Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2550
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
4 สิงหาคม 2550
 
All Blogs
 
ภูเขาทอง


"ภูเขาทอง หรือ พระบรมบรรพต"
สร้างเมื่อ : รัชกาลที่ 3

วัดไทยนั้น เป็นศูนย์กลางของชาวไทยเราในหลากรูปแบบมานาน เพราะไม่ว่าจะมีการเกิด แก่ เจ็บหรือตาย คนในสมัยก่อนมาจนถึงคนสมัยปัจจุบัน บางคนก็ยังยึดวิธีเข้าหาวัดตามประเพณีนิยมอยู่ นอกจากนี้แล้ว วัดเองยังเป็นศูนย์กลางที่จะให้บรรดาผู้คนมาพบปะกันเนื่องในโอกาสต่างๆ มากมายรวมทั้งงานบันเทิงมหรสพที่จัดขึ้นที่วัดด้วย ดังนั้นเราจึงได้มีการจัดงานวัด การเที่ยวงานวัดมาโดยตลอด

เมื่อพูดถึงงานวัดแล้ว ปัจจุบันมีวัดอยู่ไม่มากแล้วในกรุงเทพ ที่ยังมีการจัดงานวัดตามแบบประเพณีโบราณนิยม กระนั้นก็ยังมีอยู่วัดหนึ่งที่มีการจัดงานวัดมาโดยตลอด งานวัดที่ว่านั้นย่อมต้องรวม งานภูเขาทอง อยู่ด้วยแน่นอน

ภูเขาทองที่อ้างถึงในข้างต้นนั้น เป็นพระเจดีย์ทาสีทองที่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าทรงโปรดฯ ให้สร้างเสริมขึ้น ในบริเวณ วัด สระเกศ อันเป็นวัดเดิมของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก โดยที่รัชกาลที่ 3 นั้นทรงดำริให้สร้างตามแบบวัด ภูเขาทอง ที่พระนครศรีอยุธยา แต่ก็มาสร้างจนแล้วเสร็จจริง ในสมัยรัชกาลที่ 5 โดย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดให้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ที่อุปราชอินเดียนำมาถวายมาบรรจุไว้ที่ฐานเจดีย์ด้วย ต่อมาในยุคของปฏิวัติของ จอมพล ป. พิบูลสงคราม ก็ได้สร้างบันไดจากฐานให้ขึ้นไปถึงยอดพระเจดีย์สีทองนี้ได้สะดวกขึ้น


เจดีย์ภูเขาทองที่ วัด สระเกศนี้ แม้ว่าจะใช้เวลาในการสร้างนานหลายแผ่นดิน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นมาเกือบจะพร้อมๆ การสร้างเจดีย์ในสมัยรัชกาลที่ 5 ก็คือ งานวัดสมโภชย์ ที่ทางการจัดให้มีขึ้นในทุกๆ ปี นั้นก็มีมาอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน //www.travel.sanook.com

**งานภูเขาทองปี 50 นี้ จะมีขึ้นในวันที่ 20-26 พฤศจิกายน ใครว่าง ก็แวะไปเที่ยวงานมหรสพแบบไทยๆที่นี่ดู ตัวเจ้าของบล็อคก็ยังไม่เคยไป ใคร่ว่าจะไปก็ปีนี้ และจะหาประวัติ ความเป็นมาของงานนี้ และรูปดีๆมาฝากนะครับ**


งานวัดที่มีการออกร้านและจัดแสดงการละเล่นต่างๆ ในกรุงเทพมหานครน่าจะจัดที่ภูเขาทองแห่งวัดสระเกศเป็นแห่งแรก จากหลักฐานในหนังสือราชกิจจานุเบกษา เล่ม 7 พ.ศ.2433 เดิมภูเขาทองนั้นเคยมีกลุ่มคนไปจัดการละเล่นต่างๆในหน้าน้ำเสมอทุกปี ต่อมาได้ละเลิกไป โดยเข้าใจกันเองว่าเป็นที่ของหลวง เขาห้ามปรามขัดขวาง งานวัดภูเขาทองกลับมาอีกครั้ง เมื่อสมเด็จกรมพระยาดำรงราชนุภาพทรงเป็นต้นคิดให้มีกิตจกรรมการออกร้าน จัดมหรสพและละครชาตรี ในงานวัดภูเขาทอง นับแต่นั้นมา จึงมีการจัดงานวัดภูเขาทองในเทศกาลลอยกระทงของทุกปี หรือช่วงขึ้น 11 ค่ำหรือแรม 3 ค่ำเดือน 12 รวมระยะเวลา 7 คืน 8 วัน ซึ่งเป็นงานสมโภชนมัสการพระทันตธาตุที่อัญเชิญมาประดิษฐาน ณ พระเจดีย์แห่งนี้
บรมบรรพต หรือภูเขาทอง มีพระเจดีย์กรุโมเสกสีทองสุกปลั่งประดิษฐานอยู่บนยอด การก่อสร้างเริ่มขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 ซึ่งพระราชทานนามว่า "พระเจดีย์ภูเขาทอง" แต่เนื่องจากดินในบริเวณนั้นเป็นดินอ่อน พระเจดีย์จึงทรุดพังลง ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 4 ได้มีการปรับปรุงและเปลี่ยนนามเป็น "พระบรมบรรพต" การบูรณะปฎิสังขรณ์แล้วเสร็จในสมัยรัชกาลที่ 5 พระองค์ท่านโปรดเกล้าฯให้ตัดถนน ถมคลองและสร้างสะพาน เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางเข้าสู่ลานบรมบรรพต เจดีย์สีทองสุกปลั่งตัดกับความมืดยามราตรีบนเนินสีขาวที่มองเห็นแต่ไกลจากถนนราชดำเนิน ดูจะเงียบเหงาปีละหลายเดือน แต่พอคืนจันทร์เพ็ญหน้าน้ำนองตลิ่ง ภูเขาสีทองดูเหมือนจะถูกปลุกให้ดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาทักทายมิตรสหาย ซึ่งหลายคนแวะมาเยี่ยมเยียนเป็นประจำทุกปี ขณะที่หลายคนเพิ่งมาเป็นครั้งแรก
ช่วงพลบค่ำ เจดีย์ภูเขาทองที่มีผ้าสีแดงโอบรอบ ก็ดูเด่นสง่าอยู่ในแสงไฟตัดกับความมืดของท้องฟ้าที่อยู่เบื้องหลัง ผู้คนเริ่มเดินทางมาจากทั่วสารทิศทั้งในกรุงเทพมหานครและจังหวัดใกล้เคียง จากร้อยเป็นพันภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมง หลังจากนมัสการพระบรมสารีริกธาติที่ประดิษฐานอยู่ในพระเจดีย์ใหญ่ และปิดทองพระอัฎฐารส พระพุทธรูปสำคัญของวัดแล้ว ทุกคนก็มุ่งหน้าไปยังสถานที่ที่ประดับไฟวิบวับสว่างไสว และเป็นที่มาของเสียงอึกทึกเร้าใจ ลูกเด็กเล็กแดงจะดูตื่นเต้นเป็นพิเศษกับเครื่องเล่น และของเล่นต่างๆ จึงเป็นภาระของพ่อแม่ที่ต้องคอยเอาอกเอาใจ เด็กบางคนลงไปนอนร้องไห้ดิ้นกับพื้น เมื่อไม่ได้ของเล่นที่ตัวอยากได้ก็มี กลุ่มหนุ่มสาววัยรุ่นบ้างก็มาทั้งที่ใส่ชุดนักเรียนนักศึกษา บ้างก็มาเป็นคู่ ทำบุญ ถวายสังฆทาน ถ่ายรูปกับองค์พระเจดีย์ แล้วพากันลงไปชมการละเล่นต่างๆเป็นที่สนุกสนาน
"เอ้า กำนันแช่ม ยืนดีๆสิ อย่าหลบดาบ เฮ้ย! กาญจนา เป็นนางเอกเขาห้ามกินไมค์ ประกิต ลงมา ขึ้นไปทำอะไรบนเสานั่นหละ เอ็งเป็นพระเอก ทำตัวดีๆ มีมาดหน่อย เออ! นั่นแหละ"

** ภาพงานรื่นเริงและประวัติงานภูเขาทอง จาก " National Geographic" ฉบับภาษาไทย ตุลาคม 2550**

H O M E



Create Date : 04 สิงหาคม 2550
Last Update : 22 กรกฎาคม 2551 21:46:52 น. 7 comments
Counter : 2023 Pageviews.

 
วัดสระเกศ ทุกคืน ทุกเช้า ต้องขับรถผ่านเพราะเป็นทางไปทำงานที่ถนนเยาวราช
หลายๆปีที่ทำงานที่นี่ จำได้เลยระหว่างเดือน พฤศจิกายน ช่วงลอยกระทง จะมีงานวัดสระเกศ ภูเขาทอง แต่ทำไมน้ามีความตั้งใจจะแวะไปเดินเที่ยวทุกปี ก็ไม่เคยได้ลงไปเดินเที่ยวแม้แต่ครั้งเดียว ปีนี้จะได้เที่ยวไหม ขอตั้งใจไว้เลยจะต้องแวะไปเดินให้ได้ อีกไม่กี่เดือนแล้วนี่นา

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket


โดย: Yoawarat วันที่: 4 สิงหาคม 2550 เวลา:0:50:54 น.  

 


โดย: boatboat วันที่: 4 สิงหาคม 2550 เวลา:1:07:00 น.  

 
เคยคิดจะไป แต่ก็ไม่ได้ไปซักทีเหมือนกัน
หวังว่าปีนี้คงได้ไป เราอาจจะได้เดินสวนกันก็ได้..เนอะ

**ขอบคุณทุกท่านที่มาเยือน**


โดย: jenifaae วันที่: 4 สิงหาคม 2550 เวลา:1:13:04 น.  

 
เพื่อนที่ทำงานก้อเคยชวนไปงานวัดที่นี่ค่ะ
แต่พลาด..ไม่ได้ไปกับเค้า...

ปีนี้จะไม่พลาดอีกแล้วค่ะ


โดย: annie (annie_martian ) วันที่: 4 สิงหาคม 2550 เวลา:1:42:49 น.  

 
แวะมาเยี่ยมค่ะ...
อยากไปบ้างจังค่ะ ยังไม่เคยไปเลย



โดย: naragorn วันที่: 8 สิงหาคม 2550 เวลา:21:09:22 น.  

 
อยู่ กทม.มาเกือบ 20 ปี ยังไม่เคยได้ขึ้นไปเลยสักครั้งเดียว ผ่านไปก้อหลายครั้งหลายหน ... ชวนกันเลยดีกว่า งานภูเขาทองปีนี้ตั้งใจจะไปให้ได้ ใครไม่เชื่อตามไปดูกัน เจอกันได้เลย


โดย: mankind IP: 125.24.86.42 วันที่: 3 ตุลาคม 2550 เวลา:12:44:12 น.  

 
ระหว่างวันลอยกระทง 24 พ.ย.
งานวัดสะเกตุมีแล้ว เริ่ม 22 พ.ย.
ปีนี้แวะเที่ยวแน่ๆ ใกล้ที่ทำงานที่เยาวราชซะด้วย.


โดย: Yoawarat วันที่: 6 พฤศจิกายน 2550 เวลา:20:46:14 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jenifaae
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Editor
บทความ ความคิดเห็นที่นำลง"สนามหลวงแก็งค์" ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
เพียงเราเห็นว่าน่าสนใจและเป็นประโยชน์ในทางข้อมูล ข่าวสาร
หากท่านมีข้อคิดเห็นประการใด โปรดแจ้งให้เราทราบ จักขอบคุณยิ่ง
"สนามหลวงแก็งค์"
kunkorn : Facebook



"Sanamluang's Gang"
"สนามหลวงแก๊งค์"

kunkorn : Facebook

     เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนให้เกิดการศึกษา การเรียนรู้ เผยแพร่ ส่งเสริม สนับสนุน รวบรวมข้อมูล ข่าวสาร อนุรักษ์ รักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ของชนชาติไทย วิถีชีวิต และปรัชญา คุณค่าจิตวิญญาณที่งดงาม สืบสานต่อยอดกันมานานนับพันๆปี และกำลังถูกทำลายด้วยอิทธิพลจากแนวคิดเชิงวัตถุนิยมแบบตะวันตก

● เพื่อการศึกษาหาความรู้ ส่งเสริม สนับสนุน ให้เกิดการศึกษา เรียนรู้ สิ่งที่พระพุทธเจ้าค้นพบ และนำมาเผยแพร่แก่มวลมนุษยชาติ อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ที่แท้จริง มิใช่เพียงวิทยาศาสตร์เชิงวัตถุเพียงอย่างเดียว เพราะถือว่าพระพุทธเจ้า ทรงค้นพบความจริงของธรรมชาติ ทั้งหมดทั้งสิ้น ที่มนุษย์ธรรมดาสามัญอย่างเราๆ ท่านๆ ยังเป็นเพียงผู้รู้ แค่หางอึ่งที่ยังอยู่ในกะลาครอบ แต่บังอาจด่วนสรุป ขัดแย้งกับ สิ่งที่องค์ศาสดาทรงค้นพบมากว่าสองพันปี จนทำให้บังเกิดความสับสน ลดความน่าเชื่อในสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบ

● สนามหลวงแก๊งค์ ต้องขออนุญาตและขอขอบคุณท่านเจ้าของข่าวสาร ข้อมูล ที่เราได้นำลงในสนามหลวงแก๊งค์ ไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยจิตคารวะ ทั้งนี้และทั้งนั้น ก็เพื่อให้สนามหลวงแก๊งค์ เป็นแหล่งในการเผยแพร่ ข้อมูล ข่าวสารที่เป็นประโยชน์และเพื่อเป็นวิทยาทานแก่สาธารณชน แต่หากท่านเจ้าของข้อมูล ข่าวสารที่ สนามหลวงแก๊งค์ นำลงไม่มีความประสงค์ให้นำลง ขอได้โปรดแจ้งความประสงค์ เรายินดีที่จะถอดออกต่อไป

ด้วยจิตคารวะ
www.sanamluang.bloggang.com
kunkorn : Facebook


ดาวหาง
     เป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นในห้วงมหาจักรวาลอันยิ่งใหญ่ ลี้ลับไร้ขอบเขต ทุกครั้งที่ดาวหางปรากฏ มันจะส่งสัญญาณแห่งความพินาศ มหันตภัย ธรรมชาติ ความตาย ความเจ็บป่วย สงคราม ความขัดแย้ง การกดขี่ การเอารัดเอาเปรียบ การคดโกง การเบียดเบียนของมนุษย์บนพื้นพิภพใบนี้

     มันคือสัญญาณเตือนภัยที่มนุษย์ไม่อาจจะควบคุมได้ ทั้งภัยทางธรรมชาติและภัยที่เกิดขึ้นจากมนุษย์สร้างกันขึ้นมาเองในทุกรอบพันปี

     ไม่ว่ามนุษย์จะคิดว่าตัวเองเก่งกาจสามารถ ฉลาดสักเพียงไหน ก็ไม่อาจหลีกพ้นมหันตภัยเหล่านี้ไปได้
     ดังนั้น จงเชื่อและปฎิบัติตามอย่างไม่ลังเลต่อคำสอนของศาสดาของเราอย่างจริงจังเถิด

     แม้จอมจักรพรรดิ จอมราชันย์ หรือจอมทรราชที่ยิ่งใหญ่ในอดีต ก็ต้องตายร่างกายเน่าเปื่อยเป็นผุยผง และในที่สุดวิญญาณของเขาก็ต้องชดใช้กรรม ด้วยการถูกไฟนรกเผาผลาญโดยไม่มีข้อยกเว้นทั้งทั้งสิ้น

     จงอย่าอหังการ์ว่าตัวเองเก่ง ฉลาด และยิ่งใหญ่กว่าคำสอนของพระศาสดา ไม่มีมนุษย์ตนใดที่จะพ้นจากกฎแห่งธรรมชาติได้ มนุษย์ที่เก่งกว่าเรา เขาได้ตายร่างกายทับถมปฐพีแห่งนี้นับไม่ถ้วนแล้ว


     ● ขออนุญาตนำภาพวาด "วีระชนบนพานรัฐธรรมนูญ" ของ คุณสถาพร ไชยเศรษฐ ศิลปินอิสระ อดีตแนวร่วมศิลปินแห่งประเทศไทย ซึ่งวาดเนื่องในโอกาส 2 ปี 14 ตุลา มาเป็นส่วนหนึ่งของหัว "สนามหลวงบล็อก"                


บริการดูดวง



"สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" มีความภาคภูมิใจในความสำเร็จตามอุดมการณ์ของเรา ที่ได้ตั้งเอาไว้ว่า "เราจะใช้วิชาความรู้ในด้านการพยากรณ์เพื่อให้เป็นประโยชน์สำหรับการให้การปรึกษาของผู้คนที่กำลังประสบปัญหา ความเดือดเนื้อร้อนใจ หรือการเผชิญกับปัญหานั้นๆได้อย่างไรดี

มนุษย์เกิดแต่กรรม มนุษย์มีกรรมเป็นเหตุ เมื่อเราประสบเคราะห์กรรม ปัญหาอยู่ที่ว่าหากเราทราบเสียก่อน ย่อมเป็นสิ่งที่ดีกว่าการไม่ทราบ อย่างน้อยก็ทำให้เราระมัดระวังตัว อย่างน้อยก็ทำให้เราหลีกเลี่ยงเพื่อทำให้เราเผชิญกับกรรมน้อยลงไป อย่างน้อยก้ทำให้เรารู้ว่าสิ่งเหล่านั้นมันมีที่มา มันมีที่ไปของมัน

มีนักวิชาการและนักวิทยาศาสตร์วัตถุจิตนิยม มักโจมตีอยู่เสมอว่า การดูดวง เป็นเรื่องของความงมงาย หมอดูคู่กับหมอเดา หมายถึงว่า เขาไม่เชื่อในเรื่องของวิชาโหราศาสตร์เพราะคิดไปว่ามันเป็นเรื่องเดียรัจฉานวิชาบ้าง เป็นการคาดเดาเอาเองบ้าง คิดว่ามันเป็นวิชาที่ใช้สถิติสุ่มเอาบ้าง ไม่เชื่อว่าวิชาโหราศาสตร์จะสามารถไขปริศนาแห่งรหัสลับของดวงดาว จักรวาล และธรรมชาติรอบตัว

แสดงว่าเขาลืมไปว่า อัลเบิร์ต ไอสไตน์ และสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้กล่าวไว้ว่า ทุกสรรพสิ่งในโลกรอบตัวเรา ตั้งแต่เล็กเท่าอะตอม (จุลจักรวาล)จนถึงมหาจักรวาล ล้วนมีความผูกพัน ล้วนมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งแยกกันไม่ออก เพียงแต่ว่า กับอะไร เมื่อไร อย่างไร เท่านั้น

กรรมเป็นผลจากการกระทำของเราในอดีตชาติ จะดีหรือจะร้ายก็เพราะเราทำ เป็นสิ่งที่เราจะต้องได้รับผลแห่งการกระทำเหล่านั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

โหรฯเป็นเพียงผู้แปลรหัสของดวงดาวและธรรมชาติรอบตัว เพื่อเผยแผนที่ชีวิตของเรา และสามารถมองเห็นช่องทางที่จะเลี่ยงหลบสิ่งเลวร้าย ให้ลดน้อยถอยลงหรือพบพานแต่สิ่งที่ดีดี

การสะเดาะเคราะห์ หรือพิธีการตัดกรรมที่กำลังกล่าวขานถึงก็คือการขออโหสิกรรม ลดการอาฆาตจองเวรกับเจ้ากรรมนายเวรที่กำลังจ้องจองเวรด้วยความอาฆาตพยาบาทที่ถูกเรากระทำในอดีตชาติ ไม่ใช่เป็นการตัดทอนผลกรรมที่เราทำให้หมดไปหรือให้ลดลง เพราะกรรมที่เรากระทำไม่สามารถตัดทอนลงไปได้



สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์พยากรณ์เที่ยงตรง แม่นยำเชื่อถือได้ วิเคราะห์พยากรณ์อย่างเป็นระบบ ไม่เลื่อนลอย ยึดมั่นในอุดมการณ์ของครูที่ท่านได้กำชับให้นำเอาวิชาการพยากรณ์มาช่วยเหลือแนะนำ บรรเทาทุกข์ของผู้คนมากกว่าการพยากรณ์เพื่อการค้า

ต้องยอมรับว่า ไม่ว่าประเทศใด? ชาติใด ภาษาใด? สมัยไหน? ชนชั้นวรรณะใด? ไม่ว่าจะเป็นเจ้าสัว นักธุรกิจ นักการค้า แม่บ้าน นักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ หรือไม่เว้นแต่นายพล นายพัน รัฐมนตรี หรือระดับผู้นำประเทศ ล้วนแต่เคยดูดวงด้วยกันทั้งสิ้น เพียงแต่ว่า เราจะเชื่ออย่างงมงายหรือจะเชื่อโดยใช้เหตุผลอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ โดยนำเอาคำพยากรณ์มาใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการดำเนินชีวิต หรือทำธุรกิจ การค้า หรือเพื่อการทำสงครามฯ

"สนามหลวงแก็งค์" ไม่สนับสนุนให้เชื่อเรื่อง "ดวง" อย่างงมงาย แต่เราสนับสนุนให้ใช้คำ "พยากรณ์"อย่างมีวิจารณญาณประกอบการตัดสินใจอย่างมีสติ ใช้ "ปัญญา"อย่างมี "เหตุผล"

หลังจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม จนต้องมีการเข้าจองคิวดูดวงเป็นจำนวนมาก ณ ขณะนี้ ไม่ใช่แต่เฉพาะคนไทยในประเทศที่เข้ามาใช้บริการจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"เท่านั้น

แต่ยังมีคนไทยที่อยู่หลายประเทศทั่วโลกเข้ามาดูดวง ตรวจสอบชื่อ นามสกุลมากมาย ทั้งนี้คงเป็นเพราะผู้ที่เข้ามา"ดูดวง" กับ "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับความพอใจในคำพยากรณ์ที่ถูกต้อง แม่นยำ แนะนำแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมตามหลักโหราศาสตร์ จึงได้มีการบอกเล่า แนะนำชักชวนกันปากต่อปากเป็นจำนวนมาก

ปัจจุบันนี้ มีผู้เข้ามาเยี่ยมชมwww.sanamluang.bloggang.com มีจำนวนถึง 118 ประเทศ โดยเข้ามาเปิดดูหน้า "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"คิดเป็นร้อยละ 80 ของ pageviews ต่างๆใน www.sanamluang.bloggang.comจัดทำบล็อกครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2550 มีผู้เข้าชมจำนวนทั้งสิ้น 579,020 ครั้ง จากจำนวน 262,960 visitors (ข้อมูล ณ เวลา 12.00 น.ของวันพุธที่ 6 ตุลาคม 2553)

ส่วนใหญ่ลูกค้าที่โทรเข้ามาเกือบ 98% เมื่อโทรฯ เข้ามาดูดวงแล้ว จะสามารถนัดวัน เวลาดูดวงได้โดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด อาจจะมีอยู่บ้างเพียงไม่กี่รายที่โทรฯเข้ามาเพื่อสอบถามรายละเอียดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

อาจจะเนื่องมาจากไม่คุ้นเคยการทำธุรกิจแบบออนไลน์ โดยมีการโอนเงินก่อน ไม่ไว้ใจ หรือไม่กล้า ซึ่งมีจำนวนน้อยมาก ประมาณ 2%

สำหรับที่เมลฯมาถามและเงียบไป ไม่สามารถทราบจำนวนได้ อาจเนื่องจากเป็นรายที่โทรเข้ามานัดอีกทางหนึ่งก็เป็นได้

สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์ ยังมีอาจารย์ผู้สอนวิชาโหราศาสตร์ ผ่านประสบการณ์ในการดูดวงหลายปีคิดเป็นจำนวนหลายพันดวง

แน่นอน แม่นยำกระชับ ชัดเจน หากไม่ทราบเวลาตกฟากท่านก็ยังสามารถดูได้ รายที่กำลังประสบเคราะห์หามยามร้าย ท่านก็จะช่วยแนะนำและแก้ไขเรื่องเลวร้ายให้กลายเป็นดีด้วยศาสตร์แห่งความลี้ลับของโหราศาสตร์ โดยไม่ต้องเสียเงินสะเดาะเคราะห์ สามารถดูได้ถึงขนาดปัญหาเรื่องคู่ครอง เรื่องเคราะห์ เรื่องหน้าที่การงาน โดยใช้ "วิชาโหราศาสตร์ดวงไทย"อันเป็นสุดยอดของวิชาโหราศาตร์โบราณของไทย

นอกจากนั้น เรายังมี ซินแส ที่เชี่ยวชาญเรื่องการดูฮวงจุ้ย ทำเลปลูกบ้าน อาคารสำนักงาน ดูฤกษ์ยาม แต่งงาน คลอดบุตร ขึ้นบ้านใหม่ เปิดกิจการต่างๆโดยใช้วิชาโหราศาสตร์จีนโบราณผสานตำราดวงไทย ซึ่งซินแสท่านมีประสบการณ์การดูดวงมาไม่น้อยกว่า 45 ปี ผ่านการดูให้กับนักธุรกิจชื่อดังของเมืองไทย และนักธุรกิจชั้นนำจากฮ่องกงหลายราย

ติดต่อ 081-4834367 หรือ workingmailhome@hotmail.com
--------------------------------------------
● ปรึกษาปัญหากฏหมาย
ละเมิด,สัญญา,อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์
--------------------------------------------
● ปัญหาติดต่อราชการ
บริการปรีกษาเรื่อง ภาษีป้าย ภาษีโรงเรือน ภาษีที่ดิน ค่าธรรมเนียมต่างๆ และการติดต่อราชการต่างๆ ของสำนักงานเขต
--------------------------------------------
● พิมพ์รายงาน,ค้นหาข้อมูล,

● งานพิมพ์ Lay-Out,Art Work
--------------------------------------------
สำนักพิมพ์ดาวหาง
www.sanamluang.bloggang.com




รับวาดรูปเหมือน และสอนวาดรูป
โดยอาจารย์ ผู้ชำนาญ

ราคาย่อมเยา

















หลังเกิดเหตการณ์ 14 ตุลา 2516 นิสิต นักศึกษา ปัญญาชน ต่างหลั่งไหลดั่งสายน้ำ ล้นขอบ ออกจากเมือง เข้าสู่ ชนบท เหตุเกิดเมื่อ กลางปี พ.ศ.2516 จนถึง พ.ศ.2519 นักศึกษากลุ่มหนึ่ง ได้ พบกันโดยบังเอิญ และ ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับชาวบ้าน ณ หมู่บ้าน แม่ตะมาน ตำบลกื๊ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้ ชื่อโครงการว่า "โครงการหมู่บ้านสหกรณ์แม่ตะมาน"
เชิญ พบ และติดตาม กับเรื่องราว และบทสรุป อันควรเป็นจุดเริ่มต้น ต่อไปใน

     เมล็ดพันธุ์ประชาธิปไตย ที่ถูกหว่านทั่วท้องทุ่งแห่งประชาไทย มาบัดเดี๋ยวนี้ เมื่อต้องฝน ต้องลม แห่งกาลเวลาพัดผ่าน จาก 2516 , 2519 2535,จน 2540 ถึง 2550บางเมล็ดพันธุ์ก็ยังขาวพิสุทธิ์สดใส บ้างเมล็ดพันธุ์เปลี่ยนสี บ้างก็ดอกสีเหลือง บ้างก็ดอกสีแดง บ้างก็ดอกสีม่วงก้มี สีเขียว สีน้ำเงิน หรือบ้างก็อาจเฉาโรยรา หรือบ้าง ผสมผสานกลายพันธุ์ ก็มีไม่น้อย
มาบัดเดี๋ยวนี้ มันไม่ใช่ จิต วิญญาณ แห่ง 14 ตุลา เดิมเสียแล้ว ไม่ใช่พันธุ์เดียวกัน อย่าได้ เอ่ยอ้างเลย ว่า วิญญาณ 14 ตุลา ยังคง...มันประชาธิปไตย ที่ไม่ บริสุทธิ์ผุดผ่องเหมือนอย่างเดิมเสียแล้ว.....
..แต่มันเป็น.ประชาธิปไตย...เพื่อใคร..??


“ทุกวันนี้ เราจะรับรู้ ได้เห็น ได้ยินแต่เรื่องเลวร้าย ในสังคม
เราจึงขอบันทึกสิ่งที่ดีๆ ต่างๆ เหล่านี้ ด้วยจิตคารวะ และขอเป็นกำลังใจให้เกิดสิ่งที่ดีงามเหล่านี้ต่อไป”>>>



อ่านงานเขียนเกี่ยวกับภาพยนตร์หลากหลายประเทศทั่วโลก ที่นี่ >>>





*จำนวนผู้ชมทั้งสิ้น* สถาปนาบล็อค 21 ก.ค.2550
Friends' blogs
[Add jenifaae's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.