Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2551
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
4 สิงหาคม 2551
 
All Blogs
 
ขึ้นกระเช้า ไปไหว้พระที่เนปาล

คอลัมน์ บันทึกเดินทาง

โดย ธันวา วิน


*เนปาลได้รับความสนใจจากชาวโลกช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมา เนื่องจาก มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งใหญ่ คือสมัชชาร่างรัฐธรรมนูญได้ลงมติยกเลิกระบอบกษัตริย์

ราชวงศ์ชาห์ที่ปกครองประเทศมานานรวม 239 ปี ก็สิ้นสุดลง

     โดยกษัตตริย์คยาเนนทรากลายเป็นกษัตริย์องค์สุดท้ายของราชวงศ์ชาห์ พร้อมกับประกาศเปลี่ยนแปลงการปกครองจากราชอาณาจักรเป็นสาธารณรัฐเนปาล เปลี่ยนชื่อจาก 'อาณาจักรเนปาล' เป็น 'สหพันธรัฐประชาธิปไตยเนปาล'

การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงใดๆ เกิดขึ้น กษัตริย์คยาเนนทราไม่ได้ออกมาคัดค้านแต่อย่างใด

พระองค์ตรัสว่า พระองค์ยินดีต่อการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เพราะเป็นความต้องการของประชาชน

     พระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ได้ย้ายออกจากพระราชวังนารายันฮิติในกรุงกาฐมาณฑุภายใน 2 สัปดาห์หลังจากมีการล้มระบอบกษัตริย์เมื่อวันที่ 28 พ.ค. และไปประทับในพระราชวังนาการ์จุน พระราชวังเล็กๆ นอกกาฐมาณฑุที่รัฐบาลอนุญาตให้ไปประทับชั่วคราวก่อนที่พระองค์จะหาที่พักใหม่ได้

ส่วนพระราชวังนารายันฮิตินั้นถูกเปลี่ยนสถานะเป็นพิพิธภัณฑ์ทันทีหลังจากพระบรมวงศานุวงศ์ย้ายออกจากนารายันฮิติได้ 4-5 วัน

พระราชวังนารายันฮิติกลายเป็นพิพิธภัณฑ์นารายันฮิติและกำลังจะอนุญาตให้ประชาชนทั่วไปและนักท่องเที่ยวเข้าไปชมได้ภายใน 3-4 เดือนข้างหน้านี้

     หลายคนกลัวว่าการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งนี้จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรม ประเพณี ความเชื่อ การดำเนินชีวิตของชาวเนปาลที่ผูกพันกับศาสนาและอื่นๆ เพราะรัฐบาลที่กำลังจะขึ้นไปบริหารประเทศเป็นพรรคคอมมิวนิสต์นิยมลัทธิเหมา

ถึงอย่างไรก็ดีความผูกพันกับศาสนาของคนเนปาลไม่น่าจะเปลี่ยนง่ายนักและเนปาลยังเป็นประเทศน่าสนใจและน่าค้นหาอีกนาน

ที่นั่นชีวิตยังวนเวียนอยู่กับเทศกาลที่มาเยือนทุกๆ ครึ่งเดือนหรืออย่างน้อยทุกๆ เดือน ความเป็นอยู่ยังผูกพันกับความเชื่อเรื่องศาสนา ผูกพันกับวัฒนธรรมประเพณี

*นอกเหนือจากชีวิตของชาวเนปาลยังวนเวียนอยู่กับเทศกาลแล้ว การดำเนินชีวิตในแต่ละวันก็ยังผูกพันกับศรัทธาและความเชื่อในศาสนา เช่น ทุกเช้าจะไปไหว้เทพเจ้าหรือไหว้พระที่วัดก่อนไปทำงาน แต่ละสัปดาห์จะไปไหว้เทพเจ้าที่ตนนับถือ โดยเฉพาะในวันอังคาร วันพฤหัสบดี และวันเสาร์

เทวสถานหลายแห่งหนาแน่นด้วยผู้คน เช่น ที่วัดฮินดูบังลามุคิในเมืองปาตัน วัดดาฉิงกาลีตอนใต้ของกาฐมาณฑุ วัดมันกามะนาทางตะวันตกของกาฐมาณฑุ

     ในช่วงที่ผมและเพื่อนเดินทางไปดู เทศกาลกรุณามัย หรือ บุงกาเดโอ จัตรา หรือเทศกาลมัจฉินทรานาถ จัตรา ในเมือง ปาตัน หรือเมือง ลลิตปูร์ เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเทศกาลที่สำคัญที่สุดเทศกาลหนึ่งในปาตัน ยาวนานเป็นเดือน โดยในปีนี้เริ่มวันที่ 9 พฤษภาคมและสิ้นสุดลงในวันที่ 23 หรือ 24 กรกฎาคม

ผมและเพื่อนมีโอกาสไปไหว้เทพเจ้า มันกามะนา ที่ วัดมันกามะนา ตั้งอยู่บนเขา สูงจากระดับน้ำทะเลราว 1,300 เมตร ห่างจากกาฐมาณฑุประมาณ 100 กม. นั่งรถไปประมาณ 3 ชั่วโมง ต่อด้วยนั่งกระเช้าขึ้นบนเขา 15 นาที และเดินขึ้นอีกเล็กน้อย

วัดมันกามะนาเป็นที่ประดิษฐานเทพเจ้ามันกามะนา

'มัน' หมายถึง จิตใจหรือดวงวิญญาณ และ 'กามะนา' หมายถึง การบรรลุผลในสิ่งที่ปรารถนา พระองค์จึงเป็นผู้ที่ประทานพรให้มนุษย์เราประสบความสำเร็จในสิ่งที่ปรารถนา

ที่นี่ยังเป็นสถานที่ที่หนุ่มสาวไปขอพรให้เจอเนื้อคู่

     เป็นวัดที่สำคัญที่สุดในอำเภอ 'โกรข่า' มีความเชื่อว่า อดีตกษัตริย์ในราชวงศ์ชาห์ได้รับพรจากเทพเจ้ามันกามะนาและด้วยอำนาจของพระองค์กษัตริย์สามารถตีแตกเมืองต่างๆ รอบโกรข่าและสามารถขยายให้โกรข่าเป็นอาณาจักรใหญ่

ณ สถานที่แห่งนี้ยังเป็นจุดชมเทือกเขาหิมาลัยที่สวยงานที่สุดแห่งหนึ่งช่วงเดือนกันยายนถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์หรือต้นเดือนมีนาคม

     ชาวเนปาลจากทุกสารทิศมักจะไปไหว้เทพเจ้ามันกามะนาในวาระต่างๆ โดยเฉพาะคนพื้นเมืองเนวาร์จากหุบเขากาฐมาณฑุ สมัยก่อนไม่มีรถ ต้องเดินจากกาฐมาณฑุใช้เวลาหลายวัน ต่อมามีการสร้างถนนและมีรถไปถึงด้านล่างของภูเขาและเดินขึ้นภูเขา 4-5 ชั่วโมง แต่ปัจจุบันมีกระเช้าให้บริการขึ้นไปถึงที่ ใช้เวลาเพียง 15 นาทีเท่านั้น

*ผมและเพื่อนเดินทางออกจากโฮมสเตย์ (www.baannepal.com) ที่เมืองปาตันในหุบเขากาฐมาณฑุประมานตี 5 ซึ่งเป็นสถานที่พักของเราตลอด 10 วันที่อยู่ในเนปาล การเดินทางไปไหว้เทพเจ้ามันกามะนาครั้งนี้ได้รับการสปอนเซอร์โดยคุณสุจินจากบริษัทสเปเซียไลซ์ทัวร์ แอนด์ ทราเวล (www.specializednepal.com)

คุณสุจินจัดการให้เราทั้งเรื่องรถและตั๋วกระเช้า รถยนต์พาเราออกจากหุบเขากาฐมาณฑุตามเส้นทางไปเมืองโปครา เมืองท่องเที่ยวอีกแห่งในเนปาล

     จุดเริ่มต้นของการเดินเทร็กกิ่ง ออกจากหุบเขากาฐมาณฑุซึ่งตั้งอยู่ในความสูง 1,300-1,500 เมตร จากระดับน้ำทะเล รถค่อยๆ ลงจากเขาตามทางที่แคบๆ ต่อด้วยตามเส้นทางเรียบแม่น้ำ 'กาลี กันดากิ' ที่มีน้ำใสสะอาดไหลตามช่องแคบๆ ของเขา ทิวทัศน์สวยงาม

เวลาประมาณ 08.00 น. เราเดินทางไปถึง 'ชิริ' สถานีกระเช้า สถานียังไม่เปิดบริการ เราจึงฆ่าเวลาด้วยการรับประทานอาหารเช้าที่ร้านเล็กๆ แห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่บนเชิงเขาใกล้ประตูเข้าสถานี

     หน้าประตูมีผู้คนกำลังรอเข้าสถานี มีทั้งคน มีทั้งแพะที่กำลังจะถูกนำไปบูชายัญ มีเครื่องบูชาวางขาย เข้าไปข้างในบริเวณสถานีขึ้นกระเช้าก็มีคนรอซื้อตั๋วกระเช้าแถวยาว

แต่เราสบายใจไม่ต้องรอซื้อตั๋วเพราะคุณสุจินเตรียมให้เรียบร้อย คนไทย 2 คนเนปาล 1 ราคาต่างกัน สำหรับต่างชาติอยู่ที่ 12 ดอลลาร์สหรัฐ (400 บาท) คนเนปาล 320 รูปี (160 บาท)

นอกจากนี้มีราคาสำหรับแพะ กระเช้าสำหรับแพะและขนของแยกกัน ราคาขนแพะตัวละ 130 รูปี (75 บาท) และส่วนของนั้นกิโลกรัมละ 8 รูปี (4 บาท) แพะทุกตัวมีหมายเลขแขวนไว้ที่คอเพื่อมิให้เจ้าของสับสน

หากใครไม่ได้เอาเครื่องบูชาไปก็สามารถหาซื้อได้ข้างบน มีขายเพียบ

เข้าคิวรอประมาณ 30 นาที ก็ถึงเวลาขึ้นกระเช้า

ผมเตรียมใจขึ้นกระเช้า กระเช้าเล็ก ที่นั่ง 2 แถวหันหน้ากัน นั่งได้แถวละ 3 คน กระเช้าออกจากสถานี เสียวเล็กน้อยในตอนแรก

ออกจากสถานีก็ข้ามแม่น้ำกาลี กันดากิ ที่ไหลผ่านตามช่องแคบภูเขา จากนั้นค่อยๆ ไต่ขึ้นไป ข้ามเขาลูกแรกก็เห็นนาขั้นบันไดและบ้านเรือนชาวเขาตลอดเส้นทาง ข้ามเขาลูกที่ 2 ที่สูงกว่าลูกแรกเท่าตัว

     เทวสถานมันกามะนาประดิษฐานอยู่บนเขาลูกที่ 3 และเดินไปอีก 4-5 นาทีก็ถึงวัดมันกามะนา ตลอดทางเดินมีร้านอาหาร มีร้านขายเครื่องบูชา มีแพะและไก่สำหรับบูชายัญ

     ที่ประดิษฐานเทพเจ้ามันกามะนาเป็นเทวสถานหลังคา 2 ชั้นและมีผ่าสีแดงห้อยไว้ล้อมรอบ ส่วนเทวสถานล้อมรอบด้วยระฆัง ภายในเทวสถานห้ามเชือดสัตว์ คนที่นำไก่หรือแพะไปบูชายัญนั้นเพียงแต่นำไปขอพรจากเทพเจ้ามันกามะนาภายในเทวสถาน และไปเชือดในบริเวณที่จัดไว้สำหรับเชือดสัตว์โดยเฉพาะ ซึ่งเต็มไปด้วยเลือด เลือด และเลือด

มีคนยืนรอเข้าไปไหว้รอบเทวสถานแถวยาว พักหนึ่งคนมาไหว้มากขึ้นและคิวก็ยาวขึ้น ยาวขึ้น ยาวขึ้นเรื่อยๆ ทุกคนคงมีสิ่งปรารถนาในใจให้พระองค์ประทานพรให้ประสบความสำเร็จและประทานพรให้ได้ในสิ่งที่ปรารถนา

หลายครอบครัวที่มาพร้อมกับภาชนะปรุงอาหาร บูชายัญเสร็จแล้วปรุงอาหารรับประทานที่นั่นเลย

     เราไม่ได้เอาอะไรไปบูชายัญ เครื่องบูชาก็ไม่มี แต่เราไหว้พระองค์ด้วยหัวใจ ไม่ได้เข้าไปไหว้ภายในเทวสถาน แต่ไหว้ในใจ ดูบรรยากาศรอบวัด ขึ้นไปดูบ้านเก่าของชาวเขาด้านหลังของวัดที่ยังหลงเหลืออยู่

วันนี้มีคนมาบูชาค่อนข้างเยอะกว่าวันธรรมดาเพราะเป็นวันอังคารหรือวันมงคลบาร์ วันที่ชาวเนปาลถือเป็นวันมงคล

สนใจข้อมูลเกี่ยวกับเนปาลคลิกที่ //www.tiewnepal.com สนใจไปไหว้พระ 'มันกามะนา' คลิกที่ //www.specializednepal.com

หน้า 23


ขอขอบคุณ
ที่มา :
มติชนออนไลน์ 3 สิงหาคม 2551

H O M E



Create Date : 04 สิงหาคม 2551
Last Update : 4 สิงหาคม 2551 12:52:25 น. 0 comments
Counter : 1161 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jenifaae
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Editor
บทความ ความคิดเห็นที่นำลง"สนามหลวงแก็งค์" ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
เพียงเราเห็นว่าน่าสนใจและเป็นประโยชน์ในทางข้อมูล ข่าวสาร
หากท่านมีข้อคิดเห็นประการใด โปรดแจ้งให้เราทราบ จักขอบคุณยิ่ง
"สนามหลวงแก็งค์"
kunkorn : Facebook



"Sanamluang's Gang"
"สนามหลวงแก๊งค์"

kunkorn : Facebook

     เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนให้เกิดการศึกษา การเรียนรู้ เผยแพร่ ส่งเสริม สนับสนุน รวบรวมข้อมูล ข่าวสาร อนุรักษ์ รักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ของชนชาติไทย วิถีชีวิต และปรัชญา คุณค่าจิตวิญญาณที่งดงาม สืบสานต่อยอดกันมานานนับพันๆปี และกำลังถูกทำลายด้วยอิทธิพลจากแนวคิดเชิงวัตถุนิยมแบบตะวันตก

● เพื่อการศึกษาหาความรู้ ส่งเสริม สนับสนุน ให้เกิดการศึกษา เรียนรู้ สิ่งที่พระพุทธเจ้าค้นพบ และนำมาเผยแพร่แก่มวลมนุษยชาติ อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ที่แท้จริง มิใช่เพียงวิทยาศาสตร์เชิงวัตถุเพียงอย่างเดียว เพราะถือว่าพระพุทธเจ้า ทรงค้นพบความจริงของธรรมชาติ ทั้งหมดทั้งสิ้น ที่มนุษย์ธรรมดาสามัญอย่างเราๆ ท่านๆ ยังเป็นเพียงผู้รู้ แค่หางอึ่งที่ยังอยู่ในกะลาครอบ แต่บังอาจด่วนสรุป ขัดแย้งกับ สิ่งที่องค์ศาสดาทรงค้นพบมากว่าสองพันปี จนทำให้บังเกิดความสับสน ลดความน่าเชื่อในสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบ

● สนามหลวงแก๊งค์ ต้องขออนุญาตและขอขอบคุณท่านเจ้าของข่าวสาร ข้อมูล ที่เราได้นำลงในสนามหลวงแก๊งค์ ไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยจิตคารวะ ทั้งนี้และทั้งนั้น ก็เพื่อให้สนามหลวงแก๊งค์ เป็นแหล่งในการเผยแพร่ ข้อมูล ข่าวสารที่เป็นประโยชน์และเพื่อเป็นวิทยาทานแก่สาธารณชน แต่หากท่านเจ้าของข้อมูล ข่าวสารที่ สนามหลวงแก๊งค์ นำลงไม่มีความประสงค์ให้นำลง ขอได้โปรดแจ้งความประสงค์ เรายินดีที่จะถอดออกต่อไป

ด้วยจิตคารวะ
www.sanamluang.bloggang.com
kunkorn : Facebook


ดาวหาง
     เป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นในห้วงมหาจักรวาลอันยิ่งใหญ่ ลี้ลับไร้ขอบเขต ทุกครั้งที่ดาวหางปรากฏ มันจะส่งสัญญาณแห่งความพินาศ มหันตภัย ธรรมชาติ ความตาย ความเจ็บป่วย สงคราม ความขัดแย้ง การกดขี่ การเอารัดเอาเปรียบ การคดโกง การเบียดเบียนของมนุษย์บนพื้นพิภพใบนี้

     มันคือสัญญาณเตือนภัยที่มนุษย์ไม่อาจจะควบคุมได้ ทั้งภัยทางธรรมชาติและภัยที่เกิดขึ้นจากมนุษย์สร้างกันขึ้นมาเองในทุกรอบพันปี

     ไม่ว่ามนุษย์จะคิดว่าตัวเองเก่งกาจสามารถ ฉลาดสักเพียงไหน ก็ไม่อาจหลีกพ้นมหันตภัยเหล่านี้ไปได้
     ดังนั้น จงเชื่อและปฎิบัติตามอย่างไม่ลังเลต่อคำสอนของศาสดาของเราอย่างจริงจังเถิด

     แม้จอมจักรพรรดิ จอมราชันย์ หรือจอมทรราชที่ยิ่งใหญ่ในอดีต ก็ต้องตายร่างกายเน่าเปื่อยเป็นผุยผง และในที่สุดวิญญาณของเขาก็ต้องชดใช้กรรม ด้วยการถูกไฟนรกเผาผลาญโดยไม่มีข้อยกเว้นทั้งทั้งสิ้น

     จงอย่าอหังการ์ว่าตัวเองเก่ง ฉลาด และยิ่งใหญ่กว่าคำสอนของพระศาสดา ไม่มีมนุษย์ตนใดที่จะพ้นจากกฎแห่งธรรมชาติได้ มนุษย์ที่เก่งกว่าเรา เขาได้ตายร่างกายทับถมปฐพีแห่งนี้นับไม่ถ้วนแล้ว


     ● ขออนุญาตนำภาพวาด "วีระชนบนพานรัฐธรรมนูญ" ของ คุณสถาพร ไชยเศรษฐ ศิลปินอิสระ อดีตแนวร่วมศิลปินแห่งประเทศไทย ซึ่งวาดเนื่องในโอกาส 2 ปี 14 ตุลา มาเป็นส่วนหนึ่งของหัว "สนามหลวงบล็อก"                


บริการดูดวง



"สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" มีความภาคภูมิใจในความสำเร็จตามอุดมการณ์ของเรา ที่ได้ตั้งเอาไว้ว่า "เราจะใช้วิชาความรู้ในด้านการพยากรณ์เพื่อให้เป็นประโยชน์สำหรับการให้การปรึกษาของผู้คนที่กำลังประสบปัญหา ความเดือดเนื้อร้อนใจ หรือการเผชิญกับปัญหานั้นๆได้อย่างไรดี

มนุษย์เกิดแต่กรรม มนุษย์มีกรรมเป็นเหตุ เมื่อเราประสบเคราะห์กรรม ปัญหาอยู่ที่ว่าหากเราทราบเสียก่อน ย่อมเป็นสิ่งที่ดีกว่าการไม่ทราบ อย่างน้อยก็ทำให้เราระมัดระวังตัว อย่างน้อยก็ทำให้เราหลีกเลี่ยงเพื่อทำให้เราเผชิญกับกรรมน้อยลงไป อย่างน้อยก้ทำให้เรารู้ว่าสิ่งเหล่านั้นมันมีที่มา มันมีที่ไปของมัน

มีนักวิชาการและนักวิทยาศาสตร์วัตถุจิตนิยม มักโจมตีอยู่เสมอว่า การดูดวง เป็นเรื่องของความงมงาย หมอดูคู่กับหมอเดา หมายถึงว่า เขาไม่เชื่อในเรื่องของวิชาโหราศาสตร์เพราะคิดไปว่ามันเป็นเรื่องเดียรัจฉานวิชาบ้าง เป็นการคาดเดาเอาเองบ้าง คิดว่ามันเป็นวิชาที่ใช้สถิติสุ่มเอาบ้าง ไม่เชื่อว่าวิชาโหราศาสตร์จะสามารถไขปริศนาแห่งรหัสลับของดวงดาว จักรวาล และธรรมชาติรอบตัว

แสดงว่าเขาลืมไปว่า อัลเบิร์ต ไอสไตน์ และสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้กล่าวไว้ว่า ทุกสรรพสิ่งในโลกรอบตัวเรา ตั้งแต่เล็กเท่าอะตอม (จุลจักรวาล)จนถึงมหาจักรวาล ล้วนมีความผูกพัน ล้วนมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งแยกกันไม่ออก เพียงแต่ว่า กับอะไร เมื่อไร อย่างไร เท่านั้น

กรรมเป็นผลจากการกระทำของเราในอดีตชาติ จะดีหรือจะร้ายก็เพราะเราทำ เป็นสิ่งที่เราจะต้องได้รับผลแห่งการกระทำเหล่านั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

โหรฯเป็นเพียงผู้แปลรหัสของดวงดาวและธรรมชาติรอบตัว เพื่อเผยแผนที่ชีวิตของเรา และสามารถมองเห็นช่องทางที่จะเลี่ยงหลบสิ่งเลวร้าย ให้ลดน้อยถอยลงหรือพบพานแต่สิ่งที่ดีดี

การสะเดาะเคราะห์ หรือพิธีการตัดกรรมที่กำลังกล่าวขานถึงก็คือการขออโหสิกรรม ลดการอาฆาตจองเวรกับเจ้ากรรมนายเวรที่กำลังจ้องจองเวรด้วยความอาฆาตพยาบาทที่ถูกเรากระทำในอดีตชาติ ไม่ใช่เป็นการตัดทอนผลกรรมที่เราทำให้หมดไปหรือให้ลดลง เพราะกรรมที่เรากระทำไม่สามารถตัดทอนลงไปได้



สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์พยากรณ์เที่ยงตรง แม่นยำเชื่อถือได้ วิเคราะห์พยากรณ์อย่างเป็นระบบ ไม่เลื่อนลอย ยึดมั่นในอุดมการณ์ของครูที่ท่านได้กำชับให้นำเอาวิชาการพยากรณ์มาช่วยเหลือแนะนำ บรรเทาทุกข์ของผู้คนมากกว่าการพยากรณ์เพื่อการค้า

ต้องยอมรับว่า ไม่ว่าประเทศใด? ชาติใด ภาษาใด? สมัยไหน? ชนชั้นวรรณะใด? ไม่ว่าจะเป็นเจ้าสัว นักธุรกิจ นักการค้า แม่บ้าน นักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ หรือไม่เว้นแต่นายพล นายพัน รัฐมนตรี หรือระดับผู้นำประเทศ ล้วนแต่เคยดูดวงด้วยกันทั้งสิ้น เพียงแต่ว่า เราจะเชื่ออย่างงมงายหรือจะเชื่อโดยใช้เหตุผลอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ โดยนำเอาคำพยากรณ์มาใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการดำเนินชีวิต หรือทำธุรกิจ การค้า หรือเพื่อการทำสงครามฯ

"สนามหลวงแก็งค์" ไม่สนับสนุนให้เชื่อเรื่อง "ดวง" อย่างงมงาย แต่เราสนับสนุนให้ใช้คำ "พยากรณ์"อย่างมีวิจารณญาณประกอบการตัดสินใจอย่างมีสติ ใช้ "ปัญญา"อย่างมี "เหตุผล"

หลังจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม จนต้องมีการเข้าจองคิวดูดวงเป็นจำนวนมาก ณ ขณะนี้ ไม่ใช่แต่เฉพาะคนไทยในประเทศที่เข้ามาใช้บริการจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"เท่านั้น

แต่ยังมีคนไทยที่อยู่หลายประเทศทั่วโลกเข้ามาดูดวง ตรวจสอบชื่อ นามสกุลมากมาย ทั้งนี้คงเป็นเพราะผู้ที่เข้ามา"ดูดวง" กับ "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับความพอใจในคำพยากรณ์ที่ถูกต้อง แม่นยำ แนะนำแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมตามหลักโหราศาสตร์ จึงได้มีการบอกเล่า แนะนำชักชวนกันปากต่อปากเป็นจำนวนมาก

ปัจจุบันนี้ มีผู้เข้ามาเยี่ยมชมwww.sanamluang.bloggang.com มีจำนวนถึง 118 ประเทศ โดยเข้ามาเปิดดูหน้า "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"คิดเป็นร้อยละ 80 ของ pageviews ต่างๆใน www.sanamluang.bloggang.comจัดทำบล็อกครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2550 มีผู้เข้าชมจำนวนทั้งสิ้น 579,020 ครั้ง จากจำนวน 262,960 visitors (ข้อมูล ณ เวลา 12.00 น.ของวันพุธที่ 6 ตุลาคม 2553)

ส่วนใหญ่ลูกค้าที่โทรเข้ามาเกือบ 98% เมื่อโทรฯ เข้ามาดูดวงแล้ว จะสามารถนัดวัน เวลาดูดวงได้โดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด อาจจะมีอยู่บ้างเพียงไม่กี่รายที่โทรฯเข้ามาเพื่อสอบถามรายละเอียดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

อาจจะเนื่องมาจากไม่คุ้นเคยการทำธุรกิจแบบออนไลน์ โดยมีการโอนเงินก่อน ไม่ไว้ใจ หรือไม่กล้า ซึ่งมีจำนวนน้อยมาก ประมาณ 2%

สำหรับที่เมลฯมาถามและเงียบไป ไม่สามารถทราบจำนวนได้ อาจเนื่องจากเป็นรายที่โทรเข้ามานัดอีกทางหนึ่งก็เป็นได้

สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์ ยังมีอาจารย์ผู้สอนวิชาโหราศาสตร์ ผ่านประสบการณ์ในการดูดวงหลายปีคิดเป็นจำนวนหลายพันดวง

แน่นอน แม่นยำกระชับ ชัดเจน หากไม่ทราบเวลาตกฟากท่านก็ยังสามารถดูได้ รายที่กำลังประสบเคราะห์หามยามร้าย ท่านก็จะช่วยแนะนำและแก้ไขเรื่องเลวร้ายให้กลายเป็นดีด้วยศาสตร์แห่งความลี้ลับของโหราศาสตร์ โดยไม่ต้องเสียเงินสะเดาะเคราะห์ สามารถดูได้ถึงขนาดปัญหาเรื่องคู่ครอง เรื่องเคราะห์ เรื่องหน้าที่การงาน โดยใช้ "วิชาโหราศาสตร์ดวงไทย"อันเป็นสุดยอดของวิชาโหราศาตร์โบราณของไทย

นอกจากนั้น เรายังมี ซินแส ที่เชี่ยวชาญเรื่องการดูฮวงจุ้ย ทำเลปลูกบ้าน อาคารสำนักงาน ดูฤกษ์ยาม แต่งงาน คลอดบุตร ขึ้นบ้านใหม่ เปิดกิจการต่างๆโดยใช้วิชาโหราศาสตร์จีนโบราณผสานตำราดวงไทย ซึ่งซินแสท่านมีประสบการณ์การดูดวงมาไม่น้อยกว่า 45 ปี ผ่านการดูให้กับนักธุรกิจชื่อดังของเมืองไทย และนักธุรกิจชั้นนำจากฮ่องกงหลายราย

ติดต่อ 081-4834367 หรือ workingmailhome@hotmail.com
--------------------------------------------
● ปรึกษาปัญหากฏหมาย
ละเมิด,สัญญา,อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์
--------------------------------------------
● ปัญหาติดต่อราชการ
บริการปรีกษาเรื่อง ภาษีป้าย ภาษีโรงเรือน ภาษีที่ดิน ค่าธรรมเนียมต่างๆ และการติดต่อราชการต่างๆ ของสำนักงานเขต
--------------------------------------------
● พิมพ์รายงาน,ค้นหาข้อมูล,

● งานพิมพ์ Lay-Out,Art Work
--------------------------------------------
สำนักพิมพ์ดาวหาง
www.sanamluang.bloggang.com




รับวาดรูปเหมือน และสอนวาดรูป
โดยอาจารย์ ผู้ชำนาญ

ราคาย่อมเยา

















หลังเกิดเหตการณ์ 14 ตุลา 2516 นิสิต นักศึกษา ปัญญาชน ต่างหลั่งไหลดั่งสายน้ำ ล้นขอบ ออกจากเมือง เข้าสู่ ชนบท เหตุเกิดเมื่อ กลางปี พ.ศ.2516 จนถึง พ.ศ.2519 นักศึกษากลุ่มหนึ่ง ได้ พบกันโดยบังเอิญ และ ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับชาวบ้าน ณ หมู่บ้าน แม่ตะมาน ตำบลกื๊ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้ ชื่อโครงการว่า "โครงการหมู่บ้านสหกรณ์แม่ตะมาน"
เชิญ พบ และติดตาม กับเรื่องราว และบทสรุป อันควรเป็นจุดเริ่มต้น ต่อไปใน

     เมล็ดพันธุ์ประชาธิปไตย ที่ถูกหว่านทั่วท้องทุ่งแห่งประชาไทย มาบัดเดี๋ยวนี้ เมื่อต้องฝน ต้องลม แห่งกาลเวลาพัดผ่าน จาก 2516 , 2519 2535,จน 2540 ถึง 2550บางเมล็ดพันธุ์ก็ยังขาวพิสุทธิ์สดใส บ้างเมล็ดพันธุ์เปลี่ยนสี บ้างก็ดอกสีเหลือง บ้างก็ดอกสีแดง บ้างก็ดอกสีม่วงก้มี สีเขียว สีน้ำเงิน หรือบ้างก็อาจเฉาโรยรา หรือบ้าง ผสมผสานกลายพันธุ์ ก็มีไม่น้อย
มาบัดเดี๋ยวนี้ มันไม่ใช่ จิต วิญญาณ แห่ง 14 ตุลา เดิมเสียแล้ว ไม่ใช่พันธุ์เดียวกัน อย่าได้ เอ่ยอ้างเลย ว่า วิญญาณ 14 ตุลา ยังคง...มันประชาธิปไตย ที่ไม่ บริสุทธิ์ผุดผ่องเหมือนอย่างเดิมเสียแล้ว.....
..แต่มันเป็น.ประชาธิปไตย...เพื่อใคร..??


“ทุกวันนี้ เราจะรับรู้ ได้เห็น ได้ยินแต่เรื่องเลวร้าย ในสังคม
เราจึงขอบันทึกสิ่งที่ดีๆ ต่างๆ เหล่านี้ ด้วยจิตคารวะ และขอเป็นกำลังใจให้เกิดสิ่งที่ดีงามเหล่านี้ต่อไป”>>>



อ่านงานเขียนเกี่ยวกับภาพยนตร์หลากหลายประเทศทั่วโลก ที่นี่ >>>





*จำนวนผู้ชมทั้งสิ้น* สถาปนาบล็อค 21 ก.ค.2550
Friends' blogs
[Add jenifaae's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.