กรรมเก่า คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ.เป็นเจ้าบทบาทเดิม จากนั้น การศึกษาอาศัยปรโตโฆสะ ซึ่งมีคติว่า "คนเป็นไปตามสภาพแวดล้อมที่ปรุงปั้น" และโยนิโสมนสิการ ซึ่งมีคติย้อนกลับว่า "ถ้าเป็นคนรู้จักคิด แม้แต่ฟังคนบ้าคนเมาพูด ก็อาจสำเร็จเป็นพระอรหันต์"
space
space
space
<<
สิงหาคม 2565
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
space
space
6 สิงหาคม 2565
space
space
space

ดื่มน้ำเมามีโทษหกอย่าง



ต่อ

235 เช่น ดื่มน้ำเมา เป็นทางเสื่อมทั้งกาย ทั้งใจ เสื่อมทรัพย์ เสื่อมชื่อเสียง เสื่อมหมดทุกประการ เพราะดื่มน้ำเมามีโทษ คือ

   ๑.เสียทรัพย์  ไม่ได้รับประโยชน์ตอบแทน

   ๒.เกิดโรคในร่างกายจิตใจ

   ๓.มักก่อการทะเลาะวิวาทกัน

   ๔.ไม่รู้จักละอาย ทำอะไรแปลกๆ

   ๕.คนดีเขาดูหมิ่น ว่าเป็นทาสน้ำเมา

   ๖.สมองเสื่อม ปัญญาเสื่อม

 นี่โทษของการดื่มน้ำเมา มีถึง ๖ อย่าง

 ลองคิดดูสักเล็กน้อย เช่น เรื่องเสียทรัพย์ ทรัพย์เป็นของหายาก กว่าจะได้มาแต่ละบาท แต่ละสตางค์ ต้องเหนื่อยตามสมควร เหนื่อยอย่างแบบมนุษย์ เหนื่อยอย่างแบบเทวดา มันเหนื่อยกันทั้งนั้น ทำงานแล้วก็เหนื่อย เมื่อได้เงินเราควรจะใช้เงินในรูปใด ควรจะใช้ในรูปที่มันเป็นประโยชน์ สร้างเสริมพลานามัย สร้างเสริมสุขภาพ ทางกาย ทางใจ จึงจะเป็นการชอบการควร

ทีนี้เราไม่ได้เอามาสร้างเสริม แต่เอามาทำลาย เอาไปซื้อเหล้ามาดื่ม เหล้านี่เป็นพิษทั้งนั้น ไม่ว่ายี่ห้อไหนที่เขาโฆษณาว่าดื่มแล้วสดชื่น มีกำลัง มันหลอกเป็นผี เป็นผีเหมือนกัน โฆษณาแบบนี้ หลอกคนให้ดื่มเหล้า มันไม่มีเหล้าชนิดไหนที่จะเป็นคุณแก่ร่างกาย มันให้โทษทั้งนั้น กินให้เป็นคุณเขาเรียกว่ากินเป็นยา ไอ้ยานี่ไม่ใช่กินทุกเช้าทุกเย็น กินนานๆ ที่เขาเรียกว่ากินเป็นยา เมื่อร่างกายมันไม่สบายจึงกิน ไอ้นี่เช้ายา เย็นยา ที่เขาเรียกว่า “ยาดอง” นั่นแหละ “ยาดอง” กินเช้ากินเย็นมันไม่ได้เรื่องอะไร แล้วก็เสียสตางค์มาก

คนที่ไปซื้อเหล่าน่ะ พอนั่งลงแล้วมันเปลืองสตางค์ กินไปคุยกันไป สั่งกับมา สั่งเหล้ามา สั่งโซดามา ไม่รู้เสียเท่าไหร่แล้วกี่ขวดแล้วก็ไม่รู้ กี่ก๊งแล้วก็ไม่รู้ พอล้วงสตางค์ให้เขานี่เหี่ยวแล้ว กระเป๋าเหี่ยวแล้วแต่ว่าเวลานั้นนึกไม่ได้ เพราะไม่รู้สึกตัว เมาแล้วเสียทรัพย์ ประโยชน์ที่จะได้ไม่มี

นอกจากได้ความเมากลับมา กลับไปถึงบ้าน หมาที่บ้านมันยังเห่าเพราะมันจำไม่ได้ รูปร่างหน้าตาผิดปกติไม่เหมือนเดิม หมามันมาดม เอ๊ะ กลิ่นใครนี่ ไม่เหมือนกับนายเมื่อเช้ากลิ่นมันไม่เหมือนกับนายคนก่อน มันมีกลิ่นอะไรด้วยก็ไม่รู้ หมามันจำไม่ได้


   ลองอ่านหนังสือสุขภาพของหมอ เขาเขียนโรคเกี่ยวกับเหล้ามากเหลือเกิน โรคเกี่ยวกับหัวใจ เกี่ยวกับตับ เกี่ยวกับไต เกี่ยวกับกระเพาะ เกี่ยวกับลำไส้ เกี่ยวกับเส้นโลหิต เกี่ยวกับสมอง มันมีทั้งนั้น เรียกว่าโรคร้อยแปด โรคเกิดจากเหล้ามีมาก ทำให้ร่างกายชำรุดทรุดโทรม แม้จะอ้วนก็อ้วนอย่างยมบาลจดชื่อจะเอาตัวไปแล้ว อ้วนไม่ได้เรื่อง ฉุๆพองๆ เตรียมตัวอยู่แล้วทั้งนั้น โรคมาก แล้วไม่ใช่เป็นคนเดียว ติดไปถึงลูกถึงเต้าด้วย คนขี้เมาโรคมาก อายุสั้น ไม่เห็นใครอายุยืนเลย พวกขี้เมาอายุ ๕๐ ก็ตายแล้ว ไม่ถึง ๖๐ ปี ไม่ได้ทันได้กินเบี้ยบำนาญ ถ้าทำราชการก็จะตายแล้ว ลูกเต้าก็ลำบาก ถ้าฐานะไม่ดี

คนบางคนบอกว่ากินเหล้าแล้วกินข้าวอร่อย มันเป็นอย่างไร กินข้าวอร่อย คือว่าเวลาเราดื่มเหล้ามากๆ นี่มันไปอยู่ในท้อง กลางคืนมันก็ระเหยขึ้นมา มาจับอยู่ที่ลิ้นเป็นฝ้า ลิ้นหนา ต่อมสำหรับรับรสอาหารไม่รู้รส เพราะมีฝ้ามาจับมากเหมือนกัน

ทีนี้ เมื่อดื่มเหล้าเข้าไปสักก๊งหนึ่ง เหล้าเข้าไปกัดฝ้าหนาๆ นั้นหายไป กินอาหารรู้รสเลยหลงไป หลงผิดไปว่ากินเหล้าแล้วกินข้าวอร่อย มูลเหตุที่กินข้าวไม่อร่อยเพราะดื่มเหล้าไม่คิด ไปคิดเอาตรงข้าวอร่อยเพราะเหล้า

แต่ความจริงที่เรากินข้าวไม่อร่อย เพราะดื่มเหล้า แล้วเหล้ามันมาจับอยู่ที่ต่อมรับรสปิดเป็นฝ้าหนา ประสาทชา พอดื่มเหล้าก่อนจะกินข้าวก็นึกว่าเป็นยาเจริญอาหาร มันไม่ใช่ทำให้อร่อยหรอก มันหลงไปตามรสชาติของสิ่งนั้น เลยทำให้เกิดโรคหลายอย่างในร่างกาย

   ให้เราสังเกตเพื่อนฝูงรุ่นราวคราวเดียวกัน ถ้าเป็นคนแก่ดีกรีแล้วหน้าเหี่ยวหน้าแห้ง แก่เร็วตายเร็ว พวกที่มาเผาที่วัด จะสำรวจทุกที่ตายเพราะอะไร  อายุเท่าไร ๔๐ ทำไมตายไวนักล่ะ เป็นโรคตับแข็งว่าอย่างนั้น ตับแข็งเพราะอะไร ดีกรีมันสูงหน่อยว่าอย่างนั้น แล้วก็คนนั้นตายเพราะเหล้านั่นแหละ

หลวงพ่อเคยเห็นคนหลายคน เมื่อสมัยเป็นเด็ก หลวงพ่อบวชพระยังไม่ทันถึง ๑๐ พรรษาเลย พวกนั้นตายหมดแล้ว นึกว่าจะไปเทศน์โปรดสักหน่อยตายหมดแล้ว เลยไม่ได้โปรดกัน ที่เป็นญาติใกล้ชิดกันก็มี ตายหมดแล้ว เลยไม่ได้คุยกัน ตายอายุราวๆ ๓๐-๔๐ เท่านั้นเอง เพราะดื่มน้ำเมา

เมาแล้วก็ทะเลาะวิวาทกันด้วยเรื่องเล็กๆน้อยๆ พูดขวางหู ขวางตากัน ก็จวกเสียเลย เมาทั้งนั้น ในคุกเยอะ ฆ่าเพื่อนเพราะเมา พอเมาแล้วคุยกัน มันขวางหูขวางตาก็จวกเสียเลย มีดมีก็จวกเสียเลย

ถ้าถือปืนอยู่ก็ยิงเลย มันเป็นอย่างนั้น กัดกันไปกัดกันมา เมาแล้วก็กัดกันละ ถ้าไม่เมาไม่มีเรื่อง รำกันเรียบร้อย พอเมาแล้วเกิดเรื่องทุกที แล้วก็ไม่รู้จักละอาย ทำอะไรแผลงๆแปลกๆ


   มีคนเมาคนหนึ่งเมากลับบ้าน ไปไม่ถึงบ้าน ไปนอนอยู่ในป่าหญ้า ทีนี้หมูมาถึง มันมีอาหารที่อาเจียนติดปากอยู่กองหนึ่ง หมูก็มากิน กินแล้วก็มาดุนที่ปาก เพราะมีอาหารติดอยู่

คนเมาว่า น้องไม่ต้องมาจูบพี่ดอก อย่าจูบพี่ นึกว่าเมียมาจูบ หมูได้ยินเสียงคนหลบหายไปข้างหลัง ไปดุนข้างหลัง คนเมาว่า น้องอย่าเตะพี่ อย่าเตะพี่ นึกว่าเมียทุกที ที่จริงเป็นหมู เพราะเมาไม่รู้เรื่อง

อีกรายหนึ่ง เป็นข้าราชการระดับเสมียน ไม่ใช่เงินเดือนมากอะไรหรอก แต่เมา มีรถจักรยานแทนที่จะขี่ กลับเอาเชือกผูกแล้วลากไปหลายกิโลกว่าจะถึงบ้าน ถลอกปอกเปิกหมดเลย  เมียไม่ให้เข้าบ้าน เผอิญมีกองหินอยู่ที่ถนนก็เอาขว้างหลังคาบ้าน จนง่วงหลับไปเอง เช้าตื่นขึ้นมาดูบ้าน เอ๊ะ อะไรอย่างนั้นล่ะ ทำไมหลังคาโปร่งอย่างนั้น ถามเมีย เมียบอกว่าไอ้ขี้เมาที่ไหนไม่รู้ขว้างหลังคาเมื่อคืนนี้ เมาจนไม่รู้เรื่อง นี่ความเสียหายมันเกิดขึ้น สติปัญญาก็เสื่อมถอยลงไปทุกวันเวลา


  เมื่อก่อนเราเคยได้ยินชื่อนายชิต บุรทัต เป็นนักเขียนอย่างดี เขียนฉันท์กล่อมช้างได้รางวัลที่ ๑ แข่งกับ น.ม.ส. น.ม.ส. สู้นายชิตไม่ได้ สมัยนั้นเป็นสามเณรอยู่วัดบวรนิเวศน์ฯ กินเหล้าทุกคืน กินแล้วเอาขวดทิ้งในคู วันนั้นทิ้งพลาดขวดแตกกระจาย แล้วตัวก็ตื่นสาย

สมเด็จพระมหาสมณเจ้า ฯ ที่เขียนหนังสือนวโกวาทนี้ เช้าๆท่านเดินเล่นตรวจวัดไปในตัวด้วย พบขวดเหล้าของพระชิตเข้า รีบสั่งให้หาทันที ถามว่า เธอเอาขวดอะไรทิ้งไว้ แกก็รับสารภาพว่าขวดเหล้า เธอดื่มเหล้ามาแต่เมื่อไร ดื่มมาตั้งปีแล้ว แล้วขวดเหล้าที่ดื่มๆ ล่ะ โยนทิ้งไปในคู ลงไปงมขึ้นมาเดี๋ยวนี้ สมเด็จ ฯ สั่งให้งมขวดเหล้าขึ้นมา ได้ตั้ง ๒๐-๓๐ ขวด

สมเด็จฯ กริ้วทีเดียวให้สึกเดี๋ยวนั้นเลย สั่งให้สึกทันที สึกแล้วก็สั่งลบชื่อออกจากบัญชีวัดบวร ฯ ไม่ใช่เพียงแต่เอาเส้นแดงขีดนะ ลบหมึกออกไม่ให้มีชื่ออยู่ในบัญชีเลย ไม่ให้มีรอยอยู่ในบัญชีวัดบวร ฯ อีกต่อไป

พอกลับไปอยู่บ้าน ท่านก็เมาเรื่อย เขียนหนังสือก็เมาอย่างนั้น ถ้าจะให้เขียนอะไรต้องให้ดื่มสักนิด สักเป๊กแล้วก็เขียนได้

ถ้าดื่มมากกว่านั้นเขียนไม่ได้ แต่ถ้าไม่ดื่ม มือสั่น จับดินสอไม่ได้ เป็นโรคพิษสุราเรื้อรังแล้ว

เคยพบตอนมาวัดสามพระยา มาถึงใครจะให้เขียนฉันท์อะไรให้เด็กไปซื้อเหล้าขาวมานิดหน่อย พอได้สักกรึบแล้วแย่งแก้วไปวางตรงอื่นแล้วให้เขียนก่อน เขียนประเดี๋ยวก็เสร็จ พอเสร็จแล้วให้กินอีก พอกินมากให้เขียนใหม่ไม่ได้เรื่องเลย เขียนไม่ได้ตาลาย ท่านเมาจนตายเลย

ตำรวจเคยจับไปไม่มีเสื้อใส่ เที่ยวเดินเมา ตำรวจเห็นเข้า เอ้า อาจารย์ทำไมล่ะ ตำรวจเชิญมาธุระอะไรก็ไม่รู้ แกบอกว่าตำรวจเชิญ ตำรวจเคยอ่านหนังสือสามก๊กเภท - คำฉันท์ ก็เลยบอกว่าอาจารย์พักเสียก่อน หาที่ให้นอนรุ่งเช้าก็ลงจากโรงพักไป เมาเหลือเกิน

สุนทรภู่ก็อย่างนั้น เป็นนักประพันธ์ขี้เมา  ฯลฯ

 


Create Date : 06 สิงหาคม 2565
Last Update : 25 มกราคม 2567 18:33:02 น. 1 comments
Counter : 384 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณหอมกร, คุณ**mp5**


 
แวะมาเยี่ยมและส่งกำลังใจครับ


โดย: **mp5** วันที่: 10 สิงหาคม 2565 เวลา:11:10:10 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
space

สมาชิกหมายเลข 6393385
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]






space
space
[Add สมาชิกหมายเลข 6393385's blog to your web]
space
space
space
space
space