หมอกมุงเมือง
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2568
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
18 มิถุนายน 2568
 
All Blogs
 
18. เมื่อสิ้นแสงตะวัน : ส.คุปตาภา

เรื่อง : เมื่อสิ้นแสงตะวัน
ผู้เขียน : ส.คุปตาภา
สำนักพิมพ์ : ณ บ้านวรรณกรรม
ปีที่พิมพ์ : 2548
เล่มเดียวจบ


          จากข้อมูลในหนังสือของสำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม นวนิยายเรื่องนี้ นับเป็นการรวมเล่มครั้งแรก จึงน่าจะเป็นผลงานเรื่องหลังในชีวิตการเขียนของ ส.คุปตาภา นักเขียนรุ่นครู ผู้มีผลงานนวนิยายมายาวนานหลายทศวรรษ โดยเฉพาะนิยายเลื่องชื่อของท่านอย่าง หัวใจปรารถนา อาณาจักรใจ มุมหนึ่งในดวงจิต อันเป็นนิยายภาคต่อที่เหลือค้างเพียง “รักนอกบัญชา” ผลงานที่มิได้รวมเล่มของท่าน

          สำหรับ เมื่อสิ้นแสงตะวัน นี้ เป็นนิยายรักโรแมนติค ในลายเซ็นของ ส.คุปตาภา อีกเช่นกัน เรื่องราวความผูกพัน ของ วิษณุ แมนสรวงหนุ่มใหญ่วัยสี่สิบเศษ ที่อุปการะ ธาดา เด็กหนุ่มผู้เป็นญาติเพียงคนเดียวของเขา และธาดาเองก็เป็นเด็กกำพร้าทั้งพ่อแม่ตั้งแต่อายุเพียงห้าขวบ ทำให้เขามีความผูกพันนับถือ วิษณุ ไม่ต่างกับ พ่อ และเพื่อนสนิท ของตน
          +++++++++++++++++++++
           วิษณุ ไม่ได้แต่งงานหรือมีคนรัก แม้ว่าจะมีข่าวว่าเขาเคยสนิทสนมกับตระกูลของพระยาวิมลราช ที่มีเนื้อที่อาศัยอยู่ติดกัน คุณวิมล วรราช ผู้เป็นทายาท มีลูกสาวถึงสามคน คือ วิมาลา วิภาวดี และ วรรณวิไล สำหรับวิมาลา มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับวิษณุ คุ้นเคยผูกพันกับเขามาตั้งแต่เริ่มหนุ่มสาว วิมาลาเองก็รู้สึกรักวิษณุ แต่กลายเป็นว่าวิษณุต่างหาก ที่ไม่เคยบอกรัก หรือขอเธอแต่งงานกับเธอเลย ทั้งคู่คบหาด้วยความสัมพันธ์ในแบบเดิม จนต่างล่วงเข้าสู่วัยกลางคน และต่อมา เมื่อวิษณุต้องเดินทางไปยังฮ่องกง ตามคำเชิญของมิสเตอร์เชน สหายชาวฮ่องกงของเขาซึ่งเป็นนักธุรกิจอยู่ที่นั่น เรื่องราวไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น

          สหายของวิษณุเสียชีวิตกะทันหัน เขาได้พบกับมาเรียม เชน บุตรสาวคนเดียวของสหายผู้นั้นที่มีวัยเพียงยี่สิบปี ด้วยเหตุการณ์ต่างๆที่ผ่านเข้ามา และความประทับใจต่อเด็กสาวผู้มีรูปร่างหน้าตาสะสวย ทำให้วิษณุตัดสินใจ แต่งงาน และใช้ชีวิตอยู่ที่ฮ่องกงกับเธอ โดยมีเพียงจดหมายมาบอกต่อ ธาดา ที่กำลังเรียนมหาวิทยาลัยอยู่ที่เมืองไทย
              +++++++++++++++++++
         ธาดา อดประหลาดใจไม่ได้ แต่ก็เพียงแต่รับรู้ สิ่งที่วิษณุเล่าให้เขาฟัง และเล่าเรื่องนี้ให้กับ วรรณวิไล ซึ่งอยู่ในวัยเดียวกับเขา ทั้งคู่สนิทสนมกันมาตั้งแต่เด็ก รวมถึงสหายในกลุ่ม ที่ยังประกอบด้วย ท่านหญิงอุษาวดี หรือท่านต่อ ท่านชายุทัยเถลิง หรือท่านต้น และ กัลยา กับกีรติ ผู้เป็นน้องสาวของนายแพทย์เกริก

          ในกลุ่มเพื่อนทั้งหมด ธาดา สนิทสนมกับวรรณวิไล มากที่สุด จนหญิงสาวเองก็เคยคิดว่า เธอและธาดา ต่างมีหัวใจที่ตรงกัน แต่แล้ว ธาดาก็ได้รับข่าวร้ายจากฮ่องกงในเวลาต่อมา โทรเลขจากมิเรียม ที่ส่งมายังเมืองไทย บอกกับเขาว่าวิษณุได้เสียชีวิตลงแล้ว

      ทุกคนอดคิดไม่ได้ว่า ทุกอย่างล้วนมีสาเหตุเกิดจากมิเรียมหรือเปล่า โดยเฉพาะวิมาลา ที่คิดมาตลอดว่า มิเรียมคือผู้หญิงที่แย่งทุกอย่างไปจากตัวเอง ทำให้หล่อนอดนึกเกลียดชังมิเรียมไม่ได้ ตั้งแต่ยังไม่เคยพบหน้าเลยด้วยซ้ำ

          หลังจากนั้นไม่นาน มิเรียมก็ติดต่อมาว่า เธอยากจะเดินทางมาเมืองไทย เพื่อได้รู้จักบ้านที่พักของ วิษณุ สามีผู้ล่วงลับ และนั่นเองทำให้ธาดา ได้มีโอกาสพบกับมิเรียม พี่สะใภ้ ที่อายุไม่ต่างกับเขาเป็นครั้งแรก

          ธาดาลอบชำเลืองดูเธอ เกือบจะไม่เชื่อว่าคนนี้หรือคือพี่สะใภ้ของตน ดูจะเป็นเด็กสาวอายุจะไม่ครบยี่สิบเสียด้วยซ้ำ ท่าทางและหน้าตาอ่อนกว่าวรรณวิไลเสียอีก ผิวขาวละเอียด หน้ารูปไข่ จมูกโด่งเป็นสัน ดวงตาแม้จะไม่ใหญ่ แต่ก็รูปยาวและคมวาวอย่างประหลาด

          ธาดาไม่ประหลาดใจเลยว่า ทำไมวิษณุจึงจะไม่ตกหลุมรักเธอ ผู้หญิงคนนี้ สวยเหมือนภาพนางในฝันที่ศิลปินจะพึงวาดให้เป็นไปตามใจคิด...
             ++++++++++++++++++++
          และเมื่อมิเรียม ต้องมาอาศัยอยู่ร่วมบ้านกับธาดา พร้อมกับหน้าที่ที่เขาต้องพาเธอไปยังสถานที่ต่างๆนั้นเอง ได้มีส่วนทำให้สองหนุ่มสาวในวัยเดียวกัน กลายเป็นความสนิทสนมและความรักที่เกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว และความรู้สึกนั้นเอง ที่ทำให้เขาห่างเหินจากกลุ่มเพื่อน โดยเฉพาะวรรณวิไล ผู้หญิงที่ธาดาเองก็เคยคิดว่าเขาอาจจะหลงรักเธออยู่เช่นกัน

         และทันใดนั้นเอง หัวใจของเขาก็ลิงโลดด้วยความอึงอลว่า เขารักเธอ รักมิเรียม พี่สะใภ้หม้ายของเขาเอง เขามิได้ปริปากออกมาว่าเขารักเธอ แต่หัวใจของเขาสิ ร้องกึกก้องว่า เขารักเธอ รักมิเรียม รักอย่างเทิดทูน บูชาและหลงใหลเป็นที่สุด...

        แต่ก็มีปราการอันหนาทึบที่สุด ที่ขวางกั้นความรู้สึกของคนทั้งคู่ ธาดาตระหนักว่า มิเรียมคือภรรยาของวิษณุ คือของหวงห้ามของผู้มีพระคุณอย่างล้นเหลือในชีวิต ขณะที่มิเรียมก็รู้สึกผิดในหัวใจตัวเอง หญิงสาวตัดสินใจที่จะหนีกลับฮ่องกง

        ธาดา พยายามหาโอกาสที่จะติดตามหาเธอให้พบ แต่ก็ไม่เป็นผล หลายครั้งหลายครา ราวพรหมลิขิต ที่ทำให้ทั้งคู่ต้องคลาดคลาที่จะได้พบกัน
              ++++++++++++++++++++++++++++++
          จดหมายฉบับสุดท้าย ที่มิเรียมส่งมาถึงธาดา เพื่อให้เขาตัดใจจากเธอ แสดงความรู้สึกจากหัวใจของหญิงสาว ที่เลือกความถูกต้องมากกว่าความรัก

      ดิฉันรักธาดา อยากให้คุณมีความสุข มิใช่มาพลอยทุกข์กับดิฉัน

       ขณะนี้ ดวงตะวันจะตกดินไปอีกแล้ว แสงตะวันจะสิ้นไปอีกแล้ว ดิฉันมองออกไปนอกหน้าต่าง ใจหายค่ะ จะสิ้นแสงตะวันอีกแล้ว ธาดา อนิจจา ชีวิตของดิฉันกำลังจะเหมือนตอนนี้ ท้องฟ้า เมื่อสิ้นแสงตะวัน...

         ในนขณะที่วรรณวิไลเอง ที่แม้จะมีความผูกพัน ความรักในหัวใจให้กับ ธาดา แต่เธอควรจะเป็นฝ่ายรอเขาเพียงอย่างเดียวหรือ?

           เมื่อนั้นเอง เธอจึงเริ่มตัดใจจากเขา และความรักครั้งใหม่ ก็ผ่านเข้ามา ท่านต้น ท่านชายอุทัยเถลิง สุภาพบุรุษผู้เหมาะสมเพียบพร้อมคู่ควรกับเธอ แม้ว่าเธออาจจะยังไม่รักเขาเท่ากับธาดาก็ตามที

           ในเวลาต่อมานั้นเอง ที่ชายหนุ่มได้กลับมามองเห็นคุณค่าของวรรณวิไล ที่อยู่ใกล้ตา แต่ไกลใจของเขาในเวลาก่อนหน้านี้ ทว่า ทุกอย่างก็สายไปเสียแล้ว เพราะวรรณวิไล ได้หมั้นหมายกับท่านต้นไปแล้ว
                   +++++++++++++++++++++++
             ฉากสุดท้าย ของเรื่อง ก็คือคำพูดสารภาพของ ธาดาที่ได้เอ่ยความรู้สึกกับวรรณวิไล และคำตอบที่ชัดเจนของหญิงสาวผู้นั้น

          “วรรณวิไล ความรู้สึกของคนเรานี่มันแปลกอย่างที่สุด บางครั้งฉันก็มีความรู้สึกเหมือนว่า วรรณวิไลเป็นสมบัติของฉัน เราอยู่มาด้วยกัน ใกล้ชิดกันตั้งแต่ยังเด็ก และเติบโตมาด้วยกัน เป็นเพื่อนกัน เป็นญาติกัน จนรู้สึกเหมือนว่าเราเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตกันและกันโดยกำเนิด โดยธรรมชาติ จะมีบางครั้งเพียงวูบเดียวเท่านั้น ที่ฉันมีความรู้สึกว่า วรรณวิไลเป็นสาว และมีสักวันหนึ่งที่เธอจะต้องแยกทางไปจากฉัน และวันนั้น ฉันก็ใจหาย บอกไม่ถูกว่าหัวใจของฉันหดหู่เพียงใด เมื่อรู้ว่าท่านต้น และวรรณจะแต่งงานกัน”

      “มันไม่เป็นการเอาเปรียบเกินไปหรือธาดา”   วรรณวิไลถาม

        “ในเมื่อคุณอาจจะรักใครก็ได้ แต่คุณจะยึดเก็บฉันไว้เป็นสมบัติของคุณในใจอย่างเงียบๆ”


               และถ้าวรรณวิไล คือแสงตะวันในชีวิตของธาดา บัดนี้ เมื่อเขาได้เห็นคุณค่าของมัน ดวงตะวันก็กำลังจะสิ้นแสงและจากเขาไปเสียแล้ว...
            +++++++++++++++++++++++



Create Date : 18 มิถุนายน 2568
Last Update : 18 มิถุนายน 2568 15:23:25 น. 0 comments
Counter : 245 Pageviews.
(โหวต blog นี้) 

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณhaiku


ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สามปอยหลวง
Location :
ชลบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 82 คน [?]




ฉันติดคุก ครั้งนี้ ชั่วชีวิต เพราะทำผิด คิดรัก ตัวอักษร ถูกคุมขัง ตั้งแต่เช้า จนเข้านอน ขอวิงวอน โปรดอย่า มาประกัน

คุกหนังสือ คือโซ่ทอง ที่คล้องล่าม คุกหนังสือ คือความงาม ในความฝัน คุกหนังสือ คือดนตรี กล่อมชีวัน คุกหนังสือ คือสวรรค์ ฉันรักเธอ

จาก คุกหนังสือ : แคน สังคีต

New Comments
Friends' blogs
[Add สามปอยหลวง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.