กรรมเก่า คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ.เป็นเจ้าบทบาทเดิม จากนั้น การศึกษาอาศัยปรโตโฆสะ ซึ่งมีคติว่า "คนเป็นไปตามสภาพแวดล้อมที่ปรุงปั้น" และโยนิโสมนสิการ ซึ่งมีคติย้อนกลับว่า "ถ้าเป็นคนรู้จักคิด แม้แต่ฟังคนบ้าคนเมาพูด ก็อาจสำเร็จเป็นพระอรหันต์"
space
space
space
<<
มิถุนายน 2568
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
space
space
1 มิถุนายน 2568
space
space
space

ผัสสะ, กาม
227 จะไล่ๆทีละประเด็นๆ   "ความคิดเห็นที่ 4 จขกท. พูดถึงผัสสะว่า  ต้องปฎิบัติไปตามลำดับตามที่ท่านสอน  แล้วจะเข้าใจความหมายในคำสอนของพระพุทธเจ้า  คือต้องปฎิบัติไปตามมรรคองค์ 8 (หรือที่ย่อเป็นจรณะ 15)  โดยปฎิบัติมรรค 7 องค์เพื่อลดละ รูป รส กลิ่น ....ฯ และปฎิบัติจนอยู่เหนือโลกธรรม 8 คือไม่ตกอยู่ในอำนาจของมันแล้ว โดยสัมผัส สัมพันธ์ ใช้สอยอยู่กับมันแต่ไม่ติดยึดกับมัน เหมือนน้ำกลิ้งบนใบบอน  (ก็ปฎิบัติกับผัสสะจริงขณะเราทำงานในชีวิตนั่นแหละ มันมีกระทบครบเลย) อยู่เหนือมันได้ ก็  "สงัดจากกาม"  ตามความหมาย  ไม่ใช่สงัด ฯ คือไปนั่งหลับตา หนีผัสสะ"

เพราะฉะนั้น เอาความหมายผัสสะมาหน่อยก่อน 


     การรับรู้จะเกิดขึ้น  ต่อเมื่อมีองค์ประกอบเกิดขึ้นครบทั้งสามอย่าง คือ อายตนะ อารมณ์ และวิญญาณ  ภาวะนี้ในภาษาธรรมมีคำเรียกโดยเฉพาะว่า "ผัสสะ" หรือ "สัมผัส" แปลตามรูปศัพท์ว่า การกระทบ  แต่มีความหมายทางธรรมว่า การประจวบ หรือบรรจบพร้อมกันแห่งอายตนะ อารมณ์ และวิญญาณ  พูดอย่างเข้าใจกันง่ายๆ ผัสสะ ก็คือ การรับรู้ นั่นเอง  ผัสสะหรือสัมผัส หรือการรับรู้ นี้ มีชื่อเรียกแยกเป็นอย่างๆ ไปตามทางรับรู้ 

     ผัสสะ เป็นขั้นตอนสำคัญ ในกระบวนการรับรู้  เมื่อผัสสะเกิดขึ้นแล้ว  กระบวนธรรมก็ดำเนินต่อไป เริ่มแต่ความรู้สึกต่ออารมณ์ที่รับรู้เข้ามานั้น  ปฏิกิริยาอย่างอื่นของจิตใจ  การจำหมาย การนำอารมณ์นั้นไปคิดปรุงแต่ง  ตลอดจนการแสดงออกต่างๆ ที่สืบเนื่องไปตามลำดับ


- ดูให้จบ   450

https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=samathijit&month=28-09-2023&group=88&gblog=18


- พูดถึงกามด้วย 

     กาม คืออะไร ?  “กาม”  แปลว่า  ความอยาก  ความรัก  ความใคร่  ความปรารถนา หรือสิ่งที่อยาก ที่รัก ที่ใคร่ ที่ปรารถนา  พูดง่ายๆ ว่า  สิ่งเสพ  วัตถุบำรุงบำเรอความสุข เครื่องอำนวยความสะดวกสบาย คน สัตว์ ทรัพย์สินเงินทอง  ข้าวของสารพัด  ที่อยากได้อยากมี  ที่จะครอบครองเอาไว้ให้ได้ความสุข  รวมแล้วก็จะจัดแยกได้เป็น  “กามคุณ ๕”  คือ รูป เสียง กลิ่น รส สิ่งต้องกาย ที่ใคร่ที่ใฝ่ปรารถนา ที่จะให้ กามสุข”  คือสุขทางประสาททั้ง ๕ สุขทางวัตถุ หรือสุขทางเนื้อหนัง บางทีเรียกว่า สามิสสุข คือสุขอาศัยอามิส หรือสุขจากสิ่งเสพ  (อามิสสุข ก็เรียก ตรงข้ามกับนิรามิสสุข)


- ยาว ต่อ  450 

https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=samathijit&month=21-11-2023&group=86&gblog=46


     “ภิกษุทั้งหลาย  กามคุณมี ๕ อย่างดังนี้ คือ รูปทั้งหลายที่รู้ได้ด้วยตา ... เสียงทั้งหลายที่รู้ได้ด้วยหู ... กลิ่นทั้งหลายที่รู้ได้ด้วยจมูก ... รสทั้งหลายที่รู้ได้ด้วยลิ้น ... โผฏฐัพพะทั้งหลายที่รู้ได้ด้วยกาย ซึ่งน่าปรารถนา น่าใคร่ น่าพอใจ ชวนให้รัก ชักให้อยาก เย้ายวนชวนให้ติดใจ เหล่านี้แล คือ กามคุณ ๕  อาศัยกามคุณ ๕ ประการเหล่านี้  มีความสุข ความฉ่ำใจ ใด เกิดขึ้น นี่ คือส่วนดีของกามทั้งหลาย”   “นี้ เรียกว่า กามสุข


- ทั้งหมด  450  ทำความเข้าใจกาม (กามสุข) ให้ชัด แล้วไม่ให้สุดโต่งไปด้านใดด้านหนึ่ง   

https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=samathijit&month=21-11-2023&group=86&gblog=45

- โสมนัส   ความฉ่ำใจ

อัสสาทะ  ส่วนดี  ความหวานชื่น

- นิรามิษ, นิรามิส   หาเหยื่อมิได้,  ไม่มีอามิสคือเหยื่อที่เป็นเครื่องล่อใจ,  ไม่ต้องอาศัยวัตถุ

- นิรามิสสุข   สุขไม่เจืออามิส, สุขไม่ต้องอาศัยเครื่องล่อ หรือกามคุณ   ได้แก่  สุขที่อิงเนกขัมมะ
 


Create Date : 01 มิถุนายน 2568
Last Update : 2 มิถุนายน 2568 5:34:19 น. 0 comments
Counter : 232 Pageviews.
(โหวต blog นี้) 

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณดอยสะเก็ด


ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
space

สมาชิกหมายเลข 6393385
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]






space
space
[Add สมาชิกหมายเลข 6393385's blog to your web]
space
space
space
space
space