space
space
space
 
เมษายน 2561
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
space
space
22 เมษายน 2561
space
space
space

เที่ยวญี่ปุ่นแบบไปคนเดียวครั้งแรก [2]


  มาตอนนี้ก็จะเล่าเรื่องการเดินทางไปnarita airport และ การเที่ยวในวันแรกของทริปนี้

ก็หลังจากเลิกงาน 5 โมงเย็นเราก็กินข้าวเย็นให้เรียบร้อย ทำความสะอาดห้องพัก ตรวจของในกระเป๋าแล้วก็อาบน้ำพักผ่อนตั้งนาฬิกาปลุกไว้ตื่นมาอาบน้ำแต่งตัวเดินทางไปสนามบิน


วันที่ 1 ของทริป

เริ่มด้วยเราขึ้นเครื่องที่ดอนเมือง แล้วที่พักอยู่แค่รังสิตซึ่งใกล้มาก แล้วไฟลท์ที่ไปเป็นรอบ ตี5 กว่าๆ เราก็เลยคิดไว้ว่าจะเดินทางยังไง เวลาไหนดีมืดก็มืด ก็เลยตัดสินใจว่าจะเรียกgrab car ดีกว่า คิดว่าน่าจะปลอดภัยสุด แล้วก็เรียกช่วงเที่ยงคืนกว่า คิดว่าเวลานี้ยังไม่เปลี่ยวมากแล้วก็ยอมไปเคว้งนั่งรอที่สนามบิน จนพี่grabมารับ ระหว่างนั้นก็บอกพี่ชายว่าให้คุยเป็นเพื่อนหน่อย ก็แชทตลอดทางรายงานพี่เป็นระยะจนถึงสนามบิน พอมาถึงก็รู้สึกหิวเลยแบกกระเป๋าขึ้นไปดูว่ามีร้านเปิดมั้ย สรุปมีแค่mc donaldกับ7-11 ก็เลยเฉยๆ ลากกระเป๋ามานั่งตรงที่นั่งแล้วก็ฟังเพลง เล่นเกมดูหนังในโทรศัพท์ จนตีสองกว่าเลยเดินไปดูที่เคาท์เตอร์แอร์เอเชีย ก็มีคนต่อคิวแล้ว ก็เลยเข้าไปต่อ โดยเข้าแถวคนที่ทำเว็บเช็คอินเพื่อทำการตรวจสอบเอกสารและโหลดสัมภาระ ตรงนี้เราก็จะทราบว่าเราต้องไปขึ้นเครื่องที่เกทหมายเลขอะไร

จากนั้นเมื่อโหลดสัมภาระเรียบร้อย เราก็เข้าตมไทยเพื่อทำเรื่องออกนอกประเทศ จะใช้boarding pass กับ passport จากนั้นก็เข้าด่านตรวจร่างกายและกระเป๋าเพื่อไปเกท บริเวณนี้ส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องมาสแกนกระเป๋าขึ้นเครื่องเราว่ามีของเหลวเกินปริมาณที่กำหนดมั้ย พกเพาเวอร์แบงค์เกินขนาดหรือเปล่า และมีเจ้าหน้าที่มาสแกนเราว่าพกอาวุธมั้ยทำนองนี้ พอผ่านด่านนี้เสร็จเราก็อาจจะแวะซื้อของ duty free บางคนก็เข้าเล้านจ์ บางคนก็หาไรกิน บางคนก็ไปนั่งรอหน้าเกต เราก็ไปรอหน้าเกตตามที่ระบุใน boarding pass 

พอถึงหน้าเกตก็อาจจะนอน หรือเข้าห้องน้ำเตรียมตัวจนเกตเปิด พอเกตเปิดเราก็เอา boarding pass กับ passport ให้เจ้าหน้าที่ตรวจแล้วเราก็รับคืนมาแล้วเข้าไปนั่งรอจนกว่าพนักงานจะเรียกให้ขึ้นเครื่อง

ซึ่งส่วนใหญ่ถ้าเป็นแอร์เอเชียจากดอนเมืองำปนาริตะ จะเรียกเป็นโซนที่นั่ง โดยดูจากในboarding pass พอถึงคิวโซนเราก็เดินเข้าไปจนถึงแอร์โฮสเตส เขาจะต้อนรับและขอดูboarding passของเรา แล้วบอกทางเดินไปที่นั่งของเรา 

พอถึงที่นั่งเรา เราก็จะเก็บสัมภาระไว้ที่ชั้นวางด้านบน ยิ่งใกล้ที่นั่งเรายิ่งดีจะได้จำได้ แล้วก็จะได้สะดวกเวลาจะหยิบเอาของออก หรือบางคนอาจจะวางไว้ใต้ที่นั่งด้านหน้าก็ได้

หลังจากที่ทุกคนนั่งเรียบร้อยก็รัดเข็มขัด และแอร์จะโชว์การใช้อุปกรณ์ ผ่านไปสักพักก็จะมีเสียงประกาศจากกัปตัน จากหัวหน้าลูกเรือบ้าง แล้วก็มีการจำหน่ายอาหารบนเครื่อง บางคนจองไว้ ถ้าเราไม่ได้จองไว้จะซื้อก็ได้แต่ราคาจะสูง พอหลังจากนี้ลูกเรือก็จะแจกใบตม และใบศุลกากรให้เรากรอก
ใบตม ก็เขียน 1 คน ต่อ 1 ใบ ส่วนใบศุลกากร จะเป็น 1 กลุ่มต่อ 1 ใบ ตัวอย่างการเขียนมีในเว็บต่างๆเยอะแยะ ในนิตยสารตรงที่นั่งบนเครื่องก็มีให้ดู หลังจากเรากรอกเสร็จก็เก็บไว้กับตัว จากนั้นเราก็นอนยาวๆจนเครื่องถึงนาริตะ 555

พอถึงเวลาลงเครื่องเราก็เดินไปตามป้าย arrival จนถึงป้าย immigration แล้วก็ต่อแถว หยิบใบ ตม ,ใบศุลการกรที่กรอกบนเครื่อง, passport และ boarding pass มาถือไว้แล้วยื่นให้ตม เราก็ทำตามที่เขาสั่งเช่นสแกนนิ้ว มองกล้อง แล้วเขาจะลงตราประทับให้เป็นสติ๊กเกอร์รูปฟูจิว่าอยู่ได้15วัน กรณีที่ไม่ได้ขอวีซ่ามา พอพ้นตม เราก็จะไปรับกระเป๋าเรา โดยดูที่บอร์ดว่าไฟลท์บินเรากระเป๋าอยู่สายพานไหน พอเราได้กระเป๋าเราก็เอาใบศุลกากร passport และ boarding pass เดินไปตรงเจ้าหน้าที่ศุลกากร ส่วนใหญ่ตรงนี้เขาจะถามเราประมาณว่า
1. มากี่วัน
2. มากับใคร
3. มาทำอะไร
4. พักแถวไหน
ซึ่งตรงนี้บางคนเขาอาจจะขอเปิดกระเป๋าตรวจดูของด้วย

รอบนี้ที่เราโดนคือ
1. มากี่วัน เราตอบ 5 วัน
2. มากับใคร เราตอบมาคนเดียว
3. มาทำอะไร เราตอบว่าเที่ยว
4. เขาแบบว่าเหมือนไม่เชื่อเราเขาเลยถามว่าเที่ยวที่ไหน เราเลยตอบไปคร่าวๆว่า โตเกียว โอไดบะ โยโกฮาม่า ไซตามะ กาล่ายูซาว่า จากนั้นเขาก็ไม่ถามอะไรต่อแล้วก็ขอบคุณและให้เราเข้าประเทศ 5555

จากนั้นก็ไปตามป้าย train โดยเป้าหมายแรกเราจะไม่ซื้อjr pass ที่นี่เพราะคนเยอะ ก็เลยว่าจะนั่งkeisei skyliner สวยๆไปลงueno เพื่อซื้อ Jr pass ที่นั่น ก็เลยเดินไปที่เคาน์เตอร์keisei สีน้ำเงิน
บอกพนักงานไปว่า
เรา :ซื้อkeisei skyliner ไป ueno 1 ที่ รอบที่ใกล้ที่สุด
พนักงาน : พนักงานจะบอกว่ามีรอบอะไรที่ใกล้สุด และถามว่าwindow seat หรือ aisle seat
เรา : window seat
พนักงาน กดเครื่องคิดเลขราคาตั๋ว ให้เราดู เราก็จ่ายตังค์ และได้รับตั๋วพร้อมที่นั่งที่จองไว้ พนักงานจะบอกแพลทฟอร์มในการขึ้นรถไฟขบวนนี้

(ที่จริงสามารถใช้ic cardซื้อผ่านตู้ได้ ราคาถูกกว่านิดหน่อยแต่เราเดินไปหาพนักงานสะดวกกว่า555)

พอได้ตั๋วหน้าตาแบบนี้

รายละเอียดคร่าวๆของตั๋ว
ปลายทางคือ เคเซ อูเอโนะ
เวลารถออก 13.42 น เวลาถึงอูเอโนะ 14.23 น
รถ skyliner ขบวน020 คันที่(ตู้ที่4) ที่นั่ง 07D
เราก็จะเอาบัตรนี้เสียบเข้าที่ประตูและรับบัตร วิธีเดียวกับบีทีเอสอะ
แล้วก็ไปขึ้นตามชานชาลาของkeisei skyliner จากนั้นสังเกตป้ายไฟด้านบนมันจะบอกว่ารถเรามาถึงยัง



จากรูปคือคันที่จะมาจอดคันต่อไปจะเป็นขบวนที่เราขึ้น

เราต้องไปยืนรอตรงตำแหน่งของตู้ที่ 4 มันจะมีเลขขอกไว้ที่หน้าตู้รถ และที่ชานชาลา ลองสังเกตดู



พอรถมาเราก็เข้าไปเก็บกระเป๋าแล้วก็ไปนั่งตามที่นั่งที่จองไว้ จากนั้นก็นั่งยาวๆจนถึงkeisei ueno 

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------
พอถึง keisei ueno ก็เสียบตั๋วออก แล้วเดินตามป้าย JR เพื่อไปในส่วน ticket office เราจะมาซื้อ tokyo wide pass

โดยวิธีซื้อก็โชว์passport พร้อมจ่ายเงิน 10000 เยน ก็จะได้พาสนี้มา
รายละเอียดคร่าวๆคือ 
1.ใช้ได้3วันติดกันเท่านั้น ขึ้นรถjr ทั่วโตเกียวได้ 
2.เหนือสุดของพาสนี้คือไปgala yuzawa 
3.ใต้สุดคือไป atami station เกือบถึงhakone 
4.สามารถขึ้นรถไป kawaguchiko station และเจดีย์แดงได้โดยไม่เสียตังค์เพิ่ม
5. ใช้นั่งชินกันเซ็นโดยไม่เสียเงินเพิ่มได้ไม่จำกัด เฉพาะเส้นทางที่ระบุในพาสเท่านั้น
พอได้พาสเสร็จเราก็หาอะไรกิน แล้วก็นั่งรถไฟไปลง akihabara station เพื่อไปฝากกระเป๋าก่อนเนื่องจากยังไม่ถึงเวลาเช็คอิน

ออกจากสถานีมาเดินแปบเดียวก็ถึงที่พักฝากกระเป๋า สำหรับรีวิวที่พักจะมาทำทีหลัง5555 เสร็จแล้วก็ไปยัง บริเวณที่ขาย figure ในakihabara ตามพื้นที่สีม่วงในgoogle map นี้เลย


เราใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงในการหาซื้อฟิกเกอร์ที่ต้องการ จากนั้นก็กลับไปที่พักเพื่อเช็คอิน เก็บของ แล้วก็เตรียมออกมาข้างนอกต่อ 5555

ต่อมาเราก็โผล่มาที่สถานีโตเกียวเพื่อถ่ายรูปหน้าสถานีตอนกลางคืน เคยมาครั้งก่อนแถวนี้ปิดปรับปรุง มารอบนี้เลยมาถ่ายตอนกลางคืนซะเลย




จากนั้นเราจำได้ว่ามีป้ายเรียวมะคุง น่าจะอยู่แถวๆกินซ่า ก็เลยเดินชิวจากสถานีโตเกียวไปแถวสถานีกินซ่าเพื่อหาป้ายร้านsoft bank ระหว่างทางก็มีถ่ายรูปนิดหน่อย แอบเจอคุณสไปเดอร์ระหว่างทาง

และในที่สุด... ก็เจอป้ายเรียวมะ mission completed!!!

จากนั้นก็ใช้เว็บhyperdia.com เช็คว่าจากตรงกินซ่าไป akabanebashi station ต้องนั่งรถยังไงก็ตามในเว็บบบอกเลยจ้า ออกมาจะกับภาพนี้

จากนั้นเราก็เดินไปตามทางเรื่อยๆจนถึงตัวอาคารของโตเกียวทาวเวอร์ ก็ชมความเท่ และถ่ายรูปเสร็จก็เดินกลับอีกทางนึง ตรง onarimon station แล้วเช็คเส้นทางกลับ akihabara station ด้วยเว็บเดิม กลับมาถึงสถานี akihabara ก็หาอะไรกิน แล้วก็อาบน้ำ ดูทีวี นอนพักผ่อน จบการเดินทางสำหรับวันแรก 



Create Date : 22 เมษายน 2561
Last Update : 22 เมษายน 2561 4:12:32 น. 0 comments
Counter : 231 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
space

vernier-caliper
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






space
space
[Add vernier-caliper's blog to your web]
space
space
space
space
space