friends' blogs
[Add jenifaae's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.